ฟู่จิ้นหานรีบไปที่ห้องพัก ซูหรานเห็นเขา ก็รีบลงจากเตียง และวิ่งไปที่ฟู่จิ้นหานทั้งร่างกายของเธอเกาะอยู่บนตัวเขา และพูดอย่างตื่นเต้น“ฉันนึกว่าฉันจะตายแล้ว ฉันเสียเลือดมาแปดชีวิตแล้วจริงๆ และเกือบจะถูกคุณชายสามฟู่จอมโง่นั่นทำให้เดือดร้อน”“???”จอม……โง่?ฟู่จิ้นหานขมวดคิ้วซูหรานกลับไม่สังเกต พูดต่อไปด้วยความโกรธ“ฉันเกือบจะตายจริงๆ เป็นผีก็จะไปปรากฏตัวบนเตียงของเขาตอนกลางคืน ทำให้เขานอนไม่หลับทุกคืน!”ฉินฟั่งที่เพิ่งมาถึงด้านหน้าประตู มองท่าทางของทั้งสองคน ก็ตกใจขึ้นมาทันทีครั้งแรกที่เขาเห็นใครสักคนกล้าที่จะหยาบคายกับคุณชายสามได้เช่นนี้และคุณซูคนนี้ เธอจะรู้ไหมว่าคำว่า“คุณชายสามฟู่จอมโง่”ที่ออกมาจากปากเธอ คือคนที่อยู่ด้านหน้าเธอ?ส่วนคุณชายก็ขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจเล็กน้อยฉินฟั่งนึกว่าคุณชายจะผลักผู้หญิงคนนี้ออกไป หลังจากนั้นก็ตำหนิเธอ แต่คุณชายกลับกอดเอวเธอ เหมือนกลัวว่าเธอจะตกจากตัวเขาลงไปมุมปากของเขา ยังมีรอยยิ้มเล็กน้อยสักพักหนึ่ง ฉินฟั่งสับสนเล็กน้อยและคนสองคนในห้องพักผู้ป่วย ไม่ได้ให้ความสนใจเขาเลยฟู่จิ้นหานควรสอบสวนการลงโทษซูหรานที่กําเริบเสิบสาน แต่เธอบอ
สำนักงานใหญ่ของเครื่องประดับซิงหลานอยู่ที่ตึกไป๋ลี่ซูหรานเพิ่งขึ้นลิฟต์ไป ก็มีรถลีมูซีนแถวหนึ่งมาจอดอยู่ด้านหน้าของตึกฟู่จิ้นหานลงจากรถล้อมรอบด้วยบอดี้การ์ดฉินฟั่งเดินอยู่ด้านข้างของฟู่จิ้นหาน ไม่ระวังถามคำถามภายในใจ“ตระกูลฟู่มีอุตสาหกรรมเพียงไม่กี่ที่ที่ตึกไป๋ลี่ ส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ที่เมืองไห่เฉิงที่ตึกของตระกูลฟู่ คุณชายเลือกตึกไป๋ลี่เป็นพิเศษสำหรับการลาดตระเวนอุตสาหกรรม คงจะไม่ใช่เป็นเพราะคุณซูใช่ไหม?”ฟู่จิ้นหานเดินไป พร้อมหัวเราะอย่างเหยียดหยาม“เฮ้อ เพราะเธอเหรอ?เรื่องตลก!”แต่เมื่อขึ้นลิฟต์แล้ว เห็นได้ชัดว่าฟู่จิ้นหานอยู่บนป้ายชั้นของ“เครื่องประดับซิงหลาน”และหยุดอยู่นานกว่าสามวินาที“……”ฉินฟั่งขยับปาก รู้แต่ไม่พูดออกมาเห็นได้ชัดว่าคุณชายปากไม่ตรงกับใจ……ซูหรานมาที่สำนักงานใหญ่ของซิงหลานเป็นครั้งแรก ที่แผนกต้อนรับ เธอก็ถูกขัดขวางไว้บริษัทที่แม่เธอทิ้งไว้ เธอไม่สามารถเข้าไปได้ ตลกชะมัด!“คุณรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร”พนักงานต้อนรับมองซูหรานอย่างเหยียดหยาม“ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ไม่ได้นัดหมาย แม้ว่าคุณจะเป็นภรรยาของตระกูลฟู่ที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศจีนของเรา ล้วนก็ไม่สามาร
ซูหรานคิดจะวิ่งตามไป แต่ทันทีที่เธอก้าวเท้าออกไป ซูอินก็เข้ามาจับข้อมือของเธอเอาไว้ซูอินเก็เห็นแผ่นหลังนั้นด้วยเหมือนกัน และเธอก็จำได้ว่าเป็นคุณชายสามฟู่นั่นเอง!ซูหรานคิดจะตามไปยั่วคุณชายสามฟู่งั้นเหรอ?เธอจะปล่อยให้ซูหรานได้มีโอกาสได้อย่างไร!ทั้งสองยื้อกันอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งร่างนั้นได้หายไป ซูอินจึงคลายมือออกจากนั้นเธอก็ท้าทายซูหรานอย่างไม่แยแสว่า "เธอคิดว่าเขาจะชอบเธอจริงๆเหรอ? ต่อให้เขาจะชอบเธอ และก็ไม่สามารถแต่งงานกับเธอได้หรอกนะ!""???" ซูหรานสับสนสามีตัวพ่อ...แต่งงานกับเธอไม่ได้งั้นเหรอ?แต่พวกเขาได้จดทะเบียนสมรสกันแล้วนะ!แม้ว่าจะเป็นข้อตกลง แต่ก็เป็นไปไม่ได้สำหรับเธอที่จะเล่าเรื่องวงในให้ซูอินได้รับรู้ซูหรานเหลือบมองลู่ซิวหนิงที่ยังคงเจ็บปวดอยู่ และเลิกคิ้วด้วยการเยาะเย้ย "เธอไม่ไปดูพี่ซิวหนิงของเธอเหรอ? หากต่อไปยกขึ้นมาไม่ได้ เธอจะเอาอะไรมามัดเขาเอาไว้?""เธอ..." ซูอินสามารถฟังคำเหน็บแนมของซูหรานออกซูหรานเมินเธอและเดินออกจากตึกไป๋ลี่ซูอินเต็มไปด้วยความโกรธ และถลึงตาใส่ซูหรานไปหนึ่งครั้ง แต่สุดท้ายก็ต้องพาลู่ซิวหนิงไปตรวจที่โรงพยาบาลทางโรงพยาบาลได้วิน
หลังจากเดินออกจากสำนักงานกฎหมายซิงเฉิน ซูหรานก็เต็มไปด้วยความคิด และไม่สามารถสงบสติอารมณ์เอาไว้ได้เลยลุงกู้บอกว่าแม่ของเธอทิ้งพินัยกรรมลับเอาไว้ด้วย และอธิบายว่าพินัยกรรมนั้นจะถูกเปิดเผยได้หลังจากที่เธอได้รับมรดกซิงหลานจิวเวลรี่เท่านั้นพินัยกรรมของแม่ได้จัดเตรียมทุกอย่างไว้ล่วงหน้า ราวกับว่าแม่ของเธอนั้นรู้ว่าจะมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับเธอซึ่งพินัยกรรมลับฉบับนี้ มันยิ่งเพิ่มความสงสัยให้กับซูหรานมากยิ่งขึ้นว่า อุบัติเหตุในตอนนั้นมันไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายอย่างแน่นอน!ขณะที่เธอกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น จู่ๆ โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น และก็เป็นเสิ่นยวนเพื่อนสนิทของเธอที่โทรเข้ามาทันทีที่ต่อสายได้ เสียงที่เป็นกังวลของเสิ่นยวนก็ดังขึ้น "หรานหราน เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม ต้องขอโทษจริงๆ สองวันมานี้ฉันต้องซ้อมเต้นรำในทีม มือถือถูกยึดไป ตอนนี้ฉันถึงได้รู้เรื่องของเธอ หลินเยว่เยว่ทำแบบนี้ได้อย่างไร นำเรื่องนี้ไปป่าวประกาศไปทั่ว หากฉันอยู่ ฉันจะต้องฉีกปากเธอให้เป็นชิ้นไปเลย!"ข่าวที่ว่าซูหรานได้ไปมั่วสุมกับผู้ชาย จนถูกตระกูลซูไล่ออกจากบ้าน ตอนนี้ได้แพร่กระจายไปในกลุ่มศิษย์เก่าแล้วแต่เธอไม่เชื่อหร
ชั่วขณะหนึ่ง หัวใจของซูหรานก็สั่นไหวแต่เธอยังไม่สามารถหาสาเหตุการจากไปของแม่ในอุบัติเหตุครั้งนั้นได้ ต่อให้เธอจะออกจากเมืองไห่เฉิงนี้ไป จิตใจของเธอคงไม่ความสุขอย่างแน่นอนขณะที่เธอไม่รู้ว่าจะบอกปัดรุ่นพี่ได้อย่างไรนั้น เสียงที่อ่อนโยนของเสิ่นเหยี่ยนก็ได้ดังขึ้นมาว่า "ไม่จำเป็นต้องรีบตอบ คำเชิญนี้มีผลตลอดเวลา!"ซูหรานถอนหายใจด้วยความโล่งอก…ท้องฟ้าได้มืดลงแล้ว ในสำนักงานขนาดใหญ่ชั้นบนสุดของอาคารฟู่ซื่อในตอนนี้หลังจากการตรวจสอบ ฟู่จิ้นหานก็นั่งบนเก้าอี้หลังโต๊ะทำงาน และรอสายของซูหรานโดยไม่รู้ตัวทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นแต่เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นและเห็นชื่อที่แสดงบนหน้าจอของโทรศัพท์มือถือ ดวงตาของฟู่จิ้นหานก็มืดลง เขารับสายและพูดด้วยน้ำเสียงไม่ดีว่า "พูด!"ความเย็นยะเยือกพัดผ่านจี้เยี่ยนโจวที่อยู่อีกปลายสายทันที และเขากำลังคิดว่าตัวเองได้ไปทำให้เทพเจ้าแห่งน้ำแข็งขุ่นเคืองใจตั้งแต่เมื่อไหร่กันแน่จู่ๆ เมื่อตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่าง ยีนการซุบซิบจึงเริ่มกระโดดขึ้นมาทันที "เป็นยังไงบ้างๆ สถานการณ์เมื่อคืนนี้? มีเรื่องที่อธิบายไม่ได้เกิดขึ้นหรือเปล่า? ถ้าฉันเป็นลู่ซิวหนิง เมื
ครึ่งชั่วโมงต่อมาซูหรานและเสิ่นเหยี่ยนรีบเดินเข้าไปในโรงแรมเมืองไห่เฉิง ลู่ซิวหนิงและซูอินที่รออยู่ที่นี่มานานแล้วก็เห็นพวกเขาทันทีเมื่อเห็นเสิ่นเหยี่ยน ซูอินก็รู้สึกอิจฉาจนแทบจะคลุ้มคลั่งดูเหมือนว่าเธอจะพูดอย่างไม่ตั้งใจว่า "ฉันอิจฉาพี่สาวจริงๆ ที่สวยขนาดนี้ โดยข้างกายไม่เคยขาดคนที่มาคอยตามจีบเลย"จู่ๆ สายตาที่ดุร้ายก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของลู่ซิวหนิง เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วโทรออก "มีชายคนหนึ่งมากับเธอด้วย ให้เธอสลัดเขาออกไป"ในล็อบบี้ของโรงแรม ซูหรานได้รับสายจากหมายเลขที่ไม่รู้จักอีกครั้ง [สลัดคนข้างๆ ออกไป!]ซูหรานรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังพุ่งเป้ามาที่เธอเธอไม่เคยสร้างศัตรู ยกเว้นลู่ซิวหนิง!ดูเหมือนว่าการเตะในวันนี้จะเบาไปแล้วซูหรานยิ้มๆ แล้วหันไปหาเสิ่นเหยี่ยนแล้วพูดว่า "รุ่นพี่คะ ขอบคุณรุ่นพี่นะคะที่มาส่งฉัน ฉันต้องไปพบเพื่อนเก่าน่ะค่ะ รุ่นพี่กลับไปก่อนได้เลยนะคะ"แต่ทว่าเสิ่นเหยี่ยนไม่เชื่อแต่อย่างใดแต่เมื่อเขากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ซูหรานก็แลบลิ้นออกมาอย่างร่าเริง "ต้องขอโทษด้วยนะคะรุ่นพี่ ไม่ใช่เพื่อนเก่าหรอกค่ะ แต่เป็น... สามีของฉัน!"เสิ่นเหยี่ยนหยุดชะงัก และห
โรงแรมเมืองไห่เฉิง ในห้องเพรสซิเดนเชียลสวีทฟู่จิ้นหานยืนอยู่หน้าหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานขนาดใหญ่ และมองลงไปที่ชั้นล่างอย่างมีความหมายเป็นนัยเมื่อครู่ที่ผ่านมา เขาได้เห็นรถยนต์คันนั้นแล้ว นี่ซูหรานและผู้ชายคนนั้นก็อยู่ในโรงแรมเมืองเจียงเฉิงด้วยงั้นเหรอ!ฟู่จิ้นหานรู้สึกกระวนกระวายใจ เมื่อเขาคิดว่าลูกแมวป่าและชายคนนั้นอาจอยู่ในห้องใดห้องหนึ่ง และกำลังทำสิ่งที่ไม่อาจบรรยายได้อยู่จู่ๆ ก็มีเสียงเคาะประตู และจากนั้นก็มีเสียงแปลกๆ ของบอดี้การ์ดได้รายงานว่า "คุณชายสามครับ... ของขวัญจากคุณชายลู่มาถึงแล้วครับ"ฟู่จิ้นหานขมวดคิ้วลู่ซิวหนิง?ฟู่จิ้นหานเริ่มกระวนกระวายใจมากขึ้น ในขณะที่เขากำลังจะพูดว่า "ไสหัวออกไป" จู่ๆ เขาก็เปลี่ยนใจขึ้นมา"อืม" ฟู่จิ้นหานตอบเบาๆอืม?บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านนอกต่างก็เหงื่อท่วมตัว บอสฉินฟั่งได้ถูกคุณชายสามส่งไปจัดการเรื่องของตระกูลเจียงแล้ว และเขาก็ถูกบังคับให้ต้องเข้ามารับผิดชอบตรงนี้ แต่ความคิดของคุณชายสามนั้นเขาไม่สามารถเข้าใจได้ และคำว่า "อืม" นี้หมายความว่าอย่างไรกันแน่?ท่ามกลางความร้อนใจ บอดี้การ์ดจึงเปิดประตูและเดินเข้ามาทันทีที่ซูอินเข้ามา
ร่างกายของซูหรานอ่อนระทวย รุ่มร้อนจนทนไม่ไหว ซึ่งความรู้สึกเช่นนี้ เธอคุ้นเคยเสียเหลือเกินแต่ครั้งนี้แตกต่างไปจากครั้งที่แล้ว เพราะครั้งที่แล้วเธอยังสามารถเลือกด้วยตัวเองได้ แต่ในครั้งนี้น่ากลัวว่าแม้แต่โอกาสจะเลือกก็ไม่มีเสียด้วยซ้ำ"เหอะๆ สาวน้อย เธอมาแล้วเหรอ…"จู่ๆ ก็มีเสียงออดอ้อนที่ชวนให้เลี่ยนดังขึ้นซูหรานเงยหน้าขึ้น และมองเห็นชายอ้วนหัวโล้นคนหนึ่งที่มีเพียงผ้าเช็ดตัวพันท่อนล่างเอาไว้"แม่งเอ๊ย ไอ้สารเลวลู่ซิวหนิง!" ซูหรานอดไม่ได้ที่จะสาปแช่งเขาพยายามไปหาผู้ชายแบบนี้มาทำให้เธอรู้สึกขยะแขยงใช่ไหม?ผู้จัดการฉีไม่สนใจหรอกว่าคนที่มาทำไมไม่ใช่ซูอิน และเมื่อเขาเห็นหญิงสาวที่หน้าตาสะสวยกว่าซูอินมากแบบนี้ ดวงตาของเขาก็จ้องเขม็ง และก็กระโจนเข้ามาด้วยแรงปรารถนาที่โชติช่วงซูหรานกัดฟัน และเมื่อเขากำลังจะตะครุบเธอ เธอก็ใช้แรงทั้งหมดวิ่งลอดใต้วงแขนของเขา พุ่งไปยังห้องน้ำ ปิดประตูและล็อกไว้อย่างแน่นหนา!สีหน้าของผู้จัดการฉีเปลี่ยนไปทันที จากนั้นเขาก็เกลี้ยกล่อมด้วยน้ำเสียงที่เย้าแหย่ "สาวน้อย ปิดประตูทำไม? รีบเปิดประตูเร็วๆ เข้า พี่อยากจะเล่นอะไรที่วาบหวิวกับเธอสักหน่อยนะ... "ใน