“คุณชาย คุณเข้าไปไม่ได้นะครับ ท่านประธานกำลังพบแขกสำคัญอยู่ ท่านยังบอกว่าห้ามให้ใครรบกวนอีกด้วย”ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นมาอย่างกะทันหันที่ทางเดินด้านนอกของห้องทำงานไม่รอให้สยงเทียนคังได้ตั้งตัวประตูห้องทำงานของเขาก็ถูกผลักให้เปิดออก และเห็นเพียงแค่สยงอวี่ที่มีเลือดอาบและร้องไห้อย่างขมขื่น พร้อมกับถูกเซี่ยตงโปและคนอื่น ๆใช้เปลหามเข้ามา“โธ่ คุณชาย คุณเข้าไปไม่ได้นะครับ!”เลขาและพนักงานรักษาความปลอดภัยที่ยังพยายามพูดโน้มน้าวอยู่นั้นแต่เนื่องจากสยงอวี่เป็นลูกชายของสยงเทียนคัง จึงไม่ได้สนใจเรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว เขาบังคับให้เซี่ยตงโปและคนอื่น ๆผลักประตูเข้าไปทันทีที่เห็นพ่อของตัวเอง สยงอวี่ก็เปิดปากและส่งเสียงร้องไห้ออกมา“พ่อ! พ่อ!”สยงอวี่เรียก “พ่อ” สองครั้งด้วยเสียงที่ดุดันอย่างมากเขาสั่นไปทั้งตัว พร้อมกับตะโกนร้องไห้และพูดว่า :“มีคนทำให้มือและเท้าของผมพิการ พ่อ จากนี้เกรงว่าผมจะต้องเป็นคนพิการแล้ว พ่อต้องจัดการให้ผมด้วยนะ!”เมื่อได้ยินเสียงโน้มน้าวที่ด้านนอก พร้อมกับเสียงของสยงอวี่สยงเทียนคังที่คิดจะต่อว่าลูกชายตาบอดของตัวเองนั้น ก็เห็นลูกชายของตัวเองกำลังนอนอยู
ถึงแม้ว่าลูกชายของเขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัส จนทำให้เขาโกรธอยู่ในใจแต่เห็นได้ชัดเลยว่าตอนนี้ยังมีเรื่องที่สำคัญกว่า“พ่อ พ่อจะต้องแก้แค้นให้ผมนะ!”สยงอวี่ร้องไห้ตะโกนทั้งน้ำตา“ฉันรู้แล้ว แกออกไปก่อนเถอะ รักษาบาดแผลให้ดีล่ะ”สยงเทียนคังรับปากเอาไว้หลังจากที่สยงอวี่และคนอื่น ๆออกไปและประตูห้องทำงานปิดลง เลขาคนนั้นก็เอ่ยชื่อที่ทำให้สีหน้าของสยงเทียนคังตัวแข็งทื่อ“รายงานท่านประธาน หัวหน้าแผนกรักษาความปลอดภัยของหลี่ซื่อกรุ๊ป ชื่อว่าหลินเฟิง เป็นชายวัยยี่สิบต้น ๆ”“หลินเฟิง?!”สยงเทียนคังอดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้างนี่ไม่ใช่คนที่เพิ่งจะทำให้ลูกชายของตัวเองพิการหรอกเหรอ?หรือว่าชื่อเหมือนกันหรือเปล่า?แต่โอกาสแบบนี้ก็มีน้อยเกินไปสยงเทียนคังมองไปทางหลงซวี่จวินที่ยืนนิ่งราวกับหินด้วยความไม่อยากจะเชื่อหลงซวี่จวินยังคงมีท่าทางที่เย็นชา เมื่อเขาได้ยินชื่อที่เลขาพูดออกมา ก็พยักหน้าและพูดว่า :“หากเป็นเขา งั้นฉันก็เข้าใจแล้ว”“คนที่อยู่เบื้องหลังของหลี่ซื่อกรุ๊ป เกรงว่าจะเป็นชายที่ชื่อว่าหลินเฟิงคนนี้”“คุณหลงซวี่จวิน คุณรู้จักหลินเฟิงคนนี้งั้นเหรอ?”สยงเทียนคังเอ่ยถามด้วยความตะลึง
“งั้น.....”สยงเทียนคังกลอกตาไปมา ก่อนจะถามลองเชิงว่า:“คุณหลงซวี่จวิน หากลูกน้องของผมทั้งหมดตายด้วยฝีมือของหลินเฟิงคนนั้น...”“ฉันก็จะลงมือ”หลงซวี่จวินดูเหมือนจะอ่านความคิดของสยงเทียนคังออก แต่เขาก็ไม่ได้สนใจ ก่อนจะจ้องสยงเทียนคังและพูดอย่างเย็นชาว่า :“หลินเฟิงที่อยู่ในขั้นเซียนเทียนต้าหยวนหม่าน ระดับความแข็งแกร่งนี้ บางทีอาจจะเป็นใหญ่ที่หัวตงได้ แต่ที่เมืองหนานไห่ กลับไม่นับประสาอะไรเลย”“งั้นดีมากเลยครับ!”สยงเทียนคังรู้สึกดีใจอย่างมากหากมีหลงซวี่จวิน เจ้าสำนักหลงผานคนนี้ลงมือ หลินเฟิงอะไรกัน ต่อให้นักบู๊ทั้งหมดของเมืองเจิ้งเต๋อมารวมตัวกัน ก็ไม่อาจจะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้เมื่อเห็นสีหน้าที่ดีใจของสยงเทียนคัง หลงซวี่จวินก็ส่งเสียงออกมาอย่างเย็นชา และพูดอย่างเฉยชาว่า :“ที่ฉันมาที่นี่ก็เป็นเพราะคำสั่งของเจ้าสำนักเป็นหลัก และที่มาที่เมืองเจิ้งเต๋อก็เพื่อควบคุมการขุดค้นชีพจรมังกร เพราะเหตุนี้ ฉันจึงสามารถที่จะช่วยคุณจัดการคนที่ขวางทางได้”“แต่อย่าคิดว่าฉันจะฟังคำสั่งของคุณ”เมื่อได้ยินแบบนี้ สยงเทียนคังก็ด่าทอในใจ แต่ภายนอกกลับแสดงรอยยิ้มพร้อมกับพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า..
“ที่รัก ฉันรู้สึกว่าไม่ได้เจอคุณนานมากแล้ว”“ฉันคิดถึงคุณจะตายแล้ว!”“นี่เพิ่งจะผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ไม่ใช่เหรอ...”หลินเฟิงจนปัญญาอย่างมากรอให้เขาเกี่ยวไรผมของถังหว่านออก มองดูอย่างละเอียด พบว่ารอยแผลเป็นบนใบหน้าของถังหว่านหายดีแล้วรอยประทับสีแดงที่น่าเกลียดก็หายไปจนหมดเกลี้ยงอีกทั้งเป็นเพราะประสิทธิภาพของยาขี้ผึ้งของเขา ผิวหนังตรงบริเวณใบหน้าของถังหว่านไม่เพียงไม่มีรอยแผลเป็นใดๆถึงขั้นที่ยังเปลี่ยนไปขาวสะอาดเหมือนหยก เรียบเนียนเหมือนไหม ราวกับว่ากำลังส่องสว่างระยิบระยับ บริเวณแก้มก็โปร่งใสและแดงระเรื่อเหมือนกับเด็กทารกที่ริมฝีปากก็ไม่จำเป็นต้องใช้ลิปสติกอะไรมาตกแต่งแค่หน้าสด ก็สามารถฆ่าสาวสวยของประเทศมังกรได้เก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์แล้วครั้งนี้ได้พบหน้า ถังหว่านแอบแซงหน้าหลี่ฮุ่ยหรานไปแล้ว“หึหึ คุณหนูตระกูลถังตอนนี้ยิ่งอยู่ยิ่งสวยแล้วนะ”หลังจากที่มองดูใบหน้าของถังหว่านอย่างละเอียด หลินเฟิงให้การประเมินที่สูงมากถังหว่านรู้สึกดีใจอย่างมาก และพูดชื่นชมว่า:“นี่ไม่ใช่เพราะฉันมีสามีที่ดีหรอกเหรอ?”“ไม่สู้?”ถังหว่านเหลือบมองไปตรงเตียงที่อยู่ด้านหลัง ลมหายใจหอมเหมือนดอ
“คุณเนี่ยนะ!”หลินเฟิงรู้อยู่แล้วว่า นี่คือความอยากเอาชนะที่แปลกประหลาดระหว่างหลี่ฮุ่ยหรานกับถังหว่านดังนั้นหลินเฟิงยื่นมือออกไป ตีบั้นท้ายงอนเด้งของถังหว่านที่นอนหมอบอยู่บนตัวเขาเหมือนกับปลาหมึกถือว่าลงโทษที่เธอหลอกใช้เขามายั่วโมโหหลี่ฮุ่ยหราน โดยที่ไม่ได้รับอนุญาตจากเขาแต่สัมผัสที่เต็มไปด้วยความยืดหยุ่น ทำให้หลินเฟิงเกือบจะอดใจไม่ไหวหลินเฟิงรีบพูดขึ้น:“ถังหว่าน หลี่ฮุ่ยหรานมาหาคุณ เธอต้องมีธุระสำคัญแน่นอน ทางที่ดีคุณไปคุยกับเธอหน่อย”“อื้ม”ถังหว่านปล่อยหลินเฟิงออกด้วยท่าทางเบื่อๆ เซ็งๆ จากนั้นตอนที่เปิดประตูก็กะพริบตาให้หลินเฟิงและยิ้มพูดว่า:“ที่รัก ครั้งหน้าออกแรงหน่อยนะ”“แค่กแค่กแค่ก...”หลินเฟิงมองดูบั้นท้ายงอนเด้งของถังหว่าน จึงสำลักน้ำลาย และไออย่างรุนแรงเป็นอย่างที่คิด เรื่องราวไม่ได้ง่ายดายแบบนั้นในตอนที่เสียงรองเท้าส้นสูงของหลี่ฮุ่ยหรานจะหายไปตรงทางเดิน ถังหว่านเปิดประตูห้องของหลินเฟิง ยื่นหน้าออกไป โบกมือให้หลี่ฮุ่ยหรานที่อยู่ไกลออกไปแล้วพูดว่า:“นี่ หลี่ฮุ่ยหราน อย่ารีบร้อนขนาดนั้นสิ จะมาเข้าร่วมด้วยกันไหม?”“แค่กแค่กแค่ก...”หลินเฟิงไออย่างรุนแรงย
คิดได้ถึงตรงนี้ ถังหว่านก็หัวเราะแหะๆสิบนาทีต่อมาหลินเฟิงที่อาบน้ำเสร็จ ก็มายืนตรงเหมือนต้นไผ่อยู่ที่ภายในห้องทำงานของประธานหลี่ และรายงานการทำงานกับประธานหลี่แต่ทว่ารายงานไปรายงานมา หลี่ฮุ่ยหรานกลับจ้องมองท่อนล่างของหลินเฟิงด้วยความเหม่อลอยถังหว่านสังเกตเห็น จึงปิดปากหัวเราะอยู่ข้างๆ“ตอนนี้กองกำลังใต้ดินของเมืองเจิ้งเต๋อถูกแผนกรักษาความปลอดภัยของเรารวมเข้าด้วยกันแล้ว ดังนั้นคุณไม่ต้องเป็นกังวลปัญหาด้านความปลอดภัย หากมีความเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย คนของแผนกรักษาความปลอดภัยก็จะมารายงานเอง”หลินเฟิงถูกหลี่ฮุ่ยหรานจ้องมองจนรู้สึกหวาดเสียวแต่ก็ยังทำหน้าที่ของตัวเองให้เสร็จสิ้นก่อน“อ่ออืม”เมื่อเห็นว่าหลินเฟิงไม่พูดอยู่นาน หลี่ฮุ่ยหรานถึงได้มีสติกลับมา และพยักหน้าพูดว่า:“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เอง ช่วงปลอดภัยของพวกคุณในช่วงนี้…เอ๊ะไม่ใช่สิ แผนกความปลอดภัย…”การพลั้งปากของหลี่ฮุ่ยหรานเปิดโปงความคิดในใจของเธอถังหว่านระเบิดหัวเราะขึ้นมากะทันหัน เธอหัวเราะจนท้องคัดท้องแข็ง และมีน้ำตาไหลออกมาหลินเฟิงก็ถอยหลังไปหลายก้าวด้วยความกระอักกระอ่วนสำหรับหลี่ฮุ่ยหราน ประธานสาวสวยผู้แสนเย็น
“หลี่เหวินเชามาหาเขาเพราะเรื่องอะไร?”ใบหน้าของหลินเฟิงเต็มไปด้วยความสงสัยก่อนหน้านี้ไม่กี่วันหลี่เหวินเชาถูกหลินเฟิงส่งไปที่แผนกรักษาความปลอดภัย เพื่อไปเป็นรองหัวหน้าทีมของจิ่วเทาหากคาดเดาตามสถานการณ์ปกติหลี่เหวินเชามีเบอร์โทรศัพท์ที่เขาทิ้งไว้ให้ ต่อให้เกิดเรื่องอะไรขึ้น ก็สามารถติดต่อเขาได้ในทันทีแต่หลี่เหวินเชาไม่ได้ติดต่อมา กลับมาหาเขาถึงที่?อีกทั้งยังท่าทางไม่ดี?ในใจของหลินเฟิงรู้สึกไม่ดีทันที จึงรีบละเลยเลขาหญิง และมุ่งหน้าไปที่ชั้นล่างเมื่อมาถึงที่ห้องโถงชั้นหนึ่งของหลี่ซื่อกรุ๊ป หลินเฟิงก็เห็นหลี่เหวินเชาที่กุมหน้าท้องที่มีเลือดไหล นั่งรออยู่ที่หน้าตรงทางเข้าทั่วทั้งตัวของหลี่เหวินเชาเต็มไปด้วยเลือด ทำให้เกิดความโกลาหลวุ่นวายภายในห้องโถง“หลี่เหวินเชา! เกิดเรื่องอะไรขึ้น?!”หลินเฟิงผลักกลุ่มคนออก และมุ่งหน้าตรงไปที่ด้านข้างของหลี่เหวินเชา“พี่….เขย…หัวหน้า”หลี่เหวินเชาหายใจรวยริน เขาพยายามจะยกมือที่เปื้อนเลือดของเขาขึ้น และพูดอย่างโศกเศร้าว่า:“มีคน…เมื่อคืนนี้มีคนสี่คนบุกรุกเข้ามาในบาร์ที่เป็นฐานของเรา เอาปืนกลมือ…ยิงพรรคพวกตาย…จำนวนมาก…”“อะไรนะ? ปืนก
เขาอดกลั้นความเจ็บปวดและความเสี่ยงตาย เพื่อมาแจ้งข่าวให้หลินเฟิงรู้ในเวลาที่รวดเร็วที่สุดเพียงพอที่จะยืนยันท่าทีของเขาได้ถึงแม้เมื่อก่อนหลี่เหวินเชาจะทำเรื่องเลวทรามมากมาย แต่ตอนนี้รู้จักผิดและเปลี่ยนแปลง หลี่ฮุ่ยหรานก็ยังคงยอมรับน้องชายคนนี้อยู่เมื่อเห็นน้องชายของตัวเองล้มอยู่กลางกองเลือด หลี่ฮุ่ยหรานร้อนใจจนน้ำตาไหลออกมา“ไม่ต้องร้อนใจ ผมช่วยเขาห้ามเลือดไว้แล้ว เขาจะไม่เป็นอันตรายต่อชีวิต”หลินเฟิงพูด และใช้เข็มเงินแทงเข้าไปตรงบาดแผลของหลี่เหวินเชา ใช้พลังชี่แท้นำกระสุนสามสี่นัดออกมา กระสุนตกลงบนพื้น เสียงดังก๊องแก๊ง“อ๊ะ?! นี่มัน...บาดแผลจากการถูกยิง?!”หลี่ฮุ่ยหรานถึงได้พบว่าน้องชายของตัวเองถูกยิงหลินเฟิงหยักหน้า ยื่นมือออกไปหยิบกระสุนขึ้นมา และส่งตัวหลี่เหวินเชาให้กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่ข้างๆ จากนั้นพูดว่า:“พาเขาไปพักผ่อนที่หอพักของหลี่ซื่อกรุ๊ป เขาไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว”“ครับ หัวหน้า”เหล่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรับคำสั่ง คนกลุ่มหนึ่งนำเปลหามมา และหามหลี่เหวินเชาออกไป“ฮุ่ยหราน!”หลินเฟิงที่อยู่ข้างๆ จับหลี่ฮุ่ยหรานที่กำลังจะตามไปเอาไว้ และจ้อง
“แน่นอนว่าที่สำคัญกว่านั้นก็คือ ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังวางแผนอะไรบางอย่าง บอกว่าที่ดินผืนหนึ่งมีความสำคัญ และเพิ่งตกไปอยู่ในมือของหลี่ซื่อกรุ๊ปเมื่อไม่นานมานี้”“ตระกูลสยงพยายามที่จะซื้อมันหลายครั้ง แต่หลี่ซื่อกรุ๊ปไม่ขายให้พวกเขา ดังนั้นถึงได้.....”เมื่อได้ยินแบบนี้ หลินเฟิงก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างในความคลุมเครือ เขาคิดว่าหลงซวี่จวินของตระกูลหลงนี้ จะต้องมีเป้าหมายบางอย่างที่คล้ายคลึงกับหยินหลิงอย่างมากแน่ ๆเขาหันกลับไปมองหยินหลิง ก่อนจะขมวดคิ้วถามว่า :“หยินหลิง ก่อนหน้านี้เธอเคยพูดถึงชีพจรมังกรทางโทรศัพท์ มันเรื่องอะไรกัน?”“ชีพจรมังกร?”ทางฝั่งดินและน้ำที่อยู่ด้านหน้าก็ยืดคอเพื่อแอบฟังด้วยเช่นกันแต่ทว่า ในเวลานี้หยินหลิงกลับแสดงสีหน้าวิตกกังวลออกมา แถมยังรู้สึกกระสับกระส่ายเล็กน้อยอีกด้วย“หยินหลิง?”หลินเฟิงเรียกชื่อของเธออีกครั้ง หลังจากนั้นเธอถึงตอบสนองกลับมา“ขอโทษ พี่หลินเฟิง ฉันคิดว่า....ตอนนี้พวกเราไม่ควรไปยั่วโมโหตระกูลสยงนะ”ใครจะคิดว่า เธอเปิดปากก็โน้มน้าวให้หลินเฟิงยอมแพ้“ทำไม?”หลินเฟิงตะลึงงัน“หลงซวี่จวิน”หยินหลิงสูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะพูดด้วยแววต
หลินเฟิงบดขยี้วิทยุสื่อสารที่อยู่ใต้เท้า ก่อนจะมองไฟที่กำลังโหมกระหน่ำอยู่ทางด้านหลัง ราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่หญิงสาวในชุดสีขาวที่เพิ่งจะปรากฏตัวที่หลี่ซื่อกรุ๊ปและไล่ล่าน้ำจนไม่มีทางตันนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นหยินหลิงผู้นำคนปัจจุบันของพันธมิตรบู๊ เรื่องราวบังเอิญแบบนี้นี่แหละหยินหลิงกับฉู่ฮวาจิ่นนั้นมีการติดต่อกันอย่างลับ ๆฉู่ฮวาจิ่นได้รู้จากหลินเฟิงว่าตระกูลสยงต้องการที่จะจัดการเขา จึงได้โทรหาหยินหลิงที่ซ่อนตัวอยู่ในเมืองเจิ้งเต๋อทันทีคราวนี้เป้าหมายของหยินหลิงกับหลงซวี่จวินก็เหมือนกันทั้งหมดนี้ก็เพื่อชีพจรมังกร เมื่อหยินหลิงได้ยินว่าหลินเฟิงอาจจะตกอยู่ในอันตราย จึงรีบเข้ามาทันทีดังนั้นสายเรียกเข้าที่หลินเฟิงได้รับที่โรงจอดรถชั้นใต้ดินเมื่อสักครู่นั้นก็เป็นหยินหลิงที่โทรมาหาหลินเฟิงจึงมีความคิดเพิ่มขึ้นมาทันทีในเวลานั้นเขาให้หยินหลิงตามมา ช่วยเขาปกป้องหลี่ซื่อกรุ๊ปส่วนเขาก็ไปทำหน้าที่เป็นเหยื่อล่อ เพื่อที่จะดูว่าตระกูลสยงกำลังเล็งเป้าหมายไปที่ใครกันแน่ผลสุดท้ายแล้ว ก็ออกมาเกินความคาดหมายของหลินเฟิงคนของสยงซื่อกรุ๊ปไม่เพียงแต่จะจัดการกับเขาเท่านั้น อ
มีความเชื่อมั่นจากประสบการณ์ที่ผ่านมาพวกเขากล้าที่จะลงมือต่อหลินเฟิงคิดไม่ถึงว่า ตอนนี้ลมหายใจของหลินเฟิงที่อยู่อีกฝ่ายของโทรศัพท์ยาวเหยียด พูดจาเป็นธรรมชาติอย่าว่าแต่บาดเจ็บจนลมหายใจไม่คงที่แม้แต่ทำให้เขาหายใจหอบสักนิดก็ไม่มีพี่น้องของตัวเองสองคนตายไปแล้วการโจมตีแบบนี้ แทบจะทำให้เขาเสียสติไปในทันที“พี่ใหญ่ พี่มาสักที เร็ว…ช่วยผมด้วยไกลออกไปน้ำที่พกระเบิดอยู่เต็มตัว หายใจหอบวิ่งเข้ามา และที่ด้านหลังของเขา กลับมีผู้หญิงคนหนึ่งสวมผ้าโปร่งสีขาวถือดาบในมือไล่ตามเขามา“หึ นายก็คือพี่ใหญ่ของเขางั้นเหรอ?”ผู้หญิงคนนั้นหยุดยืนนิ่ง มองดินที่เหม่อลอยอยู่ด้วยความเย็นชา“ฉัน…”ดินอ้าปาก พบว่าตัวเองพูดอะไรไม่ออกทั้งนั้นความสามารถของหลินเฟิง ทำลายความเชื่อมั่นของเขาถ้าหากพูดว่าภายใต้ระเบิดแบบนั้น ยังคงทำร้ายเขาไม่ได้ งั้นก็มีความเป็นไปได้อย่างเดียว…“นักบู๊ขอบเขตเทพ”กินพูดพึมพำกับตัวเอง“พี่ใหญ่ พี่พูดจาเหลวไหลอะไร? รีบขวางเธอไว้สิ!”น้ำเห็นพี่ใหญ่ของตัวเองยืนเหม่ออยู่ที่เดิมเหมือนกับคนปัญญาอ่อน เขาร้อนใจจนเกือบจะสบถด่าออกมา“ฉันบอกว่า…หลินเฟิงที่เราจะจัดการ คือนักบู๊
ในวิทยุสื่อสารมีเสียงลูกน้องของตัวเองดังขึ้นมาดินคนนั้นที่ถูกเรียกว่าพี่ใหญ่ พยักหน้าพูดว่า:“ทำได้ไม่เลว แต่ยังต้องตรวจสอบต่อไป หลินเฟิงคนนั้นความสามารถไม่ธรรมดา ไม่แน่เขาอาจจะหนีตายไปได้จริงๆ”“วางใจเถอะพี่ใหญ่ ต่อให้เขารอดมาได้ แต่ถูกระเบิดที่รุนแรงโจมตี ต่อให้เพียงพอที่จะรอดมาได้ ก็ไม่มีทางที่จะมีโอกาสต่อต้านอะไรได้แล้ว”ชายวัยกลางคนที่ชื่อว่าลมค่อนข้างสุขุมเขาพูดอย่างเรียบเฉยว่า:“ผมกับไฟจะรออยู่ที่นี่ ตรวจสอบศพด้วยตนเอง”“ดี”พี่ใหญ่ที่ชื่อดินพยักหน้า นี่เป็นวิธีที่รอบคอบที่สุด“น้ำ นายวางระเบิดเป็นยังไงบ้างแล้ว?”“พี่ใหญ่ เชี่ย ผมถูกจับได้แล้ว!”ในวิทยุสื่อสารมีเสียงหายใจหอบ เห็นได้ชัดว่าผู้ชายที่ชื่อน้ำกำลังวิ่งหนีอย่างเต็มแรง“ถูกจับได้แล้ว? นายอยู่ที่ไหน ฉันจะไปหนุนกำลังนาย!”“ผมอยู่ที่บ่อน้ำพุตรงสวนชั้นล่างของหลี่ซื่อกรุ๊ป มีผู้หญิงที่น่าหวาดกลัวมากคนหนึ่ง ตามผมมาตลอด!”“ทำยังไงผมก็สลัดเธอไม่หลุด!”“ผู้หญิงที่น่ากลัวมาก?!”ดินได้ฟังก็นิ่งอึ้งเล็กน้อยต้องรู้ว่า ความสามารถของพวกเขาสี่คนต่างอยู่ในระดับเซียนเทียนขั้นสูงสุด ถึงขั้นที่เขายังเป็นขั้นเซียนเทียนต้
“ผมจะให้คนของแผนกรักษาความปลอดภัยทั้งหมดตามมา ปกป้องหลี่ซื่อกรุ๊ป ถ้าหากพวกเขาจะจัดการผม ที่นี่ก็จะไม่เป็นอะไร”“แต่ถ้าหากผมออกไปแล้ว พวกเขาจะจัดการหลี่ซื่อกรุ๊ป งั้นก็แสดงว่าพวกเขาพุ่งเป้ามาที่หลี่ซื่อกรุ๊ป“อืม หน่วยลับของตระกูลถังที่ฉันพามาก็จะช่วยปกป้องที่นี่”ถังหว่านพยักหน้าพูด“หน่วยลับ?”หลินเฟิงนึกถึงหน่วยลับของตระกูลถังก่อนหน้านี้ พูดได้ว่าถึงแม้จะมีความสามารถ แต่ภายนอกกลับเละเทะไปหมดดังนั้นเขาก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากนักแน่นอนว่า ตอนนี้ต่อให้กำลังน้อยแค่ไหนก็ต้องให้ความสำคัญ มีพวกเขาอยู่ ก็มีการรับรองเพิ่มมากขึ้นหลินเฟิงพยักหน้า และไม่ได้เสียเวลา เขานั่งลิฟต์ลงไปยังที่จอดรถใต้ดินโดยตรงในตอนที่เขากำลังจะขึ้นรถ โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นไม่นานนัก รถออดี้คันหนึ่งก็ขับออกจากอาคารใหญ่ของหลี่ซื่อกรุ๊ปชายวัยกลางคนใช้ผ้าคลุมหน้ายืนอยู่บนอาคารสูงที่ไหลออกไป และซ่อนตัวอยู่หลังกระจกที่สะท้อนแสง เก็บกล้องส่องทางไกลที่อยู่ในมือเขาหยิบวิทยุสื่อสาร ใช้รหัสลับแจ้งเตือนเพื่อนร่วมแก๊งคนอื่นๆว่า:“หลินเฟิงออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว ย้ำ หลินเฟิงเป้าหมายได้ออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว”“ร
“ยังไงซะ ผมก็ติดหนี้น้ำใจนี้กับคุณ”“ถ้าหากไม่มีเรื่องอื่น...”ในตอนที่หลินเฟิงกำลังจะวางสาย“อ่อใช่คุณสามี”จู่ๆ เสียงหัวเราะของฉู่ฮวาจิ่นก็หายไป คำพูดของเธอเปลี่ยนไปจริงจังขึ้นมา“ช่วงนี้...ยอดฝีมือคนหนึ่งของสำนักหลงผานมาถึงที่เมืองเจิ้งเต๋อ อีกทั้งอยู่ที่ตระกูลสยง”“เหมือนว่าเขากำลังวางแผนอะไรบางอย่างอยู่”“คุณสามี แม้แต่ฉันก็ไม่รู้ถึงความสามารถและเบื้องหลังของคนผู้นี้ แต่ระดับขั้นไม่ต่ำกว่าแดนแปรภาพอย่างแน่นอน คุณระวังด้วย”ได้ยินคำเตือนของฉู่ฮวาจิ่น หลินเฟิงนิ่งอึ้งไปเล็กน้อยสุดท้ายก็ยังรู้สึกซาบซึ้งและกล่าวคำขอบคุณ“ผมรู้แล้ว ขอบคุณเทพธิดาฉู่”“อืม”หลังจากวางสายไป หลินเฟิงก็เงียบขรึมอยู่ครู่หนึ่ง“หลินเฟิง ที่มาข่าวสารของคนผู้นี้เชื่อถือได้ไหม?”ถังหว่านกลับไม่ได้ใส่ใจที่คนอื่นเรียกหลินเฟิงว่าคุณสามี เห็นได้ชัดว่า หลินเฟิงเกรงใจต่อเทพธิดาฉู่คนนี้เป็นอย่างมาก และก็ตั้งใจรักษาระยะห่างเรื่องเหล่านี้ถังหว่านสามารถมองออกได้อยู่แล้ว“ความน่าเชื่อถือเก้าสิบเปอร์เซ็นต์”หลินเฟิงพยักหน้าพูดว่า:“ก่อนหน้านี้ในตอนที่พบหน้ากันครั้งสุดท้าย เธอเคยบอกฉันว่า มีที่ดินผืนหนึ่ง
เขาอดกลั้นความเจ็บปวดและความเสี่ยงตาย เพื่อมาแจ้งข่าวให้หลินเฟิงรู้ในเวลาที่รวดเร็วที่สุดเพียงพอที่จะยืนยันท่าทีของเขาได้ถึงแม้เมื่อก่อนหลี่เหวินเชาจะทำเรื่องเลวทรามมากมาย แต่ตอนนี้รู้จักผิดและเปลี่ยนแปลง หลี่ฮุ่ยหรานก็ยังคงยอมรับน้องชายคนนี้อยู่เมื่อเห็นน้องชายของตัวเองล้มอยู่กลางกองเลือด หลี่ฮุ่ยหรานร้อนใจจนน้ำตาไหลออกมา“ไม่ต้องร้อนใจ ผมช่วยเขาห้ามเลือดไว้แล้ว เขาจะไม่เป็นอันตรายต่อชีวิต”หลินเฟิงพูด และใช้เข็มเงินแทงเข้าไปตรงบาดแผลของหลี่เหวินเชา ใช้พลังชี่แท้นำกระสุนสามสี่นัดออกมา กระสุนตกลงบนพื้น เสียงดังก๊องแก๊ง“อ๊ะ?! นี่มัน...บาดแผลจากการถูกยิง?!”หลี่ฮุ่ยหรานถึงได้พบว่าน้องชายของตัวเองถูกยิงหลินเฟิงหยักหน้า ยื่นมือออกไปหยิบกระสุนขึ้นมา และส่งตัวหลี่เหวินเชาให้กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่ข้างๆ จากนั้นพูดว่า:“พาเขาไปพักผ่อนที่หอพักของหลี่ซื่อกรุ๊ป เขาไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว”“ครับ หัวหน้า”เหล่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรับคำสั่ง คนกลุ่มหนึ่งนำเปลหามมา และหามหลี่เหวินเชาออกไป“ฮุ่ยหราน!”หลินเฟิงที่อยู่ข้างๆ จับหลี่ฮุ่ยหรานที่กำลังจะตามไปเอาไว้ และจ้อง
“หลี่เหวินเชามาหาเขาเพราะเรื่องอะไร?”ใบหน้าของหลินเฟิงเต็มไปด้วยความสงสัยก่อนหน้านี้ไม่กี่วันหลี่เหวินเชาถูกหลินเฟิงส่งไปที่แผนกรักษาความปลอดภัย เพื่อไปเป็นรองหัวหน้าทีมของจิ่วเทาหากคาดเดาตามสถานการณ์ปกติหลี่เหวินเชามีเบอร์โทรศัพท์ที่เขาทิ้งไว้ให้ ต่อให้เกิดเรื่องอะไรขึ้น ก็สามารถติดต่อเขาได้ในทันทีแต่หลี่เหวินเชาไม่ได้ติดต่อมา กลับมาหาเขาถึงที่?อีกทั้งยังท่าทางไม่ดี?ในใจของหลินเฟิงรู้สึกไม่ดีทันที จึงรีบละเลยเลขาหญิง และมุ่งหน้าไปที่ชั้นล่างเมื่อมาถึงที่ห้องโถงชั้นหนึ่งของหลี่ซื่อกรุ๊ป หลินเฟิงก็เห็นหลี่เหวินเชาที่กุมหน้าท้องที่มีเลือดไหล นั่งรออยู่ที่หน้าตรงทางเข้าทั่วทั้งตัวของหลี่เหวินเชาเต็มไปด้วยเลือด ทำให้เกิดความโกลาหลวุ่นวายภายในห้องโถง“หลี่เหวินเชา! เกิดเรื่องอะไรขึ้น?!”หลินเฟิงผลักกลุ่มคนออก และมุ่งหน้าตรงไปที่ด้านข้างของหลี่เหวินเชา“พี่….เขย…หัวหน้า”หลี่เหวินเชาหายใจรวยริน เขาพยายามจะยกมือที่เปื้อนเลือดของเขาขึ้น และพูดอย่างโศกเศร้าว่า:“มีคน…เมื่อคืนนี้มีคนสี่คนบุกรุกเข้ามาในบาร์ที่เป็นฐานของเรา เอาปืนกลมือ…ยิงพรรคพวกตาย…จำนวนมาก…”“อะไรนะ? ปืนก
คิดได้ถึงตรงนี้ ถังหว่านก็หัวเราะแหะๆสิบนาทีต่อมาหลินเฟิงที่อาบน้ำเสร็จ ก็มายืนตรงเหมือนต้นไผ่อยู่ที่ภายในห้องทำงานของประธานหลี่ และรายงานการทำงานกับประธานหลี่แต่ทว่ารายงานไปรายงานมา หลี่ฮุ่ยหรานกลับจ้องมองท่อนล่างของหลินเฟิงด้วยความเหม่อลอยถังหว่านสังเกตเห็น จึงปิดปากหัวเราะอยู่ข้างๆ“ตอนนี้กองกำลังใต้ดินของเมืองเจิ้งเต๋อถูกแผนกรักษาความปลอดภัยของเรารวมเข้าด้วยกันแล้ว ดังนั้นคุณไม่ต้องเป็นกังวลปัญหาด้านความปลอดภัย หากมีความเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย คนของแผนกรักษาความปลอดภัยก็จะมารายงานเอง”หลินเฟิงถูกหลี่ฮุ่ยหรานจ้องมองจนรู้สึกหวาดเสียวแต่ก็ยังทำหน้าที่ของตัวเองให้เสร็จสิ้นก่อน“อ่ออืม”เมื่อเห็นว่าหลินเฟิงไม่พูดอยู่นาน หลี่ฮุ่ยหรานถึงได้มีสติกลับมา และพยักหน้าพูดว่า:“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เอง ช่วงปลอดภัยของพวกคุณในช่วงนี้…เอ๊ะไม่ใช่สิ แผนกความปลอดภัย…”การพลั้งปากของหลี่ฮุ่ยหรานเปิดโปงความคิดในใจของเธอถังหว่านระเบิดหัวเราะขึ้นมากะทันหัน เธอหัวเราะจนท้องคัดท้องแข็ง และมีน้ำตาไหลออกมาหลินเฟิงก็ถอยหลังไปหลายก้าวด้วยความกระอักกระอ่วนสำหรับหลี่ฮุ่ยหราน ประธานสาวสวยผู้แสนเย็น