สวีเชากับจางซินมองตากันก็ยิ่งรู้สึกนึกไม่ถึงไปยิ่งกว่าเดิมพวกเขาทั้งสองคนคิดไม่ถึงเลยว่า หลินเฟิงจะกลายเป็นหุ้นส่วนที่ใหญ่ที่สุดของบริษัทเภสัชกรรมเชิงถัง“แม่ง ไอ้หน้าตัวเมียนี่มีสิทธิ์อะไรถึงได้รับความชื่นชอบจากถังหว่านขนาดนี้?” สวีเชาโมโหจนคันเหงือก แอบเกลียดแค้นที่คนคนนี้ไม่ใช่เขาในตอนนี้กัวฮ่าวรับรู้ได้ถึงผลร้ายแรงของเรื่องนี้แล้วเขารีบวิ่งไปตรงหน้าหลินเฟิงและขอโทษด้วยสีหน้าจริงใจ: “คุณชายหลิน คุณชายหลิน เรื่องนี้ผมไม่ดีเองครับ”“ผมจะนำยาปรับประสานพลังที่มีตำหนิทั้งหมดไปทำลายทิ้งเดี๋ยวนี้ คุณให้โอกาสผมเถอะนะครับ”“ไม่จำเป็นแล้ว ตำแหน่งของคุณเว้นวางออกมาเถอะ”หลินเฟิงส่ายหน้าด้วยความเด็ดขาดตัวมอดแบบนี้เก็บไว้ในบริษัทก็มีแต่จะเร่งความเร็วให้บริษัทพังคาดหวังว่าพวกเขาจะเปลี่ยนแปลง ไม่สู้รับสมัครนักศึกษาใหม่จะดีกว่า“คุณหมายความว่าอย่างไร?”กัวฮ่าวกลืนน้ำลายหลินเฟิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา: “หมายความว่าอย่างไรฟังไม่เข้าใจเหรอ? ต่อไปการควบคุมโกดังไม่ต้องการนายแล้ว”“นาย…”กัวฮ่าวชี้หน้าหลินเฟิงแล้วตวาดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่โมโห: “แกมีสิทธิ์อะไรไล่ฉันออก?”หลินเฟิงพูดอย
เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็รีบเดินไปตรงหน้าถังหว่าน“คุณถัง…รู้จักอย่างเป็นทางการหน่อยครับ ผมชื่อสวีเชา เป็นคุณชายของตระกูลสวีเมืองเจียงโจว” สวีเชายื่นมือออกไปพูดขึ้นจางซินที่อยู่ด้านหลังถูกถังหว่านตบหน้าจนหวาดกลัว ไม่กล้าเดินเข้ามาด้วยซ้ำถังหว่านเหลือบมองสวีเชา: “คุณมีธุระอะไรไหม?”สวีเชาเสยไรผมที่อยู่ตรงหน้าผาก แสดงความหล่อเหลาของตัวเองออกมาจากนั้นก็ยิ้มมุมปากเล็กน้อย: “คือแบบนี้ครับคุณถัง ที่พวกเรามาในครั้งนี้เพราะอยากคุยเรื่องสิทธิ์การเป็นตัวแทนยาปรับประสานพลังกับคุณ”“เรื่องแบบนี้อีกเดี๋ยวรองานเริ่มแล้วค่อยคุยกันเถอะ” ถังหว่านสีหน้าเฉยเมยสวีเชาก็เริ่มการประจบประแจงที่เขาถนัดที่สุด: “คุณถังไม่เสียแรงที่เป็นหญิงแกร่งอันดับหนึ่งของเมืองเจียงโจว”“มีระเบียบในการทำสิ่งต่าง ๆ มีบุคลิกที่องอาจจริง ๆ สวีเชาเลื่อมใส”“ไม่ทราบว่าคุณถังช่วยยกเว้นผมสักครั้งได้ไหมครับ?”ถังหว่านหัวเราะเยาะ: “ยกเว้นให้คุณ? เพราะอะไร?”“เพราะว่าผมยกย่องคุณถังมานานแล้ว การเป็นตัวแทนยาปรับประสานพลังในครั้งนี้ผมไม่ได้ทำเพื่อเงิน แต่ทำเพื่อคุณถัง”สวีเชาพูดว่า: “ฟังเรื่องราวของคุณถัง ผมคิดอยากช
หลินเฟิงหัวเราะเยาะ คิดไม่ถึงว่าตัวเองจะได้พบเจอกับคนที่หน้าไม่อายแบบนี้“บุญคุณของตระกูลหลี่ฉันตอบแทนไปจนหมดตั้งนานแล้ว ถ้าจะพูดว่าติดค้างก็คงเป็นตระกูลหลี่ของเธอที่ติดค้างฉัน”“หลินเฟิง แกอย่าพูดไร้สาระ รีบเอาตำรับยาส่งมอบออกมา” จางซินไม่ใช่คนโง่ เธอรู้ว่ามูลค่าตำรับยาปรับประสานพลังมีมูลค่ามากเพียงแค่เอาตำรับยาแผ่นนี้มาได้ เธอก็ถือว่าได้อยู่ดีกินดีแล้วจริง ๆไม่ว่าอย่างไรเธอจะปล่อยหลินเฟิงไปไม่ได้หินเฟิงขมวดคิ้ว และมองเธอด้วยความเย็นช้าแล้วพูดขึ้น: “ปล่อยมือซะ ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจเธอ”“ทำไม? นายกล้าตบผู้หญิงเหรอ? มาสิ ตบตรงนี้ได้เลย” จางซินชี้ไปที่แก้มของตัวเองเธอไม่เชื่อว่าหลินเฟิงกล้าลงมือกับเธอที่เป็นผู้หญิงหลินเฟิงไม่เคยเจอผู้หญิงที่หน้าขนาดนี้มาก่อนเขาผลักจางซินออกอย่างแรง“อ๊ะ…” จางซินสูญเสียการทรงตัวทันที จากนั้นเธออุทานออกมาแล้วหงายหลังไปโชคดีที่สวีเชายืนอยู่ด้านหลังของเธอแล้วรับเธอเอาไว้“ซินซิน เธอไม่เป็นไรใช่ไหม?”จางซินโมโหจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน: “ไอ้สกุลหลิน แกกล้าผลักฉันเหรอ?”“ฉันเป็นผู้หญิงนะ แกไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษสักนิดเลยเหรอ?”หลิ
“อะไรนะ?”จางกุ้ยหลานตะโกนเสียงดัง สีหน้าแดงก่ำ จากนั้นก็พูดขึ้นด้วยความเดือดดาล: “ใครมันใจกล้าแบบนี้ ถึงได้กล้าตบหลานสาวของฉัน?”เธอเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าบนใบหน้าของหลานสาวตัวเองมีรอยฝ่ามือแดง ๆ อยู่จางซินร่ำไห้: “จะเป็นใครได้คะ? ก็ต้องไปเป็นไอ้หลินเฟิงอยู่แล้ว”“วันนี้หนูไปงานเลี้ยงตัวแทนยาปรับประสานพลังของตระกูลถัง หลินเฟิงคนนั้นเห็นหนูแล้วรู้สึกไม่พอใจ ก็เลยตบหน้าหนู”“ตบจนหนูเจ็บหน้ามาก”หลี่เหวินเชาถึงแม้จะไม่ชอบลูกพี่ลูกน้องคนนี้ของตัวเองสักเท่าไหร่ แต่เขาก็ไม่ชอบหลินเฟิงยิ่งกว่า ได้ยินหลินเฟิง เมื่อได้ยินว่าหลินเฟิงทำร้ายคนเขาก็กำหมัดแน่น: “หลินเฟิงคนนี้บ้าระห่ำเกินไปแล้วจริง ๆ”“นี่มันไม่เห็นครอบครัวของพวกเราอยู่ในสายตาเลยสินะ”“แค่นั้นที่ไหนกันล่ะ”จางซินพูดขึ้นช้า ๆ: “หลินเฟิงคนนั้นตอนนี้มีชีวิตอย่างดีมาก และได้กลายเป็นหุ้นส่วนของบริษัทเภสัชกรรมเชิงถังด้วย”“ฉันก็แค่เข้าไปถามเรื่องตำรับยาปรับประสานพลัง เขายังเยาะหยันฉัน พูดว่า: ตีเขาให้ตายก็ไม่มีทางบอกตำรับยาปรับประสานพลังกับฉันจางกุ้ยหลานที่เมื่อครู่ยังจมอยู่ในความโมโหเมื่อได้ยินเรื่องตำรับยาปรับประสานพลัง เธอก
หลินเฟิงยิ้มบาง วุ่นวายอยู่นานสองคนนี้ระดมกำลังแห่กันมาก็เพื่อมาเอาเงินชดเชยหรอกเหรอ!“พวกคุณสองคนต้องการเท่าไหร่?”จางกุ้ยหลานพูดขึ้นโดยตรง: “พวกเราไม่ต้องการเงิน”คำพูดนี้ทำให้หลินเฟิงชะงักงัน: “ไม่ต้องการเงิน?”วันนี้พระอาทิตย์ขึ้นทางตะวันตกหรือยังไง“ถูกต้อง ได้ยินว่าตอนนี้นายได้เป็นหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัทเภสัชกรรมเชิงถังแล้วเหรอ? เอาแบบนี้ นายเอาตำรับยาปรับประสานพลังให้พวกเรา พวกเราก็ไม่คิดเล็กคิดน้อยแล้ว”หลี่เหวินเชาสองมือล้วงกระเป๋า และพูดด้วยท่าทางมีจิตใจเมตตาหลินเฟิงสีหน้าเคร่งขรึมทันที วุ่นวายอยู่นานที่แท้สองคนนี้ก็มุ่งเป้าไปที่ยาปรับประสานพลังComment by -: “พวกคุณคิดมากไปแล้ว ตอนนี้ตำรับยาปรับประสานพลังมอบให้กับบริษัทเภสัชกรรมเชิงถังแล้ว ถ้าพวกคุณอยากได้ก็ไปหาถังหว่าน”จางกุ้ยหลานพูดด้วยความหงุดหงิด: “แกอย่าพูดพล่าม แกบอกมาแค่ว่าแกรู้ตำรับยาปรับประสานพลังไหม?”หลินเฟิงพยักหน้าด้วยความเด็ดขาด: “รู้”“งั้นแกเขียนให้พวกเราแผ่นหนึ่ง”“เป็นไปไม่ได้” หลินเฟิงพูดด้วยความแน่วแน่“ทำไม?”“ตอนนี้ตำรับยาปรับประสานพลังถือว่าเป็นทรัพย์สินของบริษัทเภสัชกรรมเชิงถัง ผมไม่มี
ถ้าหากลงมือจริง ๆ เกรงว่าหลินเฟิงไม่มีทางรอจนถึงตอนแต่งงานจางกุ้ยหลานพูดด้วยความไม่พอใจ: “ลูกดูตัวลูกสิ ตอนนี้ยังช่วยพูดแทนไอ้เวรนั่นอีก”“เหวินเชา เอาวิดีโอออกมาให้เธอดูสิ”จางกุ้ยหลานพูดสั่งลูกชายหลี่เหวินเชาตัดต่อบันทึกการขับขี่ออกมาตั้งนานแล้ว จนกระทั่งเอาให้หลี่ฮุ่ยหราน“ถ้าหากไม่เชื่อเธอก็ดูเอาเองเถอะ”หลี่ฮุ่ยหรานรับโทรศัพท์ไป เห็นเพียงแค่ภาพที่หลินเฟิงกับแม่ของเธอถกเถียงกันในโทรศัพท์ จากนั้นหลินเฟิงก็ผลักแม่ของเธอเธอรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าหลินเฟิงจะทำแบบนี้ได้“นี่…ทำไมถึงเป็นแบบนี้?”“พี่ ฉันบอกกับพี่ไปตั้งนานแล้วว่า ไอ้หลินเฟิงคนนี้ไม่ใช่คนดีอะไร ก็แค่เสแสร้งเก่งเวลาที่อยู่ต่อหน้าพี่ก็เท่านั้น” ในตอนนี้จางซินเข้ามาพูดปลอบใจหลี่ฮุ่ยหรานกัดปาก จากนั้นก็โทรวิดีโอไปทันทีขณะเดียวกัน หลินเฟิงเพิ่งทานอาหารเย็นเสร็จ เตรียมจะไปเยี่ยมเยือนจางเต๋อหลินแต่คิดไม่ถึงว่าสายวิดีโอของหลี่ฮุ่ยหรานจะโทรเข้ามาหลินเฟิงเพิ่งกดปุ่มรับสาย ก็เห็นสีหน้าโมโหของหลี่ฮุ่ยหราน“ฮัลโหล คุณมีธุระอะไรไหม?”หลินเฟิงจี้ถาม“หลินเฟิง คุณทำไมถึงลงมือทำร้ายแม่ของฉั
จางกุ้ยหลานพูดอย่างไม่แยแส: “เขาจะเป็นอย่างไรเกี่ยวข้องอะไรกับพวกเรา?”“แม่…ทำไมแม่ถึงเป็นแบบนี้? หลี่ฮุ่ยหรานโมโหจนกระทืบเท้าแต่อีกฝ่ายคือแม่ของเธอ เธอจะทำอะไรได้ตอนนี้สิ่งที่เขาเสียใจมากที่สุดก็คือเมื่อครู่ควรจะคิดให้มากหน่อยตัวเองทำไมถึงได้เลอะเลือนแบบนี้ ถึงได้สงสัยหลินเฟิงในตอนนี้จางซินก็เข้ามาพูดเกลี้ยกล่อม: “พี่ อย่างไรพี่กับหลินเฟิงก็หย่าร้างกันแล้ว พี่ยังจะคิดแทนเขาทำไม?”“พี่ควรจะคิดหาวิธีเอาตำรับยาปรับประสานพลังมา ถึงเวลาตระกูลหลี่ของเราก็จะรุ่งโรจน์พุ่งแรงหลี่ฮุ่ยหรานมองเห็นสีหน้าท่าทางของญาติเหล่านี้ของตัวเอง จึงพูดด้วยความโมโหเดือดดาล: “พอแล้ว ตั้งแต่วันนี้ไปไม่ว่าใครก็ห้ามพูดถึงอีก”“ถ้าหากพวกคุณไปเอาตำรับยาจากหลินเฟิงอีก อย่าโทษที่ฉันโมโห“หลี่ฮุ่ยหรานพูดจบ จากนั้นก็ขึ้นไปชั้นบนด้วยความโมโห”ไอหยา…“จางกุ้ยหลานและคนอื่นหมดคำพูด“ฮุ่ยหรานจริง ๆ เลย ทำไมถึงได้เข้าข้างคนนอกตลอดเลยนะ?”ขณะเดียวกัน หลินเฟิงมาถึงสำนักไป๋เกาจางเต๋อหลินรออยู่ที่หน้าประตูนานแล้วด้านหลังยังมีจางเจียหนิงยืนอยู่ด้วย เมื่อเห็นหลินเฟิงมาถึงทั้งสองคนก็เดินเข้ามาทันที“สหายน้อยหล
“คุณหลิน ฉันไปเอาอุปกรณ์อาบน้ำมาให้คุณนะคะ” จางเจียหนิงพูดขึ้นหลินเฟิงพูด: “ไม่จำเป็นแล้ว อีกเดี๋ยวผมจะกลั่นยา”“ห๊ะ?”จางเจียหนิงตกตะลึงอย่างมาก: “ดึกขนาดนี้แล้ว คุณไม่พักผ่อนเหรอคะ?”“ครั้งนี้ยาที่จะกลั่นไม่ได้ซับซ้อนมาก อีกเดี๋ยวก็จัดการเรียบร้อยแล้ว”“งั้น…ฉันก็ยังอยากเตรียมให้คุณสักชุด”จางเจียหนิงพูดจบก็วิ่งออกไปนอกห้องจากนั้นก็นำอุปกรณ์อาบน้ำวางไว้ที่ห้องรับแขกจากนั้นก็เดินหาวมาที่หน้าประตูสำนักไป๋เกาสำนักไป๋เกาไม่ใช่โรงพยาบาล ปกติไม่ได้เปิดทำการยี่สิบสี่ชั่วโมงในตอนที่เธอจะปิดประตูจู่ ๆ ก็มีผู้หญิงสองคนบุกเข้ามาผู้หญิงคนหนึ่งที่สวมชุดเดรสยาวสีฟ้าใบหน้าซีดเซียวถูกผู้หญิงที่สวมชุดรัดรูปประคองอยู่“ทั้งสองท่าน พวกเราจะปิดร้านแล้วค่ะ”หญิงสาวชุดรัดรูปมองไปทางจางเจียหนิงแล้วรีบพูดขึ้น: “แม่หนูคนนี้ พวกเรากำลังถูกคนไล่ฆ่า ขอให้พวกเราหลบซ่อนตัวหน่อยนะคะ”จางเจียหนิงสีหน้างุนงง คิดไม่ถึงว่าตัวเองจะเจอกับเรื่องแบบนี้ไม่รอให้เธอเอ่ยปาก คนกลุ่มใหญ่ก็พุ่งออกมาจากหัวมุมถนนแต่ละคนมือถืออาวุธและมุ่งเข้ามาที่สำนักไป๋เกาโดยตรงจางเจียหนิงเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ที่ไหนก
เมื่อได้ยินคำพูดของผู้คุ้มกันตระกูลหลง หลงเซียวก็โมโหจนจมูกเกือบบิดเบี้ยว เธอชี้ไปทางสมุนและนักเลงที่ใบหน้าโหดเหี้ยมที่ตามมาอยู่ด้านหลัง จากนั้นก็พูดขึ้นว่า:“นายดูพวกเขาสิ ท่าทางเหมือนคนไม่กล้าแตะต้องฉันงั้นเหรอ?”“ถ้าพวกนายกล้าไม่สนใจฉัน พวกนายรู้ถึงจุดจบแน่!”เมื่อเผชิญหน้ากับคำขู่ของหลงเซียว ผู้คุ้มกันคนนี้หน้าเสียเหมือนกินแมลงวันเข้าไป ทั้งๆ ที่ตัวเองสามารถหนีไปได้ แต่กลับต้องพาตัวถ่วงอย่างหลงเซียวไปด้วย สุดท้ายก็ถูกล้อมเอาไว้แน่นอนว่า เขาก็ไม่กล้าทอดทิ้งหลงเซียวถ้าหากนักเลงพวกนี้กล้าฆ่าหลงเซียวจริงๆ งั้นที่ตัวเองทิ้งหลงเซียวไว้แล้วหนีไป ก็ถือว่าเป็นโทษประหารชีวิตไม่มีทางที่จะรอดชีวิตไปได้อย่างแน่นอนแต่…เมื่อมองดูสมุนกับนักเลงที่โผเข้ามาอย่างดุดันโดยรอบนั้น เขาคิดว่า ตัวเองไม่มีทางรอดไปได้ภายใต้การโจมตีของคนเหล่านี้แน่นอนดังนั้นก็ทำได้แค่ตัดสินใจตายก็ตายสิ ไม่ว่ายังไงก็ตายอยู่ดี!เขาล้วงอาวุธออกมาจะต่อต้าน แต่ก็ถูกสมุนและพวกนักเลงฟันจนเละเป็นเนื้อสับ“พวกนาย…พวกนายจะทำอะไร?!”ถังจวินและคนอื่นๆ ที่เดินไกลออกไปแล้วเห็นภาพที่วุ่นวายแบบนี้ ก็ขับรถกลับมาทันที“เรื่
“นาย ถังหว่าน ทุกคนที่อยู่ข้างกายของนาย ฉันไม่มีทางปล่อยพวกเขาไป! ฉันสาบาน!”เมื่อเผชิญหน้ากับคำขู่ที่ตรงไปตรงมาของหลงเซียวแบบนี้ หลินเฟิงก็รู้สึกโมโหอย่างมากเขาหันมองไปทางถังจวินและพูดตวาดว่า:“นายได้ยินแล้วยัง?! ถังจวิน หน่วยลับของพวกนายมีหน้าที่ปกป้องตระกูลถังไม่ใช่เหรอ?”“หลงเซียวคนนี้จะจัดการตระกูลถังของพวกนาย! ทำไมนายยังยืนโง่อยู่ตรงนั้นอีก?! ในหัวสมองพวกนายใส่ขี้เลื่อยเอาไว้งั้นเหรอ?!”เมื่อเผชิญหน้ากับคำด่าทอของหลินเฟิง ถังจวินก็มีสีหน้านิ่งเฉย“หลินเฟิง นี่คือความแค้นส่วนตัวของนายกับคุณหลงเซียว ถ้าหากนายอยากยืมมือเราฆ่าคน งั้นฉันก็พูดได้แค่ว่านายเดินหมากผิดแล้ว”“ไอ้เชี่ย!”หลินเฟิงโมโหที่ไร้ความสามารถ เขาแทบอยากจะมัดหน่วยลับของตระกูลถังเอาไว้ด้วยกันแล้วจุดไฟเผาให้หมดไป“คนอื่นเอามีดจ่อคอพวกนายแล้ว นายจะไม่ตอบโต้จริงๆ งั้นเหรอ? ต้องให้คนเขาแทงนายให้ตาย นายถึงจะรู้จักดิ้นรนงั้นเหรอ?!”หลินเฟิงพูดมาถึงขนาดนี้แล้วแต่ถังจวินก้ยังคงนิ่งไม่ขยับเขยื้อน“คำสั่งแรกของหน่วยลับตระกูลถังในการดำเนินตามคำสั่งก็คือคำสั่งของคนระดับสูงของตระกูลถัง ไม่ใช่คนนอกอย่างนาย”ถังจวินมอ
“ตระกูลถัง...เฮ้อ ตระกูลถัง...”ทันใดนั้น ถังหว่านนึกถึงคำพูดที่หลงเซียวพูดกับเธอในตอนที่อยู่ชั้นใต้ดินเมื่อครู่นี้ขึ้นมากะทันหัน“ยังไงพวกหัวโบราณของตระกูลถังของเธอ ไม่มีทางกล้าแตกหักกับตระกูลหลงของเรา”“จุดอ่อนของตระกูลถังฉันตรวจสอบชัดเจนตั้งนานแล้ว”“ต่อให้วันนี้เธอตายอยู่ที่นี่ ก็ไม่มีคนใส่ใจ”“พวกเขาอาจจะยังเฝ้าถิ่นฐานของตัวเองอยู่ เป็นกังวลที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ตระกูลหลงจะแตกหักกับพวกเขาอยู่ละมั้ง?”นึกถึงตรงนี้ ถังหว่านถึงแม้จะยิ้มอยู่ แต่ในใจกลับโศกเศร้าถึงที่สุดคนตระกูลถังของเธอทำไมถึงเห็นแก่ประโยชน์ระยะสั้นแบบนี้?ยอมประนีประนอมเต็มที่ ก็เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองจะบุกไปก็ไม่กล้าจะถอยหลังก็กลัว ผลลัพธ์สุดท้าย ก็ต้องตกไปอยู่ในเงื้อมมือของศัตรูด้วยน้ำมือของตัวเองต่อให้ก่อนหน้านี้นิสัยที่โฉดชั่วเสมือนหมาป่าของหลงยวนปรากฏออกมา หลินเฟิงออกหน้าช่วยเหลือ พวกเขาก็ไม่ได้รู้สึกซาบซึ้งแม้แต่นิดและก็ไม่ได้เกิดความรู้สึกหวาดกลัวในภายหลังคิดเพียงแค่ว่าอยู่รอดไปวันๆ“เศษสวะ”ถังหว่านด่าออกมาเสียงต่ำ“คุณว่าอะไรนะ?”ถังจวินคิดว่าตัวเองได้ยินผิด“ฉันพูดว่าพวกนายเป็นพวกเศษสว
เมื่อเห็นหลินเฟิงปรากฏตัว ถังหว่านถึงได้โล่งอก“หลินเฟิง นายกำลังทำอะไร?”“จริงด้วย ทำไมไม่ปกป้องคุณหนูถังหว่าน นายทำอะไรอยู่ที่ด้านล่างคนเดียว?!”ถังจวินและหน่วยลับคนอื่นๆ เห็นหลินเฟิง ก็เปลี่ยนเป้าหมาย พากันตำหนิหลินเฟิงว่าปกป้องได้ไม่ดีหลินเฟิงคิดไม่ถึงว่าคนเหล่านี้จะเล่นงานเขาก่อนจึงโมโหจนส่งผลกระทบกระเทือน รู้สึกเจ็บปอดรุนแรง และไอออกมาเป็นเลือด“หลินเฟิง คุณไม่เป็นไรนะ?!”ถังหว่านตกใจอย่างมาก รีบเข้าไปประคองเขาเธอเขม่นถังจวินและหน่วยลับจากนั้นพูดว่า:“เมื่อครู่ฉันบอกกับพวกนายไปหลายรอบแล้ว!”“หลินเฟิงกำลังสู้รบอย่างสุดชีวิตอยู่กับยอดฝีมือตระกูลหลง เป็นอันตรายอย่างมาก ทำไมพวกนายไม่ลงไปช่วยเขา?!”“แต่หลังจากเขาเอาชนะมาได้อย่างยากลำบาก ยังจะกล่าวโทษเขาอีก?!”“คุณหนูถังหว่านขออภัยด้วย พวกเราจะเป็นต้องปกป้องความปลอดภัยของคุณก่อน” ถังจวินขมวดคิ้วเล็กน้อยเหมือนว่าเขาไม่รู้สึกยินดีที่เห็นหลินเฟิงยังมีชีวิตอยู่เห็นหลินเฟิงมีชีวิตรอดเดินออกมาจากลิฟต์ ในความคลุมเครือ หลินเฟิงสังเกตได้ว่าในสายตาของชายคนนี้เผยความผิดหวังออกมาเล็กน้อย“หึ เรื่องพวกนี้ไม่สำคัญหรอก”หลินเฟิงด
หลินเฟิงออกแรงเงยหน้าขึ้นรอให้เขามองเห็นสถานการณ์ตรงหน้าอย่างชัดเจน นัยน์ตากลับหดลงทันทีเป็นเพราะหลงต้างที่ข่มเขาเอาไว้โดยสิ้นเชิงเมื่อครู่นี้ ภายใต้กระบวนท่าที่เขาปล่อยออกมาอย่างน่าหวาดกลัวขนาดนี้ ก็ยังถูกราชาหลินแห่งตอนใต้บีบคอเอาไว้ด้วยมือข้างเดียวห้อยอยู่กลางอากาศอย่างง่ายดายขนาดนี้เหมือนกับราชาหลินแห่งตอนใต้ไม่ได้ใช้พลังชี่แท้ออกมาด้วยซ้ำ“นี่มัน...”“ดูให้ดีนะไอ้หนุ่ม มือข้างเดียวแบบนี้เรียกว่ามือระเบิดมังกร(หลง ภาษาจีนแปลว่ามังกร คำพ้องเสียง) ปู่ของนายสอนฉันมา เอาไว้ใช้ฆ่าคนของตระกูลหลง”น้ำเสียงของราชาหลินแห่งตอนใต้เรียบเฉยอย่างมากแต่หลงต้างกลับกลอกตาไปมา ขาสองข้างดิ้นรนไม่หยุด ทั้งร่างกายชักกระตุกเหมือนถูกไฟช็อต“ฉันรู้ว่านายอยากจะถามอะไร ทำไมถึงเรียกวิชานี้ว่ามือระเบิดมังกรใช่ไหม? นั่นก็เพราะว่า...”“ราชาหลินแห่งตอนใต้ คุณกล้า...”“พรวด!”ร่างกายของหลงต้างขยายออกเหมือนกับลูกโป่งทันที จากนั้นก็ระเบิดออก หมอกเลือดกระจายออก เลือดตกลงเหมือนฝนตก“ดู ระเบิดแล้วใช่ไหม?”ราชาหลินแห่งตอนใต้ยิ้มและหันหน้ามองไปทางหลินเฟิง“นี่...นี่จะเป็นไปได้ยังไง...”หลินเฟิงสีห
“หึหึหึ...”ควบคู่กับเสียงหัวเราะแหบแห้งตาแก่ที่สวมชุดเครื่องแบบทหารของประเทศมังกร อกผายไหล่ผึ่งเดินออกมาจากมุมมืดช้าๆ“คุณ...”หลินเฟิงดิ้นรน อดกลั้นความเจ็บปวดรุนแรงจากกระดูกซี่โครงที่แตกหักตรงหน้าอก แวบเดียวก็ดูสถานะของตาแก่คนนี้ออกคนผู้นี้ก็คือพ่อของหลินเฟิง ชายชราที่ทำให้คนจำนวนมากทั่วทั้งประเทศมังกรเทิดทูน เลื่อมใส ทำให้คนเวน่ามองว่าเป็นฝันร้ายราชาหลินแห่งตอนใต้!“ราชาหลินแห่งตอนใต้ คุณมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้ยังไง?!”มองดูตราเหรียญทหารจำนวนมากที่ส่องแสงระยิบระยับบนหน้าอกของราชาหลินแห่งตอนใต้ หลงต้างกลับเผยความหวาดกลัวออกมาชั่วขณะ ถึงขั้นที่มีสีหน้าหวาดกลัวในฐานะนักบู๊แดนแปรภาพขั้นสูงสุด สีหน้าแบบนี้ปรากฏบนใบหน้าของหลงต้าง มันช่างโดดเด่นมากจริงๆเพราะตั้งแต่แรกเริ่ม ก็รักษาสีหน้าท่าทางที่ไม่แยแสสิ่งใดเอาไว้อยู่ตลอดเวลาความสามารถของหลงต้างนั้นไม่ต้องสงสัยเลย“หึ แค่อยากออกมาเดินดูรอบๆ ก่อนตายก็เท่านั้นเอง”น้ำเสียงของราชาหลินแห่งตอนใต้เรียบเฉย ถึงขั้นที่ยังหัวเราะเบาๆเมื่อเผชิญหน้ากับหลงต้าง กลับรักษาน้ำเสียงที่เหมือนกับได้เจอเพื่อนเก่า“ราชาหลินแห่งตอนใต้ คุณค
“หึหึ ชื่อนี้เป็นเพียงแค่รหัสเท่านั้น จะชื่ออะไรก็เหมือนกัน....มันก็คือคุณนั้นแหละ ขั้นเซียนเทียนต้าหยวนหม่านก็ส่งไปถึงหน้าประตูบ้าน ดูเหมือนว่าความสามารถในการมีสมาธิของคุณจะไม่พอนะ!”“จะพอหรือไม่พอก็ไม่ใช่ว่าคุณจะเป็นคนตัดสินได้”หลินเฟิงเยาะเย้ย พร้อมกับตาทั้งสองข้างที่แดงเล็กน้อยเมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูในขอบเขตยิ่งใหญ่ เขาก็ไม่สามารถออมแรงได้อีกต่อไป ไม่อย่างนั้นคนที่ตายก็จะเป็นหลินเฟิงเอง“ดีมาก ดูเหมือนว่าคุณจะพร้อมที่จะสู้กับฉันอย่างสุดความสามารถแล้ว...วันนี้ ฉันจะได้กำจัดหายนะครั้งใหญ่ที่สุดของตระกูลหลงของฉันแล้ว!”“เจ้าหนู จำไว้ ฉันชื่อหลงต้าง หลังจากที่ลงไปแล้ว ก็อย่าลืมบอกเทพปีศาจว่าใครส่งคุณลงไปด้วยล่ะ!”ชายชราไว้หนวดเงยหน้าขึ้นและยิ้ม ทันใดนั้นก็มีลมแรงพัดขึ้นรอบตัวเขา ก่อนที่พลังชี่แท้จะพัดหลินเฟิงลอยออกไป“นี่คือ...ความแข็งแกร่งของแดนแปรภาพขั้นสูงสุดงั้นเหรอ?”ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้หลินเฟิงจะเคยต่อสู้กับจีว่านจ่างของตระกูลจี แต่สถานการณ์ตอนนั้นพิเศษ และจีว่านจ่างก็ไม่สามารถใช้กำลังได้อย่างเต็มที่แต่ตอนนี้เขากำลังเผชิญหน้ากับแดนแปรภาพขั้นสูงสุดคนหนึ่งอยู่สิ่งนี้สร
“ได้”เมื่อหลินเฟิงเห็นถังหว่านอยู่ในมือของฝ่ายตรงข้าม จึงตกลงตามคำขอของฝ่ายตรงข้ามโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อยหลินเฟิงตรงไปตรงมาขนาดนี้ กลับทำให้ชายชราไว้หนวดถึงกับตกตะลึงไปครู่หนึ่ง“เจ้าหนู เมื่อครู่ที่ฉันได้พูดถึงเงื่อนไข นายได้ฟังอย่างชัดเจนไปแล้วใช่ไหม? นายแน่ใจแล้วงั้นเหรอ?”แม้ว่าชายชราจะยังคงไม่สนใจเรื่องเวลา แต่สายตาก็มองตรงไปทางหลินเฟิงแล้วราวกับว่ากำลังคาดเดาความคิดที่แท้จริงของหลินเฟิงผ่านการแลกเปลี่ยนทางสายตา“ผมแน่ใจ เพียงแต่ผมมีเงื่อนไขหนึ่งอย่าง”หลินเฟิงชี้ไปทางถังหว่านแล้วพูดว่า :“ผมไม่ได้สนใจว่าตระกูลถังจะเป็นอย่างไร แต่ตระกูลหลงของพวกคุณต่อจากนี้จะไม่ได้รับอนุญาตให้สร้างปัญหาในการแยกตระกูลถังในเมืองเจียงโจวอีก”“ได้”ชายชราก็รับปากเช่นกัน“เหอะ...”ทั้งสองต่างก็หรี่ตาลง ทันใดนั้นก็เข้าใจถึงความคิดของฝ่ายตรงข้ามเห็นได้ชัดว่าชายชราใช้ถังหว่านเพื่อดึงดูดความสนใจของหลินเฟิง และใช้สิ่งนี้เพื่อค้นหาข้อบกพร่องของหลินเฟิงแต่หลินเฟิงก้ใช้คำพูดมาเอาชนะชายราคนนี้จนได้ พร้อมกับคิดหาทางช่วยถังหว่านให้กลับมา“เบื้องหลังของชายชราคนนี้ไม่ธรรมดา คิดไม่ถึงว่าจะสามารถตอบ
“หึ...”เผชิญหน้ากับคำขู่ของหลงยวน หลินเฟิงไม่ได้หวาดกลัวแม้แต่น้อย เขากลับยื่นมือออกไป จับขาอ่อนของหลงเซียวเอาไว้“นาย...นายจะทำอะไร...อ๊ะ!”หลงเซียวยังไม่เข้าใจความคิดของหลินเฟิง เธอยังคิดว่าหลินเฟิงจะย่ำยีเธอ แต่คิดไม่ถึงว่าวินาทีตต่อมา สิ่งที่รอเธออยู่คือความเจ็บปวดที่ทิ่มแทงหัวใจกระดูกขาทั้งสองข้างของเธอ ถูกหลินเฟิงสะเทือนจนแตกละเอียดอย่างง่ายดาย“นี่ก็เพื่อป้องกันไม่ให้เธอหนี”หลินเฟิงเผยฟันขาวออกมา ยิ้มเยือกเย็นให้กับหลงเซียวเมื่อยิ้มแบบนี้ ทำให้หลงเซียวหวาดกลัวในที่สุด เธอหมอบลงกับพื้น มองหลินเฟิงเดินไปทางถังหว่าน อยากจะเอ่ยปากสาปแช่ง แต่กลับเจ็บจนเธอพูดไม่ออกแม้แต่ประโยคเดียว“ไม่...ไม่ได้ หลินเฟิง...แข็งแกร่งยิ่งกว่าที่คิดไว้ ถึงขั้น...ถึงขั้นที่ตระกูลหลงของฉันมีแค่ไม่กี่คนที่สามารถฆ่าเขาได้...ไม่ ฉันจะตายไม่ได้...”ในหัวของหลงเซียวเหลือเพียงเสียงแบบนี้เธอกัดฟัน ออกแรงทั้งหมดที่มี คลานไปทางบันไดของชั้นใต้ดิน“เพียงแค่...เพียงแค่สามารถหนีออกไปได้...เพียงแค่ฉันสามารถหนีออกไปได้...”ในใจของหลงเซียวในตอนนี้เหลือเพียงความศรัทธาที่ประคับประคองเอาไว้และในตอนนี้ หลิน