ชายที่มีรอยสักชะงักงัน หรือว่าภายในศูนย์การแพทย์เล็ก ๆ แห่งนี้มีผู้มีฝีมือสูงส่ง?”ในตอนนี้เอง หลินเฟิงเดินออกมาจางเจียหนิงกลับหลบอยู่ที่ด้านหลังของเขาเดิมทีหลินเฟิงกำลังจะกลั่นยา แต่กลับได้ยินเสียงอื้อฉาวที่ด้านนอกคิดไม่ถึงว่าเพิ่งจะออกมาข้างนอกห้องก็เห็นคนสองคนกำลังไล่ตามจางเจียหนิงหลินเฟิงก็ไม่มีความเกรงใจใด ๆ เขาถีบสองคนนั้นกระเด็นออกไปทันทีจากนั้นก็กวาดมองไปรอบ ๆ และสังเกตเห็นพวกไป๋ชิงเฉี่ยนและพูดเสียงแข็ง: “ใครกันกล้ามาก่อความวุ่นวายที่นี่?”ชายที่มีรอยสักจ้องมองหลินเฟิง แต่กลับไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา จากนั้นก็ตะโกนขึ้นมาด้วยเสียงเย็นชา: “จัดการมันซะ”เพิ่งพูดจบ ลูกน้องจำนวนนับไม่ถ้วนก็พุ่งเข้ามาทันที“คุณหลินระวังนะคะ” จางเจียหนิงเห็นอีกฝ่ายมีกำลังเยอะจึงพูดเตือนในทันทีแต่พวกกุ้งหอยปูปลาเหล่านี้ ในสายตาของหลินเฟิงไม่เพียงพอให้มองดูด้วยซ้ำวินาทีต่อมาหลินเฟิงเคลื่อนไหวราวกับสายฟ้าเคลื่อนตัวไปในกลุ่มลูกน้องปล่อยหมัดใส่ทีละคน ต่อยจนกลุ่มลูกน้องกระเด็นออกไปทันที“แม่งเอ๊ย…” ชายที่มีรอยสักตกตะลึงจนหน้าถอดสีเป็นผู้มีฝีมือสูงจริง ๆ ด้วยเห็นลูกน้องของตัวเองล้มไ
หลินเฟิงชี้ไปที่สำนักไป๋เกาแล้วพูดขึ้น: “สถานที่นี้คือศูนย์การแพทย์สำนักไป๋เกาที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองเจียงโจว ต้องรักษาเป็นอยู่แล้ว”ไป๋ชิงเฉี่ยนมองดูตู้ยาที่อยู่โดยรอบแล้วยิ่งมั่นใจว่าหลินเฟิงไม่ได้พูดโกหกจริง ๆเมื่อครู่ระหว่างที่หลบหนีเธอถูกปล่อยหมัดใส่ตอนนี้ชี่และเลือดเสียสมดุล ถึงขั้นที่หายใจยังยากลำบากในเมื่ออีกฝ่ายเป็นหมอ เธอจึงยื่นมือออกมาทันทีหลินเฟิงเพียงแค่สัมผัสชีพจรเบา ๆ ก็รู้ว่าปัญหาของเธออยู่ตรงไหนเห็นเพียงแค่นิ้วมือของหลินเฟิงรวดเร็วเหมือนสายฟ้ากดจุดตรงหน้าอกของไป๋ชิงเฉี่ยนติดต่อกันเธอรู้สึกเจ็บหน้าอกเป็นอย่างมากในทันที“นี่ นายทำอะไรน่ะ? กล้าแต๊ะอั๋งคุณหนูของฉันเหรอ?” ต่งหลิงอวี้เห็นหลินเฟิงยื่นมือออกมาสัมผัสหน้าอกของไป๋ชิงเฉี่ยนก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟทันทีจากนั้นก็ดึงไป๋ชิงเฉี่ยนกลับไปเธอถลึงตาใส่หลินเฟิงแล้วพูดต่อว่า: “นึกว่านายเป็นหมอมีจรรยาบรรณอะไร แต่คิดไม่ถึงว่าจะแอบอ้างการรักษาเพื่อแต๊ะอั๋งคุณหนูของฉัน?”หลินเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วมองไปทางต่งหลิงอวี้: “เธอพูดจาไม่น่าฟังเลยจริง ๆ”“นาย…”ต่งหลิงอวี้กำลังจะเอ่ยปากด่าคนแต่กลับถูกไป๋ชิงอวี้
“คุณหนู คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?” ต่งหลิงอวี้เห็นแบบนี้ก็ตื่นตระหนกและรีบเข้าไปประคองเอาไว้ในตอนนี้เองกำลังคนของตระกูลต่งก็ตามมาถึง“หลิงอวี้ คุณหนูเป็นอะไรไป?” คนที่นำหน้ามาเห็นคุณหนูหมดสติจึงรีบเข้าไปถามต่งหลิงอวี้รีบพูดอธิบาย: “ฉันกับคุณหนูถูกมือสังหารลอบฆ่า คุณหนูถูกพวกมันต่อยเข้า”“รีบไปโรงพยาบาล” บอดี้การ์ดรีบอุ้มไป๋ชิงเฉี่ยนขึ้นรถจากนั้นก็ขับไปยังโรงพยาบาลเมืองเจียงโจวผ่านการช่วยชีวิตตลอดทั้งคืน ในที่สุดไป๋ชิงเฉี่ยนก็พ้นขีดอันตรายท้องฟ้าเพิ่งสว่าง ผู้นำตระกูลไป๋ก็ตามมาที่โรงพยาบาลด้วยความร้อนรน“ตอนนี้อาการลูกสาวของฉันเป็นอย่างไรบ้าง?” ไป๋เจิ้นหัวถามบอดี้การ์ดบอดี้การ์ดก้มหน้าด้วยความเก้กังแล้วพูดขึ้น: “คุณไป๋ถูกมือสังหารลอบฆ่า ได้รับบาดเจ็บภายใน แต่ตอนนี้พ้นขีดอันตรายแล้วครับ”“พวกแกเลี้ยงเสียข้าวสุกจริง ๆ คนเยอะแยะขนาดนี้ยังทำให้ลูกสาวของฉันบาดเจ็บได้” ไป๋เจิ้นหัวด่าทอด้วยความโมโหจนระงับอารมณ์ไม่อยู่กลุ่มบอดี้การ์ดทำได้แค่ก้มหน้าไม่พูดไม่จาในตอนนี้ต่งหลิงอวี้พูดอธิบายขึ้น: “คุณอาไป๋ เรื่องนี้โทษหนูเองค่ะ ตอนนั้นคุณหนูอยากออกไปเดินเที่ยวเล่น หนูไม่ได้ห้ามปรามไว้ไ
“เอาเถอะชิงเฉี่ยน ลูกพักผ่อนให้เต็มที่อย่าขยับซี้ซั้ว”ไป๋ชิงเฉี่ยนพยักหน้าแล้วถามขึ้น: “พ่อ อาการของหนูไม่ได้รุนแรงมากใช่ไหมคะ?”ไป๋เจิ้นหัวพูดปลอบใจ: “ลูกวางใจได้ ผู้อำนวยการของโรงพยาบาลเจียงโจวได้ไปหาผู้มีฝีมือสูงมาแล้ว จะต้องรักษาอาการของลูกได้แน่นอน”“เหรอคะ?” ไป๋ชิงเฉี่ยนยิ้มบาง“แน่นอนอยู่แล้ว” ไป๋เจิ้นหัวพยักหน้าติดต่อกัน: “มีพ่ออยู่ ลูกไม่มีทางเป็นอะไรแน่นอน”ครั้งนี้ไป๋ชิงเฉี่ยนไม่ได้พูดอะไรอีกอันที่จริงเธอไม่ได้เป็นกังวลเรื่องอาการบาดเจ็บของตัวเอง ในเมื่อจุดประสงค์หลักในการมาเมืองเจียงโจวในครั้งนี้ก็คือการแต่งงานเกี่ยวดองกันแต่เธอไม่ได้ชอบคู่แต่งงานของเธอด้วยซ้ำเมื่อคืนออกจากโรงแรมกลางดึก เหตุผลหลักก็เป็นเพราะอยากจะหนีออกจากเมืองเจียงโจวหลุดพ้นจากชะตากรรมของการแต่งงานแต่น่าเสียดายที่สวรรค์ไม่ทำตามอย่างที่หวังเมื่อคืนเธอคิดอยู่ตลอด บางทีเธอตายไปแบบนี้ก็คงดีผ่านไปครู่หนึ่ง ประตูของห้องพักผู้ป่วยก็ถูกผลักออกชายวัยกลางคนคนหนึ่งกับวัยรุ่นที่อายุยี่สิบต้น ๆ เดินเข้ามาคนที่มาก็คือเหยนควาน ท่านผู้นำสำนักอวี้เจี้ยนของเมืองเจียงโจววัยรุ่นที่อยู่ด้านข้างคือเหยน
“หือ?” หลินเฟิงเงยหน้าขึ้นมอง ก็จำผู้หญิงคนนี้ได้ทันทีนี่ก็คือผู้หญิงสองคนนั้นที่ถูกไล่ฆ่าที่สำนักไป๋เกาเมื่อคืนนี้ไม่ใช่เหรอคิดไม่ถึงว่าโลกนี้จะมีเรื่องบังเอิญขนาดนี้ด้วย“หลิงอวี้ หนูรู้จักเขาเหรอ?” ไป๋เจิ้นหัวถามด้วยความงุนงง“ถูกต้องเขาก็คือคนเมื่อคืน…”ต่งหลิงอวี้กำลังจะพูดว่า หลินเฟิงคือคนที่เมื่อคืนนี้เอาเปรียบคุณหนูไป๋แต่ว่าพ่อลูกตระกูลเหยนยังอยู่ที่นี่ด้วย ถ้าได้ยินคำพูดนี้จะต้องโกรธเป็นอย่างแน่”คำพูดที่อยู่ข้างปากถูกเขาฝืนกลืนกลับเข้าไป“เมื่อคืนทำไม?” ไป๋เจิ้นหัวถามขึ้นด้วยความงุนงงโชคดีที่ไป๋ชิงหัวที่อยู่บนเตียงคนไข้ตอบสนองได้เร็วพอ จึงรีบพูดขึ้น: “เขาก็คือคนที่ช่วยหนูไว้เมื่อคืนนี้”“พวกเราถูกคนของสำนักเทียนอิงตามฆ่า เป็นเขาที่ช่วยพวกเราเอาไว้”“อ้าว? มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ?”ไป๋เจิ้นหัวประหลาดใจเล็กน้อย ไอ้หมอนี่ดูไปแล้วอายุแค่ยี่สิบต้น ๆ แต่ยังมีความสามารถแบบนี้ด้วย?สายตาที่มองไปทางหลินเฟิงไม่มีความเหยียดหยามเมื่อครู่นี้แล้วในตอนนี้หวังไห่ยิ้มแล้วพูดขึ้น: “ผมพูดว่าอย่างไรล่ะ สหายน้อยหลินความสามารถไม่ธรรมดา ไม่เพียงทักษะการแพทย์เลิศล้ำ อีกทั้งศิลปะการ
ที่สำคัญคือ ถ้าหลินเฟิงคนนี้เป็นแพทย์แผนจีนสูงวัยก็ช่างเถอะ แต่เขาอายุน้อยเกินไปแล้ว“หรือว่าไม่มีวิธีอื่นแล้วเหรอครับ?” ไป๋เจิ้นหัวเกาศีรษะแล้วถามขึ้นหลินเฟิงส่ายหน้า: “วิธีรักษาของผมมีแค่วิธีนี้วิธีเดียว ถ้าหากพวกคุณไม่อยากใช้จะไม่ใช้ก็ได้”“หึ”ในตอนนี้เอง เหยนจวิ้นส่งเสียงไม่พอใจแล้วพูดขึ้น: “ฉันดูแล้วนายอยากจะเอาเปรียบคู่หมั้นของฉันซะมากกว่า”“ยังจะถอดเสื้อผ้ารักษาอะไรอีก? ทำไมฉันไม่เคยได้ยินวิธีการรักษาที่เหลวไหลแบบนี้เลย”หลินเฟิงเหลือบตามองเขา หน้าตาเหมือนกับตือโป๊ยก่าย ดวงตาเหมือนหนูดูอย่างไรก็อัปลักษณ์อย่างนั้นคิดไม่ถึงว่าไป๋ชิงเฉี่ยนที่สวยและสูงโปร่งจะมีคู่หมั้นแบบนี้แต่เขาไม่อยากยุ่งเรื่องครอบครัวของคนอื่นจากนั้นก็ยักไหล่แล้วแสดงท่าทาง: “ในเมื่อพวกคุณไม่ยอมเชื่ออย่างงั้นก็ช่างเถอะ”ในตอนนี้ไป๋ชิงเฉี่ยนกลับเอ่ยปากขึ้น: “คุณหลินมารักษาอาการให้ฉัน จากที่ฉันดู ในสายตาของหมอไม่มีผู้หญิงผู้ชาย ไม่สู้ให้คุณหลินรักษาเถอะ”เธอไม่ได้คิดว่าหลินเฟิงจะมีความคิดชั่วร้ายอะไรเหยนจวิ้นที่อยู่ด้านข้างพูดเกลี้ยกล่อม: “ทำแบบนี้ได้อย่างไร? คุณเป็นคู่หมั้นของผม พวกเรายังไม่ได้แต
ตามหาคนรักษาเป็นความต้องการของตระกูลไป๋ ตอนนี้ตามหาคนเจอแล้ว ตระกูลไป๋กลับไล่คนกลับไปนี่ทำให้หวังไห่เก้กังอย่างมากหลินเฟิงโบกมือแล้วพูดออกมา: “ผู้อำนวยการหวัง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องใด ๆ กับคุณ คุณไม่จำเป็นต้องขอโทษเพื่อพวกเขา”“ผมมีธุระอีก ต้องขอตัวก่อนนะครับ”“ผมไปส่งคุณครับ” หวงไห่ไปส่งหลินเฟิงออกจากโรงพยาบาลด้วยตัวเองผ่านไปครู่หนึ่ง จางเต๋อหลินก็ถูกคนของตระกูลเหยนรับตัวมาทุกคนเห็นจางเต๋อหลินผมขาวเต็มหัว จึงพยักหน้าติดต่อกัน ในเมื่อนี่ถึงจะเป็นท่าทางของหมอเทวดาในสายตาของพวกเขาเหยนควานพูดแนะนำ: “ท่านนี้ก็คือจางเต๋อหลิน หมอเทวดาของสำนักไป๋เกา”“หมอเทวดาจาง ได้ยินชื่อเสียงของคุณมานานแล้วครับ” ไป๋เจิ้นหัวรีบเข้าไปจับมือกับจางเต๋อหลินดูท่าคราวนี้ลูกสาวของเขารอดแล้วจางเต๋อหลินยิ้มด้วยความสุภาพ: “คุณไป๋ไม่จำเป็นต้องเกรงใจครับ ระหว่างทางที่มาท่านผู้นำหวงได้บอกสถานการณ์ของลูกสาวของคุณให้ผมฟังแล้ว”“พวกเรารีบรักษากันเถอะครับ”“เป็นสิ่งที่ผมสมควรทำครับ”ไป๋เจิ้นหัวและคนอื่น ๆ หลีกทางให้จางเต๋อหลินมาตรงหน้าเตียงผู้ป่วยของไป๋เจิ้นหัวจางเต๋อหลินก็ตรวจจับชีพจรเช่นกันเพียงแต่
ดวงตาของเขาเป็นประกายแล้วพูดขึ้น: “คุณไป๋ ที่คุณพูดเมื่อครู่จริงไหมครับ?”“จริงครับ จริงแท้แน่นอน”จางเต๋อหลินยิ้มบางแล้วพูดขึ้น: “คุณไป๋ ถึงแม้ผมจะรักษาอาการลูกสาวของคุณไม่ได้ แต่เจียงโจวมีคนผู้หนึ่งที่สามารถทำได้”“คนผู้นี้ไม่เพียงวิชาการแพทย์ล้ำเลิศ แต่ยังเชี่ยวชาญด้านการต่อสู้ สามารถรักษาอาการของลูกสาวของคุณได้อย่างแน่นอน”“คนผู้นี้วิชาแพทย์ดีกว่าคุณอย่างไร?” ไป๋เจิ้นหัวถามด้วยความประหลาดใจจางเต๋อหลินโบกมือแล้วหัวเราะเยาะตัวเอง: “ผมเทียบกับเขา นั่นเป็นแสงเรืองรองของหญ้าเน่าเทียบกับดวงจันทร์ที่ส่องสว่างบนท้องฟ้า”“คนผู้นี้เก่งกว่าผมมากกว่าร้อยเท่า”“เจียงโจวยังมีคนแบบนี้ด้วยเหรอ?”ไป๋เจิ้นหัวตื่นเต้นเป็นอย่างมาก จางเต๋อหลินคนนี้แค่จับชีพจรก็รู้แล้วว่าลูกสาวของเขาถูกคนทำร้ายมาเมื่อคืนถ้าหากเก่งกว่าจางเต๋อหลินเป็นร้อยเท่า เกรงว่าคงมีเพียงบุคคลใหญ่โตที่เมืองหลวงเท่านั้นในตอนนี้เหยนควานลูบคางแล้วพูดด้วยความประหลาดใจ: “ผมอยู่ที่เมืองเจียงโจวมาหลายปีขนาดนี้ ทำไมถึงไม่เคยได้ยินถึงบุคคลนี้มาก่อน”ถ้าหากคนผู้นี้เก่งกว่าจางเต๋อหลิน เขาก็คงรู้จักตั้งนานแล้วจางเต๋อหลินยิ้มแล้วพู
เมื่อได้ยินคำพูดของผู้คุ้มกันตระกูลหลง หลงเซียวก็โมโหจนจมูกเกือบบิดเบี้ยว เธอชี้ไปทางสมุนและนักเลงที่ใบหน้าโหดเหี้ยมที่ตามมาอยู่ด้านหลัง จากนั้นก็พูดขึ้นว่า:“นายดูพวกเขาสิ ท่าทางเหมือนคนไม่กล้าแตะต้องฉันงั้นเหรอ?”“ถ้าพวกนายกล้าไม่สนใจฉัน พวกนายรู้ถึงจุดจบแน่!”เมื่อเผชิญหน้ากับคำขู่ของหลงเซียว ผู้คุ้มกันคนนี้หน้าเสียเหมือนกินแมลงวันเข้าไป ทั้งๆ ที่ตัวเองสามารถหนีไปได้ แต่กลับต้องพาตัวถ่วงอย่างหลงเซียวไปด้วย สุดท้ายก็ถูกล้อมเอาไว้แน่นอนว่า เขาก็ไม่กล้าทอดทิ้งหลงเซียวถ้าหากนักเลงพวกนี้กล้าฆ่าหลงเซียวจริงๆ งั้นที่ตัวเองทิ้งหลงเซียวไว้แล้วหนีไป ก็ถือว่าเป็นโทษประหารชีวิตไม่มีทางที่จะรอดชีวิตไปได้อย่างแน่นอนแต่…เมื่อมองดูสมุนกับนักเลงที่โผเข้ามาอย่างดุดันโดยรอบนั้น เขาคิดว่า ตัวเองไม่มีทางรอดไปได้ภายใต้การโจมตีของคนเหล่านี้แน่นอนดังนั้นก็ทำได้แค่ตัดสินใจตายก็ตายสิ ไม่ว่ายังไงก็ตายอยู่ดี!เขาล้วงอาวุธออกมาจะต่อต้าน แต่ก็ถูกสมุนและพวกนักเลงฟันจนเละเป็นเนื้อสับ“พวกนาย…พวกนายจะทำอะไร?!”ถังจวินและคนอื่นๆ ที่เดินไกลออกไปแล้วเห็นภาพที่วุ่นวายแบบนี้ ก็ขับรถกลับมาทันที“เรื่
“นาย ถังหว่าน ทุกคนที่อยู่ข้างกายของนาย ฉันไม่มีทางปล่อยพวกเขาไป! ฉันสาบาน!”เมื่อเผชิญหน้ากับคำขู่ที่ตรงไปตรงมาของหลงเซียวแบบนี้ หลินเฟิงก็รู้สึกโมโหอย่างมากเขาหันมองไปทางถังจวินและพูดตวาดว่า:“นายได้ยินแล้วยัง?! ถังจวิน หน่วยลับของพวกนายมีหน้าที่ปกป้องตระกูลถังไม่ใช่เหรอ?”“หลงเซียวคนนี้จะจัดการตระกูลถังของพวกนาย! ทำไมนายยังยืนโง่อยู่ตรงนั้นอีก?! ในหัวสมองพวกนายใส่ขี้เลื่อยเอาไว้งั้นเหรอ?!”เมื่อเผชิญหน้ากับคำด่าทอของหลินเฟิง ถังจวินก็มีสีหน้านิ่งเฉย“หลินเฟิง นี่คือความแค้นส่วนตัวของนายกับคุณหลงเซียว ถ้าหากนายอยากยืมมือเราฆ่าคน งั้นฉันก็พูดได้แค่ว่านายเดินหมากผิดแล้ว”“ไอ้เชี่ย!”หลินเฟิงโมโหที่ไร้ความสามารถ เขาแทบอยากจะมัดหน่วยลับของตระกูลถังเอาไว้ด้วยกันแล้วจุดไฟเผาให้หมดไป“คนอื่นเอามีดจ่อคอพวกนายแล้ว นายจะไม่ตอบโต้จริงๆ งั้นเหรอ? ต้องให้คนเขาแทงนายให้ตาย นายถึงจะรู้จักดิ้นรนงั้นเหรอ?!”หลินเฟิงพูดมาถึงขนาดนี้แล้วแต่ถังจวินก้ยังคงนิ่งไม่ขยับเขยื้อน“คำสั่งแรกของหน่วยลับตระกูลถังในการดำเนินตามคำสั่งก็คือคำสั่งของคนระดับสูงของตระกูลถัง ไม่ใช่คนนอกอย่างนาย”ถังจวินมอ
“ตระกูลถัง...เฮ้อ ตระกูลถัง...”ทันใดนั้น ถังหว่านนึกถึงคำพูดที่หลงเซียวพูดกับเธอในตอนที่อยู่ชั้นใต้ดินเมื่อครู่นี้ขึ้นมากะทันหัน“ยังไงพวกหัวโบราณของตระกูลถังของเธอ ไม่มีทางกล้าแตกหักกับตระกูลหลงของเรา”“จุดอ่อนของตระกูลถังฉันตรวจสอบชัดเจนตั้งนานแล้ว”“ต่อให้วันนี้เธอตายอยู่ที่นี่ ก็ไม่มีคนใส่ใจ”“พวกเขาอาจจะยังเฝ้าถิ่นฐานของตัวเองอยู่ เป็นกังวลที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ตระกูลหลงจะแตกหักกับพวกเขาอยู่ละมั้ง?”นึกถึงตรงนี้ ถังหว่านถึงแม้จะยิ้มอยู่ แต่ในใจกลับโศกเศร้าถึงที่สุดคนตระกูลถังของเธอทำไมถึงเห็นแก่ประโยชน์ระยะสั้นแบบนี้?ยอมประนีประนอมเต็มที่ ก็เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองจะบุกไปก็ไม่กล้าจะถอยหลังก็กลัว ผลลัพธ์สุดท้าย ก็ต้องตกไปอยู่ในเงื้อมมือของศัตรูด้วยน้ำมือของตัวเองต่อให้ก่อนหน้านี้นิสัยที่โฉดชั่วเสมือนหมาป่าของหลงยวนปรากฏออกมา หลินเฟิงออกหน้าช่วยเหลือ พวกเขาก็ไม่ได้รู้สึกซาบซึ้งแม้แต่นิดและก็ไม่ได้เกิดความรู้สึกหวาดกลัวในภายหลังคิดเพียงแค่ว่าอยู่รอดไปวันๆ“เศษสวะ”ถังหว่านด่าออกมาเสียงต่ำ“คุณว่าอะไรนะ?”ถังจวินคิดว่าตัวเองได้ยินผิด“ฉันพูดว่าพวกนายเป็นพวกเศษสว
เมื่อเห็นหลินเฟิงปรากฏตัว ถังหว่านถึงได้โล่งอก“หลินเฟิง นายกำลังทำอะไร?”“จริงด้วย ทำไมไม่ปกป้องคุณหนูถังหว่าน นายทำอะไรอยู่ที่ด้านล่างคนเดียว?!”ถังจวินและหน่วยลับคนอื่นๆ เห็นหลินเฟิง ก็เปลี่ยนเป้าหมาย พากันตำหนิหลินเฟิงว่าปกป้องได้ไม่ดีหลินเฟิงคิดไม่ถึงว่าคนเหล่านี้จะเล่นงานเขาก่อนจึงโมโหจนส่งผลกระทบกระเทือน รู้สึกเจ็บปอดรุนแรง และไอออกมาเป็นเลือด“หลินเฟิง คุณไม่เป็นไรนะ?!”ถังหว่านตกใจอย่างมาก รีบเข้าไปประคองเขาเธอเขม่นถังจวินและหน่วยลับจากนั้นพูดว่า:“เมื่อครู่ฉันบอกกับพวกนายไปหลายรอบแล้ว!”“หลินเฟิงกำลังสู้รบอย่างสุดชีวิตอยู่กับยอดฝีมือตระกูลหลง เป็นอันตรายอย่างมาก ทำไมพวกนายไม่ลงไปช่วยเขา?!”“แต่หลังจากเขาเอาชนะมาได้อย่างยากลำบาก ยังจะกล่าวโทษเขาอีก?!”“คุณหนูถังหว่านขออภัยด้วย พวกเราจะเป็นต้องปกป้องความปลอดภัยของคุณก่อน” ถังจวินขมวดคิ้วเล็กน้อยเหมือนว่าเขาไม่รู้สึกยินดีที่เห็นหลินเฟิงยังมีชีวิตอยู่เห็นหลินเฟิงมีชีวิตรอดเดินออกมาจากลิฟต์ ในความคลุมเครือ หลินเฟิงสังเกตได้ว่าในสายตาของชายคนนี้เผยความผิดหวังออกมาเล็กน้อย“หึ เรื่องพวกนี้ไม่สำคัญหรอก”หลินเฟิงด
หลินเฟิงออกแรงเงยหน้าขึ้นรอให้เขามองเห็นสถานการณ์ตรงหน้าอย่างชัดเจน นัยน์ตากลับหดลงทันทีเป็นเพราะหลงต้างที่ข่มเขาเอาไว้โดยสิ้นเชิงเมื่อครู่นี้ ภายใต้กระบวนท่าที่เขาปล่อยออกมาอย่างน่าหวาดกลัวขนาดนี้ ก็ยังถูกราชาหลินแห่งตอนใต้บีบคอเอาไว้ด้วยมือข้างเดียวห้อยอยู่กลางอากาศอย่างง่ายดายขนาดนี้เหมือนกับราชาหลินแห่งตอนใต้ไม่ได้ใช้พลังชี่แท้ออกมาด้วยซ้ำ“นี่มัน...”“ดูให้ดีนะไอ้หนุ่ม มือข้างเดียวแบบนี้เรียกว่ามือระเบิดมังกร(หลง ภาษาจีนแปลว่ามังกร คำพ้องเสียง) ปู่ของนายสอนฉันมา เอาไว้ใช้ฆ่าคนของตระกูลหลง”น้ำเสียงของราชาหลินแห่งตอนใต้เรียบเฉยอย่างมากแต่หลงต้างกลับกลอกตาไปมา ขาสองข้างดิ้นรนไม่หยุด ทั้งร่างกายชักกระตุกเหมือนถูกไฟช็อต“ฉันรู้ว่านายอยากจะถามอะไร ทำไมถึงเรียกวิชานี้ว่ามือระเบิดมังกรใช่ไหม? นั่นก็เพราะว่า...”“ราชาหลินแห่งตอนใต้ คุณกล้า...”“พรวด!”ร่างกายของหลงต้างขยายออกเหมือนกับลูกโป่งทันที จากนั้นก็ระเบิดออก หมอกเลือดกระจายออก เลือดตกลงเหมือนฝนตก“ดู ระเบิดแล้วใช่ไหม?”ราชาหลินแห่งตอนใต้ยิ้มและหันหน้ามองไปทางหลินเฟิง“นี่...นี่จะเป็นไปได้ยังไง...”หลินเฟิงสีห
“หึหึหึ...”ควบคู่กับเสียงหัวเราะแหบแห้งตาแก่ที่สวมชุดเครื่องแบบทหารของประเทศมังกร อกผายไหล่ผึ่งเดินออกมาจากมุมมืดช้าๆ“คุณ...”หลินเฟิงดิ้นรน อดกลั้นความเจ็บปวดรุนแรงจากกระดูกซี่โครงที่แตกหักตรงหน้าอก แวบเดียวก็ดูสถานะของตาแก่คนนี้ออกคนผู้นี้ก็คือพ่อของหลินเฟิง ชายชราที่ทำให้คนจำนวนมากทั่วทั้งประเทศมังกรเทิดทูน เลื่อมใส ทำให้คนเวน่ามองว่าเป็นฝันร้ายราชาหลินแห่งตอนใต้!“ราชาหลินแห่งตอนใต้ คุณมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้ยังไง?!”มองดูตราเหรียญทหารจำนวนมากที่ส่องแสงระยิบระยับบนหน้าอกของราชาหลินแห่งตอนใต้ หลงต้างกลับเผยความหวาดกลัวออกมาชั่วขณะ ถึงขั้นที่มีสีหน้าหวาดกลัวในฐานะนักบู๊แดนแปรภาพขั้นสูงสุด สีหน้าแบบนี้ปรากฏบนใบหน้าของหลงต้าง มันช่างโดดเด่นมากจริงๆเพราะตั้งแต่แรกเริ่ม ก็รักษาสีหน้าท่าทางที่ไม่แยแสสิ่งใดเอาไว้อยู่ตลอดเวลาความสามารถของหลงต้างนั้นไม่ต้องสงสัยเลย“หึ แค่อยากออกมาเดินดูรอบๆ ก่อนตายก็เท่านั้นเอง”น้ำเสียงของราชาหลินแห่งตอนใต้เรียบเฉย ถึงขั้นที่ยังหัวเราะเบาๆเมื่อเผชิญหน้ากับหลงต้าง กลับรักษาน้ำเสียงที่เหมือนกับได้เจอเพื่อนเก่า“ราชาหลินแห่งตอนใต้ คุณค
“หึหึ ชื่อนี้เป็นเพียงแค่รหัสเท่านั้น จะชื่ออะไรก็เหมือนกัน....มันก็คือคุณนั้นแหละ ขั้นเซียนเทียนต้าหยวนหม่านก็ส่งไปถึงหน้าประตูบ้าน ดูเหมือนว่าความสามารถในการมีสมาธิของคุณจะไม่พอนะ!”“จะพอหรือไม่พอก็ไม่ใช่ว่าคุณจะเป็นคนตัดสินได้”หลินเฟิงเยาะเย้ย พร้อมกับตาทั้งสองข้างที่แดงเล็กน้อยเมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูในขอบเขตยิ่งใหญ่ เขาก็ไม่สามารถออมแรงได้อีกต่อไป ไม่อย่างนั้นคนที่ตายก็จะเป็นหลินเฟิงเอง“ดีมาก ดูเหมือนว่าคุณจะพร้อมที่จะสู้กับฉันอย่างสุดความสามารถแล้ว...วันนี้ ฉันจะได้กำจัดหายนะครั้งใหญ่ที่สุดของตระกูลหลงของฉันแล้ว!”“เจ้าหนู จำไว้ ฉันชื่อหลงต้าง หลังจากที่ลงไปแล้ว ก็อย่าลืมบอกเทพปีศาจว่าใครส่งคุณลงไปด้วยล่ะ!”ชายชราไว้หนวดเงยหน้าขึ้นและยิ้ม ทันใดนั้นก็มีลมแรงพัดขึ้นรอบตัวเขา ก่อนที่พลังชี่แท้จะพัดหลินเฟิงลอยออกไป“นี่คือ...ความแข็งแกร่งของแดนแปรภาพขั้นสูงสุดงั้นเหรอ?”ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้หลินเฟิงจะเคยต่อสู้กับจีว่านจ่างของตระกูลจี แต่สถานการณ์ตอนนั้นพิเศษ และจีว่านจ่างก็ไม่สามารถใช้กำลังได้อย่างเต็มที่แต่ตอนนี้เขากำลังเผชิญหน้ากับแดนแปรภาพขั้นสูงสุดคนหนึ่งอยู่สิ่งนี้สร
“ได้”เมื่อหลินเฟิงเห็นถังหว่านอยู่ในมือของฝ่ายตรงข้าม จึงตกลงตามคำขอของฝ่ายตรงข้ามโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อยหลินเฟิงตรงไปตรงมาขนาดนี้ กลับทำให้ชายชราไว้หนวดถึงกับตกตะลึงไปครู่หนึ่ง“เจ้าหนู เมื่อครู่ที่ฉันได้พูดถึงเงื่อนไข นายได้ฟังอย่างชัดเจนไปแล้วใช่ไหม? นายแน่ใจแล้วงั้นเหรอ?”แม้ว่าชายชราจะยังคงไม่สนใจเรื่องเวลา แต่สายตาก็มองตรงไปทางหลินเฟิงแล้วราวกับว่ากำลังคาดเดาความคิดที่แท้จริงของหลินเฟิงผ่านการแลกเปลี่ยนทางสายตา“ผมแน่ใจ เพียงแต่ผมมีเงื่อนไขหนึ่งอย่าง”หลินเฟิงชี้ไปทางถังหว่านแล้วพูดว่า :“ผมไม่ได้สนใจว่าตระกูลถังจะเป็นอย่างไร แต่ตระกูลหลงของพวกคุณต่อจากนี้จะไม่ได้รับอนุญาตให้สร้างปัญหาในการแยกตระกูลถังในเมืองเจียงโจวอีก”“ได้”ชายชราก็รับปากเช่นกัน“เหอะ...”ทั้งสองต่างก็หรี่ตาลง ทันใดนั้นก็เข้าใจถึงความคิดของฝ่ายตรงข้ามเห็นได้ชัดว่าชายชราใช้ถังหว่านเพื่อดึงดูดความสนใจของหลินเฟิง และใช้สิ่งนี้เพื่อค้นหาข้อบกพร่องของหลินเฟิงแต่หลินเฟิงก้ใช้คำพูดมาเอาชนะชายราคนนี้จนได้ พร้อมกับคิดหาทางช่วยถังหว่านให้กลับมา“เบื้องหลังของชายชราคนนี้ไม่ธรรมดา คิดไม่ถึงว่าจะสามารถตอบ
“หึ...”เผชิญหน้ากับคำขู่ของหลงยวน หลินเฟิงไม่ได้หวาดกลัวแม้แต่น้อย เขากลับยื่นมือออกไป จับขาอ่อนของหลงเซียวเอาไว้“นาย...นายจะทำอะไร...อ๊ะ!”หลงเซียวยังไม่เข้าใจความคิดของหลินเฟิง เธอยังคิดว่าหลินเฟิงจะย่ำยีเธอ แต่คิดไม่ถึงว่าวินาทีตต่อมา สิ่งที่รอเธออยู่คือความเจ็บปวดที่ทิ่มแทงหัวใจกระดูกขาทั้งสองข้างของเธอ ถูกหลินเฟิงสะเทือนจนแตกละเอียดอย่างง่ายดาย“นี่ก็เพื่อป้องกันไม่ให้เธอหนี”หลินเฟิงเผยฟันขาวออกมา ยิ้มเยือกเย็นให้กับหลงเซียวเมื่อยิ้มแบบนี้ ทำให้หลงเซียวหวาดกลัวในที่สุด เธอหมอบลงกับพื้น มองหลินเฟิงเดินไปทางถังหว่าน อยากจะเอ่ยปากสาปแช่ง แต่กลับเจ็บจนเธอพูดไม่ออกแม้แต่ประโยคเดียว“ไม่...ไม่ได้ หลินเฟิง...แข็งแกร่งยิ่งกว่าที่คิดไว้ ถึงขั้น...ถึงขั้นที่ตระกูลหลงของฉันมีแค่ไม่กี่คนที่สามารถฆ่าเขาได้...ไม่ ฉันจะตายไม่ได้...”ในหัวของหลงเซียวเหลือเพียงเสียงแบบนี้เธอกัดฟัน ออกแรงทั้งหมดที่มี คลานไปทางบันไดของชั้นใต้ดิน“เพียงแค่...เพียงแค่สามารถหนีออกไปได้...เพียงแค่ฉันสามารถหนีออกไปได้...”ในใจของหลงเซียวในตอนนี้เหลือเพียงความศรัทธาที่ประคับประคองเอาไว้และในตอนนี้ หลิน