เซี่ยงตงเซิงชำเลืองไปที่เขากล่าวว่า: “นายมีวิธีการอะไรดี ๆ ไหม?”ไป๋จินเต๋อหัวเราะเบา ๆกล่าวว่า: “ถ้าหากว่าวันนี้คุณเซี้ยงอายุครบยี่สิบหกปี มันเป็นเวลาที่เหมาะสำหรับแต่งงาน”“หากเราสามารถแต่งงานกับครอบครัวท้องถิ่นในเจียงโจวได้ ยืมกำลังของครอบครัวท้องถิ่นในเจียงโจว การที่จะตั้งหลักที่เจียงโจวก็ถือว่าเป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้น”เซี่ยงตงเซิงพอได้ยินประโยคนี้ ก็รู้สึกว่ามันสมเหตุสมผลมากแต่เขาให้ความสำคัญกับลูกสาวอย่างมากแม้ว่าจะเป็นการแต่งงานกับครอบครัวใหญ่ในเจียงโจว งั้นก็ต้องให้ลูกสาวของตัวเองชอบถึงจะได้“ผู้เฒ่าไป๋ คุณไปเรียกตัวจื่อหลานมา ฉันจะคุยเรื่องนี้กับเธอ”ผ่านไปไม่นาน ผู้หญิงหน้าตาดีคนหนึ่งในชุดกระโปรงยาวก็มาถึงที่ห้องสมุดของเซี่ยงตงเซิงนี่ก็คือเซี่ยงจื่อหลานเป็นลูกสาวของเซี่ยงตงเซิง “พ่อ ดึกขนาดนี้แล้วเรียกหนูมามีธุระอะไร?”เซี่ยงตงเซิงก็ไม่ได้ปิดบังอะไร จึงพูดเรื่องการแต่งงานขึ้นมาทันทีเซี่ยงจื่อหลานเมื่อได้ยินแบบนี้ก็ลุกขึ้นยืนทันที และกล่าวอย่างออดอ้อน: “พ่อ หนูไม่อยากแต่งงาน”“หนูไม่รู้จักคุณชายบ้าบอของตระกูลร่ำรวยอะไรพวกนั้นด้วยซ้ำ และก็ไม่ชอบด้วย”เซี่ยงตงเซ
เซี่ยงจื่อหลานกอดสวีเชาเอาไว้ “คุณกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไร?”“ฉันทำใจไม่ได้หรอกค่ะที่คุณจะหายตัวไป”“งานเลี้ยงครั้งนี้ ฉันก็แค่ทำให้เป็นพิธีเท่านั้นเอง ถึงตอนนั้นฉันยังไม่มีผู้ชายที่ถูกใจ คุณพ่อจะทำอย่างไรได้ล่ะ?”สวีเชาจับคางของเซี่ยงจื่อหลานแล้วพูดว่า “ผมก็รู้ว่าคุณดีต่อผมที่สุดแล้ว”ระยะเวลาหลายปีนี้เขาใช้เทคนิคหลอกล่อ ค่อย ๆ ล้างสมองของเซี่ยงจื่อหลานประกอบกับทักษะในการพูดของเขา ก็ยิ่งทำให้เซี่ยงจื่อหลานค่อย ๆ เดินผิดทาง“อาเชา ช่วงนี้บริษัทของคุณเป็นอย่างไรบ้าง?” เซี่ยงจื่อหลานถามสวีเชาพูดด้วยสีหน้าเก้ ๆ กัง ๆ “ช่วงนี้ตลาดซบเซาและธุรกิจก็ไม่ค่อยดีเลย”“ใช่แล้ว ในมือของคุณยังมีเงินอยู่หรือเปล่า? ผมวางแผนว่าจะซื้ออุปกรณ์นำเข้าสองสามเครื่อง เพื่อที่จะเพิ่มขนาดของบริษัท”“ไม่อย่างนั้น บริษัทก็จะไม่มีอะไรเลยที่จะเอามาแข่งขันได้!”เซี่ยงจื่อหลานได้ยินอย่างนั้นก็รู้สึกเศร้าเล็กน้อย“ตอนนี้เงินในมือของฉันก็มีไม่เยอะ”“เห้อ…ดูเหมือนว่าผมคงต้องพึ่งตัวเองแล้ว” สวีเชาถอดใจ“อาเชา คุณอย่าพูดแบบนี้ ฉันจะช่วยคุณเอง”เซี่ยงจื่อหลานเพียงแค่อยากทำให้สวีเชายิ่งใหญ่ขึ้นและแข็งแกร่งขึ
“ฉันผู้หญิงคนเดียวไปแล้วก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก”งานเลี้ยงที่น่าเบื่อแบบนี้ เธอไม่ได้อยากจะไปร่วมด้วยเลย แต่ก็ยังต้องไว้หน้าตระกูลเซี่ยงอยู่ถึงตอนนั้นก็ส่งของขวัญเล็ก ๆน้อย ๆ แล้วก็ส่งคนไปสักสองคนก็พอแล้วสวีเชาได้ยินแบบนี้ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ที่ฮุ่ยหรานพูดก็มีเหตุผล ในเมื่อเป็นอย่างนี้ งั้นผมก็ไม่ไปแล้ว”ที่เขากังวลที่สุดก็คือ การพบกันระหว่าง หลี่ฮุ่ยหรานกับเซี่ยงจื่อหลานแม้ว่าทั้งคู่จะไม่รู้ถึงการมีอยู่ของอีกฝ่าย แต่ถ้าเกิดได้คุยไปคุยมาหลังจากที่เจอหน้ากัน มันจะยุ่งยากถ้ามีอะไรเกิดขึ้น หลี่ฮุ่ยหรานพูดหยอกล้อด้วยรอยยิ้มว่า “คุณเซี่ยงเลือกลูกเขย ทำไมคุณถึงไม่ไปล่ะ? คุณเซี่ยงไม่เพียงแต่จะสวยเท่านั้น แต่ยังลำดับในตระกูลดีอีกด้วยนะ”“คุณกับเธอก็ดูเป็นคู่ที่เหมาะสมกันนะ”จางกุ้ยหลานพูดติดตลกขึ้นมาว่า “ไอ้หยา เท่าที่ฉันดูคุณชายสวีมีเจ้าของหัวใจแล้วสินะคะ?”สวีเชาคนนี้พอว่างก็จะมาหาหลี่ฮุ่ยหราน ครั้งที่แล้วที่อ่าวเทียนสุ่ยก็ช่วยเหลือลูกสาวของตัวเองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าอีกฝ่ายสนใจในตัวของหลี่ฮุ่ยหราน แต่ลูกสาวของเธอก็ดูจะไม่มีความคิดแบบนั้นเลยจริง ๆสวีเชาพยักหน้า จ้องมอง
ในตอนนี้จางซินยกพัสดุทั้งใหญ่และเล็กเดินเข้าประตูมา“ซินซิน นี่หนูกำลังจะไปทำอะไรน่ะ?”จางซินยิ้มแล้วพูดขึ้นมา “อ่อ หนูไปช็อปปิงมาน่ะค่ะ““คุณป้า หนูไม่ได้คุยกับคุณป้าแล้วนะคะ อีกเดี๋ยวยังมีธุระอีก”เธอกำลังจะขึ้นไปชั้นบน สายตาก็เหลือบไปเห็นสร้อยคอทับทิมที่วางอยู่บนโต๊ะ“โอ้พระเจ้า!”จางซิน รีบวางของในมือลง และวิ่งเข้าไป เธอหยิบสร้อยคอที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมา“นี่คือทับทิมใช่ไหม?”จางกุ้ยหลานพูดด้วยสีหน้าลำพองใจ “ใช่สิ ราคาตั้งร้อยล้านบาทเชียวนะ”เมื่อจางซินได้ยินอย่างนั้น ก็สวมใส่ไว้ที่คอของตัวเองอย่างไม่เกรงใจ และถามจางกุ้ยหลานว่า “คุณป้า คิดว่าหนูใส่แล้วดูดีไหม?”จางกุ้ยหลานพูดด้วยสีหน้าเก้ ๆ กัง ๆ “เอ่อ..ดูดี ดูดี”“คุณป้า หนูขอยืมสร้อมทับทิมเส้นนี้ไปใส่สักสองวันนะ” จางซินบอกด้วยรอยยิ้มจางกุ้ยหลานขมวดคิ้วพร้อมกับรีบอธิบายว่า “ซินซิน สร้อยคอทับทิมเส้นนี้เป็นของที่สวีเชามอบให้พี่สาวของหนู หนูใส่คงจะไม่ดีหรอกนะ”“ถ้าหนูชอบ วันหลังป้าจะซื้อของอย่างอื่นให้”หลี่เหวินเชาพูดด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ “เธอรีบถอดมันมาเถอะ เอาสร้อยคอคืนพี่สาวของฉัน”จางซินมองไปที่หลี่ฮุ่ยหรานด้วยสี
“หลังจากนี้คุณก็เรียกผมว่าหลินเฟิงเถอะ ไม่ต้องเกรงใจ”หลินเฟิงพยายามที่จะรักษาทัศนคติที่เป็นมิตรเอาไว้แต่ยิ่งเขาแสดงความเป็นมิตรมากเท่าไหร่ หลินฝานก็ยิ่งระมัดระวังมากขึ้นเท่านั้นเขามักจะรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้มีเจตนาอื่นอีกเวลานี้ มือถือของหลินฝานก็ดังขึ้นมาดูหมายเลขที่โทรเข้า เขาก็รีบรับสายทันทีถึงแม้ว่าหลินเฟิงจะมองไม่ชัดว่าใครเป็นคนโทรมา แต่ก็ได้ยินเสียงพูดด่าดังมาจากปลายสายโดยไม่ตั้งใจ จนทำให้เขาขมวดคิ้ว“ไอ้สกุลหลิน แกแม่งทำอะไรอยู่กันแน่วะ? ตกลงผลการทำงานของเดือนนี้มันจะยังสำเร็จอยู่ไหม?”หลินฝานที่อยู่ตรงข้าม พยักหน้าซ้ำ ๆ แล้วพูดว่า “เจ้านายวางใจ รับรองว่าทุกอย่างจะต้องสำเร็จ”“ถ้าหากเดือนนี้ผลการทำงานของแกไม่ได้มาตรฐาน ก็ลาออกไปซะ”หลังจากที่หลินฝานขอโทษและยอมรับความผิดพลาดอยู่พักหนึ่ง ก็วางสายไปเขาถอนหายใจยาว และดูเหมือนว่าหลินเฟิงจะจ้องมองที่ตัวเขาอยู่ตลอดเวลา ทำให้เขารู้สึกอับอายอย่างมาก“แหะแหะ ให้คุณเห็นเรื่องตลกแล้ว”แต่ทว่า หลินเฟิงก็ไม่ได้จะหัวเราะเยาะใส่ “ตอนนี้เศรษฐกิจอยู่ในสภาวะถดถอย การขายบ้านก็ไม่ใช่เรื่องง่าย”หลินฝานพยักหน้าเห็นด้วย “ใช่ครับ”“
ชายร่างกำยำคิดไม่ถึงว่า ผู้ชายคนนี้จะขี้ขลาดขนาดนี้เขาหรี่ตาลงแล้วพูดว่า “แกแม่งพูดขอโทษแล้วเรื่องมันจะจบเหรอ?”หลินฝานพูดอย่างสับสนมึนงงว่า “แล้วคุณต้องการทำอย่างไรครับ?”“เอาเงินมาสองพันห้าร้อยบาท ฉันจะเอาไปซ่อมกันชน” ชายกำยำพูดด้วยสีหน้าดุร้าย“หา?” หลินฝานตกตะลึงจนตาค้างเขาขับชนเองแล้วยังจะให้ควักเงินสองพันห้าร้อยบาทให้อีกเหรอ?สิ่งนี้มันสมเหตุสมผลตรงไหน?“หาอะไร? รีบ ๆ ควักเงินมา” ชายกำยำคว้าคอเสื้อของเขาพร้อมกับคุกคามหลินฝานโต้เถียงด้วยเหตุผลว่า “พี่ชาย มันไม่ควรจะเป็นแบบนี้ ผมก็ขอโทษคุณแล้ว ทำไมยังต้องให้ล้วงเงินออกมาสองพันห้าร้อยบาทด้วยล่ะ?”ในหนึ่งวัน ตัวเขาทำงานหาเงินยังไม่ถึงสองพันห้าร้อยบาทเลยเงินนี้ เขาไม่อยากจะจ่ายเลยจริง ๆ“งั้นรถของฉันก็โดนขูดเปล่า ๆ เหรอ?”ชายร่างกำยำถลึงตาใส่ “แกแม่งอย่ามาเวิ่นเว้อน่ะ รีบส่งมาเร็ว ๆ“ขณะที่พูดก็ตบหน้าพร้อมกับสั่งสอนเขาเล็กน้อยในเวลานั้นเอง หลินเฟิงรีบก้าวไปข้างหน้าและคว้าข้อมือของเขาไว้ชายร่างกำยำตะลึงงัน และจ้องไปยังหลินเฟิง “แกแม่งเป็นใครวะ?”หลินเฟิงพูดเสียงเย็นชาว่า “ข่มเหงรังแกกันจนเกินไปหรือเปล่า? ขอโทษเขาซ
แต่เขายอมรับในชะตาชีวิตตั้งนานแล้วเขาทำร้ายคน ใครจะช่วยจัดการให้เขา? ในครอบครัวของเขามีเพียงแค่แม่ที่แก่เฒ่ากับน้องสาวที่ยังเรียนหนังสืออยู่ถ้าเขาเกิดเรื่องขึ้น ทั้งครอบครัวก็จะต้องพังทลายมองดูแผ่นหลังของหลินฝานที่จากไปไกลหลินเฟิงถอนหายใจอย่างจนปัญญา......วิลล่าตระกูลเซี่ยงเมืองเจียงโจว ตอนนี้แสงไฟสว่างจ้าวันนี้ก็คืองานวันเกิดของเซี่ยงจื่อหลาน คุณชายคุณหนูที่มีหน้ามีตาของเมืองเจียงโจวต่างถูกเชิญให้เข้าร่วมงานหลี่ซื่อกรุ๊ปก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับเชิญ แต่หลี่ฮุ่ยหรานยุ่งอยู่กับงานจึงไม่ได้เข้าร่วมแต่ส่งให้จางซินมาร่วมงาน สำหรับงานสังคมแบบนี้ จางซินอยากมาร่วมแต่ก็ไม่มีโอกาสด้วยซ้ำ “แม่เจ้า…”เมื่อเดินเข้าวิลล่า จางซินก็กวาดตามองไปรอบ ๆ ถึงแม้ตระกูลเซี่ยงจะอาศัยอยู่ที่วิลล่า แต่การตกแต่งไม่รู้ว่าหรูหรากว่าคฤหาสน์ตระกูลหลี่มากแค่ไหนรูปวาดบนผนังแต่ละรูปมูลค่ามหาศาล“คุณเซี่ยงมาแล้ว…”“คุณเซี่ยงสวยอย่างกับนางฟ้านางสวรรค์”ในกลุ่มคนมีเสียงจ้อกแจ้กจอแจดังขึ้นมาจางซินเห็นแบบนี้ก็รีบเบียดเข้าไปกลางกลุ่มคนเห็นแค่เซี่ยงจื่อหลานเดินลงมาจากชั้นสอง ชุดเดรสคริสตัล โอ
“ฉัน…ลูกพี่ลูกน้องของฉันก็คือประธานของหลี่ซื่อกรุ๊ป!” จางซินหน้าเขียวคล้ำ รู้สึกว่าตัวเองหายใจลำบากเซี่ยงจื่อหลานได้ยินแบบนี้ก็ยกรองเท้าส้นสูงเตะไปที่ท้องน้อยของเธอจางซินล้มตึงลงไปบนพื้นทั่วร่างรู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก และก็ปวดแสบปวดร้อนที่ท้องน้อยเธอไม่เข้าใจจริง ๆ ตัวเองทำอะไรให้เซี่ยงจื่อหลานโมโหถึงขนาดนี้“เทียนซิง ตี้ส้า…”เซี่ยงจื่อหลานตะโกนเสียงดังบอดี้การ์ดสองคนที่ยืนอยู่ข้างประตูคุกเข่าตรงหน้าเธอทันที“ข้าน้อยอยู่นี่”“ไปจับตัวประธานของหลี่ซื่อกรุ๊ปคนนั้นมาให้ฉัน ตอนนี้ เดี๋ยวนี้เลย” เซี่ยงจื่อหลานตะโกนอย่างบ้าบิ่นทั้งสองคนสบตากัน ถึงแม้ไม่รู้ว่าคุณหนูโมโหเพราะอะไร แต่เจ้านายเป็นคนสั่งพวกเขาก็ต้องปฏิบัติทันที“ข้าน้อยน้อมรับคำสั่ง”ทั้งสองคนตอบรับแล้วถอยออกไป“คุณเซี่ยง เกิดเรื่องอะไรขึ้นคะ? ทำไมถึงโมโหขนาดนี้?” คนอื่น ๆ พากันถามด้วยใบหน้าที่เป็นกังวลเซี่ยงจื่อหลานสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และโบกมือ “ไม่มีเรื่องใหญ่อะไรค่ะ ทุกท่านร่วมงานให้สนุกนะคะ วันนี้ฉันร่างกายไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ ขอตัวไปพักก่อนนะคะ”ทุกคนสีหน้างุนงง บุคคลสำคัญในวันนี้ก็คือเธอนะแต่เธอกลับไม่อ
หลินเฟิงออกแรงเงยหน้าขึ้นรอให้เขามองเห็นสถานการณ์ตรงหน้าอย่างชัดเจน นัยน์ตากลับหดลงทันทีเป็นเพราะหลงต้างที่ข่มเขาเอาไว้โดยสิ้นเชิงเมื่อครู่นี้ ภายใต้กระบวนท่าที่เขาปล่อยออกมาอย่างน่าหวาดกลัวขนาดนี้ ก็ยังถูกราชาหลินแห่งตอนใต้บีบคอเอาไว้ด้วยมือข้างเดียวห้อยอยู่กลางอากาศอย่างง่ายดายขนาดนี้เหมือนกับราชาหลินแห่งตอนใต้ไม่ได้ใช้พลังชี่แท้ออกมาด้วยซ้ำ“นี่มัน...”“ดูให้ดีนะไอ้หนุ่ม มือข้างเดียวแบบนี้เรียกว่ามือระเบิดมังกร(หลง ภาษาจีนแปลว่ามังกร คำพ้องเสียง) ปู่ของนายสอนฉันมา เอาไว้ใช้ฆ่าคนของตระกูลหลง”น้ำเสียงของราชาหลินแห่งตอนใต้เรียบเฉยอย่างมากแต่หลงต้างกลับกลอกตาไปมา ขาสองข้างดิ้นรนไม่หยุด ทั้งร่างกายชักกระตุกเหมือนถูกไฟช็อต“ฉันรู้ว่านายอยากจะถามอะไร ทำไมถึงเรียกวิชานี้ว่ามือระเบิดมังกรใช่ไหม? นั่นก็เพราะว่า...”“ราชาหลินแห่งตอนใต้ คุณกล้า...”“พรวด!”ร่างกายของหลงต้างขยายออกเหมือนกับลูกโป่งทันที จากนั้นก็ระเบิดออก หมอกเลือดกระจายออก เลือดตกลงเหมือนฝนตก“ดู ระเบิดแล้วใช่ไหม?”ราชาหลินแห่งตอนใต้ยิ้มและหันหน้ามองไปทางหลินเฟิง“นี่...นี่จะเป็นไปได้ยังไง...”หลินเฟิงสีห
“หึหึหึ...”ควบคู่กับเสียงหัวเราะแหบแห้งตาแก่ที่สวมชุดเครื่องแบบทหารของประเทศมังกร อกผายไหล่ผึ่งเดินออกมาจากมุมมืดช้าๆ“คุณ...”หลินเฟิงดิ้นรน อดกลั้นความเจ็บปวดรุนแรงจากกระดูกซี่โครงที่แตกหักตรงหน้าอก แวบเดียวก็ดูสถานะของตาแก่คนนี้ออกคนผู้นี้ก็คือพ่อของหลินเฟิง ชายชราที่ทำให้คนจำนวนมากทั่วทั้งประเทศมังกรเทิดทูน เลื่อมใส ทำให้คนเวน่ามองว่าเป็นฝันร้ายราชาหลินแห่งตอนใต้!“ราชาหลินแห่งตอนใต้ คุณมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้ยังไง?!”มองดูตราเหรียญทหารจำนวนมากที่ส่องแสงระยิบระยับบนหน้าอกของราชาหลินแห่งตอนใต้ หลงต้างกลับเผยความหวาดกลัวออกมาชั่วขณะ ถึงขั้นที่มีสีหน้าหวาดกลัวในฐานะนักบู๊แดนแปรภาพขั้นสูงสุด สีหน้าแบบนี้ปรากฏบนใบหน้าของหลงต้าง มันช่างโดดเด่นมากจริงๆเพราะตั้งแต่แรกเริ่ม ก็รักษาสีหน้าท่าทางที่ไม่แยแสสิ่งใดเอาไว้อยู่ตลอดเวลาความสามารถของหลงต้างนั้นไม่ต้องสงสัยเลย“หึ แค่อยากออกมาเดินดูรอบๆ ก่อนตายก็เท่านั้นเอง”น้ำเสียงของราชาหลินแห่งตอนใต้เรียบเฉย ถึงขั้นที่ยังหัวเราะเบาๆเมื่อเผชิญหน้ากับหลงต้าง กลับรักษาน้ำเสียงที่เหมือนกับได้เจอเพื่อนเก่า“ราชาหลินแห่งตอนใต้ คุณค
“หึหึ ชื่อนี้เป็นเพียงแค่รหัสเท่านั้น จะชื่ออะไรก็เหมือนกัน....มันก็คือคุณนั้นแหละ ขั้นเซียนเทียนต้าหยวนหม่านก็ส่งไปถึงหน้าประตูบ้าน ดูเหมือนว่าความสามารถในการมีสมาธิของคุณจะไม่พอนะ!”“จะพอหรือไม่พอก็ไม่ใช่ว่าคุณจะเป็นคนตัดสินได้”หลินเฟิงเยาะเย้ย พร้อมกับตาทั้งสองข้างที่แดงเล็กน้อยเมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูในขอบเขตยิ่งใหญ่ เขาก็ไม่สามารถออมแรงได้อีกต่อไป ไม่อย่างนั้นคนที่ตายก็จะเป็นหลินเฟิงเอง“ดีมาก ดูเหมือนว่าคุณจะพร้อมที่จะสู้กับฉันอย่างสุดความสามารถแล้ว...วันนี้ ฉันจะได้กำจัดหายนะครั้งใหญ่ที่สุดของตระกูลหลงของฉันแล้ว!”“เจ้าหนู จำไว้ ฉันชื่อหลงต้าง หลังจากที่ลงไปแล้ว ก็อย่าลืมบอกเทพปีศาจว่าใครส่งคุณลงไปด้วยล่ะ!”ชายชราไว้หนวดเงยหน้าขึ้นและยิ้ม ทันใดนั้นก็มีลมแรงพัดขึ้นรอบตัวเขา ก่อนที่พลังชี่แท้จะพัดหลินเฟิงลอยออกไป“นี่คือ...ความแข็งแกร่งของแดนแปรภาพขั้นสูงสุดงั้นเหรอ?”ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้หลินเฟิงจะเคยต่อสู้กับจีว่านจ่างของตระกูลจี แต่สถานการณ์ตอนนั้นพิเศษ และจีว่านจ่างก็ไม่สามารถใช้กำลังได้อย่างเต็มที่แต่ตอนนี้เขากำลังเผชิญหน้ากับแดนแปรภาพขั้นสูงสุดคนหนึ่งอยู่สิ่งนี้สร
“ได้”เมื่อหลินเฟิงเห็นถังหว่านอยู่ในมือของฝ่ายตรงข้าม จึงตกลงตามคำขอของฝ่ายตรงข้ามโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อยหลินเฟิงตรงไปตรงมาขนาดนี้ กลับทำให้ชายชราไว้หนวดถึงกับตกตะลึงไปครู่หนึ่ง“เจ้าหนู เมื่อครู่ที่ฉันได้พูดถึงเงื่อนไข นายได้ฟังอย่างชัดเจนไปแล้วใช่ไหม? นายแน่ใจแล้วงั้นเหรอ?”แม้ว่าชายชราจะยังคงไม่สนใจเรื่องเวลา แต่สายตาก็มองตรงไปทางหลินเฟิงแล้วราวกับว่ากำลังคาดเดาความคิดที่แท้จริงของหลินเฟิงผ่านการแลกเปลี่ยนทางสายตา“ผมแน่ใจ เพียงแต่ผมมีเงื่อนไขหนึ่งอย่าง”หลินเฟิงชี้ไปทางถังหว่านแล้วพูดว่า :“ผมไม่ได้สนใจว่าตระกูลถังจะเป็นอย่างไร แต่ตระกูลหลงของพวกคุณต่อจากนี้จะไม่ได้รับอนุญาตให้สร้างปัญหาในการแยกตระกูลถังในเมืองเจียงโจวอีก”“ได้”ชายชราก็รับปากเช่นกัน“เหอะ...”ทั้งสองต่างก็หรี่ตาลง ทันใดนั้นก็เข้าใจถึงความคิดของฝ่ายตรงข้ามเห็นได้ชัดว่าชายชราใช้ถังหว่านเพื่อดึงดูดความสนใจของหลินเฟิง และใช้สิ่งนี้เพื่อค้นหาข้อบกพร่องของหลินเฟิงแต่หลินเฟิงก้ใช้คำพูดมาเอาชนะชายราคนนี้จนได้ พร้อมกับคิดหาทางช่วยถังหว่านให้กลับมา“เบื้องหลังของชายชราคนนี้ไม่ธรรมดา คิดไม่ถึงว่าจะสามารถตอบ
“หึ...”เผชิญหน้ากับคำขู่ของหลงยวน หลินเฟิงไม่ได้หวาดกลัวแม้แต่น้อย เขากลับยื่นมือออกไป จับขาอ่อนของหลงเซียวเอาไว้“นาย...นายจะทำอะไร...อ๊ะ!”หลงเซียวยังไม่เข้าใจความคิดของหลินเฟิง เธอยังคิดว่าหลินเฟิงจะย่ำยีเธอ แต่คิดไม่ถึงว่าวินาทีตต่อมา สิ่งที่รอเธออยู่คือความเจ็บปวดที่ทิ่มแทงหัวใจกระดูกขาทั้งสองข้างของเธอ ถูกหลินเฟิงสะเทือนจนแตกละเอียดอย่างง่ายดาย“นี่ก็เพื่อป้องกันไม่ให้เธอหนี”หลินเฟิงเผยฟันขาวออกมา ยิ้มเยือกเย็นให้กับหลงเซียวเมื่อยิ้มแบบนี้ ทำให้หลงเซียวหวาดกลัวในที่สุด เธอหมอบลงกับพื้น มองหลินเฟิงเดินไปทางถังหว่าน อยากจะเอ่ยปากสาปแช่ง แต่กลับเจ็บจนเธอพูดไม่ออกแม้แต่ประโยคเดียว“ไม่...ไม่ได้ หลินเฟิง...แข็งแกร่งยิ่งกว่าที่คิดไว้ ถึงขั้น...ถึงขั้นที่ตระกูลหลงของฉันมีแค่ไม่กี่คนที่สามารถฆ่าเขาได้...ไม่ ฉันจะตายไม่ได้...”ในหัวของหลงเซียวเหลือเพียงเสียงแบบนี้เธอกัดฟัน ออกแรงทั้งหมดที่มี คลานไปทางบันไดของชั้นใต้ดิน“เพียงแค่...เพียงแค่สามารถหนีออกไปได้...เพียงแค่ฉันสามารถหนีออกไปได้...”ในใจของหลงเซียวในตอนนี้เหลือเพียงความศรัทธาที่ประคับประคองเอาไว้และในตอนนี้ หลิน
“พวกนายล้วนก็หาเรื่องตายสินะ!”ทันใดนั้นหลินเฟิงก็เงยหน้าขึ้นพร้อมกับตะโกนเวลานี้หลงเซียวเพิ่งจะค้นพบว่าไม่รู้ตอนไหนที่ดวงตาทั้งสองของหลินเฟิงได้เปลี่ยนเป็นสีแดงไปแล้ววิญญาณชั่วร้ายที่แข็งแกร่งที่เกือบจะเป็นรูปเป็นร่าง พร้อมกับพายุที่ก่อตัวขึ้นรอบ ๆตัวของหลินเฟิง“ตายไปซะ!”เมื่อหลินเฟิงเผชิญหน้ากับการล้อมของผู้คุ้มกันตระกูลหลงจำนวนมาก ไม่เพียงไม่ถอยเท่านั้น แต่ยังรีบพุ่งเข้ามาพร้อมกับเสียงคำรามดังลั่น และคิดไม่ถึงว่าจะทำลายกระบี่ที่ผู้คุ้มกันตระกูลหลงโดจมตีมาจนแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ด้วยท่าทางที่กำลังตกตะลึงนั้น หลินเฟิงก็ชกไปที่หัวของเขาราวกับเป็นแตงโมที่แตกออกเป็นเสี่ยง ๆ“อะไรนะ?!”ดูเหมือนว่าจะไม่มีอาวุธ ไหนที่จะสามารถฟันเนื้อของหลินเฟิงได้เลยทันใดนั้นคนคุ้มกันตระกูลหลงเหล่านี้ก็รู้สึกถึงความหวาดกลัวขึ้นมาในใจถึงแม้ว่าพวกเขาทั้งหมดจะเป็นยอดฝีมือระดับเซียนเทียน แต่ทักษะการใช้ดาบและการใช้กระบี่ ต่างก็ต้องการพรของอาวุธเพื่อที่จะสามารถแสดงความแข็งแกร่งออกมาได้แต่ชายที่มีดวงตาสีแดงทั้งสองข้างตรงหน้าคนนี้ คาดไม่ถึงว่าจะไม่กลัวอาวุธเลย เขาเป็นยอดฝีมือระดับไหนกันแน่?แดนแปร
“แล้วยังมีผู้ชายที่รอมีอะไรกับเธอมากขนาดนี้ ตอนนี้ในใจของนายรู้สึกเป็นยังไงบ้างล่ะ? ให้ฉันเดา....ก็น่าจะโกรธมากเลยใช่ไหม?”หลงเซียวหัวเราะอย่างบ้าคลั่งแล้วพูดว่า :“ใช่แล้ว ใช่แล้ว ฉันอยากจะเห็นท่าทางของนายในตอนนี้ที่สุดแลย แล้วไม่ต้องห่วง ไม่นาน นายก็จะแสดงท่าทางที่น่าสนใจมากยิ่งกว่านี้อีก”“มองผู้หญิงของตัวเองที่กำลังถูกชายคนอื่นเล่นสนุกอยู่จากที่ไกล ๆ จุ๊จุ๊จุ๊.... น่าสนใจ น่าสนใจจริง ๆเลย!”หลังจากที่หลงเซียวหัวเราะเสร็จแล้ว ก็หันกลับไปมองชายสวมหน้ากากหัวสุนัขคนนั้นที่กำลังงุนงงอยู่บนเวที แล้วตะโกนว่า :“ฉันให้นายหยุดงั้นเหรอ? ห้ามหยุด!”“ลงมือต่อไป สนุกต่อไป! ตอนนี้ตระกูลหลงยืนอยู่ข้างคุณ พวกเราที่ขวางอยู่ตรงนี้ ก็เพื่อไม่ให้หลินเฟิงสามารถไปคุกคามนายได้!”“ต่อหน้าผู้ชายของเธอ ปรนนิบัติเธอให้ดี ๆแล้วกัน!”หลงเซียวเชิดหน้าขึ้นอย่างภูมิใจมาก“หึหึ มันน่าตื่นเต้นกว่าอีก ฉันชอบมันจริง ๆเลย!”ชายสวมหน้ากากหัวสุนัขคนนั้นที่อยู่บนเวทีเพียงแค่ตกตะลึงไปชั่วครู่ ก่อนจะระเบิดหัวเราะออกมาอย่างเต็มที่อีกครั้งมีตระกูลหลงสนับสนุนเขา เขากลับกับผีอะไรล่ะ!เด็กคนนั้นอาจจะต้องดูเขาสนุกใ
ทั่วทั้งชั้นใต้ดินตกอยู่ในความบ้าบิ่นกับความสกปรกโสมมถังหว่านเห็นตัวเองข่มขู่ไม่สำเร็จ จึงพยายามดิ้นรน แต่มือทั้งสองข้างถูกมัดเอาไว้ เมื่อเธอดิ้นรนแบบนี้ กลับเผยไหล่สวยที่ขาวผ่องของตัวเองออกมาจึงดึงดูดความต้องการทางเพศของผู้ชายขึ้นมา“คุณถังหว่าน วางใจเถอะ ครั้งแรกของคุณ ผมจะอ่อนโยนอย่างมาก ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…”ผู้ชายที่สวมหน้ากากทำท่าทางอัปลักษณ์ โผมาทางถังหว่านโดยตรง“หลินเฟิง…”เรื่องราวมาถึงตอนนี้แล้ว ถังหว่านทำได้แค่หลับตาลงทั้งๆ ที่เธอไม่อยากดึงหลินเฟิงเข้ามาเกี่ยวข้อง คิดว่าตัวเองสามารถจัดการได้แต่คิดไม่ถึงว่าจนถึงช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ในใจของเธอยังคงหวังอยากให้ร่างนั้นมาช่วยเธอ“หึหึ ฉันรู้ว่าเธออยากให้ผู้ชายคนนั้นมาช่วยเธอ แต่ว่า…เธอตายใจซะเถอะ!”ได้ยินเสียงพึมพำไร้ที่พึ่งของถังหว่าน หลงเซียวฉีกยิ้มออกมา“ทางด้านหลินเฟิงฉันให้คนจับตาดูไว้ตั้งนานแล้ว เมื่อเขาเข้าใกล้ถนนเสรี ก็จะเจอกับกับดัก!”“เธอไม่มีทางได้เจอเขาหรอก! ถังหว่าน เธอตายใจซะเถอะ! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…”ได้ยินเสียงหัวเราะของหลงเซียว ถังหว่านหลับตาลงด้วยความสิ้นหวังแต่วินาทีต่อมา“ไสหัวไป!”ประตูลิฟต์ที่เชื่อม
“เธอโชคดีจริงๆ เลยนะ!”ก่อนหน้านี้ถังหว่านอดกลั้นความเจ็บปวดไม่ได้ร้องไห้ออกมาในตอนที่เธอเห็นผู้ชายเหล่านี้เสนอราคาแก่งแย่งร่างกายของเธอกันอย่างเต็มที่ เธอก็รู้สึกอับอายขายหน้าเป็นอย่างมาก และน้ำตาไหลออกมาโดยไร้เสียงแต่ทว่าน้ำตาของถัวหว่านอยู่ท่ามกลางเสียงอึกทึกครึกโครม ไม่มีคนสนใจด้วยซ้ำ“ฉันเสนอห้าล้านบาท! ได้ยินแล้วยัง? ห้าล้านบาท!”ผู้ชายอ้วนท้วมที่สวมหน้ากากหัวหมูตะโกนเสียงดัง“เชี่ย นายปัญญาอ่อนเหรอ? เงินแค่ห้าล้านบาทก็อยากจะซื้อพรหมจรรย์ของสาวสวยถังหว่าน? ฉันเสนอยี่สิบห้าล้านบาท!”ผู้ชายที่สวมหน้ากากหัวสุนัขดันราคาขึ้นสูง“ยี่สิบห้าล้านบาทเยอะเกินไปแล้ว หน้าถูกกรีดจนสภาพเป็นแบบนั้น ไม่ได้ไม่ได้ ฉันเสนอนี่สิบล้านบาท ฉันเป็นคนที่สองก็ได้”ผู้ชายที่สวมหน้ากากลิงยิ้มพูด“จริงด้วยจริงด้วย แบบนี้เรียกว่าผิดกฏการตลาด ตอนนี้ถังหว่านเรียกว่าคนสวยไม่ได้แล้วนะ เธอเสียโฉมไปแล้ว”“คุณเสียเงินเยอะขนาดนี้ ไม่นับว่าเสียเงินเปล่าเหรอ?”“เชี่ย เงินยี่สิบห้าล้านบาทสามารถให้อิ่นนั่วเจียมาปรนนิบัติฉันได้แล้ว!”“พูดจาไร้สาระ อิ่นนั่วเจียเธอไม่เหลียวมองคนอ้วนอย่างนายหรอก!”ทันใดนั้น ทั