ซูหรานตกใจมากจนเผลอสบถคำหยาบออกมาแม้ว่าเสียงจะเบามาก แต่เสิ่นเหยี่ยนและเย่ถิงเซินที่อยู่ข้าง ๆ ก็ยังได้ยิน“แค่ก ๆ ...... ”“แค่ก ๆ ...... ”หลังจากที่ทั้งสองคนดูตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ต่างก็ก็พากันยกมือขึ้นมาปิดปาก จากนั้นก็ยิ้มอ่อน ๆ เพื่อช่วยซูหรานกลบเกลื่อนในเวลานี้ ซูหรานเห็นเพียงเลขสิบหลักที่ยาวเป็นหางว่าวแม้ว่าเธอจะเป็นลูกสาวคนโตของซิงหลานจิวเวลรี่ แต่ตั้งแต่เธอเรียนจบ เธอก็ไม่เคยขอเงินที่บ้านเลยสักบาทก่อนหน้านี้หลังจากที่เธอจ่ายค่าใช้จ่ายให้กับสามีตัวพ่อของเธอไป บัตรธนาคารของเธอก็ไม่เคยมีเงินเข้าอีกเลยในเวลานี้ เงินจำนวนสองพันห้าร้อยล้านอันมหาศาลนี้ ซูหรานแทบจะกรีดร้องออกมาด้วยความตื่นเต้นการแสดงออกเล็ก ๆ นั่น เย่ถิงเซินก็กำลังมองอยู่ แววตาของเขาดูเหมือนจะอ่อนโยนขึ้น “คุณซูไม่อยากพูดอะไรหน่อยเหรอครับ? ”ด้วยการเตือนนี้ ซูหรานก็กลับมามีสติอีกครั้ง และเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าทุกคนกำลังมองมาที่เธออยู่ซูหรานยิ้มแห้ง ๆ และยกโทรศัพท์ในมือขึ้น “เงิน......เยอะมาก ฉัน......ชอบมากค่ะ! ”ทุกคน......เงินตั้งสองพันห้าร้อยล้าน ใครบ้างล่ะจะไม่ชอบ!“ฮึ...... ”ในสวนด้านหลัง ต่
“น่าเสียดายที่มีแค่ผมฝ่ายเดียวที่ชอบเธอ แต่การปฏิบัติที่คุณซูมีต่อผม......” เย่ถิงเซินเลิกคิ้วด้วยความผิดหวังผู้คนต่างก็ตกอยู่ในความโกลาหลไม่น่าแปลกใจเลยที่สายตาของคุณชายใหญ่เย่เมื่อครู่นี้ที่มองไปยังซูหรานจะเต็มไปด้วยความรักที่แท้ คุณชายใหญ่เย่ก็เป็นฝ่ายที่แอบชอบซูหรานงั้นเหรอ?“โอ้พระเจ้า! นี่มันความรักลับ ๆ อะไรกันเนี่ย ชาติที่แล้วคุณซูคงเคยช่วยกอบกู้โลกมาแน่เลย...... ”“คุณชายใหญ่เย่ทั้งหล่อและรวย นอกจากคุณชายสามฟู่แห่งจิงเฉิงแล้ว ใครจะกล้าทัดเทียมด้วยกัน? นี่คุณซูยังไม่ชอบเขาอีกงั้นเหรอ? ”“หรือคนที่คุณซูชอบจะเป็นคุณชายสามฟู่? ”คำพูดถกเถียงกันก็โพล่งออกมาจากฝูงชนณ สวนด้านหลัง ฟู่จิ้นหานกำลังจ้องมองเย่ถิงเซินที่อยู่ในวิลล่าผ่านความมืดด้วยแววตาที่ลึกล้ำทันใดนั้นก็ได้ยินคำพูดที่ว่า [หรือคนที่คุณซูชอบคือคุณชายสามฟู่] แววตาของฟู่จิ้นหานก็เป็นประกายทันทีแต่ครู่ต่อมา ซูหรานก็สาดน้ำเย็นใส่หน้าเขาอีกครั้ง เพื่อดับเปลวไฟแห่งความหวัง “เปล่า เปล่านะ ฉันไม่ได้ชอบคุณชายสามฟู่! ” ท่าทีของซูหรานดูจริงจังอย่างมากเดิมทีเพราะ “คำสารภาพ” ของเย่ถิงเซินก็ทำให้เธอไปไม่เป็นอยู่แล้วแต
ลู่ซิวหนิงรู้สึกตื่นเต้นมากไม่นาน เขาก็ถูกพาไปที่สวนด้านหลังภายในความมืด สีหน้าของฟู่จิ้นหานมืดมนจนหาที่เปรียบไม่ได้ลู่ซิวหนิงคิดว่า ในที่สุดฟู่จิ้นหานก็จะได้เห็นธาตุแท้ของซูหรานแล้ว จากนั้นเขาก็สุมไฟลงในคำพูดเข้าไปอีก “อาสามครับ อาก็เห็นแล้ว ซูหรานก็เป็นผู้หญิงแบบนี้ เธอไม่คู่ควรให้อาสามชายตามองเลยด้วยซ้ำ! ”“แล้วเธอเป็นผู้หญิงแบบไหนกัน? ” น้ำเสียงของฟู่จิ้นหานทุ้มต่ำและเย็นชาลู่ซิวหนิงจึงรีบพูดให้ร้ายซูหราน ให้เธอดูแย่ลงกว่าเดิม“เธอเคยเป็นคู่หมั้นของผม เพื่อที่จะทำร้ายผม เธอเลยหนีไปคบกับไอ้โง่คนหนึ่ง แถมยังแต่งงานกับไอ้บ้านั่นแล้วด้วย ตอนนี้เธอพยายามเข้าใกล้อาสามกับคุณชายใหญ่เย่ ก็เพื่อที่จะหลอกเอาเงินไปเลี้ยงไอ้หน้าขาวนั่น! ”ฟู่จิ้นหาน “......”ไอ้โง่งั้นเหรอ?การที่ซูหรานทุ่มเงินใส่เขา เขากลับรู้สึกว่าตัวเองเป็นพนักงานพิเศษที่เป็นมืออาชีพจริง ๆมุมปากของฟู่จิ้นหานยกขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวลู่ซิวหนิงไม่ได้สังเกตสีหน้าของเขาเมื่อนึกถึงเรื่องที่เมื่อกี้ซูหรานเพิ่งจะได้เงินสองพันห้าร้อยล้านมา ลู่ซิวหนิงก็รู้สึกอิจฉาอย่างอธิบายไม่ถูก“อาสาม อย่าถูกเธอหลอกเอาได้นะครับ เครื
เธอที่ปฏิบัติต่อเขาในฐานะคุณชายสามฟู่ราวกับว่าเขาเป็นสัตว์ร้าย และพยายามหลีกเลี่ยงเขาแต่เธอที่ปฏิบัติต่อเขาในฐานะ “สามี” กลับมีรอยยิ้มที่สดใสมาก!ในใจฟู่จิ้นหานรู้สึกไม่พอใจอยู่นิดหน่อย“ฮัลโหล? ” ซูหรานเหลือบมองที่โทรศัพท์โทรศัพท์ยังค้างสายเอาไว้อยู่ แล้วทำไมสามีตัวพ่อถึงไม่พูดอะไรเลยล่ะ?ทันทีที่ฟู่จิ้นหานเรียกสติกลับคืนมา เขาก็พูดออกไปด้วยอารมณ์หงุดหงิดว่า “ผมมารับคุณกลับบ้าน อีกสองนาทีให้หลัง เจอกันที่ประตู! ”หลังจากพูดจบ เขาก็วางสายทันทีซูหราน “......”น้ำเสียงที่ฟังดูรำคาญนี่......เธอไปทำอะไรให้เขาโกรธกันแน่นะ?......เย่ถิงเซินมีธุระ จึงขอตัวไปก่อนเสิ่นเหยี่ยนเป็นคนส่งเธอออกไปด้านนอกวิลล่า ฟู่จิ้นหานยืนอยู่ข้างรถธรรมดา ๆ คันหนึ่ง โดยหันหลังให้วิลล่าจู่ ๆ หัวใจของซูหรานก็ตึงเครียด เมื่อเธอเห็นร่างนั้นจากทางด้านหลังคุณชายสามฟู่เหรอ?แต่เมื่อชายคนนั้นหันกลับมา เมื่อซูหรานเห็นใบหน้าที่หล่อเหลาของสามี เธอก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ฟู่จิ้นหานเหลือบมองไปยังเสิ่นเหยี่ยนที่อยู่ข้าง ๆ จากนั้นก็ก้าวเท้ายาว ๆ ไปคว้ามือของซูหราน“รุ่นพี่คะ ไว้เจอ...... ”ก่อนที่ซูหรา
ซูอินร้องไห้อย่างน่าสงสาร และจงใจไม่พูดเหตุผลซูจี้ไห่และซุนฉินถามซ้ำแล้วซ้ำอีก ซูอินถึงได้เปิดปากพูดด้วยน้ำเสียงสะอื้นออกไปว่า“ดูเหมือนว่าคุณหญิงย่าลู่จะไม่ชอบฉัน ต้องโทษที่ฉันไม่ใช่พี่สาว ไม่สามารถสืบทอดซิงหลานจิวเวลรี่ได้ ต่อให้จะแต่งกับพี่ซิวหนิง ก็ช่วยเหลืออะไรไม่ได้อยู่ดี! ”ซูอินรู้สึกเสียใจมาก ราวกับว่าเธอถูกตระกูลลู่ทำให้รู้สึกไม่เป็นธรรมซุนฉินกอดซูอินอย่างเศร้าโศก และร้องไห้ไปตาม ๆ กัน“ต้องโทษที่แม่ไร้ความสามารถ เดิมทีลูกก็เป็นลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อลูก แต่หลายปีมานี้ลูกกลับถูกโลกภายนอกมองว่าเป็นแค่ลูกเลี้ยง นี่ขนาดลูกจะแต่งงานแล้วยังถูกทำให้รู้สึกไม่เป็นธรรมอยู่อีก แบบนี้จะทำยังไง? ไม่งั้นพวกเราก็ไม่ต้องแต่งมันแล้ว...... ”“แต่......แต่ว่าหนูหมั้นหมายกับพี่ซิวหนิงไปแล้วนะคะ ถ้าหากจะถอนหมั้น ความน่าเชื่อถือของตระกูลซูและพ่อก็จะถูกทำลายลงไปด้วยนะคะ”ซูอินร้องไห้หนักยิ่งกว่าเดิมดวงตาของซูจี้ไห่มืดมนจนไม่อยากที่จะเอ่ยคำใดออกมาอินอินได้รับความทุกข์ทรมานมากเกินไป!ซิงหลานจิวเวลรี่คือสิ่งที่เย่ซิงหลานเหลือเอาไว้ให้ ทันทีที่ซูหรานแต่งงาน เธอก็จะได้เป็นผู้สืบทอดทันที!ก่อน
เด็กฝึกงานยังไม่ทันได้พูดอะไรหลินเยว่เยว่ก็เดินเข้ามาด้วยใบหน้าภูมิใจ และส่งจดหมายลาออกให้กับซูหราน“พี่หรานหราน ยินดีด้วยนะคะ ที่พี่สืบทอดมรดกจากคุณแม่ได้สำเร็จ! ”“วันนี้ฉันตั้งใจมาที่นี่เป็นพิเศษ เห็นแก่มิตรภาพที่ยาวนานของพวกเรา ฉันก็เลยขอลาออกด้วยตนเอง! ”“อ่อ จริงสิ เมื่อกี้พี่ถามพวกเขาไม่ใช่เหรอคะ ว่าคนไปไหนกันหมด? พี่ลองไปดูที่กล่องเมลบริษัทก็น่าจะรู้แล้วนะคะ! ”ซูหรานเปิดกล่องเมลดูข้อความที่ถูกส่งเข้ามาแต่ละฉบับ ต่างก็เป็นจดหมายลาออกทั้งสิ้น“ตำแหน่งสำคัญของบริษัทต่างก็ลาออกกันหมด เหลือไว้แค่เด็กฝึกงานที่แทบไม่รู้อะไรเลย ซูหราน เธอคิดว่าซิงหลานจิวเวลรี่ยังจะไปต่อได้อีกนานแค่ไหน? ฮึ ๆ ๆ ๆ ...... ”“เธอคิดว่าคุณลุงเต็มใจที่จะยกซิงหลานจิวเวลรี่ให้กับเธอจริง ๆ น่ะเหรอ? ”หลินเยว่เยว่หัวเราะออกมาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้นต่อให้ซูหรานได้เป็นผู้สืบทอดซิงหลานจิวเวลรี่จริง ๆ แล้วยังไง?ซิงหลานจิวเวลรี่ที่มีแค่เธอคนเดียว จะไปต่อได้สักกี่น้ำ?หลินเยว่เยว่หัวเราะด้วยความสะใจก่อนที่จะเดินออกไปในสำนักงานที่ใหญ่ขนาดนี้ แต่กลับว่างเปล่า เหลือเพียงแค่เด็กฝึกงานไม่กี่ค
บริษัทที่มีสมาชิกห้าคน ซูหรานได้ทำการประกาศรับสมัครพนักงานเพิ่มทันทีและในขณะเดียวกันนี้เอง ในอาคารสำนักงานที่อยู่ตรงข้ามกับตึกไป๋ลี่ ซูจี้ไห่ก็กำลังนั่งอยู่ในห้องทำงานพื้นที่สำนักงานตรงชั้นหนึ่ง ต่างก็เป็นพนักงานหน้าเก่าที่เคยทำงานกับซิงหลานซูอินมองไปยังป้ายชื่อของบริษัท“อ้ายอินจิวเวลรี่” เป็นสามสี่คำที่ค่อนข้างเด่นชัดเป็นพิเศษซูอินเต็มไปด้วยความประหลาดใจที่แท้พ่อของเธอก็ได้แอบจัดการเอาไว้ก่อนแล้ว เขาได้เปิดร้านจิวเวลรี่ขึ้นมา จากนั้นก็ดำเนินกิจการมาแบบเรียบง่ายและในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทรัพยากรจำนวนนับไม่ถ้วนที่ซื้อผ่านซิงหลานจิวเวลรี่ ถูกดำเนินการโดยพ่อของเธอ ดังนั้นของส่วนใหญ่ถึงมากองรวมกันอยู่ที่นี่หมดแล้ว!ฮึ!ซูหรานได้สืบทอดซิงหลานจิวเวลรี่แล้วยังไง?ในเวลานี้ ซิงหลานจิวเวลรี่ก็มีแค่เปลือกเท่านั้น!ซูอินอยากที่จะเห็นสภาพของซูหรานตอนนี้เสียจริง เธอเชื่อว่าการแสดงออกของเธอจะต้องน่าตื่นเต้นมากแน่ ๆ!แต่ในความเป็นจริง ซูอินยังคงดูกังวลเกี่ยวกับซูหรานมาก “พ่อคะ ถ้าพี่สาวรู้เรื่องเกี่ยวกับบริษัทนี้ล่ะคะ...... ”ไม่รอให้เธอพูดจบ ซูจี้ไห่ก็หัวเราะเยาะออกมาเพื่อตัดบทพูด
เมื่อคุณหญิงได้ยินดังนั้น เธอก็ตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด“เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ใช่ของปลอม! ”ซูจี้ไห่บอกเธออย่างชัดเจน ว่าชุดเครื่องประดับที่มอบให้เธอนั้นเป็นของปลอมทั้งหมดเป็นไปไม่ได้ที่ซูจี้ไห่จะหลอกเธอ!ซูหรานเห็นปฏิกิริยาของผู้หญิงคนนั้นในดวงตาของเธอ “ตกลงแล้วมันจริงหรือปลอม เราเชิญผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบก็น่าจะกระจ่างแล้วนี่คะ? หรือว่าคุณกลัวการตรวจสอบ? ”“ใครกลัวกันล่ะ? จะตรวจก็ตรวจสิ! ”คุณหญิงเหลือบมองซูหรานอย่างมั่นใจราวกับกังวลว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อะไรอยู่ จากนั้นคุณหญิงจึงสั่งให้บอดี้การ์ดรวบรวมเครื่องประดับพวกนั้นพร้อมกับสัญญาสั่งทำขึ้นมาทันที“เอาแบบนี้นะคะ เพื่อความเป็นธรรม ทั้งคุณและฉันต่างฝ่ายต่างเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านการประเมินมาด้วยตนเอง จากนั้นสองวันให้หลัง พวกเราเจอกันที่โรงแรมไห่เฉิง แล้วพวกเรามาตรวจสอบด้วยกันนะคะ! ” ซูหรานกล่าวเสนอแนะออกไปรอยยิ้มตรงมุมปากของเธอ ทำให้คุณหญิงรู้สึกผิดอย่างอธิบายไม่ถูกแต่หลังจากที่คุณหญิงคิดไปคิดมาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็ดูเหมือนจะไม่ได้มีลูกไม้อะไรซ่อนอยู่“ได้”หลังจากที่คุณหญิงตอบตกลงแล้ว เธอก็เดินออกไปพร้อมเครื่องประดับเธอ
คิดจะใช้มุกนี้อีกแล้วเหรอ?ตีเธอหรือด่าเธองั้นเหรอ?ในเมื่อเธอขอมาแบบนี้ เช่นนั้นเธอก็จะสนองความต้องการให้เธอได้สมใจเอง!“เธอ......” มานี่ซูหรานยังพูดไม่ทันจบ ฟู่จิ้นหานก็ได้ส่งสัญญาณให้ฉินฟั่งเสียก่อนเรื่องทำร้ายคนแบบนี้ ทำไมต้องให้ซูหรานเป็นคนลงมือด้วยตัวกันล่ะ?ฉินฟั่งก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ในช่วงเวลาอันรวดเร็วนั้น เขาก็ได้ตบหน้าซูอินไปหนึ่งทีเสียงเพี๊ยะดังขึ้น ไม่มีความปรานีใด ๆ ซูอินเดินเซจนแทบล้ม ยากที่จะทรงตัวเอาไว้ได้ ในหัวขาวโพลนไปหมด เหลือเพียงเสียงหึ่ง ๆ เท่านั้นใครกัน......ที่กล้าทำร้ายเธอได้ถึงขนาดนี้? !ทันทีที่ซูอินได้สติกลับมา เธอจึงมองไปที่ฉินฟั่งด้วยความโกรธฉินฟั่งได้รับการฝึกฝนมา เขาได้ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งที่บริษัทชิงอวิ๋น แถมยังได้รับอิทธิพลจากฟูจิ้นหานที่มีความเด็ดขาดในการต่อสู้อีกด้วย เพียงแค่สายตาเดียว ความกดดันของซูอินก็ถูกลดทอนลงไปทันทีแต่จะให้ซูอินยอมได้อย่างไร?เธอเป็นถึงหลานสาวแท้ ๆ ของตระกูลเย่ ฉินฟั่งคนนี้......ก็เป็นแค่สุนัขรับใช้ข้างกายฟู่จิ้นหานเท่านั้นต่อให้การตบเธอจะเป็นความต้องการของฟู่จิ้นหาน แต่มีคนมากมายอยู่ด้วยขนาดนี้ ห
ไม่จำเป็นต้องแก้ไขพินัยกรรมงั้นเหรอ?ซูอินดีใจมาก รู้สึกเหมือนได้รับความมั่นใจมากขึ้นแน่นอนว่าขอแค่เธอยังเป็นลูกสาวของฉินเหยียนอยู่ คุณท่านเย่ก็จะเห็นแก่หน้าฉินเหยียน และยอมรับทุกอย่างที่เป็นเธอครั้งนี้ ไม่ว่าคุณท่านเย่จะรอดมาด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่ไม่ว่ายังไงพินัยกรรมของคุณท่าน เมื่อกี้ทุกคนต่างก็ได้ยินอย่างชัดเจนกันหมดแล้วคุณท่านเย่ได้มอบทุกอย่างของตระกูลเย่ให้กับเธอ แม้ว่าวันนี้เธอจะยังไม่ได้รับช่วงต่อจากตระกูลเย่ แต่เธอก็ยังเป็นผู้สืบทอดเพียงคนเดียวอยู่ส่วนคนพวกนี้......ซูอินรู้สึกไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่เมื่อนึกถึงวิดีโอเมื่อกี้แล้ว ซูอินจึงหันไปมองซูหรานที่อยู่ข้าง ๆ คุณท่านเย่ทันทีในตอนนี้ เธอไม่มีเวลามามัวคิดว่าคลิปวิดีโอนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ คือการใช้ประโยชน์จากอำนาจเสียงของคุณท่าน เพื่อช่วยลบข้อครหาและปฏิเสธว่าคนในคลิปไม่ใช่เธอน้ำสกปรกนี้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ต้องสาดไปที่ซูหรานให้ได้เมื่อคิดได้เช่นนั้น ซูอินก็ขมวดคิ้วทันที “หนูไม่สนใจของนอกกายพวกนั้นหรอกค่ะ แต่ถ้าหากแม่ของหนูที่อยู่บนสวรรค์รู้ว่าหนูถูกใส่ร้ายด้วยคลิปวิดีโอนั้น จนทำ
น้ำเสียงนั้นดูทุ้มต่ำ แต่ก็มีความโกรธที่ไม่สามารถปิดบังเอาไว้ได้ปนอยู่ซูอินเงียบและไม่มีการตอบสนองอยู่นาน ส่วนคนอื่น ๆ ที่อยู่ตรงนั้น ก็กลับมีสีหน้าที่ดูต่างกันออกไปพวกเขาเพิ่งจะได้ยินอะไรกันแน่?เย่ซินกลืนน้ำลายลงคออึกหนึ่ง ก่อนจะกอดแขนตัวเองแน่น ราวกับพยายามขับไล่ความหนาวของเมื่อครู่นี้ที่แผ่ซ่านเข้ามาในร่างกายออกไปเธอหูฝาดไปรึเปล่านะ?เสียงนั้นน่ะ คือเสียงของคุณท่านจริง ๆ!แต่เห็น ๆ อยู่ว่าคุณท่านเสียชีวิตไปแล้ว แล้วร่างก็กำลังนอนอยู่ในโลงแก้วอีกด้วย จะมีเสียงออกมาได้อย่างไร?แต่เมื่อนึกถึงคำว่า “วิญญาณ” ขึ้นมา เย่ซินก็กลืนน้ำลายลงคอด้วยความตื่นตัวและเสียงที่ดังขึ้นอย่างกะทันหันนั้น ก็กลับยิ่งทำให้เย่ซือเหยียนมั่นใจในข้อสันนิษฐานก่อนหน้านี้ได้ และเข้าใจมากยิ่งขึ้นว่าการแสดงในวันนี้มีซูอินที่เป็นเป้าหมาย!เย่ซือเหยียนรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เธอสังเกตเห็นว่าทั้งเย่ถิงเซินและหยางซู พวกเขาสองคนไม่ได้มีปฏิกิริยาใด ๆ มากนักต่อเสียงของคุณปู่ในตอนนั้นเธอก็รู้ได้ในทันที ว่าทั้งสองคนเองก็มีส่วนร่วมในแผนการนี้ด้วยเช่นกันส่วนซูอิน......ตอนนี้ ในหัวของซูอินมันขาวโพลนไปหมดเธอเ
หน้าตาที่ดูไร้เดียงสาและอ่อนแอของซูอินแข็งทื่อทันทีชั่วขณะหนึ่ง เหมือนว่าหน้ากากนั้นของเธอจะถูกเจาะจนทะลุ สีหน้าเธอดูไม่ค่อยมั่นใจสักเท่าไหร่ “พี่ซู พี่หมายความว่ายังไง?”“ฮึ หมายความว่ายังไงงั้นเหรอ? น้องอินอิน เธอคงไม่คิดว่าทุกคนจะโง่กันหมดหรอกใช่ไหม? ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันเจอเธอ ฉันก็เดาได้แล้ว ว่าเธอเป็นคนยังไง ต่อหน้าก็แสร้งทำตัวไร้เดียงสาและอ่อนแอ แต่ในความเป็นจริง ใจกลับดำมืดเต็มไปด้วยแผนการ คุณสนุกกับการใช้หน้ากากที่เธอสร้างขึ้นมาหลอกลวงทุกคน ฉันก็เลยเล่นตามน้ำกับเธอไป แกล้งทำเป็นเชื่อในความดีและความไร้เดียงสาของเธอ”เสียงของหยางซูดังกึกก้องทั่วทั้งศาลาไว้ทุกข์ซูอินฟังแล้วก็รู้สึกบาดหูเป็นพิเศษในตอนนี้ ใบหน้าที่เคยแสดงความไร้เดียงสาของเธอก็เริ่มมีความโกรธปรากฏขึ้นมานิดหน่อยที่อยางซูจะบอกก็คือ ทุกสิ่งที่เขาปฏิบัติต่อเธอ มันเป็นเพียงแค่การแสดงอย่างนั้นน่ะเหรอ?แล้วที่เมื่อวานเขารับปากเธอว่าจะใช้เส้นสายเรียกทนายอู๋มาล่ะ มันเพื่ออะไรกัน?มีคนอื่นอยู่ด้วย ซูอินจึงไม่สะดวกที่จะถามออกมาแต่เมื่อเธอจ้องไปที่ตาของหยางซู กลับทำให้หยางซูเข้าใจในทันทีว่าเธอกำลังคิดอะไร และคิดจะ
ฟู่จิ้นหานก้มหน้าสบตากับซูหรานแววตาของเธอดูมั่นคง มือที่กำเสื้อตรงหน้าอกของเขาก็ยิ่งบีบแน่นขึ้นเรื่อย ๆ ฟู่จิ้นหานรู้สึกกังวลในใจไม่หาย แต่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ไม่สามารถขัดขืนซูหรานได้ฟู่จิ้นหานวางเธอลง แต่แขนของเขายังคงโอบเอวเธอเอาไว้อยู่ ท่าทางที่เขาปกป้องเธอนี้ ทำให้ผู้คนรอบข้างเกิดความคิดที่แตกต่างกันออกไปคนที่ตกใจและประหลาดใจที่สุด ก็คือเย่ซินฟู่จิ้นหาน......ผู้นำคนใหม่ของฟู่ซือกรุ๊ปคนนี้ เย่ซินเคยเห็นมาก่อนเขาจัดการกับฟู่ซือกรุ๊ปด้วยวิธีการที่โหดเหี้ยม ซึ่งเป็นที่พูดถึงกันในจิงเฉิง แค่เธอได้ยินก็รู้สึกขนลุกทุกคนต่างก็พูดกันว่าฟู่จิ้นหานเป็นคนเย็นชาไร้ความรู้สึก แต่ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเธอในตอนนี้ สีหน้ากลับเต็มไปด้วยความอ่อนโยน แววตาของเขาจ้องมองไปยังหญิงสาวที่อยู่ข้าง ๆ บ้างก็เหลือบมองไปยังอีกด้าน แต่แววตากลับเปลี่ยนเป็นเฉียบขาดในทันทีท่าทีที่ฟู่จิ้นหานปฏิบัติต่อผู้หญิงคนนี้พิเศษมากจริง ๆเย่ซินอดไม่ได้ที่จะมองไปยังคนที่อยู่ข้าง ๆ ฟู่จิ้นหาน และนึกถึงชื่อที่พวกเขาเพิ่งจะเรียกเธอขึ้นมาเมื่อกี้หรานหราน......ซูหราน......เธอคือหลานสาวที่คุณท่านรับอุปการะมา
ทุกคนต่างก็ตกตะลึงไปชั่วขณะเสียงของผู้หญิงที่ดังออกมาจากโทรศัพท์มือถือ ได้รับการปรับแต่งมาอย่างละเอียดถึงจะฟังไม่ชัดเจนว่าเป็นของใคร แต่ก็กลับฟังออกว่าบรรยากาศค่อนข้างจะเข้มข้นภายใต้เสียงร้องของหญิงสาว กระทั่งการพูดด้วยคำพูดที่ดูเปิดเผยต่าง ๆ ทำให้คนที่อยู่ ณ ตรงนั้นแค่ได้ยิน สีหน้าของพวกเขาก็เริ่มเปลี่ยนไปบ้างแล้วซูอินรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย และแอบบ่นลินเยว่เยว่ที่ทำการแปลงเสียง แต่ยังไงก็ช่างเถอะ ต่อให้จะฟังไม่ออกว่าเป็นเสียงของซูหราน แต่ภาพที่ทุกคนเห็นก็เป็นซูหราน ยังไงก็มีผลลัพธ์เดียวกัน!ซูอินเหลือบมองไปที่เย่ถิงเซินเธออยากเห็นมากที่สุด ก็คือปฏิกิริยาของเย่ถิงเซินหลังจากที่เขาเห็นว่าคนในคลิปคือซูหราน แต่เย่ถิงเซินเพียงแค่ขมวดคิ้ว และมีสีหน้าที่ดูไม่พอใจเท่านั้น เขากลับไม่หยิบโทรศัพท์ออกมาสักทีดูเหมือนว่าเย่ซินจะตกใจกับภาพที่เธอเห็นมาก เธอจ้องมองที่หน้าจอโทรศัพท์อย่างงงงวยภายในห้องไว้ทุกข์ เสียงของหญิงสาวยังคงดังกึกก้องอยู่ในบรรยากาศที่แปลกประหลาด ก็มีคนที่สองที่หยิบโทรศัพท์ออกมา และเปิดข้อความที่เพิ่งได้รับเมื่อสักครู่นี้อ่า......เสียงที่เหมือนกับก่อนหน้านี้ก็ดัง
“พวกเขาจะทำอะไร?”ในหัวเย่ซือเหยียนยังคงคิดไม่ตก ไม่สามารถคาดเดาภาพรวมของเรื่องราวได้เลยแต่เธอก็พอจะเข้าใจอยู่บ้าง: หากคุณท่านยังไม่ตายจริง ๆ เช่นนั้นทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้มันก็คือกับดักและกับดักนี้ ถูกจัดเตรียมเอาไว้เพื่อใครอย่างนั้นเหรอ?เย่ซิน? ตัวเธอ? หรือว่า......ซูอิน?เย่ซือเหยียนรู้สึกโชคดีที่เธอค้นพบเรื่องนี้ได้ก่อน ไม่เช่นนั้น เธอก็อาจจะตกหลุมพรางไปด้วยส่วนซูอิน......ความเกลียดชังสะสมอยู่ในดวงตาของเย่ซือเหยียนไม่ว่ากับดักนี้จะถูกจัดเตรียมเอาไว้สำหรับใครก็ตาม วันนี้ก็ยังถือว่าเป็นโอกาสที่ดีในตอนนั้นแทบจะในทันที เย่ซือเหยียนโทรหาสายสายหนึ่ง และสั่งการกับคนที่อยู่ปลายสายหนึ่งประโยค หลังจากวางสาย ในใจเย่ซือเหยียนก็เริ่มรู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป......ในขณะเดียวกัน ณ ศาลาไว้ทุกข์ ซูอินยังคงเต็มไปด้วยความคาดหวังกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นอาการเป็นลมของเย่ซือเหยียนทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจอย่างมากรอจนกระทั่งพ่อบ้านจัดแจงให้คนพาเย่ซือเหยียนออกไป ซูอินก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่ทนายอู๋ แต่สุดท้ายเธอก็รู้สึกกลัวว่าจะมีคนเห็นความลนลานของเธอ เธอจึงไม่กล้าพู
ดูเหมือนว่า ผู้ที่อยู่ในที่นั้นนอกจากท่านท่านเย่แล้ว ก็มีเพียงเย่ถิงเซินเท่านั้นที่สามารถตัดสินใจได้การกระทำนี้ ทำให้ซูอินรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยต้องทำความเข้าใจก่อนว่า เธอคือผู้สืบทอดที่ถูกต้องตามกฎหมายของตระกูลเย่ และนอกจากนี้ ทนายความอู๋คนนี้เองก็เป็นพยานในการทำพินัยกรรมของคุณท่านเย่อีกด้วย เขาก็ควรจะรู้ว่าผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จากพินัยกรรมของคุณท่านคือใครเขาควรถามเธอ และให้เธอเป็นผู้ตัดสินใจสิถึงจะถูกเขากลับถือหางให้เย่ถิงเซินเป็นตัวหลักแต่ไม่นาน ซูอินก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก ที่ทนายอู๋คนนี้เป็นคนที่มีตาแต่ไร้แวว รอให้ประกาศพินัยกรรมออกมาก่อน ว่าเธอคือผู้สืบทอดทรัพย์สินของตระกูลเย่ จะทำให้คนเหล่านี้ต้องตื่นตระหนกอีกครั้งแน่นอน“เชิญทนายประกาศได้เลยครับ”คำพูดของเย่ถิงเซินแต่ละคำ ทั้งหนักแน่นและชัดเจนทนายความอู๋เปิดถุงเอกสารที่ปิดผนึกเอาไว้ท่ามกลางสายตาของทุกคน และนำพินัยกรรมที่อยู่ข้างในออกมา“ฉัน เย่ชิงเหอ ทรัพย์สินทั้งหมดที่อยู่ภายใต้ชื่อของฉัน จะถูกสืบทอดโดย......”ทนายความอู๋กำลังอ่านเนื้อหาของพินัยกรรม ทุกคนในศาลาไว้ทุกข์ต่างก็ตั้งใจฟัง และเมื่อถึงจุดนี้ สีหน้าของทุกค
“มันแน่นอนอยู่แล้ว”หยางซูจ้องมองไปที่ซูอิน เขาจะไม่บอกกับเธอ ว่าทนายคนนั้นได้อยู่ที่ไห่เฉิงเรียบร้อยแล้วทันทีที่คุณท่านกลับมาที่ไห่เฉิง ก็ได้ให้ทนายรีบมาที่นี่อย่างลับ ๆและการกระทำของซูอินในคืนนี้ ดูท่าแล้ว คุณท่านเองก็น่าจะมองสถานการณ์ออกตั้งแต่แรกแล้วเมื่อได้รับคำตอบที่แน่นอนจากหยางซู ซูอินก็ยิ่งมีความสุขมากกว่าเดิมเธอไม่กล้าที่จะลำพองตัวมากเกินไป เหมือนว่าเธอจะรู้สึกพอใจมาก จึงถอนหายใจออกมา “การที่สามารถทำตามความปรารถนาของคุณปู่ได้ ก็ถือเป็นสิ่งเดียวที่ฉันสามารถทำเพื่อคุณปู่ได้แล้วล่ะค่ะ”ซูอินลดสายตาลง ให้ดูเหมือนว่าเธอไม่มีความต้องการอะไรเลยจริง ๆแต่หยางซูกลับรู้จักธาตุแท้ของผู้หญิงคนนี้แล้วในที่สุดหยางซูก็ไม่สามารถอดทนต่อความเกลียดชังในใจได้ เขาจึงอ้างว่าตนรู้สึกเหนื่อย และต้องการพักผ่อน จึงขอให้ซูอินออกไปก่อนเมื่อกลับมาถึงห้อง ซูอินก็รีบวางแผนทุกอย่างที่เหลือทันทีเช้าวันถัดมา ทั้งวิลล่าก็เริ่มวุ่นวายตั้งแต่เช้าแล้วเมื่อวานได้มีการกำหนดให้เผาศพวันนี้ก่อนเริ่มการเผาศพ ก็ควรไปสักการะร่างของผู้เสียชีวิตเสียก่อนภายในโลงแก้วคุณท่านนอนอยู่ข้างใน ใบหน้าดูมีชีว