ในตอนนี้จางซินยกพัสดุทั้งใหญ่และเล็กเดินเข้าประตูมา“ซินซิน นี่หนูกำลังจะไปทำอะไรน่ะ?”จางซินยิ้มแล้วพูดขึ้นมา “อ่อ หนูไปช็อปปิงมาน่ะค่ะ““คุณป้า หนูไม่ได้คุยกับคุณป้าแล้วนะคะ อีกเดี๋ยวยังมีธุระอีก”เธอกำลังจะขึ้นไปชั้นบน สายตาก็เหลือบไปเห็นสร้อยคอทับทิมที่วางอยู่บนโต๊ะ“โอ้พระเจ้า!”จางซิน รีบวางของในมือลง และวิ่งเข้าไป เธอหยิบสร้อยคอที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมา“นี่คือทับทิมใช่ไหม?”จางกุ้ยหลานพูดด้วยสีหน้าลำพองใจ “ใช่สิ ราคาตั้งร้อยล้านบาทเชียวนะ”เมื่อจางซินได้ยินอย่างนั้น ก็สวมใส่ไว้ที่คอของตัวเองอย่างไม่เกรงใจ และถามจางกุ้ยหลานว่า “คุณป้า คิดว่าหนูใส่แล้วดูดีไหม?”จางกุ้ยหลานพูดด้วยสีหน้าเก้ ๆ กัง ๆ “เอ่อ..ดูดี ดูดี”“คุณป้า หนูขอยืมสร้อมทับทิมเส้นนี้ไปใส่สักสองวันนะ” จางซินบอกด้วยรอยยิ้มจางกุ้ยหลานขมวดคิ้วพร้อมกับรีบอธิบายว่า “ซินซิน สร้อยคอทับทิมเส้นนี้เป็นของที่สวีเชามอบให้พี่สาวของหนู หนูใส่คงจะไม่ดีหรอกนะ”“ถ้าหนูชอบ วันหลังป้าจะซื้อของอย่างอื่นให้”หลี่เหวินเชาพูดด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ “เธอรีบถอดมันมาเถอะ เอาสร้อยคอคืนพี่สาวของฉัน”จางซินมองไปที่หลี่ฮุ่ยหรานด้วยสี
“หลังจากนี้คุณก็เรียกผมว่าหลินเฟิงเถอะ ไม่ต้องเกรงใจ”หลินเฟิงพยายามที่จะรักษาทัศนคติที่เป็นมิตรเอาไว้แต่ยิ่งเขาแสดงความเป็นมิตรมากเท่าไหร่ หลินฝานก็ยิ่งระมัดระวังมากขึ้นเท่านั้นเขามักจะรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้มีเจตนาอื่นอีกเวลานี้ มือถือของหลินฝานก็ดังขึ้นมาดูหมายเลขที่โทรเข้า เขาก็รีบรับสายทันทีถึงแม้ว่าหลินเฟิงจะมองไม่ชัดว่าใครเป็นคนโทรมา แต่ก็ได้ยินเสียงพูดด่าดังมาจากปลายสายโดยไม่ตั้งใจ จนทำให้เขาขมวดคิ้ว“ไอ้สกุลหลิน แกแม่งทำอะไรอยู่กันแน่วะ? ตกลงผลการทำงานของเดือนนี้มันจะยังสำเร็จอยู่ไหม?”หลินฝานที่อยู่ตรงข้าม พยักหน้าซ้ำ ๆ แล้วพูดว่า “เจ้านายวางใจ รับรองว่าทุกอย่างจะต้องสำเร็จ”“ถ้าหากเดือนนี้ผลการทำงานของแกไม่ได้มาตรฐาน ก็ลาออกไปซะ”หลังจากที่หลินฝานขอโทษและยอมรับความผิดพลาดอยู่พักหนึ่ง ก็วางสายไปเขาถอนหายใจยาว และดูเหมือนว่าหลินเฟิงจะจ้องมองที่ตัวเขาอยู่ตลอดเวลา ทำให้เขารู้สึกอับอายอย่างมาก“แหะแหะ ให้คุณเห็นเรื่องตลกแล้ว”แต่ทว่า หลินเฟิงก็ไม่ได้จะหัวเราะเยาะใส่ “ตอนนี้เศรษฐกิจอยู่ในสภาวะถดถอย การขายบ้านก็ไม่ใช่เรื่องง่าย”หลินฝานพยักหน้าเห็นด้วย “ใช่ครับ”“
ชายร่างกำยำคิดไม่ถึงว่า ผู้ชายคนนี้จะขี้ขลาดขนาดนี้เขาหรี่ตาลงแล้วพูดว่า “แกแม่งพูดขอโทษแล้วเรื่องมันจะจบเหรอ?”หลินฝานพูดอย่างสับสนมึนงงว่า “แล้วคุณต้องการทำอย่างไรครับ?”“เอาเงินมาสองพันห้าร้อยบาท ฉันจะเอาไปซ่อมกันชน” ชายกำยำพูดด้วยสีหน้าดุร้าย“หา?” หลินฝานตกตะลึงจนตาค้างเขาขับชนเองแล้วยังจะให้ควักเงินสองพันห้าร้อยบาทให้อีกเหรอ?สิ่งนี้มันสมเหตุสมผลตรงไหน?“หาอะไร? รีบ ๆ ควักเงินมา” ชายกำยำคว้าคอเสื้อของเขาพร้อมกับคุกคามหลินฝานโต้เถียงด้วยเหตุผลว่า “พี่ชาย มันไม่ควรจะเป็นแบบนี้ ผมก็ขอโทษคุณแล้ว ทำไมยังต้องให้ล้วงเงินออกมาสองพันห้าร้อยบาทด้วยล่ะ?”ในหนึ่งวัน ตัวเขาทำงานหาเงินยังไม่ถึงสองพันห้าร้อยบาทเลยเงินนี้ เขาไม่อยากจะจ่ายเลยจริง ๆ“งั้นรถของฉันก็โดนขูดเปล่า ๆ เหรอ?”ชายร่างกำยำถลึงตาใส่ “แกแม่งอย่ามาเวิ่นเว้อน่ะ รีบส่งมาเร็ว ๆ“ขณะที่พูดก็ตบหน้าพร้อมกับสั่งสอนเขาเล็กน้อยในเวลานั้นเอง หลินเฟิงรีบก้าวไปข้างหน้าและคว้าข้อมือของเขาไว้ชายร่างกำยำตะลึงงัน และจ้องไปยังหลินเฟิง “แกแม่งเป็นใครวะ?”หลินเฟิงพูดเสียงเย็นชาว่า “ข่มเหงรังแกกันจนเกินไปหรือเปล่า? ขอโทษเขาซ
แต่เขายอมรับในชะตาชีวิตตั้งนานแล้วเขาทำร้ายคน ใครจะช่วยจัดการให้เขา? ในครอบครัวของเขามีเพียงแค่แม่ที่แก่เฒ่ากับน้องสาวที่ยังเรียนหนังสืออยู่ถ้าเขาเกิดเรื่องขึ้น ทั้งครอบครัวก็จะต้องพังทลายมองดูแผ่นหลังของหลินฝานที่จากไปไกลหลินเฟิงถอนหายใจอย่างจนปัญญา......วิลล่าตระกูลเซี่ยงเมืองเจียงโจว ตอนนี้แสงไฟสว่างจ้าวันนี้ก็คืองานวันเกิดของเซี่ยงจื่อหลาน คุณชายคุณหนูที่มีหน้ามีตาของเมืองเจียงโจวต่างถูกเชิญให้เข้าร่วมงานหลี่ซื่อกรุ๊ปก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับเชิญ แต่หลี่ฮุ่ยหรานยุ่งอยู่กับงานจึงไม่ได้เข้าร่วมแต่ส่งให้จางซินมาร่วมงาน สำหรับงานสังคมแบบนี้ จางซินอยากมาร่วมแต่ก็ไม่มีโอกาสด้วยซ้ำ “แม่เจ้า…”เมื่อเดินเข้าวิลล่า จางซินก็กวาดตามองไปรอบ ๆ ถึงแม้ตระกูลเซี่ยงจะอาศัยอยู่ที่วิลล่า แต่การตกแต่งไม่รู้ว่าหรูหรากว่าคฤหาสน์ตระกูลหลี่มากแค่ไหนรูปวาดบนผนังแต่ละรูปมูลค่ามหาศาล“คุณเซี่ยงมาแล้ว…”“คุณเซี่ยงสวยอย่างกับนางฟ้านางสวรรค์”ในกลุ่มคนมีเสียงจ้อกแจ้กจอแจดังขึ้นมาจางซินเห็นแบบนี้ก็รีบเบียดเข้าไปกลางกลุ่มคนเห็นแค่เซี่ยงจื่อหลานเดินลงมาจากชั้นสอง ชุดเดรสคริสตัล โอ
“ฉัน…ลูกพี่ลูกน้องของฉันก็คือประธานของหลี่ซื่อกรุ๊ป!” จางซินหน้าเขียวคล้ำ รู้สึกว่าตัวเองหายใจลำบากเซี่ยงจื่อหลานได้ยินแบบนี้ก็ยกรองเท้าส้นสูงเตะไปที่ท้องน้อยของเธอจางซินล้มตึงลงไปบนพื้นทั่วร่างรู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก และก็ปวดแสบปวดร้อนที่ท้องน้อยเธอไม่เข้าใจจริง ๆ ตัวเองทำอะไรให้เซี่ยงจื่อหลานโมโหถึงขนาดนี้“เทียนซิง ตี้ส้า…”เซี่ยงจื่อหลานตะโกนเสียงดังบอดี้การ์ดสองคนที่ยืนอยู่ข้างประตูคุกเข่าตรงหน้าเธอทันที“ข้าน้อยอยู่นี่”“ไปจับตัวประธานของหลี่ซื่อกรุ๊ปคนนั้นมาให้ฉัน ตอนนี้ เดี๋ยวนี้เลย” เซี่ยงจื่อหลานตะโกนอย่างบ้าบิ่นทั้งสองคนสบตากัน ถึงแม้ไม่รู้ว่าคุณหนูโมโหเพราะอะไร แต่เจ้านายเป็นคนสั่งพวกเขาก็ต้องปฏิบัติทันที“ข้าน้อยน้อมรับคำสั่ง”ทั้งสองคนตอบรับแล้วถอยออกไป“คุณเซี่ยง เกิดเรื่องอะไรขึ้นคะ? ทำไมถึงโมโหขนาดนี้?” คนอื่น ๆ พากันถามด้วยใบหน้าที่เป็นกังวลเซี่ยงจื่อหลานสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และโบกมือ “ไม่มีเรื่องใหญ่อะไรค่ะ ทุกท่านร่วมงานให้สนุกนะคะ วันนี้ฉันร่างกายไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ ขอตัวไปพักก่อนนะคะ”ทุกคนสีหน้างุนงง บุคคลสำคัญในวันนี้ก็คือเธอนะแต่เธอกลับไม่อ
หลี่ฮุ่ยหรานถูกตบจนหน้าตางุนงง“พูดจาซี้ซั้ว สร้อยเส้นนี้คุณพ่อของฉันเป็นคนมอบให้ฉันชัด ๆ ฉันดูแล้วเธอเป็นคนขโมยไปแน่นอน” เซี่ยงจื่อหลานขบเขี้ยวเคี้ยวฟันพูดสร้อยเส้นนี้ตัวเองเป็นคนมอบให้สวีเชาสวีเชาจะมอบให้เธอได้อย่างไร?หลี่ฮุ่ยหรานพูดด้วยสีหน้าไร้ความผิด “นี่จะเป็นไปได้อย่างไร? ก่อนหน้านี้ฉันกับคุณเซี่ยงไม่เคยพบหน้ากันมาก่อน จะขโมยสร้อยไปได้อย่างไรคะ?”เทียนซิงกับตี้ส้าที่อยู่ข้าง ๆ ก็มองตากัน รู้สึกว่าที่หลี่ฮุ่ยหรานพูดก็มีเหตุผลก่อนหน้านี้พวกเธอทั้งสองคนไม่เคยเจอหน้ากัน หรือว่าหลี่ฮุ่ยหรานคนนี้สามารถหยิบของผ่านมิติได้เหรอ?เซี่ยงจื่อหลานมุมปากกระตุก ถ้าหากสร้อยเส้นนี้ไม่ใช่หลี่ฮุ่ยหรานขโมยไป มีความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียวก็คือ สวีเชาเอาสร้อยเส้นนี้มอบให้หลี่ฮุ่ยหรานแต่เธอไม่ยอมเชื่อว่าสวีเชาจะทรยศเธอพูดด้วยความมั่นใจว่าหลี่ฮุ่ยหรานเป็นคนขโมยไป“ใครจะไปรู้ว่าเธอจะขโมยไปตอนไหน”“ยังกล้าแก้ตัวต่อหน้าฉันอีก?”เซี่ยงจื่อหลานตบใบหน้าของเธออีกครั้ง“พูดมา สร้อยคอเส้นนี้เธอเป็นคนขโมยไปใช่ไหม?”หลี่ฮุ่ยหรานน้ำตาไหลออกมา ความรู้สึกที่ถูกคนใส่ร้ายทำให้เธอทรมานอย่างมากเธออ
โรงพยาบาลเมืองเจียงโจว จางเต๋อหลินถูกผู้อำนวยการหวังเชิญมาทำการผ่าตัดนอกสถานที่เขากำลังจะกลับไปก็เห็นหลี่ฮุ่ยหรานที่ถูกส่งเข้ามาในห้องฉุกเฉินเขารีบขอบันทึกการรักษาของหลี่ฮุ่ยหรานมาร่างกายฟกช้ำไปทั่ว กระดูกหักสามจุด“โห…พระเจ้า!”จางเจ๋อหลินตกตะลึงจนตาค้าง “ใครใจกล้าขนาดนี้ ถึงได้กล้าทำร้ายคุณหลี่?”เขาไม่รอช้า โทรหาหลินเฟิงในทันทีได้ยินแบบนี้ หลินเฟิงก็ตามมาที่โรงพยาบาลเจียงโจวโดยเร็วที่สุดเพิ่งมาถึงหน้าห้องฉุกเฉิน เขาก็เห็นจางซินที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หลินเฟิงรีบเดินเข้าไปถามด้วยเสียงเย็นชา “ใครทำร้ายพี่สาวของเธอ?”จางซินคิดไม่ถึงว่าคนที่มาถึงคือหลินเฟิง เธอขมวดคิ้วพูด “เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับนายด้วย?”เธอยังมีความแค้นเรื่องไท้ส่วยป่าสีเลือดเมื่อครั้งที่แล้วอยู่ถ้าหากหลินเฟิงเอาไท้ส่วยป่าสีเลือดให้เธอเร็วหน่อย ไม่แน่เธอก็อาจจะได้กลายเป็นเพื่อนสนิทกับคุณเซี่ยงไปแล้วจะมีเรื่องบ้าบอมากมายขนาดนี้เหรอ?“ฉันถามเธออีกครั้ง” หลินเฟิงขี้เกียจจะเวิ่นเว้อกับเธอ จากนั้นก็จับคอเสื้อของเธอเอาไว้ แล้วดึงเธอลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันทีหลี่ฮุ่ยหรานบาดเจ็บ และเธอก็บังเอิญอยู่ที่นี่ ถ้าพูด
“ฮัลโหล? คุณชายหลิน?”“ช่วยผมตรวจสอบหน่อยว่าคุณหนูตระกูลเซี่ยงตอนนี้อยู่ที่ไหน? ยิ่งเร็วยิ่งดี”จ้าวเทียนหวาฟังจากน้ำเสียงที่เย็นชาของหลินเฟิงก็สามารถฟังออกได้คุณหนูตระกูลเซี่ยงคนนี้เกรงว่าจะจบเห่แล้วเขาไม่กล้าเอื่อยเฉื่อยแม้แต่น้อย จากนั้นก็ตรวจสอบตำแหน่งที่อยู่ของเซี่ยงจื่อหลานด้วยเวลาที่เร็วที่สุด“คุณหลิน ตอนนี้เซี่ยงจื่อหลานอยู่ที่ไนท์บาร์”หลังจากที่หลินเฟิงได้รับตำแหน่งที่แน่นอนของเซี่ยงจื่อหลาน เขาก็เดินทางไปที่ไนท์บาร์ในทันทีขณะเดียวกันสวีเชาก็โอบไหล่ของเซี่ยงจื่อหลานแล้วพูดปลอบ “หลานหลาน สร้อยคอเส้นนั้นถูกหลี่ฮุ่ยหรานขโมยไปจริง ๆ ครับ”“ก่อนหน้านี้ผมมีการร่วมธุรกิจกับหลี่ซื่อกรุ๊ป และก็ไม่ได้ระแวงอะไรเธอ แต่คิดไม่ถึงว่าเธอจะเป็นคนแบบนี้ได้”เซี่ยงจื่อหลานถามด้วยความสงสัย “จริงเหรอ?”“แน่นอนครับ ถ้าหากคุณไม่เชื่อผม ผมสาบานต่อสวรรค์ ถ้าผมโกหกคุณ ผม…”สวีเชานิ้วมือชี้ไปบนฟ้า ยังไม่ทันพูดออกจากปาก เซี่ยงจื่อหลานก็กดมือเขาเอาไว้“อย่าพูดจาซี้ซั้ว ฉันเชื่อคุณแล้วก็ได้”สวีเชายิ้ม “ผมรู้อยู่แล้วว่าคุณรักผมมากที่สุด”“คุณวางใจได้ ผมรับรองว่าต่อไปจะไม่ไปมาหาสู่กับหล