“คุณซู......”คนที่เดินเข้ามาไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเย่ถิงเซินเขาสวมชุดสูททำมือสีดำ เดินไปอยู่ต่อหน้าของซูหรานราวกับลม “นี่คุณ......จะไปแล้วเหรอ? ”ซูหรานถูกจับได้ หลังจากที่รู้สึกเขินอาย เธอก็ยืดตัวขึ้นและยิ้มด้วยท่าทีที่สง่างามทันที“ปะ เปล่าค่ะ ฉันแค่......กำลังตามหารุ่นพี่เสิ่นเหยี่ยนอยู่น่ะค่ะ รุ่นพี่น่าจะมีธุระเลยมาสายน่ะค่ะ”ซูหรานหาข้อแก้ตัวแบบสุ่ม ๆเย่ถิงเซินเลิกคิ้วอย่างรู้ทันแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร“วันนั้นเกิดเหตุฉุกเฉินนิดหน่อย ตัวตนของคุณในฐานะ มิสเอฟ ก็มาถูกเปิดเผยอีก คุณคงไม่โทษผมหรอกใช่ไหม! ” เย่ถิงเซินจ้องมองซูหราน สายตาของเขาเร่าร้อนราวกับไฟเดิมทีวันนี้ซูหรานก็ตั้งใจจะขอบคุณเย่ถิงเซิน ที่วันนั้นเขาช่วยพูดแทนเธอเอาไว้“จะเป็นแบบนั้นได้ยังไงกันคะ? มันสายเกินไปสำหรับฉันด้วยซ้ำที่จะขอบคุณคุณชายเย่! หากไม่ได้คุณกับรุ่นพี่เสิ่น ฉันก็คงกลายเป็นหัวขโมยที่ถูกแบนคนนั้นไปแล้ว! พวกคุณช่วยฉันไว้ได้มากจริง ๆ ค่ะ! ”ทันทีที่ซูหรานพูดจบ เย่ถิงเซินก็หัวเราะออกมาเบา ๆ “ในเมื่อเป็นแบบนั้นแล้ว งั้นคุณจะตอบแทนผมยังไงล่ะครับ? ”ซูหรานไม่ทันตั้งตัว และตกตะลึงไปชั่วขณะ “......”ขณะท
ซูหรานมองจากรองเท้าหนังไล่ขึ้นไป เธอก็พบกับใบหน้าที่สวมหน้ากากสีดำเอาไว้อยู่แสงระยิบระยับจากสระว่ายน้ำสะท้อนบนหน้ากาก ซูหรานคิดว่าตัวเองเพิ่งจะเจอผีเข้าให้“......”ซูหรานกลั้นหายใจ และแสร้งทำเป็นสงบ เพื่อหวังว่า “ผี” จะไม่เห็นเธอแต่ครู่ต่อมา หน้ากากสีดำก็ขยายใหญ่ขึ้นต่อหน้าเธอ และ “ผี” ตนนั้นก็ย่อตัวลงเพื่อเอื้อมมือไปหาเธอ.....ฟู่จิ้นหานต้องการดึงเธอขึ้นจากสระว่ายน้ำ เขาใช้มือของเขาจับแขนของเธอเอาไว้ซูหรานราวกับถูกไฟช็อต การแสดงท่าทีที่สงบนิ่งของเธอก็พังทลายลงในทันทีความคิดเดียวที่ผุดขึ้นในใจก็คือ วิ่ง!ซูหรานออกแรงเพื่อหันหลังกลับ และออกแรงใช้ขาถีบขอบสระเพื่อว่ายออกไป ด้วยแรงถีบนั้นทำให้เธอว่ายออกไปได้แค่ไม่กี่เมตร ในเวลาเดียวกัน เสียงตู้มก็ดังขึ้นจากทางฝั่งของฟู่จิ้นหาน ไม่นานเขาก็ตกลงไปในน้ำด้วยเช่นกันฟู่จิ้นหานซึ่งตัวเปียกโชกไปหมดที่กำลังลอยอยู่ในน้ำ สีหน้าก็ดูมืดมนลงทันที “......”เขาน่ากลัวมากขนาดนั้นเลยเหรอ?ฟู่จิ้นหานว่ายไปทางซูหรานด้วยความไม่พอใจ และคว้าแขนของเธอเอาไว้อีกครั้งซูหรานเตะฟู่จิ้นหานอย่างเอาเป็นเอาตาย เตะไปหลายครั้ง อีกแค่นิดเดียวก็อาจจะทำร้ายฟู
หลังจากที่ซูหรานจากไป บรรยากาศในสวนหลังบ้านก็เกิดความรู้สึกแปลก ๆในตัวศาลา ฟู่จิ้นหานห่อตัวเองด้วยเสื้อคลุมอาบน้ำ และเช็ดผมที่เปียกของเขาด้วยสีหน้ามืดมน ราวกับว่าเย่ถิงเซินไม่ได้มีตัวตนอยู่เลย“ไม่เจอกันนานเลยนะ ไม่คิดว่าจะได้เจอหน้ากันอีกครั้ง ในสถานที่แบบนี้”เย่ถิงเซินพูดขึ้นก่อน เพื่อทำลายความเงียบระหว่างทั้งสองคนพวกเขาทั้งสองต่างก็เป็นผู้มีอิทธิพลในเมืองจิงเฉิง แต่หลังจากที่เกิดเรื่องขึ้นเมื่อสามปีก่อน ทั้งสองคนก็เหมือนจะเข้าใจกันโดยปริยาย และจงใจหลีกเลี่ยงซึ่งกันและกันสีหน้าของฟู่จิ้นหานไร้อารมณ์ เขาแทบไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใด ๆ ต่อเย่ถิงเซินเลยแม้แต่น้อยเย่ถิงเซินยิ้มเบา ๆ และจ้องมองไปยังฟู่จิ้นหาน ราวกับว่าเขาไม่อยากที่จะพลาดการตอบสนองของฟู่จิ้นหานเลยแม้แต่วินาทีเดียว “นายรับปากมาเป็นผู้ตัดสินกิตติมศักดิ์ก็เพราะซูหรานใช่ไหม? ”ครั้งนี้ ทำให้คิ้วของฟู่จิ้นหานย่นเข้าหากันได้จริง ๆ“ทำให้การแข่งขันย้ายมาจัดที่นี่ ก็เพื่อเธอใช่ไหมล่ะ! ”น้ำเสียงของเย่ถิงเซินต้องการการยืนยัน“ฉันจำได้ว่าวันนั้นพิธีกรการแข่งขันพูดขึ้นว่า ผลงานของซูหรานมีคนช่วยส่งเข้ามาให้ แต่ฉันก็ตรวจดูก
“ก็ดี!”เย่ถิงเซินพอใจกับคำตอบนี้มากเขาก็ไม่ได้หันไปมองฟู่จิ้นหานอีก เย่ถิงเซินลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกจากศาลาไปจิตใจของซูหรานยังคงเต็มไปด้วยคำพูดของคุณชายสามฟู่ที่ว่า “ความรู้สึกที่แค่ชั่วคราวเท่านั้น” ประโยคนี้ จากนั้นจู่ ๆ เธอก็เห็นเห็นเย่ถิงเซินเดินมาทางนี้ซูหรานก็รู้สึกตื่นตระหนกทันทีกังวลว่าจะถูกจับได้ว่าแอบฟัง ไม่มีเวลาแม้แต่จะวางหน้ากากในมือเอาไว้ เธอรีบออกจากสวนหลังบ้านทันทีซูหรานพยายามหลีกเลี่ยงทุกคนอย่างระมัดระวัง ขณะที่กำลังจะขึ้นไปบนชั้นสองอย่างเงียบ ๆ เพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปียกของเธอวังม่านหลินก็เห็นร่างของเธอเข้าวังม่านหลินเหลือบมองเสิ่นเหยี่ยนซึ่งกำลังมองหาซูหรานอยู่ที่ลานหน้าบ้านอยู่เดิมทีเธอไม่ได้ถูกรับเชิญให้มางานเลี้ยงฉลอง แต่เมื่อเธอรู้ว่าเสิ่นเหยี่ยนจะมาที่นี่คืนนี้ เธอจึงรีบออกจากงานหมั้นของซูอินทันทีเธอแกล้งทำเป็นพบกับเสิ่นเหยี่ยนโดยบังเอิญ พยายามเข้าหาด้วยวิธีต่าง ๆ กระทั่งย้ายให้หัวหน้าครอบครัวของทั้งสองตระกูลออกไป เพื่อที่จะได้มีโอกาสให้เสิ่นเหยี่ยนพาเธอมาที่นี่ด้วยแต่ระหว่างทาง เสิ่นเหยี่ยนยังคงโทรหาซูหรานตลอด กระทั่งแค่มองเขายังไม่มองเธอ
วิลล่าตระกูลลู่ซูอินที่เพิ่งจะประสบกับความพินิจพิเคราะห์และความยากลำบากของคุณหญิงย่าลู่ ในใจก็รู้สึกโกรธทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น และหมายเลขผู้โทรคือวังม่านหลินทั้งสองไม่ค่อยไปมาหาสู่กันเท่าไหร่ เพราะวังม่านหลินเองก็มักจะดูถูกคุณหนูรองซูอย่างเธออยู่เสมอแต่พอคิด ๆ ดูแล้ว ยังไงซูอินก็ยังรับสายอยู่ดี“ซูอิน ฉันมีข่าวดีจะบอกเธอด้วยล่ะ พี่สาวของเธอ ซูหราน คืนนี้เธอค่อนข้างฮอตเลยนะ ขนาดคุณชายใหญ่เย่แห่งจิงเฉิงก็หลงเธอจนหัวปักหัวปำ”“ขอแสดงความยินดีกับพวกเธอสองพี่น้องด้วยนะ เธอเองก็เพิ่งจะหมั้นกับลู่ซิวหนิง พี่สาวของเธอ ซูหราน เกรงว่าไม่นานก็คงจะหมั้นกับคุณชายใหญ่เย่แล้วล่ะ! ”วังม่านหลินจงใจยั่วยุซูอินครั้งล่าสุดที่ทำให้ซูหรานอับอายที่เย่หลินบาร์ แม้ว่าหลินเยว่เยว่จะเป็นคนเริ่มก่อนก็ตามแต่วันนี้เป็นวันหมั้นหมายของซูอิน แค่เธอมองแวบเดียวก็ดูออกว่าหลินเยว่เยว่เป็นเพียงแค่หมาที่เกาะแข้งขาเท่านั้น ซูอินต่างหากที่สามารถต่อกรซูหรานได้!เป็นอย่างที่คิด ซูอินไม่สามารถซ่อนความอิจฉาและความเกลียดชังในใจของเธอได้ทันที “ฉันกับซิวหนิงรักกันด้วยใจจริง พี่หรานหรานแต่งงานแล้ว แล้วเธอจะแ
ภายในห้องหลังจากที่ซูหรานเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว เธอก็มองรูปถ่ายที่แขวนอยู่บนผนังด้วยความมึนงงในรูปภาพมีคนอยู่สามคนที่ยืนเคียงข้างกัน ชายสองคนหญิงหนึ่งคน ทั้งสามสวมชุดสมัยเป็นนักศึกษาเพียงแต่ใบหน้าของทั้งสามคนถูกทาบทับด้วยสีดำผู้หญิงคนนี้ เธอก็คือ “อาเหยียน” คนที่คุณชายใหญ่เย่พูดถึงรึเปล่านะ?แล้วอีกสองคนคือใครกัน?คุณชายสามฟู่เหรอ? แล้วก็คุณชายใหญ่เย่?ซูหรานไม่ได้คิดอะไรมาก เธอรีบเป่าผมให้แห้ง จากนั้นก็ปล่อยให้ผมสยายอยู่ด้านหลัง และเตรียมพร้อมที่จะออกไปทันทีที่เท้าก้าวออกจากห้อง ก็มีดวงตาสองคู่จ้องมาที่เธอ“คุณชายใหญ่เย่......ระ......รุ่นพี่เสิ่น...... ” เกิดความประหลาดใจขึ้นบนใบหน้าของซูหรานเธอคิดว่าหลังจากที่คุณชายใหญ่เย่มาส่งเธอ ก็น่าจะลงไปแล้วคิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะยังรออยู่อีกไม่เพียงเท่านั้น รุ่นพี่เสิ่นเองมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้?คุณชายใหญ่เย่มองเธอด้วยความตกใจและค่อนข้างรู้สึกสับสน“อา..... ”อีกนิดเดียวเย่ถิงเซินก็เกือบจะเรียกชื่อของ “อาเหยียน” ออกไปโดยไม่รู้ตัว แต่จู่ ๆ ก็นึกอะไรบางอย่างได้ เขาจึงรีบดึงสติกลับมาทันทีซูหรานเหลือบมองกระโปรงที่เธอใส่
ซูหรานตกใจมากจนเผลอสบถคำหยาบออกมาแม้ว่าเสียงจะเบามาก แต่เสิ่นเหยี่ยนและเย่ถิงเซินที่อยู่ข้าง ๆ ก็ยังได้ยิน“แค่ก ๆ ...... ”“แค่ก ๆ ...... ”หลังจากที่ทั้งสองคนดูตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ต่างก็ก็พากันยกมือขึ้นมาปิดปาก จากนั้นก็ยิ้มอ่อน ๆ เพื่อช่วยซูหรานกลบเกลื่อนในเวลานี้ ซูหรานเห็นเพียงเลขสิบหลักที่ยาวเป็นหางว่าวแม้ว่าเธอจะเป็นลูกสาวคนโตของซิงหลานจิวเวลรี่ แต่ตั้งแต่เธอเรียนจบ เธอก็ไม่เคยขอเงินที่บ้านเลยสักบาทก่อนหน้านี้หลังจากที่เธอจ่ายค่าใช้จ่ายให้กับสามีตัวพ่อของเธอไป บัตรธนาคารของเธอก็ไม่เคยมีเงินเข้าอีกเลยในเวลานี้ เงินจำนวนสองพันห้าร้อยล้านอันมหาศาลนี้ ซูหรานแทบจะกรีดร้องออกมาด้วยความตื่นเต้นการแสดงออกเล็ก ๆ นั่น เย่ถิงเซินก็กำลังมองอยู่ แววตาของเขาดูเหมือนจะอ่อนโยนขึ้น “คุณซูไม่อยากพูดอะไรหน่อยเหรอครับ? ”ด้วยการเตือนนี้ ซูหรานก็กลับมามีสติอีกครั้ง และเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าทุกคนกำลังมองมาที่เธออยู่ซูหรานยิ้มแห้ง ๆ และยกโทรศัพท์ในมือขึ้น “เงิน......เยอะมาก ฉัน......ชอบมากค่ะ! ”ทุกคน......เงินตั้งสองพันห้าร้อยล้าน ใครบ้างล่ะจะไม่ชอบ!“ฮึ...... ”ในสวนด้านหลัง ต่
“น่าเสียดายที่มีแค่ผมฝ่ายเดียวที่ชอบเธอ แต่การปฏิบัติที่คุณซูมีต่อผม......” เย่ถิงเซินเลิกคิ้วด้วยความผิดหวังผู้คนต่างก็ตกอยู่ในความโกลาหลไม่น่าแปลกใจเลยที่สายตาของคุณชายใหญ่เย่เมื่อครู่นี้ที่มองไปยังซูหรานจะเต็มไปด้วยความรักที่แท้ คุณชายใหญ่เย่ก็เป็นฝ่ายที่แอบชอบซูหรานงั้นเหรอ?“โอ้พระเจ้า! นี่มันความรักลับ ๆ อะไรกันเนี่ย ชาติที่แล้วคุณซูคงเคยช่วยกอบกู้โลกมาแน่เลย...... ”“คุณชายใหญ่เย่ทั้งหล่อและรวย นอกจากคุณชายสามฟู่แห่งจิงเฉิงแล้ว ใครจะกล้าทัดเทียมด้วยกัน? นี่คุณซูยังไม่ชอบเขาอีกงั้นเหรอ? ”“หรือคนที่คุณซูชอบจะเป็นคุณชายสามฟู่? ”คำพูดถกเถียงกันก็โพล่งออกมาจากฝูงชนณ สวนด้านหลัง ฟู่จิ้นหานกำลังจ้องมองเย่ถิงเซินที่อยู่ในวิลล่าผ่านความมืดด้วยแววตาที่ลึกล้ำทันใดนั้นก็ได้ยินคำพูดที่ว่า [หรือคนที่คุณซูชอบคือคุณชายสามฟู่] แววตาของฟู่จิ้นหานก็เป็นประกายทันทีแต่ครู่ต่อมา ซูหรานก็สาดน้ำเย็นใส่หน้าเขาอีกครั้ง เพื่อดับเปลวไฟแห่งความหวัง “เปล่า เปล่านะ ฉันไม่ได้ชอบคุณชายสามฟู่! ” ท่าทีของซูหรานดูจริงจังอย่างมากเดิมทีเพราะ “คำสารภาพ” ของเย่ถิงเซินก็ทำให้เธอไปไม่เป็นอยู่แล้วแต