จ้านหยินนั่งพักอยู่ด้านนอกชั่วครู่ ก็ต้องกลับไปทำงานที่บริษัท ไห่ถงเพิ่งจะล้างเครื่องจานเสร็จแล้วออกมาพอดี เมื่อเห็นเขากำลังจะไป ก็รีบออกไปกับเขาชายหนุ่มหยิบซองเอกสารขนาดใหญ่ออกมาจากรถด้วยความรู้สึกนอยอยู่ในใจ แล้วหมุนตัวยื่นมันให้ไห่ถง ก่อนจะพูดเสียงทุ้มต่ำ "อยู่ในนี้หมดแล้ว"ไห่ถงรับหลักฐานที่โจวหงหลินนอกใจมาถือ อยากจะขอบคุณเขาอีกรอบ เมื่อสบตาดวงตาสีดำลึกล้ำของเขา ไห่ถงก็มองไปรอบๆ แต่เมื่อเห็นว่ามีคนอยู่ เธอจึงได้แต่ล้มเลิกความคิด"ขับรถดีๆค่ะ ถึงบริษัทแล้วส่งข้อความมาบอกฉันหน่อย ฉันจะได้รู้ว่าคุณปลอดภัยดี"จ้านหยินเม้มปาก ก่อนจะตอบรับเสียงทุ้มต่ำเมื่อขึ้นรถ เขาก็ยังไม่วายมองเธอด้วยความลึกซึ้งต่ออีกหน่อย แล้วจึงขับรถออกไปไห่ถงยืนมองรถของเขาแล่นออกไปไกลอยู่ที่เดิม แล้วก็รู้สึกว่าระหว่างพวกเขาสองคนอยู่ๆก็เกิดความแปลกๆราวกับว่ามีความรักกุ๊กกิ๊กเกิดขึ้นอะไรแบบนั้นบางที เธออาจจะไม่ต้องหดหัวอยู่ในกระดอง สามารถยื่นหัวออกไปอีกสักครั้ง แล้วลองสัมผัสกับรสชาติของความรักดูสักหน่อยสัญญาครึ่งปียังไม่ครบสักหน่อย ยังมีโอกาสอยู่พอคิดแบบนี้ ไห่ถงก็ล้วงโทรศัพท์ออกมา แล้วส่งข้อความหาจ้า
ไห่หลิงกัดฟันแน่น ไม่ยอมให้ตัวเองร้องไห้ออกมาอีกเด็ดขาดเธอเคยร้องไห้เพราะโจวหงหลินมาแล้วไม่อยากต้องเสียน้ำตาเพราะเขาอีกอีกทั้งน้ำตาของเธอไม่อาจแลกมาด้วยความเห็นใจจากเขา แล้วจะร้องไห้ให้ปวดตาไปทำไม?"พี่ไม่เป็นไร"ไห่หลิงยัดของพวกนั้นคืนใส่ซองเอกสาร แล้วแสร้งทำเป็นพูดด้วยความเข้มแข็ง "สภาพจิตใจของพี่ตอนนี้ดีมากแล้ว ใช่ว่าเพิ่งจะรู้ตอนนี้สักหน่อยว่าเขาแทงข้างหลังพี่""ถงถง"ไห่หลิงส่งซองเอกสารขนาดใหญ่ให้น้องสาว "เธอช่วยพี่เก็บหลักฐานพวกนี้ที ถ้าพี่เอากลับบ้านแล้ว แล้วเขาเกิดมาเห็นเข้า เกิดเขาโอนทรัพย์สินขึ้นมา พี่จะเสียเปรียบ""โอเค"ไห่ถงรับซองเอกสารขนาดใหญ่มาไห่หลิงพูดด้วยน้ำเสียงสงบ "พี่จะแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องตามที่เธอบอก รอจนงานของพี่นิ่งดีแล้ว พี่ค่อยพูดเรื่องหย่า อะไรที่ควรเป็นของพี่ พี่จะแย่งชิงมาให้หมด ไม่ยอมให้เขาเอาเปรียบได้แน่!"หลังจากแต่งงาน เธอก็ไม่ได้ทำงานอีก แต่เธอทุ่มเทเพื่อครอบครัวมากเกินไป หลังจากแต่งงาน รายได้ของโจวหงหลินถูกนับเป็นทรัพย์สินร่วมกันของสามีภรรยา เธอจะแย่งชิงเงินเก็บของเขามา ทำให้เขาโมโหจนเป็นบ้าไปเลย!อีกอย่าง ค่าตกแต่งภายในบ้านที่พวกเข
"น้องสาวฉันไม่ได้ติดหนี้อะไรคุณ แม่กับพี่คุณอยากกิน ทำไมต้องให้น้องฉันจ่าย? โจวหงหลินหลังแต่งงานสามปีมานี้ ฉันไม่ได้ทำงานหาเงิน แต่ฉันก็ทุ่มเทเพื่อครอบครัวแล้วเหมือนกัน ถ้าไม่ได้ฉันคอยซัพพอร์ตอยู่เบื้องหลัง จนคุณไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง การงานของคุณจะดีขนมาอย่างทุกวันนี้หรอ?""ถ้าคุณไม่โอนเงินมา ฉันก็จะไม่ไปซื้อ แล้วถ้าคุณโอนเงินมา ต้องรวมค่าแรงมาด้วย อย่างที่คุณพูดพวกเราแชร์กันคนละครึ่ง นั่นเป็นแม่กับพี่สาวของคุณ ฉันไม่ได้มีหน้าที่ต้องทำอาหารให้พวกเขากิน ถ้าคุณจะให้ฉันทำก็ต้องจ่ายค่าแรงมา""เห็นแก่ความเป็นสามีภรรยากันมาสามปี ฉันจะเก็บค่าแรงแค่หนึ่งพันแล้วกัน"โจวหงหลินด่าผ่านโทรศัพท์ "เธอมันก็ดีแต่ใช้เงินกับกิน ดูสภาพตัวเองซิกินจนอ้วนเป็นหมูแบบนี้ เธอทุ่มเทอะไรให้ครอบครัวไม่ทราบ? ฉันไม่เห็นเธอจะทำอะไรสักอย่าง ที่ฉันประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานอย่างทุกวันนี้ได้ก็เป็นผลจากความพยายามของฉันทั้งนั้น อย่ามาแย่งเอาความดีความชอบไปหน้าตาเฉย""แล้วยังจะคิดค่าแรงอะไร? แม่ฉันไม่ใช่แม่เธอหรอ? มีลูกสะใภ้ที่ไหนจะทำกับข้าวให้แม่ผัวกินแล้วเก็บค่าแรง? พูดออกไปก็มีแต่จะโดนคนเขานินทาให้ขายหน้า""ไม
โจวหงอิงที่ตามไห่หลิงถึงสองครั้ง แต่ไห่หลิงก็ยังไม่กลับมาก็โมโหจนกดตัดสาย จากนั้นพูดกับแม่ว่า "แม่ ไห่หลิงอยู่ที่ร้านน้องสาว บอกหยางหยางหลับอยู่ จะรอจนหยางหยางตื่นค่อยกลับมา บอกให้เราไปเอากุญแจที่นั่น"แม่โจวขมวดคิ้ว พูดอย่างไม่พอใจ "หยางหยางหลับ ก็อุ้มหยางหยางกลับมาสิ ไห่ถงก็มีรถ จะขับมาส่งสองแม่ลูกก็ไม่ได้ใช้เวลาอะไรมากมาย"รู้สึกว่าลูกสะใภ้ตั้งใจ ตั้งใจจะให้พวกเธอสองแม่ลูกต้องรออยู่หน้าบ้าน"เธอตั้งใจล่ะสิไม่ว่า อยากจะให้พวกเราสองคนรอเธออยู่ตรงนี้"โจวหงอิงเองก็คิดแบบนั้น"ก่อนหน้านี้แม่ก็เคยลองแกล้งลืมกุญแจ ถ้าเธอไม่อยู่บ้าน โทรเรียกครั้งเดี๋ยวไห่หลิงก็วิ่งแจ้นกลับมาเปิดให้แล้ว มีอย่างครั้งนี้ที่ไหน ปล่อยให้พวกเรารอนานขนาดนี้ แม่ ฉันว่าผัวเมียคู่นี้ทะเลาะกันใหญ่โตเสร็จ ไห่หลิงก็เลยมีท่าทีเปลี่ยนไห"แม่โจวตอบรับ "คงงั้น"โจวหงอิงด่าทอ "ครั้งก่อนไห่หลิงตบหงหลินจนสภาพยับเยิน ไม่ยอมไปรับหงหลินกลับบ้าน ต้องให้พวกเราไปเกลี้ยกล่อมหงหลินกลับมาเอง เราเห็นแก่หยางหยางหรอก ถ้าไม่ใช่เพราะหยางหยาง คงให้หงหลินไล่แม่นั่นออกไปแล้ว""บ้านเป็นของหงหลิน ถ้ากล้ายั่วโมโหเรา จะให้หงหลินไล่ตะเพิดไ
ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อแม่ช่วยเลี้ยงลูก คอยไปรับไปส่งให้ ส่วนไห่หลิงไม่มีคนช่วยเลี้ยง ต้องอยู่บ้านทำหน้าที่แม่บ้านมาตลอด ไหนจะไม่มีรายได้ ถึงได้ถูกครอบครัวของพวกเขาเหยียบย่ำไม่มีชิ้นดีสองแม่ลูกยังคอรอต่อไปอีกครู่ใหญ่ ไห่หลิงถึงได้พาลูกกลับมา ส่วนคนที่เดินตามหลังสองแม่ลูกคือไห่ถงในมือของไห่ถงยังหิ้วถุงอาหารทะเลที่เพิ่งซื้อมาจากตลาดตอนที่สองแม่ลูกครอบครัวโจวเห็นไห่หลิง ก็อยากจะด่าตามสัญชาตญาณ แต่เมื่อเห็นไห่ถงที่เดินตามอยู่ด้านหลัง สองแม่ลูกจึงกลืนคำที่อยากจะด่าลงท้องไปหลังจากจบความรุนแรงในครอบครัวครั้งก่อน สองแม่ลูกครอบครัวโจวเคยไปหาไห่ถง กลายเป็นว่าถูกไห่ถงวีนหนักจนต้องเผ่นแน่บออกมา จากนั้นจึงเกิดความหวั่นเกรงในตัวไห่ถง"หยางหยาง"แม่โจวยิ้มตาหยีเดินขึ้นหน้ามาอย่างรวดเร็ว แล้วอุ้มโจวหยางขึ้นมาจากรถเข็นเด็ก"หยางหยาง ย่าคิดถึงหลานที่สุดเลย"แม่โจวอุ้มเด็กน้อยพลางอุ้มแก้มทั้งสองข้างอย่างหนัก"คุณย่าฮับ"หลังจากที่หยางหยางถูกหอมแก้มหลายครั้ง ก็ยกมือขึ้นเช็ดบริเวณที่ถูกคุณย่าจุ๊บไป จากนั้นก็เอ่ยทักโจวหงอิงหยิกแก้มของหยางหยาง แล้วพูดยิ้มๆ "ไม่เจอกันแป๊บเดียว หยางหยางแก้มตุ้ยเชียว
ได้ยินแบบนั้น โจวหงอิงก็เตรียมจะร่ายยาวใส่ไห่หลิง แต่แม่ดึงเสื้อเป็นการปรามเอาไว้ก่อน เธอจึงค่อยๆดับไฟร้อนที่คุกรุ่นไห่ถงช่วยพี่สาวเข็นรถเข็นเด็เข้าไปในบ้านเมื่อกี้ได้ยินโจวหงอิงพูดว่าพี่ของเธอเองก็ควรออกเงินพันห้าเพื่อซื้ออาหารทะเล ไห่ถงก็โมโหจนแค่นหัวเราะออกมาไม่เคยเจอคนพิลึกขนาดนี้มาก่อนเลย"แม่"หลังจากโจวหงอิงรอให้สองพี่น้องเข้าบ้านไปแล้ว ก็กระซิบกับแม่ว่า "ทำไมไม่ให้หนูด่านางให้หน้าหงาย! กินก็กินเงินน้อง อยู่ก็อยู่บ้านของน้อง ใช้จ่ายอะไรก็ใช้เงินของน้อง พวกเรามากินข้าว ยังจะแบ่งกับหงหลินทุกบาททุกสตางค์ขนาดนั้นอีก""ตอนนี้น้องแกกับไห่หลิงแชร์กันคนละครึ่ง พวกเราเป็นคนในครอบครัวของหงหลิน มากินข้าวที่นี่ ไห่หลิงจะแบ่งค่าใช้จ่ายแบบนี้ก็สอดคล้องกับการหารของพวกเขา แกไปด่าให้เธอโมโหขึ้นมา เธอจะช่วยไปรับไปส่งลูก ทำกับข้าวให้ลูกแกกินอีกหรอ?"โจวหงอิงตระหนักถึงจุดประสงค์หลักที่มาที่นี่ ก็คลายความโมโหแต่ก็ยังไม่วายบ่นอุบอิบ รู้สึกว่าน้องชายมีเมียก็เหมือนไม่มี รู้สึกว่าไห่หลิงไม่เห็นหัวแม่กับพี่สาวสามีมากเกินไปแล้ว"ถงถง เด็กใกล้จะเลิกเรียนแล้ว รีบกลับไปทำงานที่ร้านเถอะ ที่นี่พี่
และไม่หยุดแค่ของเล่นหนึ่งกล่องไม่นาน พื้นในห้องรับแขกก็เต็มไปด้วยของเล่นเต็มบริเวณโจวหงอิงไม่ชอบที่เละเทอะไปหมด ก็ตะโกน "ไห่หลิง ออกมาเก็บกวาดห้องรับแขกหน่อย หยางหยางเทของเล่นเต็มพื้นไปหมด"ไห่หลิงเดินมาที่หน้าประตูห้องครัว เมื่อดูสถานการณ์ในห้องรับแขกแล้ว ก็ว่า "ให้หยางหยางเล่นแปบนึง อีกเดี๋ยวค่อยเก็บ"จากนั้นก็กลับเข้าห้องครัวไปทำอาหารต่อหยางหยางอยู่ในวัยที่กำลังซน เล่นของเล่นได้แปบนึง ก็ไปเล่นอย่างอื่นต่ออีก เอาเป็นว่าทำจนห้องรับแขกเละตุ้มเป๊ะโจวหงอิงขมวดคิ้ว เดินมาถึงหน้าประตูห้องครัว ยืนพิงประตูพร้อมกับถามไห่หลิง "ไห่หลิง เธอให้อะไรน้องสาวกลับไป? ถุงใหญ่ขนาดนั้น ไม่ใช่ว่าเอาของที่หงหลินซื้อเข้าบ้านมากลับไปนะ""หงหลินทำงานนอกบ้านเหนื่อยขนาดนั้นก็เพื่อครอบครัว ตอนนี้น้องสาวของเธอก็แต่งงาน มีครอบครัวเป็นของตัวเอง เธดต้องแยกแยะให้ออก ไม่ใช่ดีแต่จะเลี้ยงน้อง"ไห่หลิงหันไปจ้องเธอ พูดด้วยสีหน้าเย็นชา "ถงถงไม่ต้องการให้ฉันเลี้ยงหรอก ไม่เหมือนใครบางคน เงินที่หามาด้วยกันกับสามีตัวเองไม่อยากจะใช้ มาใช้เงินของน้องชาย อยากจะกินอะไรดีๆก็ไม่อยากเอาเงินตัวเองออก ถ่อมากเกาะน้องชายกิน"
โจวหงหลินถลึงตาใส่เธอ แล้วถาม "ฉันโอนเงินให้เธอสองพันห้าไม่ใช่หรอ?"พอได้ยินดังนั้น โจวหงอิงก็ลุกขึ้นเดินเข้ามาทันที แล้วพูดต่อคำพูดของน้องชาย "ไห่หลิง นี่เธองุบงิบเงินของหงหลินใช่ไหม ยังมีการบอกฉันว่าหงหลินให้เงินแค่พันห้า ซื้อกุ้งปูตัวใหญ่ๆไม่ได้"ไห่หลิงไม่แม้แต่เงยหน้า ป้อนข้าวให้ลูกชายต่อไป และพูดเตือนความจำโจวหงหลินอย่างไม่เดือดร้อน "ฉันบอกคุณไปแล้ว คนที่มาเป็นแม่กับพี่ของคุณ เดิมทีคุณก็ต้องเป็นคนออกเงินซื้อกับข้าวอยู่แล้ว และถ้าจะให้ฉันทำกับข้าวให้พวกเธฮกิน ก็ต้องจ่ายค่าแรงมาพันนึง""ฉันไม่ได้ติดค้างอะไรพวกคุณ จะให้มานั่งทำอาหารให้กินฟรี ไม่ได้ประโยชน์อะไรสักนิด แถมยังต้องมาโดนพวกคุณด่าทอต่อว่า"ที่ผ่านมา เธอก็ออกแรงทำงานโดยไม่หวังอะไรอยู่แล้วไม่ใช่หรอ?โจวหงหลินเงิบไปอีกครั้งโจวหงอิงเห็นสีหน้าของน้องชาย ก็รู้ว่าสิ่งที่ไห่หลิงพูดเป็นเรื่องจริง จึงกลับไปนั่งลงบนโซฟาเงียบๆแต่ก็ไม่วายตำหนิไห่หลิงอย่างไม่สบอารมณ์ขึ้นมาอีก "ไห่หลิง เธอกับหงหลินเป็นผัวเมียกันนะ จะแบ่งชัดทุกเม็ดขนาดนั้นเพื่ออะไร? อีกอย่าง ฉันกับแม่ก็เป็นครอบครัวสามีเธอ เธอแต่งเข้าบ้านโจวของเราก็เท่ากับเป็นคนขอ
"ฉันคิดว่าคุณนายลู่ถ่ายรูปคุณหนูหยูและแสดงให้พี่สาวดูโดยตั้งใจ เพื่อทดสอบว่าเธอมีความรู้สึกกับตงหมิงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ผลก็คือเธอไม่มีความคิดนั้นอย่างแน่นอน เธอไม่เคยคิดอะไรกับตงหมิงเลย ตอนนี้เธอหมกมุ่นอยู่กับร้านอาหารเช้าและต้องการเพียงแค่ประกอบอาชีพและหาเงิน"จ้านหยินก็มองไห่หลิงออกเช่นกัน"ถ้าเธอมีความคิดอะไรกับตงหมิง คุณนายลู่คงจะไม่ยอมให้เธอเปิดร้านที่นั่นต่อไป"ไห่ถงเห็นด้วยกับสิ่งที่สามีของเธอพูดคุณนายลู่กำลังทดสอบพี่สาวของเธอ พี่สาวของเธอไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่ไม่เป็นไร เธอจะได้ไม่ได้รับผลกระทบ"ที่รัก คุณคิดว่าฉันควรบอกเรื่องพวกนี้กับพี่สาวของฉันไหม?""คุณนายลู่คงทำอะไรไม่ได้ แสดงให้เห็นว่าเธอเพียงสงสัยเช่นเดียวกับเรา แต่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ คุณไม่จำเป็นต้องพูดอะไรกับพี่สาวของคุณ ฉันแค่ต้องคุยกับตงหมิงและบอกเขาว่าอย่าไปทานอาหารเช้าที่บ้านพี่สาวของเราในอนาคต"จ้านหยินบ่นให้เพื่อนๆ ฟังว่าครอบครัวของเขาไม่ได้เตรียมอาหารเช้าไว้ ลู่ตงหมิงต้องรีบไปร้านกินได้ไม่อั้นแต่เช้าเพื่อทานอาหารเช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ใช่ไหม"ตกลง"หลังจากจ้านหยินกินและดื่มจนอิ่มแล้ว ไห่ถงก็ยิ้มและถา
ไห่ถงรู้สึกโชคดีอีกครั้ง เธอได้แต่งงานกับผู้ชายที่แม้จะแสดงอาการงอแงเล็กน้อยเป็นครั้งคราว แต่เขาก็ปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดี เขาไม่เคยใช้ความรุนแรงในครอบครัวกับเธอ และเขาไม่ต้องกังวลว่าเขาจะนอกใจด้วยกุญแจสำคัญอยู่ที่การเลี้ยงดูของเขา บ้านสามีที่่ใจกว้างและมีเมตตาอย่างแม่สามีตระกูลจ้าน เป็นสิ่งที่หาได้ยากในตระกูลที่ร่ำรวยเมื่อคิดย้อนกลับไปเมื่อคุณยายจ้านบอกกับเธอว่าเธอช่วยชีวิตอีกฝ่ายไว้และจะไม่แนะนำหลานชายที่ไม่ดีให้เธอรู้จักที่จริงแล้ว หลานชายทุกคนในครอบครัวของหญิงชราอย่างเธอนั้นนั้นดีมากจ้านหยินเป็นหลานชายคนโต และหญิงชราก็เลือกที่จะจับคู่เธอกับหลานชายที่ดีที่สุด"คุณนายลู่ได้ช่วยประธานลู่หาภรรยาที่เหมาะสมแล้ว เธอคือคุณหนูหยูหยินหยิน ทั้งสาว สวย และดูเฉลียวฉลาดและมีความสามารถ เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นคนที่อยู่ในแวดวงชั้นสูงมายาวนาน ความมั่นใจและรัศมีแห่งความสง่างามที่แผ่ออกมาจากทุกการเคลื่อนไหว ท่าทางของเธอบ่งบอกว่าเธอมาจากภูมิหลังที่ร่ำรวยหรือสูงศักดิ์ นั่นสามารถทำให้คุณนายลู่ชอบเธอได้โดยไม่ต้องลำบากอะไร""ฉันรู้"จ้านหยินพูดขณะกิน "เป็นเพราะคุณนายลู่เลือกภรรยาที่เหมาะสมกับตงหมิง
"ไม่ต้องพูดถึงว่าเราทุกคนต่างก็มีสิ่งที่ต้องทำ แม้ว่าในอนาคตเราจะเกษียณ เราก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าเราจะตื่นขึ้นทุกวันและพบกันเมื่อเราลืมตาขึ้น"มีคนตื่นก่อนเสมอ และมีคนตื่นทีหลังเสมอจ้านหยินรู้ว่าเขาสร้างปัญหาโดยไม่มีเหตุผล"ป้าเหลียงบอกว่าคุณยังไม่ได้กินข้าว คุณหิวไหม ออกไปกินข้าวกันเถอะ ฉันจะอยู่กับคุณ"ไห่ถงรู้ว่าการยืดเวลาการสนทนาออกไปอาจทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่างพวกเขามากขึ้นหลีกเลี่ยงการทะเลาะเบาะแว้ง เพราะอาจทำให้ทั้งคู่โกรธกันได้"อืม"จ้านหยินพยักหน้าแล้วปล่อยภรรยาที่รักของเขาจากอ้อมแขนไห่ถงดึงเขาออกมาป้าเหลียงเตรียมอาหารเช้าของจ้านหยินไว้บนโต๊ะอาหารแล้วนายน้อยชอบทำตัวจุกจิกจู้จี้ แต่ต่อหน้านายหญิง เขามักจะต้องก้มหัวและประนีประนอมอยู่เสมอป้าเหลียงไม่กังวลเลยว่าอาหารเช้าที่เธอทำจะเสียเปล่า"ทำไมคุณไม่พาหยางหยางมาล่ะ?"จ้านหยินทานอาหารเช้ากับภรรยา และอารมณ์ของเขาก็ดีขึ้น เขาเลิกทำหน้าเย็นชาและถามถึงเจ้าตัวน้อย"พี่สาวของฉันบอกว่าวันนี้เธอจะปิดร้านเร็วและปล่อยให้หยางหยางเล่นในร้าน เธอจะพาหยางหยางกลับบ้านเร็วๆ นี้ จ้าน...ที่รัก พาหยางหยางมาอยู่ที่นี่กันเถ
"เมื่อไหร่คุณยายจะกลับมา? ฉันคิดถึงเธอมาก"ไห่ถงคิดถึงวันที่คุณยายจ้านเคยอยู่ที่นี่มากป้าเหลียงพูด: "เมื่อฉันรู้ตัวว่าต้องเตือนนายหญิง มันก็สายเกินไปเสียแล้ว คุณผลักประตูเปิดและเดินเข้าไปแล้ว"ไห่ถงถอนหายใจอีกครั้งและพูดว่า "ฉันจะไปล้างมือ"เธอล้างมือสองครั้งด้วยสบู่และกลับไปที่ห้องที่เธอเคยอยู่ เธอหยิบชุดเสื้อผ้าที่สะอาดจากตู้เสื้อผ้า เปลี่ยนชุด แล้วกลับไปที่ห้องนอนใหญ่"ที่รัก ฉันล้างมือและฆ่าเชื้อสองครั้ง ฉันยังเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีขนแมวติดตัวของฉัน"ไห่ถงเดินไปข้างหลังจ้านหยิน และขณะที่เธอพูด เธอก็เอื้อมมือไปโอบรอบเอวของเขา"ที่รัก ฉันขอโทษ ฉันลืมไปจริงๆ ว่าฉันกำลังอุ้มแมวอยู่เมื่อกี้ จริงๆ แล้วพวกมันน่ารักมาก คุณให้ฉันเลี้ยงพวกมัน และพวกมันก็มีค่าสำหรับฉันทั้งหมด คุณพูดว่า ถ้าฉันให้หญ้าคุณหนึ่งกำมือ คุณจะถือว่ามันเป็นสมบัติ ในทำนองเดียวกัน ไม่ว่าคุณจะให้อะไรกับฉัน ฉันก็จะรักมันมาก"จ้านหยินไม่หันหลังกลับและปล่อยให้เธอโอบเอวของเขาเขากล่าว: "ฉันตื่นมาแล้วไม่เห็นคุณ ฉันถามป้าเหลียงแล้วเธอก็บอกว่าคุณออกไปแต่เช้า ฉันรู้สึกเหมือนถูกคุณทิ้งเอาไว้ข้างหลัง เมื่อคุ
ไห่ถงก้มตัวลงและอุ้มแมวขึ้นมา"นายหญิง คุณไปง้อนายน้อยก่อนเถอะ นายน้อยเพิ่งตื่นและยังไม่ได้กินข้าว"ป้าเหลียงรู้สึกไร้เรี่ยวแรงเมื่อจู่ๆ นายน้อยของเธอกลายเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยถ้าเธอไม่มาทำงาน เธอคงไม่รู้ว่านายน้อยจะมีด้านที่คิดเล็กคิดน้อยเช่นนี้ไห่ถงลูบแมวแล้วถามป้าเหลียง: "ป้าเหลียง คุณต้องบอกฉันว่าทำไมเขาถึงโกรธ ฉันถึงจะง้อได้ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย"ป้าเหลียงกระซิบ: "ฉันเดาว่านายน้อยคงโกรธที่คุณออกไปข้างนอกแต่เช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ นายน้อยพักผ่อนที่บ้านและหวังว่านายหญิงจะอยู่กับเขา"ไห่ถง: "... ฉันแค่ไปช่วยงานพี่สาวของฉัน แม้ว่าจะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่โรงงานหลายแห่งไม่มีวันหยุดและยังต้องทำงาน ดังนั้นร้านอาหารเช้าของน้องสาวฉันจึงยังคงยุ่งมาก ฉันออกไปเร็วแต่ก็กลับมาเร็วเช่นกัน ฉันยังกลับมาก่อน 10 โมง"เธอไม่เคยคิดว่าจ้านหยินจะกลายเป็นคนใจแคบเพราะเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ป้าเหลียงก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเหมือนกัน"ฉันจะเข้าไปง้อเขา"ไห่ถงซึ่งรู้ดีว่าสามีของเธอเป็นคนแบบไหน เดินเข้าไปในห้องอย่างช่วยไม่ได้พร้อมกับแมวของเธอในอ้อมแขนหลังจากที่เธอผลักประตูเปิดและเข้าไป ป้าเหลียงก็จำ
ขณะที่ยุ่งอยู่ตรงนี้ จ้านหยินก็ตื่นขึ้นตามปกติ ก่อนที่เขาจะลืมตา เขาหันข้างและเหยียดแขนยาวของเขาออกไปเพื่อกอดภรรยาที่รักของเขา แต่สุดท้ายก็คว้าลมนั่นคือตอนที่เขาลืมตาขึ้นแน่ล่ะ ไห่ถงไม่อยู่ในห้องอีกต่อไปเมื่อมองดูท้องฟ้าภายนอก พระอาทิตย์กำลังขึ้นสูงจ้านหยินหันกลับมาและหยิบโทรศัพท์จากโต๊ะข้างเตียงเพื่อดูเวลา"ตอนนี้เก้าโมงแล้ว!"จู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นนั่งแม้กระทั่งในวันหยุดสุดสัปดาห์ เขาก็ไม่เคยเข้าตื่นสายขนาดนี้มาก่อนบางทีอาจเป็นเพราะว่าเขากลับบ้านดึกเมื่อคืนก่อนเขารีบอาบน้ำและเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าลำลอง โดยตั้งใจเลือกชุดที่ไห่ถงซื้อมาให้เขาเมื่อเขาเปิดประตู เขาก็เห็นป้าเหลียงกำลังนั่งอยู่บนโซฟา อุ้มแมวตัวหนึ่งไว้และดูทีวี เมื่อได้ยินเสียงประตูเปิด เธอจึงหันไปมองเขา จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนพร้อมรอยยิ้ม “นายน้อย คุณตื่นแล้ว คุณอยากกินอาหารเช้าไหม?”"ตอนนี้เก้าโมงกว่าแล้ว"จ้านหยินบ่นพึมพำขณะเดินออกไป“ถึงจะเก้าโมงกว่าแล้ว ก็ยังควรกินอะไรนะ นายหญิงได้สั่งเราไว้ก่อนที่เธอจะออกไป ให้เตือนนายน้อยว่าควรกินอาหารเช้าเมื่อเขาตื่นนอน”"นายหญิงของคุณอยู่ที่ไหน? เธอตื่นและออกไปข้างนอกตั้ง
หยูหยินหยินก็ไม่ได้โกรธเช่นกันเธอและลู่ตงหมิงรู้จักกันมาเป็นเวลานานแล้ว แต่พวกเขาแทบจะไม่ได้พูดคุยกันเลย ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าพวกเขาไม่ได้รู้จักกันดีนักเขาไม่รู้เกี่ยวกับอดีตของเธอ ก็ถือเป็นเรื่องปกติ"คุณหนูหยู นี่อาหารเช้าของคุณ"หลังจากไห่หลิงทำอาหารเช้าให้หยูหยินหยินแล้ว เธอก็เอามาวางไว้ตรงหน้าเธอ ด้วยรอยยิ้ม เธอกล่าวกับหยูหยินหยินว่า "คุณหนูหยู ทานให้อร่อยนะคะ"หยูหยินหยินตอบด้วยรอยยิ้มไห่หลิงกลับไปที่นั่งและนั่งลง"พี่ คุณเจอเธอเมื่อไหร่?"ไห่ถงกระซิบกับพี่สาวของเธอ"คุณนายลู่แวะมาวันก่อนและเข้ามานั่งคุยกับฉัน ขณะที่คุยกับฉัน เธอบอกฉันว่าเธอต้องการจับคู่คุณหนูหยูกับประธานลู่ และแสดงรูปถ่ายของคุณหนูหยูให้ฉันดู ฉันก็เลยจำเธอได้"ไห่หลิงตอบน้องสาวของเธอด้วยเสียงต่ำและกระซิบ: "เห็นไหม พวกเขาเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบ คุณหนูหยูก็ให้ความรู้สึกสบายใจมากเช่นกัน โดยไม่มีความรู้สึกห่างเหินแบบทายาทเศรษฐี"ไห่ถงมองน้องสาวอย่างละเอียด จากนั้นก้มหัวลงเพื่อกินบะหมี่และกระซิบว่า "เข้ากันได้ดีทีเดียว"ป้าเคยพูดว่าคุณนายลู่เข้ากับคนยากมากจ้านหยินก็พูดเช่นกันเนื่องจากคุณนายลู่ม
เขาไม่มีอะไรจะคุยกับไห่ถงมากนักและด้วยไห่ถงที่อยู่ที่นี่ ลู่ตงหมิงและไห่หลิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากนักลูกค้าก็เริ่มทยอยเข้ามาเพื่อกินเกี๊ยวนึ่ง ผู้ช่วยร้านเป็นคนจัดการรับออเดอร์ พนักงานจะเสิร์ฟอาหารเช้าให้พวกเขาแทนไห่หลิงซึ่งเป็นเถ้าแก่เนี้ยเองเธอสามารถนั่งลงในที่เดิมและกินบะหมี่ต่อไปได้"พี่ลู่"คำว่าพี่ลู่นั้น ทำให้ลู่ตงหมิงหมดความอยากอาหารทันทีพี่น้องไห่มองไปที่หญิงสาวสวยที่เปิดประตูกระจกและเดินเข้ามา ไห่ถงไม่เคยรู้จักหยูหยินหยิน แต่ไห่หลิงเคยเห็นภาพของหยูหยินหยิน เมื่อมองไปหยูหยินหยินที่เข้ามา เธอคิดว่าหยูหยินหยินสวยกว่าในรูปเข้ากันได้ดีกับลู่ตงหมิง"คุณหนูหยู คุณอยากทานอาหารเช้าไหม?"ไห่หลิงวางตะเกียบลงและยืนขึ้นอีกครั้งเพื่อต้อนรับแขกสายตาของหยูหยินหยินละสายตาจากลู่ตงหมิงและจ้องมองไปที่ไห่หลิง เธอเคยเห็นไห่หลิงหลายครั้งจากไกลๆ แต่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นหน้าอีกฝ่ายกับตาตัวเอง เมื่อมองดูไห่หลิงอย่างดีๆแล้ว หยูหยินหยินรู้สึกว่าไห่หลิงเป็นหญิงสาวที่สวยมาก“ฉันได้ยินมาว่าอาหารเช้าที่นี่อร่อยมาก ฉันจะทานเหมือนกับพี่ลู่ ขอบคุณ”หยูหยินหยินเดินไปที่โต๊ะของลู่ตงหมิง วางกระเ
"ตกลง"น้องของเธออยากกินบะหมี่เครื่องในหมู ไห่หลิงยังต้มบะหมี่เครื่องในหมูสองชามด้วย เธอไม่ชอบผักชี ดังนั้นจึงมีแต่ชามน้องของเธอเท่านั้นที่ใส่ผักชีในชามของเธอ"บะหมี่เสร็จแล้ว"ไห่หลิงเรียกน้อฃให้มาเอาบะหมี่ที่ปรุงแล้วไห่ถงหยุดงาน ล้างมือ แล้วเดินไปหยิบชามบะหมี่ของเธอสองพี่น้องนั่งลงที่โต๊ะ ไห่ถงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาอย่างเป็นนิสัยและเตรียมกินบะหมี่ไปพร้อมกับอ่านข่าวไปด้วย"เวลากิน อย่ามัวแต่ดูโทรศัพท์ข เก็บโทรศัพท์ของเธอลงไป"ไห่หลิงไม่ยอมให้เธอกินในขณะที่เล่นโทรศัพท์ของเธอแบบนี้"ฉันแค่จะดูมันเฉยๆ"ไห่ถงพูด แต่ก็เก็บโทรศัพท์ของเธอกลับเข้าไปในกระเป๋าอย่างเชื่อฟัง"ต่อไปนี้ กินข้าวอยู่ห้ามเล่นโทรศัพท์ไปด้วย""เข้าใจแล้ว"ต่อหน้าพี่สาวของเธอ ไห่ถงไม่กล้าที่จะดื้อรั้น นอกจากนี้ การใช้โทรศัพท์ขณะกินอาหารก็เป็นนิสัยที่ไม่ดีจริงๆ“พี่ คืนนี้พี่จะไม่ไปงานเลี้ยงกับฉันจริงๆ เหรอ”"ไม่ไป""พี่ ฉันคิดว่าคุณควรออกไปเปิดโลกบ้าง"ไห่หลิงค่อยๆ กินบะหมี่ที่เพิ่งปรุงเสร็จและร้อนมาก"ฉันไม่จำเป็นต้องไปดูโลกแล้ว ฉันยังไปไม่ถึงระดับนั้น เธอแตกต่าง เธอเป็นนายหญิงคนโตของตระกูลจ้าน เธอต้