หลังจากฟังคำพูดของเขาแล้ว ไห่หลิงก็ตกใจนิดน้อย เพราะไม่สามารถไปจัดการได้ในทันที เมื่อคิดว่าจะต้องรอเพิ่มอีกวัน จึงต้องทำใจยอมทำตามเธอเอาสัญญาหย่าให้โจวหงหลินสองฉบับ และพูดว่า "เอาไปซะ ถ้าไม่มีปัญหาอะไร ก็เซ็นชื่อลงไป"โจวหงหลินรับสัญญาหย่ามานอกเหนือจากเรื่องที่เธอเคยพูดมา เธอยังสัญญาว่าจะทำลายหลักฐานทั้งหมดที่อยู่ในมือของเธอในวันที่หย่ากัน และสัญญาว่าเธอจะไม่คิดบัญชีอะไรกับเขาอีกเป็นการส่วนตัวโจวหงหลินนอกจากต้องควักเงินออกจ่ายมากกว่าห้าล้านบาทและสละสิทธิ์การเลี้ยงดูลูกชาย ก็ไม่มีอะไรที่ต้องเป็นกังวลอีกเมื่อคิดถึงว่าจะยังสามารถรักษาเส้นทางเดินนั้นไว้ได้ในอนาคต และยังหาเงินได้มากขึ้นอีก ถึงแม้จะเข้าเนื้อเล็กๆ น้อยๆ ตอนนี้ก็ไม่เป็นไร"ฉันจะเซ็นชื่อแน่"โจวหงหลินพูดส่งๆ "พรุ่งนี้เจอกัน"ไห่หลิงตอบกลับอืมโจวหงหลินจ้องดูเธออยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็กอดเย่เจียนีและเตรียมพร้อมที่จะจากไปหลังจากเดินไปได้สองก้าว เขาก็หยุดเดิน และหันหน้าไปถามไห่หลิงว่า "ไห่หลิงบอกฉันหน่อยได้ไหมว่าใครเป็นเอาหลังฐานทั้งหมดนั้นให้กับคุณ?"สามารถสืบทุกสิ่งที่เขาทำลงไปและยังมีหลักฐานอย่างละเอียด แค่คิดก็ข
น้ำตาของไห่หลิงไหลลงมาทันทีแม่ของเธอจนกระทั่งตายไปแล้ว ไม่เคยรู้เลยว่าพี่เธอไม่เคยยอมแพ้ที่จะตามหาเธอแม่ไม่รอเจอหน้าพี่สาวก่อนแล้ว"ถงถง เธอดูแลคุณนายซางดีดีนะ ฉันกลับบ้านไปหาหยางหยางล่ะ"ไห่หลิงต้องอดทนและอดกลั้นต่อความรู้สึกทุกข์ แนะนำน้องก่อนที่จะวางสายไปอย่างรวดเร็วจากนั้นเธอก็กลั้นไม่ไหว จึงนั่งยองๆ ลงบนพื้น ปิดหน้าและร้องไห้ผู้คนที่ผ่านไปมามองดูเธอ แต่ไม่มีใครหยุดเจ้าของร้านน้ำชานมเห็น จึงรู้ว่าเป็นเธอที่เคยยืมคอมพิวเตอร์มาปริ้นสัญญาหย่า คิดว่าเธอคงเสียใจเรื่องหย่า งเดินออกไปพร้อมกับกล่องกระดาษทิชชู่"น้องสาว"เจ้าของร้านตบไหล่ของไห่หลิง ไห่หลิงได้เงยหน้าขึ้นมองเธอ เธอก็ยื่นกระดาษทิชชู่ให้และปลอบเ "หัวใจของเขาไม่ได้อยู่กับคุณอีกต่อไปแล้ว ลืมเขานะ นั่นจะเป็นการปล่อยทั้งเขาและตัวคุณเอง เพื่อที่คุณได้เริ่มชีวิตใหม่อีกครั้ง"“ถ้ารู้สึกเสียใจจริงก็ร้องไห้ออกเถอะ การร้องไห้ก็สามารถช่วยลดขมขื่นในใจลง และทำให้รู้สึกดีขึ้นได้เหมือนกัน”"ขอบคุณค่ะ เจ้าของร้าน"ไห่หลิงลุกขึ้นหยิบทิชชู่เช็ดน้ำตามา แล้วพูดว่าอย่างสะอึกสะอื้น “ไอ้ผู้ชายคนนั้นใช้รุนแรงในครอบครัว นอกใจ และขี้เหน
ไห่หลิงพยักหน้าลงตามสัญชาตญาณ "ฉันลาหยุดสองสามวัน เพราะหยางหยางตกใจสุดขีด ฉันอยากจะดูแลเขาค่ะ""งั้นตอนนี้เธอทำอะไรอยู่? ลูกเธอล่ะ?"ไห่หลิง: "........"เธอควรพูดความจริงไหม?ลู่ตงหมิงมองไปรอบ ๆ และไม่เห็นเจ้าตัวเล็กน่ารักคนนั้นแต่เจ้าตัวเล็กก็กลัวเขาทุกครั้งที่เจอ กลัวมากจนต้องซุกหน้าไว้ในอ้อมแขนของไห่หลิง เหมือนว่าเห็นผี“หยางหยางกำลังนอนหลับอยู่ที่บ้าน ป้าเหลียงก็ดูแลอยู่ ฉันออกมาทำธุระค่ะ”ลู่ตงหมิงถอนหายใจ และถามเธออีกครั้งว่า "คุณมาทำธุระอะไร?"ไห่หลิงลังเลว่าจะพูดหรือไม่ดี ลู่ตงหมิงก็ยิ้ม "ถ้าไม่สะดวกที่จะพูดก็ช่างมันเถอะ ฉันเพิ่งผ่านมาและบังเอิญเห็นคุณพอดี เมื่อคิดถึงคุณขอลาหยุด ฉันเลยอยากถาม""โอเค คุณไปทำธุระเถอะ ฉันไปก่อน"ลู่ตงหมิงดึงมือใหญ่ของเขาออกจากมอเตอร์ไซค์ไห่หลิง และหันหลังกลับเดินจากไป"ประธานลู่เดินทางปลอดภัยค่ะ"ไห่หลิงพูดออกมา แต่ลู่ตงหมิงไม่หันหลังกลับมามอง แต่เขายกมือโบกบอกลาแทนทั้งสองคนเคลื่อนรถออกไปไห่ถงและสองแม่ลูกสาวตระกูลซางพูดคุยกันในโรงแรมเป็นเวลานาน คุณท่านซางได้โทรศัพท์เข้ามา และทำให้สองแม่ลูกตระกูลซางเอ่ยปากบอกว่าพวกเขากำลังกลับบ้าน
เขายังคงสามารถแสดงต่อไปได้“ซูหนาน อี้เฉิน พวกนายจะพวกผู้บริหารกลับไปที่บริษัทก่อน ฉันจะไปคุยกับพี่สะใภ้เอง”จ้านหยินออกคำสั้งกับทั้งสอง แล้วเดินไปหาไห่ถงทีมบอดี้การ์ดไม่กล้าตามไปด้วย“ประธานจ้านเจอคนที่รู้จัก?”ผู้บริหารทั้งหลายมองดูด้วยความประหลาดใจ ที่เห็นจ้านหยินเดินไปหาผู้หญิงแปลกหน้าไม่ใช่ว่าประธานจ้านไม่อนุญาตให้หญิงสาวที่ไม่ใช่ญาติ ปรากฏตัวห่างจากเขา 3 เมตรเหรอ?"อืม รู้จักครับ"ซูหนานยิ้มแล้วชวนผู้บริหารทั้งหลายเดินไปที่รถเห็นว่าซูหนานไม่มีอะไรจะพูดมากนัก พวกผู้บริหารก็หยุดถามซอกแซก"ถงถง"จ้านหยินเดินไปหาไห่ถง และยื่นมือออกไปเพื่อช่วยเธอจัดเสื้อคลุมให้เรียบร้อย ถามเธออย่างห่วงใยว่า “คุณมาที่นี่ทำไม? รู้เหรอว่าว่าฉันมาที่นี่เพื่อหารือเรื่องธุรกิจกับลูกค้าน่ะ เลยมารอฉัน?”ตอนเที่ยงฝนก็หยุดตกแล้วแต่ยังหนาวอยู่ไห่ถงเห็นชายในชุดสูทต่างก็ขึ้นรถกัน รถคันหรูหลายคันก็ขับออกไป เธอยิ้มและถามว่า "นั่นเพื่อนร่วมงานจากบริษัทของคุณเหรอคะ?"“ฉันเชิญป้าซางและเสี่ยวเฟยมาที่นี่เพื่อทานอาหาร แต่ไม่คิดว่าจะได้เจอคุณ”จ้านหยินมองดูรถหรูหลายคันที่ค่อยๆ ขับออกไปแล้วพูดว่า "พวกเ
เมื่อสักครู่นี้กลุ่มคนออกมานั้น ไห่ถงไม่สังเกตเห็นอาชีที่หลบซ่อนตัวอยู่ในโรงแรมไม่รู้ว่าเป็นเพราะผู้ชายที่อยู่ข้างๆ เธอที่ใส่ใจและทำให้รู้สึกอบอุ่นเมื่อลมหนาวพัดมา แท้จริงแล้วเป็นแค่นักแสดงคนหนึ่งเธอพูดกับจ้านหยินว่า "พี่ฉันเพิ่งโทรมา เธอกับโจวหงหลินได้ตกลงกันเรื่องเงื่อนไขการหย่าเรียบร้อยแล้ว""เป็นไงบ้าง?"“ทรัพย์สินทั้งหมดภายใต้ชื่อโจวหงหลิน จะแบ่งให้พี่ฉันครึ่งหนึ่ง บ้านกับรถยนพี่ฉันไม่ต้องการแบ่งกับเขา แต่เขาก็ต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูให้พี่ฉัน สิทธิ์การเลี้ยงดูหยางหยางป็นของพี่ฉัน และเขาจะจ่ายเงินให้หยางหยาง 15,000 บาททุกเดือนเป็นค่าเลี้ยงดู”“ข้อต้องการของเขาคือให้พี่เอาหลักฐานยักยอกเงินมาให้เขา ทั้งหมดและหาเก็บไว้เอง และเพื่อให้แน่ใจว่าเธอจะจัดการเขาอีก หลังจากการหย่าแล้ว”จ้านหยินถาม "พี่ตอบไปว่ายังไง?"“พี่บอกว่าเธอไม่มีปัญหา เธอสัญญาแค่จะไม่ตอบโต้โจวหงหลินเป็นการส่วนตัว”"พี่ให้โอากาสพวกเราได้ล้างแค้นแทน"ไห่ถงพูดว่า "ฉันอยากให้โจวหงหลินตกงาน และไม่มีเหลืออะไรติดตัวเลย แต่จะดีที่สุดหลังจากที่เขาแต่งงานกับเย่เจียนีแล้ว เขาจะกลายเสิ้นเนื้อประดาตัว เรียกได้ว่าเป็นคู่สามีภร
“พี่เพิ่งหย่าและงานยังไม่มั่นคง ค่าบ้านพวกเราช่วยเธอจ่ายก่อนไหม”จ้านหยินเต็มใจที่จะซื้อบ้านให้กับพี่สะใภ้และลูกชายอาศัยอยู่ เพราะพี่สะใภ้เป็นญาติสนิทของภรรยาและเขาจะไม่ปฏิบัติต่อเธออย่างเอาเปรียบแต่ตอนนี้เขาทำอย่างนั้นไม่ได้พิจารณาถึงนิสัยของสองพี่น้อง คาดว่าถึงแม้เขาจะให้ไปฟรีๆ พี่สะใภ้ก็ไม่ยอมรับ“พี่ฉันได้เงินมาจากโจวหงหลินมากกว่าห้าหนึ่งล้านบาท แต่เธอคงไม่ยอมให้พวกเราจ่ายค่าบ้านให้แน่”สองพี่น้องสนับสนุนกันและกันตลอดในทุกเรื่องพวกเธอสองพี่น้องไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็จะช่วยเหลือกันในทุกเรื่องจ้านหยินไม่พูดอะไรไม่ช้า ก็ถึงจ้านซื่อกรุ๊ปแล้วจ้านหยินจอดรถ จากนั้นหันหน้าไปมองไห่ถงไห่ถงมองเขาแล้วยิ้มว่า "ตอนนี้ถึงบริษัทของคุณแล้วค่ะ คุณไม่ลงจากรถเหรอ? ทำไมคุณถึงมองฉันแบบนั้นคะ?"จ้านหยินแค่มองเธออยู่แบบนั้นไห่ถงคิดทบทวนสักครู่ ก่อนจะโน้มตัวลงมาแล้วโอบคอเขา ดึงเขาเข้ามาเพื่อจูบริมฝีปากเขาจ้านหยินไม่พอใจกับจูบที่รวดเร็วของเธอ เขาจึงพลิกตัวและจูบอย่างลึกซึ้งอีกครั้งหลังจากจูบจนพอใจแล้วจ้านหยินก็ลงจากรถอย่างไปไม่เต็มใจความสัมพันธ์ระหว่างสองสามีภรรยากำลังร้อนแรง จ้านหยิน
สัมผัสได้ถึงความห่วงใยของไห่ถงที่มีต่อเขา จ้านหยินจึงพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่นว่า "ฉันต้องไปกินเลี้ยงกับลูกค้าตอนกลางคืน ดังนั้นฉันกลับบ้านช้าหน่อย คุณไม่จำเป็นต้องรอฉัน นอนไปก่อนเลย แต่ไปนอนในห้องฉันนะ"พูดเสร็จ หน้าเขาก็ค่อยๆแดงเพราะนึกถึงตอนที่บอกว่าห้องของเขาเป็นพื้นที่ต้องห้าม และเธอไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปตอนนี้เขากำลังขอให้เธอเข้าไปในห้องนั้นไห่ถงพูด"โอเคค่ะ ฉันจะเปิดประตูไว้ให้คุณ รีบเข้าไปเถอะค่ะอย่ายืนตากลมหนาวอยู่เลย"จ้านหยินหันหลังกลับ และเข้าไปในบริษัทอย่างไม่เต็มใจไห่ถงมองดูรูปร่างอันน่ามองของเขาเดินห่างออกไปเรื่อยๆ ก่อนที่จะหันหลังกลับไปที่รถแล้วขับออกไปเมื่อเข้าในห้องทำงาน จ้านหยินเห็นซูหนานยืนยิ้มอยู่จ้านหยิน:......ไอ้คนขี้เม้าส์เขาเหลือบมองซูหนาน ก่อนจะเดินเข้าไปข้างในซูหนานไม่สนใจว่าเขาจะมองตัวเองอย่างไร เขาเดินตามไปและล้อเลียนที่หน้าลิฟต์: "จ้านหยิน ฉันเห็นแล้วว่าตอนนี้นายอยากหมากฝรั่งที่ติดหนึบพี่สะใภ้ทุกวัน"จ้านหยินกรอกตามองเขา "คนโสดไม่เข้าใจความรู้สึกถึงหวานๆ เลียนๆ ของฉันตอนนี้ได้หรอก"ซูหนาน “...”“คุณเซินรู้สึกไม่สบายเป็นหวัด หากนายว่างก็
"นายพูดว่ายังไง?"“ฉันจะพูดอะไรกับเขาได้ ฉันไม่สามารถบอกเขาไปเลยตรงๆ ว่าทายาทของเขาต้องการฉกผู้หญิงไปจากนาย? นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของนาย ดังนั้นายควรจัดการเอง ฉันจะขอให้เลขาจ้าวหาเวลาให้ นายพบกับประธานจาง”จ้านหยินพูดอย่างใจเย็น "ค่อยคุยกันหลังตรุษจีน ฉันต้องทำธุรกิจในอีกไม่กี่วันนี้"ซูหนานตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง สงสัยว่าตัวเองได้ยินผิด “นายอยากืำธุรกิจ? จะไปทำธุรกิจที่ไหน? นายยินดีที่จะแยกจากพี่สะใภ้? ความสัมพันธ์ของพวกนายไม่ได้กำลังดีขึ้นเหรอ”หลังจากเงียบสักพัก จ้านหยินก็พูดว่า "ถ้าฉันบอกนายเรื่องไปหมดไส้หมดพุง คนทั้งเมืองจะได้รู้ในไม่ช้าแน่นอน"นี่จะกลายเป็นข่าวซุบซิบในฐานะประมุขของข่าวซุบซิบ หูทั้งสองข้างของซูหนานผึ่งทันที ถามด้วยรอยยิ้มว่า “เรื่องอะไร?”“น้องสาวที่คุณนายซางตามหานั้นมีแนวโน้มสูงที่จะเป็นแม่ยายฉัน”ซูหนาน : “...นายมีแม่ยาย? ไม่สิ แม่ยายตายไปนานแล้วไม่ใช่เหรอ?”“แม่ยาฉันตายไปเป็นสิบปีแล้ว เแต่ธอก็มีพี่สาวอยู่ได้ไม่ใช่เหรอ?”ซูหนานสำลักเรื่องที่คุณนายซางตามหาน้องสาวนั้นเป็นที่รู้กันดีในหมู่ชนชั้นสูงของกวนเฉิงครั้งหนึ่งซางหวู่เหิงมาขอความช่วยเหลือจากนายน้อ