ไห่หลิงพยักหน้าลงตามสัญชาตญาณ "ฉันลาหยุดสองสามวัน เพราะหยางหยางตกใจสุดขีด ฉันอยากจะดูแลเขาค่ะ""งั้นตอนนี้เธอทำอะไรอยู่? ลูกเธอล่ะ?"ไห่หลิง: "........"เธอควรพูดความจริงไหม?ลู่ตงหมิงมองไปรอบ ๆ และไม่เห็นเจ้าตัวเล็กน่ารักคนนั้นแต่เจ้าตัวเล็กก็กลัวเขาทุกครั้งที่เจอ กลัวมากจนต้องซุกหน้าไว้ในอ้อมแขนของไห่หลิง เหมือนว่าเห็นผี“หยางหยางกำลังนอนหลับอยู่ที่บ้าน ป้าเหลียงก็ดูแลอยู่ ฉันออกมาทำธุระค่ะ”ลู่ตงหมิงถอนหายใจ และถามเธออีกครั้งว่า "คุณมาทำธุระอะไร?"ไห่หลิงลังเลว่าจะพูดหรือไม่ดี ลู่ตงหมิงก็ยิ้ม "ถ้าไม่สะดวกที่จะพูดก็ช่างมันเถอะ ฉันเพิ่งผ่านมาและบังเอิญเห็นคุณพอดี เมื่อคิดถึงคุณขอลาหยุด ฉันเลยอยากถาม""โอเค คุณไปทำธุระเถอะ ฉันไปก่อน"ลู่ตงหมิงดึงมือใหญ่ของเขาออกจากมอเตอร์ไซค์ไห่หลิง และหันหลังกลับเดินจากไป"ประธานลู่เดินทางปลอดภัยค่ะ"ไห่หลิงพูดออกมา แต่ลู่ตงหมิงไม่หันหลังกลับมามอง แต่เขายกมือโบกบอกลาแทนทั้งสองคนเคลื่อนรถออกไปไห่ถงและสองแม่ลูกสาวตระกูลซางพูดคุยกันในโรงแรมเป็นเวลานาน คุณท่านซางได้โทรศัพท์เข้ามา และทำให้สองแม่ลูกตระกูลซางเอ่ยปากบอกว่าพวกเขากำลังกลับบ้าน
เขายังคงสามารถแสดงต่อไปได้“ซูหนาน อี้เฉิน พวกนายจะพวกผู้บริหารกลับไปที่บริษัทก่อน ฉันจะไปคุยกับพี่สะใภ้เอง”จ้านหยินออกคำสั้งกับทั้งสอง แล้วเดินไปหาไห่ถงทีมบอดี้การ์ดไม่กล้าตามไปด้วย“ประธานจ้านเจอคนที่รู้จัก?”ผู้บริหารทั้งหลายมองดูด้วยความประหลาดใจ ที่เห็นจ้านหยินเดินไปหาผู้หญิงแปลกหน้าไม่ใช่ว่าประธานจ้านไม่อนุญาตให้หญิงสาวที่ไม่ใช่ญาติ ปรากฏตัวห่างจากเขา 3 เมตรเหรอ?"อืม รู้จักครับ"ซูหนานยิ้มแล้วชวนผู้บริหารทั้งหลายเดินไปที่รถเห็นว่าซูหนานไม่มีอะไรจะพูดมากนัก พวกผู้บริหารก็หยุดถามซอกแซก"ถงถง"จ้านหยินเดินไปหาไห่ถง และยื่นมือออกไปเพื่อช่วยเธอจัดเสื้อคลุมให้เรียบร้อย ถามเธออย่างห่วงใยว่า “คุณมาที่นี่ทำไม? รู้เหรอว่าว่าฉันมาที่นี่เพื่อหารือเรื่องธุรกิจกับลูกค้าน่ะ เลยมารอฉัน?”ตอนเที่ยงฝนก็หยุดตกแล้วแต่ยังหนาวอยู่ไห่ถงเห็นชายในชุดสูทต่างก็ขึ้นรถกัน รถคันหรูหลายคันก็ขับออกไป เธอยิ้มและถามว่า "นั่นเพื่อนร่วมงานจากบริษัทของคุณเหรอคะ?"“ฉันเชิญป้าซางและเสี่ยวเฟยมาที่นี่เพื่อทานอาหาร แต่ไม่คิดว่าจะได้เจอคุณ”จ้านหยินมองดูรถหรูหลายคันที่ค่อยๆ ขับออกไปแล้วพูดว่า "พวกเ
เมื่อสักครู่นี้กลุ่มคนออกมานั้น ไห่ถงไม่สังเกตเห็นอาชีที่หลบซ่อนตัวอยู่ในโรงแรมไม่รู้ว่าเป็นเพราะผู้ชายที่อยู่ข้างๆ เธอที่ใส่ใจและทำให้รู้สึกอบอุ่นเมื่อลมหนาวพัดมา แท้จริงแล้วเป็นแค่นักแสดงคนหนึ่งเธอพูดกับจ้านหยินว่า "พี่ฉันเพิ่งโทรมา เธอกับโจวหงหลินได้ตกลงกันเรื่องเงื่อนไขการหย่าเรียบร้อยแล้ว""เป็นไงบ้าง?"“ทรัพย์สินทั้งหมดภายใต้ชื่อโจวหงหลิน จะแบ่งให้พี่ฉันครึ่งหนึ่ง บ้านกับรถยนพี่ฉันไม่ต้องการแบ่งกับเขา แต่เขาก็ต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูให้พี่ฉัน สิทธิ์การเลี้ยงดูหยางหยางป็นของพี่ฉัน และเขาจะจ่ายเงินให้หยางหยาง 15,000 บาททุกเดือนเป็นค่าเลี้ยงดู”“ข้อต้องการของเขาคือให้พี่เอาหลักฐานยักยอกเงินมาให้เขา ทั้งหมดและหาเก็บไว้เอง และเพื่อให้แน่ใจว่าเธอจะจัดการเขาอีก หลังจากการหย่าแล้ว”จ้านหยินถาม "พี่ตอบไปว่ายังไง?"“พี่บอกว่าเธอไม่มีปัญหา เธอสัญญาแค่จะไม่ตอบโต้โจวหงหลินเป็นการส่วนตัว”"พี่ให้โอากาสพวกเราได้ล้างแค้นแทน"ไห่ถงพูดว่า "ฉันอยากให้โจวหงหลินตกงาน และไม่มีเหลืออะไรติดตัวเลย แต่จะดีที่สุดหลังจากที่เขาแต่งงานกับเย่เจียนีแล้ว เขาจะกลายเสิ้นเนื้อประดาตัว เรียกได้ว่าเป็นคู่สามีภร
“พี่เพิ่งหย่าและงานยังไม่มั่นคง ค่าบ้านพวกเราช่วยเธอจ่ายก่อนไหม”จ้านหยินเต็มใจที่จะซื้อบ้านให้กับพี่สะใภ้และลูกชายอาศัยอยู่ เพราะพี่สะใภ้เป็นญาติสนิทของภรรยาและเขาจะไม่ปฏิบัติต่อเธออย่างเอาเปรียบแต่ตอนนี้เขาทำอย่างนั้นไม่ได้พิจารณาถึงนิสัยของสองพี่น้อง คาดว่าถึงแม้เขาจะให้ไปฟรีๆ พี่สะใภ้ก็ไม่ยอมรับ“พี่ฉันได้เงินมาจากโจวหงหลินมากกว่าห้าหนึ่งล้านบาท แต่เธอคงไม่ยอมให้พวกเราจ่ายค่าบ้านให้แน่”สองพี่น้องสนับสนุนกันและกันตลอดในทุกเรื่องพวกเธอสองพี่น้องไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็จะช่วยเหลือกันในทุกเรื่องจ้านหยินไม่พูดอะไรไม่ช้า ก็ถึงจ้านซื่อกรุ๊ปแล้วจ้านหยินจอดรถ จากนั้นหันหน้าไปมองไห่ถงไห่ถงมองเขาแล้วยิ้มว่า "ตอนนี้ถึงบริษัทของคุณแล้วค่ะ คุณไม่ลงจากรถเหรอ? ทำไมคุณถึงมองฉันแบบนั้นคะ?"จ้านหยินแค่มองเธออยู่แบบนั้นไห่ถงคิดทบทวนสักครู่ ก่อนจะโน้มตัวลงมาแล้วโอบคอเขา ดึงเขาเข้ามาเพื่อจูบริมฝีปากเขาจ้านหยินไม่พอใจกับจูบที่รวดเร็วของเธอ เขาจึงพลิกตัวและจูบอย่างลึกซึ้งอีกครั้งหลังจากจูบจนพอใจแล้วจ้านหยินก็ลงจากรถอย่างไปไม่เต็มใจความสัมพันธ์ระหว่างสองสามีภรรยากำลังร้อนแรง จ้านหยิน
สัมผัสได้ถึงความห่วงใยของไห่ถงที่มีต่อเขา จ้านหยินจึงพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่นว่า "ฉันต้องไปกินเลี้ยงกับลูกค้าตอนกลางคืน ดังนั้นฉันกลับบ้านช้าหน่อย คุณไม่จำเป็นต้องรอฉัน นอนไปก่อนเลย แต่ไปนอนในห้องฉันนะ"พูดเสร็จ หน้าเขาก็ค่อยๆแดงเพราะนึกถึงตอนที่บอกว่าห้องของเขาเป็นพื้นที่ต้องห้าม และเธอไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปตอนนี้เขากำลังขอให้เธอเข้าไปในห้องนั้นไห่ถงพูด"โอเคค่ะ ฉันจะเปิดประตูไว้ให้คุณ รีบเข้าไปเถอะค่ะอย่ายืนตากลมหนาวอยู่เลย"จ้านหยินหันหลังกลับ และเข้าไปในบริษัทอย่างไม่เต็มใจไห่ถงมองดูรูปร่างอันน่ามองของเขาเดินห่างออกไปเรื่อยๆ ก่อนที่จะหันหลังกลับไปที่รถแล้วขับออกไปเมื่อเข้าในห้องทำงาน จ้านหยินเห็นซูหนานยืนยิ้มอยู่จ้านหยิน:......ไอ้คนขี้เม้าส์เขาเหลือบมองซูหนาน ก่อนจะเดินเข้าไปข้างในซูหนานไม่สนใจว่าเขาจะมองตัวเองอย่างไร เขาเดินตามไปและล้อเลียนที่หน้าลิฟต์: "จ้านหยิน ฉันเห็นแล้วว่าตอนนี้นายอยากหมากฝรั่งที่ติดหนึบพี่สะใภ้ทุกวัน"จ้านหยินกรอกตามองเขา "คนโสดไม่เข้าใจความรู้สึกถึงหวานๆ เลียนๆ ของฉันตอนนี้ได้หรอก"ซูหนาน “...”“คุณเซินรู้สึกไม่สบายเป็นหวัด หากนายว่างก็
"นายพูดว่ายังไง?"“ฉันจะพูดอะไรกับเขาได้ ฉันไม่สามารถบอกเขาไปเลยตรงๆ ว่าทายาทของเขาต้องการฉกผู้หญิงไปจากนาย? นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของนาย ดังนั้นายควรจัดการเอง ฉันจะขอให้เลขาจ้าวหาเวลาให้ นายพบกับประธานจาง”จ้านหยินพูดอย่างใจเย็น "ค่อยคุยกันหลังตรุษจีน ฉันต้องทำธุรกิจในอีกไม่กี่วันนี้"ซูหนานตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง สงสัยว่าตัวเองได้ยินผิด “นายอยากืำธุรกิจ? จะไปทำธุรกิจที่ไหน? นายยินดีที่จะแยกจากพี่สะใภ้? ความสัมพันธ์ของพวกนายไม่ได้กำลังดีขึ้นเหรอ”หลังจากเงียบสักพัก จ้านหยินก็พูดว่า "ถ้าฉันบอกนายเรื่องไปหมดไส้หมดพุง คนทั้งเมืองจะได้รู้ในไม่ช้าแน่นอน"นี่จะกลายเป็นข่าวซุบซิบในฐานะประมุขของข่าวซุบซิบ หูทั้งสองข้างของซูหนานผึ่งทันที ถามด้วยรอยยิ้มว่า “เรื่องอะไร?”“น้องสาวที่คุณนายซางตามหานั้นมีแนวโน้มสูงที่จะเป็นแม่ยายฉัน”ซูหนาน : “...นายมีแม่ยาย? ไม่สิ แม่ยายตายไปนานแล้วไม่ใช่เหรอ?”“แม่ยาฉันตายไปเป็นสิบปีแล้ว เแต่ธอก็มีพี่สาวอยู่ได้ไม่ใช่เหรอ?”ซูหนานสำลักเรื่องที่คุณนายซางตามหาน้องสาวนั้นเป็นที่รู้กันดีในหมู่ชนชั้นสูงของกวนเฉิงครั้งหนึ่งซางหวู่เหิงมาขอความช่วยเหลือจากนายน้อ
ถ้าไห่ถงรู้ตั้งแต่แรกว่า จ้านหยินเป็นนายน้อยคนของตระกูลจ้าน ไห่ถงคงจะไม่ยอมแต่งงานกับจ้านหยินแบบสายฟ้าแลบหรืออาจพูดได้ว่าตระกูลจ้านปิดบังตัวตนจาก ไห่ถง โดยเริ่มตั้งแต่คุณยายจ้านซูหนานพูดในใจ: ไม่มีใครในครอบครัวรู้ความจริงซึ่งมันไม่เหมือนกับการลักพาตัวหลานสะใภ้เมื่อคิดถึงว่าตัวเขาเองก็ยังไม่ได้สารภาพถึงสถานะที่แท้จริงกับเซินเสี่ยวจวิน จู่ๆ ซูหนานก็รู้สึกเสียใจและตัดสินใจจะบอกเซินเสี่ยวจวินในครั้งหน้าว่า จริงๆ แล้วเขาเป็นนายน้อยตระกูลซูเพื่อหลีกเลี่ยงการเดินตามรอยเท้าของจ้านหยิน“นายจัดการเองเลย ฉันไม่ใช่นายและฉันไม่สามารถตัดสินใจแทนนายได้ แต่พี่สะใภ้เป็นคนหัวแข็ง และถ้าจัดการได้ไม่ถูกต้อง คุณสองคนก็อาจกลายเป็นคนแปลกหน้ากัน"จ้านหยินหน้าซีดสิ่งที่เขากลัวก็คือไห่ถงจะจบความสัมพันธ์กับเขาดังนั้น เขาจึงคิดว่ารอจนความสัมพันธ์ลึกซึ้งมากขึ้นและเธอเริ่มลังเลที่จะแยกกับเขา ตอนนั้นคงจะเหมาะที่จะพูดความจริงจริงๆ แล้ว เขาเคยทดสอบปฎิกิริยาเธอมาก่อน แต่เธอไม่เชื่อว่าเขาเป็นเศรษฐีตอนนี้เขาพูดความจริงไป บางทีเธออาจจะเก็บข้าวของแล้วหนีไปก็ได้“อย่ากังวลมากไปเลย พี่สะใภ้ก็มีรู้สึกกับน
ที่จริงแล้ว เขาคิดว่าลงมือทำดีกว่าที่จะพูดการพิสูจน์ความรักที่เขามีต่อเธอด้วยการกระทำนั้นง่ายกว่าการคำพูดหวาน ๆ ที่ออกมาจากปากแน่นอนว่า ถ้าไห่ถงชอบฟังคำหวานๆ ไม่ว่าเขาจะเย็นชาแค่ไหนเขาก็เต็มใจที่จะเรียนรู้ซูหนานลุกขึ้นยืน เอนตัวไปและกระซิบกับเพื่อน "เรื่องของคุณเซิน"จ้านหยินค่อยๆ ผลักซูหนานออกไป หลังจากคุยกับไห่ถงทางโทรศัพท์ไปสักพัก ก็ช่วยซูหนานถาม "ถงถง คุณเซินจะกลับมาที่ร้านบ่ายนี้ไหม? เพื่อนร่วมงานของฉันกำลังเป็นห่างอาการป่วยของเธอและต้องการพบเธอ"ไห่ถงยิ้ม "เสี่ยวจวินยังไม่มา ฉันขอให้เธอพักผ่อนที่บ้าน รอให้ไข้ของเธอก็ลดลง แล้วก่อนค่อยมาที่ร้าน เพื่อนร่วมงานของคุณอยากเจอเธอ? แค่โทรหาเธอและนัดเธอออกมาก็ได้นะ"“คุณเซินไม่สบายและวันนี้ก็อากาศเย็นด้วย ถ้าเรียกเธออกมาแแล้วอาหารนักลงไปอีก เพื่อนร่วมงานของฉันก็จะตำหนิตัวเอง งั้นรอจนกว่าคุณเซินจะกลับมาทำงาน คุณส่งข้อความมาหาฉันและฉันจะบอกเพื่อนร่วมงานเอง”“โอเคค่ะ จ้านหยิน พวกเขามีความคืบหน้ากันไหมคะ?”ไห่ถงเป็นแม่สื่อครั้งแรก หวังว่าเธอจะเชื่อมด้ายแดงได้สำเสร็จ“คุณเซินมีความประทับใจที่ดีต่อเพื่อนร่วมงานของฉันหรือไม่? เธอยังไม
"ฉันคิดว่าคุณนายลู่ถ่ายรูปคุณหนูหยูและแสดงให้พี่สาวดูโดยตั้งใจ เพื่อทดสอบว่าเธอมีความรู้สึกกับตงหมิงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ผลก็คือเธอไม่มีความคิดนั้นอย่างแน่นอน เธอไม่เคยคิดอะไรกับตงหมิงเลย ตอนนี้เธอหมกมุ่นอยู่กับร้านอาหารเช้าและต้องการเพียงแค่ประกอบอาชีพและหาเงิน"จ้านหยินก็มองไห่หลิงออกเช่นกัน"ถ้าเธอมีความคิดอะไรกับตงหมิง คุณนายลู่คงจะไม่ยอมให้เธอเปิดร้านที่นั่นต่อไป"ไห่ถงเห็นด้วยกับสิ่งที่สามีของเธอพูดคุณนายลู่กำลังทดสอบพี่สาวของเธอ พี่สาวของเธอไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่ไม่เป็นไร เธอจะได้ไม่ได้รับผลกระทบ"ที่รัก คุณคิดว่าฉันควรบอกเรื่องพวกนี้กับพี่สาวของฉันไหม?""คุณนายลู่คงทำอะไรไม่ได้ แสดงให้เห็นว่าเธอเพียงสงสัยเช่นเดียวกับเรา แต่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ คุณไม่จำเป็นต้องพูดอะไรกับพี่สาวของคุณ ฉันแค่ต้องคุยกับตงหมิงและบอกเขาว่าอย่าไปทานอาหารเช้าที่บ้านพี่สาวของเราในอนาคต"จ้านหยินบ่นให้เพื่อนๆ ฟังว่าครอบครัวของเขาไม่ได้เตรียมอาหารเช้าไว้ ลู่ตงหมิงต้องรีบไปร้านกินได้ไม่อั้นแต่เช้าเพื่อทานอาหารเช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ใช่ไหม"ตกลง"หลังจากจ้านหยินกินและดื่มจนอิ่มแล้ว ไห่ถงก็ยิ้มและถา
ไห่ถงรู้สึกโชคดีอีกครั้ง เธอได้แต่งงานกับผู้ชายที่แม้จะแสดงอาการงอแงเล็กน้อยเป็นครั้งคราว แต่เขาก็ปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดี เขาไม่เคยใช้ความรุนแรงในครอบครัวกับเธอ และเขาไม่ต้องกังวลว่าเขาจะนอกใจด้วยกุญแจสำคัญอยู่ที่การเลี้ยงดูของเขา บ้านสามีที่่ใจกว้างและมีเมตตาอย่างแม่สามีตระกูลจ้าน เป็นสิ่งที่หาได้ยากในตระกูลที่ร่ำรวยเมื่อคิดย้อนกลับไปเมื่อคุณยายจ้านบอกกับเธอว่าเธอช่วยชีวิตอีกฝ่ายไว้และจะไม่แนะนำหลานชายที่ไม่ดีให้เธอรู้จักที่จริงแล้ว หลานชายทุกคนในครอบครัวของหญิงชราอย่างเธอนั้นนั้นดีมากจ้านหยินเป็นหลานชายคนโต และหญิงชราก็เลือกที่จะจับคู่เธอกับหลานชายที่ดีที่สุด"คุณนายลู่ได้ช่วยประธานลู่หาภรรยาที่เหมาะสมแล้ว เธอคือคุณหนูหยูหยินหยิน ทั้งสาว สวย และดูเฉลียวฉลาดและมีความสามารถ เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นคนที่อยู่ในแวดวงชั้นสูงมายาวนาน ความมั่นใจและรัศมีแห่งความสง่างามที่แผ่ออกมาจากทุกการเคลื่อนไหว ท่าทางของเธอบ่งบอกว่าเธอมาจากภูมิหลังที่ร่ำรวยหรือสูงศักดิ์ นั่นสามารถทำให้คุณนายลู่ชอบเธอได้โดยไม่ต้องลำบากอะไร""ฉันรู้"จ้านหยินพูดขณะกิน "เป็นเพราะคุณนายลู่เลือกภรรยาที่เหมาะสมกับตงหมิง
"ไม่ต้องพูดถึงว่าเราทุกคนต่างก็มีสิ่งที่ต้องทำ แม้ว่าในอนาคตเราจะเกษียณ เราก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าเราจะตื่นขึ้นทุกวันและพบกันเมื่อเราลืมตาขึ้น"มีคนตื่นก่อนเสมอ และมีคนตื่นทีหลังเสมอจ้านหยินรู้ว่าเขาสร้างปัญหาโดยไม่มีเหตุผล"ป้าเหลียงบอกว่าคุณยังไม่ได้กินข้าว คุณหิวไหม ออกไปกินข้าวกันเถอะ ฉันจะอยู่กับคุณ"ไห่ถงรู้ว่าการยืดเวลาการสนทนาออกไปอาจทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่างพวกเขามากขึ้นหลีกเลี่ยงการทะเลาะเบาะแว้ง เพราะอาจทำให้ทั้งคู่โกรธกันได้"อืม"จ้านหยินพยักหน้าแล้วปล่อยภรรยาที่รักของเขาจากอ้อมแขนไห่ถงดึงเขาออกมาป้าเหลียงเตรียมอาหารเช้าของจ้านหยินไว้บนโต๊ะอาหารแล้วนายน้อยชอบทำตัวจุกจิกจู้จี้ แต่ต่อหน้านายหญิง เขามักจะต้องก้มหัวและประนีประนอมอยู่เสมอป้าเหลียงไม่กังวลเลยว่าอาหารเช้าที่เธอทำจะเสียเปล่า"ทำไมคุณไม่พาหยางหยางมาล่ะ?"จ้านหยินทานอาหารเช้ากับภรรยา และอารมณ์ของเขาก็ดีขึ้น เขาเลิกทำหน้าเย็นชาและถามถึงเจ้าตัวน้อย"พี่สาวของฉันบอกว่าวันนี้เธอจะปิดร้านเร็วและปล่อยให้หยางหยางเล่นในร้าน เธอจะพาหยางหยางกลับบ้านเร็วๆ นี้ จ้าน...ที่รัก พาหยางหยางมาอยู่ที่นี่กันเถ
"เมื่อไหร่คุณยายจะกลับมา? ฉันคิดถึงเธอมาก"ไห่ถงคิดถึงวันที่คุณยายจ้านเคยอยู่ที่นี่มากป้าเหลียงพูด: "เมื่อฉันรู้ตัวว่าต้องเตือนนายหญิง มันก็สายเกินไปเสียแล้ว คุณผลักประตูเปิดและเดินเข้าไปแล้ว"ไห่ถงถอนหายใจอีกครั้งและพูดว่า "ฉันจะไปล้างมือ"เธอล้างมือสองครั้งด้วยสบู่และกลับไปที่ห้องที่เธอเคยอยู่ เธอหยิบชุดเสื้อผ้าที่สะอาดจากตู้เสื้อผ้า เปลี่ยนชุด แล้วกลับไปที่ห้องนอนใหญ่"ที่รัก ฉันล้างมือและฆ่าเชื้อสองครั้ง ฉันยังเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีขนแมวติดตัวของฉัน"ไห่ถงเดินไปข้างหลังจ้านหยิน และขณะที่เธอพูด เธอก็เอื้อมมือไปโอบรอบเอวของเขา"ที่รัก ฉันขอโทษ ฉันลืมไปจริงๆ ว่าฉันกำลังอุ้มแมวอยู่เมื่อกี้ จริงๆ แล้วพวกมันน่ารักมาก คุณให้ฉันเลี้ยงพวกมัน และพวกมันก็มีค่าสำหรับฉันทั้งหมด คุณพูดว่า ถ้าฉันให้หญ้าคุณหนึ่งกำมือ คุณจะถือว่ามันเป็นสมบัติ ในทำนองเดียวกัน ไม่ว่าคุณจะให้อะไรกับฉัน ฉันก็จะรักมันมาก"จ้านหยินไม่หันหลังกลับและปล่อยให้เธอโอบเอวของเขาเขากล่าว: "ฉันตื่นมาแล้วไม่เห็นคุณ ฉันถามป้าเหลียงแล้วเธอก็บอกว่าคุณออกไปแต่เช้า ฉันรู้สึกเหมือนถูกคุณทิ้งเอาไว้ข้างหลัง เมื่อคุ
ไห่ถงก้มตัวลงและอุ้มแมวขึ้นมา"นายหญิง คุณไปง้อนายน้อยก่อนเถอะ นายน้อยเพิ่งตื่นและยังไม่ได้กินข้าว"ป้าเหลียงรู้สึกไร้เรี่ยวแรงเมื่อจู่ๆ นายน้อยของเธอกลายเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยถ้าเธอไม่มาทำงาน เธอคงไม่รู้ว่านายน้อยจะมีด้านที่คิดเล็กคิดน้อยเช่นนี้ไห่ถงลูบแมวแล้วถามป้าเหลียง: "ป้าเหลียง คุณต้องบอกฉันว่าทำไมเขาถึงโกรธ ฉันถึงจะง้อได้ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย"ป้าเหลียงกระซิบ: "ฉันเดาว่านายน้อยคงโกรธที่คุณออกไปข้างนอกแต่เช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ นายน้อยพักผ่อนที่บ้านและหวังว่านายหญิงจะอยู่กับเขา"ไห่ถง: "... ฉันแค่ไปช่วยงานพี่สาวของฉัน แม้ว่าจะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่โรงงานหลายแห่งไม่มีวันหยุดและยังต้องทำงาน ดังนั้นร้านอาหารเช้าของน้องสาวฉันจึงยังคงยุ่งมาก ฉันออกไปเร็วแต่ก็กลับมาเร็วเช่นกัน ฉันยังกลับมาก่อน 10 โมง"เธอไม่เคยคิดว่าจ้านหยินจะกลายเป็นคนใจแคบเพราะเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ป้าเหลียงก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเหมือนกัน"ฉันจะเข้าไปง้อเขา"ไห่ถงซึ่งรู้ดีว่าสามีของเธอเป็นคนแบบไหน เดินเข้าไปในห้องอย่างช่วยไม่ได้พร้อมกับแมวของเธอในอ้อมแขนหลังจากที่เธอผลักประตูเปิดและเข้าไป ป้าเหลียงก็จำ
ขณะที่ยุ่งอยู่ตรงนี้ จ้านหยินก็ตื่นขึ้นตามปกติ ก่อนที่เขาจะลืมตา เขาหันข้างและเหยียดแขนยาวของเขาออกไปเพื่อกอดภรรยาที่รักของเขา แต่สุดท้ายก็คว้าลมนั่นคือตอนที่เขาลืมตาขึ้นแน่ล่ะ ไห่ถงไม่อยู่ในห้องอีกต่อไปเมื่อมองดูท้องฟ้าภายนอก พระอาทิตย์กำลังขึ้นสูงจ้านหยินหันกลับมาและหยิบโทรศัพท์จากโต๊ะข้างเตียงเพื่อดูเวลา"ตอนนี้เก้าโมงแล้ว!"จู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นนั่งแม้กระทั่งในวันหยุดสุดสัปดาห์ เขาก็ไม่เคยเข้าตื่นสายขนาดนี้มาก่อนบางทีอาจเป็นเพราะว่าเขากลับบ้านดึกเมื่อคืนก่อนเขารีบอาบน้ำและเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าลำลอง โดยตั้งใจเลือกชุดที่ไห่ถงซื้อมาให้เขาเมื่อเขาเปิดประตู เขาก็เห็นป้าเหลียงกำลังนั่งอยู่บนโซฟา อุ้มแมวตัวหนึ่งไว้และดูทีวี เมื่อได้ยินเสียงประตูเปิด เธอจึงหันไปมองเขา จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนพร้อมรอยยิ้ม “นายน้อย คุณตื่นแล้ว คุณอยากกินอาหารเช้าไหม?”"ตอนนี้เก้าโมงกว่าแล้ว"จ้านหยินบ่นพึมพำขณะเดินออกไป“ถึงจะเก้าโมงกว่าแล้ว ก็ยังควรกินอะไรนะ นายหญิงได้สั่งเราไว้ก่อนที่เธอจะออกไป ให้เตือนนายน้อยว่าควรกินอาหารเช้าเมื่อเขาตื่นนอน”"นายหญิงของคุณอยู่ที่ไหน? เธอตื่นและออกไปข้างนอกตั้ง
หยูหยินหยินก็ไม่ได้โกรธเช่นกันเธอและลู่ตงหมิงรู้จักกันมาเป็นเวลานานแล้ว แต่พวกเขาแทบจะไม่ได้พูดคุยกันเลย ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าพวกเขาไม่ได้รู้จักกันดีนักเขาไม่รู้เกี่ยวกับอดีตของเธอ ก็ถือเป็นเรื่องปกติ"คุณหนูหยู นี่อาหารเช้าของคุณ"หลังจากไห่หลิงทำอาหารเช้าให้หยูหยินหยินแล้ว เธอก็เอามาวางไว้ตรงหน้าเธอ ด้วยรอยยิ้ม เธอกล่าวกับหยูหยินหยินว่า "คุณหนูหยู ทานให้อร่อยนะคะ"หยูหยินหยินตอบด้วยรอยยิ้มไห่หลิงกลับไปที่นั่งและนั่งลง"พี่ คุณเจอเธอเมื่อไหร่?"ไห่ถงกระซิบกับพี่สาวของเธอ"คุณนายลู่แวะมาวันก่อนและเข้ามานั่งคุยกับฉัน ขณะที่คุยกับฉัน เธอบอกฉันว่าเธอต้องการจับคู่คุณหนูหยูกับประธานลู่ และแสดงรูปถ่ายของคุณหนูหยูให้ฉันดู ฉันก็เลยจำเธอได้"ไห่หลิงตอบน้องสาวของเธอด้วยเสียงต่ำและกระซิบ: "เห็นไหม พวกเขาเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบ คุณหนูหยูก็ให้ความรู้สึกสบายใจมากเช่นกัน โดยไม่มีความรู้สึกห่างเหินแบบทายาทเศรษฐี"ไห่ถงมองน้องสาวอย่างละเอียด จากนั้นก้มหัวลงเพื่อกินบะหมี่และกระซิบว่า "เข้ากันได้ดีทีเดียว"ป้าเคยพูดว่าคุณนายลู่เข้ากับคนยากมากจ้านหยินก็พูดเช่นกันเนื่องจากคุณนายลู่ม
เขาไม่มีอะไรจะคุยกับไห่ถงมากนักและด้วยไห่ถงที่อยู่ที่นี่ ลู่ตงหมิงและไห่หลิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากนักลูกค้าก็เริ่มทยอยเข้ามาเพื่อกินเกี๊ยวนึ่ง ผู้ช่วยร้านเป็นคนจัดการรับออเดอร์ พนักงานจะเสิร์ฟอาหารเช้าให้พวกเขาแทนไห่หลิงซึ่งเป็นเถ้าแก่เนี้ยเองเธอสามารถนั่งลงในที่เดิมและกินบะหมี่ต่อไปได้"พี่ลู่"คำว่าพี่ลู่นั้น ทำให้ลู่ตงหมิงหมดความอยากอาหารทันทีพี่น้องไห่มองไปที่หญิงสาวสวยที่เปิดประตูกระจกและเดินเข้ามา ไห่ถงไม่เคยรู้จักหยูหยินหยิน แต่ไห่หลิงเคยเห็นภาพของหยูหยินหยิน เมื่อมองไปหยูหยินหยินที่เข้ามา เธอคิดว่าหยูหยินหยินสวยกว่าในรูปเข้ากันได้ดีกับลู่ตงหมิง"คุณหนูหยู คุณอยากทานอาหารเช้าไหม?"ไห่หลิงวางตะเกียบลงและยืนขึ้นอีกครั้งเพื่อต้อนรับแขกสายตาของหยูหยินหยินละสายตาจากลู่ตงหมิงและจ้องมองไปที่ไห่หลิง เธอเคยเห็นไห่หลิงหลายครั้งจากไกลๆ แต่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นหน้าอีกฝ่ายกับตาตัวเอง เมื่อมองดูไห่หลิงอย่างดีๆแล้ว หยูหยินหยินรู้สึกว่าไห่หลิงเป็นหญิงสาวที่สวยมาก“ฉันได้ยินมาว่าอาหารเช้าที่นี่อร่อยมาก ฉันจะทานเหมือนกับพี่ลู่ ขอบคุณ”หยูหยินหยินเดินไปที่โต๊ะของลู่ตงหมิง วางกระเ
"ตกลง"น้องของเธออยากกินบะหมี่เครื่องในหมู ไห่หลิงยังต้มบะหมี่เครื่องในหมูสองชามด้วย เธอไม่ชอบผักชี ดังนั้นจึงมีแต่ชามน้องของเธอเท่านั้นที่ใส่ผักชีในชามของเธอ"บะหมี่เสร็จแล้ว"ไห่หลิงเรียกน้อฃให้มาเอาบะหมี่ที่ปรุงแล้วไห่ถงหยุดงาน ล้างมือ แล้วเดินไปหยิบชามบะหมี่ของเธอสองพี่น้องนั่งลงที่โต๊ะ ไห่ถงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาอย่างเป็นนิสัยและเตรียมกินบะหมี่ไปพร้อมกับอ่านข่าวไปด้วย"เวลากิน อย่ามัวแต่ดูโทรศัพท์ข เก็บโทรศัพท์ของเธอลงไป"ไห่หลิงไม่ยอมให้เธอกินในขณะที่เล่นโทรศัพท์ของเธอแบบนี้"ฉันแค่จะดูมันเฉยๆ"ไห่ถงพูด แต่ก็เก็บโทรศัพท์ของเธอกลับเข้าไปในกระเป๋าอย่างเชื่อฟัง"ต่อไปนี้ กินข้าวอยู่ห้ามเล่นโทรศัพท์ไปด้วย""เข้าใจแล้ว"ต่อหน้าพี่สาวของเธอ ไห่ถงไม่กล้าที่จะดื้อรั้น นอกจากนี้ การใช้โทรศัพท์ขณะกินอาหารก็เป็นนิสัยที่ไม่ดีจริงๆ“พี่ คืนนี้พี่จะไม่ไปงานเลี้ยงกับฉันจริงๆ เหรอ”"ไม่ไป""พี่ ฉันคิดว่าคุณควรออกไปเปิดโลกบ้าง"ไห่หลิงค่อยๆ กินบะหมี่ที่เพิ่งปรุงเสร็จและร้อนมาก"ฉันไม่จำเป็นต้องไปดูโลกแล้ว ฉันยังไปไม่ถึงระดับนั้น เธอแตกต่าง เธอเป็นนายหญิงคนโตของตระกูลจ้าน เธอต้