ไห่ถงมองไปคุณหนูหนิงอย่างไม่ละสายตา เมื่อเห็นว่าเธอไม่ได้ให้ไวน์ที่มียานี้ให้กับใคร และเธอเองก็ไม่ได้ดื่มมันเองด้วย ไห่ถงจึงอยากรู้ว่า เธอทำอย่างนั้นไปเพื่ออะไร?ไม่ช้า ไห่ถงก็ได้คำตอบแก้วไวน์นั้นไม่ใช่ไม่ให้คนอื่นดื่ม แต่เพียงเพราะว่าคนที่ต้องการอยากให้ดื่มเพิ่งมาถึงรถจักรยานยนต์ของผู้หญิงขับเข้ามาในคฤหาสน์ตระกูลตง โดดเด่นท่ามกลางฉากหลังของรถยนต์หรูในลานบ้านคนที่กำลังขี่มอเตอร์ไซค์อยู่นั้น เป็นหญิงสาววัยยี่สิบต้นๆ เธอไม่ใช่จุดสนใจ แต่จุดสนใจกลายเป็นคนที่ซ้อนท้านอยู่ เธอถือช่อดอกไม้ไว้ในอ้อมแขน หลังจากลงจากมอเตอร์ไซต์แล้ว เธอยังคงกำไม้เท้าไว้ในมือข้างหนึ่ง ใช้มันสำรวจถนนและเดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆเธอตาบอด!ไห่ถงวางแก้วของเธอลง นั่งหลังตรง และมองดูหญิงสาวตาบอดเดินไปที่สนามหญ้าใหญ่อย่างช้า ๆ โดยถือช่อดอกไม้ไว้ในมือข้างหนึ่งและกำไม้เท้าคนตาบอดในอีกมือหนึ่งมีภาพหนึ่งลอยมาในใจเป็นคุณยายที่มอบให้กับจ้านอี้เฉิน และยังเป็นผู้สมัครเป็นภรรยาที่คุณยานจ้าเลือกให้กับจ้านอี้เฉินด้วย โดยเธอเรียกร้องให้จ้านอี้เฉินเฉินออกตามเและแต่งงานกับอีกฝ่ายภายในหนึ่งปี มิฉะนั้นเขาจะต้องรับผลที่ตามมา
คุณนายหนิงกำลังพูดคุยกับเหล่าคุณหญิงคุณนายอยู่ไม่ไกล เธอสังเกตได้ถึงความเคลื่อนไหวของลูกสาวทั้งสองคน แต่เธอยังคงสงบนิ่งและพูดคุยกับพวกเธอต่อหนิงอวิ๋นชูเงียบไปสักพักใหญ่ ก่อนที่จะหยิบแก้วไวน์ที่น้องสาวส่งมาให้แล้วถามว่า “ถ้าดื่มแล้วจะจ่ายค่าดอกไม้ใช่ไหม?”"มีพยานมากมายที่อยู่ที่นี่ หากดื่มไวน์แก้วนี้ เงินห้าพันบาทนี้ฉันจะให้เธอ และไม่ขาดไปสักแดงเดียว""ตกลง"หนิงอวิ๋นชูยกแก้วไว้ใกล้ริมฝีปาก และกำลังจะดื่มกลับมีมือยื่นข้างหนึ่ง ยื่นเข้าไปคว้าแก้วไวน์ของเธอ"ไวน์แก้วนี้ คุณห้ามดื่ม"เสียงของคนแปลกหน้าหนิงอวิ๋นชูกำลังพิจารณาสถานะของอีกฝ่ายจากเสียงของเขา และหันศีรษะมาด้วยท่าทีสับสนคนที่แย่งแก้วไวน์ของหนิงอวิ๋นชูคือไห่ถงคนอื่นๆ กำลังชมละคร แต่ไห่ถงไม่อาจทนดูได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเธอรู้ว่าไวน์แก้วนั้น ที่คุณหนูสองหนิงให้หนิงอวิ๋นชูมียาบางอย่างผสมอยู่ และเธอยังรู้ด้วยว่าไม่สิ่งดีแน่นอน ใครจะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับหนิงอวิ๋นชูหลังจากดื่มมันเข้าไป?นี่เป็นภรรยาที่คุณยายเลือกให้จ้านอี้เฉิน ไห่ถงไม่รู้ว่าจะดีหรือไหม แต่เมื่อเธอรู้แล้ว เธอจะก้าวเท้าออกมาปกป้องตามสัญชาตญาณ"คุณหนูไห่
หนิงซีฉียั่วยุซางเสี่ยวเฟยและไห่ถงสองคนนี้สามารถช่วยหนิงอวิ๋นชได้ แต่จะสามารถช่วยไปได้ตลอดหรือไม่?ตราบใดที่เธอต้องการ เธอก็สามารถทำลายร้านดอกไม้ของหนิงอวิ๋นชูให้เหลือแต่ซากได้ตลอดเวลา และหนิงอวิ๋นชูก็ไม่กล้าที่จะรบกวนเธอหนิงอวิ๋นชูไม่ได้โง่ หลังจากที่ซางเสี่ยวเฟยเติมยาลงในแก้วไวน์ เธอก็จะไม่ดื่มมัน และพูดอย่างใจเย็น "คิดว่า ช่อดอกไม้นี้เป็นของขวัญจากฉัน และฉันจะไม่คิดเงินคุณ"หลังจากพูดจบ เธอก็หันหน้าไปทางซางเสี่ยวเฟยและไห่ถง พร้อมกับเอ่ยขอบคุณเล็กน้อยผ่านเสียงแผ่วเบา ขณะที่เธอกล่าวขอบคุณพวกเขา"หนิงอวิ๋นชู อย่าดื่มฉลองมั่วๆ!"หนิงซีฉีรู้สึกว่า ถ้าหยุดจะเสียหน้าเธอเห็นว่าหนิงอวิ๋นชูกำลังจะออกไป เธอจึงเอื้อมมือไปคว้า จากนั้นก็หมุนตัวไปด้านหน้าของหนิงอวิ๋นชู จับคางของหนิงอวิ๋นชูด้วยมือข้างหนึ่งแล้วบีบแน่น และต้องการรินไวน์ให้หนิงอวิ๋นชูจริงๆไห่ถงและซางเสี่ยวเฟยตอบกลับเกือบจะพร้อม ๆ กันไห่ถงมีทักษะด้านศิลปะการต่อสู้และสามารถพลิกสถานการณ์ได้อย่างง่ายดาย เธอไม่เพียงแต่สามารถช่วยหนิงอวิ๋นชูจากมือของหนิงซีฉีเท่านั้น แต่เธอยังจับคางของหนิงซิฉีได้อีกด้วย แถมซางเสี่ยวเฟยคว้าแก้วไว
ขณะเดียวกัน คุณนายซางกับคุณนายตงก็ได้ยินเสียงโกลาหล จึงรีบออกมาจากบ้านคุณนายหนิงไม่กล้าเผชิญหน้ากับคุณนายซางโดยตรง และเมื่อรวมเข้ากับเรื่องลูกสาวอันเป็นที่รักของเธอก่อขึ้น เธอจึงทำได้เพียงแต่ขอโทษคุณนายตงและรีบออกจากคฤหาสน์ตระกูลตงกับลูกสาวคนเล็กของเธอเมื่อพายุสงบลงแล้ว หนิงอวิ๋นชูก็ขอบคุณไห่ถงและซางเสี่ยวเฟยเธอไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมไห่ถงและซางเสี่ยวเฟยถึงช่วยเธอเมื่อได้ยินเสียงโวยวายของแม่ เธอจึงได้รู้ว่าหนึ่งในคนที่ช่วยเหลือเธอก็คือนายหญิงจ้าน ซึ่งเพิ่งกลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในกวนเฉิงเมื่อไม่นานนี้เธอไม่คาดคิดว่า นายหญิงผู้มีจิตใจกล้าหาญจะเข้ามาช่วยเหลือเธอในความเป็นจริงแล้ว ถึงแม้จะไม่มีใครช่วยได้ เธอก็ยังมีหนทางสถานการณ์ลำบากนี้ได้เพื่อหาเลี้ยงชีพตน และจากภายใต้เงื้อมมืออันโหดร้ายของแม่และพ่อเลี้ยง สิ่งสำคัญยิ่งกว่าคือต้องรวบรวมหลักฐานทีละชิ้น หากหนิงอวิ๋นชูไม่มีหนทาง เธอก็คงไม่สามารถรอดมาได้จนถึงตอนนี้ได้แน่ไห่ถงกังวลและพูดว่า "ถ้าพวกเขาสร้างปัญหาให้คุณ เมื่อเรากลับไป..." เธอไม่รู้ว่าคำพูดของเธอจะสามารถสร้างความกลัวให้กับคุณนายหนิงได้หรือไม่หนิงอวิ๋นชูพูดอย่า
"“คุณไม่ถามฉันเลยเหรอว่า ฉันไปทำให้คนอื่นขุ่นเคืองอย่างไร?”จ้านหยินหันหน้าไปมองเธอแล้วพูดว่า "ไม่จำเป็นต้องถาม ไม่ว่าคุณจะทำให้คนอื่นขุ่นเคืองอย่างไร ฉันจะอยู่ข้างคุณเสมอ"ในสายตาของเขา ภรรยาของเขาถูกเสมอไห่ถง: "... จ้านหยิน ถ้าคุณเชื่อในตัวฉันแบบนี้ และตามใจฉันแบบนี้ จะทำให้ฉันเสียนิสัย""ฉันแค่อยากเอาใจคุณ เพื่อที่ฉันจะได้ทนคุณได้และคุณจะเป็นของฉันตลอดไป ซึ่งจะไม่มีใครขโมยภรรยาของฉันไปจากฉันได้"ไห่ถงยิ้ม "ตราบใดที่คุณรู้ว่า ฉันเป็นภรรยาของคุณ ใครจะกล้าดึงหนวดเสือ?"จางเหนียนเซิงแอบรักเธอมาหลายปีแล้ว แม้ว่าเขาจะรู้ว่าเธอแต่งงานแล้ว แต่เขาก็ยังคงไม่ยอมแพ้ และหวังว่าเธอจะกับจ้านหยินที่ยุติการแต่งงานกัน และสามารถแต่งงานกับเขาได้ แต่เมื่อป้าเซิ่นบอก เขาว่า สามีที่เธอแต่งงานแบบสายฟ้าแลบคือ จ้านหยิน ลูกชายคนโตของตระกูลจ้าน ทำให้หัวใจของจางเหนียนเซิงนั้นตายด้านครั้งล่าสุด จางเหนียนเซิงฉวยโอากสจากวันหยุดสุดสัปดาห์สองวันและรีบกลับมา ป้าเซิ่นยังเชิญเสี่ยวจวินและครอบครัวมาทานอาหารเย็นและพบปะกับจางเหนียนเซิงเซินเสี่ยวจวินบอกว่า จางเหนียนเซิงโตขึ้นมาก แต่เขาก็เงียบขึ้นมากเช่นกัน หลังจ
"คุณป้าต้องมองคุณตาค้างแน่ เมื่อได้ยินคุณพูดแบบนั้น"จ้านหยินยิ้มและพูดว่า "ป้าของคุณเป็นคนเข้มงวดมาโดยตลอด จนกระทั่งเธอเกษียณ เธอเลยอ่อนโยนมากขึ้น หากคุณขอให้เธอดูแลคุณและฝึกฝนคุณ คุณจะต้องทุกข์ทรมานมาก แต่เธอเป็นป้าของคุณและเธอก็ทุ่มเทให้กับคุณเช่นกัน ดังนั้นคุณจะสามารถอดทนต่อความยากลำบากได้อย่างแน่นอน และสิ่งที่คุณเรียนรู้จากเธอ ก็เพียงพอแล้ว ที่จะเป็นประโยชน์ในอนาคต"ไห่ถงนั่งลงบนโซฟาจ้านหยินดินตาม และยกเท้าเธอขึ้น เพื่อนวดให้ไห่ถงต้องการหยุดเขาและพูดว่า "คุณเป็นนายน้อยผู้ภาคภูมิใจของตระกูลจ้าน และเป็นประธานของจ้านซื่อกรุ๊ปอีก""ต่อหน้าคุณ ฉันเป็นแค่ผู้ชายของคุณ ภรรยาของฉันปวดเท้ามาทั้งคืน เพราะสวมรองเท้าส้นสูงที่เธอไม่ชอบ ดังนั้นสำหรับฉันดูแลภรรยา แล้วใครจะว่าได้?"เมื่อฟังคำพูดที่เอาใจและไพเราะของเขา ไห่ถงก็ไม่ได้หยุดให้เขานวดเท้า"ฉันเจอหนิงอวิ๋นชู"จ้านหยินไม่ได้ถามว่าใครที่ทำให้ไห่ถงขุ่นเคือง แต่ไห่ถงริเริ่มเอ่ยปากบอกเขา"หนิงอวิ๋นชูนี่ใคร?"จ้านหยินมุ่งความสนใจไปที่การนวดไห่ถง และไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง เขาไม่สนใจอยากรู้ว่า หนิงอวิ๋นชูคือใคร"คุณไม่เห็นรูปถ่ายของเธอ
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง จ้านหยินก็ตอบว่า "แน่นอน แต่ฉันเชื่อสายตา แต่ความรู้สึกของตัวเองมากกว่า นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถึงปกปิดตัวตนในตอนแรก เพื่อตรวจสอบตัวตนของคุณ""ถ้ามองในแง่ของนิสัยคุณแล้ว ถ้าคุณยังไม่รู้ภูมิหลังของฉัน คุณคงไม่ตกลงแต่งงานกับฉันแบบสายฟ้าแลบหรอก หลังจากแต่งงานแล้ว คุณยังสงสัยอีกเหรอว่า ฉันเป็นนักขุดทองที่พยายามเอาเงินจากคุณ?""ฉันกลัวว่าข้อมูลที่ตรวจสอบมานั้นผิด"ไห่ถงพูดไม่ออก"การแต่งงานเป็นเรื่องที่ติดตัวไปตลอดชีวิต ผู้หญิงกลัวที่จะแต่งงานกับผู้ชายผิดคน และผู้ชายอย่างเราก็กลัวที่จะแต่งงานกับภรรยาผิดคนเช่นกัน อย่างน้อยก็ต้องเข้ากันได้ดี เพื่อจะรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของคุณ การสืบเป็นภูมิหลังจึงเป็นแค่เอกสารธรรมดา""การแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิต ดูเหมือนว่าเราทั้งสองจะรีบร้อน"ไห่ถงถอนหายใจและพูดด้วยความโล่งใจ "ยังโชคดีที่ ตอนนี้เรารักกัน"ถ้าเธอสามารถเริ่มต้นใหม่ได้ เธอก็คงจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง"ถงถง พูดต่อไปเถอะ ฉันจะฟังต่อ" จ้านหยินไม่อยากพูดมากเกินไปเกี่ยวกับช่วงเวลาของการแต่งงานที่ปกปิดไว้กับไห่ถง เพราะมันเป็นช่วงที่เขาหลอกเธอถ้าไม่ใช่เพราะท้องของเ
"ตระกูลเศรษฐีนั้น ลับหลังแล้ว สามารถทำอะไรก็ได้เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง เพียงแต่คนนอกไม่รู้ แต่ถงถง คุณไม่ต้องกังวล ตระกูลจ้านไม่มีเรื่องอะไรแบบนั้น ฉันยังคงอยู่ในตำแหน่งนี้ และแม้ว่าฉันจะให้เงินให้พวกเขานั่งแทน พวกเขาก็จะไม่ต้องการนั่งแทน"ไห่ถงเชื่อคำพูดของจ้านหยินเธอได้พบปะพูดคุยกับญาติพี่น้องของสามีมานับหลายครั้ง ทั้งผู้อาวุโสและเพื่อนรุ่นเดียวกัน ทุกคนต่างก็เป็นมิตรกันดี มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่รู้สึกไม่ดีกับเธอและไม่พอใจในตัวเธอมากนัก นั่นก็คือแม่สามีแต่เธอก็ไม่เคยทำอะไรที่ทำร้ายสามีของเธอตอนที่โกรธกับจ้านหยิน แม่สามีของเธอก็ไปขอโทษคุณยายจ้านด้วย และไม่ใช้โอกาสนี้ให้จ้านหยินหย่ากับเธอสำหรับแม่สามีแล้ว แม้ว่าภูมิหลังของลูกสะใภ้จะเป็นเรื่องสำคัญ แต่ความรู้สึกและความสุขของลูกชายกลับสำคัญมากกว่า"คุณนายหนิงมองฉันราวกับว่า ฉันสกปรกมาก ฉันไม่รู้ว่าเธอจะพูดจาไม่ดีอะไรกับสามีของเธอเมื่อกลับบ้านไปแล้ว จ้านหยิน ตระกูลหนิงมีอำนาจมากหรือไม่ ฉันเข้าไปยุ่งเรื่องของคนอื่นและทำให้คุณนายหนิงและลูกสาวของเธอขุ่นเคือง ซึ่งมันจะทำให้คุณเดือดร้อนไปด้วย"หลังจากนวดขาและเท้าเสร็จแล้ว จ้านหยินก