“อืม ครอบครัวของพวกเขาเป็นครอบครัวใหญ่น่ะ เสี่ยวเฟยขอบใจนะ”ซางเสี่ยวเฟยได้ยินว่าสามีของไห่ถงได้พาพรรคพวกไปช่วยเหลือด้วยก็รู้สึกโล่งใจและพูดว่า "ไห่ถง สามีของเธอใช่ที่แต่งงานแบบสายฟ้าแลบหรือเปล่า? เขาใช้ได้เลยนะ เมื่อมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับพวกเธอ ก็มีเขาอย่างน้อยที่เต็มใจที่จะช่วยเหลือ"ไม่เหมือนกับสามีของไห่หลิงที่รู้จักกันมาสิบสองปีทำอะไรได้บ้าง?เมื่อเทียบกับสามีของไห่ถงที่แต่งงานแบบสายฟ้าแลบ“ตามนั้นแล้วกัน คราวนี้ฉันออกหน้าแล้ว แต่คราวหน้าถ้าเจอกับปัญหาอะไรมาต้องบอกฉัน ไม่งั้นจะไม่ถือว่าฉันเป็นเพื่อนเธอแล้ว ช่วยส่งที่อยู่พี่เธอมาให้ฉันด้วย ฉันจะไปบ้านพี่เธอ เพื่อดูหยางหยางหน่อย”ไห่ถงไม่ได้ปฏิเสธคำขอของเธอหลังจากวางสายแล้ว ไห่ถงก็ส่งที่อยู่ของพี่เธอไปให้ซางเสี่ยวเฟยจ้านหยินเงี่ยหูฟังบทสนทนาระหว่างไห่ถงกับซางเสี่ยวเฟยเมื่อจ้านหยินรู้ว่าซางเสี่ยวเฟยต้องการนำคนมาด้วย เขาก็กำพวงมาลัยไว้แน่นหากซางเสี่ยวเฟยมา ตัวตนของเขาจะถูกเปิดเผยเขาไม่ต้องการที่จะเปิดเผยแบบนั้น กลัวว่าไห่ถงยังไม่ได้เตรียมใจและเป็นเรื่องยากที่จะยอมรับ นอกจากนี้จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับภรรยาสั่นคล
อาจเป็นไปได้ว่า ซางเสี่ยวเฟยไม่สามารถจินตนาการได้ว่าน้าของเธอหน้าตาเป็นอย่างไรเมื่อเธอโตขึ้นไห่ถงคิดว่าหลังจากกลับจากครอบครัวเหรินแล้ว เธอจะเริ่มวาดภาพคุณน้าซางตอนโต และมันจะคล้ายกับพี่เธอมากไหม?“ถ้าพูดแบบนี้ งั้นแม่ของคุณเป็นน้าของคุณหนูซางเหรอ?”จ้านหยินคิดออกเพียงสองคำ: น้ำเน่า!น้ำเน่าเกินไปแล้ว!เรื่องน้ำเน่าเช่นนี้เกิดขึ้นกับภรรยาของเขายิ่งกว่านั้นชางเสี่ยวเฟยสารภาพรักกับเขาอย่างเปิดเผ ยและไล่ตามจีบเขา แถมไห่ถงยังช่วยชางเสี่ยวเฟยจีบเขาอีกด้วยหากไม่ใช่เพราะเขาสวมแหวนและโชว์ซางเสี่ยวเฟยเห็น ซางเสี่ยวเฟยก็คงคอยรบกวนเขาอยู่ทุกวัน ซึ่งมันทำให้เขารำคาญมากตอนแรกวางแผนที่จะสั่งสอนบทเรียนหนักๆ กับชางเสี่ยวเฟย แต่ใครจะรู้ว่าชางเสี่ยวเฟยและไห่ถงเป็นเพื่อนกัน ดังนั้นเขาไม่สามารถทำอะไรได้เลยคนที่คปฏิบัติต่อไห่ถงด้วยใจจริง เขาต้องตอบแทนอย่างดีเป็นพิเศษพวกขยะตระกูลไห่เพิ่งหายหน้าหายตาไปและไม่มีปัญหากับไห่ถงอีก เพราะจากเขาและชางเสี่ยวเฟยลงมือจัดการตระกูลไห่ไม่รู้ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังไห่ถงคือเขา เพราะคิดว่าเป็น ซางเสี่ยวเฟย ดังนั้นพวกเขากลัวตัวตนของซางเสี่ยวเฟย และทำให้พวกเขาส
แต่ต้องทวงความยุติธรรมให้กับหยางหยาง ที่อยู่ตรงหน้าก่อนเรื่องตามหาคนควรจะเลื่อนออกไปสักพักก่อน เนื่องจากเขาจะไปที่เมือง A เพื่อเข้าร่วมงานแต่งงานขอเย่จวินโป๋และมู่ชิงเร็วๆ นี้อีกยังไงซะ ถ้าเลื่อนได้สักระยะหนึ่งก็แค่จะล่าช้าอีกนิดเขาต้องการสารภาพกับไห่ตงก่อนที่คุณนายซางจะเห็นเขาก่อนหวังว่า......ท่าทีของไห่ถงจะไม่ควรรุนแรงเกินไปเขาไม่มีความรู้สึกอะไรกับเธอในตอนแรก และปกปิดตัวตนของเขาเพื่อทดสอบนิสัยของเธอ ซึ่งเขาคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติด้วยฐานะของเขา ใครจะรู้ได้ยังไงว่าผู้หญิงที่เข้ามาหาเขานั้นทำเพื่อเงินหรือเพื่อตัวเขา?ตอนนี้ นิสัยของไห่ถงรวมถึงวิธีการรับมือกับสิ่งต่าง ๆ ความมั่นใจ การไม่ยอมแพ้และการพึ่งพาตนเองนั้นน่าดึงดูดใจสำหรับเขามาก และเขาก็ถูกเธอดึงดูดอย่างไม่รู้ตัวหลังจากซางเสี่ยวเฟยวางสายจากไห่ถงแล้ว ก็สั่งรีบคนรับใช้ทันทีว่า "ป้าเฟิง ช่วยเตรียมอาหารบำรุงมาให้หน่อยนะคะ อาหารที่เหมาะกับเด็กน้อยกินค่ะ และฉันอยากจะเอาไปให้คน"ป้าเฟิงถามว่า “คุณหนูคะ หนูน้อยคนนั้นอายุเท่าไหร่?”"สองขวบกว่าค่ะ"“เด็กน้อยอายุ 2 ขวบนิดๆ ไม่จำเป็นต้องทานอาหารบำรุงค่ะ หากไม่เจ็บป่วย”ป้
คุณนายซางงุนงงเมื่อได้ยินสิ่งนี้ "จ้านหยินมีเจ้าของแล้ว?"“เขาแต่งงานแล้วและปฏิบัติต่อภรรยาเป็นอย่างดี เอาใจใส่และปกป้องเธอ พี่ชายเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าภรรยาของเขาคือใคร”คุณนายซาง "....ถ้าเข้ามีเจ้าของแล้ว ลูกก็ตัดใจนะ เขาไม่ได้เป็นของลูก แต่มันเป็นความปรารถนาของลูกเองมาโดยตลอด"คุณนายซางชื่นชมจ้านหยินมาก และเธอก็รู้ว่าจ้านหยินไม่ชอบลูกสาวเธอลูกสาวอยากลองดูหากหลังชนกำแพงแล้วก็จะยอมแพ้"คุณแม่ หนูมีข่าวดี"ซางเสี่ยวเฟยไม่ต้องการพูดถึงจ้านหยินกับแม่อีก แค่พูดถึงหนึ่งครั้งก็ทำให้ใจเธอปวดร้าวหนึ่งครั้งชายที่รักมาหลายปี จู่ๆ ก็รู้ว่าเขาก็แต่งงานแล้ว และเธอก็เกือบจะกลายเป็นเมียน้อย และที่เธอปล่อยมือ แล้วบอกว่าไม่เจ็บก็โกหกตอนนี้เธอพยายามอย่างดีที่สุดที่จะไม่พูดถึงจ้านหยิน เพื่อหลีกเลี่ยงความรู้สึกเจ็บปวด“เรื่องอะไร? แม่จะถึงบ้านแล้ว รอแม่ถึงบ้านก่อนค่อยคุยกัน?”“หนูคิดว่าสิ่งที่แม่มีความสุขที่ได้ยินตอนนี้ เพราะนี่คือเบาะแสใหม่เกี่ยวกับน้า”แน่นอนว่าสีหน้าของคุณนายซางตึงเครียดขึ้น และถามอย่างประหลาดใจ "เสี่ยวเฟย ลูกเจอเบาะแส? ตอนนี้น้าอยู่ที่ไหน?"“ไห่ถงเพื่อนของหนู ซึ่งเคยข
ถ้าไห่ถงและพี่สาวเป็นหลานสาวของเธอจริงๆ....เมื่อคิดถึงตรงนี้คุณนายซางรู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่ง ที่หลานสาวทั้งสองของเธอต้องทนทุกข์ทรมาน“แม่ใกล้ถึงกลับบ้านแล้ว รอแม่ก่อนนะ แม่จะไปเยี่ยมหยางหยางด้วย”นี่เป็นเบาะแสที่น่าจะมีหวังที่สุด เธอต้องไปดูเด็กคนนั้นว่าเหมือนน้องสาวไหมอย่างเป็นการส่วนตัว......ครอบครัวเริ่น“พ่อแม่ไม่ต้องพูดแล้ว ฉันจะไม่เรียกร้องค่าทำขวัญจากไห่ถงแล้ว โอเคไหม?”โจวหงอิงยังคอยกันไม่ให้พ่อแม่ย้ายออกจากบ้านของพวกเขาเมื่อวานนี้ หลังจากที่พ่อแม่ของเธอกลับมาก็เริ่มเก็บข้าวของ แต่ด้วยเห็นใจเธอที่หลั่งน้ำตาออกมา พวกเขาจึงพักค้างคืนอย่างไม่เต็มใจหลังจากผ่านไปคืนหนึ่ง เธอคิดว่าพ่อแม่ใจเย็นลงแล้วคิดไม่ถึงว่าตอนนี้ยังพูดว่าจะย้ายออกอยู่สาเหตุหลักมาจากพ่อโกรธมากเหรินฮุยยังชักชวนอีกว่า "พ่อแม่ หงหยิงพูดถูก แม้ว่าพวกคุณจะย้ายกลับไปก็ไม่มีใครดูแล แล้วพวกเราจะมั่นใจได้อย่างไร? ในฐานะครอบครัวที่อาศัยอยู่ที่นี่ด้วยกัน พวกก็มีสนุกสนานได้ครับ "“พ่อ เหรินหมิงรู้ว่าเขาผิด อีกสักพักหงหยิงกับฉันจะพาเขาไปขอโทษหยางหยาง เมื่อวานฉันก็สอนบทเรียนเหรินหมิงแล้ว”พ่อโจวนั่งสูบบุหรี
"พวกแกมาทำไม?"โจวหงอิงถามเธอต้องการหยุดไห่ถงและคนอื่น ๆ ไว้ที่นอกบ้าน แต่น่าเสียดายที่เธออ่อนแอเกินไป จึงไม่สามารถขวางพวกเขาได้สามีของเธอมีท่าทีแตกต่างจากเธอ และเชิญไห่ถงและพรรคพวกเข้าไปในบ้านอย่างสุภาพทันทีที่เหรินหมิงเห็นไห่ถงและพรรคพวก เขาก็จ้องมองด้วยความโกรธแค้นเมื่อพ่อของเขาเห็น เขาก็แข็งไปทั้งตัว“อีกสักจะไปขอโทษอย่างจริงใจ”เหรินฮุยกระซิบกับลูกชาย“คนเหล่านี้ไม่ง่ายเลยที่จะท้าทาย”ถ้าทุบบ้านพวกเขา ก็จะปลอดภัยและไม่เสียหายเมื่อวานเจ้าหน้าที่ของสถานีตํารวจ ไม่ได้เข้าข้างพวกเขาเลยเหรินฮุยกังวลว่าตระกูลจ้านจะมีคนหนุนหลัง เขาจึงยอมรับและเตือนลูกชายให้ขอโทษอย่างจริงใจอันที่จริงแล้ว เหรินฮุยคิดมากไปเอง เจ้าหน้าที่ของสถานีตำรวจได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว และรู้สึกว่าเหรินหมิงโหดเหี้ยมเกินไป ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกที่จะเพิกเฉยต่อเหตุการณ์ที่ครอบครัวเหรินถูกทุบตีคุณทำลูกคนอื่นต้องเข้าโรงพยาบาล และยังไม่อยากให้พวกเขาอารมณ์เสียอีก?คนที่ไม่มีลูกอาจไม่รู้สึกโกรธและเสียใจกับพ่อแม่ ในขณะที่คนที่มีลูกจะโกรธเมื่อดูวิดีโอนั้นเหรินหมิงเม้มริมฝีปากและนิ่งเงียบเหรินหมิงไ
แม่โจวโวยวายออกมา ขยี้ตาเธอ และด่าเหรินหมิง “เหรินหมิง หยางหยางเป็นญาติแก แกกล้าจะตีหยางหยางแรงๆ จะเอาให้ตายเหรอ”“แม่ เหรินหมิงรู้ว่าตัวว่าผิด เขายังเด็กจะเข้าใจอะไรไหม?”โจวหงอิงปกป้องลูกชายและพูดกับไห่ถงว่า "ไห่ถง ที่เหรินหมิงตีหยางหยาง มันเป็นความผิดของเขาจริงๆ เมื่อวานนี้พ่อของเขายังได้ให้บทเรียนกับเขแล้ว และเขาก็รู้ว่ามันผิด อีกสักพักฉันจะพาเขาไปซื้อผลไม้ไปมาเยี่ยมหยางหยางและขอโทษเขา”“ยังไงก็ยังเป็นญาติกัน เรื่องนี้พวกเราจะไม่ถือที่พวกคุณต้องรับผิดชอบที่ทำลายข้าวของในบ้านฉันมากมายขนาดนี้ พวกคุณอย่าถามหาความรับผิดชอบผิดจากลูกชายฉันอีกเลย มันเป็นธรรมดาที่เด็กๆ จะเล่นกัน แต่ถ้าพวกเราซึ่งเป็นผู้ใหญ่เข้ามาแทรกแซงจะไม่ดี”“นอกจากนี้ เสี่ยวเป่ายังบอกว่าเป็นหยางหยางที่ตีเขา ดังนั้นเหรินหมิงซึ่งเป็นพี่ชายก็ต้องปกป้องน้องชายของเขาตามสัญชาตญาณ เช่นเดียวกับที่คุณกำลังปกป้องพี่คุณตอนนี้”ไห่ตงเยาะเย้ยและพูดว่า "โจวหงอิง หล่อนตาบอดเหรอ? ใครคือคนที่ลงมือก่อน กล้องวงจรปิดของหล่อนบันทึกภาพไว้หมดแล้ว และมันเห็นความจริงชัดเจน"โจวหงหยิงอึกอักไม่มีประโยชน์ที่จะด่าสาปสามีอีกครั้งในใจ ที่ไม่ไ
เมื่อถูกพ่อของเธอจ้อง เธอก็ไม่กล้าพูดอะไรต่อ แต่ขยิบตาให้น้องชายของเธออย่างสิ้นหวังโจวหงหลินได้รับสายตาขอความช่วยเหลือจากพี่สาว จึงกระแอมในลำคอ และพูดกับไห่ถงว่า"ไห่ถง แค่ให้พี่ฉันพาเหรินหมิงไปขอโทษก็พอแล้ว ฉันก็เป็นพ่อของหยางหยาง และเป็นหนึ่งในผู้ปกครองของเขา และฉันคิดว่าฉันก็มีอำนาจตัดสินใจด้วย”ไห่ถงโต้กลับ “คุณยังจำได้เหรอว่าคุณเป็นพ่อของหยางหยาง? พ่อของคนอื่น เมื่อรู้ว่าลูกชายของตัวเองถูกรังแก ก็คว้าไม้หน้าไปไปหาอีกฝ่ายเพื่อล้างแค้น”“คุณคนเป็นพ่อยังสงบสติอารมณ์ได้ขนาดนี้ คุณสนิทกับหลานชายมากกว่าลูกชายของคุณใช่ไหม?”หลังจากพูดจบ ไห่ถงพูดกับเหรินฮุยว่า "หยางหยางได้รับการรักษาแล้วจากโรงพยาบาลและได้รับการตรวจร่างกายทั้งหมด ซึ่งมีค่าใช้จ่ายหลายหมื่นบาท ฉันได้นำใบเสร็จชำระเงินของโรงพยาบาลมาด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้พวกคุณบอกว่าฉันชุบมือเปิบ "“วันนี้ที่ฉันมา เรื่องแรกต้องการให้พวกคุณพาลูกไปขอโทษและสัญญาว่าจะไม่เข้าใกล้หยางหยางอีกในอนาคต เรื่องที่สอง เรื่องค่าทำขวัญจิตใจของหยางหยางได้รับความบอบช้ำ และฉันไม่รู้จะต้องใช้เงินเท่าไหร่เพื่อรักษาบาดแผลทางใจของเขาในอนาคต”“นั่นเป็นเงินที่ยั