“ใช่ครับ เซ็นชื่อครับ”ทุกคนต่างก็ยิ้มเพื่อเอาใจ และส่งมอบสัญญาที่เตรียมไว้มาให้เธออย่างเป็นเอกฉันท์ซูหรานเหลือบมองสัญญาแล้วยิ้มอย่างสุภาพ “ให้เซ็นอะไรเหรอคะ?”รอยยิ้มบนใบหน้าของทุกคนแข็งทื่อหนึ่งในนั้นรีบลุกขึ้นแล้วเดินไปหาซูหราน “คุณซูครับ คุณอาจจะลืมไปแล้วใช่ไหมครับ? แน่นอนว่าต้องเป็นสัญญาความร่วมมือของพวกเราน่ะสิครับ ครั้งนี้ พวกเราจะไม่เซ็นสัญญากันแค่สองปีเท่านั้น แต่เป็นสัญญาสิบปี ภายในสิบปีนี้ พวกเราจะเป็นหุ้นส่วนที่แข็งแกร่งที่สุดของซิงหลานจิวเวลรี่ครับ”“......”ซูหรานยังคงนิ่งเงียบในใจชายคนนั้นยังคงตื่นตระหนก เมื่อนึกถึงสิ่งที่หัวหน้าเขากำชับมา หากการเซ็นสัญญาวันนี้ล้มเหลว เขาจะถูกไล่ออก ไม่ใช่แค่เขาคนเดียว เมื่อกี้ตอนที่พวกเขารออยู่ด้านนอกบริษัทซิงหลานจิวเวลรี่ ก็เพิ่งได้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนกันมาด้วยเช่นกันการที่พวกเขามาที่นี่ ต่างก็พากันแบกรับคำสั่งตายของหัวหน้าตัวเองมาทั้งนั้นถ้าเซ็นสัญญาไม่สำเร็จก็ต้องไสหัวออกไปภายใต้ความเงียบของซูหราน ก็มีคนที่เริ่มเช็ดเหงื่อขึ้นมา“คุณซูครับ คุณช่วยดูหน่อยนะครับ ว่ามีปัญหาอะไรไหม? หากยังมีปัญหาอะไร พวกเราก็จะแก้ทันที แ
“ไสหัวไป!”นานมากกว่าเย่ซือเหยียนจะเรียกสติกลับมาได้เย่ถิงเซินไม่ว่าจะภายในหรือภานนอก ภาพลักษณ์เขามักจะเป็นคุณชายที่สง่างามและมีเกียรติ น้อยมากที่จะพูดจารุนแรงกับผู้อื่นเขาถึงขั้นตะโกนคำว่าไสหัวไปออกมาเลยเหรอ?เย่ซือเหยียนกัดฟันแน่น เดินออกจากห้องทำงานเย่ถิงเซินไปด้วยความไม่พอใจทันทีที่ประตูห้องทำงานปิดลง เย่ถิงเซินก็ค่อย ๆ หลับตาเย่ซือเหยียนและทุกคนในออฟฟิศต่างก็คิดว่าเขาเป็นคนที่ไปกดดันหุ้นส่วนเหล่านั้น แต่ในความเป็นจริงกลับไม่ใช่อันที่จริงเขาได้เตรียมพร้อมทุกอย่าเอาไว้แล้ว แต่ก็ยังช้าไปก้าวหนึ่งอยู่ดีและคนที่นำหน้าเขาไปหนึ่งก้าว นอกจากฟู่จิ้นหานแล้ว จะเป็นใครไปได้อีกฟู่จิ้นหาน......ความจริงใจที่ฟู่จิ้นหานมีต่อซูหราน มันเกินกว่าที่เขาคาดการเอาไว้จริง ๆ......เย่ซือเหยียนเดินออกมาจากบริษัทอัญมณีตระกูลเย่ ไม่ว่ายังไงในใจก็ยังรู้สึกไม่พอใจอยู่ดีทำได้เพียงขับรถกลับวิลล่าตระกูลเย่เท่านั้นรถหยุดอยู่ด้านนอกของวิลล่า ภายในอาคารหลัก คุณท่านเย่เข็นรถเข็นออกมาจากในห้อง แววตาของเขามองไปที่ประตูอย่างคาดหวัง ราวกับว่าเขากำลังรอใครสักคนอยู่ณ ห้องนั่งเล่น ซูอินสังเกตเห็นสี
คำว่า “ภรรยา” ที่ออกจากปากฟู่จิ้นหานนั้น เป็นการเรียกที่ฟังดูลื่นหูและน่าพึงพอใจมากฉินฟั่งที่กำลังมองดูอยู่ ก็อดไม่ได้ที่จะบ่นในใจ:คำก็ภรรยา สองคำก็ภรรยา......คุณผู้หญิงยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองคือคุณชายสามฟู่ ถ้าหากรู้ความจริงขึ้นมา แล้วเกิดว่าเธอเตะคุณชายทิ้ง......ฉินฟั่งที่คิดแบบนั้น ก็ยังคงอดไม่ได้ที่จะยิ้มเยาะในใจแต่ใบหน้าของฟู่จิ้นหานที่เดิมทีเต็มไปด้วยความอบอุ่น จู่ ๆ สีหน้าก็กลับมืดมนลง ดวงตาของเขาจ้องมองไปทางฉินฟั่งอย่างเย็นชาฉินฟั่งตกใจนิดหน่อย ถึงขั้นตระหนกด้วยครู่หนึ่ง ทันใดนั้นเขาก็เผยรอยยิ้มออกมาพร้อมกับพูดประจบไปว่า “คุณชายครับ คุณชายใสใจคุณผู้หญิงมากขนาดนี้ หากคุณผู้หญิงทราบว่าคุณชายเป็นคนทำให้ เธอจะต้องประทับใจแน่นอนครับ”ทันทีที่เขาพูดจบ ฟู่จิ้นหานก็พูดอย่างไม่พอใจว่า “คุณผู้หญิงอะไรกัน? เธอยังไม่รู้ไม่ใช่รึไงว่าฉันไม่ใช่คุณชายสามฟู่ หากว่าเธอรู้เข้า......”ฟู่จิ้นหานพูดยังไม่ทันจบ ดวงตาของกลับคมกริบราวกับใบมีด เขาจ้องมองฉินฟั่งอย่างดุเดือดทันใดนั้นฉินฟั่งก็ตระหนักได้ว่า สิ่งที่เขาเพิ่งจะบ่นในใจไปเมื่อกี้ ถูกคุณชายพูดออกมาแล้วจริง ๆ!เมื่อสัมผัสได้ถึง
ซูอินไม่เคยมีเจตนาดีต่อซูหรานเลยสักครั้งแต่ทั้ง ๆ ที่เธอเป็นถึงหลานสาวของคุณปู่แท้ ๆเมื่อนึกถึงสถานการณ์ของซูหรานเมื่อไม่กี่วันก่อน เย่ถิงเซินก็พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำขึ้นว่า “หรานหราน ผมขอโทษนะ......”คำขอโทษนี้ ทำให้ซูหรานรู้สึกประหลาดใจนิดหน่อย“พี่เย่คะ ทำไมถึงพูดแบบนั้นล่ะคะ ฉันต่างหากที่เป็นฝ่ายต้องขอบคุณพี่ พี่ช่วยฉันมาตั้งสองครั้งติดแล้ว แต่ว่านะคะพี่เย่ ฉันไม่อยากทำให้พี่ต้องลำบากใจ เรื่องหุ้นส่วน ฉันจะคิดหาวิธีเองค่ะ”สำหรับเย่ถิงเซิน เธอเข้าใจความลำบากใจของเขาเป็นอย่างดีคุณท่านเย่เลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เล็กจนโต ในใจของเขา คุณท่านเย่สำคัญที่สุด ในเมื่อคุณท่านเย่คือคนสำคัญ เช่นนั้นหลานสาวที่คุณท่านเย่ใส่ใจมากที่สุดก็สำคัญมากเช่นกันอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ เย่ถิงเซินรู้ว่าเธอกำลังเข้าใจผิด หัวใจของเขาก็กระตุกเล็กน้อย ร่องรอยของความรู้สึกผิดก็เริ่มแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆในที่สุด เย่ถิงเซินก็ยิ้มอย่างขมขื่น “ไม่ใช่ผมหรอก”ซูหราน “......”“ผมไม่ได้เป็นคนช่วยคุณ เรื่องหุ้นส่วนพวกนั้น เป็นฝีมือของคนอื่น” พอเย่ถิงเซินนึกถึงฟู่จิ้นหาน เขารู้สึกแปลกใจที่เขาช่วยซูหรานขนาดนี้ แต่
“จี้ไห่ ที่บ้านเกิดเรื่องขึ้นแล้วค่ะ” ซุนฉินพูดทั้งน้ำตา ท่าทีดูตื่นตระหนกและกลัวของเธอ ทำให้ซูจี้ไห่เริ่มหัวใจเต้นแรง“เกิดเรื่องอะไรขึ้น ค่อย ๆ พูด......”ซูจี้ไห่เหลือบมองไปยังทิศทางที่รถคันหรูกำลังจะจากไปอย่างไม่เต็มใจ และล้มเลิกความคิดที่จะตามไปลง และรีบกลับบ้านตระกูลซูณ วิลล่าตระกูลซูขณะที่ซูจี้ไห่มาถึง ตำรวจก็กำลังสอบสวนเกี่ยวกับสถานการณ์อยู่ทันทีที่เห็นซูจี้ไห่ ซุนฉินก็รีบวิ่งตรงเข้าไปหาทั้งน้ำตา และโยนตัวเองเข้าไปในอ้อมแขนของเขาซูจี้ไห่สำรวจดูสถานการณ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในวิลล่า สภาพห้องถูกทำลายจนเละ ข้าวของทุกทำลายจนไม่เหลือชิ้นดีหลังจากที่ตำรวจจากไป ซุนฉินก็กัดฟันแน่น และร้องไห้ออกมา:“เป็นซูหราน จะต้องเป็นซูหรานแน่ ๆ ต่อให้พวกเขาจะทำลายกล้องวงจรปิด แต่ฉันก็รู้ว่าจะต้องเป็นเธอ จี้ไห่ หรือว่าเธอรู้เรื่องอะไรแล้วรึเปล่า ถึงได้มาแก้แค้นแทนแม่ของเธอ?”ซูจี้ไห่มองดูสิ่งเดียวที่ติดมากับกล้องวงจรปิด นั่นคือชายร่างสูงสองสามคนในชุดสูทสีดำในหัวเขานึกถึงภาพที่เขาเห็นตรงใต้ตึกไป๋ลี่ เขานึกถึงคนกลุ่มนั้น ไม่นานเขาก็เริ่มเชื่อแล้วว่าเป็นฝีมือของซูหรานจริง ๆแต่ว่า......
ซูหรานตกใจกับเสียงนั้น จู่ ๆ เธอก็ลุกขึ้นยืน และหันหลังกลับตามเสียงทันทีแต่ด้านหลังของเธอกลับมีฉากกั้นขั้นเอาไว้อยู่ ซูหรานมองผ่านฉากกั้นนั้น แต่ก็เห็นแค่เงาราง ๆ ของผู้ชายคนหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถมองเห็นได้ทั้งหมดขณะที่เธอกำลังจะเดินไปหา เสียงของคุณชายสามฟูก็ดังขึ้นอีกครั้ง:“คุณซู กรุณานั่งลงครับ”เสียงทุ้มต่ำที่มาพร้อมกับแรงกดดันซูหรานขมวดคิ้วกรุณานั่งงั้นเหรอ? นั่งตรงนี้ได้เลยใช่ไหม?ดูเหมือนซูหรานจะรู้สึกโล่งใจมาก หากไม่จำเป็นต้องเผชิญหน้ากับคุณชายสามฟู่ เช่นนั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องดี“ขอบคุณค่ะ คุณชายสามฟู่”ซูหรานนั่งลง และขอบคุณที่เขาจัดที่นั่งเอาไว้แบบนี้ ทำให้เธอผ่อนคลายมากขึ้น อย่างน้อยก็ยังมีระยะห่างเพื่อความปลอดภัยอยู่ ต่อให้เขาต้องการที่จะทำเรื่องอะไรที่ไม่ควรขึ้นมา เธอก็ยังพอมีเวลาให้โต้ตอบอยู่บ้างฟู่จิ้นหานไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ในตอนนี้เขาเหลือบมองการจัดการโดยรอบด้วยความพึงพอใจ แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยชอบดอกไม้ชมพู ๆ หวาน ๆ แบบนี้ก็เถอะ แต่ซูหรานจะต้องชอบเป็นแน่แล้วก็ยังมีนักไวโอลินนั่นอีก......ฟู่จิ้นหานดีดนิ้ว เสียงไวโอลินอันไพเราะก็ดังขึ
ถ้าคุณชายสามฟู่ไม่ได้บ้า เขาก็คงไม่พูดอะไรแบบนี้!พอสามีตัวพ่อพูดถึงงานแต่งงานขึ้นมา ในใจเธอก็เริ่มคาดหวัง แต่พอเป็นคุณชายสามฟู่เป็นคนพูดเรื่องงานแต่ง เธอกลับรู้สึกเหมือถูกปีศาจหมายหัวเอาไว้อยู่ซูหรานกลืนน้ำลาย แล้วมองดูโรงแรมที่อยู่ตรงหน้า เธอไม่กล้าแม้แต่จะอยู่ต่ออีกสักวินาทีเดียว เธอหันหลังกลับแล้วเรียกรถทันที เตรียมกลับเจินหลินย่วนและในขณะเดียวกัน ภายในร้านอาหาร รอยยิ้มที่เดิมทีอยู่บนใบหน้าของฟู่จิ้นหานก็แข็งทื่อทันทีเมื่อกี้ซูหรานวิ่งเร็วมาก กระทั่งเขายังคิดเลยว่าตัวเองเป็นเหมือนปีศาจด้วยซ้ำเขาอยากจะจัดงานแต่งงานให้เธอในฐานะคุณผู้หญิงฟู่ สำหรับเธอแล้ว มันน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ?ดอกไม้ที่อยู่รอบ ๆ ยังคงสร้างบรรยากาศโรแมนติก แต่ความเย็นชากลับค่อย ๆ ปกคลุมไปทั่วบรรยากาศ ทำให้ทั้งนักไวโอลินและพนักงานเสิร์ฟแทบสั่นสะท้านหลังจากที่ซูหรานจากไปแล้ว ฉินฟั่งก็ค่อย ๆ ก้าวไปข้างหน้า แต่ก็ไม่กล้าเข้าใกล้ฟู่จิ้นหานมากเกินไป“คุณชายครับ ให้ไปตามคุณผู้หญิงกลับมาไหมครับ?”ในความเป็นจริงฉินฟั่งอยากจะถามว่า คุณชายพูดอะไรออกไปกันแน่ ตอนที่เขามองเห็นคุณผู้หญิงวิ่งออกมาจากที่ไกล ๆ สีหน้าขอ
สัญชาตญาณบอกกับซูหรานว่า การที่ซูจี้ไห่ไปที่ตำบลหลิว จะต้องไม่ใช่แค่เรื่องธุรกิจแน่นอน......นับตั้งแต่ซูหรานหนีออกมาจากร้านอาหารในคืนนั้น ฟู่จิ้นหานก็คิดถึงแต่คำแนะนำของฉินฟั่งขณะที่หัวใจของเขากำลังสั่นคลอน เขาก็ได้รับสายโทรศัพท์สายหนึ่ง จนทำให้ต้องรีบกลับจิงเฉิงกว่าจะจัดการเรื่องในจิงเฉิงเสร็จ เวลาก็ผ่านไปแล้วห้าวันตอนที่ฟู่จิ้นหานกลับมาที่ไห่เฉิง เวลาก็ดึกมากแล้ว ทันทีที่ลงเครื่อง เขาก็ตรงกลับไปที่เจินหลินย่วนทันที เขาอยากที่จะเจอหน้าซูหรานหลายวันมานี้ เขาพยายามระงับความปรารถนาที่มีต่อเธอเอาไว้ตลอด เดิมทีงานสำหรับหนึ่งเดือน เขากลับอดหลับอดนอน ทำจนเสร็จภายในห้าวัน เพื่อที่จะได้กลับมาพบซูหรานที่ไห่เฉิงโดยเร็วที่สุดฟู่จิ้นหานกลับมาที่บ้าน พร้อมกับมื้อดึกในมือที่ซูหรานชอบทานมากที่สุด แต่ในห้องกลับมืดสนิทกระทั่งห้องของซูหรานเองก็ไม่เห็นวี่แววของคนเช่นกัน บรรยากาศรอบ ๆ มีเพียงความหนาวเย็น ราวกับว่าสองสามวันนี้ไม่มีใครอาศัยอยู่ซูหรานไปไหนกันนะ?ฟู่จิ้นหานรีบกดเบอร์โทรหาซูหรานทันที แต่โทรศัพท์กลับแจ้งเตือนว่าอีกฝ่ายปิดเครื่องอยู่พยายามโทรติดต่อกันหลายครั้ง จนตอนนี้ฟู่จิ้
คิดจะใช้มุกนี้อีกแล้วเหรอ?ตีเธอหรือด่าเธองั้นเหรอ?ในเมื่อเธอขอมาแบบนี้ เช่นนั้นเธอก็จะสนองความต้องการให้เธอได้สมใจเอง!“เธอ......” มานี่ซูหรานยังพูดไม่ทันจบ ฟู่จิ้นหานก็ได้ส่งสัญญาณให้ฉินฟั่งเสียก่อนเรื่องทำร้ายคนแบบนี้ ทำไมต้องให้ซูหรานเป็นคนลงมือด้วยตัวกันล่ะ?ฉินฟั่งก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ในช่วงเวลาอันรวดเร็วนั้น เขาก็ได้ตบหน้าซูอินไปหนึ่งทีเสียงเพี๊ยะดังขึ้น ไม่มีความปรานีใด ๆ ซูอินเดินเซจนแทบล้ม ยากที่จะทรงตัวเอาไว้ได้ ในหัวขาวโพลนไปหมด เหลือเพียงเสียงหึ่ง ๆ เท่านั้นใครกัน......ที่กล้าทำร้ายเธอได้ถึงขนาดนี้? !ทันทีที่ซูอินได้สติกลับมา เธอจึงมองไปที่ฉินฟั่งด้วยความโกรธฉินฟั่งได้รับการฝึกฝนมา เขาได้ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งที่บริษัทชิงอวิ๋น แถมยังได้รับอิทธิพลจากฟูจิ้นหานที่มีความเด็ดขาดในการต่อสู้อีกด้วย เพียงแค่สายตาเดียว ความกดดันของซูอินก็ถูกลดทอนลงไปทันทีแต่จะให้ซูอินยอมได้อย่างไร?เธอเป็นถึงหลานสาวแท้ ๆ ของตระกูลเย่ ฉินฟั่งคนนี้......ก็เป็นแค่สุนัขรับใช้ข้างกายฟู่จิ้นหานเท่านั้นต่อให้การตบเธอจะเป็นความต้องการของฟู่จิ้นหาน แต่มีคนมากมายอยู่ด้วยขนาดนี้ ห
ไม่จำเป็นต้องแก้ไขพินัยกรรมงั้นเหรอ?ซูอินดีใจมาก รู้สึกเหมือนได้รับความมั่นใจมากขึ้นแน่นอนว่าขอแค่เธอยังเป็นลูกสาวของฉินเหยียนอยู่ คุณท่านเย่ก็จะเห็นแก่หน้าฉินเหยียน และยอมรับทุกอย่างที่เป็นเธอครั้งนี้ ไม่ว่าคุณท่านเย่จะรอดมาด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่ไม่ว่ายังไงพินัยกรรมของคุณท่าน เมื่อกี้ทุกคนต่างก็ได้ยินอย่างชัดเจนกันหมดแล้วคุณท่านเย่ได้มอบทุกอย่างของตระกูลเย่ให้กับเธอ แม้ว่าวันนี้เธอจะยังไม่ได้รับช่วงต่อจากตระกูลเย่ แต่เธอก็ยังเป็นผู้สืบทอดเพียงคนเดียวอยู่ส่วนคนพวกนี้......ซูอินรู้สึกไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่เมื่อนึกถึงวิดีโอเมื่อกี้แล้ว ซูอินจึงหันไปมองซูหรานที่อยู่ข้าง ๆ คุณท่านเย่ทันทีในตอนนี้ เธอไม่มีเวลามามัวคิดว่าคลิปวิดีโอนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ คือการใช้ประโยชน์จากอำนาจเสียงของคุณท่าน เพื่อช่วยลบข้อครหาและปฏิเสธว่าคนในคลิปไม่ใช่เธอน้ำสกปรกนี้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ต้องสาดไปที่ซูหรานให้ได้เมื่อคิดได้เช่นนั้น ซูอินก็ขมวดคิ้วทันที “หนูไม่สนใจของนอกกายพวกนั้นหรอกค่ะ แต่ถ้าหากแม่ของหนูที่อยู่บนสวรรค์รู้ว่าหนูถูกใส่ร้ายด้วยคลิปวิดีโอนั้น จนทำ
น้ำเสียงนั้นดูทุ้มต่ำ แต่ก็มีความโกรธที่ไม่สามารถปิดบังเอาไว้ได้ปนอยู่ซูอินเงียบและไม่มีการตอบสนองอยู่นาน ส่วนคนอื่น ๆ ที่อยู่ตรงนั้น ก็กลับมีสีหน้าที่ดูต่างกันออกไปพวกเขาเพิ่งจะได้ยินอะไรกันแน่?เย่ซินกลืนน้ำลายลงคออึกหนึ่ง ก่อนจะกอดแขนตัวเองแน่น ราวกับพยายามขับไล่ความหนาวของเมื่อครู่นี้ที่แผ่ซ่านเข้ามาในร่างกายออกไปเธอหูฝาดไปรึเปล่านะ?เสียงนั้นน่ะ คือเสียงของคุณท่านจริง ๆ!แต่เห็น ๆ อยู่ว่าคุณท่านเสียชีวิตไปแล้ว แล้วร่างก็กำลังนอนอยู่ในโลงแก้วอีกด้วย จะมีเสียงออกมาได้อย่างไร?แต่เมื่อนึกถึงคำว่า “วิญญาณ” ขึ้นมา เย่ซินก็กลืนน้ำลายลงคอด้วยความตื่นตัวและเสียงที่ดังขึ้นอย่างกะทันหันนั้น ก็กลับยิ่งทำให้เย่ซือเหยียนมั่นใจในข้อสันนิษฐานก่อนหน้านี้ได้ และเข้าใจมากยิ่งขึ้นว่าการแสดงในวันนี้มีซูอินที่เป็นเป้าหมาย!เย่ซือเหยียนรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เธอสังเกตเห็นว่าทั้งเย่ถิงเซินและหยางซู พวกเขาสองคนไม่ได้มีปฏิกิริยาใด ๆ มากนักต่อเสียงของคุณปู่ในตอนนั้นเธอก็รู้ได้ในทันที ว่าทั้งสองคนเองก็มีส่วนร่วมในแผนการนี้ด้วยเช่นกันส่วนซูอิน......ตอนนี้ ในหัวของซูอินมันขาวโพลนไปหมดเธอเ
หน้าตาที่ดูไร้เดียงสาและอ่อนแอของซูอินแข็งทื่อทันทีชั่วขณะหนึ่ง เหมือนว่าหน้ากากนั้นของเธอจะถูกเจาะจนทะลุ สีหน้าเธอดูไม่ค่อยมั่นใจสักเท่าไหร่ “พี่ซู พี่หมายความว่ายังไง?”“ฮึ หมายความว่ายังไงงั้นเหรอ? น้องอินอิน เธอคงไม่คิดว่าทุกคนจะโง่กันหมดหรอกใช่ไหม? ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันเจอเธอ ฉันก็เดาได้แล้ว ว่าเธอเป็นคนยังไง ต่อหน้าก็แสร้งทำตัวไร้เดียงสาและอ่อนแอ แต่ในความเป็นจริง ใจกลับดำมืดเต็มไปด้วยแผนการ คุณสนุกกับการใช้หน้ากากที่เธอสร้างขึ้นมาหลอกลวงทุกคน ฉันก็เลยเล่นตามน้ำกับเธอไป แกล้งทำเป็นเชื่อในความดีและความไร้เดียงสาของเธอ”เสียงของหยางซูดังกึกก้องทั่วทั้งศาลาไว้ทุกข์ซูอินฟังแล้วก็รู้สึกบาดหูเป็นพิเศษในตอนนี้ ใบหน้าที่เคยแสดงความไร้เดียงสาของเธอก็เริ่มมีความโกรธปรากฏขึ้นมานิดหน่อยที่อยางซูจะบอกก็คือ ทุกสิ่งที่เขาปฏิบัติต่อเธอ มันเป็นเพียงแค่การแสดงอย่างนั้นน่ะเหรอ?แล้วที่เมื่อวานเขารับปากเธอว่าจะใช้เส้นสายเรียกทนายอู๋มาล่ะ มันเพื่ออะไรกัน?มีคนอื่นอยู่ด้วย ซูอินจึงไม่สะดวกที่จะถามออกมาแต่เมื่อเธอจ้องไปที่ตาของหยางซู กลับทำให้หยางซูเข้าใจในทันทีว่าเธอกำลังคิดอะไร และคิดจะ
ฟู่จิ้นหานก้มหน้าสบตากับซูหรานแววตาของเธอดูมั่นคง มือที่กำเสื้อตรงหน้าอกของเขาก็ยิ่งบีบแน่นขึ้นเรื่อย ๆ ฟู่จิ้นหานรู้สึกกังวลในใจไม่หาย แต่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ไม่สามารถขัดขืนซูหรานได้ฟู่จิ้นหานวางเธอลง แต่แขนของเขายังคงโอบเอวเธอเอาไว้อยู่ ท่าทางที่เขาปกป้องเธอนี้ ทำให้ผู้คนรอบข้างเกิดความคิดที่แตกต่างกันออกไปคนที่ตกใจและประหลาดใจที่สุด ก็คือเย่ซินฟู่จิ้นหาน......ผู้นำคนใหม่ของฟู่ซือกรุ๊ปคนนี้ เย่ซินเคยเห็นมาก่อนเขาจัดการกับฟู่ซือกรุ๊ปด้วยวิธีการที่โหดเหี้ยม ซึ่งเป็นที่พูดถึงกันในจิงเฉิง แค่เธอได้ยินก็รู้สึกขนลุกทุกคนต่างก็พูดกันว่าฟู่จิ้นหานเป็นคนเย็นชาไร้ความรู้สึก แต่ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเธอในตอนนี้ สีหน้ากลับเต็มไปด้วยความอ่อนโยน แววตาของเขาจ้องมองไปยังหญิงสาวที่อยู่ข้าง ๆ บ้างก็เหลือบมองไปยังอีกด้าน แต่แววตากลับเปลี่ยนเป็นเฉียบขาดในทันทีท่าทีที่ฟู่จิ้นหานปฏิบัติต่อผู้หญิงคนนี้พิเศษมากจริง ๆเย่ซินอดไม่ได้ที่จะมองไปยังคนที่อยู่ข้าง ๆ ฟู่จิ้นหาน และนึกถึงชื่อที่พวกเขาเพิ่งจะเรียกเธอขึ้นมาเมื่อกี้หรานหราน......ซูหราน......เธอคือหลานสาวที่คุณท่านรับอุปการะมา
ทุกคนต่างก็ตกตะลึงไปชั่วขณะเสียงของผู้หญิงที่ดังออกมาจากโทรศัพท์มือถือ ได้รับการปรับแต่งมาอย่างละเอียดถึงจะฟังไม่ชัดเจนว่าเป็นของใคร แต่ก็กลับฟังออกว่าบรรยากาศค่อนข้างจะเข้มข้นภายใต้เสียงร้องของหญิงสาว กระทั่งการพูดด้วยคำพูดที่ดูเปิดเผยต่าง ๆ ทำให้คนที่อยู่ ณ ตรงนั้นแค่ได้ยิน สีหน้าของพวกเขาก็เริ่มเปลี่ยนไปบ้างแล้วซูอินรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย และแอบบ่นลินเยว่เยว่ที่ทำการแปลงเสียง แต่ยังไงก็ช่างเถอะ ต่อให้จะฟังไม่ออกว่าเป็นเสียงของซูหราน แต่ภาพที่ทุกคนเห็นก็เป็นซูหราน ยังไงก็มีผลลัพธ์เดียวกัน!ซูอินเหลือบมองไปที่เย่ถิงเซินเธออยากเห็นมากที่สุด ก็คือปฏิกิริยาของเย่ถิงเซินหลังจากที่เขาเห็นว่าคนในคลิปคือซูหราน แต่เย่ถิงเซินเพียงแค่ขมวดคิ้ว และมีสีหน้าที่ดูไม่พอใจเท่านั้น เขากลับไม่หยิบโทรศัพท์ออกมาสักทีดูเหมือนว่าเย่ซินจะตกใจกับภาพที่เธอเห็นมาก เธอจ้องมองที่หน้าจอโทรศัพท์อย่างงงงวยภายในห้องไว้ทุกข์ เสียงของหญิงสาวยังคงดังกึกก้องอยู่ในบรรยากาศที่แปลกประหลาด ก็มีคนที่สองที่หยิบโทรศัพท์ออกมา และเปิดข้อความที่เพิ่งได้รับเมื่อสักครู่นี้อ่า......เสียงที่เหมือนกับก่อนหน้านี้ก็ดัง
“พวกเขาจะทำอะไร?”ในหัวเย่ซือเหยียนยังคงคิดไม่ตก ไม่สามารถคาดเดาภาพรวมของเรื่องราวได้เลยแต่เธอก็พอจะเข้าใจอยู่บ้าง: หากคุณท่านยังไม่ตายจริง ๆ เช่นนั้นทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้มันก็คือกับดักและกับดักนี้ ถูกจัดเตรียมเอาไว้เพื่อใครอย่างนั้นเหรอ?เย่ซิน? ตัวเธอ? หรือว่า......ซูอิน?เย่ซือเหยียนรู้สึกโชคดีที่เธอค้นพบเรื่องนี้ได้ก่อน ไม่เช่นนั้น เธอก็อาจจะตกหลุมพรางไปด้วยส่วนซูอิน......ความเกลียดชังสะสมอยู่ในดวงตาของเย่ซือเหยียนไม่ว่ากับดักนี้จะถูกจัดเตรียมเอาไว้สำหรับใครก็ตาม วันนี้ก็ยังถือว่าเป็นโอกาสที่ดีในตอนนั้นแทบจะในทันที เย่ซือเหยียนโทรหาสายสายหนึ่ง และสั่งการกับคนที่อยู่ปลายสายหนึ่งประโยค หลังจากวางสาย ในใจเย่ซือเหยียนก็เริ่มรู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป......ในขณะเดียวกัน ณ ศาลาไว้ทุกข์ ซูอินยังคงเต็มไปด้วยความคาดหวังกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นอาการเป็นลมของเย่ซือเหยียนทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจอย่างมากรอจนกระทั่งพ่อบ้านจัดแจงให้คนพาเย่ซือเหยียนออกไป ซูอินก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่ทนายอู๋ แต่สุดท้ายเธอก็รู้สึกกลัวว่าจะมีคนเห็นความลนลานของเธอ เธอจึงไม่กล้าพู
ดูเหมือนว่า ผู้ที่อยู่ในที่นั้นนอกจากท่านท่านเย่แล้ว ก็มีเพียงเย่ถิงเซินเท่านั้นที่สามารถตัดสินใจได้การกระทำนี้ ทำให้ซูอินรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยต้องทำความเข้าใจก่อนว่า เธอคือผู้สืบทอดที่ถูกต้องตามกฎหมายของตระกูลเย่ และนอกจากนี้ ทนายความอู๋คนนี้เองก็เป็นพยานในการทำพินัยกรรมของคุณท่านเย่อีกด้วย เขาก็ควรจะรู้ว่าผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จากพินัยกรรมของคุณท่านคือใครเขาควรถามเธอ และให้เธอเป็นผู้ตัดสินใจสิถึงจะถูกเขากลับถือหางให้เย่ถิงเซินเป็นตัวหลักแต่ไม่นาน ซูอินก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก ที่ทนายอู๋คนนี้เป็นคนที่มีตาแต่ไร้แวว รอให้ประกาศพินัยกรรมออกมาก่อน ว่าเธอคือผู้สืบทอดทรัพย์สินของตระกูลเย่ จะทำให้คนเหล่านี้ต้องตื่นตระหนกอีกครั้งแน่นอน“เชิญทนายประกาศได้เลยครับ”คำพูดของเย่ถิงเซินแต่ละคำ ทั้งหนักแน่นและชัดเจนทนายความอู๋เปิดถุงเอกสารที่ปิดผนึกเอาไว้ท่ามกลางสายตาของทุกคน และนำพินัยกรรมที่อยู่ข้างในออกมา“ฉัน เย่ชิงเหอ ทรัพย์สินทั้งหมดที่อยู่ภายใต้ชื่อของฉัน จะถูกสืบทอดโดย......”ทนายความอู๋กำลังอ่านเนื้อหาของพินัยกรรม ทุกคนในศาลาไว้ทุกข์ต่างก็ตั้งใจฟัง และเมื่อถึงจุดนี้ สีหน้าของทุกค
“มันแน่นอนอยู่แล้ว”หยางซูจ้องมองไปที่ซูอิน เขาจะไม่บอกกับเธอ ว่าทนายคนนั้นได้อยู่ที่ไห่เฉิงเรียบร้อยแล้วทันทีที่คุณท่านกลับมาที่ไห่เฉิง ก็ได้ให้ทนายรีบมาที่นี่อย่างลับ ๆและการกระทำของซูอินในคืนนี้ ดูท่าแล้ว คุณท่านเองก็น่าจะมองสถานการณ์ออกตั้งแต่แรกแล้วเมื่อได้รับคำตอบที่แน่นอนจากหยางซู ซูอินก็ยิ่งมีความสุขมากกว่าเดิมเธอไม่กล้าที่จะลำพองตัวมากเกินไป เหมือนว่าเธอจะรู้สึกพอใจมาก จึงถอนหายใจออกมา “การที่สามารถทำตามความปรารถนาของคุณปู่ได้ ก็ถือเป็นสิ่งเดียวที่ฉันสามารถทำเพื่อคุณปู่ได้แล้วล่ะค่ะ”ซูอินลดสายตาลง ให้ดูเหมือนว่าเธอไม่มีความต้องการอะไรเลยจริง ๆแต่หยางซูกลับรู้จักธาตุแท้ของผู้หญิงคนนี้แล้วในที่สุดหยางซูก็ไม่สามารถอดทนต่อความเกลียดชังในใจได้ เขาจึงอ้างว่าตนรู้สึกเหนื่อย และต้องการพักผ่อน จึงขอให้ซูอินออกไปก่อนเมื่อกลับมาถึงห้อง ซูอินก็รีบวางแผนทุกอย่างที่เหลือทันทีเช้าวันถัดมา ทั้งวิลล่าก็เริ่มวุ่นวายตั้งแต่เช้าแล้วเมื่อวานได้มีการกำหนดให้เผาศพวันนี้ก่อนเริ่มการเผาศพ ก็ควรไปสักการะร่างของผู้เสียชีวิตเสียก่อนภายในโลงแก้วคุณท่านนอนอยู่ข้างใน ใบหน้าดูมีชีว