คุณนายหนิงไม่สนใจว่าคนอื่นจะมองเธอด้วยสายตาอย่างไร เธอยังพูดต่อ "คุณนายซางกับคุณหนูซางใจกว้างมาก ว่าที่ลูกเขยฃถูกหลานสาวฉกไปต่อหน้า แต่คุณนายซางก็ยังสามารถปรากฏตัวพร้อมกับไห่ถงได้ แถมยังแนะนำเธอให้คุณนายคนอื่นๆ รู้จักอีก"ถ้ากลับกันเป็นเธอ เธอไม่มีทางทำแบบนั้นแน่หลานสาวจะดีกว่าลูกสาวของตัวเองได้อย่างไร?มีคนโต้กลับคุณนายหนิงว่า "คุณนายหนิงระวังคำพูดด้วย นายน้อยจ้านไม่เคยรับรักคุณหนูซาง และก็ไม่ได้สัญญาอะไรไว้เลย ซึ่งเป็นเพียงความปรารถนาของคุณหนูซางฝ่ายเดียว แต่คุณหนูซางเองก็ใจกว้างมาก ซึ่งสามารถปล่อยวางได้ หลังจากรู้ความจริงแล้ว เธอก็ยังอวยพรให้อย่างไม่รู้สึกอะไร ซึ่งนี่ทำให้ฉันต้องมองคุณหนูซางใหม่แล้ว""แค่คุณนายหนิงคุยต่อหน้าพวกเราก็พอ ไม่ต้องพูดถึงภูมิหลังของนายหญิงจ้านอีก เพราะนายน้อยจ้านไม่ใช่คนที่ตระกูลหนิงจะไปล่วงเกินได้"คุณนายหนิงอ้าปากอยากจะพูดบางอย่างต่อ แต่สุดท้ายก็ไม่พูดออกไป และไม่โต้เถียงกับคุณหญิงคุณนายพวกนั้นอีกเดิมทีเธอถูกมองว่าเป็นตัวตลกในแวดวงนี้ เพราะเธอคือลูกสะใภ้คนเล็กที่แต่งงานกับพี่เขยเธออดีตสามีของเธอเป็นน้องชายของสามีคนปัจจุบันของเธอ หลังจากทั้งคู่ม
"หลังจากอยู่แต่ในห้องมาครึ่งชั่วโมง สิ่งที่ฉันได้รับมาที่สุดคือนามบัตร"ซางเสี่ยวเฟยหัวเราะ "ปกติก็เป็นแบบนี้แหละ ทุกคนมีปฏิสัมพันธ์กันเพื่อชื่อเสียงและผลประโยชน์เท่านั้น ไม่มีอะไรจะได้มาฟรีๆ แล้วใครอยากจะสนใจเธอ? เธออยากกินอะไร ฉันจะไปเอาอะไรมาให้เธอกินเอง"“ติ่มซำที่ฉันเห็นเมื่อกี้นี้ ต้องอร่อยมากแน่ๆ ช่วยเอามาให้หน่อย ฉันไม่ค่อยหิวหลังจากกินข้าวในร้านไปแล้ว”เธอชอบขนมหวาน ดังนั้นเห็นติ่มซำสวยๆ มากมาย เธอจึงอยากลองชิมแต่ก่อน เมื่อเธอไปเป็นเพื่อนเซินเสี่ยวจวิน เพื่อร่วมงานเลี้ยงกับคุณป้าเซิน ซึ่งทั้งสองคนชอบแอบไปกินและดื่มกันที่มุมห้อง เธอชอบติ่มซำนั้นอร่อยมาก เพราะอร่อยกว่าร้านข้างนอกขายมาก"ตกลง"ซางเสี่ยวเฟยวางแก้วไวน์แดงลงบนโต๊ะเล็กตรงหน้า แล้วลุกขึ้นไปหยิบอาหารให้ไห่ถงหลังจากนั้นไม่นาน ซางเสี่ยวเฟยก็กลับมามือเปล่า แต่ด้านหลังเธอมีคนรับใช้จากตระกูลตงสองคน ซึ่งทั้งคู่ถือถาดที่เต็มไปด้วยอาหารเลิศรสที่ซางเสี่ยวเฟย เอาให้ตัวเองกับไห่ถง"วางไว้ตรงนี้ ขอบคุณค่ะ"คนรับใช้ทั้งสองคนวางถาดลง แล้วพูดว่าไม่ต้องเกรงใจ จากนั้นจึงหันกลับไป เพื่อเสิร์ฟคนอื่นๆ ต่อสองพี่น้องแอบอยู่มุมห
ไห่ถงมองไปคุณหนูหนิงอย่างไม่ละสายตา เมื่อเห็นว่าเธอไม่ได้ให้ไวน์ที่มียานี้ให้กับใคร และเธอเองก็ไม่ได้ดื่มมันเองด้วย ไห่ถงจึงอยากรู้ว่า เธอทำอย่างนั้นไปเพื่ออะไร?ไม่ช้า ไห่ถงก็ได้คำตอบแก้วไวน์นั้นไม่ใช่ไม่ให้คนอื่นดื่ม แต่เพียงเพราะว่าคนที่ต้องการอยากให้ดื่มเพิ่งมาถึงรถจักรยานยนต์ของผู้หญิงขับเข้ามาในคฤหาสน์ตระกูลตง โดดเด่นท่ามกลางฉากหลังของรถยนต์หรูในลานบ้านคนที่กำลังขี่มอเตอร์ไซค์อยู่นั้น เป็นหญิงสาววัยยี่สิบต้นๆ เธอไม่ใช่จุดสนใจ แต่จุดสนใจกลายเป็นคนที่ซ้อนท้านอยู่ เธอถือช่อดอกไม้ไว้ในอ้อมแขน หลังจากลงจากมอเตอร์ไซต์แล้ว เธอยังคงกำไม้เท้าไว้ในมือข้างหนึ่ง ใช้มันสำรวจถนนและเดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆเธอตาบอด!ไห่ถงวางแก้วของเธอลง นั่งหลังตรง และมองดูหญิงสาวตาบอดเดินไปที่สนามหญ้าใหญ่อย่างช้า ๆ โดยถือช่อดอกไม้ไว้ในมือข้างหนึ่งและกำไม้เท้าคนตาบอดในอีกมือหนึ่งมีภาพหนึ่งลอยมาในใจเป็นคุณยายที่มอบให้กับจ้านอี้เฉิน และยังเป็นผู้สมัครเป็นภรรยาที่คุณยานจ้าเลือกให้กับจ้านอี้เฉินด้วย โดยเธอเรียกร้องให้จ้านอี้เฉินเฉินออกตามเและแต่งงานกับอีกฝ่ายภายในหนึ่งปี มิฉะนั้นเขาจะต้องรับผลที่ตามมา
คุณนายหนิงกำลังพูดคุยกับเหล่าคุณหญิงคุณนายอยู่ไม่ไกล เธอสังเกตได้ถึงความเคลื่อนไหวของลูกสาวทั้งสองคน แต่เธอยังคงสงบนิ่งและพูดคุยกับพวกเธอต่อหนิงอวิ๋นชูเงียบไปสักพักใหญ่ ก่อนที่จะหยิบแก้วไวน์ที่น้องสาวส่งมาให้แล้วถามว่า “ถ้าดื่มแล้วจะจ่ายค่าดอกไม้ใช่ไหม?”"มีพยานมากมายที่อยู่ที่นี่ หากดื่มไวน์แก้วนี้ เงินห้าพันบาทนี้ฉันจะให้เธอ และไม่ขาดไปสักแดงเดียว""ตกลง"หนิงอวิ๋นชูยกแก้วไว้ใกล้ริมฝีปาก และกำลังจะดื่มกลับมีมือยื่นข้างหนึ่ง ยื่นเข้าไปคว้าแก้วไวน์ของเธอ"ไวน์แก้วนี้ คุณห้ามดื่ม"เสียงของคนแปลกหน้าหนิงอวิ๋นชูกำลังพิจารณาสถานะของอีกฝ่ายจากเสียงของเขา และหันศีรษะมาด้วยท่าทีสับสนคนที่แย่งแก้วไวน์ของหนิงอวิ๋นชูคือไห่ถงคนอื่นๆ กำลังชมละคร แต่ไห่ถงไม่อาจทนดูได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเธอรู้ว่าไวน์แก้วนั้น ที่คุณหนูสองหนิงให้หนิงอวิ๋นชูมียาบางอย่างผสมอยู่ และเธอยังรู้ด้วยว่าไม่สิ่งดีแน่นอน ใครจะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับหนิงอวิ๋นชูหลังจากดื่มมันเข้าไป?นี่เป็นภรรยาที่คุณยายเลือกให้จ้านอี้เฉิน ไห่ถงไม่รู้ว่าจะดีหรือไหม แต่เมื่อเธอรู้แล้ว เธอจะก้าวเท้าออกมาปกป้องตามสัญชาตญาณ"คุณหนูไห่
หนิงซีฉียั่วยุซางเสี่ยวเฟยและไห่ถงสองคนนี้สามารถช่วยหนิงอวิ๋นชได้ แต่จะสามารถช่วยไปได้ตลอดหรือไม่?ตราบใดที่เธอต้องการ เธอก็สามารถทำลายร้านดอกไม้ของหนิงอวิ๋นชูให้เหลือแต่ซากได้ตลอดเวลา และหนิงอวิ๋นชูก็ไม่กล้าที่จะรบกวนเธอหนิงอวิ๋นชูไม่ได้โง่ หลังจากที่ซางเสี่ยวเฟยเติมยาลงในแก้วไวน์ เธอก็จะไม่ดื่มมัน และพูดอย่างใจเย็น "คิดว่า ช่อดอกไม้นี้เป็นของขวัญจากฉัน และฉันจะไม่คิดเงินคุณ"หลังจากพูดจบ เธอก็หันหน้าไปทางซางเสี่ยวเฟยและไห่ถง พร้อมกับเอ่ยขอบคุณเล็กน้อยผ่านเสียงแผ่วเบา ขณะที่เธอกล่าวขอบคุณพวกเขา"หนิงอวิ๋นชู อย่าดื่มฉลองมั่วๆ!"หนิงซีฉีรู้สึกว่า ถ้าหยุดจะเสียหน้าเธอเห็นว่าหนิงอวิ๋นชูกำลังจะออกไป เธอจึงเอื้อมมือไปคว้า จากนั้นก็หมุนตัวไปด้านหน้าของหนิงอวิ๋นชู จับคางของหนิงอวิ๋นชูด้วยมือข้างหนึ่งแล้วบีบแน่น และต้องการรินไวน์ให้หนิงอวิ๋นชูจริงๆไห่ถงและซางเสี่ยวเฟยตอบกลับเกือบจะพร้อม ๆ กันไห่ถงมีทักษะด้านศิลปะการต่อสู้และสามารถพลิกสถานการณ์ได้อย่างง่ายดาย เธอไม่เพียงแต่สามารถช่วยหนิงอวิ๋นชูจากมือของหนิงซีฉีเท่านั้น แต่เธอยังจับคางของหนิงซิฉีได้อีกด้วย แถมซางเสี่ยวเฟยคว้าแก้วไว
ขณะเดียวกัน คุณนายซางกับคุณนายตงก็ได้ยินเสียงโกลาหล จึงรีบออกมาจากบ้านคุณนายหนิงไม่กล้าเผชิญหน้ากับคุณนายซางโดยตรง และเมื่อรวมเข้ากับเรื่องลูกสาวอันเป็นที่รักของเธอก่อขึ้น เธอจึงทำได้เพียงแต่ขอโทษคุณนายตงและรีบออกจากคฤหาสน์ตระกูลตงกับลูกสาวคนเล็กของเธอเมื่อพายุสงบลงแล้ว หนิงอวิ๋นชูก็ขอบคุณไห่ถงและซางเสี่ยวเฟยเธอไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมไห่ถงและซางเสี่ยวเฟยถึงช่วยเธอเมื่อได้ยินเสียงโวยวายของแม่ เธอจึงได้รู้ว่าหนึ่งในคนที่ช่วยเหลือเธอก็คือนายหญิงจ้าน ซึ่งเพิ่งกลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในกวนเฉิงเมื่อไม่นานนี้เธอไม่คาดคิดว่า นายหญิงผู้มีจิตใจกล้าหาญจะเข้ามาช่วยเหลือเธอในความเป็นจริงแล้ว ถึงแม้จะไม่มีใครช่วยได้ เธอก็ยังมีหนทางสถานการณ์ลำบากนี้ได้เพื่อหาเลี้ยงชีพตน และจากภายใต้เงื้อมมืออันโหดร้ายของแม่และพ่อเลี้ยง สิ่งสำคัญยิ่งกว่าคือต้องรวบรวมหลักฐานทีละชิ้น หากหนิงอวิ๋นชูไม่มีหนทาง เธอก็คงไม่สามารถรอดมาได้จนถึงตอนนี้ได้แน่ไห่ถงกังวลและพูดว่า "ถ้าพวกเขาสร้างปัญหาให้คุณ เมื่อเรากลับไป..." เธอไม่รู้ว่าคำพูดของเธอจะสามารถสร้างความกลัวให้กับคุณนายหนิงได้หรือไม่หนิงอวิ๋นชูพูดอย่า
"“คุณไม่ถามฉันเลยเหรอว่า ฉันไปทำให้คนอื่นขุ่นเคืองอย่างไร?”จ้านหยินหันหน้าไปมองเธอแล้วพูดว่า "ไม่จำเป็นต้องถาม ไม่ว่าคุณจะทำให้คนอื่นขุ่นเคืองอย่างไร ฉันจะอยู่ข้างคุณเสมอ"ในสายตาของเขา ภรรยาของเขาถูกเสมอไห่ถง: "... จ้านหยิน ถ้าคุณเชื่อในตัวฉันแบบนี้ และตามใจฉันแบบนี้ จะทำให้ฉันเสียนิสัย""ฉันแค่อยากเอาใจคุณ เพื่อที่ฉันจะได้ทนคุณได้และคุณจะเป็นของฉันตลอดไป ซึ่งจะไม่มีใครขโมยภรรยาของฉันไปจากฉันได้"ไห่ถงยิ้ม "ตราบใดที่คุณรู้ว่า ฉันเป็นภรรยาของคุณ ใครจะกล้าดึงหนวดเสือ?"จางเหนียนเซิงแอบรักเธอมาหลายปีแล้ว แม้ว่าเขาจะรู้ว่าเธอแต่งงานแล้ว แต่เขาก็ยังคงไม่ยอมแพ้ และหวังว่าเธอจะกับจ้านหยินที่ยุติการแต่งงานกัน และสามารถแต่งงานกับเขาได้ แต่เมื่อป้าเซิ่นบอก เขาว่า สามีที่เธอแต่งงานแบบสายฟ้าแลบคือ จ้านหยิน ลูกชายคนโตของตระกูลจ้าน ทำให้หัวใจของจางเหนียนเซิงนั้นตายด้านครั้งล่าสุด จางเหนียนเซิงฉวยโอากสจากวันหยุดสุดสัปดาห์สองวันและรีบกลับมา ป้าเซิ่นยังเชิญเสี่ยวจวินและครอบครัวมาทานอาหารเย็นและพบปะกับจางเหนียนเซิงเซินเสี่ยวจวินบอกว่า จางเหนียนเซิงโตขึ้นมาก แต่เขาก็เงียบขึ้นมากเช่นกัน หลังจ
"คุณป้าต้องมองคุณตาค้างแน่ เมื่อได้ยินคุณพูดแบบนั้น"จ้านหยินยิ้มและพูดว่า "ป้าของคุณเป็นคนเข้มงวดมาโดยตลอด จนกระทั่งเธอเกษียณ เธอเลยอ่อนโยนมากขึ้น หากคุณขอให้เธอดูแลคุณและฝึกฝนคุณ คุณจะต้องทุกข์ทรมานมาก แต่เธอเป็นป้าของคุณและเธอก็ทุ่มเทให้กับคุณเช่นกัน ดังนั้นคุณจะสามารถอดทนต่อความยากลำบากได้อย่างแน่นอน และสิ่งที่คุณเรียนรู้จากเธอ ก็เพียงพอแล้ว ที่จะเป็นประโยชน์ในอนาคต"ไห่ถงนั่งลงบนโซฟาจ้านหยินดินตาม และยกเท้าเธอขึ้น เพื่อนวดให้ไห่ถงต้องการหยุดเขาและพูดว่า "คุณเป็นนายน้อยผู้ภาคภูมิใจของตระกูลจ้าน และเป็นประธานของจ้านซื่อกรุ๊ปอีก""ต่อหน้าคุณ ฉันเป็นแค่ผู้ชายของคุณ ภรรยาของฉันปวดเท้ามาทั้งคืน เพราะสวมรองเท้าส้นสูงที่เธอไม่ชอบ ดังนั้นสำหรับฉันดูแลภรรยา แล้วใครจะว่าได้?"เมื่อฟังคำพูดที่เอาใจและไพเราะของเขา ไห่ถงก็ไม่ได้หยุดให้เขานวดเท้า"ฉันเจอหนิงอวิ๋นชู"จ้านหยินไม่ได้ถามว่าใครที่ทำให้ไห่ถงขุ่นเคือง แต่ไห่ถงริเริ่มเอ่ยปากบอกเขา"หนิงอวิ๋นชูนี่ใคร?"จ้านหยินมุ่งความสนใจไปที่การนวดไห่ถง และไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง เขาไม่สนใจอยากรู้ว่า หนิงอวิ๋นชูคือใคร"คุณไม่เห็นรูปถ่ายของเธอ