เป็นอย่างที่หลินเฟิงคิดไว้จริงๆบุคคลระดับสูงของตระกูลซือหม่าทั้งหมดเดินทางมาที่ศูนย์การแพทย์ตระกูลเลี่ยว อีกทั้งเข้ามาในห้องพักผู้ป่วยของอาอวี๋อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยโชคดีที่หลินเฟิงมีเกียรติมากพอ ห้องพักที่เลี่ยวจงจัดแจงให้อาอวี๋เป็นห้องพักที่ใหญ่โตมากที่สุดในศูนย์การแพทย์ตระกูลเลี่ยวต่อให้ตอนนี้บุคคลระดับสูงของตระกูลซือหม่าเดินเข้ามาถึงขั้นที่ยังหามเปลที่ซือหม่าเหวินอยู่บนนั้นเข้ามา ก็ไม่ได้ดูแออัดสักเท่าไหร่“อาจารย์หลินเฟิง พวกเขาคือ...”เห็นคนจำนวนมากขนาดนี้เข้ามาในห้องพักผู้ป่วนกระทันหัน อวี๋จื่อเสวียนรู้สึกงุนงง“ไม่ต้องตื่นตกใจ”หลินเฟิงพบเห็นบ่อยจนชินตา พูดปลอบอวี๋จื่อเสวียนประโยคหนึ่ง จากนั้นยืนขึ้นเดินไปตรงหน้าของซือหม่าเผิงหัว และถามเรียบๆ ว่า:“เป็นยังไง? พวกคุณพิจารณาว่ายังไงบ้าง?”“จะเปิดศึกกับผม หรือจะให้ซือหม่าเหวินกราบขอโทษ?”“เอ๊ะ?!”ได้ยินคำพูดนี้ของหลินเฟิง อวี๋จื่อเสวียนเอามือปิดปากของตัวเองคนเหล่านี้ หรือว่าเป็นคนของตระกูลซือหม่าเหวินทั้งหมดงั้นเหรอ?!อีกทั้งชายวัยกลางคนคนนั้นที่นำหน้ามา พลังอำนาจไม่ธรรมดาอวี๋จื่อเสวียนนึกขึ้นมาได้แล้ว เขาก
ตอนนี้ เก่อหงเหมยตกใจจนอึ้งอย่างถึงที่สุดแล้วแต่ทว่าเนี่ยหมิงสาหัสยิ่งกว่าแม่ของตัวเองซะอีกแผ่นหลังของเขาพิงกำแพงตรงทางเดิน จิตใจเหม่อลอย สีหน้างงงวย“แม่...”“พวกเรา...จบเห่แล้ว พวกเราตายแน่...”เนี่ยหมิงพูดพึมพำด้วยสีหน้าเศร้าสลด:“ตัวตนที่สามารถทำให้ตระกูลซือหม่าก้มหัวได้ แม้แต่ซือหม่าเผิงหัวก็มาขอโทษถึงที่ด้วยตัวเอง พวกเรา...พวกเราก็มีสิทธิ์อะไรกัน...”คิดได้ว่าเมื่อครู่นี้ความภาคภูมิใจที่ตัวเองเปิดเผยออกมาต่อหน้าเขา เนี่ยหมิงคิดทันทีว่าตัวเองเป็นเหมือนกับตัวตลกอีกทั้งเป็นชนิดที่ไม่ดูตาม้าตาเรือที่สุดภายในห้องเสียงของซือหม่าเผิงหัวดังขึ้นมาอีกครั้ง“คุณหลิน ผู้นำตระกูลให้ผมพาซือหม่าเหวินมาขอโทษคุณด้วยตัวเอง หวังว่าคุณพอจะให้อภัยการกระทำของไอ้เด็กสารเลวซือหม่าเหวินได้ อีกทั้งพวกเราก็ร่างกำหนดแผนการชดใช้ค่าเสียหายไว้เรียบร้อยแล้ว”“นี่คือเช็คมูลค่าสองพันห้าร้อยล้านบาท ขอให้คุณรับเอาไว้ด้วย”เมื่อเห็นว่าท่าทางของซือหม่าเผิงหัวถือว่ามีความจริงใจ หลินเฟิงจึงพยักหน้า มองไปทางอวี๋จื่อเสวียน“ไปเถอะ รับเงินก้อนนี้เอาไว้”“อื้อ”อวี๋จื่อเสวียนเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรงไม่กลั
โชคดีที่อวี๋จื่อเสวียนเด็กสาวคนนี้มีนิสัยที่ไม่กลัวฟ้ากลัวดินจริงๆ มีเรื่องอะไรเธอกล้าลุยหมดเธอพยักหน้าให้หลินเฟิง ยื่นมือของตัวเองออกไป มือข้างซ้ายข้างขวาง้างออก ตบไปที่ใบหน้าของซือหม่าเหวินสองครั้งดัง “เพียะเพียะ”และเมื่อตบออกไปสองครั้งนี้ ทำให้บุคคลระดับสูงของตระกูลซือหม่าทุกคนกลั้นหายใจในทันทีคนจำนวนมากต่างส่งสายตาไปทางซือหม่าเผิงหัวในเมื่อซือหม่าเผิงหัวมีชื่อเสียงในการถือหางลูกชายอย่างมากลูกชายของตัวเองถูกคนตบต่อหน้าแบบนี้ ไม่ต่างกับการตบหน้าเหี่ยวย่นของเขาเลยแต่ทว่าเดิมคิดว่าตบหน้าสองครั้งก็จบแล้วคนของตระกูลซือหม่าเหวินกลับเห็นอวี๋จื่อเสวียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เธอไม่ได้ปล่อยซือหม่าเหวินไป แต่กลับปล่อยกำลังภายในออกมา เข้าไปเตะต่อยซือหม่าเหวินที่ล้มพับอยู่บนพื้นอวี๋จื่อเสวียนต่อยไปด้วย และยังตะโกนด่าทอไปด้วย“กระทืบคนเลวอย่างนายให้ตายไปซะ!”“นายรังแกพ่อของฉันนับว่ามีความสามารถอะไรกัน?!”“วันนี้ฉันจะต้องให้บทเรียนที่ทำให้นายจดจำไปจนวันตาย!”มองดูอวี๋จื่อเสวียนกระทืบลูกชายของตนเองโดยไม่ได้ออมมือแม้แต่นิด สีหน้าของซือหม่าเผิงหัวเหมือนกับกินแมลงวันเข้าไปเขาอยากจะ
“ลาก่อน”สุดท้าย ซือหม่าเผิงหัวประสานมือไปทางหลินเฟิง ถือว่าเป็นการบอกลาแล้วถึงแม้เป็นการบอกลาแต่ในดวงตาของซือหม่าเผิงหัวมีสีหน้าที่เป็นอันตรายแวบผ่านไป เหมือนกับจดจำใบหน้าของหลินเฟิงให้ลึกในสมองของตัวเองหลินเฟิงก็ไม่ได้หวาดกลัว เขาโบกมือ เหมือนกับปัดป่ายแมลงวัน แม้แต่มองก็ยังขี้เกียจจะมองพวกเขาด้วยซ้ำ“อาจารย์หลิน คุณ...คุณสุดยอดจริงๆ เลย!”เห็นคนของตระกูลซือหม่าจากไป อวี๋จื่อเสวียนขยับมาด้านหลินเฟิง ตื่นเต้นจนไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรแล้ว ในดวงตากลับมีความเลื่อมใสเต็มเปี่ยมแวบผ่านไปถึงแม้ก่อนหน้านี้เธอก็คิดว่าหลินเฟิงเก่งกาจมาก ถึงขั้นที่มีเกี่ยวข้องกับตระกูลหนึ่งในสี่ตระกูลร่ำรวยของเมืองจิงแต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะสุดยอดกว่าที่ตัวเองคิดเอาไว้อีกถึงขั้นที่บีบบังคับให้ตระกูลซือหม่าหนึ่งในสี่ตระกูลร่ำรวยของเมืองจิง มาขอโทษพวกเขาถึงที่ได้โดยเฉพาะเพื่อให้เธอระบายความโมโห ยังต่อยคุณชายซือหม่าไปยกหนึ่งนั่นเป็นคุณชายตระกูลซือที่ทั้งเมืองจิงไม่มีใครกล้าแตะต้องเชียวนะ! นึกไม่ถึงว่าจะถูกเธอต่อไปยกหนึ่ง!”อีกทั้งคนของตระกูลซือหม่าก็ยังไม่กล้าพูดอะไรความรู้สึกแบบนี้ สะใจจริงๆ!“หึ.
เห็นท่าทางแบบนี้ของพี่เลี่ยง เนี่ยหมิงกับเก่อหงเหมยต่างเงียบเสียง ไม่กล้าที่จะเงยหน้าขึ้น“ทำไมไม่พูดล่ะ?!”พี่เลี่ยงสีหน้าหงุดหงิด “ตอนนี้กลายเป็นใบ้แล้วงั้นเหรอ?”“พี่เลี่ยง”เนี่ยหมิงไอแห้งๆ ยิ้มร่าพูดว่า: “เรื่องเมื่อครู่นี้ อันที่จริงผมล้อเล่นกับพี่น่ะครับ อันที่จริงไม่มีใครหาเรื่องพวกเรา”“ใช่ใช่ใช่ พี่เลี่ยง เมื่อครู่ลูกชายของฉันพูดเล่นกับคุณน่ะค่ะ!”เก่อหงเหมยก็ยิ้มและโค้งตัวแสดงความเคารพ“แม่งเอ๊ย!”พี่เลี่ยงโบกมือตบหน้าเนี่ยหมิงอย่างแรงเสียงดัง “เพียะ” และพูดด้วยความโมโห:“เมื่อครู่ฉันเพิ่งจะถูกคนเหยียดหยามมา เตรียมจะเรียกคนมาระบายอารมณ์ ตอนนี้แกบอกฉันว่าเมื่อครู่แกหลอกฉันงั้นเหรอ?”“แม้แต่นายก็มาหาความสุขจากฉันงั้นเหรอ?”พูดถึงตรงนี้ พี่เลี่ยงโบกมือพูดด้วยความเย็นชา:“พรุ่งนี้นายไม่ต้องมาแล้ว ผู้จัดการของเทียนจวิ้นเอ็นเตอร์เทนเมนท์จำกัดฉันจะหาคนอื่นมาแทน”“ไสหัวไปซะ!”ได้ยินว่าตำแหน่งที่ตัวเองได้มาอย่างยากลำบากถูกปลด เนี่ยหมิงร้อนใจทันที เขาไม่สนการดึงทึ้งของแม่ตัวเอง รีบพูดขึ้นว่า:“พี่เลี่ยง ไม่ใช่ว่าผมหลอกพี่ คนที่ผมมีเรื่องด้วย คุณ...”เสียงยิ่งอยู่ยิ่งเบ
แต่ทว่าหลินเฟิงกลับไม่ได้ประหลาดใจเพราะว่าหลินเฟิงรู้ตั้งนานแล้วว่าพวกเขาสองแม่ลูกเมื่อครู่แอบฟังอยู่ข้างนอก ได้ยินบทสนทนาของตระกูลซือหม่ากับเขาแล้วแต่ว่าเดิมทีหลินเฟิงคิดว่าพวกเขาจะหนีไปทันที แต่คิดไม่ถึงว่าจะกลับมาอีก“เป็นเขา!”เห็นหลินเฟิงสีหน้างุนงงงวย เก่อหงเหมยจึงชี้ไปทางพี่เลี่ยงที่อยู่ตรงประตู และฟ้องร้องว่า:“คุณหลิน เดิมพวกเราไม่กล้ารบกวนคุณอีก แต่พี่เลี่ยงของตระกูลซือหม่ากลับคุมตัวลูกชายของฉัน จะให้เขามาคิดบัญชีกับคุณให้ได้”“เชี่ย!”พี่เลี่ยงที่อยู่นอกประตูได้ยินคำฟ้องร้องของเก่อหงเหมย สีหน้าเปลี่ยนไปเป็นสีตับหมูทันทีเขาจะไปรู้ได้ยังไงว่าสองแม่ลูกนี้มีเรื่องกับหลินเฟิง?ถ้าหากเขารู้ว่าพวกเขามีเรื่องกับหลินเฟิง เช่นนั้นไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่มีทางย้อนกลับมา หาเรื่องหลินเฟิงจู่ๆ พี่เลี่ยงก็คิดถึงคำพูดติดๆ ขัดๆ ของเนี่ยหมิงคนที่พวกเขามีเรื่องด้วย ตัวเองสู้ไม่ไหวเดิมคิดว่าพึ่งพาเบื้องหลังตระกูลซือหม่าของตัวเอง เป็นไปได้ยังไงที่จะมีคนที่สู้ไม่ได้? แต่คิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะหมายถึงหลินเฟิงตอนนี้พี่เลี่ยงมีความคิดที่จะฆ่าคนแล้วด้วยซ้ำ“คุณหลิน พวกเราถูกบังคับนะครับ!
ในเวลาสองวันมานี้ ในที่สุดหลินเฟิงก็ได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขไม่เพียงหลินเฟิง ในที่สุดหลี่ฮุ่ยหรานก็มีเวลาพักผ่อนที่หาได้ยากเช่นกันทั้งสองคนดูหนังและเดินเล่นไปทั่ว เดินเที่ยวเล่นที่สวนสาธารณะของเมืองจิง และไปเที่ยวชมจุดท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเมืองจิงในที่สุดทั้งสองคนก็หาความรู้สึกในตอนที่แต่งงานในอดีตกลับมาได้แล้วแน่นอนว่า ช่วงเวลาที่เอื่อยเฉื่อยแบบนี้ไม่ได้อยู่นานเท่าไหร่นักสามวันหลังจากที่อาอวี๋พักอยู่ที่โรงพยาบาลหลินเฟิงก็ได้รับข้อมูลจากศิษย์น้องหญิงของตัวเองผ่านโทรศัพท์“คืนนี้ บาร์ลับทางทิศตะวันตกของเมือง”มองดูประโยคสั้นๆ บนหน้าจอโทรศัพท์ สายตาของหลินเฟิงเปลี่ยนไปเฉียบคมขึ้นมาทันทีสามารถจับจุดอ่อนของตระกูลหลงได้หรือไม่ และเปลี่ยนแปลงความคิดของถังเจี้ยนหยวน ก็ต้องดูคืนนี้เขากำชับหลี่ฮุ่ยหรานให้อยู่ในบ้านอย่างว่าง่าย เขากลับจะออกไปข้างนอก ไม่ช่วยถังหว่านให้หลุดพ้นจากพันธนาการของตระกูลถังหลี่ฮุ่ยหรานเชื่อฟังอย่างมาก และกำชับหลินเฟิงว่าต้องรักษาความปลอดภัยหลินเฟิงออกไปข้างนอกในตอนบ่ายเขามาถึงบาร์ลับที่อยู่บนข้อความก่อนล่วงหน้าบาร์ลับที่ว่ากันนั้นดูไม่ไม่ธรร
เห็นได้ชัดว่าหลงเซียวมีความหงุดหงิดเล็กน้อย“มีอีกเรื่องหนึ่ง...เกรงว่าจะพาความแปลกใจมาให้คุณเล็กน้อย คุณหลิน ออกมาเถอะ”อีกาแห่งเมืองหนานไห่มองไปทางจุดมืดของเคาน์เตอร์“หือ? คุณหลิน?! หรือว่าจะเป็น หลินเฟง?!”ได้ยินคำพูดของอีกาแห่งเมืองหนานไห่ สีหน้าของหลงเซียวก็งุนงงอย่างมาก เธอเหลือบมองอีกา และก็มองไปทางผู้ชายคนนั้นที่เดินออกมาจากจุดมืดด้วยความงุนงงทันทีหลินเฟิงได้ยินเสียงเรียกของศิษย์น้องหญิง เข้าใจความหมายของเต่าได้ในทันที
“ส่วนคุณ หนูที่ได้เปรียบ คิดว่าตัวเองควบคุมได้ทุกอย่าง แต่หนูก็คือหนู คุณไม่เหมาะสมที่จะยืนบนเวทีและได้รับความเคารพ”“แม่งเอ้ย!”เมื่อได้ยินอย่างนี้ เฟิงหลีก็โกรธจนตัวสั่นไปหมดเขาจับหยินหลิงกดลงกับพื้น คลายเข็มขัดของตัวเองด้วยมือข้างหนึ่ง และคำรามว่า :“วันนี้ฉันจะทำให้คุณตายอยู่ข้างถนน แล้วมาดูกันว่าคุณจะกล้าดูถูกฉันอีกไหม!”“หึหึหึ....”หยินหลิงที่ถูกจับกุมอยู่ กลับหัวเราะเยาะขึ้นมาแทน"คุณคิดว่านี่จะทำให้ฉันยอมแพ้งั้นเหรอ?"“สิ่งนี้แค่เน้นย้ำถึงความไร้ความสามารถและความเลวทรามของคุณเท่านั้น รอให้กลุ่มพันธมิตรบู๊ตอบกงลับมา ก็จะหาพวกคุณเจอเอง”“เมื่อถึงเวลา คุณก็จะถูกสำนักร้อยพิษโยนออกไปเป็นอาหารปืนใหญ่ ช่างต่ำช้าและน่าสมเพชจริงๆ...”“แม่งเอ้ย!”เฟิงหลีไม่สามารถคลายเข็มขัดด้วยมือข้างเดียวได้ และเมื่อได้ยินคำพูดเยาะเย้ยของหยินหลิง เขาก็ยิ่งโกรธและกระสับกระส่ายมากขึ้น จนถึงกับตะโกนเรียกคนขับรถที่อยู่ข้าง ๆ ให้เข้ามาช่วยจับหยินหลิงไว้"แต่ว่าคุณท่านสาม..."คนขับยังคงต้องการให้คำแนะนำสุดท้ายอีกแต่เฟิงหลีในเวลานี้ไม่ฟังใครอีกต่อไปแล้วดวงตาที่แดงก่ำ ทำให้คนขับกลืนคำพูดที่กำ
แน่นอนสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า ก็คื ความลับที่ซ่อนอยู่ในตัวหยินหลิง ความลับที่หลอกล่อยอดฝีมือของประเทศมังกรทุกคนหากเธอตกอยู่ในมือของสำนักร้อยพิษแล้วสุดท้าย สำนักร้อยพิษก็จะได้เปรียบไปนี่เป็นสิ่งที่หยินหลิงไม่อยากเห็นแม้ว่าเธอจะตายก็ตาม“หึหึ ท่านหัวหน้า ฉันแนะนำว่า คุณอย่าคิดอะไรเลวร้ายเลยจะดีที่สุด ตอนนี้ในร่างกายจของคุณ ฉันได้วางยาตะขาบเลือดไว้แล้ว เพียงแค่ฉันไม่พอใจ”“ท่านหัวหน้าก็ได้เสียชีวิตไปซะแล้ว”เฟิงหลีข่มขู่ด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็ยื่นมือไปยกคางของหยินหลิงขึ้นพร้อมกับถอนหายใจและพูดว่า :“นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้พบกับท่านหัวหน้า ท่านหัวหน้านั้นงดงามจริงๆ มันทำให้หัวใจของฉันเต้นแรง”เมื่อได้ยินคำล้อเล่นพวกนี้ หยินหลิงก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาขณะที่มองไปทางเฟิงหลีด้วยความดูถูก ร่างกายก็หลีกเลี่ยงฝ่ามือของเฟิงหลีไปโดยไม่รู้ตัว“หืม?”ใบหน้าของเฟิงหลีเปลี่ยนเป็นเย็นชาเล็กน้อย เมื่อตระหนักได้ว่าหยินหลิงยังคงไม่เชื่อฟังตัวเองหัวหน้าของกลุ่มพันธมิตรบู๊ ที่ปกติจะเข้าถึงได้ยากนั้น ตอนนี้ก็อยู่ภายใต้การควบคุมของตัวเองแล้วความรู้สึกนี้ทำให้เขารู้สึกมีความสุขแต่เขาไม่คาดคิดว่า
“ผม...”หลินเฝิงโกรธอย่างมากจนอยากจะฆ่าเฝิงชางซะเดี๋ยวนี้แต่ไม่นานหลินเฝิงก็สงบสติอารมณ์ลงเขาดีดนิ้ว ก่อนที่พลังชี่แท้โปร่งใสจะถูกปล่อยเข้าสู่ร่างของเฝิงอวี้อู่หลินเฝิงก้าวออกไปและพูดอย่างเย็นชาว่า:“หากผมไม่ได้กลับมาก่อน คุณชายตระกูลเฝิงของพวกคุณก็อาจจะไม่ได้ตื่นขึ้นมาอีกแล้ว”“หากเกิดอะไรขึ้นกับหยินหลิงที่นี่ ฉันจะให้ทุกคนในตระกูลเฝิงถูกฝังไปพร้อมกับเธอ! ได้ยินหรือเปล่า?!”เมื่อได้ยินอย่างนี้ เฝิงชางก็ตัวสั่นอย่างมากหากเขาเคยดูถูกหลินเฝิงมาก่อน ตอนนี้เขาคงรู้สึกหวาดกลัวอย่างมากเกี่ยวกับภัยคุกคามที่เกิดจากหลินเฝิงลองคิดดูสิชายหนุ่มที่เชี่ยวชาญทั้งด้านการแพทย์และศิลปะการต่อสู้ แน่นอนว่าเบื้องหลังเขาเบื้องหลังของเขาไม่ได้มีแค่หลี่ซื่อกรุ๊ปที่เป็นกองกำลังเล็ก ๆต้องมีอำนาจบางอย่างซ่อนอยู่ในประเทศมังกรอำนาจแบบนี้ไม่ควรไปยั่วยุให้มากนักเมื่อมองไปที่ร่างหลินเฝิงที่เดินจากไป เฝิงชางก็คิดได้หลายอย่างในใจทันทีเนื่องจากเป็นผู้นำตระกูลเฝิง เขาจึงรู้สึกอยากจะร้องไห้ แต่กลับไม่มีน้ำตาเลยในขณะนี้หากตอนแรกมันเป็นเพียงชีวิตของลูกชายเขาต่อมาเขาได้ไปยั่วยุสำนักร้อยพิษและเชิ
“เข็มเจ็ดสิบสองเล่มขจัดความชั่วร้าย!”หลินเฟิงก้มหน้าตวาดเสียงทุ้มต่ำ ดึงเข็มเงินที่ฝังอยู่บนตัวของเฝิงอวี้อู่ออก และตกลงบนพื้นเสียงดังติ๊งเข็มเงินเพิ่งจะออกจากตัวของเฝิงอวี้อู่ เฝิงอวี้อู่ก็ส่งเสียงร้องโอดครวญเสียงสูงจึงทำให้เฝิงชางที่เฝ้าดูอยู่ด้านข้างร้อนใจจนใบหน้ามีเหงื่อออกแต่เขาไม่เพียงไม่กล้ารบกวนหลินเฟิง ทำได้แค่มองตาปริบๆคิดไม่ถึงว่าหลินเฟิงทำเรื่องเหล่านี้เสร็จ ก็ไม่ได้สนใจเฝิงอวี้อู่อีกแล้ว แต่หันหน้ามองไปทางหมอเทวดาเลี่ยวที่หมดสติอยู่เฝิงอวี้อู่พิษเข้าไขกระดูก หลินเฟิงต้องใช้กลอุบายจัดการเล็กน้อยแต่ทว่าทางด้านหมอเทวดาเลี่ยวง่ายกว่าเยอะเลยหลินเฟิงยกมือขึ้นโดยตรง ปล่อยพลังชี่แท้บริสุทธิ์เข้าไปที่หน้าผากของเขา และนำยาเม็ดสีเหลืองใส่เข้าปากของหมอเทวดาเลี่ยว“ไปเถอะ หามหมอเทวดาเลี่ยวไปพักในที่เย็นสบาย อีกเดี๋ยวเขาก็ได้สติแล้ว”คำพูดนี้ของหลินเฟิงพูดให้เฝิงเอ้อฟังเฝิงเอ้อชี้ตัวเอง และมีสีหน้างุนงง“ไปสิ! ฟังหมอเทวดาหลิน!”เฝิงชางตวาดน้องชายคนรองของตัวเองเสียงดัง แต่ทว่าเฝิงเอ้อรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย ไม่กล้าเข้าไปสัมผัสหลินเฟิงมองออกถึงความเป็นกังวลของเขา เก
ได้ยินการวิเคราะห์ของหลินเฟิง เฝิงเอ้อกับเฝิงชางถลึงตาโตทันที“เฝิงหลี?!”หรือว่าเมื่อครู่เฝิงหลีถือโอกาสตอนที่พวกเขาไม่ได้สังเกต วางยาพิษเฝิงอวี้อู่เป็นครั้งที่สองงั้นเหรอ?!ดังนั้นหลังจากที่หมอเทวดาเลี่ยวเพิ่งรักษาจนดีขึ้นเล็กน้อย ก็ได้อาการหนักขึ้นทันที ?“ไอ้สารเลว ผมจะไปจับตัวเขามาถามเดี๋ยวนี้!”เฝิงเอ้ออารมณ์ร้อน ตะโกนเสียงดังด้วยความโมโหทันที“หยุดก่อน!”เฝิงชางกลับตะโกนเสียงดัง จ้องมองเฝิงเอ้อแล้วพูดว่า:“หรือว่านายอยากให้ตระกูลเฝิงของเราตายงั้นเหรอ?”“ไม่พูดก่อนว่านี่เป็นคำพูดของไอ้หมอนี่ฝ่ายเดียว ต่อให้ไอ้หนุ่มคนนี้พูดจริง หรือว่าพวกเราจะแตกหักกับเฝิงหลีจริงๆ งั้นเหรอ?!”“ถ้าหากไอ้หมอนี่รักษาไม่หาย งั้นพวกเราตระกูลเฝิงจะทำยังไง?!”เผชิญหน้ากับการสอบถามของเฝิงชาง เฝิงเอ้อนิ่งอึ้งอยู่เป็นเวลานาน สุดท้ายก็โมโหจนทรุดนั่งลงกับพื้น“แม่งเอ๊ย แบนี้ก็ไม่ได้ แบบนั้นก็ไม่ได้ ทำให้ผมโมโหตายไปเลยเถอะ!”เมื่อเห็นว่าน้องรองของตัวเองโมโหขนาดนี้ เฝิงชางก็รู้สึกเชื่อความสามารถของหลินเฟิงขึ้นมาเล็กน้อย เขาจึงรีบถามว่า:“หลินเฟิง ถ้าหากคุณสามารถรักษาอวี้อู่กับหมอเทวดาเลี่ยวจนหายได
เลี่ยวจื้อหมิงอายุเยอะขนาดนี้ ถูกพวกเขาทำแบบนี้ ยังไงก็ต้องอายุสั้นลงสองปี“หลินเฟิง ผมเตือนคุณว่าทางที่ดีอย่างวู่วาม”“ยาพิษนี้แม้แต่หมอเทวดาเลี่ยวก็โดนโดยที่ไม่ระวัง ทางที่ดีนายช่างใจให้ดีเฝิงชางสีหน้าเย็นชา“หึ ไม่ฟังคำเตือนของผม ตอนนี้เสนอตัวออกมาแสร้งเป็นคนดีงั้นเหรอ?”หลินเฟิงไม่ได้มีความรู้สึกดีๆ อะไรต่อผู้นำตระกูลเฝิง เขาสามารถอยู่ที่นี่ได้ เป็นเพราะผลประโยชน์ล้วนๆ“เพียงแค่ผมช่วยเฝิงอวี้อู่ให้รอดได้ คุณก็จะบอกข่าวของหยินหลิงให้กับผมใช่ไหม?”“หยินหลิง?”ผู้นำตระกูลเฝิงนิ่งอึ้ง“ผู้นำตระกูล หยินหลิงก็คือชื่อของผู้นำตระกูลกลุ่มพันธมิตรบู๊”เฝิงเอ้อที่อยู่ข้างๆ รีบพูดขึ้น“......”สีหน้าของเฝิงชางอึดอัดเล็กน้อย ในเมื่อเมื่อครู่เขาบอกตำแหน่งของหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรบู๊ไปแล้ว อยู่ที่เรือนด้านหลังของตระกูลเฝิงของพวกเขาคราวนี้ หัวหน้ากลุ่มพันธมิตรบู๊น่าจะถูกเขาพาตัวไปแล้วเป้าหมายก็เพื่อมอบให้กับผู้อาวุโสของสำนักร้อยพิษต่อให้เป็นแบบนี้ เฝิงชางพยักหน้าพูดว่า:“แต่ตอนนี้บวกกับหมอเทวดาเลี่ยว ในเมื่อคุณสามารถช่วยลูกชายของผมให้รอดได้ งั้นก็ช่วยหมอเทวดาเลี่ยวด้วยคงไม่ยากใช่
“เร็ว! น้องรอง อย่ามัวแต่ยืนอยู่ รีบไปเชิญอาจารย์ของหมอเทวดาเลี่ยว!”“พี่ใหญ่ อาจารย์ของหมอเทวดาเลี่ยวเป็นยอดฝีมือคนไหนกัน เขาไม่ได้พูด พวกเราจะรู้ได้ยังไง?!”เฝิงเอ้อที่ยืนอยู่ตรงประตูก็งุนงงเช่นเดียวกันหมอเทวดาลั่วตายอยู่ที่ตระกูลเฝิงของพวกเขา เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องใหญ่แล้วเฝิงเอ้อรู้ดีเช่นกัน“พี่ใหญ่ เรื่องมาจนถึงตอนนี้แล้ว พี่มอบตัวหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรออกมาอย่างว่าง่ายดีกว่า แบบนี้ผมยังสามารถขอร้องให้ผู้อาวุโสของสำนักร้อยพิษถอนพิษให้ได้ ไม่อย่างนั้น จะไม่ทันการณ์แล้วจริงๆ!”เฝิงหลีใช้โอกาสให้เป็นประโยชน์“ได้...ฉันมอบตัวให้! ฉันมอบให้!”เฝิงชางร้อนใจแล้ว ถ้าหากแค่ลูกชายของเขา งั้นเขายังสามารถสงบสติเลือกที่จะรับหรือไม่รับได้ และคิดถึงอนาคตของตระกูลแต่ชีวิตของหมอเทวดาเลี่ยงกลับไม่สามารถผิดพลาดได้หากเมื่อหมอเทวดาเลี่ยวเสียชีวิต พวกเขาตระกูลเฝิงก็จบสิ้นแล้ว“หึหึ วางใจเถอะพี่ใหญ่ มีผมอยู่ หมอเทวดาเลี่ยวกับหลานอวี้อู่ ไม่มีทางเป็นอันตรายอย่างแน่นอน”เฝิงหลียิ้มอย่างลำพองใจมากที่สุดแผนการของเขาในที่สุดก็สำเร็จแล้วต่อไป ผู้นำตระกูลของตระกูลเฝิงก็จะกลายเป็นเขาเฝิงหลีต
เฝิงอวี้อู่สงบลงแล้วแต่ตอนนี้สีหน้าของเขากลับดูแย่ลงกว่าเดิม ลมหายใจก็เปลี่ยนไปอ่อนแรง ถึงขั้นมีแต่ถอนหายใจ ไม่มีหายใจเข้าผิวทั่วตัวเริ่มคล้ำขึ้น“หมอเทวดาเลี่ยว นี่มันเกิดอะไรขึ้น?!”เฟิงชางวิตกกังวลมากจนไม่รู้จะทำอย่างไร เมื่อครู่ลูกชายของเขาเพิ่งดีขึ้น มันแย่ลงอีกแล้วเหรอ?“ผมดูหน่อย!”หมอเทวดาเลี่ยวถอดเข็มเงินที่เจาะเข้าไปในเส้นลมปราณหลักของเฝิงอวี้อู่ออกโดยตรง ใส่ไว้ในมือแล้วหมุน สีหน้าก็เปลี่ยนไป“หมอเทวดาเลี่ยวเป็นอะไรเหรอครับ?”เฝิงชางขยับเข้ามาถามใกล้ๆ ส่วนเฝิงเอ้อที่อยู่ไกลออกไปกลับเหม่อลอยเล็กน้อยเพราะว่าในตอนนี้จู่ๆ เขาก็นึกถึงคำพูดก่อนหน้านี้ของหลินเฟิงขึ้นมาได้“อย่าลืมบอกหมอเทวาดาเลี่ยว ห้ามใช้มือสัมผัสเข็มเงินโดยตรง พิษนี้ต่อให้โดนแค่ผิวหนัง ก็ติดเชื้อได้อย่างรวดเร็ว”“หมอเทวดาเลี่ยว!”เฟิงเอ้ออดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมา“หือ?”หมอเทวดาเลี่ยวกับเฝิงชางหันหน้ามาส่วนเฟิงเอ้อยังคงยื่นมือออกไป เขาต้องการพูดสิ่งที่หลินเฟิงเตือนไว้ก่อนหน้านี้ แต่ก็ดูไม่เหมาะสมนักหมอเทวดาเลี่ยวไม่รู้ว่ามันมีพิษเหรอ ต้องให้นายเตือนด้วย?สุดท้ายเฝิงเอ้ออ้าปาก แต่สุดท้ายก็ส่ายหน
เขาฝังเข็มโดนใช้ใจอย่างมาก แต่ละเข็มฝังลงไปได้อย่างแม่นยำในที่สุดหลังจากที่หมอเทวดาเลี่ยวฝังเข็มสุดท้ายลงบนหน้าอกของเฝิงอวี้อู่ ความมืดบนใบหน้าของเฝิงอวี้อู่ก็ลดลงอย่างน่าอัศจรรย์แม้แต่ลมหายใจก็มั่นคงขึ้นไม่น้อย“เอ๊ะ?”เมื่อเห็นภาพนี้ เฝิงหลีที่อยู่ไกลออกไปดูตกใจ“นี่คือยาล้างพิษ แม้จะไม่ได้ผลเท่ากับยาของอาจารย์ของผม แต่ก็เป็นแบบจำลองที่วิจัยออกมาโดยศูนย์การแพทย์ตระกูลเลี่ยวของผม”ขณะพูด หมอเทวดาเลี่ยวยัดยาเม็ดสีเหลืองขนาดเท่าลำไยเข้าไปในปากของเฝิงอวี้อู่ยาเม็ดนี้ทานเข้าไปแล้วจะน้ำลายไหล ในสายตาของทุกคน ยาเม็ดนั้นกลายเป็นลูกบอลสีเหลืองไหลลงคอของเฝิงอวี้อู่ทันทีส่วนเฝิงอวี้อู่กลับไอสองครั้งในขณะที่หมดสติใบหน้าก็แดงก่ำอย่างผิดปกติ“ได้ผลจริงๆ ด้วย!”เห็นลูกชายของตัวเองดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เฝิงชางตื่นเต้นมากจนเขาคุกเข่าให้หมอเทวดาเลี่ยวทันที“ไม่เสียแรงที่เป็นหมอเทวดาเลี่ยว ก่อนหน้านี้คุณถ่อมตัวเกินไปแล้วจริงๆ!”เฝิงชางเห็นภาพนี้ คิดว่าลูกชายของตัวเองรอดแล้ว เมื่อครู่เป็นแค่คำถ่อมตัวของหมอเทวดาเลี่ยวและในตอนนี้หมอเทวดาเลี่ยวก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกันเพราะวิธีการที่