โทรศัพท์ตกอยู่บนเตียงเธอรอจนผล็อยหลับไปก่อนหัวใจของจ้านหยินที่เต็มไปด้วยความสุข กลับแตกสลายเขาเอาแหวนเพชรสองวงที่ซื้อมาจากคุณยายของเขา ซึ่งเขาวางแผนจะใส่ให้กับไห่ถงคืนนี้ แต่เธอก็ผล็อยหลับไปจ้านหยินนั่งอยู่บนขอบเตียงและเอื้อมมือไปแตะใบหน้าของไห่ถงเบาๆ “เจ้าอ้วนนอนหลับสบายจริงๆ นะ”หลังจากแตะหน้าเธอแล้ว เขาก็ก้มลงจูบหน้าไห่ถง จากนั้นจิ้มไปที่ฝีปากของเธอก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์มาวางบนโต๊ะข้างเตียงแม้ว่าภรรยาจะหลับรอเขาอยู่ แต่อย่างน้อยเธอก็อยู่ในห้องของเขามันทำให้หัวใจของจ้านหยินอุ่นใจหน่อยวันรุ่งขึ้นตอนที่ไห่ถงตื่นขึ้นมา เธอก็ประหลาดใจกับช่อดอกไม้ขนาดใหญ่เบื้องหลังช่อดอกไม้นั้นคือใบหน้าที่หล่อเหลาของจ้านหยินเธอกระพริบตาเธอนั่งขึ้นและยิ้ม เพื่อยืนยันว่าตัวเองตื่นแล้วจริงๆ พร้อมกับเห็นจ้านหยินตัวจริง "คุณกลับมาแล้วเหรอ?”"ภรรรยา อรุณสวัสดิ์"อรุณสวัสดิ์?“คุณทำงานโอทีจนถึงเช้า?”“ไม่ ฉันกลับมาเมื่อคืนนี้ แต่มีคนสัญญาว่าจะรอฉันกลับมา สุดท้ายก็กลับไปก่อน”ไห่ถงยิ้มออกมาอย่างเขิลๆ และเอื้อมมือไปหยิบช่อดอกไม้ที่สดใสและสวยงาม “ร้านดอกไม้เปิดเร็วขนาดนั้นเลยเหรอ?”“ฉันซื้
"ถงถง"เมื่อไห่ตงช่วยเขาใส่แหวนเพชรแล้ว จ้านหยินก็พูดอย่างใจเย็นว่า "ในอนาคต ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกเราจะไม่พูดถึงการเลิกราหรือการหย่าโอเคไหม?"ไห่ตงรู้สึกว่าแหวนทั้งสองวงเหมาะมากสำหรับสามีและภรรยา ส่วนของเธอที่จะสวมใส่อยู่นั้น ก็สามารถชมเชยยกย่องรสนิยมของเขาอยู่ในใจ เขาไม่ได้พาเธอไปเลือก แต่เขาสามารถเลือกอันที่เหมาะกับเธอได้หลังจากฟังคำพูดของเขาแล้ว เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาแล้วพูดว่า "ฉันไม่เห็นด้วยกับคำขอของคุณค่ะ หากคุณเป็นเหมือนคนชั่วของไอ้เลวโจวนั่น ฉันห้ามพูดถึงเรื่องหย่า? ผู้ชายที่นอกใจ กลับมีชีวิตที่สบายดี แต่ก็เป็นพวกคนน่ารังเกียจ”เดิมทีจ้านหยินตั้งใจจะให้สัญญากับเธอก่อน และในอนาคตเมื่อเขาสารภาพตัวตนของเขา เธอก็จะไม่ทิ้งเขาไปไม่ได้คาดหวังว่าเธอจะไม่ตกหลุมพลางในช่วงเวลาอันอบอุ่นเช่นนี้ จิตใจของเธอยังคงแจ่มใสเหมือนกันสมควรได้เป็นผู้หญิงที่จ้านหยินตกหลุมรักอย่างแท้จริง“ดังนั้น ตราบใดที่ฉันไม่นอกใจ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คุณไม่สามารถหย่าฉันได้ พวกเราจะแต่งงานกันไปแบบนี้ตลอดชีวิต”จ้านหยินไม่นอกใจอย่างแน่นอนเขาเป็นผู้ชายที่มีนิสัยหลงรักใครสักคนแล้ว ก็จะรักไปตลอดชีวิตน
“ไม่สามารถบอกได้อย่างแน่ชัด ถ้าเสร็จแล้วก็จะกลับมาได้”“ถึงวันที่คุณจะออกไปต่างจังหวัด บอกฉันด้วยค่ะ ฉันจะช่วยคุณจัดของและไปส่งที่สนามบิน”เขาไม่มีเสื้อผ้าของเธออยู่ในห้อง ดังนั้นไห่ถงจึงเตรียมกลับไปที่ เพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าและอาบน้ำจ้านหยินเห็นว่าเธอกำลังจะจากไป เขาจึงอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปจับเธอ ดวงตาสีดำจ้องไปที่ใบหน้าที่สวยงามของเธอด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟ "แค่นั้นเหรอ?"“......”ไห่ถงกระพริบตา ไม่เข้าใจความหมายของเขาควรทำอะไรอีก?ต้องไปส่งเขาไปที่จังหวัดที่เขาต้องไปทำธุรกิจ?“คนในครอบครัวตามไปด้วยได้?”ริมฝีปากของจ้านหยินกระตุก“ตามคุณไปไม่ได้ ฉันส่งคุณไปสนามบินไม่ได้เหรอ?”จ้านหยินจับมือของเธอแล้วปล่อยไห่ถงมองที่มือของเขาและขมวดคิ้วพูดว่า "ฉันยังพูดอยู่เลยว่าไม่กี่วันนี้คุณพูดจาเยอะมาก แต่ตอนนี้กลับไปเหมือนเดิมอีกแล้ว คุณพูดไม่ชัดเจนด้วยซ้ำและต้องให้ฉันเดาอยู่เสมอ ฉันโง่มากจนคิดอะไรไม่ออก อย่าให้เดาต่อไปเลย”“ฉันจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้า อีกสักพักไปกินข้าวเช้าข้างนอกหรือทำเองดี?”ไห่ถงเดินออกไปและถาม"แล้วแต่คุณ"ไห่ถงรับรู้ถึงความหยิ่งในคำพูดของเขาและเดินไปที่ประตูก่
“ฉันไม่ได้พูดแบบนั้นเลย คุณพูดของคุณเอง”ผู้เฒ่าไห่: "... แกอยู่ไหน? กี่โมงกี่ยามแล้ว ร้านของแกยังไม่เปิด คนก็ไม่รู้ว่าหาเงินได้เท่าไหร่แล้ว"“จ้านหยิน ปู่ของฉันสนใจว่าร้านของฉันจะเปิดตอนไหน วันนี้แดดดีไหม? คุณเอาโทรศัพท์ของคุณออกไปที่ระเบียงแล้วดูว่าวันนี้พระอาทิตย์อาจขึ้นจากทางทิศตะวันตกหรือไม่ คุณต้องถ่ายรูปสิ่งมหัศจรรย์ของโลกมานะ ”ผู้เฒ่าไห่ด่าจนหน้าเป็นสีเขียว"ไห่ถง อย่าเพ้อเจ้อ ฉันกำลังคุยกับแกอยู่ ลุงๆ กับป้าๆ ของแกก็รอแกอยู่ที่หน้าร้าน มาเปิดประตูสิ! พวกเราไยังไม่ได้กินข้าวเช้ามาเลย เมื่อมาถึงแล้ว ให้เตรียมอาหารเช้ามาให้พวกเราด้วย”"มีร้านอาหารเช้าใกล้ๆ เยอะแยะ ไม่อยากกินก็หิวไปเถอะ"เธอไม่มีน้ำใจที่จะแพ็คอาหารเช้าให้พวกเขา เมื่อกินอิ่มแล้วให้มีแล้วด่าเธอต่อเหรอ?ผู้เฒ่าไห่โกรธมากกับท่าทีของไห่ถง จนเขาอยากจะสาปแช่ง แต่ ไห่จื้อเหวินแย่งโทรศัพท์ไป ไห่จื้อเหวินพูดกับโทรศัพท์ว่า "ไห่ถง ฉันเป็นลูกพี่ลูกน้องคนที่สองของคุณ พวกเราทุกคนรออยู่ด้านนอกร้านของคุณ ช่วยมาเร็ว ๆ ด้วย พวกเรามีเรื่องจะคุยกับคุณ"“รอฉันกินอิ่มแล้ว ค่อยไป”"ได้ พวกเราจะรอคุณ"หลังจากที่ไห่จื้อเหวินพูดจบ
ไห่ถงเยาะเย้ยอยู่ในใจ กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมคืนสนองกรรมของปู่กับย่ากำลังจะได้รับแล้ว“ไม่ว่าพวกเขาจะมีเจตนาอะไร พวกเราจะไปกับคุณที่นั่น จะทะเลาะกันก็ต้องผู้ช่วยนะ”คุณยายจ้านยืนกรานที่จะตามไห่ถงไปด้วยไห่ถงอยากจะบอกว่าตัวเธอต่อสู้เก่งมากเช่นกัน แต่เมื่อเธอนึกถึงพวกนิสัยเสียจากบ้านเกิดของเธอที่รวมตัวกันหน้าร้าน ก็ต้องมีการปะทะกัน เธอมีคนน้อยเกินไปที่จะสู้กลับ ดังนั้นเธอจึงไม่ห้ามให้คุณยายจ้านไปกับเธอด้วยเธอได้ยินพี่บอกว่าคุณยายจ้านเก่งมากหลังจากที่ทั้งสามคนกินบะหมี่เสร็จแล้ว ไห่ถงกำลังเก็บชามอยู่ คุณยายจ้านหลือบมองหลานชาย และ จ้านหยินก็ยืนขึ้นอย่างเงียบ ๆ เขาหยิบชามจากมือไห่ถงไปล้างในห้องครัว“ถงถง อย่าทำให้อาจ้านเสียนิสัยเกินไป”คุณยายจ้านสอนไห่ถงว่า "ต้องให้เขาช่วยทำงานบ้าน ครอบครัวนี้เป็นของพวกหลาน และจำเป็นต้องทำงานบ้านด้วยกัน เขาจะเหนื่อยจากงาน หลานก็เหนื่อยเหมือนกีน ออกไปทำงานหาเงินไม่เหนื่อยเหรอ?”“อย่าปล่อยให้เขาเป็นนายท่านตอนอยู่บ้าน หลานควรสั่งให้เขาทำอะไรสักอย่าง เพื่อที่ตัวเองจะได้ผ่อนคลายในอนาคต”“คุณยาย จ้านหยินเก่งมากแล้ว เขาช่วยทำงานบ้านด้วย”พี่เขยของเธ
การพูดคุยจิปาถะของทั้งสองคน จ้านหยินที่อยู่ในห้องครัวก็ยังได้ยินอย่างแจ่มชัดจ้านหยินรู้สึกชินตั้งนานแล้ว กับการที่คุณยายลำเอียงรักไห่ถงมากกว่าคุณยายตั้งตารอคอยหลานสาว รอจนผมขาวไปหมดทั้งหัวแต่สุดท้ายก็ได้แต่หลานชายถึงเก้าคนคุณยายถูกชะตากับไห่ถงมาก หญิงชราเห็นไห่ถงเปรียบเสมือนหลานสาวคนนึงมาตั้งแต่แรก แต่หลังจากนั้นเมื่อคิดได้ว่าถ้าเป็นหลานสาวก็ต้องแต่งให้คนอื่น หญิงชราจึงเปลี่ยนความคิดพยายามอย่างหนักเพื่อทำให้ไห่ถงกลายเป็นหลานสะใภ้ของตัวเอง แบบนี้ก็จะสามารถอยู่ในตระกูลจ้านของพวกเขาได้ตลอดไปจ้านหยินล้างจานชามจนสะอาด แล้วเช็ดเตาแก๊สรอบนึง จนบริเวณเตาแก๊สสะอาดเอี่ยม จากนั้นเขาใช้น้ำยาล้างจานซักผ้าขนหนู แล้วจึงล้างมืออีกหลายรอบ ถึงเดินออกจากห้องครัวไห่ถงลุกขึ้นไปหยิบสูท เสื้อโค้ท และเนคไทให้เขาถึงจะบอกว่าเธอยังช่วยผูกเนคไทให้เขาไม่เป็นนัก แต่ความกระตือรือร้นของเธอ ทำให้จ้านหยินรู้สึกอิ่มใจล้างจานเสร็จ ก็ได้รับการตอบแทนจากสาวงาม จ้านหยินรู้สึกว่ามันคุ้มซะจริงคุณยายจ้านเองก็พอใจกับความกระตือรือร้นที่จะตอบแทนจ้านหยินของไห่ถง แบบนั้นจ้านหยินต้องเสร็จเธอจนราบคาบแน่สองสามีภรร
"ไห่ถง"ไห่จื้อหมิงและไห่จื้อเหวินเดินเข้ามาพร้อมคุณปู่คนอื่นๆยังอยู่ข้างนอก"นี่น่ะหรอสามีของแก?"ชายชราไห่มองสำรวจจ้านหยินอยู่สักครู่ รู้สึกว่าสามีของไห่ถงดีกว่าสามีของไห่หลิงในขณะเดียวกันก็รู้สึกไม่พอใจ ตอนที่หลานสาวทั้งสองคนแต่งงานไม่ได้ให้สินสอดกับพวกเขา ต้องเลี้ยงเสียข้าวสุกจนโตแล้วยกให้คนอื่นถ้าลูกชายคนที่สามที่อยู่ในปรโลกรู้เข้า คงโมโหตายพ่อแม่ไม่อยู่แล้ว แต่พวกเขาที่เป็นปู่กับย่ายังอยู่ สิดสอดก็ต้องมอบให้พวกเขาอย่างไม่ต้องสงสัย แต่สองพี่น้องไห่หลิง ยอมทำตามฝั่งบ้านสามี โดยไม่ให้สินสอดเลยสักบาท"หลานเขยของปู่นั่นแหละ เป็นไง? หล่อล่ะสิ?"ไห่ถงเดินไปข้างกายจ้านหยิน มือข้างนึงวางลงบนไหล่ของเขา จงใจถามปู่ว่า "พวกเราสองสามีภรรยาเหมาะสมกันมากใช่ไหมล่ะ"ชายชราไห่ "..."เขาถามคุณยายจ้านขึนอีก "เธอคือ?""ครอบครัวฝั่งเจ้าบ่าว"ที่แท้ก็เป็นคนจากบ้านฝั่งผู้ชายชายชราไห่ถือมอระกู่อยู่ในมือ ก็หยิบยาสูบออกมา จุดไฟสูบสองทีแล้วพูดว่า "ไห่ถงแต่งงานเรื่องใหญ่ขนาดนี้ แต่ไม่ได้บอกพวกเรา พวกเราไม่รู้ความเป็นอยู่ของครอบครัวสามีด้วยซ้ำ วันนี้เป็นครั้งแรกที่ได้เจอกัน""ได้ยินว่าไห่ถง
ไห่ถงชี้ไปที่ประตู แล้วพูดเสียงเย็น "ปู่ ประตูร้านอยู่ตรงนั้น กรุณาลุกขึ้น หันกลับแล้วเดินออกไป!""เรื่องของพี่ฉัน ไม่ต้องให้พวกปู่มายุ่ง!""อีกอย่างพวกเขามาหาฉันตั้งไม่รู้กี่ครั้งแล้ว ฉันพูดอะไรไป พวกเขาก็เข้าใจดี ไม่อยากขอโทษด้วยใจจริง แล้วยังเล่นตุกติกด้วยการให้ฉันคืนดีกับพวกปู่ สรุปแล้วใครกันแน่ที่ผิด?"ชายชราไห่เห็นว่าไห่ถงไม่ฟังคำโน้มน้าว ก็พูดกับจ้านหยินอย่างโมโห "ไอ้หนุ่ม เห็นแล้วใช่ไหม มันไม่ให้ครอบครัวช่วยหนุนหลัง ถ้านายอยากจะรังแกเธอยังไงก็ตาม ไม่ต้องห่วงว่าพวกเราจะมาคิดบัญชีกับนาย"จ้านหยินอยากจะจับตาแก่คนนี้โยนออกไปซะจริงไม่เคยเห็นคนเป็นปู่แบบนี้เลยต่อให้จะไม่ชอบหลานสาวตัวเอง ก็ไม่น่าจะพูดจาแบบนี้เขาพูดเสียงเย็น "ผมขอเธอเป็นเมียเพราะอยากจะพาไปเลี้ยงดูที่บ้านอย่างดี ไม่ใช่ขอแต่งเข้าบ้านไปรังแก ผู้ชายที่ข่มเหงเมียตัวเองจะเรียกว่าเป็นผู้ชายอยู่หรือไง?""พวกปู่จะกลับไปเองหรือให้ฉันใช้ไม้กวาดไล่ออกไป?"ไห่ถงเองก็โมโหปู่จนเดือดปุดๆแล้วคนพวกนี้มักจะพูดเพียงลมปากว่าอยากคืนดีกับเธอ แต่สิ่งที่ทำ กับคำพูดที่พูดออกมา กลับไม่มีความสำนึกผิดเลยแม้แต่น้อย ก็ยังคิดว่าเธอเป็นฝ
"ฉันคิดว่าคุณนายลู่ถ่ายรูปคุณหนูหยูและแสดงให้พี่สาวดูโดยตั้งใจ เพื่อทดสอบว่าเธอมีความรู้สึกกับตงหมิงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ผลก็คือเธอไม่มีความคิดนั้นอย่างแน่นอน เธอไม่เคยคิดอะไรกับตงหมิงเลย ตอนนี้เธอหมกมุ่นอยู่กับร้านอาหารเช้าและต้องการเพียงแค่ประกอบอาชีพและหาเงิน"จ้านหยินก็มองไห่หลิงออกเช่นกัน"ถ้าเธอมีความคิดอะไรกับตงหมิง คุณนายลู่คงจะไม่ยอมให้เธอเปิดร้านที่นั่นต่อไป"ไห่ถงเห็นด้วยกับสิ่งที่สามีของเธอพูดคุณนายลู่กำลังทดสอบพี่สาวของเธอ พี่สาวของเธอไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่ไม่เป็นไร เธอจะได้ไม่ได้รับผลกระทบ"ที่รัก คุณคิดว่าฉันควรบอกเรื่องพวกนี้กับพี่สาวของฉันไหม?""คุณนายลู่คงทำอะไรไม่ได้ แสดงให้เห็นว่าเธอเพียงสงสัยเช่นเดียวกับเรา แต่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ คุณไม่จำเป็นต้องพูดอะไรกับพี่สาวของคุณ ฉันแค่ต้องคุยกับตงหมิงและบอกเขาว่าอย่าไปทานอาหารเช้าที่บ้านพี่สาวของเราในอนาคต"จ้านหยินบ่นให้เพื่อนๆ ฟังว่าครอบครัวของเขาไม่ได้เตรียมอาหารเช้าไว้ ลู่ตงหมิงต้องรีบไปร้านกินได้ไม่อั้นแต่เช้าเพื่อทานอาหารเช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ใช่ไหม"ตกลง"หลังจากจ้านหยินกินและดื่มจนอิ่มแล้ว ไห่ถงก็ยิ้มและถา
ไห่ถงรู้สึกโชคดีอีกครั้ง เธอได้แต่งงานกับผู้ชายที่แม้จะแสดงอาการงอแงเล็กน้อยเป็นครั้งคราว แต่เขาก็ปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดี เขาไม่เคยใช้ความรุนแรงในครอบครัวกับเธอ และเขาไม่ต้องกังวลว่าเขาจะนอกใจด้วยกุญแจสำคัญอยู่ที่การเลี้ยงดูของเขา บ้านสามีที่่ใจกว้างและมีเมตตาอย่างแม่สามีตระกูลจ้าน เป็นสิ่งที่หาได้ยากในตระกูลที่ร่ำรวยเมื่อคิดย้อนกลับไปเมื่อคุณยายจ้านบอกกับเธอว่าเธอช่วยชีวิตอีกฝ่ายไว้และจะไม่แนะนำหลานชายที่ไม่ดีให้เธอรู้จักที่จริงแล้ว หลานชายทุกคนในครอบครัวของหญิงชราอย่างเธอนั้นนั้นดีมากจ้านหยินเป็นหลานชายคนโต และหญิงชราก็เลือกที่จะจับคู่เธอกับหลานชายที่ดีที่สุด"คุณนายลู่ได้ช่วยประธานลู่หาภรรยาที่เหมาะสมแล้ว เธอคือคุณหนูหยูหยินหยิน ทั้งสาว สวย และดูเฉลียวฉลาดและมีความสามารถ เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นคนที่อยู่ในแวดวงชั้นสูงมายาวนาน ความมั่นใจและรัศมีแห่งความสง่างามที่แผ่ออกมาจากทุกการเคลื่อนไหว ท่าทางของเธอบ่งบอกว่าเธอมาจากภูมิหลังที่ร่ำรวยหรือสูงศักดิ์ นั่นสามารถทำให้คุณนายลู่ชอบเธอได้โดยไม่ต้องลำบากอะไร""ฉันรู้"จ้านหยินพูดขณะกิน "เป็นเพราะคุณนายลู่เลือกภรรยาที่เหมาะสมกับตงหมิง
"ไม่ต้องพูดถึงว่าเราทุกคนต่างก็มีสิ่งที่ต้องทำ แม้ว่าในอนาคตเราจะเกษียณ เราก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าเราจะตื่นขึ้นทุกวันและพบกันเมื่อเราลืมตาขึ้น"มีคนตื่นก่อนเสมอ และมีคนตื่นทีหลังเสมอจ้านหยินรู้ว่าเขาสร้างปัญหาโดยไม่มีเหตุผล"ป้าเหลียงบอกว่าคุณยังไม่ได้กินข้าว คุณหิวไหม ออกไปกินข้าวกันเถอะ ฉันจะอยู่กับคุณ"ไห่ถงรู้ว่าการยืดเวลาการสนทนาออกไปอาจทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่างพวกเขามากขึ้นหลีกเลี่ยงการทะเลาะเบาะแว้ง เพราะอาจทำให้ทั้งคู่โกรธกันได้"อืม"จ้านหยินพยักหน้าแล้วปล่อยภรรยาที่รักของเขาจากอ้อมแขนไห่ถงดึงเขาออกมาป้าเหลียงเตรียมอาหารเช้าของจ้านหยินไว้บนโต๊ะอาหารแล้วนายน้อยชอบทำตัวจุกจิกจู้จี้ แต่ต่อหน้านายหญิง เขามักจะต้องก้มหัวและประนีประนอมอยู่เสมอป้าเหลียงไม่กังวลเลยว่าอาหารเช้าที่เธอทำจะเสียเปล่า"ทำไมคุณไม่พาหยางหยางมาล่ะ?"จ้านหยินทานอาหารเช้ากับภรรยา และอารมณ์ของเขาก็ดีขึ้น เขาเลิกทำหน้าเย็นชาและถามถึงเจ้าตัวน้อย"พี่สาวของฉันบอกว่าวันนี้เธอจะปิดร้านเร็วและปล่อยให้หยางหยางเล่นในร้าน เธอจะพาหยางหยางกลับบ้านเร็วๆ นี้ จ้าน...ที่รัก พาหยางหยางมาอยู่ที่นี่กันเถ
"เมื่อไหร่คุณยายจะกลับมา? ฉันคิดถึงเธอมาก"ไห่ถงคิดถึงวันที่คุณยายจ้านเคยอยู่ที่นี่มากป้าเหลียงพูด: "เมื่อฉันรู้ตัวว่าต้องเตือนนายหญิง มันก็สายเกินไปเสียแล้ว คุณผลักประตูเปิดและเดินเข้าไปแล้ว"ไห่ถงถอนหายใจอีกครั้งและพูดว่า "ฉันจะไปล้างมือ"เธอล้างมือสองครั้งด้วยสบู่และกลับไปที่ห้องที่เธอเคยอยู่ เธอหยิบชุดเสื้อผ้าที่สะอาดจากตู้เสื้อผ้า เปลี่ยนชุด แล้วกลับไปที่ห้องนอนใหญ่"ที่รัก ฉันล้างมือและฆ่าเชื้อสองครั้ง ฉันยังเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีขนแมวติดตัวของฉัน"ไห่ถงเดินไปข้างหลังจ้านหยิน และขณะที่เธอพูด เธอก็เอื้อมมือไปโอบรอบเอวของเขา"ที่รัก ฉันขอโทษ ฉันลืมไปจริงๆ ว่าฉันกำลังอุ้มแมวอยู่เมื่อกี้ จริงๆ แล้วพวกมันน่ารักมาก คุณให้ฉันเลี้ยงพวกมัน และพวกมันก็มีค่าสำหรับฉันทั้งหมด คุณพูดว่า ถ้าฉันให้หญ้าคุณหนึ่งกำมือ คุณจะถือว่ามันเป็นสมบัติ ในทำนองเดียวกัน ไม่ว่าคุณจะให้อะไรกับฉัน ฉันก็จะรักมันมาก"จ้านหยินไม่หันหลังกลับและปล่อยให้เธอโอบเอวของเขาเขากล่าว: "ฉันตื่นมาแล้วไม่เห็นคุณ ฉันถามป้าเหลียงแล้วเธอก็บอกว่าคุณออกไปแต่เช้า ฉันรู้สึกเหมือนถูกคุณทิ้งเอาไว้ข้างหลัง เมื่อคุ
ไห่ถงก้มตัวลงและอุ้มแมวขึ้นมา"นายหญิง คุณไปง้อนายน้อยก่อนเถอะ นายน้อยเพิ่งตื่นและยังไม่ได้กินข้าว"ป้าเหลียงรู้สึกไร้เรี่ยวแรงเมื่อจู่ๆ นายน้อยของเธอกลายเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยถ้าเธอไม่มาทำงาน เธอคงไม่รู้ว่านายน้อยจะมีด้านที่คิดเล็กคิดน้อยเช่นนี้ไห่ถงลูบแมวแล้วถามป้าเหลียง: "ป้าเหลียง คุณต้องบอกฉันว่าทำไมเขาถึงโกรธ ฉันถึงจะง้อได้ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย"ป้าเหลียงกระซิบ: "ฉันเดาว่านายน้อยคงโกรธที่คุณออกไปข้างนอกแต่เช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ นายน้อยพักผ่อนที่บ้านและหวังว่านายหญิงจะอยู่กับเขา"ไห่ถง: "... ฉันแค่ไปช่วยงานพี่สาวของฉัน แม้ว่าจะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่โรงงานหลายแห่งไม่มีวันหยุดและยังต้องทำงาน ดังนั้นร้านอาหารเช้าของน้องสาวฉันจึงยังคงยุ่งมาก ฉันออกไปเร็วแต่ก็กลับมาเร็วเช่นกัน ฉันยังกลับมาก่อน 10 โมง"เธอไม่เคยคิดว่าจ้านหยินจะกลายเป็นคนใจแคบเพราะเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ป้าเหลียงก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเหมือนกัน"ฉันจะเข้าไปง้อเขา"ไห่ถงซึ่งรู้ดีว่าสามีของเธอเป็นคนแบบไหน เดินเข้าไปในห้องอย่างช่วยไม่ได้พร้อมกับแมวของเธอในอ้อมแขนหลังจากที่เธอผลักประตูเปิดและเข้าไป ป้าเหลียงก็จำ
ขณะที่ยุ่งอยู่ตรงนี้ จ้านหยินก็ตื่นขึ้นตามปกติ ก่อนที่เขาจะลืมตา เขาหันข้างและเหยียดแขนยาวของเขาออกไปเพื่อกอดภรรยาที่รักของเขา แต่สุดท้ายก็คว้าลมนั่นคือตอนที่เขาลืมตาขึ้นแน่ล่ะ ไห่ถงไม่อยู่ในห้องอีกต่อไปเมื่อมองดูท้องฟ้าภายนอก พระอาทิตย์กำลังขึ้นสูงจ้านหยินหันกลับมาและหยิบโทรศัพท์จากโต๊ะข้างเตียงเพื่อดูเวลา"ตอนนี้เก้าโมงแล้ว!"จู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นนั่งแม้กระทั่งในวันหยุดสุดสัปดาห์ เขาก็ไม่เคยเข้าตื่นสายขนาดนี้มาก่อนบางทีอาจเป็นเพราะว่าเขากลับบ้านดึกเมื่อคืนก่อนเขารีบอาบน้ำและเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าลำลอง โดยตั้งใจเลือกชุดที่ไห่ถงซื้อมาให้เขาเมื่อเขาเปิดประตู เขาก็เห็นป้าเหลียงกำลังนั่งอยู่บนโซฟา อุ้มแมวตัวหนึ่งไว้และดูทีวี เมื่อได้ยินเสียงประตูเปิด เธอจึงหันไปมองเขา จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนพร้อมรอยยิ้ม “นายน้อย คุณตื่นแล้ว คุณอยากกินอาหารเช้าไหม?”"ตอนนี้เก้าโมงกว่าแล้ว"จ้านหยินบ่นพึมพำขณะเดินออกไป“ถึงจะเก้าโมงกว่าแล้ว ก็ยังควรกินอะไรนะ นายหญิงได้สั่งเราไว้ก่อนที่เธอจะออกไป ให้เตือนนายน้อยว่าควรกินอาหารเช้าเมื่อเขาตื่นนอน”"นายหญิงของคุณอยู่ที่ไหน? เธอตื่นและออกไปข้างนอกตั้ง
หยูหยินหยินก็ไม่ได้โกรธเช่นกันเธอและลู่ตงหมิงรู้จักกันมาเป็นเวลานานแล้ว แต่พวกเขาแทบจะไม่ได้พูดคุยกันเลย ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าพวกเขาไม่ได้รู้จักกันดีนักเขาไม่รู้เกี่ยวกับอดีตของเธอ ก็ถือเป็นเรื่องปกติ"คุณหนูหยู นี่อาหารเช้าของคุณ"หลังจากไห่หลิงทำอาหารเช้าให้หยูหยินหยินแล้ว เธอก็เอามาวางไว้ตรงหน้าเธอ ด้วยรอยยิ้ม เธอกล่าวกับหยูหยินหยินว่า "คุณหนูหยู ทานให้อร่อยนะคะ"หยูหยินหยินตอบด้วยรอยยิ้มไห่หลิงกลับไปที่นั่งและนั่งลง"พี่ คุณเจอเธอเมื่อไหร่?"ไห่ถงกระซิบกับพี่สาวของเธอ"คุณนายลู่แวะมาวันก่อนและเข้ามานั่งคุยกับฉัน ขณะที่คุยกับฉัน เธอบอกฉันว่าเธอต้องการจับคู่คุณหนูหยูกับประธานลู่ และแสดงรูปถ่ายของคุณหนูหยูให้ฉันดู ฉันก็เลยจำเธอได้"ไห่หลิงตอบน้องสาวของเธอด้วยเสียงต่ำและกระซิบ: "เห็นไหม พวกเขาเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบ คุณหนูหยูก็ให้ความรู้สึกสบายใจมากเช่นกัน โดยไม่มีความรู้สึกห่างเหินแบบทายาทเศรษฐี"ไห่ถงมองน้องสาวอย่างละเอียด จากนั้นก้มหัวลงเพื่อกินบะหมี่และกระซิบว่า "เข้ากันได้ดีทีเดียว"ป้าเคยพูดว่าคุณนายลู่เข้ากับคนยากมากจ้านหยินก็พูดเช่นกันเนื่องจากคุณนายลู่ม
เขาไม่มีอะไรจะคุยกับไห่ถงมากนักและด้วยไห่ถงที่อยู่ที่นี่ ลู่ตงหมิงและไห่หลิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากนักลูกค้าก็เริ่มทยอยเข้ามาเพื่อกินเกี๊ยวนึ่ง ผู้ช่วยร้านเป็นคนจัดการรับออเดอร์ พนักงานจะเสิร์ฟอาหารเช้าให้พวกเขาแทนไห่หลิงซึ่งเป็นเถ้าแก่เนี้ยเองเธอสามารถนั่งลงในที่เดิมและกินบะหมี่ต่อไปได้"พี่ลู่"คำว่าพี่ลู่นั้น ทำให้ลู่ตงหมิงหมดความอยากอาหารทันทีพี่น้องไห่มองไปที่หญิงสาวสวยที่เปิดประตูกระจกและเดินเข้ามา ไห่ถงไม่เคยรู้จักหยูหยินหยิน แต่ไห่หลิงเคยเห็นภาพของหยูหยินหยิน เมื่อมองไปหยูหยินหยินที่เข้ามา เธอคิดว่าหยูหยินหยินสวยกว่าในรูปเข้ากันได้ดีกับลู่ตงหมิง"คุณหนูหยู คุณอยากทานอาหารเช้าไหม?"ไห่หลิงวางตะเกียบลงและยืนขึ้นอีกครั้งเพื่อต้อนรับแขกสายตาของหยูหยินหยินละสายตาจากลู่ตงหมิงและจ้องมองไปที่ไห่หลิง เธอเคยเห็นไห่หลิงหลายครั้งจากไกลๆ แต่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นหน้าอีกฝ่ายกับตาตัวเอง เมื่อมองดูไห่หลิงอย่างดีๆแล้ว หยูหยินหยินรู้สึกว่าไห่หลิงเป็นหญิงสาวที่สวยมาก“ฉันได้ยินมาว่าอาหารเช้าที่นี่อร่อยมาก ฉันจะทานเหมือนกับพี่ลู่ ขอบคุณ”หยูหยินหยินเดินไปที่โต๊ะของลู่ตงหมิง วางกระเ
"ตกลง"น้องของเธออยากกินบะหมี่เครื่องในหมู ไห่หลิงยังต้มบะหมี่เครื่องในหมูสองชามด้วย เธอไม่ชอบผักชี ดังนั้นจึงมีแต่ชามน้องของเธอเท่านั้นที่ใส่ผักชีในชามของเธอ"บะหมี่เสร็จแล้ว"ไห่หลิงเรียกน้อฃให้มาเอาบะหมี่ที่ปรุงแล้วไห่ถงหยุดงาน ล้างมือ แล้วเดินไปหยิบชามบะหมี่ของเธอสองพี่น้องนั่งลงที่โต๊ะ ไห่ถงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาอย่างเป็นนิสัยและเตรียมกินบะหมี่ไปพร้อมกับอ่านข่าวไปด้วย"เวลากิน อย่ามัวแต่ดูโทรศัพท์ข เก็บโทรศัพท์ของเธอลงไป"ไห่หลิงไม่ยอมให้เธอกินในขณะที่เล่นโทรศัพท์ของเธอแบบนี้"ฉันแค่จะดูมันเฉยๆ"ไห่ถงพูด แต่ก็เก็บโทรศัพท์ของเธอกลับเข้าไปในกระเป๋าอย่างเชื่อฟัง"ต่อไปนี้ กินข้าวอยู่ห้ามเล่นโทรศัพท์ไปด้วย""เข้าใจแล้ว"ต่อหน้าพี่สาวของเธอ ไห่ถงไม่กล้าที่จะดื้อรั้น นอกจากนี้ การใช้โทรศัพท์ขณะกินอาหารก็เป็นนิสัยที่ไม่ดีจริงๆ“พี่ คืนนี้พี่จะไม่ไปงานเลี้ยงกับฉันจริงๆ เหรอ”"ไม่ไป""พี่ ฉันคิดว่าคุณควรออกไปเปิดโลกบ้าง"ไห่หลิงค่อยๆ กินบะหมี่ที่เพิ่งปรุงเสร็จและร้อนมาก"ฉันไม่จำเป็นต้องไปดูโลกแล้ว ฉันยังไปไม่ถึงระดับนั้น เธอแตกต่าง เธอเป็นนายหญิงคนโตของตระกูลจ้าน เธอต้