ภายในห้องหลังจากที่ซูหรานเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว เธอก็มองรูปถ่ายที่แขวนอยู่บนผนังด้วยความมึนงงในรูปภาพมีคนอยู่สามคนที่ยืนเคียงข้างกัน ชายสองคนหญิงหนึ่งคน ทั้งสามสวมชุดสมัยเป็นนักศึกษาเพียงแต่ใบหน้าของทั้งสามคนถูกทาบทับด้วยสีดำผู้หญิงคนนี้ เธอก็คือ “อาเหยียน” คนที่คุณชายใหญ่เย่พูดถึงรึเปล่านะ?แล้วอีกสองคนคือใครกัน?คุณชายสามฟู่เหรอ? แล้วก็คุณชายใหญ่เย่?ซูหรานไม่ได้คิดอะไรมาก เธอรีบเป่าผมให้แห้ง จากนั้นก็ปล่อยให้ผมสยายอยู่ด้านหลัง และเตรียมพร้อมที่จะออกไปทันทีที่เท้าก้าวออกจากห้อง ก็มีดวงตาสองคู่จ้องมาที่เธอ“คุณชายใหญ่เย่......ระ......รุ่นพี่เสิ่น...... ” เกิดความประหลาดใจขึ้นบนใบหน้าของซูหรานเธอคิดว่าหลังจากที่คุณชายใหญ่เย่มาส่งเธอ ก็น่าจะลงไปแล้วคิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะยังรออยู่อีกไม่เพียงเท่านั้น รุ่นพี่เสิ่นเองมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้?คุณชายใหญ่เย่มองเธอด้วยความตกใจและค่อนข้างรู้สึกสับสน“อา..... ”อีกนิดเดียวเย่ถิงเซินก็เกือบจะเรียกชื่อของ “อาเหยียน” ออกไปโดยไม่รู้ตัว แต่จู่ ๆ ก็นึกอะไรบางอย่างได้ เขาจึงรีบดึงสติกลับมาทันทีซูหรานเหลือบมองกระโปรงที่เธอใส่
ซูหรานตกใจมากจนเผลอสบถคำหยาบออกมาแม้ว่าเสียงจะเบามาก แต่เสิ่นเหยี่ยนและเย่ถิงเซินที่อยู่ข้าง ๆ ก็ยังได้ยิน“แค่ก ๆ ...... ”“แค่ก ๆ ...... ”หลังจากที่ทั้งสองคนดูตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ต่างก็ก็พากันยกมือขึ้นมาปิดปาก จากนั้นก็ยิ้มอ่อน ๆ เพื่อช่วยซูหรานกลบเกลื่อนในเวลานี้ ซูหรานเห็นเพียงเลขสิบหลักที่ยาวเป็นหางว่าวแม้ว่าเธอจะเป็นลูกสาวคนโตของซิงหลานจิวเวลรี่ แต่ตั้งแต่เธอเรียนจบ เธอก็ไม่เคยขอเงินที่บ้านเลยสักบาทก่อนหน้านี้หลังจากที่เธอจ่ายค่าใช้จ่ายให้กับสามีตัวพ่อของเธอไป บัตรธนาคารของเธอก็ไม่เคยมีเงินเข้าอีกเลยในเวลานี้ เงินจำนวนสองพันห้าร้อยล้านอันมหาศาลนี้ ซูหรานแทบจะกรีดร้องออกมาด้วยความตื่นเต้นการแสดงออกเล็ก ๆ นั่น เย่ถิงเซินก็กำลังมองอยู่ แววตาของเขาดูเหมือนจะอ่อนโยนขึ้น “คุณซูไม่อยากพูดอะไรหน่อยเหรอครับ? ”ด้วยการเตือนนี้ ซูหรานก็กลับมามีสติอีกครั้ง และเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าทุกคนกำลังมองมาที่เธออยู่ซูหรานยิ้มแห้ง ๆ และยกโทรศัพท์ในมือขึ้น “เงิน......เยอะมาก ฉัน......ชอบมากค่ะ! ”ทุกคน......เงินตั้งสองพันห้าร้อยล้าน ใครบ้างล่ะจะไม่ชอบ!“ฮึ...... ”ในสวนด้านหลัง ต่
“น่าเสียดายที่มีแค่ผมฝ่ายเดียวที่ชอบเธอ แต่การปฏิบัติที่คุณซูมีต่อผม......” เย่ถิงเซินเลิกคิ้วด้วยความผิดหวังผู้คนต่างก็ตกอยู่ในความโกลาหลไม่น่าแปลกใจเลยที่สายตาของคุณชายใหญ่เย่เมื่อครู่นี้ที่มองไปยังซูหรานจะเต็มไปด้วยความรักที่แท้ คุณชายใหญ่เย่ก็เป็นฝ่ายที่แอบชอบซูหรานงั้นเหรอ?“โอ้พระเจ้า! นี่มันความรักลับ ๆ อะไรกันเนี่ย ชาติที่แล้วคุณซูคงเคยช่วยกอบกู้โลกมาแน่เลย...... ”“คุณชายใหญ่เย่ทั้งหล่อและรวย นอกจากคุณชายสามฟู่แห่งจิงเฉิงแล้ว ใครจะกล้าทัดเทียมด้วยกัน? นี่คุณซูยังไม่ชอบเขาอีกงั้นเหรอ? ”“หรือคนที่คุณซูชอบจะเป็นคุณชายสามฟู่? ”คำพูดถกเถียงกันก็โพล่งออกมาจากฝูงชนณ สวนด้านหลัง ฟู่จิ้นหานกำลังจ้องมองเย่ถิงเซินที่อยู่ในวิลล่าผ่านความมืดด้วยแววตาที่ลึกล้ำทันใดนั้นก็ได้ยินคำพูดที่ว่า [หรือคนที่คุณซูชอบคือคุณชายสามฟู่] แววตาของฟู่จิ้นหานก็เป็นประกายทันทีแต่ครู่ต่อมา ซูหรานก็สาดน้ำเย็นใส่หน้าเขาอีกครั้ง เพื่อดับเปลวไฟแห่งความหวัง “เปล่า เปล่านะ ฉันไม่ได้ชอบคุณชายสามฟู่! ” ท่าทีของซูหรานดูจริงจังอย่างมากเดิมทีเพราะ “คำสารภาพ” ของเย่ถิงเซินก็ทำให้เธอไปไม่เป็นอยู่แล้วแต
ลู่ซิวหนิงรู้สึกตื่นเต้นมากไม่นาน เขาก็ถูกพาไปที่สวนด้านหลังภายในความมืด สีหน้าของฟู่จิ้นหานมืดมนจนหาที่เปรียบไม่ได้ลู่ซิวหนิงคิดว่า ในที่สุดฟู่จิ้นหานก็จะได้เห็นธาตุแท้ของซูหรานแล้ว จากนั้นเขาก็สุมไฟลงในคำพูดเข้าไปอีก “อาสามครับ อาก็เห็นแล้ว ซูหรานก็เป็นผู้หญิงแบบนี้ เธอไม่คู่ควรให้อาสามชายตามองเลยด้วยซ้ำ! ”“แล้วเธอเป็นผู้หญิงแบบไหนกัน? ” น้ำเสียงของฟู่จิ้นหานทุ้มต่ำและเย็นชาลู่ซิวหนิงจึงรีบพูดให้ร้ายซูหราน ให้เธอดูแย่ลงกว่าเดิม“เธอเคยเป็นคู่หมั้นของผม เพื่อที่จะทำร้ายผม เธอเลยหนีไปคบกับไอ้โง่คนหนึ่ง แถมยังแต่งงานกับไอ้บ้านั่นแล้วด้วย ตอนนี้เธอพยายามเข้าใกล้อาสามกับคุณชายใหญ่เย่ ก็เพื่อที่จะหลอกเอาเงินไปเลี้ยงไอ้หน้าขาวนั่น! ”ฟู่จิ้นหาน “......”ไอ้โง่งั้นเหรอ?การที่ซูหรานทุ่มเงินใส่เขา เขากลับรู้สึกว่าตัวเองเป็นพนักงานพิเศษที่เป็นมืออาชีพจริง ๆมุมปากของฟู่จิ้นหานยกขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวลู่ซิวหนิงไม่ได้สังเกตสีหน้าของเขาเมื่อนึกถึงเรื่องที่เมื่อกี้ซูหรานเพิ่งจะได้เงินสองพันห้าร้อยล้านมา ลู่ซิวหนิงก็รู้สึกอิจฉาอย่างอธิบายไม่ถูก“อาสาม อย่าถูกเธอหลอกเอาได้นะครับ เครื
เธอที่ปฏิบัติต่อเขาในฐานะคุณชายสามฟู่ราวกับว่าเขาเป็นสัตว์ร้าย และพยายามหลีกเลี่ยงเขาแต่เธอที่ปฏิบัติต่อเขาในฐานะ “สามี” กลับมีรอยยิ้มที่สดใสมาก!ในใจฟู่จิ้นหานรู้สึกไม่พอใจอยู่นิดหน่อย“ฮัลโหล? ” ซูหรานเหลือบมองที่โทรศัพท์โทรศัพท์ยังค้างสายเอาไว้อยู่ แล้วทำไมสามีตัวพ่อถึงไม่พูดอะไรเลยล่ะ?ทันทีที่ฟู่จิ้นหานเรียกสติกลับคืนมา เขาก็พูดออกไปด้วยอารมณ์หงุดหงิดว่า “ผมมารับคุณกลับบ้าน อีกสองนาทีให้หลัง เจอกันที่ประตู! ”หลังจากพูดจบ เขาก็วางสายทันทีซูหราน “......”น้ำเสียงที่ฟังดูรำคาญนี่......เธอไปทำอะไรให้เขาโกรธกันแน่นะ?......เย่ถิงเซินมีธุระ จึงขอตัวไปก่อนเสิ่นเหยี่ยนเป็นคนส่งเธอออกไปด้านนอกวิลล่า ฟู่จิ้นหานยืนอยู่ข้างรถธรรมดา ๆ คันหนึ่ง โดยหันหลังให้วิลล่าจู่ ๆ หัวใจของซูหรานก็ตึงเครียด เมื่อเธอเห็นร่างนั้นจากทางด้านหลังคุณชายสามฟู่เหรอ?แต่เมื่อชายคนนั้นหันกลับมา เมื่อซูหรานเห็นใบหน้าที่หล่อเหลาของสามี เธอก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ฟู่จิ้นหานเหลือบมองไปยังเสิ่นเหยี่ยนที่อยู่ข้าง ๆ จากนั้นก็ก้าวเท้ายาว ๆ ไปคว้ามือของซูหราน“รุ่นพี่คะ ไว้เจอ...... ”ก่อนที่ซูหรา
ซูอินร้องไห้อย่างน่าสงสาร และจงใจไม่พูดเหตุผลซูจี้ไห่และซุนฉินถามซ้ำแล้วซ้ำอีก ซูอินถึงได้เปิดปากพูดด้วยน้ำเสียงสะอื้นออกไปว่า“ดูเหมือนว่าคุณหญิงย่าลู่จะไม่ชอบฉัน ต้องโทษที่ฉันไม่ใช่พี่สาว ไม่สามารถสืบทอดซิงหลานจิวเวลรี่ได้ ต่อให้จะแต่งกับพี่ซิวหนิง ก็ช่วยเหลืออะไรไม่ได้อยู่ดี! ”ซูอินรู้สึกเสียใจมาก ราวกับว่าเธอถูกตระกูลลู่ทำให้รู้สึกไม่เป็นธรรมซุนฉินกอดซูอินอย่างเศร้าโศก และร้องไห้ไปตาม ๆ กัน“ต้องโทษที่แม่ไร้ความสามารถ เดิมทีลูกก็เป็นลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อลูก แต่หลายปีมานี้ลูกกลับถูกโลกภายนอกมองว่าเป็นแค่ลูกเลี้ยง นี่ขนาดลูกจะแต่งงานแล้วยังถูกทำให้รู้สึกไม่เป็นธรรมอยู่อีก แบบนี้จะทำยังไง? ไม่งั้นพวกเราก็ไม่ต้องแต่งมันแล้ว...... ”“แต่......แต่ว่าหนูหมั้นหมายกับพี่ซิวหนิงไปแล้วนะคะ ถ้าหากจะถอนหมั้น ความน่าเชื่อถือของตระกูลซูและพ่อก็จะถูกทำลายลงไปด้วยนะคะ”ซูอินร้องไห้หนักยิ่งกว่าเดิมดวงตาของซูจี้ไห่มืดมนจนไม่อยากที่จะเอ่ยคำใดออกมาอินอินได้รับความทุกข์ทรมานมากเกินไป!ซิงหลานจิวเวลรี่คือสิ่งที่เย่ซิงหลานเหลือเอาไว้ให้ ทันทีที่ซูหรานแต่งงาน เธอก็จะได้เป็นผู้สืบทอดทันที!ก่อน
เด็กฝึกงานยังไม่ทันได้พูดอะไรหลินเยว่เยว่ก็เดินเข้ามาด้วยใบหน้าภูมิใจ และส่งจดหมายลาออกให้กับซูหราน“พี่หรานหราน ยินดีด้วยนะคะ ที่พี่สืบทอดมรดกจากคุณแม่ได้สำเร็จ! ”“วันนี้ฉันตั้งใจมาที่นี่เป็นพิเศษ เห็นแก่มิตรภาพที่ยาวนานของพวกเรา ฉันก็เลยขอลาออกด้วยตนเอง! ”“อ่อ จริงสิ เมื่อกี้พี่ถามพวกเขาไม่ใช่เหรอคะ ว่าคนไปไหนกันหมด? พี่ลองไปดูที่กล่องเมลบริษัทก็น่าจะรู้แล้วนะคะ! ”ซูหรานเปิดกล่องเมลดูข้อความที่ถูกส่งเข้ามาแต่ละฉบับ ต่างก็เป็นจดหมายลาออกทั้งสิ้น“ตำแหน่งสำคัญของบริษัทต่างก็ลาออกกันหมด เหลือไว้แค่เด็กฝึกงานที่แทบไม่รู้อะไรเลย ซูหราน เธอคิดว่าซิงหลานจิวเวลรี่ยังจะไปต่อได้อีกนานแค่ไหน? ฮึ ๆ ๆ ๆ ...... ”“เธอคิดว่าคุณลุงเต็มใจที่จะยกซิงหลานจิวเวลรี่ให้กับเธอจริง ๆ น่ะเหรอ? ”หลินเยว่เยว่หัวเราะออกมาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้นต่อให้ซูหรานได้เป็นผู้สืบทอดซิงหลานจิวเวลรี่จริง ๆ แล้วยังไง?ซิงหลานจิวเวลรี่ที่มีแค่เธอคนเดียว จะไปต่อได้สักกี่น้ำ?หลินเยว่เยว่หัวเราะด้วยความสะใจก่อนที่จะเดินออกไปในสำนักงานที่ใหญ่ขนาดนี้ แต่กลับว่างเปล่า เหลือเพียงแค่เด็กฝึกงานไม่กี่ค
บริษัทที่มีสมาชิกห้าคน ซูหรานได้ทำการประกาศรับสมัครพนักงานเพิ่มทันทีและในขณะเดียวกันนี้เอง ในอาคารสำนักงานที่อยู่ตรงข้ามกับตึกไป๋ลี่ ซูจี้ไห่ก็กำลังนั่งอยู่ในห้องทำงานพื้นที่สำนักงานตรงชั้นหนึ่ง ต่างก็เป็นพนักงานหน้าเก่าที่เคยทำงานกับซิงหลานซูอินมองไปยังป้ายชื่อของบริษัท“อ้ายอินจิวเวลรี่” เป็นสามสี่คำที่ค่อนข้างเด่นชัดเป็นพิเศษซูอินเต็มไปด้วยความประหลาดใจที่แท้พ่อของเธอก็ได้แอบจัดการเอาไว้ก่อนแล้ว เขาได้เปิดร้านจิวเวลรี่ขึ้นมา จากนั้นก็ดำเนินกิจการมาแบบเรียบง่ายและในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทรัพยากรจำนวนนับไม่ถ้วนที่ซื้อผ่านซิงหลานจิวเวลรี่ ถูกดำเนินการโดยพ่อของเธอ ดังนั้นของส่วนใหญ่ถึงมากองรวมกันอยู่ที่นี่หมดแล้ว!ฮึ!ซูหรานได้สืบทอดซิงหลานจิวเวลรี่แล้วยังไง?ในเวลานี้ ซิงหลานจิวเวลรี่ก็มีแค่เปลือกเท่านั้น!ซูอินอยากที่จะเห็นสภาพของซูหรานตอนนี้เสียจริง เธอเชื่อว่าการแสดงออกของเธอจะต้องน่าตื่นเต้นมากแน่ ๆ!แต่ในความเป็นจริง ซูอินยังคงดูกังวลเกี่ยวกับซูหรานมาก “พ่อคะ ถ้าพี่สาวรู้เรื่องเกี่ยวกับบริษัทนี้ล่ะคะ...... ”ไม่รอให้เธอพูดจบ ซูจี้ไห่ก็หัวเราะเยาะออกมาเพื่อตัดบทพูด