จ้านหยินถามเธอ: "ทำไมคุณถึงเพิ่งออกไปข้างนอกตอนนี้? คุณใส่รองเท้าส้นสูงได้หรือเปล่า?"ไห่ถงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยและส่งข้อความไปถามเขาว่า "คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันใส่รองเท้าส้นสูง"เมื่อเธอออกจากร้านหนังสือ เธอก็ใส่รองเท้าส้นแบนอยู่จ้านหยินตอบอย่างตรงไปตรงมา: "ลูกพี่ลูกน้องของฉันส่งวิดีโอที่คุณเดินมาให้ฉัน ถงถง ขอบคุณนะ ฉันซาบซึ้งในความพยายามของคุณ"เขาขอบคุณที่เธอพยายามอย่างหนักเพื่อปรับตัวเข้ากับโลกของเขาแต่เดิมเธอเป็นคนสบายๆ การแต่งตัวสบายๆ และเปลี่ยนการแต่งตัวเพื่อเขาเป็นเรื่องยากสำหรับเธอจริงๆ เขาสงสารและขอบคุณเธอ และสาบานว่าจะตามใจเธอสุดหัวใจไปตลอดชีวิตไห่ถงตอบว่า “....เสี่ยวเฟยเป็นคนขายฉันนี่เอง ฉันคงดูตลกมากที่สวมรองเท้าส้นสูง ฉันอยากถอดมันออกตลอดเวลา การใส่รองเท้าแตะสบายกว่ามาก”คนในมณฑลที่กวนเฉิงตั้งอยู่มีชื่อเสียงไปทั่วประเทศเรื่องการใส่รองเท้าแตะ“เราบังเอิญพบกับนายน้อยห้าจวินและเชิญเขาเข้ามาสักพัก ดังนั้นเราจึงออกมาช้าไปหน่อย”ไห่ถงตอบคำถามของสามีก่อนหน้านี้จ้านหยินรู้สึกประหลาดใจและถามว่า “คุณพบกับนายน้อยห้าจวินได้ยังไง?”“วิลล่าขนาดใหญ่ข้างบ้านของป้าของฉันถูก
เมื่อพวกเขามาถึงบ้านของตระกูลตง ประตูของวิลล่าก็เปิดกว้าง สนามหญ้าขนาดใหญ่ด้านหน้าบ้านหลักตกแต่งอย่างสวยงาม และแขกจำนวนมากยืนเป็นกลุ่มเล็กๆ ถือแก้วไวน์และพูดคุยกันเมื่อพิจารณาจากสถานะของคุณนายซาง ตระกูลตงก็ได้รับข่าวทันทีที่รถของเธอจอดอยู่หน้าวิลล่าสองสามีภรรยาพาลูกๆ ออกมาต้อนรับทันทีหลังจากจอดรถของคุณนายซางในลานจอดรถที่คนรับใช้ของตระกูลตงจัดเตรียมไว้ ประธานตงก็เดินเข้าไปพร้อมกับภรรยา และลูกๆ ของเขา เขาเปิดประตูรถให้คุณนายซางด้วยตัวเองและพูดด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา: "คุณนายซางคุณนายซางก้าวลงจากรถอย่างสง่างาม"ประธานตง"คุณนายซางตอบด้วยรอยยิ้มสุภาพคุณนายตงยังทักทายคุณนายซางพร้อมกับลูกๆ ของเธอด้วยตระกูลตงมีลูกสาวสองคนและลูกชายหนึ่งคน ลูกชายคนเล็กอายุเพียงแปดขวบในปีนี้และได้รับการเลี้ยงดูมาให้เป็นคนอ้วนท้วมสมบูรณ์ เขายังสุภาพอีกด้วย หลังจากที่คุณนายตงสอนลูกชายของเธออย่างอ่อนโยน เด็กชายก็ทักทายคุณนายซางอย่างสุภาพซางเสี่ยวเฟยและไห่ถงลงจากรถและเดินไปหาคุณนายซางโดยยืนซ้ายและขวา คล้ายกับดอกไม้สองดอกที่กำลังเบ่งบานในสังคมชั้นสูงของกวนเฉิง ซางเสี่ยวเฟยค่อนข้างมีชื่อเสียง ไม่เพ
"ประธานตง รบกวยแล้ว"เพราะคุณนายตงไม่ได้ส่งคำเชิญให้เธอ เธอมาที่นี่ด้วยชื่อป้าเธอคุณนายตงยิ้มและพูดว่า: "ไม่รบกวน ไม่รบกวนเลย กลับเป็นเกียรติที่นายหญิงมาเสียอีก"ไห่ถงยังถือของขวัญวันเกิดที่คุณนายซางเตรียมไว้ เพื่อให้คุณนายตง เธอจึงมอบของขวัญวันเกิดให้คุณนายซาง คุณนายซางรับเอาไว้และส่งให้คุณหนูตง จากนั้นยิ้มให้คุณหนูตง "สุขสันต์วันเกิดค่ะ คุณหนูตง”คุณนายตงพูดอย่างเร่งรีบ: "คุณนายซาง เรียกเธอด้วยชื่อเล่นว่า อาจูก็พอแล้วค่ะ พวกเราจะดีใจมาก ที่พวกคุณมาร่วมงานวันเกิดของอาจู แถมกลับเสียเงินซื้อของขวัญมาอีก เกรงใจเกินไปแล้วค่ะ"เธอส่งสัญญาณให้ลูกสาวรับของขวัญวันเกิดจากคุณนายซางคุณนายซางมอบของขวัญ เป็นชุดเครื่องประดับคุณหนูตงรับของขวัญวันเกิดจากคุณนายซางมา และพูดขอบคุณเธอเนื่องจากคุณนายซางพาหลานสาวมาด้วย คุณท่านซางเลยไม่ตามมาประธานตงจึงขอให้ภรรยาพาลูกสาวสองคนไปเป็นเพื่อนคุณนายซาง ส่วนตัวเขาออกไปต้อนรับแขกคนอื่นๆคุณนายตงต้อนรับคุณนายซางและหลานสาวอย่างอบอุ่น เมื่อเข้ามาในห้อง ทุกคนก็สามารถเห็นความกระตือรือร้นของคุณนายตงอย่างเคารพ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต่อกับหญิงสาวที่อยู่ข้างคุณนายซ่
คุณนายหนิงไม่สนใจว่าคนอื่นจะมองเธอด้วยสายตาอย่างไร เธอยังพูดต่อ "คุณนายซางกับคุณหนูซางใจกว้างมาก ว่าที่ลูกเขยฃถูกหลานสาวฉกไปต่อหน้า แต่คุณนายซางก็ยังสามารถปรากฏตัวพร้อมกับไห่ถงได้ แถมยังแนะนำเธอให้คุณนายคนอื่นๆ รู้จักอีก"ถ้ากลับกันเป็นเธอ เธอไม่มีทางทำแบบนั้นแน่หลานสาวจะดีกว่าลูกสาวของตัวเองได้อย่างไร?มีคนโต้กลับคุณนายหนิงว่า "คุณนายหนิงระวังคำพูดด้วย นายน้อยจ้านไม่เคยรับรักคุณหนูซาง และก็ไม่ได้สัญญาอะไรไว้เลย ซึ่งเป็นเพียงความปรารถนาของคุณหนูซางฝ่ายเดียว แต่คุณหนูซางเองก็ใจกว้างมาก ซึ่งสามารถปล่อยวางได้ หลังจากรู้ความจริงแล้ว เธอก็ยังอวยพรให้อย่างไม่รู้สึกอะไร ซึ่งนี่ทำให้ฉันต้องมองคุณหนูซางใหม่แล้ว""แค่คุณนายหนิงคุยต่อหน้าพวกเราก็พอ ไม่ต้องพูดถึงภูมิหลังของนายหญิงจ้านอีก เพราะนายน้อยจ้านไม่ใช่คนที่ตระกูลหนิงจะไปล่วงเกินได้"คุณนายหนิงอ้าปากอยากจะพูดบางอย่างต่อ แต่สุดท้ายก็ไม่พูดออกไป และไม่โต้เถียงกับคุณหญิงคุณนายพวกนั้นอีกเดิมทีเธอถูกมองว่าเป็นตัวตลกในแวดวงนี้ เพราะเธอคือลูกสะใภ้คนเล็กที่แต่งงานกับพี่เขยเธออดีตสามีของเธอเป็นน้องชายของสามีคนปัจจุบันของเธอ หลังจากทั้งคู่ม
"หลังจากอยู่แต่ในห้องมาครึ่งชั่วโมง สิ่งที่ฉันได้รับมาที่สุดคือนามบัตร"ซางเสี่ยวเฟยหัวเราะ "ปกติก็เป็นแบบนี้แหละ ทุกคนมีปฏิสัมพันธ์กันเพื่อชื่อเสียงและผลประโยชน์เท่านั้น ไม่มีอะไรจะได้มาฟรีๆ แล้วใครอยากจะสนใจเธอ? เธออยากกินอะไร ฉันจะไปเอาอะไรมาให้เธอกินเอง"“ติ่มซำที่ฉันเห็นเมื่อกี้นี้ ต้องอร่อยมากแน่ๆ ช่วยเอามาให้หน่อย ฉันไม่ค่อยหิวหลังจากกินข้าวในร้านไปแล้ว”เธอชอบขนมหวาน ดังนั้นเห็นติ่มซำสวยๆ มากมาย เธอจึงอยากลองชิมแต่ก่อน เมื่อเธอไปเป็นเพื่อนเซินเสี่ยวจวิน เพื่อร่วมงานเลี้ยงกับคุณป้าเซิน ซึ่งทั้งสองคนชอบแอบไปกินและดื่มกันที่มุมห้อง เธอชอบติ่มซำนั้นอร่อยมาก เพราะอร่อยกว่าร้านข้างนอกขายมาก"ตกลง"ซางเสี่ยวเฟยวางแก้วไวน์แดงลงบนโต๊ะเล็กตรงหน้า แล้วลุกขึ้นไปหยิบอาหารให้ไห่ถงหลังจากนั้นไม่นาน ซางเสี่ยวเฟยก็กลับมามือเปล่า แต่ด้านหลังเธอมีคนรับใช้จากตระกูลตงสองคน ซึ่งทั้งคู่ถือถาดที่เต็มไปด้วยอาหารเลิศรสที่ซางเสี่ยวเฟย เอาให้ตัวเองกับไห่ถง"วางไว้ตรงนี้ ขอบคุณค่ะ"คนรับใช้ทั้งสองคนวางถาดลง แล้วพูดว่าไม่ต้องเกรงใจ จากนั้นจึงหันกลับไป เพื่อเสิร์ฟคนอื่นๆ ต่อสองพี่น้องแอบอยู่มุมห
ไห่ถงมองไปคุณหนูหนิงอย่างไม่ละสายตา เมื่อเห็นว่าเธอไม่ได้ให้ไวน์ที่มียานี้ให้กับใคร และเธอเองก็ไม่ได้ดื่มมันเองด้วย ไห่ถงจึงอยากรู้ว่า เธอทำอย่างนั้นไปเพื่ออะไร?ไม่ช้า ไห่ถงก็ได้คำตอบแก้วไวน์นั้นไม่ใช่ไม่ให้คนอื่นดื่ม แต่เพียงเพราะว่าคนที่ต้องการอยากให้ดื่มเพิ่งมาถึงรถจักรยานยนต์ของผู้หญิงขับเข้ามาในคฤหาสน์ตระกูลตง โดดเด่นท่ามกลางฉากหลังของรถยนต์หรูในลานบ้านคนที่กำลังขี่มอเตอร์ไซค์อยู่นั้น เป็นหญิงสาววัยยี่สิบต้นๆ เธอไม่ใช่จุดสนใจ แต่จุดสนใจกลายเป็นคนที่ซ้อนท้านอยู่ เธอถือช่อดอกไม้ไว้ในอ้อมแขน หลังจากลงจากมอเตอร์ไซต์แล้ว เธอยังคงกำไม้เท้าไว้ในมือข้างหนึ่ง ใช้มันสำรวจถนนและเดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆเธอตาบอด!ไห่ถงวางแก้วของเธอลง นั่งหลังตรง และมองดูหญิงสาวตาบอดเดินไปที่สนามหญ้าใหญ่อย่างช้า ๆ โดยถือช่อดอกไม้ไว้ในมือข้างหนึ่งและกำไม้เท้าคนตาบอดในอีกมือหนึ่งมีภาพหนึ่งลอยมาในใจเป็นคุณยายที่มอบให้กับจ้านอี้เฉิน และยังเป็นผู้สมัครเป็นภรรยาที่คุณยานจ้าเลือกให้กับจ้านอี้เฉินด้วย โดยเธอเรียกร้องให้จ้านอี้เฉินเฉินออกตามเและแต่งงานกับอีกฝ่ายภายในหนึ่งปี มิฉะนั้นเขาจะต้องรับผลที่ตามมา
คุณนายหนิงกำลังพูดคุยกับเหล่าคุณหญิงคุณนายอยู่ไม่ไกล เธอสังเกตได้ถึงความเคลื่อนไหวของลูกสาวทั้งสองคน แต่เธอยังคงสงบนิ่งและพูดคุยกับพวกเธอต่อหนิงอวิ๋นชูเงียบไปสักพักใหญ่ ก่อนที่จะหยิบแก้วไวน์ที่น้องสาวส่งมาให้แล้วถามว่า “ถ้าดื่มแล้วจะจ่ายค่าดอกไม้ใช่ไหม?”"มีพยานมากมายที่อยู่ที่นี่ หากดื่มไวน์แก้วนี้ เงินห้าพันบาทนี้ฉันจะให้เธอ และไม่ขาดไปสักแดงเดียว""ตกลง"หนิงอวิ๋นชูยกแก้วไว้ใกล้ริมฝีปาก และกำลังจะดื่มกลับมีมือยื่นข้างหนึ่ง ยื่นเข้าไปคว้าแก้วไวน์ของเธอ"ไวน์แก้วนี้ คุณห้ามดื่ม"เสียงของคนแปลกหน้าหนิงอวิ๋นชูกำลังพิจารณาสถานะของอีกฝ่ายจากเสียงของเขา และหันศีรษะมาด้วยท่าทีสับสนคนที่แย่งแก้วไวน์ของหนิงอวิ๋นชูคือไห่ถงคนอื่นๆ กำลังชมละคร แต่ไห่ถงไม่อาจทนดูได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเธอรู้ว่าไวน์แก้วนั้น ที่คุณหนูสองหนิงให้หนิงอวิ๋นชูมียาบางอย่างผสมอยู่ และเธอยังรู้ด้วยว่าไม่สิ่งดีแน่นอน ใครจะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับหนิงอวิ๋นชูหลังจากดื่มมันเข้าไป?นี่เป็นภรรยาที่คุณยายเลือกให้จ้านอี้เฉิน ไห่ถงไม่รู้ว่าจะดีหรือไหม แต่เมื่อเธอรู้แล้ว เธอจะก้าวเท้าออกมาปกป้องตามสัญชาตญาณ"คุณหนูไห่
หนิงซีฉียั่วยุซางเสี่ยวเฟยและไห่ถงสองคนนี้สามารถช่วยหนิงอวิ๋นชได้ แต่จะสามารถช่วยไปได้ตลอดหรือไม่?ตราบใดที่เธอต้องการ เธอก็สามารถทำลายร้านดอกไม้ของหนิงอวิ๋นชูให้เหลือแต่ซากได้ตลอดเวลา และหนิงอวิ๋นชูก็ไม่กล้าที่จะรบกวนเธอหนิงอวิ๋นชูไม่ได้โง่ หลังจากที่ซางเสี่ยวเฟยเติมยาลงในแก้วไวน์ เธอก็จะไม่ดื่มมัน และพูดอย่างใจเย็น "คิดว่า ช่อดอกไม้นี้เป็นของขวัญจากฉัน และฉันจะไม่คิดเงินคุณ"หลังจากพูดจบ เธอก็หันหน้าไปทางซางเสี่ยวเฟยและไห่ถง พร้อมกับเอ่ยขอบคุณเล็กน้อยผ่านเสียงแผ่วเบา ขณะที่เธอกล่าวขอบคุณพวกเขา"หนิงอวิ๋นชู อย่าดื่มฉลองมั่วๆ!"หนิงซีฉีรู้สึกว่า ถ้าหยุดจะเสียหน้าเธอเห็นว่าหนิงอวิ๋นชูกำลังจะออกไป เธอจึงเอื้อมมือไปคว้า จากนั้นก็หมุนตัวไปด้านหน้าของหนิงอวิ๋นชู จับคางของหนิงอวิ๋นชูด้วยมือข้างหนึ่งแล้วบีบแน่น และต้องการรินไวน์ให้หนิงอวิ๋นชูจริงๆไห่ถงและซางเสี่ยวเฟยตอบกลับเกือบจะพร้อม ๆ กันไห่ถงมีทักษะด้านศิลปะการต่อสู้และสามารถพลิกสถานการณ์ได้อย่างง่ายดาย เธอไม่เพียงแต่สามารถช่วยหนิงอวิ๋นชูจากมือของหนิงซีฉีเท่านั้น แต่เธอยังจับคางของหนิงซิฉีได้อีกด้วย แถมซางเสี่ยวเฟยคว้าแก้วไว