เซินเสี่ยวจวินภูมิใจมาก เดินไปรอบๆ รถคันใหม่ของเธอและชมว่า "ไม่เลวนี่ ราคาเท่าไร?""ห้าแสนกว่า""จ่ายเต็มหรือดาวน์""คนนั้นเขาออกเงินให้ฉันเต็มจำนวน"เซินเสี่ยวจวินยิ้มแล้วตบไหล่เพื่อนว่า "ไห่ถง ไม่เลวเลยนะ เอาชนะหัวใจคุณจ้านได้เร็วขนาดนี้ เขาให้รถเธอคันหนึ่งอย่างใจกว้างมาก""ฉันรู้ว่าแม้เธอจะแต่งงานแบบสายฟ้าแลบ ก็สามารถเอาชนะหัวใจของอีกฝ่ายได้อย่างรวดเร็ว ถงถงของเราเก่งขนาดนี้ ถ้าคุณจ้านไม่สะทกสะท้าน เขาคงจะตาบอดแล้ว"ในสายตาของเซินเสี่ยวจวิน เพื่อนของเธอดีที่สุดเมื่อเข้าไปในร้าน ไห่ถงเทน้ำให้ตัวเองหนึ่งแก้ว หลังจากดื่มน้ำไปครึ่งแก้วแล้วจึงพูดว่า "เธอคิดมากไปแล้ว เมื่อคืนฉันให้เหนียนเซียงมาส่งฉันกลับบ้าน พอเขารู้ก็เข้าใจผิดว่าฉันสวมเขาให้เขา เราเกือบจะทะเลาะกันแล้ว""หลังจากอธิบายชัดเจนแล้ว เขารู้ว่าเข้าใจฉันผิด จึงให้รถเป็นการขอโทษฉัน"เซินเสี่ยวจวิน “......”เธอจินตนาการเรื่องราวที่หวือหวาเป็นหมื่นคํา แต่ใครจะรู้ว่าความจริงจะดับฝันเธอ"เสี่ยวจวิน พวกเราสนิทกันมาก เรื่องของฉันกับจ้านหยินก็บอกความจริงกับเธอแล้ว แม้แต่กับพี่สาวก็ไม่ได้บอก ฉันไม่ปิดบังเธอว่าหลังจากพบกับญาติข
จ้านหยินกลับรู้สึกเหมือนถูกตบหน้ามาตลอดทั้งบ่ายเขาทําหน้าบึ้ง ทําให้ทุกคนในจ้านซื่อกรุ๊ปต่างหวาดกลัว ไม่รู้ว่าใครกล้าทำให้หน้าประธานหงิกแบบนี้ปกติแล้วเขาจะจริงจังและเย็นชา แต่เมื่อเขาโมโหอย่างเห็นได้ชัดมันก็ยิ่งน่ากลัวยิ่งขึ้นไปอีกแม้แต่จ้านอี้เฉินและซูหนานก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะไม่ปรากฏตัวต่อหน้าจ้านหยินถึงจ้านหยินจะหัวใจขุ่นมัว แต่เขาก็ยังรักษาสัญญา หลังจากเลิกงานช่วงบ่ายเขาก็ไปร้านหนังสือเพื่อรอไห่ถงตามปกติไห่ถงกําลังยุ่งอยู่ เขาก็เข้าไปในร้านเพื่อช่วยเธอแต่เขาจริงจังเกินไป ไม่ค่อยพูด และเย็นชาแบบขั้นสุด เขายืนอยู่ที่แคชเชียร์เพื่อช่วยเก็บเงิน แต่ไม่มีนักเรียนคนใดกล้าขอให้เขาคิดเงิน ทุกคนไปหาไห่ถงและเซินเสี่ยวจวินไห่ถงพูดกับเขาว่า "คุณจ้าน มาฉันคิดเงินเองค่ะ"จ้านหยินมองไห่ถงด้วยสายตายากเกินจะคาดเดาได้ หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็ยืนขึ้นด้วยใบหน้าหล่อ เดินไปรอบ ๆ เคาน์เตอร์ชำระเงิน และเดินไปที่ประตูร้านหนังสือและหยุดลง เขาดูเหมือนรูปปั้นน้ำแข็ง ซึ่งมีกลิ่นอายแผ่กระจายทั่วทั้งร่างกายซึ่งเป็นรัศมีแห่งการกันคนแปลกหน้าออกไปคราวนี้ไม่ใช่แค่ไม่มีใครคิดเงินกับเขา แต่ไม่มีใ
หลังจากไห่ถงจอดรถใหม่เสร็จและขึ้นรถของจ้านหยินแล้ว ความอบอุ่นของจ้านหยินก็เพิ่มขึ้นมาก เขาถามเธอว่า "ผมไปทานข้าวที่บ้านพี่สาวเป็นครั้งแรก ควรซื้ออะไรไปบ้าง พี่สาวและพี่เขยของคุณชอบอะไรครับ?"ไห่ถงคาดเข็มขัดนิรภัย "ซื้อของเล่นให้หยางหยางชิ้นหนึ่ง พี่เขยชอบสูบบุหรี่ ซื้อบุหรี่ให้เขาสองซอง แล้วซื้อผลไม้ก็พอแล้วค่ะ"จ้านหยินตอบกลับแค่อืมรถขับออกจากหมิงหยวนฮวา การ์เด้น เขาถามภรรยาอีกว่า "จะซื้อของที่ไหน?""แถวๆ นี้มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง จอดรถที่นั่นกัน พวกเราเข้าไปเดินก็สามารถซื้อของที่ต้องการได้ คุณจ้านก่อนที่ฉันจะย้ายเข้ามา คุณไม่เคยอาศัยอยู่ที่บ้านนั้นใช่ไหมคะ? ฉันเห็นว่าคุณไม่คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมโดยรอบเลยค่ะ"จ้านหยินเงียบก่อนพูดว่า "ผมซื้อบ้านหลังนี้มานานแล้ว แต่ปล่อยไว้ให้อากาศถ่ายเท ดังนั้นผมจึงไม่เคยอาศัยอยู่ที่นี่มาก่อน แต่ไปอาศัยอยู่กับพ่อแม่ หลังจากเราจดทะเบียนกันแล้ว ไม่อยากอยู่บ้านกับพ่อแม่และพี่น้องของผมอีก จึงย้ายเข้ามาอยู่เอง""บ้านของคุณใหญ่ไหมคะ?"จ้านหยินไม่ค่อยพูดถึงสถานการณ์ครอบครัวของเขามาก่อน ไห่ถงจึงไม่สนใจในตอนแรก แต่สังเกตเห็นถึงความเข้าใจผิดและ
"ทำไมไม่รับสายครับ?"หลังจากจ้านหยินวางของไว้ในรถแล้ว ก็เห็นภรรยาจ้องมองโทรศัพท์และพูดพึมพำ"อาจเป็นพวกญาติบ้าๆ ของฉันน่ะค่ะ""รับสายก็รู้แล้วว่าเป็นใคร ทหารมาก็ยกทัพสู้ น้ำมาเอาดินกั้น ยังไงก็รับมือได้มีผมอยู่นะ"มีเขาอยู่ แม้ฟ้าถล่ม เขาก็สามารถช่วยเธอได้ประโยคหนึ่งว่า "มีผมอยู่" ทําให้ไห่ถงเกิดความอบอุ่นในใจทันที แม้ว่าชายคนนี้จะมีข้อบกพร่องมากมาย แต่เธอก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบ พวกเขาอยู่ในครอบครัวที่แต่งงานสายฟ้าแลบ ตอนนี้เขาก็ทำได้ดีมากแล้วเธอเพิ่มคะแนนให้กับจ้านหยินในใจของเธอและรับสายเรียกเข้าที่ไม่คุ้นเคย"ไห่ถง ปู่เอง"เสียงแปลกๆ ที่ไม่คุ้นเคยยังคงเต็มไปด้วยพลัง แม้ว่าไห่ถงจะไม่ได้ติดต่อกับคนในบ้านเกิดมาเป็นเวลานาน แต่ก็บอกได้ทันทีว่านี่เป็นเสียงของปู่ไห่ถงก็แค่รับคำไม่พูดอะไร รอให้ปู่พูดมา"ตอนเช้าพี่ชายแกโทรมาบอกว่าย่าป่วยและจะมาพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลในตัวเมืองไม่ใช่หรือ? ให้แกช่วยไปเอาคิวหาหมอมา พวกเราเลยรีบมาจากบ้านนอก ยังเข้าโรงพยาบาลไม่ได้ ยังต้องตรวจอีกครั้ง บอกว่าวินิจฉัยแล้วถึงจะนอนที่โรงพยาบาลได้""ตอนนี้แกกับพี่สาวอาศัยอยู่ที่ไหน พวกเราไปบ้านที่พวกแกเคยอยู่ แ
ไห่ถงรู้ดีว่าญาติเธอจากชนบทนั้นจะไม่ยอมแพ้ พอคิดถึงว่าเขาไม่รู้ว่าพวกเธอสองพี่น้องอาศัยอยู่ที่ไหน ในเมืองใหญ่ขนาดนี้คงเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะตามหาสองพี่น้อง หลังจากโกรธไปครั้งหนึ่งแล้ว จึงไม่อยากสนใจมันอีก เพื่อไม่ให้กระทบต่ออารมณ์ในการไปกินข้าวเย็นบ้านพี่สาวบทสนทนาระหว่างปู่และหลาน จ้านหยินฟังด้วยหูและเก็บไว้ในใจเขาให้ซูหนานช่วยตรวจสอบข้อมูลของทุกคนในตระกูลไห่แล้ว และเชื่อว่าจะรู้เรื่องในภายหลังทั้งคู่มาถึงชั้นล่างของบ้านไห่หลิงและบังเอิญเห็นไห่หลิงลงไปทิ้งขยะที่ชั้นล่าง"พี่คะ"ไห่ถงมีความสุขมากที่ได้พบพี่สาวของเธอ และเดินไปหาพี่สาวก่อน"ถงถง พวกเธอมาแล้ว"ท่าทางเหนื่อยล้าของไห่หลิงหายไป เมื่อเห็นน้องสาวและสามีของเธอ เธอเห็นจ้านหยินลงจากรถพร้อมถุงใบใหญ่และใบเล็ก เธอก็บ่นกับน้องสาวว่า "ไม่ใช่ว่าเราเป็นคนนอก ฉันขอให้คุณมาทานอาหารเย็น แล้วซื้ออะไรมามากมาย เสียเงินไปเยอะเลย”"พี่ ผลไม้นิดหน่อยเท่านั้นเองครับ"จ้านหยินเรียกพี่สาวอย่างสนิทสนม ไห่หลิงยิ่งดูน้องเขยคนนี้ยิ่งชอบ เขาเป็นคนซื่อสัตย์และใจดี แม้ว่าจะไม่มาก แต่ก็มีน้ำใจกับน้องสาวของเธอถ้าไห่ถงรู้ว่าพี่สาวประเมิ
ลูกชายคนเล็กขอพี่สะใภ้โจวเดินตามหลังมาและร้องไห้ "จะเอาเครื่องบินในมือของหยางหยาง"โจวหยางรีบซ่อนเครื่องบินของเล่นของเขาไปข้างหน้าทันที และยังหันหน้ามองลูกพี่ลูกน้องอย่างประหม่า ร้องเรียกว่า "แม่อุ้ม แม่อุ้ม"ไห่หลิงอุ้มลูกชายขึ้น"ไห่หลิง ให้หยางหยางเอาเครื่องบินมาให้เสี่ยวเป่าเล่นก่อน เสี่ยวเป่ามาที่นี่ในฐานะแขกนะ หยางหยางควรให้เสี่ยวเป่าเล่นก่อน"พี่สะใภ้โจวเดินเข้ามา ช่วยเช็ดน้ำตาให้ลูกชายคนเล็กก่อน แล้วลุกขึ้นเอื้อมมือไปแย่งเครื่องบินของเล่นจากโจวหยาง แต่โจวหยางกลับไม่ยอมปล่อยมือ พี่สะใภ้โจวยังออกแรงแย่งมา เมื่อเหลือบไปเห็นไห่ถงและสามี และจ้านหยินก็ยังถือถุงใบเล็กใบใหญ่ไว้ในมืออีก เธอรับชักมือกลับทันทีเธอยิ้มและทักทายไห่ถง "ไห่ถงไม่ได้เจอกันนานเลย นี่คือสามีของเธอเหรอ? หล่อและสง่างามจริงๆ"เขาไม่เพียงแต่หล่อเท่านั้น แต่นิสัยและพฤติกรรมของเขายังดีกว่าน้องชายที่เป็นผู้จัดการในบริษัทใหญ่หลายขุมพี่สะใภ้โจวแอบอิจฉาไห่ถงในใจ"พี่โจว ไม่ได้เจอกันนานเลย คนนี้คือสามีของฉันค่ะ แซ่จ้าน"พี่สะใภ้โจวกำลังยุ่งอยู่กับการทักทายจ้านหยินจ้านหยินพยักหน้าเบาๆ ไม่พูดอะไรและท่าทางดูเย็นชาม
จ้านหยินค่อนข้างรักความสะอาด คิดว่าเด็กเล็กมือสกปรกและทําให้ของเล่นใหม่สกปรก ก่อนที่จะมอบของเล่นใหม่ให้อีกฝ่ายอย่างใจกว้างเด็กสองคนเลิกทะเลาะกันแล้ว บรรยากาศของผู้ใหญ่ก็ผ่อนคลายลงเช่นกันแม้ว่าจ้านหยินจะไม่พูดอะไร แต่แววตาและสีหน้าของเขาทำให้ตระกูลโจวรู้ว่าสามีของไห่ถงไม่ควรล้อเล่นด้วยแม่โจวรู้สึกว่าไห่ถงไม่ใช่คนง่ายๆ มาตั้งแต่แรก และตอนนี้เธอก็ได้พบผู้ชายที่ไม่ควรไปหาเรื่องด้วย เธอรู้ว่าลูกสะใภ้ของเธอและไห่ถงมีความรักอย่างลึกซึ้ง และเธอก็รู้ถึงพฤติกรรมของลูกชายเธอด้วยเธอต้องหาโอกาสเตือนลูกชายของเธอว่าอย่าทำอะไรจนเกินไป ถึงแม้ว่าไห่หลิงจะต้องดูแลลูกตลอดเวลาและไม่สามารถหาเงินได้ แต่เธอก็ให้กำเนิดหลานชายคนโตของตระกูลโจว ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ โดยปราศจากความพยายาม ดังนั้นไห่หลิงจึงต้องไว้หน้าบ้างโจวหงหลินกลับบ้านมาอย่างรวดเร็วหลังจากที่เขากลับมาก็นั่งพักสักครู่หนึ่ง แล้วไห่หลิงก็เรียกทุกคนไปเพื่อทานอาหารไห่ถงเดินตามพี่สาวเข้าไปในครัวเพื่อเสิร์ฟอาหาร เมื่อเธอเห็นอาหารทะเลหลายชนิด เธอจึงกระซิบกับพี่สาวว่า "พี่ จ้านหยิน และฉันไม่ใช่คนนอก เรามากินข้าวที่บ้าน ไม่จำเป็นต้องซื้ออาหารทะ
“ไห่หลิง หงหลินต้องไปทำงานทุกวัน เขายุ่งและเหนื่อยกับงาน เขาหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว ทั้งเลี้ยงเธอและหยางหยาง เธอเป็นภรรยาของเขาและควรดูแลเขาให้ดี จะให้หงหลินทำงานบ้านได้อย่างไร?"“หงหลินบอกจะใช้ระบบหารครึ่งกับเธอเพียงเพราะเขาไม่อยากให้เธอใช้เงินฟุ่มเฟือยแค่นั้นเอง สามีภรรยาจะอยู่ด้วยกันด้วยจะคิดเล็กคิดน้อยแบบนี้ได้ยังไง? รีบไปทำความสะอาดโต๊ะและอย่าทำให้หงหลินโกรธ เขาเหนื่อยมากพอกับทำงานข้างนอกแล้ว เธอต้องมีน้ำใจและเกรงใจเขาบ้างนะ”พี่โจวคล้อยตามคําพูดของแม่เธอว่า "ก็คือเธอไม่ได้ไปทํางาน แค่อยู่บ้านดูแลหยางหยาง ค่ากิน ค่าเสื้อผ้า ค่าบ้านล้วนเป็นเงินของหงหลิน คุณยังคิดจะให้หงหลินทํางานบ้านอีกเหรอ?"ไห่หลิงออกมาจากห้องครัว เดินไปที่มอเตอร์ไซค์ของเล่นเด็กและอุ้มลูกชายขึ้นมา พูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ว่า "ฉันไม่มีงานทํา ไม่มีรายได้ เลี้ยงลูกอยู่บ้าน อาศัยหงหลินหาเลี้ยง แต่เขากลับต้องการใช้ระบบ หารครึ่งกับฉัน นี่หมายความว่าอะไรคะ?""ได้ค่ะ งั้นจะเอาระบบหารครึ่ง ก็เอาระบบหารครึ่งไม่ว่าจะเป็นของใช้ในบ้านหรืองานบ้าน ก็ต้องใช้ระบบ หารครึ่ง ต่างคนต่างทําของตัวเอง พวกคุณบอกว่าฉันอยู่บ้านเลี้ยงลูกมั