"ซูหนาน!"จ้านหยินค่อนข้างโกรธเขาแค่ทำเพื่อรักษาหน้าของตัวเองเท่านั้นจริงๆไห่ถงเป็นภรรยาของเขา หากไห่ถงถูกรังแก มันคือการตบหน้าของจ้านหยินและเขาจะไม่ยอมให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น"ได้ๆ ไม่หัวเราะนายแล้ว นายทําเพื่อศักดิ์ศรีและเพื่อหน้าตาของตัวเอง ได้ฉันจะช่วยนายตรวจสอบเอง ภรรยาของนายชื่อไห่ถงใช่ไหม จริงๆ แล้วนายสามารถขอให้ลู่ตงหมิงช่วยได้นะ ฉันเป็นผู้ช่วยพิเศษของนายก็จริงแต่รับผิดชอบเรื่องของบริษัทเป็นหลัก ปกติยุ่งมากไม่มีแม้แต่เวลาดื่มน้ำสักแก้ว แค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ยังให้ฉันทําอีก"จ้านหยินลุกขึ้นไปเทน้ำแก้วหนึ่งให้เขา "งั้นตอนนี้ดื่มน้ำสักแก้วก่อน กลัวว่าจะยุ่งจนไม่มีเวลาดื่มน้ำสักแก้วน่ะ""ฉันเข้ามานั่งตั้งนานขนาดนี้ แต่เพิ่งคิดจะเทน้ำให้เนี่ยนะ""ฉันคิดว่านายไม่ได้หิวน้ำนี่ เพราะถ้านายหิวน้ำก็เทดื่มเองได้ เราสองคนมีความสัมพันธ์กันอย่างไร นายเคยทำตัวมีมารยาทต่อหน้าฉันด้วยเหรอ?"ซูหนานหัวเราะคิกคัก"ปากของตงหมิงไม่เก็บความลับได้เหมือนนาย"“นั่นก็จริง บางครั้งลู่ตงหมิงก็พูดมากเกินไป”ซูหนานอึ้งอยู่พักหนึ่ง"จําไว้ว่าช่วยฉันหาข้อมูลของทุกคนในตระกูลไห่ให้ชัดเจน" หลังจ
ปากของจ้านหยิน ส่วนมากชอบพูดเรื่องที่ไม่น่าฟังแต่ยังไงก็ควรให้เขาไปขอโทษดีกว่า"เกิดอะไรขึ้น นายเข้าใจภรรยาผิดเหรอ? เข้าใจผิดเรื่องอะไร? อยู่ดีๆ ก็จะให้ของขวัญขอโทษ"พอมีเรื่องซุบซิบหัวใจซูหนานก็พองโต"ไม่มีเรื่องอะไรกับนายแล้ว กลับไปทํางานต่อเถอะ เย็นนี้นายไปคุยกับประธานหมิงเกี่ยวกับเรื่องความร่วมมือด้วย ตอนเย็นฉันไม่ว่าง"เพราะเขาต้องไปกินข้าวที่บ้านพี่สะใภ้"ทําไมถึงไม่ว่างอีกแล้ว ไปไหน?"“นายควรรู้ว่าผู้ชายที่แต่งงานแล้วไม่ควรให้ความสนใจที่งานเพียงอย่างเดียว ไม่เช่นนั้นอาจจะถูกสวมเขาได้”ซูหนาน “......”เขาพูดไม่ออกจริงๆก็เข้าใจแล้วผลักเรื่องให้ตนเพื่อจะได้อยู่กับภรรยานี่เองแต่งงานแล้วเจ๋งนักเหรอไง?เขาเองก็สามารถแต่งงานได้แล้ว ต่อไปก็ไม่รับค่าจ้างทํางานล่วงเวลาทุกวัน กลับบ้านไปใช้เวลาหาภรรยาโดยเฉพาะจะได้ไหม?เขายังไม่มีแฟนและเขาอยากแต่งงานเร็วๆ นี้ แต่ก็ไม่มีใครมาแต่งงานกับเขาเนี่ยสิด้วยอารมณ์ที่ถูกหัวหน้าบีบคั้นมา ซูหนานจากไปด้วยดวงใจที่ห่อเหี่ยวภายใต้ท้องฟ้าสีครามเดียวกัน ต่างคนต่างมองสิ่งต่างๆ ในสถานที่แตกต่างกันไห่หลิงบอกกับน้องสาวว่าให้มาทานอาหารตอนเย็น
แม่บอกว่าไห่หลิงเรียนมาสูง แต่ตอนนี้มีประโยชน์อะไร? เธอทำงานหาเงินก็ไม่ได้ผู้หญิงที่สามารถดูแลครอบครัวและหาเงินได้ ถึงจะสามารถช่วยเขาได้ที่สำคัญคือไห่หลิงไม่รู้วิธีดูแลตัวเอง เธอเคยสวยและนิสัยดี แต่ตอนนี้เธออ้วนเหมือนหมู แต่งตัวก็ไม่เป็น เธอแตกต่างจากก่อนแต่งงานอย่างสิ้นเชิง เขาไม่กล้าแม้แต่จะพาไห่หลิงไปออกงานด้วยกัน กลัวเพื่อนร่วมงานและลูกค้าจะหัวเราะเยาะเมื่อเทียบกับเย่เจียนีแล้ว ทั้งสองคนแตกต่างราวกับฟ้ากับดินไห่หลิงโกรธมากกับคำพูดของสามีเธอจึงวางสายไปเธอไม่ได้บอกเขาด้วยซ้ำว่าเธอชวนน้องสาวและสามีมาทานอาหารตอนเย็นถ้าพ่อแม่สามีและพี่สะใภ้มา เธอก็ชวนน้องสาวกับสามีมาเหมือนกัน คาดว่าหลังจากครอบครัวของสามีจากไป เธอกับโจวหงหลินต้องทะเลาะกันอีกครอบครัวสามีสามารถมาทานข้าวได้ ทําไมน้องสาวของเธอมาไม่ได้ นี่มันยุติธรรมตรงไหน?บ้านนี้เธอก็มีกรรมสิทธิ์เหมือนกันแม้ว่าเงินดาวน์บ้านและจํานองจะออกโดยโจวหงหลิน แต่ค่าตกแต่งบ้านและเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดก็เป็นเงินของเธอ และเงินออมทั้งหมดก่อนแต่งงานของเธอถูกใช้ไปกับบ้านหลังเล็กๆ นี้คิดแบบนี้แล้ว ไห่หลิงก็มีความมั่นใจขึ้นส่วนกับข้าวแน่น
ในตอนเที่ยง จ้านหยินก็ไปที่ร้านหนังสือของไห่ถงทันทีเมื่อเขามาถึงร้านหนังสือ ไห่ถงและเซินเสี่ยวจวินเพิ่งทำงานเสร็จและกําลังจะทานข้าวที่สั่งมาจากเดลิเวอรี่ จ้านหยินก็เดินเข้ามาไห่ถงตกใจและจ้องมองเขาเดินเข้ามาอย่างเร็วเหมือนสายฟ้าจ้านหยินเดินตรงเข้ามาหาเธอและก้มศีรษะลงเพื่อถามเธอว่า "ไม่รู้จักกันแล้วหรือครับ?"ไห่ถงตั้งสติได้และยิ้ม "แค่แปลกใจค่ะ คุณมาได้ยังไง? คุณกินข้าวหรือยัง? ถ้ายังไม่ได้กิน ฉันจะสั่งให้คุณเพิ่มค่ะ"เซินเสี่ยวจวินทักทายจ้านหยินและหยิบอาหารจากเดลิเวอรี่ของตัวเองขึ้นมาและซ่อนตัวอยู่หลังชั้นวางหนังสือขนาดใหญ่เพื่อกิน เธอไม่อยากเป็นกว้างขวางคอ"ผมกินแล้ว คุณยังไม่ได้กินอะไรเลยเหรอ?"จ้านหยินยกนาฬิกาข้อมือมามอง นี่เกือบบ่ายโมงแล้ว เขาขมวดคิ้วและพูดกับไห่ถงว่า "กินอาหารให้ตรงเวลา อย่าปล่อยให้หิวจนเจ็บกระเพาะ การรักษามันยุ่งยากมาก"วันนี้เขามีนัดกินข้าว และไปที่โรงแรมเพื่อทานอาหารกับลูกค้าตอน 11.00 น. หลังจากกินเสร็จแล้วเขาก็มาหาไห่ถงถ้ารู้ว่าเธอยังไม่ได้กินข้าวมาถึงตอนนี้ เขาก็คงบอกให้เธอไปงานเลี้ยงกับเขาแล้วเดี๋ยวนะ?ไม่สิ!เขาเข้าร่วมงานเลี้ยงในฐานะประธาน
"ไม่ใช่ว่าจะจ่ายให้เงินดาวน์เท่านั้นเหรอคะ?"ไห่ถงถามเขาด้วยเสียงเบาๆ"รถที่คุณเลือกไม่แพง จ่ายเต็มจำนวนได้เลย"ไห่ถงตอบโอ้และกระซิบว่า "เดี๋ยวฉันโอนเงินให้คุณครึ่งหนึ่งค่ะ"จ้านหยินมองเธอ "ไม่ต้องครับ"ไห่ถงกะพริบตาไม่ต้องเหรอ นี่ก็เหมือนเขาซื้อรถให้เธอใช่ไหม?แม้รถที่เธอเลือกจะไม่แพง แต่ก็ราคาเป็นหลักแสน ถึงจะเป็นสามีภรรยากัน แต่ยังแต่งงานกันไม่นานและยังไม่เข้าใจกัน และทั้งคู่ยังเซ็นสัญญาด้วยว่าอีกครึ่งปีก็จะแยกทางกันแต่จู่ๆ เขาก็มอบรถยนต์มูลค่ากว่า 500,000 กว่าบาทให้เธอเปล่าๆ ทำให้ไห่ถงรู้สึกร้อนใจมาก อดไม่ได้ที่จะดึงเขาออกจากร้านขายรถและถามเขาข้างนอกว่า "คุณจ้านคะ คุณบอกฉันได้ไหมว่าทำไมจู่ๆ ก็ซื้อให้รถฉัน ถ้าคุณไม่อธิบายให้ชัดเจน ฉันไม่สามารถใช้มันอย่างสบายใจได้ กลัวว่าตัวเองจะเป็นหนี้บุญคุณ"หนี้บุญคุณจ่ายคืนยากที่สุดแล้วจ้านหยินมองเธอหลังจากนั้นไม่นานเขาก็มองไปทางอื่น และไห่ถงสังเกตเห็นว่าใบหน้าที่หล่อเหลาของเขานั้นแดงเล็กน้อยเธอ ".....""เมื่อคืน ผมเข้าใจคุณผิด..."ไห่ถงเข้าใจทันทีว่า "คุณคิดว่าเข้าใจฉันผิดเลยขอโทษฉัน แล้วจู่ๆ ก็ให้รถฉันคันหนึ่งแทนคำขอโทษเหรอ?
เซินเสี่ยวจวินภูมิใจมาก เดินไปรอบๆ รถคันใหม่ของเธอและชมว่า "ไม่เลวนี่ ราคาเท่าไร?""ห้าแสนกว่า""จ่ายเต็มหรือดาวน์""คนนั้นเขาออกเงินให้ฉันเต็มจำนวน"เซินเสี่ยวจวินยิ้มแล้วตบไหล่เพื่อนว่า "ไห่ถง ไม่เลวเลยนะ เอาชนะหัวใจคุณจ้านได้เร็วขนาดนี้ เขาให้รถเธอคันหนึ่งอย่างใจกว้างมาก""ฉันรู้ว่าแม้เธอจะแต่งงานแบบสายฟ้าแลบ ก็สามารถเอาชนะหัวใจของอีกฝ่ายได้อย่างรวดเร็ว ถงถงของเราเก่งขนาดนี้ ถ้าคุณจ้านไม่สะทกสะท้าน เขาคงจะตาบอดแล้ว"ในสายตาของเซินเสี่ยวจวิน เพื่อนของเธอดีที่สุดเมื่อเข้าไปในร้าน ไห่ถงเทน้ำให้ตัวเองหนึ่งแก้ว หลังจากดื่มน้ำไปครึ่งแก้วแล้วจึงพูดว่า "เธอคิดมากไปแล้ว เมื่อคืนฉันให้เหนียนเซียงมาส่งฉันกลับบ้าน พอเขารู้ก็เข้าใจผิดว่าฉันสวมเขาให้เขา เราเกือบจะทะเลาะกันแล้ว""หลังจากอธิบายชัดเจนแล้ว เขารู้ว่าเข้าใจฉันผิด จึงให้รถเป็นการขอโทษฉัน"เซินเสี่ยวจวิน “......”เธอจินตนาการเรื่องราวที่หวือหวาเป็นหมื่นคํา แต่ใครจะรู้ว่าความจริงจะดับฝันเธอ"เสี่ยวจวิน พวกเราสนิทกันมาก เรื่องของฉันกับจ้านหยินก็บอกความจริงกับเธอแล้ว แม้แต่กับพี่สาวก็ไม่ได้บอก ฉันไม่ปิดบังเธอว่าหลังจากพบกับญาติข
จ้านหยินกลับรู้สึกเหมือนถูกตบหน้ามาตลอดทั้งบ่ายเขาทําหน้าบึ้ง ทําให้ทุกคนในจ้านซื่อกรุ๊ปต่างหวาดกลัว ไม่รู้ว่าใครกล้าทำให้หน้าประธานหงิกแบบนี้ปกติแล้วเขาจะจริงจังและเย็นชา แต่เมื่อเขาโมโหอย่างเห็นได้ชัดมันก็ยิ่งน่ากลัวยิ่งขึ้นไปอีกแม้แต่จ้านอี้เฉินและซูหนานก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะไม่ปรากฏตัวต่อหน้าจ้านหยินถึงจ้านหยินจะหัวใจขุ่นมัว แต่เขาก็ยังรักษาสัญญา หลังจากเลิกงานช่วงบ่ายเขาก็ไปร้านหนังสือเพื่อรอไห่ถงตามปกติไห่ถงกําลังยุ่งอยู่ เขาก็เข้าไปในร้านเพื่อช่วยเธอแต่เขาจริงจังเกินไป ไม่ค่อยพูด และเย็นชาแบบขั้นสุด เขายืนอยู่ที่แคชเชียร์เพื่อช่วยเก็บเงิน แต่ไม่มีนักเรียนคนใดกล้าขอให้เขาคิดเงิน ทุกคนไปหาไห่ถงและเซินเสี่ยวจวินไห่ถงพูดกับเขาว่า "คุณจ้าน มาฉันคิดเงินเองค่ะ"จ้านหยินมองไห่ถงด้วยสายตายากเกินจะคาดเดาได้ หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็ยืนขึ้นด้วยใบหน้าหล่อ เดินไปรอบ ๆ เคาน์เตอร์ชำระเงิน และเดินไปที่ประตูร้านหนังสือและหยุดลง เขาดูเหมือนรูปปั้นน้ำแข็ง ซึ่งมีกลิ่นอายแผ่กระจายทั่วทั้งร่างกายซึ่งเป็นรัศมีแห่งการกันคนแปลกหน้าออกไปคราวนี้ไม่ใช่แค่ไม่มีใครคิดเงินกับเขา แต่ไม่มีใ
หลังจากไห่ถงจอดรถใหม่เสร็จและขึ้นรถของจ้านหยินแล้ว ความอบอุ่นของจ้านหยินก็เพิ่มขึ้นมาก เขาถามเธอว่า "ผมไปทานข้าวที่บ้านพี่สาวเป็นครั้งแรก ควรซื้ออะไรไปบ้าง พี่สาวและพี่เขยของคุณชอบอะไรครับ?"ไห่ถงคาดเข็มขัดนิรภัย "ซื้อของเล่นให้หยางหยางชิ้นหนึ่ง พี่เขยชอบสูบบุหรี่ ซื้อบุหรี่ให้เขาสองซอง แล้วซื้อผลไม้ก็พอแล้วค่ะ"จ้านหยินตอบกลับแค่อืมรถขับออกจากหมิงหยวนฮวา การ์เด้น เขาถามภรรยาอีกว่า "จะซื้อของที่ไหน?""แถวๆ นี้มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง จอดรถที่นั่นกัน พวกเราเข้าไปเดินก็สามารถซื้อของที่ต้องการได้ คุณจ้านก่อนที่ฉันจะย้ายเข้ามา คุณไม่เคยอาศัยอยู่ที่บ้านนั้นใช่ไหมคะ? ฉันเห็นว่าคุณไม่คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมโดยรอบเลยค่ะ"จ้านหยินเงียบก่อนพูดว่า "ผมซื้อบ้านหลังนี้มานานแล้ว แต่ปล่อยไว้ให้อากาศถ่ายเท ดังนั้นผมจึงไม่เคยอาศัยอยู่ที่นี่มาก่อน แต่ไปอาศัยอยู่กับพ่อแม่ หลังจากเราจดทะเบียนกันแล้ว ไม่อยากอยู่บ้านกับพ่อแม่และพี่น้องของผมอีก จึงย้ายเข้ามาอยู่เอง""บ้านของคุณใหญ่ไหมคะ?"จ้านหยินไม่ค่อยพูดถึงสถานการณ์ครอบครัวของเขามาก่อน ไห่ถงจึงไม่สนใจในตอนแรก แต่สังเกตเห็นถึงความเข้าใจผิดและ