แววตาของฟู่จิ้นหานเคร่งขรึมขึ้นมาทันที และกลับรถโดยไม่ลังเล ในขณะเดียวกันก็โทรหาฉินฟั่ง“มีผู้หญิงอยู่บนรถ การกระทำทั้งหมดถูกระงับชั่วคราว ฉันกำลังรีบกลับไป ฟังคำสั่งของฉันในภายหลัง!”ฉินฟั่ง……คุณชายรู้ได้อย่างไร?“คุณชาย……” ฉินฟั่งอยากหยุดฟู่จิ้นหาน แต่โทรศัพท์กลับถูกวางสายไปแล้ว“แย่แล้ว!”ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักว่าสถานะของผู้หญิงบนรถอาจไม่ธรรมดา จึงรีบขับรถกลับไปเช่นกันและในเวลานี้ทางซูหราน เจียงเฉิงขับรถไป ความบ้าคลั่งในสายตาของเขาก็เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆภายในใจของซูหรานอดไม่ได้ที่จะด่าคน“พี่ใหญ่ รบกวนคุณทำความเข้าใจก่อน ฟู่จิ้นหานอะไรนั่นจะมาควบคุมความตายของคนนิรนามคนหนึ่งอย่างฉันได้อย่างไร? คุณจับผิดคนแล้ว!”ฉันและคุณชายสามฟู่อะไรนั่นมากที่สุดก็เป็นเพียงมิตรภาพจอมปลอม!ดังนั้นเมื่อสักครู่คนเดียวในสมองของเธอที่สามารถขอความช่วยเหลือได้ก็คือ“สามี”!แต่ตอนนี้ความหวังเดียวก็พังทลายลงแล้ว!แต่เธอไม่อยากตายไปเช่นนี้ และยังคงโน้มน้าวคนขับรถที่อยู่ตรงหน้า“อีกอย่างฉันแต่งงานแล้วจริงๆ……”ซูหรานยังพูดไม่ทันจบ คนขับรถก็ยิ้มอย่างเย็นชา“เฮ้อ สาวน้อย บางทีฟู่จิ้นหานอาจจะชอบเรื่องอะไร
ฟู่จิ้นหานรีบไปที่ห้องพัก ซูหรานเห็นเขา ก็รีบลงจากเตียง และวิ่งไปที่ฟู่จิ้นหานทั้งร่างกายของเธอเกาะอยู่บนตัวเขา และพูดอย่างตื่นเต้น“ฉันนึกว่าฉันจะตายแล้ว ฉันเสียเลือดมาแปดชีวิตแล้วจริงๆ และเกือบจะถูกคุณชายสามฟู่จอมโง่นั่นทำให้เดือดร้อน”“???”จอม……โง่?ฟู่จิ้นหานขมวดคิ้วซูหรานกลับไม่สังเกต พูดต่อไปด้วยความโกรธ“ฉันเกือบจะตายจริงๆ เป็นผีก็จะไปปรากฏตัวบนเตียงของเขาตอนกลางคืน ทำให้เขานอนไม่หลับทุกคืน!”ฉินฟั่งที่เพิ่งมาถึงด้านหน้าประตู มองท่าทางของทั้งสองคน ก็ตกใจขึ้นมาทันทีครั้งแรกที่เขาเห็นใครสักคนกล้าที่จะหยาบคายกับคุณชายสามได้เช่นนี้และคุณซูคนนี้ เธอจะรู้ไหมว่าคำว่า“คุณชายสามฟู่จอมโง่”ที่ออกมาจากปากเธอ คือคนที่อยู่ด้านหน้าเธอ?ส่วนคุณชายก็ขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจเล็กน้อยฉินฟั่งนึกว่าคุณชายจะผลักผู้หญิงคนนี้ออกไป หลังจากนั้นก็ตำหนิเธอ แต่คุณชายกลับกอดเอวเธอ เหมือนกลัวว่าเธอจะตกจากตัวเขาลงไปมุมปากของเขา ยังมีรอยยิ้มเล็กน้อยสักพักหนึ่ง ฉินฟั่งสับสนเล็กน้อยและคนสองคนในห้องพักผู้ป่วย ไม่ได้ให้ความสนใจเขาเลยฟู่จิ้นหานควรสอบสวนการลงโทษซูหรานที่กําเริบเสิบสาน แต่เธอบอ
สำนักงานใหญ่ของเครื่องประดับซิงหลานอยู่ที่ตึกไป๋ลี่ซูหรานเพิ่งขึ้นลิฟต์ไป ก็มีรถลีมูซีนแถวหนึ่งมาจอดอยู่ด้านหน้าของตึกฟู่จิ้นหานลงจากรถล้อมรอบด้วยบอดี้การ์ดฉินฟั่งเดินอยู่ด้านข้างของฟู่จิ้นหาน ไม่ระวังถามคำถามภายในใจ“ตระกูลฟู่มีอุตสาหกรรมเพียงไม่กี่ที่ที่ตึกไป๋ลี่ ส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ที่เมืองไห่เฉิงที่ตึกของตระกูลฟู่ คุณชายเลือกตึกไป๋ลี่เป็นพิเศษสำหรับการลาดตระเวนอุตสาหกรรม คงจะไม่ใช่เป็นเพราะคุณซูใช่ไหม?”ฟู่จิ้นหานเดินไป พร้อมหัวเราะอย่างเหยียดหยาม“เฮ้อ เพราะเธอเหรอ?เรื่องตลก!”แต่เมื่อขึ้นลิฟต์แล้ว เห็นได้ชัดว่าฟู่จิ้นหานอยู่บนป้ายชั้นของ“เครื่องประดับซิงหลาน”และหยุดอยู่นานกว่าสามวินาที“……”ฉินฟั่งขยับปาก รู้แต่ไม่พูดออกมาเห็นได้ชัดว่าคุณชายปากไม่ตรงกับใจ……ซูหรานมาที่สำนักงานใหญ่ของซิงหลานเป็นครั้งแรก ที่แผนกต้อนรับ เธอก็ถูกขัดขวางไว้บริษัทที่แม่เธอทิ้งไว้ เธอไม่สามารถเข้าไปได้ ตลกชะมัด!“คุณรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร”พนักงานต้อนรับมองซูหรานอย่างเหยียดหยาม“ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ไม่ได้นัดหมาย แม้ว่าคุณจะเป็นภรรยาของตระกูลฟู่ที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศจีนของเรา ล้วนก็ไม่สามาร
ซูหรานคิดจะวิ่งตามไป แต่ทันทีที่เธอก้าวเท้าออกไป ซูอินก็เข้ามาจับข้อมือของเธอเอาไว้ซูอินเก็เห็นแผ่นหลังนั้นด้วยเหมือนกัน และเธอก็จำได้ว่าเป็นคุณชายสามฟู่นั่นเอง!ซูหรานคิดจะตามไปยั่วคุณชายสามฟู่งั้นเหรอ?เธอจะปล่อยให้ซูหรานได้มีโอกาสได้อย่างไร!ทั้งสองยื้อกันอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งร่างนั้นได้หายไป ซูอินจึงคลายมือออกจากนั้นเธอก็ท้าทายซูหรานอย่างไม่แยแสว่า "เธอคิดว่าเขาจะชอบเธอจริงๆเหรอ? ต่อให้เขาจะชอบเธอ และก็ไม่สามารถแต่งงานกับเธอได้หรอกนะ!""???" ซูหรานสับสนสามีตัวพ่อ...แต่งงานกับเธอไม่ได้งั้นเหรอ?แต่พวกเขาได้จดทะเบียนสมรสกันแล้วนะ!แม้ว่าจะเป็นข้อตกลง แต่ก็เป็นไปไม่ได้สำหรับเธอที่จะเล่าเรื่องวงในให้ซูอินได้รับรู้ซูหรานเหลือบมองลู่ซิวหนิงที่ยังคงเจ็บปวดอยู่ และเลิกคิ้วด้วยการเยาะเย้ย "เธอไม่ไปดูพี่ซิวหนิงของเธอเหรอ? หากต่อไปยกขึ้นมาไม่ได้ เธอจะเอาอะไรมามัดเขาเอาไว้?""เธอ..." ซูอินสามารถฟังคำเหน็บแนมของซูหรานออกซูหรานเมินเธอและเดินออกจากตึกไป๋ลี่ซูอินเต็มไปด้วยความโกรธ และถลึงตาใส่ซูหรานไปหนึ่งครั้ง แต่สุดท้ายก็ต้องพาลู่ซิวหนิงไปตรวจที่โรงพยาบาลทางโรงพยาบาลได้วิน
หลังจากเดินออกจากสำนักงานกฎหมายซิงเฉิน ซูหรานก็เต็มไปด้วยความคิด และไม่สามารถสงบสติอารมณ์เอาไว้ได้เลยลุงกู้บอกว่าแม่ของเธอทิ้งพินัยกรรมลับเอาไว้ด้วย และอธิบายว่าพินัยกรรมนั้นจะถูกเปิดเผยได้หลังจากที่เธอได้รับมรดกซิงหลานจิวเวลรี่เท่านั้นพินัยกรรมของแม่ได้จัดเตรียมทุกอย่างไว้ล่วงหน้า ราวกับว่าแม่ของเธอนั้นรู้ว่าจะมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับเธอซึ่งพินัยกรรมลับฉบับนี้ มันยิ่งเพิ่มความสงสัยให้กับซูหรานมากยิ่งขึ้นว่า อุบัติเหตุในตอนนั้นมันไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายอย่างแน่นอน!ขณะที่เธอกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น จู่ๆ โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น และก็เป็นเสิ่นยวนเพื่อนสนิทของเธอที่โทรเข้ามาทันทีที่ต่อสายได้ เสียงที่เป็นกังวลของเสิ่นยวนก็ดังขึ้น "หรานหราน เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม ต้องขอโทษจริงๆ สองวันมานี้ฉันต้องซ้อมเต้นรำในทีม มือถือถูกยึดไป ตอนนี้ฉันถึงได้รู้เรื่องของเธอ หลินเยว่เยว่ทำแบบนี้ได้อย่างไร นำเรื่องนี้ไปป่าวประกาศไปทั่ว หากฉันอยู่ ฉันจะต้องฉีกปากเธอให้เป็นชิ้นไปเลย!"ข่าวที่ว่าซูหรานได้ไปมั่วสุมกับผู้ชาย จนถูกตระกูลซูไล่ออกจากบ้าน ตอนนี้ได้แพร่กระจายไปในกลุ่มศิษย์เก่าแล้วแต่เธอไม่เชื่อหร
ชั่วขณะหนึ่ง หัวใจของซูหรานก็สั่นไหวแต่เธอยังไม่สามารถหาสาเหตุการจากไปของแม่ในอุบัติเหตุครั้งนั้นได้ ต่อให้เธอจะออกจากเมืองไห่เฉิงนี้ไป จิตใจของเธอคงไม่ความสุขอย่างแน่นอนขณะที่เธอไม่รู้ว่าจะบอกปัดรุ่นพี่ได้อย่างไรนั้น เสียงที่อ่อนโยนของเสิ่นเหยี่ยนก็ได้ดังขึ้นมาว่า "ไม่จำเป็นต้องรีบตอบ คำเชิญนี้มีผลตลอดเวลา!"ซูหรานถอนหายใจด้วยความโล่งอก…ท้องฟ้าได้มืดลงแล้ว ในสำนักงานขนาดใหญ่ชั้นบนสุดของอาคารฟู่ซื่อในตอนนี้หลังจากการตรวจสอบ ฟู่จิ้นหานก็นั่งบนเก้าอี้หลังโต๊ะทำงาน และรอสายของซูหรานโดยไม่รู้ตัวทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นแต่เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นและเห็นชื่อที่แสดงบนหน้าจอของโทรศัพท์มือถือ ดวงตาของฟู่จิ้นหานก็มืดลง เขารับสายและพูดด้วยน้ำเสียงไม่ดีว่า "พูด!"ความเย็นยะเยือกพัดผ่านจี้เยี่ยนโจวที่อยู่อีกปลายสายทันที และเขากำลังคิดว่าตัวเองได้ไปทำให้เทพเจ้าแห่งน้ำแข็งขุ่นเคืองใจตั้งแต่เมื่อไหร่กันแน่จู่ๆ เมื่อตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่าง ยีนการซุบซิบจึงเริ่มกระโดดขึ้นมาทันที "เป็นยังไงบ้างๆ สถานการณ์เมื่อคืนนี้? มีเรื่องที่อธิบายไม่ได้เกิดขึ้นหรือเปล่า? ถ้าฉันเป็นลู่ซิวหนิง เมื
ครึ่งชั่วโมงต่อมาซูหรานและเสิ่นเหยี่ยนรีบเดินเข้าไปในโรงแรมเมืองไห่เฉิง ลู่ซิวหนิงและซูอินที่รออยู่ที่นี่มานานแล้วก็เห็นพวกเขาทันทีเมื่อเห็นเสิ่นเหยี่ยน ซูอินก็รู้สึกอิจฉาจนแทบจะคลุ้มคลั่งดูเหมือนว่าเธอจะพูดอย่างไม่ตั้งใจว่า "ฉันอิจฉาพี่สาวจริงๆ ที่สวยขนาดนี้ โดยข้างกายไม่เคยขาดคนที่มาคอยตามจีบเลย"จู่ๆ สายตาที่ดุร้ายก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของลู่ซิวหนิง เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วโทรออก "มีชายคนหนึ่งมากับเธอด้วย ให้เธอสลัดเขาออกไป"ในล็อบบี้ของโรงแรม ซูหรานได้รับสายจากหมายเลขที่ไม่รู้จักอีกครั้ง [สลัดคนข้างๆ ออกไป!]ซูหรานรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังพุ่งเป้ามาที่เธอเธอไม่เคยสร้างศัตรู ยกเว้นลู่ซิวหนิง!ดูเหมือนว่าการเตะในวันนี้จะเบาไปแล้วซูหรานยิ้มๆ แล้วหันไปหาเสิ่นเหยี่ยนแล้วพูดว่า "รุ่นพี่คะ ขอบคุณรุ่นพี่นะคะที่มาส่งฉัน ฉันต้องไปพบเพื่อนเก่าน่ะค่ะ รุ่นพี่กลับไปก่อนได้เลยนะคะ"แต่ทว่าเสิ่นเหยี่ยนไม่เชื่อแต่อย่างใดแต่เมื่อเขากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ซูหรานก็แลบลิ้นออกมาอย่างร่าเริง "ต้องขอโทษด้วยนะคะรุ่นพี่ ไม่ใช่เพื่อนเก่าหรอกค่ะ แต่เป็น... สามีของฉัน!"เสิ่นเหยี่ยนหยุดชะงัก และห
โรงแรมเมืองไห่เฉิง ในห้องเพรสซิเดนเชียลสวีทฟู่จิ้นหานยืนอยู่หน้าหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานขนาดใหญ่ และมองลงไปที่ชั้นล่างอย่างมีความหมายเป็นนัยเมื่อครู่ที่ผ่านมา เขาได้เห็นรถยนต์คันนั้นแล้ว นี่ซูหรานและผู้ชายคนนั้นก็อยู่ในโรงแรมเมืองเจียงเฉิงด้วยงั้นเหรอ!ฟู่จิ้นหานรู้สึกกระวนกระวายใจ เมื่อเขาคิดว่าลูกแมวป่าและชายคนนั้นอาจอยู่ในห้องใดห้องหนึ่ง และกำลังทำสิ่งที่ไม่อาจบรรยายได้อยู่จู่ๆ ก็มีเสียงเคาะประตู และจากนั้นก็มีเสียงแปลกๆ ของบอดี้การ์ดได้รายงานว่า "คุณชายสามครับ... ของขวัญจากคุณชายลู่มาถึงแล้วครับ"ฟู่จิ้นหานขมวดคิ้วลู่ซิวหนิง?ฟู่จิ้นหานเริ่มกระวนกระวายใจมากขึ้น ในขณะที่เขากำลังจะพูดว่า "ไสหัวออกไป" จู่ๆ เขาก็เปลี่ยนใจขึ้นมา"อืม" ฟู่จิ้นหานตอบเบาๆอืม?บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านนอกต่างก็เหงื่อท่วมตัว บอสฉินฟั่งได้ถูกคุณชายสามส่งไปจัดการเรื่องของตระกูลเจียงแล้ว และเขาก็ถูกบังคับให้ต้องเข้ามารับผิดชอบตรงนี้ แต่ความคิดของคุณชายสามนั้นเขาไม่สามารถเข้าใจได้ และคำว่า "อืม" นี้หมายความว่าอย่างไรกันแน่?ท่ามกลางความร้อนใจ บอดี้การ์ดจึงเปิดประตูและเดินเข้ามาทันทีที่ซูอินเข้ามา
คิดจะใช้มุกนี้อีกแล้วเหรอ?ตีเธอหรือด่าเธองั้นเหรอ?ในเมื่อเธอขอมาแบบนี้ เช่นนั้นเธอก็จะสนองความต้องการให้เธอได้สมใจเอง!“เธอ......” มานี่ซูหรานยังพูดไม่ทันจบ ฟู่จิ้นหานก็ได้ส่งสัญญาณให้ฉินฟั่งเสียก่อนเรื่องทำร้ายคนแบบนี้ ทำไมต้องให้ซูหรานเป็นคนลงมือด้วยตัวกันล่ะ?ฉินฟั่งก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ในช่วงเวลาอันรวดเร็วนั้น เขาก็ได้ตบหน้าซูอินไปหนึ่งทีเสียงเพี๊ยะดังขึ้น ไม่มีความปรานีใด ๆ ซูอินเดินเซจนแทบล้ม ยากที่จะทรงตัวเอาไว้ได้ ในหัวขาวโพลนไปหมด เหลือเพียงเสียงหึ่ง ๆ เท่านั้นใครกัน......ที่กล้าทำร้ายเธอได้ถึงขนาดนี้? !ทันทีที่ซูอินได้สติกลับมา เธอจึงมองไปที่ฉินฟั่งด้วยความโกรธฉินฟั่งได้รับการฝึกฝนมา เขาได้ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งที่บริษัทชิงอวิ๋น แถมยังได้รับอิทธิพลจากฟูจิ้นหานที่มีความเด็ดขาดในการต่อสู้อีกด้วย เพียงแค่สายตาเดียว ความกดดันของซูอินก็ถูกลดทอนลงไปทันทีแต่จะให้ซูอินยอมได้อย่างไร?เธอเป็นถึงหลานสาวแท้ ๆ ของตระกูลเย่ ฉินฟั่งคนนี้......ก็เป็นแค่สุนัขรับใช้ข้างกายฟู่จิ้นหานเท่านั้นต่อให้การตบเธอจะเป็นความต้องการของฟู่จิ้นหาน แต่มีคนมากมายอยู่ด้วยขนาดนี้ ห
ไม่จำเป็นต้องแก้ไขพินัยกรรมงั้นเหรอ?ซูอินดีใจมาก รู้สึกเหมือนได้รับความมั่นใจมากขึ้นแน่นอนว่าขอแค่เธอยังเป็นลูกสาวของฉินเหยียนอยู่ คุณท่านเย่ก็จะเห็นแก่หน้าฉินเหยียน และยอมรับทุกอย่างที่เป็นเธอครั้งนี้ ไม่ว่าคุณท่านเย่จะรอดมาด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่ไม่ว่ายังไงพินัยกรรมของคุณท่าน เมื่อกี้ทุกคนต่างก็ได้ยินอย่างชัดเจนกันหมดแล้วคุณท่านเย่ได้มอบทุกอย่างของตระกูลเย่ให้กับเธอ แม้ว่าวันนี้เธอจะยังไม่ได้รับช่วงต่อจากตระกูลเย่ แต่เธอก็ยังเป็นผู้สืบทอดเพียงคนเดียวอยู่ส่วนคนพวกนี้......ซูอินรู้สึกไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่เมื่อนึกถึงวิดีโอเมื่อกี้แล้ว ซูอินจึงหันไปมองซูหรานที่อยู่ข้าง ๆ คุณท่านเย่ทันทีในตอนนี้ เธอไม่มีเวลามามัวคิดว่าคลิปวิดีโอนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ คือการใช้ประโยชน์จากอำนาจเสียงของคุณท่าน เพื่อช่วยลบข้อครหาและปฏิเสธว่าคนในคลิปไม่ใช่เธอน้ำสกปรกนี้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ต้องสาดไปที่ซูหรานให้ได้เมื่อคิดได้เช่นนั้น ซูอินก็ขมวดคิ้วทันที “หนูไม่สนใจของนอกกายพวกนั้นหรอกค่ะ แต่ถ้าหากแม่ของหนูที่อยู่บนสวรรค์รู้ว่าหนูถูกใส่ร้ายด้วยคลิปวิดีโอนั้น จนทำ
น้ำเสียงนั้นดูทุ้มต่ำ แต่ก็มีความโกรธที่ไม่สามารถปิดบังเอาไว้ได้ปนอยู่ซูอินเงียบและไม่มีการตอบสนองอยู่นาน ส่วนคนอื่น ๆ ที่อยู่ตรงนั้น ก็กลับมีสีหน้าที่ดูต่างกันออกไปพวกเขาเพิ่งจะได้ยินอะไรกันแน่?เย่ซินกลืนน้ำลายลงคออึกหนึ่ง ก่อนจะกอดแขนตัวเองแน่น ราวกับพยายามขับไล่ความหนาวของเมื่อครู่นี้ที่แผ่ซ่านเข้ามาในร่างกายออกไปเธอหูฝาดไปรึเปล่านะ?เสียงนั้นน่ะ คือเสียงของคุณท่านจริง ๆ!แต่เห็น ๆ อยู่ว่าคุณท่านเสียชีวิตไปแล้ว แล้วร่างก็กำลังนอนอยู่ในโลงแก้วอีกด้วย จะมีเสียงออกมาได้อย่างไร?แต่เมื่อนึกถึงคำว่า “วิญญาณ” ขึ้นมา เย่ซินก็กลืนน้ำลายลงคอด้วยความตื่นตัวและเสียงที่ดังขึ้นอย่างกะทันหันนั้น ก็กลับยิ่งทำให้เย่ซือเหยียนมั่นใจในข้อสันนิษฐานก่อนหน้านี้ได้ และเข้าใจมากยิ่งขึ้นว่าการแสดงในวันนี้มีซูอินที่เป็นเป้าหมาย!เย่ซือเหยียนรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เธอสังเกตเห็นว่าทั้งเย่ถิงเซินและหยางซู พวกเขาสองคนไม่ได้มีปฏิกิริยาใด ๆ มากนักต่อเสียงของคุณปู่ในตอนนั้นเธอก็รู้ได้ในทันที ว่าทั้งสองคนเองก็มีส่วนร่วมในแผนการนี้ด้วยเช่นกันส่วนซูอิน......ตอนนี้ ในหัวของซูอินมันขาวโพลนไปหมดเธอเ
หน้าตาที่ดูไร้เดียงสาและอ่อนแอของซูอินแข็งทื่อทันทีชั่วขณะหนึ่ง เหมือนว่าหน้ากากนั้นของเธอจะถูกเจาะจนทะลุ สีหน้าเธอดูไม่ค่อยมั่นใจสักเท่าไหร่ “พี่ซู พี่หมายความว่ายังไง?”“ฮึ หมายความว่ายังไงงั้นเหรอ? น้องอินอิน เธอคงไม่คิดว่าทุกคนจะโง่กันหมดหรอกใช่ไหม? ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันเจอเธอ ฉันก็เดาได้แล้ว ว่าเธอเป็นคนยังไง ต่อหน้าก็แสร้งทำตัวไร้เดียงสาและอ่อนแอ แต่ในความเป็นจริง ใจกลับดำมืดเต็มไปด้วยแผนการ คุณสนุกกับการใช้หน้ากากที่เธอสร้างขึ้นมาหลอกลวงทุกคน ฉันก็เลยเล่นตามน้ำกับเธอไป แกล้งทำเป็นเชื่อในความดีและความไร้เดียงสาของเธอ”เสียงของหยางซูดังกึกก้องทั่วทั้งศาลาไว้ทุกข์ซูอินฟังแล้วก็รู้สึกบาดหูเป็นพิเศษในตอนนี้ ใบหน้าที่เคยแสดงความไร้เดียงสาของเธอก็เริ่มมีความโกรธปรากฏขึ้นมานิดหน่อยที่อยางซูจะบอกก็คือ ทุกสิ่งที่เขาปฏิบัติต่อเธอ มันเป็นเพียงแค่การแสดงอย่างนั้นน่ะเหรอ?แล้วที่เมื่อวานเขารับปากเธอว่าจะใช้เส้นสายเรียกทนายอู๋มาล่ะ มันเพื่ออะไรกัน?มีคนอื่นอยู่ด้วย ซูอินจึงไม่สะดวกที่จะถามออกมาแต่เมื่อเธอจ้องไปที่ตาของหยางซู กลับทำให้หยางซูเข้าใจในทันทีว่าเธอกำลังคิดอะไร และคิดจะ
ฟู่จิ้นหานก้มหน้าสบตากับซูหรานแววตาของเธอดูมั่นคง มือที่กำเสื้อตรงหน้าอกของเขาก็ยิ่งบีบแน่นขึ้นเรื่อย ๆ ฟู่จิ้นหานรู้สึกกังวลในใจไม่หาย แต่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ไม่สามารถขัดขืนซูหรานได้ฟู่จิ้นหานวางเธอลง แต่แขนของเขายังคงโอบเอวเธอเอาไว้อยู่ ท่าทางที่เขาปกป้องเธอนี้ ทำให้ผู้คนรอบข้างเกิดความคิดที่แตกต่างกันออกไปคนที่ตกใจและประหลาดใจที่สุด ก็คือเย่ซินฟู่จิ้นหาน......ผู้นำคนใหม่ของฟู่ซือกรุ๊ปคนนี้ เย่ซินเคยเห็นมาก่อนเขาจัดการกับฟู่ซือกรุ๊ปด้วยวิธีการที่โหดเหี้ยม ซึ่งเป็นที่พูดถึงกันในจิงเฉิง แค่เธอได้ยินก็รู้สึกขนลุกทุกคนต่างก็พูดกันว่าฟู่จิ้นหานเป็นคนเย็นชาไร้ความรู้สึก แต่ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเธอในตอนนี้ สีหน้ากลับเต็มไปด้วยความอ่อนโยน แววตาของเขาจ้องมองไปยังหญิงสาวที่อยู่ข้าง ๆ บ้างก็เหลือบมองไปยังอีกด้าน แต่แววตากลับเปลี่ยนเป็นเฉียบขาดในทันทีท่าทีที่ฟู่จิ้นหานปฏิบัติต่อผู้หญิงคนนี้พิเศษมากจริง ๆเย่ซินอดไม่ได้ที่จะมองไปยังคนที่อยู่ข้าง ๆ ฟู่จิ้นหาน และนึกถึงชื่อที่พวกเขาเพิ่งจะเรียกเธอขึ้นมาเมื่อกี้หรานหราน......ซูหราน......เธอคือหลานสาวที่คุณท่านรับอุปการะมา
ทุกคนต่างก็ตกตะลึงไปชั่วขณะเสียงของผู้หญิงที่ดังออกมาจากโทรศัพท์มือถือ ได้รับการปรับแต่งมาอย่างละเอียดถึงจะฟังไม่ชัดเจนว่าเป็นของใคร แต่ก็กลับฟังออกว่าบรรยากาศค่อนข้างจะเข้มข้นภายใต้เสียงร้องของหญิงสาว กระทั่งการพูดด้วยคำพูดที่ดูเปิดเผยต่าง ๆ ทำให้คนที่อยู่ ณ ตรงนั้นแค่ได้ยิน สีหน้าของพวกเขาก็เริ่มเปลี่ยนไปบ้างแล้วซูอินรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย และแอบบ่นลินเยว่เยว่ที่ทำการแปลงเสียง แต่ยังไงก็ช่างเถอะ ต่อให้จะฟังไม่ออกว่าเป็นเสียงของซูหราน แต่ภาพที่ทุกคนเห็นก็เป็นซูหราน ยังไงก็มีผลลัพธ์เดียวกัน!ซูอินเหลือบมองไปที่เย่ถิงเซินเธออยากเห็นมากที่สุด ก็คือปฏิกิริยาของเย่ถิงเซินหลังจากที่เขาเห็นว่าคนในคลิปคือซูหราน แต่เย่ถิงเซินเพียงแค่ขมวดคิ้ว และมีสีหน้าที่ดูไม่พอใจเท่านั้น เขากลับไม่หยิบโทรศัพท์ออกมาสักทีดูเหมือนว่าเย่ซินจะตกใจกับภาพที่เธอเห็นมาก เธอจ้องมองที่หน้าจอโทรศัพท์อย่างงงงวยภายในห้องไว้ทุกข์ เสียงของหญิงสาวยังคงดังกึกก้องอยู่ในบรรยากาศที่แปลกประหลาด ก็มีคนที่สองที่หยิบโทรศัพท์ออกมา และเปิดข้อความที่เพิ่งได้รับเมื่อสักครู่นี้อ่า......เสียงที่เหมือนกับก่อนหน้านี้ก็ดัง
“พวกเขาจะทำอะไร?”ในหัวเย่ซือเหยียนยังคงคิดไม่ตก ไม่สามารถคาดเดาภาพรวมของเรื่องราวได้เลยแต่เธอก็พอจะเข้าใจอยู่บ้าง: หากคุณท่านยังไม่ตายจริง ๆ เช่นนั้นทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้มันก็คือกับดักและกับดักนี้ ถูกจัดเตรียมเอาไว้เพื่อใครอย่างนั้นเหรอ?เย่ซิน? ตัวเธอ? หรือว่า......ซูอิน?เย่ซือเหยียนรู้สึกโชคดีที่เธอค้นพบเรื่องนี้ได้ก่อน ไม่เช่นนั้น เธอก็อาจจะตกหลุมพรางไปด้วยส่วนซูอิน......ความเกลียดชังสะสมอยู่ในดวงตาของเย่ซือเหยียนไม่ว่ากับดักนี้จะถูกจัดเตรียมเอาไว้สำหรับใครก็ตาม วันนี้ก็ยังถือว่าเป็นโอกาสที่ดีในตอนนั้นแทบจะในทันที เย่ซือเหยียนโทรหาสายสายหนึ่ง และสั่งการกับคนที่อยู่ปลายสายหนึ่งประโยค หลังจากวางสาย ในใจเย่ซือเหยียนก็เริ่มรู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป......ในขณะเดียวกัน ณ ศาลาไว้ทุกข์ ซูอินยังคงเต็มไปด้วยความคาดหวังกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นอาการเป็นลมของเย่ซือเหยียนทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจอย่างมากรอจนกระทั่งพ่อบ้านจัดแจงให้คนพาเย่ซือเหยียนออกไป ซูอินก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่ทนายอู๋ แต่สุดท้ายเธอก็รู้สึกกลัวว่าจะมีคนเห็นความลนลานของเธอ เธอจึงไม่กล้าพู
ดูเหมือนว่า ผู้ที่อยู่ในที่นั้นนอกจากท่านท่านเย่แล้ว ก็มีเพียงเย่ถิงเซินเท่านั้นที่สามารถตัดสินใจได้การกระทำนี้ ทำให้ซูอินรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยต้องทำความเข้าใจก่อนว่า เธอคือผู้สืบทอดที่ถูกต้องตามกฎหมายของตระกูลเย่ และนอกจากนี้ ทนายความอู๋คนนี้เองก็เป็นพยานในการทำพินัยกรรมของคุณท่านเย่อีกด้วย เขาก็ควรจะรู้ว่าผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จากพินัยกรรมของคุณท่านคือใครเขาควรถามเธอ และให้เธอเป็นผู้ตัดสินใจสิถึงจะถูกเขากลับถือหางให้เย่ถิงเซินเป็นตัวหลักแต่ไม่นาน ซูอินก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก ที่ทนายอู๋คนนี้เป็นคนที่มีตาแต่ไร้แวว รอให้ประกาศพินัยกรรมออกมาก่อน ว่าเธอคือผู้สืบทอดทรัพย์สินของตระกูลเย่ จะทำให้คนเหล่านี้ต้องตื่นตระหนกอีกครั้งแน่นอน“เชิญทนายประกาศได้เลยครับ”คำพูดของเย่ถิงเซินแต่ละคำ ทั้งหนักแน่นและชัดเจนทนายความอู๋เปิดถุงเอกสารที่ปิดผนึกเอาไว้ท่ามกลางสายตาของทุกคน และนำพินัยกรรมที่อยู่ข้างในออกมา“ฉัน เย่ชิงเหอ ทรัพย์สินทั้งหมดที่อยู่ภายใต้ชื่อของฉัน จะถูกสืบทอดโดย......”ทนายความอู๋กำลังอ่านเนื้อหาของพินัยกรรม ทุกคนในศาลาไว้ทุกข์ต่างก็ตั้งใจฟัง และเมื่อถึงจุดนี้ สีหน้าของทุกค
“มันแน่นอนอยู่แล้ว”หยางซูจ้องมองไปที่ซูอิน เขาจะไม่บอกกับเธอ ว่าทนายคนนั้นได้อยู่ที่ไห่เฉิงเรียบร้อยแล้วทันทีที่คุณท่านกลับมาที่ไห่เฉิง ก็ได้ให้ทนายรีบมาที่นี่อย่างลับ ๆและการกระทำของซูอินในคืนนี้ ดูท่าแล้ว คุณท่านเองก็น่าจะมองสถานการณ์ออกตั้งแต่แรกแล้วเมื่อได้รับคำตอบที่แน่นอนจากหยางซู ซูอินก็ยิ่งมีความสุขมากกว่าเดิมเธอไม่กล้าที่จะลำพองตัวมากเกินไป เหมือนว่าเธอจะรู้สึกพอใจมาก จึงถอนหายใจออกมา “การที่สามารถทำตามความปรารถนาของคุณปู่ได้ ก็ถือเป็นสิ่งเดียวที่ฉันสามารถทำเพื่อคุณปู่ได้แล้วล่ะค่ะ”ซูอินลดสายตาลง ให้ดูเหมือนว่าเธอไม่มีความต้องการอะไรเลยจริง ๆแต่หยางซูกลับรู้จักธาตุแท้ของผู้หญิงคนนี้แล้วในที่สุดหยางซูก็ไม่สามารถอดทนต่อความเกลียดชังในใจได้ เขาจึงอ้างว่าตนรู้สึกเหนื่อย และต้องการพักผ่อน จึงขอให้ซูอินออกไปก่อนเมื่อกลับมาถึงห้อง ซูอินก็รีบวางแผนทุกอย่างที่เหลือทันทีเช้าวันถัดมา ทั้งวิลล่าก็เริ่มวุ่นวายตั้งแต่เช้าแล้วเมื่อวานได้มีการกำหนดให้เผาศพวันนี้ก่อนเริ่มการเผาศพ ก็ควรไปสักการะร่างของผู้เสียชีวิตเสียก่อนภายในโลงแก้วคุณท่านนอนอยู่ข้างใน ใบหน้าดูมีชีว