ในห้องชั้นสามเซียวเย่หลันเพิ่งเดินตรงเข้ามาข้างใน เขาเงยหน้าขึ้นมองพบฉางหย่วนป๋อที่นั่งอยู่ข้างกายอันติ้งโหว เขาเผยอมุมปากยิ้มเล็กน้อยเป็นไปตามที่เขาคิดไว้จริงๆ "คารวะท่านอ๋อง" ทุกคนลุกขึ้นยืนแล้วโค้งกายคำนับเซียวเย่หลันเดินตรงไปยังตำแหน่งที่นั่งหลัก "เชิญนั่งเถิด"มีชายสี่คนนั่งอยู่ก่อนหน้า นอกจากอันติ้งโหวและฉางหย่วนป๋อแล้ว ก็มีบุตรชายของพวกเขาอีกคนละคนไม่ทันให้อันติ้งโหวที่นั่งทำหน้าเคร่งขรึมเอ่ยปาก ฉางหย่วนป๋อก็ยิ้มขึ้นก่อนว่า "เดิมทีสุราในวันนี้ ข้าต้องการดื่มเพื่อเอ่ยขอโทษจ้านอ๋อง แต่เกรงว่า ท่านอ๋องจะไม่ยินยอมเดินทางมา ดังนั้นจึงได้ใช้ชื่อของสหายในการเชิญชวน ขอท่านอ๋องโปรดให้อภัยเถิด" เขารีบลุกขึ้นยืน แล้วรินสุราให้แก่เซียวเย่หลันสายตาอันเย็นชาของเซียวเย่หลันมองไปที่แก้วสุรานั้น "ข้ารู้ว่าอาหารมื้อนี้ไม่ได้เป็นความคิดริเริ่มมาจากท่านพ่อตา" "หืม?" ฉางหย่วนป๋อชะงักลงเซียวเย่หลันก้มหน้าลงเล็กน้อย แววตาเต็มไปด้วยความเย็นชา "ห้องที่ท่านเลือกนี้เคยเป็นห้องของอวี้เออร์มาก่อน ท่านพ่อตาคงไม่เชิญขามาดื่มสุราที่ห้องนี้แน่" แม้แต่สุรานี้ก็เคยเป็นสุราที่ซูอวี้เออร์กล
“ท่านอ๋อง ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ อย่าเพิ่งรีบร้อนใจไปไหน พวกเรายอมรับว่าละเลยไปเล็กน้อย ท่านอยู่ดื่มต่ออีกสักหน่อยเถิด”สองพ่อลูกฉางหย่วนป๋อเข้าไปล้อมหน้าล้อมหลังเซียวเย่หลันไว้ แทบจะคุกเข่าร้องขอจู่ๆ เซียวเย่หลันก็หันหลังกลับเข้าไปในห้องพวกเขาดีอกดีใจยิ่งนัก แล้วรีบต้อนรับเซียวเย่หลันเข้าห้อง“เหอะๆ ดูเหมือนว่าท่านอ๋องจะเสียดายสุราที่แม่นางซูกลั่นเองกับมือนี้สินะ” เซี่ยเหยียนจับถ้วยสุราสีขาวในมือของตนลูบเบาๆ แล้วยิ้มเยาะ“หุบปากเสีย”อันติ้งโหวจ้องบุตรชายตาเขม็ง”เซี่ยเหยียนผู้เอาแต่ใจ เขาไม่เคยเชื่อฟังคำพ่อแม่อยู่แล้ว จึงได้เชิดหน้ากล่าวว่า “น่าสงสารน้องสาวผู้อ่อนโยนของข้าเหลือเกิน ต้องอยู่ในจวนอ๋องโดดเดี่ยวเดียวดายเพียงลำพัง ไม่รู้ว่าได้กินอาหารเย็นหรือยัง บัดนี้นางจะหิวโหยหรือไม่”“น้องสาวของเจ้ากับคำว่าอ่อนโยน ไม่เชื่อมโยงกันแต่อย่างใด” เซียวเย่หลันตอบด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นเซี่ยเหยียนจึงหุบปากลงเขาพยายามที่สุดแล้วหากน้องเขยคนนี้ของเขาแกล้งทำเป็นฟังไม่เข้าใจสิ่งที่เขาต้องการสื่อออกมา ในตอนท้ายหากตกหลุมพรางฉางหย่วนป๋อ ก็ถือว่ารนหาที่เอง......ในขณะเดียวกันเซี่ยเชียนฮวัน
“ข้าไม่สนิทกับนาง มีเพียงเจ้าของหอแห่งนี้ที่รู้ว่านางเป็นใคร”สตรีชุดเขียวดูเหมือนไม่อยากกล่าวถึงซูอวี้เออร์เท่าไรนักสตรีอีกนางหนึ่งกระซิบว่า “ก่อนหน้านี้พี่ชิงเคยแย่งชิงตำแหน่งนางคณิกากับซูอวี้เออร์ แต่นางพ่ายแพ้”เซี่ยเชียนฮวันพยักหน้าจากนั้นนางก็รินสุราให้สตรีทั้งหลายไม่หยุด ในที่สุดพวกนางก็หลับคาโต๊ะด้วยความเมาเมื่อได้ฟังเรื่องราวจากแม่นางทั้งหลายแล้ว เซี่ยเชียนฮวันจึงมั่นใจได้ว่าพวกเซียวเย่หลันอยู่ที่ห้องด้านล่างที่เคยเป็นห้องของซูอวี้เออร์อย่างแน่นอน!นางมุ่งหน้าไปที่ชั้นสามอีกครั้งนางเดินไปรอบๆ เพื่อหาเบาะแสและขณะที่เซี่ยเชียนฮวันกำลังจะเดินไปยังห้องท้ายสุดตรงระเบียงทางเดิน นางพบว่าทุกห้องไม่ได้จุดไฟ มีเพียงห้องตรงกลางเท่านั้นที่มีแสงเทียนส่องออกมาอย่างโดดเด่นเซี่ยเชียนฮวันอ้อมไปบริเวณหน้าต่างของห้องนั้นเงียบๆ แล้วย่อตัวลงเพื่อแอบฟัง"ทำไมท่านพ่อถึงได้ช้านัก..." "เอาเถิดนะ เจ้าอดใจรอสักหน่อย..." เป็นน้ำเสียงของน้าเซี่ยและหลิวหรูซวี่!เซี่ยเชียนฮวันจึงได้เงี่ยหูฟังในไม่ช้า นางก็ได้ยินแผนการคร่าวๆ ของจวนฉางหย่วนป๋อพวกเขาใส่ของบางอย่างลงไปในสุรากุ้ยฮัว ต่อใ
"เจ้า เจ้าอย่าได้เข้ามา เจ้าคือเซียวเย่หลันจริงหรือ?"เซี่ยเชียนฮวันถอยหลังออกไปนางเองก็ยังไม่แน่ใจนักชายหนุ่มที่ร่างกายเต็มไปด้วยกลิ่นของสุราเดินโซซัดโซเซเข้ามา ดูไม่เหมือนกับเซียวเย่หลันตามปกติ ที่มักแฝงไปด้วยความดุดันอาฆาตน้ำเสียงของเขาดูแหบแห้งต่ำทุ้มเนื่องจากฤทธิ์ของสุรา"ทำไมหรือ จำสามีตัวเองไม่ได้?" เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงดูผ่อนคลาย"เจ้ากำลังพูดเรื่องน่าขันอันใด ข้าเป็นชายจะมีสามีได้อย่างไร" เซี่ยเชียนฮวันหัวเราะออกมาด้านหลังของนางคือชั้นวางของ นางหนีไปไหนไม่ได้อีกชายหนุ่มยกมือข้างขวาขึ้นพิงไปที่ตู้ด้านหลังของนางแล้วก้มหน้าลงมอง "ไม่เป็นไร ในไม่ช้าเจ้าจะนึกขึ้นได้เอง"เมื่อเซี่ยเชียนฮวันสัมผัสได้ถึงแววตาอันน่ากลัวเหมือนสัตว์อันดุร้ายที่อยู่ด้านบนศีรษะนาง นางก็แน่ใจถึงตัวตนของชายผู้นี้ได้ทันทีเป็นเซียวเย่หลันจริงๆ !"เป็นไปไม่ได้ เจ้า เจ้าจะเข้ามาห้องนี้ได้อย่างไร ข้าสลับหมายเลขห้องไว้แล้ว เจ้าควรจะถูกบุตรชายฉางหย่วนป๋อหามเข้าไปในห้องเทียนจื้อหมายเลขหนึ่งจึงจะถูก" เซี่ยเชียนฮวันไม่เข้าใจจริงๆ มือทั้งสองข้างของนางปฏิเสธวุ่นวาย ไม่รู้ว่าจะคัดค้านเช่นไรเซียวเย่หล
ประโยคนี้ทำให้เซี่ยเชียนฮวันหัวใจเต้นรัวเขาคงไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นใช่หรือไม่?“ที่นี่ไม่มีวัสดุปรุงยา ข้าไม่อาจปรุงยาแก้ดับร้อนให้เจ้าได้" นางกล่าวด้วยความระมัดระวังเซี่ยเชียนฮวันหวังว่าตนจะคิดผิดไปจากนั้นน้ำเสียงของเซียวเย่หลันกลับดูเร่าร้อนจนน่าตกใจ ใครได้ยินก็ล้วนไม่อาจปฏิเสธได้ "ขึ้นเตียง""ข้าไม่!" เซียวเย่หลันไม่พูดพร่ำทำเพลง รีบคว้าตัวนางขึ้นมาแล้วเดินตรงไปที่เตียง"หากเจ้าจะระบายความร้อนรุ่ม ก็ไปหาหลิวหรูซวี่ที่ห้องข้างเถอะ นางกำลังรอเจ้าอยู่!" เซี่ยเชียนฮวันพูดด้วยน้ำเสียงสั่นคลอนจะร้องไห้"นางน่าเกลียดเกินไป" "ก่อนหน้านี้เจ้าก็บอกว่าข้าน่าเกลียดไม่ใช่หรือ?" "เจ้าดีกว่านางเล็กน้อย" ระหว่างที่สนทนากันอยู่นั้น เซียวเย่หลันได้วางร่างของเซี่ยเชียนฮวันลงเบาๆ เดิมทีเซี่ยเชียนฮวันคิดว่าเมื่อชายหนุ่มผู้นี้ดื่มสุราจนเมามาย ไม่ว่าทำสิ่งใดเขาก็จะไม่รู้จักหนักเบา คาดไม่ถึงว่าท่าทางของเขาจะละเอียดอ่อนอ่อนโยนไม่แข็งกระด้างเลยนางนั่งอยู่บนเตียงอันอ่อนนุ่ม อาศัยแสงไฟจากด้านนอกหน้าต่าง ในที่สุดก็มองเห็นใบหน้าของชายหนุ่มชัดเจนบัดนี้แววตาของเขา มองไปช่างอ่อนโยนเหลือเ
"กรี๊ด!!" เสียงกรีดร้องอันแหลมคมดังขึ้นจากด้านนอกประตู ทำลายความเงียบสงบนี้จากนั้นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าอันวุ่นวายดังขึ้น"ดูเหมือนจะเกิดเรื่องขึ้น" “......”เซี่ยเชียนฮวันรู้สึกทำตัวไม่ถูก นางเคลื่อนไหวไปมาแล้วหดตัวไปอยู่ตรงมุมของเตียงทางด้านของเซียวเย่หลันก็ยังไม่สร่างเมานัก เขายกมือขึ้นกุมหน้าผากกล่าวอย่างช้าๆ ว่า “คงจะเป็นฉางหย่วนป๋อพาคนไปจับตัวข้า ไม่จำเป็นต้องสนใจ" "แต่ข้าฟังดูน้ำเสียงผิดปกติ" เซี่ยเชียนฮวันตั้งใจฟังเมื่อนางรวบรวมสติขึ้นมาได้แล้วก็รู้สึกว่าเรื่องราวดูเหมือนจะมีขั้นตอนใดผิดพลาดเกิดขึ้น"เมื่อครู่ เหตุใดเจ้าจึงมาที่ห้องของข้าแห่งนี้?" นางเอ่ยถามเซียวเย่หลันเต็มไปด้วยอารมณ์ความต้องการ แต่ถูกนางผลักไปมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า จึงตอบอย่างไม่เต็มใจนักว่า "ข้าคิดว่าที่นี่ไม่มีใคร" "แต่เมื่อเจ้าผลักประตูเข้ามาก็รู้ว่าข้างในมีคน ซ้ำยังยืนกรานจะเข้ามาให้ได้" "ข้าได้กลิ่นหอมของยาจากตัวเจ้า" "จมูกเจ้าดียิ่งนัก" "......" เซียวเย่หลันหรี่ตาลง ท่าทีดูหงุดหงิดใจเขาไม่อยากตอบนางไม่อยากให้สตรีคนนี้รู้ว่าเขาจำกลิ่นจากร่างกายของนางได้เซี่ยเชียนฮวันครุ่นคิดเล็ก
เซี่ยเชียนฮวันรีบวิ่งไปที่ริมหน้าต่าง แต่ก็ไม่ทันที่จะจับอีกฝ่ายเอาไว้ได้นางได้ยินเสียงเพียง "ตุ๊บ" ดูเหมือนมีอะไรบางอย่างหล่นลงมาจากร่างของคนผู้นั้น เซี่ยเชียนฮวันหยิบขึ้นมาดูพบว่าเป็นปิ่นหยกขาวลายดอกเหมยเป็นของของซูอวี้เออร์เป็นนางจริงด้วย!ซูอวี้เออร์มีสหายคนสนิทมากมายอยู่ในหอเทียนเซียง นางคงจะรู้แผนการของฉางหย่วนป๋อล่วงหน้า จึงได้แอบเข้ามาที่หอเทียนเซียง ก่อนจะนำหลิวหรูซวี่ไปวางไว้บนเตียงของคนขับรถม้า ส่วนนางเองจะเข้ามาแทนที่ร่วมเสพสมอารมณ์กามกับเซียวเย่หลันหากตอนนี้สามารถวิ่งตามซูอวี้เออร์ไปได้ ก็จะมีหลักฐานมัดตัวแน่นหนาต่อให้เซียวเย่หลันโง่เขลาสักเพียงใดก็คงมองนิสัยอันชั่วร้ายของนางออกจนได้"เขาใกล้จะตายแล้ว!"ทันใดนั้นเองก็มีเสียงตะโกนของฝูงชนดังมาจากด้านนอกเซี่ยเชียนฮวันอดไม่ได้ที่จะลังเลหากนางวิ่งตามซูอวี้เออร์ไป แล้วใครจะไปช่วยหลิวหรูซวี่กับคนขับรถม้าเล่าสองชีวิตเชียวเซี่ยเชียนฮวันกำมือเล็กน้อย นางละความพยายามจะวิ่งไล่ตามซูอวี้เออร์ หันหลังกลับไปที่ห้องของหลิวหรูซวี่"เจ้าคิดจะทำสิ่งใด อย่าเข้ามา!" บ่าวรับใช้ของฉางหย่วนป๋อเข้ามารั้งเซี่ยเชียนฮวันไว้ด้ว
"เจ้าเป็นสตรีกลับแต่งกายเป็นชายมาที่นี่ ข้าก็รู้สึกประหลาดมากพอแล้ว บัดนี้เจ้ายังจงใจดึงดูดให้ทุกคนมาดูความน่าอับอายของซวี่เออร์ เซี่ยเชียนฮวัน เจ้าคงจะกลัวว่าตนไม่ได้รับความโปรดปราน กลัวว่าหากซวี่เออร์แต่งเข้าไปในจวนอ๋องแล้วจะมีผลกระทบต่อตำแหน่งของเจ้าสินะ!" น้าเซี่ยกล่าวขึ้นอย่างมีเหตุมีผลราวกับว่านางและหลิวหรูซวี่คือเหยื่อที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสา ทุกสิ่งทุกอย่างนี้เป็นแผนการของเซี่ยเชียนฮวันผู้คนที่ยืนอยู่ข้างนอกประตูอดไม่ได้ที่จะมองมาทางเซี่ยเชียนฮวันพวกเขารู้สึกว่าฉางหย่วนป๋อกล่าวได้สมเหตุสมผลสตรีคนหนึ่ง จู่ๆ จะปลอมตัวเป็นชายเข้ามาในสถานที่แห่งนี้เพื่อเหตุใด?อีกอย่างจ้านอ๋องไม่ชื่นชอบพระชายาผู้นี้ เป็นเรื่องที่ทุกคนในเมืองหลวงล้วนรู้ดีเมื่อน้าเซี่ยตะโกนออกมาแล้ว นางก็ร่ำไห้ปาดน้ำตา "เจ้าคงจะซื้อตัวคนขับรถม้าผู้นี้แน่ และสั่งให้เขาหลอกล่อซวี่เออร์มาที่นี่ ซวี่เออร์ผู้น่าสงสารของแม่ต้องทนทุกข์ทรมานเช่นนี้ เพราะความอิจฉาริษยาของคนอื่น..." สตรีในหอนางโลมและแขกที่มาที่นี่ล้วนพากันวิพากษ์วิจารณ์"เป็นแผนของพระชายาจ้านอ๋องจริงหรือ" “จู่ๆ นางก็ปรากฏตัวขึ้นที่หอเทียนเซียง