แม่บอกว่าไห่หลิงเรียนมาสูง แต่ตอนนี้มีประโยชน์อะไร? เธอทำงานหาเงินก็ไม่ได้ผู้หญิงที่สามารถดูแลครอบครัวและหาเงินได้ ถึงจะสามารถช่วยเขาได้ที่สำคัญคือไห่หลิงไม่รู้วิธีดูแลตัวเอง เธอเคยสวยและนิสัยดี แต่ตอนนี้เธออ้วนเหมือนหมู แต่งตัวก็ไม่เป็น เธอแตกต่างจากก่อนแต่งงานอย่างสิ้นเชิง เขาไม่กล้าแม้แต่จะพาไห่หลิงไปออกงานด้วยกัน กลัวเพื่อนร่วมงานและลูกค้าจะหัวเราะเยาะเมื่อเทียบกับเย่เจียนีแล้ว ทั้งสองคนแตกต่างราวกับฟ้ากับดินไห่หลิงโกรธมากกับคำพูดของสามีเธอจึงวางสายไปเธอไม่ได้บอกเขาด้วยซ้ำว่าเธอชวนน้องสาวและสามีมาทานอาหารตอนเย็นถ้าพ่อแม่สามีและพี่สะใภ้มา เธอก็ชวนน้องสาวกับสามีมาเหมือนกัน คาดว่าหลังจากครอบครัวของสามีจากไป เธอกับโจวหงหลินต้องทะเลาะกันอีกครอบครัวสามีสามารถมาทานข้าวได้ ทําไมน้องสาวของเธอมาไม่ได้ นี่มันยุติธรรมตรงไหน?บ้านนี้เธอก็มีกรรมสิทธิ์เหมือนกันแม้ว่าเงินดาวน์บ้านและจํานองจะออกโดยโจวหงหลิน แต่ค่าตกแต่งบ้านและเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดก็เป็นเงินของเธอ และเงินออมทั้งหมดก่อนแต่งงานของเธอถูกใช้ไปกับบ้านหลังเล็กๆ นี้คิดแบบนี้แล้ว ไห่หลิงก็มีความมั่นใจขึ้นส่วนกับข้าวแน่น
ในตอนเที่ยง จ้านหยินก็ไปที่ร้านหนังสือของไห่ถงทันทีเมื่อเขามาถึงร้านหนังสือ ไห่ถงและเซินเสี่ยวจวินเพิ่งทำงานเสร็จและกําลังจะทานข้าวที่สั่งมาจากเดลิเวอรี่ จ้านหยินก็เดินเข้ามาไห่ถงตกใจและจ้องมองเขาเดินเข้ามาอย่างเร็วเหมือนสายฟ้าจ้านหยินเดินตรงเข้ามาหาเธอและก้มศีรษะลงเพื่อถามเธอว่า "ไม่รู้จักกันแล้วหรือครับ?"ไห่ถงตั้งสติได้และยิ้ม "แค่แปลกใจค่ะ คุณมาได้ยังไง? คุณกินข้าวหรือยัง? ถ้ายังไม่ได้กิน ฉันจะสั่งให้คุณเพิ่มค่ะ"เซินเสี่ยวจวินทักทายจ้านหยินและหยิบอาหารจากเดลิเวอรี่ของตัวเองขึ้นมาและซ่อนตัวอยู่หลังชั้นวางหนังสือขนาดใหญ่เพื่อกิน เธอไม่อยากเป็นกว้างขวางคอ"ผมกินแล้ว คุณยังไม่ได้กินอะไรเลยเหรอ?"จ้านหยินยกนาฬิกาข้อมือมามอง นี่เกือบบ่ายโมงแล้ว เขาขมวดคิ้วและพูดกับไห่ถงว่า "กินอาหารให้ตรงเวลา อย่าปล่อยให้หิวจนเจ็บกระเพาะ การรักษามันยุ่งยากมาก"วันนี้เขามีนัดกินข้าว และไปที่โรงแรมเพื่อทานอาหารกับลูกค้าตอน 11.00 น. หลังจากกินเสร็จแล้วเขาก็มาหาไห่ถงถ้ารู้ว่าเธอยังไม่ได้กินข้าวมาถึงตอนนี้ เขาก็คงบอกให้เธอไปงานเลี้ยงกับเขาแล้วเดี๋ยวนะ?ไม่สิ!เขาเข้าร่วมงานเลี้ยงในฐานะประธาน
"ไม่ใช่ว่าจะจ่ายให้เงินดาวน์เท่านั้นเหรอคะ?"ไห่ถงถามเขาด้วยเสียงเบาๆ"รถที่คุณเลือกไม่แพง จ่ายเต็มจำนวนได้เลย"ไห่ถงตอบโอ้และกระซิบว่า "เดี๋ยวฉันโอนเงินให้คุณครึ่งหนึ่งค่ะ"จ้านหยินมองเธอ "ไม่ต้องครับ"ไห่ถงกะพริบตาไม่ต้องเหรอ นี่ก็เหมือนเขาซื้อรถให้เธอใช่ไหม?แม้รถที่เธอเลือกจะไม่แพง แต่ก็ราคาเป็นหลักแสน ถึงจะเป็นสามีภรรยากัน แต่ยังแต่งงานกันไม่นานและยังไม่เข้าใจกัน และทั้งคู่ยังเซ็นสัญญาด้วยว่าอีกครึ่งปีก็จะแยกทางกันแต่จู่ๆ เขาก็มอบรถยนต์มูลค่ากว่า 500,000 กว่าบาทให้เธอเปล่าๆ ทำให้ไห่ถงรู้สึกร้อนใจมาก อดไม่ได้ที่จะดึงเขาออกจากร้านขายรถและถามเขาข้างนอกว่า "คุณจ้านคะ คุณบอกฉันได้ไหมว่าทำไมจู่ๆ ก็ซื้อให้รถฉัน ถ้าคุณไม่อธิบายให้ชัดเจน ฉันไม่สามารถใช้มันอย่างสบายใจได้ กลัวว่าตัวเองจะเป็นหนี้บุญคุณ"หนี้บุญคุณจ่ายคืนยากที่สุดแล้วจ้านหยินมองเธอหลังจากนั้นไม่นานเขาก็มองไปทางอื่น และไห่ถงสังเกตเห็นว่าใบหน้าที่หล่อเหลาของเขานั้นแดงเล็กน้อยเธอ ".....""เมื่อคืน ผมเข้าใจคุณผิด..."ไห่ถงเข้าใจทันทีว่า "คุณคิดว่าเข้าใจฉันผิดเลยขอโทษฉัน แล้วจู่ๆ ก็ให้รถฉันคันหนึ่งแทนคำขอโทษเหรอ?
เซินเสี่ยวจวินภูมิใจมาก เดินไปรอบๆ รถคันใหม่ของเธอและชมว่า "ไม่เลวนี่ ราคาเท่าไร?""ห้าแสนกว่า""จ่ายเต็มหรือดาวน์""คนนั้นเขาออกเงินให้ฉันเต็มจำนวน"เซินเสี่ยวจวินยิ้มแล้วตบไหล่เพื่อนว่า "ไห่ถง ไม่เลวเลยนะ เอาชนะหัวใจคุณจ้านได้เร็วขนาดนี้ เขาให้รถเธอคันหนึ่งอย่างใจกว้างมาก""ฉันรู้ว่าแม้เธอจะแต่งงานแบบสายฟ้าแลบ ก็สามารถเอาชนะหัวใจของอีกฝ่ายได้อย่างรวดเร็ว ถงถงของเราเก่งขนาดนี้ ถ้าคุณจ้านไม่สะทกสะท้าน เขาคงจะตาบอดแล้ว"ในสายตาของเซินเสี่ยวจวิน เพื่อนของเธอดีที่สุดเมื่อเข้าไปในร้าน ไห่ถงเทน้ำให้ตัวเองหนึ่งแก้ว หลังจากดื่มน้ำไปครึ่งแก้วแล้วจึงพูดว่า "เธอคิดมากไปแล้ว เมื่อคืนฉันให้เหนียนเซียงมาส่งฉันกลับบ้าน พอเขารู้ก็เข้าใจผิดว่าฉันสวมเขาให้เขา เราเกือบจะทะเลาะกันแล้ว""หลังจากอธิบายชัดเจนแล้ว เขารู้ว่าเข้าใจฉันผิด จึงให้รถเป็นการขอโทษฉัน"เซินเสี่ยวจวิน “......”เธอจินตนาการเรื่องราวที่หวือหวาเป็นหมื่นคํา แต่ใครจะรู้ว่าความจริงจะดับฝันเธอ"เสี่ยวจวิน พวกเราสนิทกันมาก เรื่องของฉันกับจ้านหยินก็บอกความจริงกับเธอแล้ว แม้แต่กับพี่สาวก็ไม่ได้บอก ฉันไม่ปิดบังเธอว่าหลังจากพบกับญาติข
จ้านหยินกลับรู้สึกเหมือนถูกตบหน้ามาตลอดทั้งบ่ายเขาทําหน้าบึ้ง ทําให้ทุกคนในจ้านซื่อกรุ๊ปต่างหวาดกลัว ไม่รู้ว่าใครกล้าทำให้หน้าประธานหงิกแบบนี้ปกติแล้วเขาจะจริงจังและเย็นชา แต่เมื่อเขาโมโหอย่างเห็นได้ชัดมันก็ยิ่งน่ากลัวยิ่งขึ้นไปอีกแม้แต่จ้านอี้เฉินและซูหนานก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะไม่ปรากฏตัวต่อหน้าจ้านหยินถึงจ้านหยินจะหัวใจขุ่นมัว แต่เขาก็ยังรักษาสัญญา หลังจากเลิกงานช่วงบ่ายเขาก็ไปร้านหนังสือเพื่อรอไห่ถงตามปกติไห่ถงกําลังยุ่งอยู่ เขาก็เข้าไปในร้านเพื่อช่วยเธอแต่เขาจริงจังเกินไป ไม่ค่อยพูด และเย็นชาแบบขั้นสุด เขายืนอยู่ที่แคชเชียร์เพื่อช่วยเก็บเงิน แต่ไม่มีนักเรียนคนใดกล้าขอให้เขาคิดเงิน ทุกคนไปหาไห่ถงและเซินเสี่ยวจวินไห่ถงพูดกับเขาว่า "คุณจ้าน มาฉันคิดเงินเองค่ะ"จ้านหยินมองไห่ถงด้วยสายตายากเกินจะคาดเดาได้ หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็ยืนขึ้นด้วยใบหน้าหล่อ เดินไปรอบ ๆ เคาน์เตอร์ชำระเงิน และเดินไปที่ประตูร้านหนังสือและหยุดลง เขาดูเหมือนรูปปั้นน้ำแข็ง ซึ่งมีกลิ่นอายแผ่กระจายทั่วทั้งร่างกายซึ่งเป็นรัศมีแห่งการกันคนแปลกหน้าออกไปคราวนี้ไม่ใช่แค่ไม่มีใครคิดเงินกับเขา แต่ไม่มีใ
หลังจากไห่ถงจอดรถใหม่เสร็จและขึ้นรถของจ้านหยินแล้ว ความอบอุ่นของจ้านหยินก็เพิ่มขึ้นมาก เขาถามเธอว่า "ผมไปทานข้าวที่บ้านพี่สาวเป็นครั้งแรก ควรซื้ออะไรไปบ้าง พี่สาวและพี่เขยของคุณชอบอะไรครับ?"ไห่ถงคาดเข็มขัดนิรภัย "ซื้อของเล่นให้หยางหยางชิ้นหนึ่ง พี่เขยชอบสูบบุหรี่ ซื้อบุหรี่ให้เขาสองซอง แล้วซื้อผลไม้ก็พอแล้วค่ะ"จ้านหยินตอบกลับแค่อืมรถขับออกจากหมิงหยวนฮวา การ์เด้น เขาถามภรรยาอีกว่า "จะซื้อของที่ไหน?""แถวๆ นี้มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง จอดรถที่นั่นกัน พวกเราเข้าไปเดินก็สามารถซื้อของที่ต้องการได้ คุณจ้านก่อนที่ฉันจะย้ายเข้ามา คุณไม่เคยอาศัยอยู่ที่บ้านนั้นใช่ไหมคะ? ฉันเห็นว่าคุณไม่คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมโดยรอบเลยค่ะ"จ้านหยินเงียบก่อนพูดว่า "ผมซื้อบ้านหลังนี้มานานแล้ว แต่ปล่อยไว้ให้อากาศถ่ายเท ดังนั้นผมจึงไม่เคยอาศัยอยู่ที่นี่มาก่อน แต่ไปอาศัยอยู่กับพ่อแม่ หลังจากเราจดทะเบียนกันแล้ว ไม่อยากอยู่บ้านกับพ่อแม่และพี่น้องของผมอีก จึงย้ายเข้ามาอยู่เอง""บ้านของคุณใหญ่ไหมคะ?"จ้านหยินไม่ค่อยพูดถึงสถานการณ์ครอบครัวของเขามาก่อน ไห่ถงจึงไม่สนใจในตอนแรก แต่สังเกตเห็นถึงความเข้าใจผิดและ
"ทำไมไม่รับสายครับ?"หลังจากจ้านหยินวางของไว้ในรถแล้ว ก็เห็นภรรยาจ้องมองโทรศัพท์และพูดพึมพำ"อาจเป็นพวกญาติบ้าๆ ของฉันน่ะค่ะ""รับสายก็รู้แล้วว่าเป็นใคร ทหารมาก็ยกทัพสู้ น้ำมาเอาดินกั้น ยังไงก็รับมือได้มีผมอยู่นะ"มีเขาอยู่ แม้ฟ้าถล่ม เขาก็สามารถช่วยเธอได้ประโยคหนึ่งว่า "มีผมอยู่" ทําให้ไห่ถงเกิดความอบอุ่นในใจทันที แม้ว่าชายคนนี้จะมีข้อบกพร่องมากมาย แต่เธอก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบ พวกเขาอยู่ในครอบครัวที่แต่งงานสายฟ้าแลบ ตอนนี้เขาก็ทำได้ดีมากแล้วเธอเพิ่มคะแนนให้กับจ้านหยินในใจของเธอและรับสายเรียกเข้าที่ไม่คุ้นเคย"ไห่ถง ปู่เอง"เสียงแปลกๆ ที่ไม่คุ้นเคยยังคงเต็มไปด้วยพลัง แม้ว่าไห่ถงจะไม่ได้ติดต่อกับคนในบ้านเกิดมาเป็นเวลานาน แต่ก็บอกได้ทันทีว่านี่เป็นเสียงของปู่ไห่ถงก็แค่รับคำไม่พูดอะไร รอให้ปู่พูดมา"ตอนเช้าพี่ชายแกโทรมาบอกว่าย่าป่วยและจะมาพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลในตัวเมืองไม่ใช่หรือ? ให้แกช่วยไปเอาคิวหาหมอมา พวกเราเลยรีบมาจากบ้านนอก ยังเข้าโรงพยาบาลไม่ได้ ยังต้องตรวจอีกครั้ง บอกว่าวินิจฉัยแล้วถึงจะนอนที่โรงพยาบาลได้""ตอนนี้แกกับพี่สาวอาศัยอยู่ที่ไหน พวกเราไปบ้านที่พวกแกเคยอยู่ แ
ไห่ถงรู้ดีว่าญาติเธอจากชนบทนั้นจะไม่ยอมแพ้ พอคิดถึงว่าเขาไม่รู้ว่าพวกเธอสองพี่น้องอาศัยอยู่ที่ไหน ในเมืองใหญ่ขนาดนี้คงเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะตามหาสองพี่น้อง หลังจากโกรธไปครั้งหนึ่งแล้ว จึงไม่อยากสนใจมันอีก เพื่อไม่ให้กระทบต่ออารมณ์ในการไปกินข้าวเย็นบ้านพี่สาวบทสนทนาระหว่างปู่และหลาน จ้านหยินฟังด้วยหูและเก็บไว้ในใจเขาให้ซูหนานช่วยตรวจสอบข้อมูลของทุกคนในตระกูลไห่แล้ว และเชื่อว่าจะรู้เรื่องในภายหลังทั้งคู่มาถึงชั้นล่างของบ้านไห่หลิงและบังเอิญเห็นไห่หลิงลงไปทิ้งขยะที่ชั้นล่าง"พี่คะ"ไห่ถงมีความสุขมากที่ได้พบพี่สาวของเธอ และเดินไปหาพี่สาวก่อน"ถงถง พวกเธอมาแล้ว"ท่าทางเหนื่อยล้าของไห่หลิงหายไป เมื่อเห็นน้องสาวและสามีของเธอ เธอเห็นจ้านหยินลงจากรถพร้อมถุงใบใหญ่และใบเล็ก เธอก็บ่นกับน้องสาวว่า "ไม่ใช่ว่าเราเป็นคนนอก ฉันขอให้คุณมาทานอาหารเย็น แล้วซื้ออะไรมามากมาย เสียเงินไปเยอะเลย”"พี่ ผลไม้นิดหน่อยเท่านั้นเองครับ"จ้านหยินเรียกพี่สาวอย่างสนิทสนม ไห่หลิงยิ่งดูน้องเขยคนนี้ยิ่งชอบ เขาเป็นคนซื่อสัตย์และใจดี แม้ว่าจะไม่มาก แต่ก็มีน้ำใจกับน้องสาวของเธอถ้าไห่ถงรู้ว่าพี่สาวประเมิ