จวินหลานมองซางเสี่ยวเฟยอย่างละเอียดและพูดต่อ: “การซื้อบ้านเป็นแผนร้อยปี ซึ่งต้องได้รับการพิจารณาอย่างจริงจัง บ้านที่ผมซื้อมาในราคาสูงต้องได้รับการปรับปรุงใหม่ให้เหมาะกับสไตล์ของผมเพื่อที่จะใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบาย"ซางเสี่ยวเฟยจำได้ว่าเมื่อครอบครัวของพวกเธอสร้างวิลล่าขนาดใหญ่ พวกเขายังได้เชิญซินแสที่มีทักษะสูงมาประเมินสถานที่ด้วย บ้านหลังนี้สร้างขึ้นตามคำแนะนำของซินแสและตลอดหลายปีที่ผ่านมา ครอบครัวนี้ได้อาศัยอยู่ที่นั่นอย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จเธอเข้าใจและพูด: "นายน้อยห้าก็พูดถูกเช่นกัน เนื่องจากเราได้พบกันและจะได้เป็นเพื่อนบ้านกันอีกครั้งในอนาคต ขอให้ฉันเลี้ยงชาสักถ้วยกับคุณ นายน้อยห้า เชิญเข้ามาเถอะ"จวินหลานไม่ปฏิเสธการต้อนรับของซางเสี่ยวเฟย และเดินตามเธอและไห่ถงเข้าไปในบ้านซางหวู่เหิงและภรรยาของเขายังคงนั่งอยู่บนโซฟาที่ชั้นหนึ่ง และคุณนายซางก็อยู่ที่นั่นด้วย เธอถามลูกสะใภ้ด้วยความเป็นห่วง เมื่อได้ยินลูกสาวคุยกับคนแปลกหน้า คุณนายซางมองไปทางประตูและเห็นลูกสาวกับหลานสาวเชิญชายหนุ่มเข้ามาด้วยกันหลังจากเห็นหน้าตาของจวินหลานอย่างชัดเจน ซางหวู่เหิงก็ลุกขึ้นและก้าวไปข้างหน้าส
"แม่ หวู่เหิง คุณไม่คิดว่าเสี่ยวเฟยดูสนิทกับนายน้อยห้าเกินไปหรอกเหรอ?"หลานจิงซึ่งไม่ได้พูดมาก่อนหน้านี้ ได้ฟังและสังเกตอยู่น้องสะใภ้ของเธอภูมิใจและแทบไม่แสดงความสนใจในผู้ชายคนไหนเลยหลังจากหลงใหลในตัวจ้านหยินมาหลายปี หัวใจและดวงตาของน้องสะใภ้ของเธอนั้นมีแต่จ้านหยิน เป็นครั้งแรกที่หลานจิงเห็นว่าซางเสี่ยวเฟยมีทัศนคติที่ดีต่อผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่จ้านหยินไห่ถงอธิบาย "เสี่ยวเฟยและนายน้อยห้าจวินพบกันหลายครั้ง เธอบอกว่าเมื่อพวกเขาพบกันครั้งแรก เธอคไปตัดหน้ารถนายน้อยห้าจวิน และต่อมาเขาก็ยอมให้เธอไปก่อน"คุณนายซางพูดอย่างใจเย็น "นายน้อยห้าโดดเด่นมาก ผู้ชายจากตระกูลของเขาอยู่ในระดับเดียวกับผู้ชายจากตระกูลจ้าน แต่พวกเขาอยู่ไกลเกินไป"ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นเงียบไปไห่ถงยังคิดด้วยว่าซางเสี่ยวเฟยและจวินหลานจะกลายเป็นคู่รักกันหรือไม่ ต่อมาเธอคิดว่าจวินหลานมาจากเมือง A ซึ่งอยู่ไกลไปเล็กน้อย และป้าของเธอมีเสี่ยวเฟยเป็นลูกสาวเพียงคนเดียว เธอกลัวว่าเธอจะทนเห็นลูกสาวตัวเองแต่งงานไม่ได้ไห่ถงจึงไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับความเป็นไปได้นี้หากซางเสี่ยวเฟยและจวินหลานถูกลิขิตให้มาอยู่ด้วยกัน พวกเขาจะต้องเอา
ผู้เฒ่าไห่สองสามีภรรยาอาศัยอยู่ที่บ้านของไห่ถง ซึ่งเป็นที่ยอมรับได้ แต่ความตั้งใจของพวกเขาที่จะมอบบ้านที่พ่อแม่ของไห่ถงทิ้งไว้ให้กับไห่จื้อเหวิน เป็นเหตุผลที่สองพี่น้องไห่ตัดสินใจดำเนินคดีทางกฎหมายทำไมบ้านที่พ่อแม่สร้างและชื่อบนใบรับรองการใช้ที่ดินจึงเป็นชื่อพ่อของพวกเธอทั้งหมด ตามกฎหมายมรดก เป็นไปไม่ได้ที่ไห่จื้อเหวินจะสืบทอดได้พวกเธอสองพี่น้องยังมีชีวิตอยู่!"เธอรู้ไหมว่าจะซื้ออิฐและทรายได้ที่ไหน?"คุณนายซางถามด้วยความกังวล"ครั้งก่อนที่ฉันกลับมาบ้านเกิด ฉันติดต่อป้าอาหยู ฉันสามารถโทรหาเธอได้ตลอดเวลาเพื่อขอเบอร์โทรศัพท์ของคนขับรถที่นำอิฐมาส่งที่บ้านของพวกเขาเมื่อปีที่แล้วได้ ฉันจะนำอิฐจำนวนมากมาส่งในสุดสัปดาห์นี้"ไห่ถงอยากกลับบ้านพ่อแม่ของเธอมาโดยตลอดในอดีต เธอและพี่สาวไม่มีความสามารถที่จะทำเช่นนั้นได้ตอนนี้พวกเขามีความสามารถแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องลงมือทำอะไรบางอย่าง เดิมที พวกเขาคิดว่าจะปล่อยให้ปู่ย่าของพวกเขาอาศัยอยู่ที่นั่นได้จนกว่าพวกเขาจะตาย จากนั้นบ้านก็จะกลับคืนมาสู่มือพวกเขาเองแต่พวกเขาไร้เดียงสาเกินไป เมื่อปู่ย่าบังคับให้พวกเขาออกไป พวกเขาก็วางแผนที่จะอยู่อาศัยใ
จ้านหยินถามเธอ: "ทำไมคุณถึงเพิ่งออกไปข้างนอกตอนนี้? คุณใส่รองเท้าส้นสูงได้หรือเปล่า?"ไห่ถงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยและส่งข้อความไปถามเขาว่า "คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันใส่รองเท้าส้นสูง"เมื่อเธอออกจากร้านหนังสือ เธอก็ใส่รองเท้าส้นแบนอยู่จ้านหยินตอบอย่างตรงไปตรงมา: "ลูกพี่ลูกน้องของฉันส่งวิดีโอที่คุณเดินมาให้ฉัน ถงถง ขอบคุณนะ ฉันซาบซึ้งในความพยายามของคุณ"เขาขอบคุณที่เธอพยายามอย่างหนักเพื่อปรับตัวเข้ากับโลกของเขาแต่เดิมเธอเป็นคนสบายๆ การแต่งตัวสบายๆ และเปลี่ยนการแต่งตัวเพื่อเขาเป็นเรื่องยากสำหรับเธอจริงๆ เขาสงสารและขอบคุณเธอ และสาบานว่าจะตามใจเธอสุดหัวใจไปตลอดชีวิตไห่ถงตอบว่า “....เสี่ยวเฟยเป็นคนขายฉันนี่เอง ฉันคงดูตลกมากที่สวมรองเท้าส้นสูง ฉันอยากถอดมันออกตลอดเวลา การใส่รองเท้าแตะสบายกว่ามาก”คนในมณฑลที่กวนเฉิงตั้งอยู่มีชื่อเสียงไปทั่วประเทศเรื่องการใส่รองเท้าแตะ“เราบังเอิญพบกับนายน้อยห้าจวินและเชิญเขาเข้ามาสักพัก ดังนั้นเราจึงออกมาช้าไปหน่อย”ไห่ถงตอบคำถามของสามีก่อนหน้านี้จ้านหยินรู้สึกประหลาดใจและถามว่า “คุณพบกับนายน้อยห้าจวินได้ยังไง?”“วิลล่าขนาดใหญ่ข้างบ้านของป้าของฉันถูก
เมื่อพวกเขามาถึงบ้านของตระกูลตง ประตูของวิลล่าก็เปิดกว้าง สนามหญ้าขนาดใหญ่ด้านหน้าบ้านหลักตกแต่งอย่างสวยงาม และแขกจำนวนมากยืนเป็นกลุ่มเล็กๆ ถือแก้วไวน์และพูดคุยกันเมื่อพิจารณาจากสถานะของคุณนายซาง ตระกูลตงก็ได้รับข่าวทันทีที่รถของเธอจอดอยู่หน้าวิลล่าสองสามีภรรยาพาลูกๆ ออกมาต้อนรับทันทีหลังจากจอดรถของคุณนายซางในลานจอดรถที่คนรับใช้ของตระกูลตงจัดเตรียมไว้ ประธานตงก็เดินเข้าไปพร้อมกับภรรยา และลูกๆ ของเขา เขาเปิดประตูรถให้คุณนายซางด้วยตัวเองและพูดด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา: "คุณนายซางคุณนายซางก้าวลงจากรถอย่างสง่างาม"ประธานตง"คุณนายซางตอบด้วยรอยยิ้มสุภาพคุณนายตงยังทักทายคุณนายซางพร้อมกับลูกๆ ของเธอด้วยตระกูลตงมีลูกสาวสองคนและลูกชายหนึ่งคน ลูกชายคนเล็กอายุเพียงแปดขวบในปีนี้และได้รับการเลี้ยงดูมาให้เป็นคนอ้วนท้วมสมบูรณ์ เขายังสุภาพอีกด้วย หลังจากที่คุณนายตงสอนลูกชายของเธออย่างอ่อนโยน เด็กชายก็ทักทายคุณนายซางอย่างสุภาพซางเสี่ยวเฟยและไห่ถงลงจากรถและเดินไปหาคุณนายซางโดยยืนซ้ายและขวา คล้ายกับดอกไม้สองดอกที่กำลังเบ่งบานในสังคมชั้นสูงของกวนเฉิง ซางเสี่ยวเฟยค่อนข้างมีชื่อเสียง ไม่เพ
"ประธานตง รบกวยแล้ว"เพราะคุณนายตงไม่ได้ส่งคำเชิญให้เธอ เธอมาที่นี่ด้วยชื่อป้าเธอคุณนายตงยิ้มและพูดว่า: "ไม่รบกวน ไม่รบกวนเลย กลับเป็นเกียรติที่นายหญิงมาเสียอีก"ไห่ถงยังถือของขวัญวันเกิดที่คุณนายซางเตรียมไว้ เพื่อให้คุณนายตง เธอจึงมอบของขวัญวันเกิดให้คุณนายซาง คุณนายซางรับเอาไว้และส่งให้คุณหนูตง จากนั้นยิ้มให้คุณหนูตง "สุขสันต์วันเกิดค่ะ คุณหนูตง”คุณนายตงพูดอย่างเร่งรีบ: "คุณนายซาง เรียกเธอด้วยชื่อเล่นว่า อาจูก็พอแล้วค่ะ พวกเราจะดีใจมาก ที่พวกคุณมาร่วมงานวันเกิดของอาจู แถมกลับเสียเงินซื้อของขวัญมาอีก เกรงใจเกินไปแล้วค่ะ"เธอส่งสัญญาณให้ลูกสาวรับของขวัญวันเกิดจากคุณนายซางคุณนายซางมอบของขวัญ เป็นชุดเครื่องประดับคุณหนูตงรับของขวัญวันเกิดจากคุณนายซางมา และพูดขอบคุณเธอเนื่องจากคุณนายซางพาหลานสาวมาด้วย คุณท่านซางเลยไม่ตามมาประธานตงจึงขอให้ภรรยาพาลูกสาวสองคนไปเป็นเพื่อนคุณนายซาง ส่วนตัวเขาออกไปต้อนรับแขกคนอื่นๆคุณนายตงต้อนรับคุณนายซางและหลานสาวอย่างอบอุ่น เมื่อเข้ามาในห้อง ทุกคนก็สามารถเห็นความกระตือรือร้นของคุณนายตงอย่างเคารพ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต่อกับหญิงสาวที่อยู่ข้างคุณนายซ่
คุณนายหนิงไม่สนใจว่าคนอื่นจะมองเธอด้วยสายตาอย่างไร เธอยังพูดต่อ "คุณนายซางกับคุณหนูซางใจกว้างมาก ว่าที่ลูกเขยฃถูกหลานสาวฉกไปต่อหน้า แต่คุณนายซางก็ยังสามารถปรากฏตัวพร้อมกับไห่ถงได้ แถมยังแนะนำเธอให้คุณนายคนอื่นๆ รู้จักอีก"ถ้ากลับกันเป็นเธอ เธอไม่มีทางทำแบบนั้นแน่หลานสาวจะดีกว่าลูกสาวของตัวเองได้อย่างไร?มีคนโต้กลับคุณนายหนิงว่า "คุณนายหนิงระวังคำพูดด้วย นายน้อยจ้านไม่เคยรับรักคุณหนูซาง และก็ไม่ได้สัญญาอะไรไว้เลย ซึ่งเป็นเพียงความปรารถนาของคุณหนูซางฝ่ายเดียว แต่คุณหนูซางเองก็ใจกว้างมาก ซึ่งสามารถปล่อยวางได้ หลังจากรู้ความจริงแล้ว เธอก็ยังอวยพรให้อย่างไม่รู้สึกอะไร ซึ่งนี่ทำให้ฉันต้องมองคุณหนูซางใหม่แล้ว""แค่คุณนายหนิงคุยต่อหน้าพวกเราก็พอ ไม่ต้องพูดถึงภูมิหลังของนายหญิงจ้านอีก เพราะนายน้อยจ้านไม่ใช่คนที่ตระกูลหนิงจะไปล่วงเกินได้"คุณนายหนิงอ้าปากอยากจะพูดบางอย่างต่อ แต่สุดท้ายก็ไม่พูดออกไป และไม่โต้เถียงกับคุณหญิงคุณนายพวกนั้นอีกเดิมทีเธอถูกมองว่าเป็นตัวตลกในแวดวงนี้ เพราะเธอคือลูกสะใภ้คนเล็กที่แต่งงานกับพี่เขยเธออดีตสามีของเธอเป็นน้องชายของสามีคนปัจจุบันของเธอ หลังจากทั้งคู่ม
"หลังจากอยู่แต่ในห้องมาครึ่งชั่วโมง สิ่งที่ฉันได้รับมาที่สุดคือนามบัตร"ซางเสี่ยวเฟยหัวเราะ "ปกติก็เป็นแบบนี้แหละ ทุกคนมีปฏิสัมพันธ์กันเพื่อชื่อเสียงและผลประโยชน์เท่านั้น ไม่มีอะไรจะได้มาฟรีๆ แล้วใครอยากจะสนใจเธอ? เธออยากกินอะไร ฉันจะไปเอาอะไรมาให้เธอกินเอง"“ติ่มซำที่ฉันเห็นเมื่อกี้นี้ ต้องอร่อยมากแน่ๆ ช่วยเอามาให้หน่อย ฉันไม่ค่อยหิวหลังจากกินข้าวในร้านไปแล้ว”เธอชอบขนมหวาน ดังนั้นเห็นติ่มซำสวยๆ มากมาย เธอจึงอยากลองชิมแต่ก่อน เมื่อเธอไปเป็นเพื่อนเซินเสี่ยวจวิน เพื่อร่วมงานเลี้ยงกับคุณป้าเซิน ซึ่งทั้งสองคนชอบแอบไปกินและดื่มกันที่มุมห้อง เธอชอบติ่มซำนั้นอร่อยมาก เพราะอร่อยกว่าร้านข้างนอกขายมาก"ตกลง"ซางเสี่ยวเฟยวางแก้วไวน์แดงลงบนโต๊ะเล็กตรงหน้า แล้วลุกขึ้นไปหยิบอาหารให้ไห่ถงหลังจากนั้นไม่นาน ซางเสี่ยวเฟยก็กลับมามือเปล่า แต่ด้านหลังเธอมีคนรับใช้จากตระกูลตงสองคน ซึ่งทั้งคู่ถือถาดที่เต็มไปด้วยอาหารเลิศรสที่ซางเสี่ยวเฟย เอาให้ตัวเองกับไห่ถง"วางไว้ตรงนี้ ขอบคุณค่ะ"คนรับใช้ทั้งสองคนวางถาดลง แล้วพูดว่าไม่ต้องเกรงใจ จากนั้นจึงหันกลับไป เพื่อเสิร์ฟคนอื่นๆ ต่อสองพี่น้องแอบอยู่มุมห