ไห่หลิงยิ้มและพูดว่า "ตอนนี้เขาหมกมุ่นอยู่กับแกมาก เขาจะฟังคุณอย่างแน่นอน ออกไปคุยกับเขาตอนนี้เลย ตราบใดที่เขาตกลงที่จะสละสิทธิ์การเลี้ยงดูหยางหยาง คุณสามารถบอกให้เขาลาหยุดกับบริษัทและพวกเราจะดำเนินการขั้นตอนการหย่าให้เสร็จสิ้นได้ในช่วงบ่าย”"หากเขาเป็นโสดเร็วกว่านี้ แกก็สามารถแต่งงานกับเขาเร็วขึ้นและเป็นภรรยาของผู้จัดการของบริษัท เว่ยฮาว อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งบริษัท เว่ยฮาว อิเล็กทรอนิกส์ยังเป็นบริษัทที่ดีในอุตสาหกรรมเดียวกัน นี่เป็นโอกาสที่ดี ที่แกจะกลายเป็นภรรยาของผู้จัดการและเหนือกว่าคนในบริษัท"“สิ่งสำคัญคือเขาจะเป็นของแกในอนาคต หากเขาสามารถหาเงินได้มาก แกก็สามารถใช้มันได้อย่างอิสระ และแกไม่จำเป็นต้องแอบไปเจอกับเขา สามารถแสดงความรักได้อย่างเปิดเผย ฉันคิดว่าผู้หญิงสมควรที่จะอยู่กับชายที่รักอย่างเปิดเผย”“โจวหงหลินอายุเพียง 30 ปีและมีอาชีพเช่นนี้ เขาอยู่ในกลุ่มของคนที่ประสบความสำเร็จ หากแกทำเขาหลุดมือไป ฃอาจไม่สามารถหาคนที่ดีกว่าเขาได้อีกในอนาคต คิดถึงเความสุขของแกและโจวหงหลินสิ ถึงเวลาที่แกจะต้องแสดงทักษะฝีปากออกมาแล้ว”หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เย่เจียนีพูดว่า "คุณไปยืมคอมพิวเตอร์จ
โจวหงหลินกำลังรออยู่ข้างนอก แต่เขาก็จ้องไปที่ร้าน เพราะกลัวว่าไห่หลิงจะเป็นบ้าและทำร้ายเย่เจียนีเมื่อเห็นเย่เจียนีออกมา เขาก็รู้สึกโล่งใจรีบเร่งและก้าวไปข้างหน้า“เจียนี่ เธอไม่ได้ทำอะไรคุณใช่ไหม?”เย่เจียนีลูบใบหน้า แล้วพูดว่า "เมื่อกี้โดนตบมาค่ะ หลังจากที่คุณออกมาแล้ว เธอก็ไม่ตีฉันอีกเลย"โจวหงหลินก็ถูกไห่หลิงตบเช่นกันเขาพูดอย่างเสียใจว่า "เจียนี ฉันจะไม่ปล่อยให้ทำกับคุณอีกในอนาคต"เขาถามอีกครั้งว่า “เธอคุยอะไรคุณ?”เย่เจียนีมองไปรอบ ๆ และเห็นว่าทั้งสองคนกำลังยืนอยู่บนถนน โดยมีผู้คนสัญจรไปมา แต่ไม่มีใครจงใจมองพวกเขาเธอฃมองโจวหงหลินด้วยสายตาห่วงใย แล้วถามเขาว่า "หงหลิน คุณอยากเห็นฉันต้องน้อยเนื้อต่ำใจไหมคะ?"“ฉันจะทนเห็นคุณต้องน้อยเนื้อต่ำใจได้อย่างไร? ฉันอยากหย่ากับ ไห่หลิง เพราะไม่อยากให้คุณทนทุกข์ทรมาน”โจวหงหลินจับมือเธอแล้วพูดว่า "เจียนี เธอด่าคุณหรือเปล่า? ฉันจะเข้าไปชำระบัญชีกับเธอเอง""เปล่า"เย่เจียนีดึงโจวหงหลินซึ่งกำลังจะหันหลังกลับเข้าไปในร้าน แล้วกระซิบว่า "หงหลิน ฉันไม่ต้องการเป็นแม่เลี้ยงของหยางหยางค่ะ"โจวหงหลินก้มหน้ามองเธอ“คุณไม่ได้บอกเหรอว่า หยาง
เย่เจียนีทำหน้าบูดบึ้งและพูดว่า "แต่ฉันไม่ต้องการให้หยางหยางพรากความรักของพ่อ ไปจากลูกของฉันมากเกินไป"ไม่ต้องการให้โจวหงหลินเอาเงินให้หยางหยางในอนาคตเธอหวังว่ารายได้ในอนาคตของโจวหงหลินจะถูกนำไปใช้กับครอบครัวเล็กๆ ของพวกเขาเอง เพื่อตัวเธอและลูกๆ ของเธอเท่านั้น“หยางหยางถูกไห่หลิงคลอดมา และเธอจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อสิทธิ์การเลี้ยงดู หยางหยาง เธอต้องดูแลสั่งสอนแก่เขาเป็นอย่างดี เธอจะเข้าใจดีเกี่ยวกับการเติบโตของหยางหยาง หากคุณแย่งสิทธิ์การเลี้ยงดู หยางหยาง และให้หยางหยางเติบโตขึ้นจากการเลี้ยงดูของพ่อแม่คุณ คุณคิดว่าพ่อแม่ของคุณสามารถอบรมและสั่งสอนหยางหยางได้ดีหรือไม่?”“การเลี้ยงหลานจากคนแก่ส่วนใหญ่จะตามใจหลาน แน่นอนว่า ถ้าคุณอยากเห็นหยางหยางกลายเป็นคนที่ไม่ประสบความสำเร็จอะไรจริงๆ ฉันก็ไม่ได้พูดคำเหล่านี้หรอกค่ะ แต่ฉันคิดว่าจะเป็นการดีกว่าที่หยางหยางจะอยู่กับไห่หลิง มากกว่าที่จะอยู่กับพ่อแม่คุณ และคุณยุ่งกับงาน คุณจะมีเวลาที่จะสั่งสอนหยางหยางได้อย่างไร?”“เด็กเกิดมาแล้ว จำเป็นต้องได้รับการดูแล ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการให้อบรมและสั่งสอน หากหยางหยางไม่ได้รับการสั่งสอนอย่างดี
หลังจากฟังคำพูดของเขาแล้ว ไห่หลิงก็ตกใจนิดน้อย เพราะไม่สามารถไปจัดการได้ในทันที เมื่อคิดว่าจะต้องรอเพิ่มอีกวัน จึงต้องทำใจยอมทำตามเธอเอาสัญญาหย่าให้โจวหงหลินสองฉบับ และพูดว่า "เอาไปซะ ถ้าไม่มีปัญหาอะไร ก็เซ็นชื่อลงไป"โจวหงหลินรับสัญญาหย่ามานอกเหนือจากเรื่องที่เธอเคยพูดมา เธอยังสัญญาว่าจะทำลายหลักฐานทั้งหมดที่อยู่ในมือของเธอในวันที่หย่ากัน และสัญญาว่าเธอจะไม่คิดบัญชีอะไรกับเขาอีกเป็นการส่วนตัวโจวหงหลินนอกจากต้องควักเงินออกจ่ายมากกว่าห้าล้านบาทและสละสิทธิ์การเลี้ยงดูลูกชาย ก็ไม่มีอะไรที่ต้องเป็นกังวลอีกเมื่อคิดถึงว่าจะยังสามารถรักษาเส้นทางเดินนั้นไว้ได้ในอนาคต และยังหาเงินได้มากขึ้นอีก ถึงแม้จะเข้าเนื้อเล็กๆ น้อยๆ ตอนนี้ก็ไม่เป็นไร"ฉันจะเซ็นชื่อแน่"โจวหงหลินพูดส่งๆ "พรุ่งนี้เจอกัน"ไห่หลิงตอบกลับอืมโจวหงหลินจ้องดูเธออยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็กอดเย่เจียนีและเตรียมพร้อมที่จะจากไปหลังจากเดินไปได้สองก้าว เขาก็หยุดเดิน และหันหน้าไปถามไห่หลิงว่า "ไห่หลิงบอกฉันหน่อยได้ไหมว่าใครเป็นเอาหลังฐานทั้งหมดนั้นให้กับคุณ?"สามารถสืบทุกสิ่งที่เขาทำลงไปและยังมีหลักฐานอย่างละเอียด แค่คิดก็ข
น้ำตาของไห่หลิงไหลลงมาทันทีแม่ของเธอจนกระทั่งตายไปแล้ว ไม่เคยรู้เลยว่าพี่เธอไม่เคยยอมแพ้ที่จะตามหาเธอแม่ไม่รอเจอหน้าพี่สาวก่อนแล้ว"ถงถง เธอดูแลคุณนายซางดีดีนะ ฉันกลับบ้านไปหาหยางหยางล่ะ"ไห่หลิงต้องอดทนและอดกลั้นต่อความรู้สึกทุกข์ แนะนำน้องก่อนที่จะวางสายไปอย่างรวดเร็วจากนั้นเธอก็กลั้นไม่ไหว จึงนั่งยองๆ ลงบนพื้น ปิดหน้าและร้องไห้ผู้คนที่ผ่านไปมามองดูเธอ แต่ไม่มีใครหยุดเจ้าของร้านน้ำชานมเห็น จึงรู้ว่าเป็นเธอที่เคยยืมคอมพิวเตอร์มาปริ้นสัญญาหย่า คิดว่าเธอคงเสียใจเรื่องหย่า งเดินออกไปพร้อมกับกล่องกระดาษทิชชู่"น้องสาว"เจ้าของร้านตบไหล่ของไห่หลิง ไห่หลิงได้เงยหน้าขึ้นมองเธอ เธอก็ยื่นกระดาษทิชชู่ให้และปลอบเ "หัวใจของเขาไม่ได้อยู่กับคุณอีกต่อไปแล้ว ลืมเขานะ นั่นจะเป็นการปล่อยทั้งเขาและตัวคุณเอง เพื่อที่คุณได้เริ่มชีวิตใหม่อีกครั้ง"“ถ้ารู้สึกเสียใจจริงก็ร้องไห้ออกเถอะ การร้องไห้ก็สามารถช่วยลดขมขื่นในใจลง และทำให้รู้สึกดีขึ้นได้เหมือนกัน”"ขอบคุณค่ะ เจ้าของร้าน"ไห่หลิงลุกขึ้นหยิบทิชชู่เช็ดน้ำตามา แล้วพูดว่าอย่างสะอึกสะอื้น “ไอ้ผู้ชายคนนั้นใช้รุนแรงในครอบครัว นอกใจ และขี้เหน
ไห่หลิงพยักหน้าลงตามสัญชาตญาณ "ฉันลาหยุดสองสามวัน เพราะหยางหยางตกใจสุดขีด ฉันอยากจะดูแลเขาค่ะ""งั้นตอนนี้เธอทำอะไรอยู่? ลูกเธอล่ะ?"ไห่หลิง: "........"เธอควรพูดความจริงไหม?ลู่ตงหมิงมองไปรอบ ๆ และไม่เห็นเจ้าตัวเล็กน่ารักคนนั้นแต่เจ้าตัวเล็กก็กลัวเขาทุกครั้งที่เจอ กลัวมากจนต้องซุกหน้าไว้ในอ้อมแขนของไห่หลิง เหมือนว่าเห็นผี“หยางหยางกำลังนอนหลับอยู่ที่บ้าน ป้าเหลียงก็ดูแลอยู่ ฉันออกมาทำธุระค่ะ”ลู่ตงหมิงถอนหายใจ และถามเธออีกครั้งว่า "คุณมาทำธุระอะไร?"ไห่หลิงลังเลว่าจะพูดหรือไม่ดี ลู่ตงหมิงก็ยิ้ม "ถ้าไม่สะดวกที่จะพูดก็ช่างมันเถอะ ฉันเพิ่งผ่านมาและบังเอิญเห็นคุณพอดี เมื่อคิดถึงคุณขอลาหยุด ฉันเลยอยากถาม""โอเค คุณไปทำธุระเถอะ ฉันไปก่อน"ลู่ตงหมิงดึงมือใหญ่ของเขาออกจากมอเตอร์ไซค์ไห่หลิง และหันหลังกลับเดินจากไป"ประธานลู่เดินทางปลอดภัยค่ะ"ไห่หลิงพูดออกมา แต่ลู่ตงหมิงไม่หันหลังกลับมามอง แต่เขายกมือโบกบอกลาแทนทั้งสองคนเคลื่อนรถออกไปไห่ถงและสองแม่ลูกสาวตระกูลซางพูดคุยกันในโรงแรมเป็นเวลานาน คุณท่านซางได้โทรศัพท์เข้ามา และทำให้สองแม่ลูกตระกูลซางเอ่ยปากบอกว่าพวกเขากำลังกลับบ้าน
เขายังคงสามารถแสดงต่อไปได้“ซูหนาน อี้เฉิน พวกนายจะพวกผู้บริหารกลับไปที่บริษัทก่อน ฉันจะไปคุยกับพี่สะใภ้เอง”จ้านหยินออกคำสั้งกับทั้งสอง แล้วเดินไปหาไห่ถงทีมบอดี้การ์ดไม่กล้าตามไปด้วย“ประธานจ้านเจอคนที่รู้จัก?”ผู้บริหารทั้งหลายมองดูด้วยความประหลาดใจ ที่เห็นจ้านหยินเดินไปหาผู้หญิงแปลกหน้าไม่ใช่ว่าประธานจ้านไม่อนุญาตให้หญิงสาวที่ไม่ใช่ญาติ ปรากฏตัวห่างจากเขา 3 เมตรเหรอ?"อืม รู้จักครับ"ซูหนานยิ้มแล้วชวนผู้บริหารทั้งหลายเดินไปที่รถเห็นว่าซูหนานไม่มีอะไรจะพูดมากนัก พวกผู้บริหารก็หยุดถามซอกแซก"ถงถง"จ้านหยินเดินไปหาไห่ถง และยื่นมือออกไปเพื่อช่วยเธอจัดเสื้อคลุมให้เรียบร้อย ถามเธออย่างห่วงใยว่า “คุณมาที่นี่ทำไม? รู้เหรอว่าว่าฉันมาที่นี่เพื่อหารือเรื่องธุรกิจกับลูกค้าน่ะ เลยมารอฉัน?”ตอนเที่ยงฝนก็หยุดตกแล้วแต่ยังหนาวอยู่ไห่ถงเห็นชายในชุดสูทต่างก็ขึ้นรถกัน รถคันหรูหลายคันก็ขับออกไป เธอยิ้มและถามว่า "นั่นเพื่อนร่วมงานจากบริษัทของคุณเหรอคะ?"“ฉันเชิญป้าซางและเสี่ยวเฟยมาที่นี่เพื่อทานอาหาร แต่ไม่คิดว่าจะได้เจอคุณ”จ้านหยินมองดูรถหรูหลายคันที่ค่อยๆ ขับออกไปแล้วพูดว่า "พวกเ
เมื่อสักครู่นี้กลุ่มคนออกมานั้น ไห่ถงไม่สังเกตเห็นอาชีที่หลบซ่อนตัวอยู่ในโรงแรมไม่รู้ว่าเป็นเพราะผู้ชายที่อยู่ข้างๆ เธอที่ใส่ใจและทำให้รู้สึกอบอุ่นเมื่อลมหนาวพัดมา แท้จริงแล้วเป็นแค่นักแสดงคนหนึ่งเธอพูดกับจ้านหยินว่า "พี่ฉันเพิ่งโทรมา เธอกับโจวหงหลินได้ตกลงกันเรื่องเงื่อนไขการหย่าเรียบร้อยแล้ว""เป็นไงบ้าง?"“ทรัพย์สินทั้งหมดภายใต้ชื่อโจวหงหลิน จะแบ่งให้พี่ฉันครึ่งหนึ่ง บ้านกับรถยนพี่ฉันไม่ต้องการแบ่งกับเขา แต่เขาก็ต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูให้พี่ฉัน สิทธิ์การเลี้ยงดูหยางหยางป็นของพี่ฉัน และเขาจะจ่ายเงินให้หยางหยาง 15,000 บาททุกเดือนเป็นค่าเลี้ยงดู”“ข้อต้องการของเขาคือให้พี่เอาหลักฐานยักยอกเงินมาให้เขา ทั้งหมดและหาเก็บไว้เอง และเพื่อให้แน่ใจว่าเธอจะจัดการเขาอีก หลังจากการหย่าแล้ว”จ้านหยินถาม "พี่ตอบไปว่ายังไง?"“พี่บอกว่าเธอไม่มีปัญหา เธอสัญญาแค่จะไม่ตอบโต้โจวหงหลินเป็นการส่วนตัว”"พี่ให้โอากาสพวกเราได้ล้างแค้นแทน"ไห่ถงพูดว่า "ฉันอยากให้โจวหงหลินตกงาน และไม่มีเหลืออะไรติดตัวเลย แต่จะดีที่สุดหลังจากที่เขาแต่งงานกับเย่เจียนีแล้ว เขาจะกลายเสิ้นเนื้อประดาตัว เรียกได้ว่าเป็นคู่สามีภร
"ฉันคิดว่าคุณนายลู่ถ่ายรูปคุณหนูหยูและแสดงให้พี่สาวดูโดยตั้งใจ เพื่อทดสอบว่าเธอมีความรู้สึกกับตงหมิงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ผลก็คือเธอไม่มีความคิดนั้นอย่างแน่นอน เธอไม่เคยคิดอะไรกับตงหมิงเลย ตอนนี้เธอหมกมุ่นอยู่กับร้านอาหารเช้าและต้องการเพียงแค่ประกอบอาชีพและหาเงิน"จ้านหยินก็มองไห่หลิงออกเช่นกัน"ถ้าเธอมีความคิดอะไรกับตงหมิง คุณนายลู่คงจะไม่ยอมให้เธอเปิดร้านที่นั่นต่อไป"ไห่ถงเห็นด้วยกับสิ่งที่สามีของเธอพูดคุณนายลู่กำลังทดสอบพี่สาวของเธอ พี่สาวของเธอไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่ไม่เป็นไร เธอจะได้ไม่ได้รับผลกระทบ"ที่รัก คุณคิดว่าฉันควรบอกเรื่องพวกนี้กับพี่สาวของฉันไหม?""คุณนายลู่คงทำอะไรไม่ได้ แสดงให้เห็นว่าเธอเพียงสงสัยเช่นเดียวกับเรา แต่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ คุณไม่จำเป็นต้องพูดอะไรกับพี่สาวของคุณ ฉันแค่ต้องคุยกับตงหมิงและบอกเขาว่าอย่าไปทานอาหารเช้าที่บ้านพี่สาวของเราในอนาคต"จ้านหยินบ่นให้เพื่อนๆ ฟังว่าครอบครัวของเขาไม่ได้เตรียมอาหารเช้าไว้ ลู่ตงหมิงต้องรีบไปร้านกินได้ไม่อั้นแต่เช้าเพื่อทานอาหารเช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ใช่ไหม"ตกลง"หลังจากจ้านหยินกินและดื่มจนอิ่มแล้ว ไห่ถงก็ยิ้มและถา
ไห่ถงรู้สึกโชคดีอีกครั้ง เธอได้แต่งงานกับผู้ชายที่แม้จะแสดงอาการงอแงเล็กน้อยเป็นครั้งคราว แต่เขาก็ปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดี เขาไม่เคยใช้ความรุนแรงในครอบครัวกับเธอ และเขาไม่ต้องกังวลว่าเขาจะนอกใจด้วยกุญแจสำคัญอยู่ที่การเลี้ยงดูของเขา บ้านสามีที่่ใจกว้างและมีเมตตาอย่างแม่สามีตระกูลจ้าน เป็นสิ่งที่หาได้ยากในตระกูลที่ร่ำรวยเมื่อคิดย้อนกลับไปเมื่อคุณยายจ้านบอกกับเธอว่าเธอช่วยชีวิตอีกฝ่ายไว้และจะไม่แนะนำหลานชายที่ไม่ดีให้เธอรู้จักที่จริงแล้ว หลานชายทุกคนในครอบครัวของหญิงชราอย่างเธอนั้นนั้นดีมากจ้านหยินเป็นหลานชายคนโต และหญิงชราก็เลือกที่จะจับคู่เธอกับหลานชายที่ดีที่สุด"คุณนายลู่ได้ช่วยประธานลู่หาภรรยาที่เหมาะสมแล้ว เธอคือคุณหนูหยูหยินหยิน ทั้งสาว สวย และดูเฉลียวฉลาดและมีความสามารถ เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นคนที่อยู่ในแวดวงชั้นสูงมายาวนาน ความมั่นใจและรัศมีแห่งความสง่างามที่แผ่ออกมาจากทุกการเคลื่อนไหว ท่าทางของเธอบ่งบอกว่าเธอมาจากภูมิหลังที่ร่ำรวยหรือสูงศักดิ์ นั่นสามารถทำให้คุณนายลู่ชอบเธอได้โดยไม่ต้องลำบากอะไร""ฉันรู้"จ้านหยินพูดขณะกิน "เป็นเพราะคุณนายลู่เลือกภรรยาที่เหมาะสมกับตงหมิง
"ไม่ต้องพูดถึงว่าเราทุกคนต่างก็มีสิ่งที่ต้องทำ แม้ว่าในอนาคตเราจะเกษียณ เราก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าเราจะตื่นขึ้นทุกวันและพบกันเมื่อเราลืมตาขึ้น"มีคนตื่นก่อนเสมอ และมีคนตื่นทีหลังเสมอจ้านหยินรู้ว่าเขาสร้างปัญหาโดยไม่มีเหตุผล"ป้าเหลียงบอกว่าคุณยังไม่ได้กินข้าว คุณหิวไหม ออกไปกินข้าวกันเถอะ ฉันจะอยู่กับคุณ"ไห่ถงรู้ว่าการยืดเวลาการสนทนาออกไปอาจทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่างพวกเขามากขึ้นหลีกเลี่ยงการทะเลาะเบาะแว้ง เพราะอาจทำให้ทั้งคู่โกรธกันได้"อืม"จ้านหยินพยักหน้าแล้วปล่อยภรรยาที่รักของเขาจากอ้อมแขนไห่ถงดึงเขาออกมาป้าเหลียงเตรียมอาหารเช้าของจ้านหยินไว้บนโต๊ะอาหารแล้วนายน้อยชอบทำตัวจุกจิกจู้จี้ แต่ต่อหน้านายหญิง เขามักจะต้องก้มหัวและประนีประนอมอยู่เสมอป้าเหลียงไม่กังวลเลยว่าอาหารเช้าที่เธอทำจะเสียเปล่า"ทำไมคุณไม่พาหยางหยางมาล่ะ?"จ้านหยินทานอาหารเช้ากับภรรยา และอารมณ์ของเขาก็ดีขึ้น เขาเลิกทำหน้าเย็นชาและถามถึงเจ้าตัวน้อย"พี่สาวของฉันบอกว่าวันนี้เธอจะปิดร้านเร็วและปล่อยให้หยางหยางเล่นในร้าน เธอจะพาหยางหยางกลับบ้านเร็วๆ นี้ จ้าน...ที่รัก พาหยางหยางมาอยู่ที่นี่กันเถ
"เมื่อไหร่คุณยายจะกลับมา? ฉันคิดถึงเธอมาก"ไห่ถงคิดถึงวันที่คุณยายจ้านเคยอยู่ที่นี่มากป้าเหลียงพูด: "เมื่อฉันรู้ตัวว่าต้องเตือนนายหญิง มันก็สายเกินไปเสียแล้ว คุณผลักประตูเปิดและเดินเข้าไปแล้ว"ไห่ถงถอนหายใจอีกครั้งและพูดว่า "ฉันจะไปล้างมือ"เธอล้างมือสองครั้งด้วยสบู่และกลับไปที่ห้องที่เธอเคยอยู่ เธอหยิบชุดเสื้อผ้าที่สะอาดจากตู้เสื้อผ้า เปลี่ยนชุด แล้วกลับไปที่ห้องนอนใหญ่"ที่รัก ฉันล้างมือและฆ่าเชื้อสองครั้ง ฉันยังเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีขนแมวติดตัวของฉัน"ไห่ถงเดินไปข้างหลังจ้านหยิน และขณะที่เธอพูด เธอก็เอื้อมมือไปโอบรอบเอวของเขา"ที่รัก ฉันขอโทษ ฉันลืมไปจริงๆ ว่าฉันกำลังอุ้มแมวอยู่เมื่อกี้ จริงๆ แล้วพวกมันน่ารักมาก คุณให้ฉันเลี้ยงพวกมัน และพวกมันก็มีค่าสำหรับฉันทั้งหมด คุณพูดว่า ถ้าฉันให้หญ้าคุณหนึ่งกำมือ คุณจะถือว่ามันเป็นสมบัติ ในทำนองเดียวกัน ไม่ว่าคุณจะให้อะไรกับฉัน ฉันก็จะรักมันมาก"จ้านหยินไม่หันหลังกลับและปล่อยให้เธอโอบเอวของเขาเขากล่าว: "ฉันตื่นมาแล้วไม่เห็นคุณ ฉันถามป้าเหลียงแล้วเธอก็บอกว่าคุณออกไปแต่เช้า ฉันรู้สึกเหมือนถูกคุณทิ้งเอาไว้ข้างหลัง เมื่อคุ
ไห่ถงก้มตัวลงและอุ้มแมวขึ้นมา"นายหญิง คุณไปง้อนายน้อยก่อนเถอะ นายน้อยเพิ่งตื่นและยังไม่ได้กินข้าว"ป้าเหลียงรู้สึกไร้เรี่ยวแรงเมื่อจู่ๆ นายน้อยของเธอกลายเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยถ้าเธอไม่มาทำงาน เธอคงไม่รู้ว่านายน้อยจะมีด้านที่คิดเล็กคิดน้อยเช่นนี้ไห่ถงลูบแมวแล้วถามป้าเหลียง: "ป้าเหลียง คุณต้องบอกฉันว่าทำไมเขาถึงโกรธ ฉันถึงจะง้อได้ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย"ป้าเหลียงกระซิบ: "ฉันเดาว่านายน้อยคงโกรธที่คุณออกไปข้างนอกแต่เช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ นายน้อยพักผ่อนที่บ้านและหวังว่านายหญิงจะอยู่กับเขา"ไห่ถง: "... ฉันแค่ไปช่วยงานพี่สาวของฉัน แม้ว่าจะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่โรงงานหลายแห่งไม่มีวันหยุดและยังต้องทำงาน ดังนั้นร้านอาหารเช้าของน้องสาวฉันจึงยังคงยุ่งมาก ฉันออกไปเร็วแต่ก็กลับมาเร็วเช่นกัน ฉันยังกลับมาก่อน 10 โมง"เธอไม่เคยคิดว่าจ้านหยินจะกลายเป็นคนใจแคบเพราะเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ป้าเหลียงก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเหมือนกัน"ฉันจะเข้าไปง้อเขา"ไห่ถงซึ่งรู้ดีว่าสามีของเธอเป็นคนแบบไหน เดินเข้าไปในห้องอย่างช่วยไม่ได้พร้อมกับแมวของเธอในอ้อมแขนหลังจากที่เธอผลักประตูเปิดและเข้าไป ป้าเหลียงก็จำ
ขณะที่ยุ่งอยู่ตรงนี้ จ้านหยินก็ตื่นขึ้นตามปกติ ก่อนที่เขาจะลืมตา เขาหันข้างและเหยียดแขนยาวของเขาออกไปเพื่อกอดภรรยาที่รักของเขา แต่สุดท้ายก็คว้าลมนั่นคือตอนที่เขาลืมตาขึ้นแน่ล่ะ ไห่ถงไม่อยู่ในห้องอีกต่อไปเมื่อมองดูท้องฟ้าภายนอก พระอาทิตย์กำลังขึ้นสูงจ้านหยินหันกลับมาและหยิบโทรศัพท์จากโต๊ะข้างเตียงเพื่อดูเวลา"ตอนนี้เก้าโมงแล้ว!"จู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นนั่งแม้กระทั่งในวันหยุดสุดสัปดาห์ เขาก็ไม่เคยเข้าตื่นสายขนาดนี้มาก่อนบางทีอาจเป็นเพราะว่าเขากลับบ้านดึกเมื่อคืนก่อนเขารีบอาบน้ำและเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าลำลอง โดยตั้งใจเลือกชุดที่ไห่ถงซื้อมาให้เขาเมื่อเขาเปิดประตู เขาก็เห็นป้าเหลียงกำลังนั่งอยู่บนโซฟา อุ้มแมวตัวหนึ่งไว้และดูทีวี เมื่อได้ยินเสียงประตูเปิด เธอจึงหันไปมองเขา จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนพร้อมรอยยิ้ม “นายน้อย คุณตื่นแล้ว คุณอยากกินอาหารเช้าไหม?”"ตอนนี้เก้าโมงกว่าแล้ว"จ้านหยินบ่นพึมพำขณะเดินออกไป“ถึงจะเก้าโมงกว่าแล้ว ก็ยังควรกินอะไรนะ นายหญิงได้สั่งเราไว้ก่อนที่เธอจะออกไป ให้เตือนนายน้อยว่าควรกินอาหารเช้าเมื่อเขาตื่นนอน”"นายหญิงของคุณอยู่ที่ไหน? เธอตื่นและออกไปข้างนอกตั้ง
หยูหยินหยินก็ไม่ได้โกรธเช่นกันเธอและลู่ตงหมิงรู้จักกันมาเป็นเวลานานแล้ว แต่พวกเขาแทบจะไม่ได้พูดคุยกันเลย ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าพวกเขาไม่ได้รู้จักกันดีนักเขาไม่รู้เกี่ยวกับอดีตของเธอ ก็ถือเป็นเรื่องปกติ"คุณหนูหยู นี่อาหารเช้าของคุณ"หลังจากไห่หลิงทำอาหารเช้าให้หยูหยินหยินแล้ว เธอก็เอามาวางไว้ตรงหน้าเธอ ด้วยรอยยิ้ม เธอกล่าวกับหยูหยินหยินว่า "คุณหนูหยู ทานให้อร่อยนะคะ"หยูหยินหยินตอบด้วยรอยยิ้มไห่หลิงกลับไปที่นั่งและนั่งลง"พี่ คุณเจอเธอเมื่อไหร่?"ไห่ถงกระซิบกับพี่สาวของเธอ"คุณนายลู่แวะมาวันก่อนและเข้ามานั่งคุยกับฉัน ขณะที่คุยกับฉัน เธอบอกฉันว่าเธอต้องการจับคู่คุณหนูหยูกับประธานลู่ และแสดงรูปถ่ายของคุณหนูหยูให้ฉันดู ฉันก็เลยจำเธอได้"ไห่หลิงตอบน้องสาวของเธอด้วยเสียงต่ำและกระซิบ: "เห็นไหม พวกเขาเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบ คุณหนูหยูก็ให้ความรู้สึกสบายใจมากเช่นกัน โดยไม่มีความรู้สึกห่างเหินแบบทายาทเศรษฐี"ไห่ถงมองน้องสาวอย่างละเอียด จากนั้นก้มหัวลงเพื่อกินบะหมี่และกระซิบว่า "เข้ากันได้ดีทีเดียว"ป้าเคยพูดว่าคุณนายลู่เข้ากับคนยากมากจ้านหยินก็พูดเช่นกันเนื่องจากคุณนายลู่ม
เขาไม่มีอะไรจะคุยกับไห่ถงมากนักและด้วยไห่ถงที่อยู่ที่นี่ ลู่ตงหมิงและไห่หลิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากนักลูกค้าก็เริ่มทยอยเข้ามาเพื่อกินเกี๊ยวนึ่ง ผู้ช่วยร้านเป็นคนจัดการรับออเดอร์ พนักงานจะเสิร์ฟอาหารเช้าให้พวกเขาแทนไห่หลิงซึ่งเป็นเถ้าแก่เนี้ยเองเธอสามารถนั่งลงในที่เดิมและกินบะหมี่ต่อไปได้"พี่ลู่"คำว่าพี่ลู่นั้น ทำให้ลู่ตงหมิงหมดความอยากอาหารทันทีพี่น้องไห่มองไปที่หญิงสาวสวยที่เปิดประตูกระจกและเดินเข้ามา ไห่ถงไม่เคยรู้จักหยูหยินหยิน แต่ไห่หลิงเคยเห็นภาพของหยูหยินหยิน เมื่อมองไปหยูหยินหยินที่เข้ามา เธอคิดว่าหยูหยินหยินสวยกว่าในรูปเข้ากันได้ดีกับลู่ตงหมิง"คุณหนูหยู คุณอยากทานอาหารเช้าไหม?"ไห่หลิงวางตะเกียบลงและยืนขึ้นอีกครั้งเพื่อต้อนรับแขกสายตาของหยูหยินหยินละสายตาจากลู่ตงหมิงและจ้องมองไปที่ไห่หลิง เธอเคยเห็นไห่หลิงหลายครั้งจากไกลๆ แต่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นหน้าอีกฝ่ายกับตาตัวเอง เมื่อมองดูไห่หลิงอย่างดีๆแล้ว หยูหยินหยินรู้สึกว่าไห่หลิงเป็นหญิงสาวที่สวยมาก“ฉันได้ยินมาว่าอาหารเช้าที่นี่อร่อยมาก ฉันจะทานเหมือนกับพี่ลู่ ขอบคุณ”หยูหยินหยินเดินไปที่โต๊ะของลู่ตงหมิง วางกระเ
"ตกลง"น้องของเธออยากกินบะหมี่เครื่องในหมู ไห่หลิงยังต้มบะหมี่เครื่องในหมูสองชามด้วย เธอไม่ชอบผักชี ดังนั้นจึงมีแต่ชามน้องของเธอเท่านั้นที่ใส่ผักชีในชามของเธอ"บะหมี่เสร็จแล้ว"ไห่หลิงเรียกน้อฃให้มาเอาบะหมี่ที่ปรุงแล้วไห่ถงหยุดงาน ล้างมือ แล้วเดินไปหยิบชามบะหมี่ของเธอสองพี่น้องนั่งลงที่โต๊ะ ไห่ถงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาอย่างเป็นนิสัยและเตรียมกินบะหมี่ไปพร้อมกับอ่านข่าวไปด้วย"เวลากิน อย่ามัวแต่ดูโทรศัพท์ข เก็บโทรศัพท์ของเธอลงไป"ไห่หลิงไม่ยอมให้เธอกินในขณะที่เล่นโทรศัพท์ของเธอแบบนี้"ฉันแค่จะดูมันเฉยๆ"ไห่ถงพูด แต่ก็เก็บโทรศัพท์ของเธอกลับเข้าไปในกระเป๋าอย่างเชื่อฟัง"ต่อไปนี้ กินข้าวอยู่ห้ามเล่นโทรศัพท์ไปด้วย""เข้าใจแล้ว"ต่อหน้าพี่สาวของเธอ ไห่ถงไม่กล้าที่จะดื้อรั้น นอกจากนี้ การใช้โทรศัพท์ขณะกินอาหารก็เป็นนิสัยที่ไม่ดีจริงๆ“พี่ คืนนี้พี่จะไม่ไปงานเลี้ยงกับฉันจริงๆ เหรอ”"ไม่ไป""พี่ ฉันคิดว่าคุณควรออกไปเปิดโลกบ้าง"ไห่หลิงค่อยๆ กินบะหมี่ที่เพิ่งปรุงเสร็จและร้อนมาก"ฉันไม่จำเป็นต้องไปดูโลกแล้ว ฉันยังไปไม่ถึงระดับนั้น เธอแตกต่าง เธอเป็นนายหญิงคนโตของตระกูลจ้าน เธอต้