ไห่ถงงกินด้วยความเร็วมาก ไห่ถงมักจะกินให้เสร็จก่อน แล้วจึงรีบไปรับเธอ จากนั้นให้เธอกินข้าวสำหรับฝั่งครอบครัวของสามีเธอ พวกเขาสนใจแค่เรื่องกินๆ ดื่มๆ เพื่อให้ท้องอิ่มเท่านั้น และไม่สนใจเธอทำเหมือนว่า เธอจะไม่หิวหรอก"แม่กินกุ้ง"โจวหงหลินหยิบกุ้งสองสามตัวไปให้แม่เขา แล้วร้องเรียกพี่สาว“ พี่กินเยอะๆนะ มีแต่ของพี่ชอบหมดเลย”โจวหงอิงพูดพลางกินปู: "ปูนี่ไม่ใช่ปูเนื้อ ตัวเล็กมาก ไม่มีเนื้เลย และกินไปเพื่อลดความยากแค่นั้น"แสดงท่าทางรังเกียจออกมาชัดเจนมากหลังจากที่โจวหงหลินเงียบไป ก่อนพูดว่า "คราวหน้าฉันจะพาไปเลี้ยงพวกคุณกินที่โรงแรม"“ที่โรงแรมแพงเกินไป มันไม่ง่ายเลยที่เธอจะหาเงินมาได้ คราวหน้าโอนเงินมาให้พี่แทน แล้วพี่จะซื้อไปให้ไห่หลิงทำให้เธอกิน” โจวหงอิ๋งดูเหมือนเธอจะใส่ใจน้องชาย"แบบนั้นก็ได้"โจวหงหลินคิดว่าให้เป็นหน้าที่ของไห่หลิงก็ไม่แย่ คราวหน้าหากต้องการซื้ออาหารทะเลอีก เขาก็จะให้พี่สาวไปซื้อมาแน่นอนว่า ถ้าให้พี่สาวไปซื้อมา เขาก็จะให้เงินเยอะขึ้นด้วยพี่สาวชอบอาหารกินทะเล ทุกครั้งที่มาหาเธอมักจะขอให้ทำอาหารทะเลสำหรับทุกมื้ออาหารและอาหารทะเลมีราคาแพง ดังนั้นถ้าเขาให้
เมื่อวานไห่หลิงยังผัดผักไม่เสร็จดี เลยทิ้งผักเอาไว้ครึ่งหนึ่งในตู้เย็น และก็เพียงพอสำหรับเธอที่จะกินคนเดียวนี่มันถูกซื้อด้วยเงินของเธอเอง ดังนั้นเธอไม่ยอมให้มันกับแม่ลุกสามคนนั้นโจวหงอิง:“......”นังอ้วนคนนี้ คาดไม่ถึงว่าจะเก็บอาหารส่วนของตัวเองไว้แล้ว ไม่ปล่อยให้ตัวเองหิวไห่หลิงเดินออกไปพร้อมกับอาหาร นั่งลงบนโต๊ะอาหารและเพลิดเพลินกับอาหารเย็นของเธออย่างสบาย ๆไห่ถงกังวลว่าพี่สาวเธอจะถูกกลั่นแกล้ง เธอจึงแอบมาโทรหา แล้วถามเธอว่า "พี่ พวกเขาไม่ได้รวมหัวกันแกล้งพี่ใช่ไหม?""จากวีรกรรมของพี่เธอที่ถือมีดทําครัววิ่งไล่โจวหงหลินไปห้าช่วงถนน ตอนนี้พวกเขากล้าแค่เอาปากมาต่อสู้กับฉันน่ะ เมื่อผู้หญิงไม่สนใจสามีของเธออีกต่อไป เธอก็ไม่อาจอดทนต่อพฤติกรรมที่ไร้เหตุผลทั้งหมดของเขาและครอบครัวของเขาได้อีกต่อไป"ไห่ถงโล่งใจเมื่อพี่สาวพูดอย่างนั้น "พี่กินข้าวอิ่มแล้วเหรอ?""กำลังกินอยู่ เธอกินยัง?"“ยุ่งเสร็จแล้วค่อยกิน พี่ ฉันไปทำงานก่อน”"อืม"ไห่หลิงรู้ว่าพี่สาวเธอยุ่งมากในตอนนี้หลังจากวางสายกับน้องสาวแล้ว เธอก็กินข้าวต่อเมื่อโจวหงอิงล้างจานเสร็จและเดินออกมาจากครัว ไห่หลิงก็กินอิ่มพอดี
ในใจของโจวหงอิงว่าเธอกำลังทำสิ่งที่ผิดจรรยาบรรณไม่ว่าผู้หญิงจะมีเรียนสูงแค่ไหน เมื่อแต่งงาน มีลูก ติดอยู่ในความสัมพันธ์ของการแต่งงาน ก็จะติดอยู่ในความรู้สึก และกลายเป็นคนที่โกรธได้ง่าย“พี่ ฉันบอกเธอแล้ว แต่เธอไม่ช่วย”ตอนนี้โจวหงหลินไม่กล้าแบกหน้า เพื่อรับปากอีกแล้วตั้งแต่เหตุการณ์ความรุนแรงในครอบครัวก่อนหน้านี้ ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่ก็ไม่เคยกลับมาเหมือนแต่ก่อนเขามีเย่เจียนีแล้ว เแค่ต้องโอ๋คนรักของเขาที่อยู่นอกบ้าน ดังนั้นเขาขี้เกียจเกินกว่าที่จะใช้เวลาเพื่อโอ๋เมียที่บ้านอีกไห่หลิงก็ดื้อรั้นเช่นกัน ก่อนหน้านี้เขาจะก้มหัวไปแล้ว แต่รอบนี้เขาปฏิเสธที่จะก้มหัวอีกดังนั้นทั้งคู่จึงยังเมินเฉยกันอยู่เช่นนี้อาศับอยู่ด้วยกัน นอนแยกห้อง ต่างใช้ชีวิตของตัวเอง ทั้งสองไม่อยากพูดคุยกันด้วยซ้ำ ยกเว้นเรื่องของลูก“เธอปฏิเสธที่จะช่วยเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างนั้นเหรอ? ไม่ใช่ว่าฉันขอให้เธอช่วยเปล่าๆ ซะหน่อย ฉันให้เงินเธออีกเดือนละ5000 บาทด้วยซ้ำ ตอนนี้เธอไม่มีแหล่งรายได้แล้ว 5000 บาทนี้ก็ถือว่ามากแล้วสำหรับเธอ”ถ้าไม่ใช่เพราะน้องชายและภรรยาเคยทะเลาะกัน เธอคงไปหาเรื่องทะเลาะแล้ว แต่เพื่อ
เสียงของโจวหงอิงยิ่งพูดเบาลง: "เธอใช้เงินนิดๆ หน่อยๆ เพื่อซื้อของขวัญเล็กๆ ให้กับเธอ และเกลี้ยกล่อมเธอหน่อน แล้วทุกอย่างจะคลี่คลายเอง"“ไม่ว่ายังไง เธอก็เป็นแม่ที่ให้กำเนิดขอหยางหยาง เพื่อเห็นแก่ หยางหยาง และเพื่อเห็นแก่หลานชายและหลานสาวที่ต้องการใครสักคนมาดูแลพวกเขานั้น เธอต้องยอมลดทิฐิลงและเกลี้ยกล่อมเธอ สุภาพบุรุษสามารถที่งอได้และยืดหยุ่นได้ "แม่โจวก็เข้ามาด้วย เพิ่มเติมคำพูดของลูกสาว และกระซิบกับลูกชาย: "หงลิน เพื่อเห็นแก่หยางหยาง แกสองคนยังต้องอยู่ต่อด้วยกันต่อไป เชื่อฟังพี่สาวแกนะ ซื้อของขวัญไปให้ไห่หลิงและ เกลี้ยกล่อมเธอซะ”“ลองคิดดูว่า เมื่อก่อนเธอดูแลแกได้ดีขนาดไหน แล้วตอนนี้แกเป็นยังไงบ้าง? มันจะไม่เสียเปรียบอะไรหรอกหากแกยอมลดทิฐิลง”คราวนี้แม่เข้ามาออกหน้า เพราะห็นว่าลูกชายไม่สามารถทำตัวเป็นหัวหน้าครอบครัวได้ และสั่งลูกสะใภ้ไม่ได้อีกต่อไป ก็รู้สึกเจ็บใจกับลูกชายมากแต่ทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากการยุยงตัวเธอและลูกสาวหากพวกเขาไม่ได้ยุยงให้ลูกชายและไห่หลิงใช้วิธีการ AA ไห่หลิงก็จะแข็งกระด้างและจุกจิกมาก“เอางี้ไหม แม่กับพ่อก็มาที่นี่ด้วย มาอยู่ที่นี่กับแก และช่วยรับและส่งเด
จากนั้นเขาก็พูดกับแม่อีกครั้งว่า “ตอนแม่กับพี่ไปชอปปิ้ง ถ้าเห็นอะไรถูกใจก็ซื้อมาเลย”เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา เปิด WeChat แล้วโอนเงิน 25,000 บาทให้แม่เพื่อที่จะได้ไปชอปปิ้ง“อืม แม่กับพี่อีกสักพักจะไปชอปปิ้งกัน และซื้อเสื้อผ้าใหม่ แกรับไปทำงานเร็ว ๆ และอย่าลืมกลับมาบ้านเร็วๆ ด้วยหลังเลิกงาน”แม่ขโจวส่งลูกชายออกไป ขยิบตาให้และเตือนให้ว่าอย่าลืมซื้อของขวัญให้ไห่หลิงหลังเลิกงานด้วยไห่หลิงเข็นรถเข็นเด็ก อุ้มลูกชายขึ้นมานั่งบนรถเข็นแล้วพูดอย่างใจเย็น: "ฉันจะพาหยางหยางไปเดินเล่นข้างล่าง""ไปเถอะ"แม่โจวยิ้มด้วยความรักไห่หลิงพยายามตั้งสติแม่สามีทำหน้าตาแบบนี้ ต้องมีเรื่องพยายามหลอกเธอแน่ ๆ พูดให้ถูกคือแม่กับพี่สะใภ้มีเรื่องต้องรบกวนเธออีกใช่ไหม?ไม่ว่าพวกเขาจะร้องขออะไร เธอก็จะไม่ยอมตกลงเมื่อคิดเช่นนี้ ไห่หลิงก็ขี้เกียจเกินกว่าจะคุยกับพวกเขาอีก จึงเข็นลูกชายออกไปในอีกด้านหนึ่ง ไห่ถงทำงานเสร็จแล้วและทานอาหารเย็นแล้ว เซินเสี่ยวจวินกลับบ้านไป ตอนนี้เธอกำลังแพ็คไหมพรมถักเข้ากล่องพัสดุ และโทรหาไปรษณีย์ เพื่อให้ส่งคนมารับพัสดุไปหลังจากจัดส่งไหมพรมถักที่ต้องส่งให้กับลูกค้าทั้งหมด
ถังจวินเย่ก็หันหน้าไปมองไห่ถง ที่เดินหนีไปจากพวกเธอ "ผู้หญิงคนนั้นยิ้มให้พวกเราเหรแ? ฉันไม่รู้จักเธอ"“บางทีฉันอาจเข้าใจผิดไปเอง เธอไม่ได้ยิ้มให้พวกเรา”เพื่อนของถังจวินเย่ ไม่ได้คิดอะไรมากเกี่ยวกับเรื่องนี้เธอหันศีรษะและมองไปรอบ ๆ เมื่อเห็นว่าไห่ถงเดินออกไปแล้วจึงพูดด้วยรอยยิ้ม: "ฉันมองผิดไปจริงๆ""ผู้หญิงคนนั้นสวยมาก นิสัยก็ไม่เลว ฉันใช้สองตามองก็จําไม่ได้ว่าเธอลูกท่านหลานเธอของตระกูลไหน คิดว่าเธอรู้จักซะอีก" เพื่อน ๆ ล้อเลียนถังจุนเย่ "พวกเราเป็นเซเลบในกวนเฉิง เมื่อเห็นเธอก็ยิ้มให้ไง"ถังจวินเย่มีลูกชายสามคน คนที่มีชื่อเสียงที่สุดคือลูกชายคนโตซึ่งเป็นประธานของจ้านซื่อกรุ๊ป และมีตำแหน่งที่สำคัญที่สุดในตระกูลจ้าน รองหนือจากคุณยายจ้านผู้ชายทุกคนในตระกูลจ้านเป็นดังพญาเหยี่ยว ยกเว้นสองคนที่อายุน้อยที่สุด คนหนึ่งยังเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย และอีกคนเพิ่งโตเป็นผู้ใหญ่และไม่ถึงวัยแต่งงาน ส่วนนายน้อยอีกเจ็ดคนล้วนอยู่ในวัยที่สามารถแต่งงานได้แล้วในส่วนของตระกูลจ้าน ก็ยังเป็นผู้ชายที่ร่ำรวยที่สุดในกวนเฉิงซึ่งเป็นตระกูลที่ร่ำรวยอย่างแท้จริงใครบ้างจะไม่อยากแต่งงานกับตระกูลจ้าน แล้วกลายเป
ไห่ถงเข้าใจท่าทีของแม่สามีที่ทำเป็นไม่รู้จักเธอ และไม่ได้ใส่ใจเธอเดินกลับไปยังจุดที่เธอจอดรถไว้ ปลดล็อคประตูรถ และวางเสื้อผ้าที่เธอซื้อให้จ้านหยินไว้บนที่นั่งผู้โดยสาร จากนั้นจึงขับรถออกไปหลังจากนั้นไม่นานก็กลับมาหมิงหยวนฮวา การ์เด้น แต่จ้านหยินยังไม่กลับมา ดังนั้นเธอจึงเดินไปที่ระเบียงดอกไม้ของเธอดอกกุหลาบบานเยอะเกินไป เธอจึงนำกรรไกรมาตกแต่งกิ่งไม้มาเพื่อตัดสองสามกิ่ง เธอทำใจไม่ได้ที่จะทิ้งกิ่งไป เธอจึงนำกลับมาที่ห้องนั่งเล่น และตัดแต่งเพื่อใส่ในแจกัน"ตื๊ด ๆ ๆ ๆ..."โทรศัพท์มือถือของไห่ถงดังขึ้นเธอรับโทรศัพท์และเป็นเจ้าของร้านข้างๆ ของร้านของเธอ เธอออกไปช้อปปิ้งซื้อเสื้อผ้าให้จ้านหยิน จึงไม่สะดวกที่จะพาสัตว์เลี้ยงไปด้วย เธอจึงขอให้เจ้าของร้านข้างๆ ช่วยดูแลสัตว์เลี้ยงของเธอ“ลุงเจิ้ง หนูลืมเรื่องนี้ไปเลยค่ะ หนูขอโทษค่ะ เดี๋ยวจะไปรับพวกเขาตอนนี้ค่ะ”หากไห่ถงไม่ได้รับสาย เธอคงลืมเรื่องสัตว์เลี้ยงของเธอไปแล้วขอโทษได้ไหม เธอยุ่งมาก และเพิ่งจะเคยมีสัตว์เลี้ยง ดังนั้นจึงยังไม่ชินกับพวกมัน ก็เลยลืมเรื่องสุนัขและแมวไป“ไห่ถง ฉันจะช่วยหนูเอาพวกมันไปที่ประตูหน้าหมู่บ้านของหนูแล้ว
ลุงเจิ้งพูดเช่นนั้น ไห่ถงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากพูดว่า: "ลุงเจิ้ง ขี่รถช้าๆ นะคะ"ลุงเจิ้งมาที่นี่ด้วยรถซาเล้งลุงเจิ้งยิ้ม โบกมือให้และขี่รถซาเล้งออกไปหลังจากที่ลุงเจิ้งจากไปแล้ว ไห่ถงก็โทรหาจ้านหยิน"มีอะไร?"เสียงทุ้มต่ำของจ้านหยินตอบกลับ“คุณจ้านจะใกล้เลิกงานแล้วใช่ไหมคะ?”จ้านหยินเงียบไปสักพัก ใจของเขาเต้นรัว เธอคิดถึงเขาหรือเปล่า?ไม่ช้า จ้านหยินก็ปฏิเสธคำตอบนี้ไป เป็นไปไม่ได้ที่ไห่ถงจะคิดถึงเขาช่วงนี้เขาเป็นคนคิดมากไปหน่อย"มีอะไรหรือเปล่า?"จ้านหยินไม่ตอบออกไปตรงๆ ต้องการทราบเหตุผลว่าทำไมเธอถึงถามเขาว่า จะเลิกงานเมื่อใดก่อนจะตอบ“คือว่าฉันรีบลืมกุญแจไว้ในบ้านค่ะ และปิดประตูแล้ว ตอนนี้ฉันเข้าบ้านไม่ได้ ถ้าคุณทำงานล่วงเวลาอยู่ ฉันจะนั่งแท็กซี่ไปบริษัทของคุณเพื่อไปเอากุญแจตอนนี้ หรือถ้าใกล้จะเลิกงานแล้ว ฉันจะรออยู่ที่ประตูบ้าน”หลังจากคิดทบทวนอยู่ครู่หนึ่ง จ้านหยินก็พูดว่า "ฉันจะกลับแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องนั่งแท็กซี่มา"“โอเค งั้นฉันจะรอคุณที่ประตูบ้านค่ะ”จ้านหยินตอบอืมกลับ และวางสายโทรศัพท์หลังจากที่ซูหนานได้ยินจ้านหยินพูดแบบนั้น ก็รู้ว่าตัวเองต้องไปหารือความร่
"ฉันคิดว่าคุณนายลู่ถ่ายรูปคุณหนูหยูและแสดงให้พี่สาวดูโดยตั้งใจ เพื่อทดสอบว่าเธอมีความรู้สึกกับตงหมิงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ผลก็คือเธอไม่มีความคิดนั้นอย่างแน่นอน เธอไม่เคยคิดอะไรกับตงหมิงเลย ตอนนี้เธอหมกมุ่นอยู่กับร้านอาหารเช้าและต้องการเพียงแค่ประกอบอาชีพและหาเงิน"จ้านหยินก็มองไห่หลิงออกเช่นกัน"ถ้าเธอมีความคิดอะไรกับตงหมิง คุณนายลู่คงจะไม่ยอมให้เธอเปิดร้านที่นั่นต่อไป"ไห่ถงเห็นด้วยกับสิ่งที่สามีของเธอพูดคุณนายลู่กำลังทดสอบพี่สาวของเธอ พี่สาวของเธอไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่ไม่เป็นไร เธอจะได้ไม่ได้รับผลกระทบ"ที่รัก คุณคิดว่าฉันควรบอกเรื่องพวกนี้กับพี่สาวของฉันไหม?""คุณนายลู่คงทำอะไรไม่ได้ แสดงให้เห็นว่าเธอเพียงสงสัยเช่นเดียวกับเรา แต่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ คุณไม่จำเป็นต้องพูดอะไรกับพี่สาวของคุณ ฉันแค่ต้องคุยกับตงหมิงและบอกเขาว่าอย่าไปทานอาหารเช้าที่บ้านพี่สาวของเราในอนาคต"จ้านหยินบ่นให้เพื่อนๆ ฟังว่าครอบครัวของเขาไม่ได้เตรียมอาหารเช้าไว้ ลู่ตงหมิงต้องรีบไปร้านกินได้ไม่อั้นแต่เช้าเพื่อทานอาหารเช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ใช่ไหม"ตกลง"หลังจากจ้านหยินกินและดื่มจนอิ่มแล้ว ไห่ถงก็ยิ้มและถา
ไห่ถงรู้สึกโชคดีอีกครั้ง เธอได้แต่งงานกับผู้ชายที่แม้จะแสดงอาการงอแงเล็กน้อยเป็นครั้งคราว แต่เขาก็ปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดี เขาไม่เคยใช้ความรุนแรงในครอบครัวกับเธอ และเขาไม่ต้องกังวลว่าเขาจะนอกใจด้วยกุญแจสำคัญอยู่ที่การเลี้ยงดูของเขา บ้านสามีที่่ใจกว้างและมีเมตตาอย่างแม่สามีตระกูลจ้าน เป็นสิ่งที่หาได้ยากในตระกูลที่ร่ำรวยเมื่อคิดย้อนกลับไปเมื่อคุณยายจ้านบอกกับเธอว่าเธอช่วยชีวิตอีกฝ่ายไว้และจะไม่แนะนำหลานชายที่ไม่ดีให้เธอรู้จักที่จริงแล้ว หลานชายทุกคนในครอบครัวของหญิงชราอย่างเธอนั้นนั้นดีมากจ้านหยินเป็นหลานชายคนโต และหญิงชราก็เลือกที่จะจับคู่เธอกับหลานชายที่ดีที่สุด"คุณนายลู่ได้ช่วยประธานลู่หาภรรยาที่เหมาะสมแล้ว เธอคือคุณหนูหยูหยินหยิน ทั้งสาว สวย และดูเฉลียวฉลาดและมีความสามารถ เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นคนที่อยู่ในแวดวงชั้นสูงมายาวนาน ความมั่นใจและรัศมีแห่งความสง่างามที่แผ่ออกมาจากทุกการเคลื่อนไหว ท่าทางของเธอบ่งบอกว่าเธอมาจากภูมิหลังที่ร่ำรวยหรือสูงศักดิ์ นั่นสามารถทำให้คุณนายลู่ชอบเธอได้โดยไม่ต้องลำบากอะไร""ฉันรู้"จ้านหยินพูดขณะกิน "เป็นเพราะคุณนายลู่เลือกภรรยาที่เหมาะสมกับตงหมิง
"ไม่ต้องพูดถึงว่าเราทุกคนต่างก็มีสิ่งที่ต้องทำ แม้ว่าในอนาคตเราจะเกษียณ เราก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าเราจะตื่นขึ้นทุกวันและพบกันเมื่อเราลืมตาขึ้น"มีคนตื่นก่อนเสมอ และมีคนตื่นทีหลังเสมอจ้านหยินรู้ว่าเขาสร้างปัญหาโดยไม่มีเหตุผล"ป้าเหลียงบอกว่าคุณยังไม่ได้กินข้าว คุณหิวไหม ออกไปกินข้าวกันเถอะ ฉันจะอยู่กับคุณ"ไห่ถงรู้ว่าการยืดเวลาการสนทนาออกไปอาจทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่างพวกเขามากขึ้นหลีกเลี่ยงการทะเลาะเบาะแว้ง เพราะอาจทำให้ทั้งคู่โกรธกันได้"อืม"จ้านหยินพยักหน้าแล้วปล่อยภรรยาที่รักของเขาจากอ้อมแขนไห่ถงดึงเขาออกมาป้าเหลียงเตรียมอาหารเช้าของจ้านหยินไว้บนโต๊ะอาหารแล้วนายน้อยชอบทำตัวจุกจิกจู้จี้ แต่ต่อหน้านายหญิง เขามักจะต้องก้มหัวและประนีประนอมอยู่เสมอป้าเหลียงไม่กังวลเลยว่าอาหารเช้าที่เธอทำจะเสียเปล่า"ทำไมคุณไม่พาหยางหยางมาล่ะ?"จ้านหยินทานอาหารเช้ากับภรรยา และอารมณ์ของเขาก็ดีขึ้น เขาเลิกทำหน้าเย็นชาและถามถึงเจ้าตัวน้อย"พี่สาวของฉันบอกว่าวันนี้เธอจะปิดร้านเร็วและปล่อยให้หยางหยางเล่นในร้าน เธอจะพาหยางหยางกลับบ้านเร็วๆ นี้ จ้าน...ที่รัก พาหยางหยางมาอยู่ที่นี่กันเถ
"เมื่อไหร่คุณยายจะกลับมา? ฉันคิดถึงเธอมาก"ไห่ถงคิดถึงวันที่คุณยายจ้านเคยอยู่ที่นี่มากป้าเหลียงพูด: "เมื่อฉันรู้ตัวว่าต้องเตือนนายหญิง มันก็สายเกินไปเสียแล้ว คุณผลักประตูเปิดและเดินเข้าไปแล้ว"ไห่ถงถอนหายใจอีกครั้งและพูดว่า "ฉันจะไปล้างมือ"เธอล้างมือสองครั้งด้วยสบู่และกลับไปที่ห้องที่เธอเคยอยู่ เธอหยิบชุดเสื้อผ้าที่สะอาดจากตู้เสื้อผ้า เปลี่ยนชุด แล้วกลับไปที่ห้องนอนใหญ่"ที่รัก ฉันล้างมือและฆ่าเชื้อสองครั้ง ฉันยังเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีขนแมวติดตัวของฉัน"ไห่ถงเดินไปข้างหลังจ้านหยิน และขณะที่เธอพูด เธอก็เอื้อมมือไปโอบรอบเอวของเขา"ที่รัก ฉันขอโทษ ฉันลืมไปจริงๆ ว่าฉันกำลังอุ้มแมวอยู่เมื่อกี้ จริงๆ แล้วพวกมันน่ารักมาก คุณให้ฉันเลี้ยงพวกมัน และพวกมันก็มีค่าสำหรับฉันทั้งหมด คุณพูดว่า ถ้าฉันให้หญ้าคุณหนึ่งกำมือ คุณจะถือว่ามันเป็นสมบัติ ในทำนองเดียวกัน ไม่ว่าคุณจะให้อะไรกับฉัน ฉันก็จะรักมันมาก"จ้านหยินไม่หันหลังกลับและปล่อยให้เธอโอบเอวของเขาเขากล่าว: "ฉันตื่นมาแล้วไม่เห็นคุณ ฉันถามป้าเหลียงแล้วเธอก็บอกว่าคุณออกไปแต่เช้า ฉันรู้สึกเหมือนถูกคุณทิ้งเอาไว้ข้างหลัง เมื่อคุ
ไห่ถงก้มตัวลงและอุ้มแมวขึ้นมา"นายหญิง คุณไปง้อนายน้อยก่อนเถอะ นายน้อยเพิ่งตื่นและยังไม่ได้กินข้าว"ป้าเหลียงรู้สึกไร้เรี่ยวแรงเมื่อจู่ๆ นายน้อยของเธอกลายเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยถ้าเธอไม่มาทำงาน เธอคงไม่รู้ว่านายน้อยจะมีด้านที่คิดเล็กคิดน้อยเช่นนี้ไห่ถงลูบแมวแล้วถามป้าเหลียง: "ป้าเหลียง คุณต้องบอกฉันว่าทำไมเขาถึงโกรธ ฉันถึงจะง้อได้ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย"ป้าเหลียงกระซิบ: "ฉันเดาว่านายน้อยคงโกรธที่คุณออกไปข้างนอกแต่เช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ นายน้อยพักผ่อนที่บ้านและหวังว่านายหญิงจะอยู่กับเขา"ไห่ถง: "... ฉันแค่ไปช่วยงานพี่สาวของฉัน แม้ว่าจะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่โรงงานหลายแห่งไม่มีวันหยุดและยังต้องทำงาน ดังนั้นร้านอาหารเช้าของน้องสาวฉันจึงยังคงยุ่งมาก ฉันออกไปเร็วแต่ก็กลับมาเร็วเช่นกัน ฉันยังกลับมาก่อน 10 โมง"เธอไม่เคยคิดว่าจ้านหยินจะกลายเป็นคนใจแคบเพราะเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ป้าเหลียงก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเหมือนกัน"ฉันจะเข้าไปง้อเขา"ไห่ถงซึ่งรู้ดีว่าสามีของเธอเป็นคนแบบไหน เดินเข้าไปในห้องอย่างช่วยไม่ได้พร้อมกับแมวของเธอในอ้อมแขนหลังจากที่เธอผลักประตูเปิดและเข้าไป ป้าเหลียงก็จำ
ขณะที่ยุ่งอยู่ตรงนี้ จ้านหยินก็ตื่นขึ้นตามปกติ ก่อนที่เขาจะลืมตา เขาหันข้างและเหยียดแขนยาวของเขาออกไปเพื่อกอดภรรยาที่รักของเขา แต่สุดท้ายก็คว้าลมนั่นคือตอนที่เขาลืมตาขึ้นแน่ล่ะ ไห่ถงไม่อยู่ในห้องอีกต่อไปเมื่อมองดูท้องฟ้าภายนอก พระอาทิตย์กำลังขึ้นสูงจ้านหยินหันกลับมาและหยิบโทรศัพท์จากโต๊ะข้างเตียงเพื่อดูเวลา"ตอนนี้เก้าโมงแล้ว!"จู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นนั่งแม้กระทั่งในวันหยุดสุดสัปดาห์ เขาก็ไม่เคยเข้าตื่นสายขนาดนี้มาก่อนบางทีอาจเป็นเพราะว่าเขากลับบ้านดึกเมื่อคืนก่อนเขารีบอาบน้ำและเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าลำลอง โดยตั้งใจเลือกชุดที่ไห่ถงซื้อมาให้เขาเมื่อเขาเปิดประตู เขาก็เห็นป้าเหลียงกำลังนั่งอยู่บนโซฟา อุ้มแมวตัวหนึ่งไว้และดูทีวี เมื่อได้ยินเสียงประตูเปิด เธอจึงหันไปมองเขา จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนพร้อมรอยยิ้ม “นายน้อย คุณตื่นแล้ว คุณอยากกินอาหารเช้าไหม?”"ตอนนี้เก้าโมงกว่าแล้ว"จ้านหยินบ่นพึมพำขณะเดินออกไป“ถึงจะเก้าโมงกว่าแล้ว ก็ยังควรกินอะไรนะ นายหญิงได้สั่งเราไว้ก่อนที่เธอจะออกไป ให้เตือนนายน้อยว่าควรกินอาหารเช้าเมื่อเขาตื่นนอน”"นายหญิงของคุณอยู่ที่ไหน? เธอตื่นและออกไปข้างนอกตั้ง
หยูหยินหยินก็ไม่ได้โกรธเช่นกันเธอและลู่ตงหมิงรู้จักกันมาเป็นเวลานานแล้ว แต่พวกเขาแทบจะไม่ได้พูดคุยกันเลย ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าพวกเขาไม่ได้รู้จักกันดีนักเขาไม่รู้เกี่ยวกับอดีตของเธอ ก็ถือเป็นเรื่องปกติ"คุณหนูหยู นี่อาหารเช้าของคุณ"หลังจากไห่หลิงทำอาหารเช้าให้หยูหยินหยินแล้ว เธอก็เอามาวางไว้ตรงหน้าเธอ ด้วยรอยยิ้ม เธอกล่าวกับหยูหยินหยินว่า "คุณหนูหยู ทานให้อร่อยนะคะ"หยูหยินหยินตอบด้วยรอยยิ้มไห่หลิงกลับไปที่นั่งและนั่งลง"พี่ คุณเจอเธอเมื่อไหร่?"ไห่ถงกระซิบกับพี่สาวของเธอ"คุณนายลู่แวะมาวันก่อนและเข้ามานั่งคุยกับฉัน ขณะที่คุยกับฉัน เธอบอกฉันว่าเธอต้องการจับคู่คุณหนูหยูกับประธานลู่ และแสดงรูปถ่ายของคุณหนูหยูให้ฉันดู ฉันก็เลยจำเธอได้"ไห่หลิงตอบน้องสาวของเธอด้วยเสียงต่ำและกระซิบ: "เห็นไหม พวกเขาเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบ คุณหนูหยูก็ให้ความรู้สึกสบายใจมากเช่นกัน โดยไม่มีความรู้สึกห่างเหินแบบทายาทเศรษฐี"ไห่ถงมองน้องสาวอย่างละเอียด จากนั้นก้มหัวลงเพื่อกินบะหมี่และกระซิบว่า "เข้ากันได้ดีทีเดียว"ป้าเคยพูดว่าคุณนายลู่เข้ากับคนยากมากจ้านหยินก็พูดเช่นกันเนื่องจากคุณนายลู่ม
เขาไม่มีอะไรจะคุยกับไห่ถงมากนักและด้วยไห่ถงที่อยู่ที่นี่ ลู่ตงหมิงและไห่หลิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากนักลูกค้าก็เริ่มทยอยเข้ามาเพื่อกินเกี๊ยวนึ่ง ผู้ช่วยร้านเป็นคนจัดการรับออเดอร์ พนักงานจะเสิร์ฟอาหารเช้าให้พวกเขาแทนไห่หลิงซึ่งเป็นเถ้าแก่เนี้ยเองเธอสามารถนั่งลงในที่เดิมและกินบะหมี่ต่อไปได้"พี่ลู่"คำว่าพี่ลู่นั้น ทำให้ลู่ตงหมิงหมดความอยากอาหารทันทีพี่น้องไห่มองไปที่หญิงสาวสวยที่เปิดประตูกระจกและเดินเข้ามา ไห่ถงไม่เคยรู้จักหยูหยินหยิน แต่ไห่หลิงเคยเห็นภาพของหยูหยินหยิน เมื่อมองไปหยูหยินหยินที่เข้ามา เธอคิดว่าหยูหยินหยินสวยกว่าในรูปเข้ากันได้ดีกับลู่ตงหมิง"คุณหนูหยู คุณอยากทานอาหารเช้าไหม?"ไห่หลิงวางตะเกียบลงและยืนขึ้นอีกครั้งเพื่อต้อนรับแขกสายตาของหยูหยินหยินละสายตาจากลู่ตงหมิงและจ้องมองไปที่ไห่หลิง เธอเคยเห็นไห่หลิงหลายครั้งจากไกลๆ แต่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นหน้าอีกฝ่ายกับตาตัวเอง เมื่อมองดูไห่หลิงอย่างดีๆแล้ว หยูหยินหยินรู้สึกว่าไห่หลิงเป็นหญิงสาวที่สวยมาก“ฉันได้ยินมาว่าอาหารเช้าที่นี่อร่อยมาก ฉันจะทานเหมือนกับพี่ลู่ ขอบคุณ”หยูหยินหยินเดินไปที่โต๊ะของลู่ตงหมิง วางกระเ
"ตกลง"น้องของเธออยากกินบะหมี่เครื่องในหมู ไห่หลิงยังต้มบะหมี่เครื่องในหมูสองชามด้วย เธอไม่ชอบผักชี ดังนั้นจึงมีแต่ชามน้องของเธอเท่านั้นที่ใส่ผักชีในชามของเธอ"บะหมี่เสร็จแล้ว"ไห่หลิงเรียกน้อฃให้มาเอาบะหมี่ที่ปรุงแล้วไห่ถงหยุดงาน ล้างมือ แล้วเดินไปหยิบชามบะหมี่ของเธอสองพี่น้องนั่งลงที่โต๊ะ ไห่ถงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาอย่างเป็นนิสัยและเตรียมกินบะหมี่ไปพร้อมกับอ่านข่าวไปด้วย"เวลากิน อย่ามัวแต่ดูโทรศัพท์ข เก็บโทรศัพท์ของเธอลงไป"ไห่หลิงไม่ยอมให้เธอกินในขณะที่เล่นโทรศัพท์ของเธอแบบนี้"ฉันแค่จะดูมันเฉยๆ"ไห่ถงพูด แต่ก็เก็บโทรศัพท์ของเธอกลับเข้าไปในกระเป๋าอย่างเชื่อฟัง"ต่อไปนี้ กินข้าวอยู่ห้ามเล่นโทรศัพท์ไปด้วย""เข้าใจแล้ว"ต่อหน้าพี่สาวของเธอ ไห่ถงไม่กล้าที่จะดื้อรั้น นอกจากนี้ การใช้โทรศัพท์ขณะกินอาหารก็เป็นนิสัยที่ไม่ดีจริงๆ“พี่ คืนนี้พี่จะไม่ไปงานเลี้ยงกับฉันจริงๆ เหรอ”"ไม่ไป""พี่ ฉันคิดว่าคุณควรออกไปเปิดโลกบ้าง"ไห่หลิงค่อยๆ กินบะหมี่ที่เพิ่งปรุงเสร็จและร้อนมาก"ฉันไม่จำเป็นต้องไปดูโลกแล้ว ฉันยังไปไม่ถึงระดับนั้น เธอแตกต่าง เธอเป็นนายหญิงคนโตของตระกูลจ้าน เธอต้