ได้ยินแบบนั้น โจวหงอิงก็เตรียมจะร่ายยาวใส่ไห่หลิง แต่แม่ดึงเสื้อเป็นการปรามเอาไว้ก่อน เธอจึงค่อยๆดับไฟร้อนที่คุกรุ่นไห่ถงช่วยพี่สาวเข็นรถเข็นเด็เข้าไปในบ้านเมื่อกี้ได้ยินโจวหงอิงพูดว่าพี่ของเธอเองก็ควรออกเงินพันห้าเพื่อซื้ออาหารทะเล ไห่ถงก็โมโหจนแค่นหัวเราะออกมาไม่เคยเจอคนพิลึกขนาดนี้มาก่อนเลย"แม่"หลังจากโจวหงอิงรอให้สองพี่น้องเข้าบ้านไปแล้ว ก็กระซิบกับแม่ว่า "ทำไมไม่ให้หนูด่านางให้หน้าหงาย! กินก็กินเงินน้อง อยู่ก็อยู่บ้านของน้อง ใช้จ่ายอะไรก็ใช้เงินของน้อง พวกเรามากินข้าว ยังจะแบ่งกับหงหลินทุกบาททุกสตางค์ขนาดนั้นอีก""ตอนนี้น้องแกกับไห่หลิงแชร์กันคนละครึ่ง พวกเราเป็นคนในครอบครัวของหงหลิน มากินข้าวที่นี่ ไห่หลิงจะแบ่งค่าใช้จ่ายแบบนี้ก็สอดคล้องกับการหารของพวกเขา แกไปด่าให้เธอโมโหขึ้นมา เธอจะช่วยไปรับไปส่งลูก ทำกับข้าวให้ลูกแกกินอีกหรอ?"โจวหงอิงตระหนักถึงจุดประสงค์หลักที่มาที่นี่ ก็คลายความโมโหแต่ก็ยังไม่วายบ่นอุบอิบ รู้สึกว่าน้องชายมีเมียก็เหมือนไม่มี รู้สึกว่าไห่หลิงไม่เห็นหัวแม่กับพี่สาวสามีมากเกินไปแล้ว"ถงถง เด็กใกล้จะเลิกเรียนแล้ว รีบกลับไปทำงานที่ร้านเถอะ ที่นี่พี่
และไม่หยุดแค่ของเล่นหนึ่งกล่องไม่นาน พื้นในห้องรับแขกก็เต็มไปด้วยของเล่นเต็มบริเวณโจวหงอิงไม่ชอบที่เละเทอะไปหมด ก็ตะโกน "ไห่หลิง ออกมาเก็บกวาดห้องรับแขกหน่อย หยางหยางเทของเล่นเต็มพื้นไปหมด"ไห่หลิงเดินมาที่หน้าประตูห้องครัว เมื่อดูสถานการณ์ในห้องรับแขกแล้ว ก็ว่า "ให้หยางหยางเล่นแปบนึง อีกเดี๋ยวค่อยเก็บ"จากนั้นก็กลับเข้าห้องครัวไปทำอาหารต่อหยางหยางอยู่ในวัยที่กำลังซน เล่นของเล่นได้แปบนึง ก็ไปเล่นอย่างอื่นต่ออีก เอาเป็นว่าทำจนห้องรับแขกเละตุ้มเป๊ะโจวหงอิงขมวดคิ้ว เดินมาถึงหน้าประตูห้องครัว ยืนพิงประตูพร้อมกับถามไห่หลิง "ไห่หลิง เธอให้อะไรน้องสาวกลับไป? ถุงใหญ่ขนาดนั้น ไม่ใช่ว่าเอาของที่หงหลินซื้อเข้าบ้านมากลับไปนะ""หงหลินทำงานนอกบ้านเหนื่อยขนาดนั้นก็เพื่อครอบครัว ตอนนี้น้องสาวของเธอก็แต่งงาน มีครอบครัวเป็นของตัวเอง เธดต้องแยกแยะให้ออก ไม่ใช่ดีแต่จะเลี้ยงน้อง"ไห่หลิงหันไปจ้องเธอ พูดด้วยสีหน้าเย็นชา "ถงถงไม่ต้องการให้ฉันเลี้ยงหรอก ไม่เหมือนใครบางคน เงินที่หามาด้วยกันกับสามีตัวเองไม่อยากจะใช้ มาใช้เงินของน้องชาย อยากจะกินอะไรดีๆก็ไม่อยากเอาเงินตัวเองออก ถ่อมากเกาะน้องชายกิน"
โจวหงหลินถลึงตาใส่เธอ แล้วถาม "ฉันโอนเงินให้เธอสองพันห้าไม่ใช่หรอ?"พอได้ยินดังนั้น โจวหงอิงก็ลุกขึ้นเดินเข้ามาทันที แล้วพูดต่อคำพูดของน้องชาย "ไห่หลิง นี่เธองุบงิบเงินของหงหลินใช่ไหม ยังมีการบอกฉันว่าหงหลินให้เงินแค่พันห้า ซื้อกุ้งปูตัวใหญ่ๆไม่ได้"ไห่หลิงไม่แม้แต่เงยหน้า ป้อนข้าวให้ลูกชายต่อไป และพูดเตือนความจำโจวหงหลินอย่างไม่เดือดร้อน "ฉันบอกคุณไปแล้ว คนที่มาเป็นแม่กับพี่ของคุณ เดิมทีคุณก็ต้องเป็นคนออกเงินซื้อกับข้าวอยู่แล้ว และถ้าจะให้ฉันทำกับข้าวให้พวกเธฮกิน ก็ต้องจ่ายค่าแรงมาพันนึง""ฉันไม่ได้ติดค้างอะไรพวกคุณ จะให้มานั่งทำอาหารให้กินฟรี ไม่ได้ประโยชน์อะไรสักนิด แถมยังต้องมาโดนพวกคุณด่าทอต่อว่า"ที่ผ่านมา เธอก็ออกแรงทำงานโดยไม่หวังอะไรอยู่แล้วไม่ใช่หรอ?โจวหงหลินเงิบไปอีกครั้งโจวหงอิงเห็นสีหน้าของน้องชาย ก็รู้ว่าสิ่งที่ไห่หลิงพูดเป็นเรื่องจริง จึงกลับไปนั่งลงบนโซฟาเงียบๆแต่ก็ไม่วายตำหนิไห่หลิงอย่างไม่สบอารมณ์ขึ้นมาอีก "ไห่หลิง เธอกับหงหลินเป็นผัวเมียกันนะ จะแบ่งชัดทุกเม็ดขนาดนั้นเพื่ออะไร? อีกอย่าง ฉันกับแม่ก็เป็นครอบครัวสามีเธอ เธอแต่งเข้าบ้านโจวของเราก็เท่ากับเป็นคนขอ
ไห่ถงงกินด้วยความเร็วมาก ไห่ถงมักจะกินให้เสร็จก่อน แล้วจึงรีบไปรับเธอ จากนั้นให้เธอกินข้าวสำหรับฝั่งครอบครัวของสามีเธอ พวกเขาสนใจแค่เรื่องกินๆ ดื่มๆ เพื่อให้ท้องอิ่มเท่านั้น และไม่สนใจเธอทำเหมือนว่า เธอจะไม่หิวหรอก"แม่กินกุ้ง"โจวหงหลินหยิบกุ้งสองสามตัวไปให้แม่เขา แล้วร้องเรียกพี่สาว“ พี่กินเยอะๆนะ มีแต่ของพี่ชอบหมดเลย”โจวหงอิงพูดพลางกินปู: "ปูนี่ไม่ใช่ปูเนื้อ ตัวเล็กมาก ไม่มีเนื้เลย และกินไปเพื่อลดความยากแค่นั้น"แสดงท่าทางรังเกียจออกมาชัดเจนมากหลังจากที่โจวหงหลินเงียบไป ก่อนพูดว่า "คราวหน้าฉันจะพาไปเลี้ยงพวกคุณกินที่โรงแรม"“ที่โรงแรมแพงเกินไป มันไม่ง่ายเลยที่เธอจะหาเงินมาได้ คราวหน้าโอนเงินมาให้พี่แทน แล้วพี่จะซื้อไปให้ไห่หลิงทำให้เธอกิน” โจวหงอิ๋งดูเหมือนเธอจะใส่ใจน้องชาย"แบบนั้นก็ได้"โจวหงหลินคิดว่าให้เป็นหน้าที่ของไห่หลิงก็ไม่แย่ คราวหน้าหากต้องการซื้ออาหารทะเลอีก เขาก็จะให้พี่สาวไปซื้อมาแน่นอนว่า ถ้าให้พี่สาวไปซื้อมา เขาก็จะให้เงินเยอะขึ้นด้วยพี่สาวชอบอาหารกินทะเล ทุกครั้งที่มาหาเธอมักจะขอให้ทำอาหารทะเลสำหรับทุกมื้ออาหารและอาหารทะเลมีราคาแพง ดังนั้นถ้าเขาให้
เมื่อวานไห่หลิงยังผัดผักไม่เสร็จดี เลยทิ้งผักเอาไว้ครึ่งหนึ่งในตู้เย็น และก็เพียงพอสำหรับเธอที่จะกินคนเดียวนี่มันถูกซื้อด้วยเงินของเธอเอง ดังนั้นเธอไม่ยอมให้มันกับแม่ลุกสามคนนั้นโจวหงอิง:“......”นังอ้วนคนนี้ คาดไม่ถึงว่าจะเก็บอาหารส่วนของตัวเองไว้แล้ว ไม่ปล่อยให้ตัวเองหิวไห่หลิงเดินออกไปพร้อมกับอาหาร นั่งลงบนโต๊ะอาหารและเพลิดเพลินกับอาหารเย็นของเธออย่างสบาย ๆไห่ถงกังวลว่าพี่สาวเธอจะถูกกลั่นแกล้ง เธอจึงแอบมาโทรหา แล้วถามเธอว่า "พี่ พวกเขาไม่ได้รวมหัวกันแกล้งพี่ใช่ไหม?""จากวีรกรรมของพี่เธอที่ถือมีดทําครัววิ่งไล่โจวหงหลินไปห้าช่วงถนน ตอนนี้พวกเขากล้าแค่เอาปากมาต่อสู้กับฉันน่ะ เมื่อผู้หญิงไม่สนใจสามีของเธออีกต่อไป เธอก็ไม่อาจอดทนต่อพฤติกรรมที่ไร้เหตุผลทั้งหมดของเขาและครอบครัวของเขาได้อีกต่อไป"ไห่ถงโล่งใจเมื่อพี่สาวพูดอย่างนั้น "พี่กินข้าวอิ่มแล้วเหรอ?""กำลังกินอยู่ เธอกินยัง?"“ยุ่งเสร็จแล้วค่อยกิน พี่ ฉันไปทำงานก่อน”"อืม"ไห่หลิงรู้ว่าพี่สาวเธอยุ่งมากในตอนนี้หลังจากวางสายกับน้องสาวแล้ว เธอก็กินข้าวต่อเมื่อโจวหงอิงล้างจานเสร็จและเดินออกมาจากครัว ไห่หลิงก็กินอิ่มพอดี
ในใจของโจวหงอิงว่าเธอกำลังทำสิ่งที่ผิดจรรยาบรรณไม่ว่าผู้หญิงจะมีเรียนสูงแค่ไหน เมื่อแต่งงาน มีลูก ติดอยู่ในความสัมพันธ์ของการแต่งงาน ก็จะติดอยู่ในความรู้สึก และกลายเป็นคนที่โกรธได้ง่าย“พี่ ฉันบอกเธอแล้ว แต่เธอไม่ช่วย”ตอนนี้โจวหงหลินไม่กล้าแบกหน้า เพื่อรับปากอีกแล้วตั้งแต่เหตุการณ์ความรุนแรงในครอบครัวก่อนหน้านี้ ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่ก็ไม่เคยกลับมาเหมือนแต่ก่อนเขามีเย่เจียนีแล้ว เแค่ต้องโอ๋คนรักของเขาที่อยู่นอกบ้าน ดังนั้นเขาขี้เกียจเกินกว่าที่จะใช้เวลาเพื่อโอ๋เมียที่บ้านอีกไห่หลิงก็ดื้อรั้นเช่นกัน ก่อนหน้านี้เขาจะก้มหัวไปแล้ว แต่รอบนี้เขาปฏิเสธที่จะก้มหัวอีกดังนั้นทั้งคู่จึงยังเมินเฉยกันอยู่เช่นนี้อาศับอยู่ด้วยกัน นอนแยกห้อง ต่างใช้ชีวิตของตัวเอง ทั้งสองไม่อยากพูดคุยกันด้วยซ้ำ ยกเว้นเรื่องของลูก“เธอปฏิเสธที่จะช่วยเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างนั้นเหรอ? ไม่ใช่ว่าฉันขอให้เธอช่วยเปล่าๆ ซะหน่อย ฉันให้เงินเธออีกเดือนละ5000 บาทด้วยซ้ำ ตอนนี้เธอไม่มีแหล่งรายได้แล้ว 5000 บาทนี้ก็ถือว่ามากแล้วสำหรับเธอ”ถ้าไม่ใช่เพราะน้องชายและภรรยาเคยทะเลาะกัน เธอคงไปหาเรื่องทะเลาะแล้ว แต่เพื่อ
เสียงของโจวหงอิงยิ่งพูดเบาลง: "เธอใช้เงินนิดๆ หน่อยๆ เพื่อซื้อของขวัญเล็กๆ ให้กับเธอ และเกลี้ยกล่อมเธอหน่อน แล้วทุกอย่างจะคลี่คลายเอง"“ไม่ว่ายังไง เธอก็เป็นแม่ที่ให้กำเนิดขอหยางหยาง เพื่อเห็นแก่ หยางหยาง และเพื่อเห็นแก่หลานชายและหลานสาวที่ต้องการใครสักคนมาดูแลพวกเขานั้น เธอต้องยอมลดทิฐิลงและเกลี้ยกล่อมเธอ สุภาพบุรุษสามารถที่งอได้และยืดหยุ่นได้ "แม่โจวก็เข้ามาด้วย เพิ่มเติมคำพูดของลูกสาว และกระซิบกับลูกชาย: "หงลิน เพื่อเห็นแก่หยางหยาง แกสองคนยังต้องอยู่ต่อด้วยกันต่อไป เชื่อฟังพี่สาวแกนะ ซื้อของขวัญไปให้ไห่หลิงและ เกลี้ยกล่อมเธอซะ”“ลองคิดดูว่า เมื่อก่อนเธอดูแลแกได้ดีขนาดไหน แล้วตอนนี้แกเป็นยังไงบ้าง? มันจะไม่เสียเปรียบอะไรหรอกหากแกยอมลดทิฐิลง”คราวนี้แม่เข้ามาออกหน้า เพราะห็นว่าลูกชายไม่สามารถทำตัวเป็นหัวหน้าครอบครัวได้ และสั่งลูกสะใภ้ไม่ได้อีกต่อไป ก็รู้สึกเจ็บใจกับลูกชายมากแต่ทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากการยุยงตัวเธอและลูกสาวหากพวกเขาไม่ได้ยุยงให้ลูกชายและไห่หลิงใช้วิธีการ AA ไห่หลิงก็จะแข็งกระด้างและจุกจิกมาก“เอางี้ไหม แม่กับพ่อก็มาที่นี่ด้วย มาอยู่ที่นี่กับแก และช่วยรับและส่งเด
จากนั้นเขาก็พูดกับแม่อีกครั้งว่า “ตอนแม่กับพี่ไปชอปปิ้ง ถ้าเห็นอะไรถูกใจก็ซื้อมาเลย”เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา เปิด WeChat แล้วโอนเงิน 25,000 บาทให้แม่เพื่อที่จะได้ไปชอปปิ้ง“อืม แม่กับพี่อีกสักพักจะไปชอปปิ้งกัน และซื้อเสื้อผ้าใหม่ แกรับไปทำงานเร็ว ๆ และอย่าลืมกลับมาบ้านเร็วๆ ด้วยหลังเลิกงาน”แม่ขโจวส่งลูกชายออกไป ขยิบตาให้และเตือนให้ว่าอย่าลืมซื้อของขวัญให้ไห่หลิงหลังเลิกงานด้วยไห่หลิงเข็นรถเข็นเด็ก อุ้มลูกชายขึ้นมานั่งบนรถเข็นแล้วพูดอย่างใจเย็น: "ฉันจะพาหยางหยางไปเดินเล่นข้างล่าง""ไปเถอะ"แม่โจวยิ้มด้วยความรักไห่หลิงพยายามตั้งสติแม่สามีทำหน้าตาแบบนี้ ต้องมีเรื่องพยายามหลอกเธอแน่ ๆ พูดให้ถูกคือแม่กับพี่สะใภ้มีเรื่องต้องรบกวนเธออีกใช่ไหม?ไม่ว่าพวกเขาจะร้องขออะไร เธอก็จะไม่ยอมตกลงเมื่อคิดเช่นนี้ ไห่หลิงก็ขี้เกียจเกินกว่าจะคุยกับพวกเขาอีก จึงเข็นลูกชายออกไปในอีกด้านหนึ่ง ไห่ถงทำงานเสร็จแล้วและทานอาหารเย็นแล้ว เซินเสี่ยวจวินกลับบ้านไป ตอนนี้เธอกำลังแพ็คไหมพรมถักเข้ากล่องพัสดุ และโทรหาไปรษณีย์ เพื่อให้ส่งคนมารับพัสดุไปหลังจากจัดส่งไหมพรมถักที่ต้องส่งให้กับลูกค้าทั้งหมด