“เซอร์ไพรส์คุณ”จ้านหยินถุงมาแล้วดู "เสื้อผ้าอีกแล้วเหรอ?"เขาหยิบเสื้อผ้าออกมาเพื่อดู คราวนี้ เธอใจปล้ำมากขึ้นและซื้อแบรนด์เนมให้ทั้งหมด“ฉันไม่มีประสบการณ์ในการให้ของขวัญกับผู้ชาย เลยเตรียมเซอร์ไพรส์ใหญ่ๆ ให้ไม่ได้ ก็เลยทำได้แต่เซอร์ไพรส์เล็กๆ แบบนี้ เสื้อผ้าที่ฉันให้คุณที่ดแล้วไม่แพงเลย ชุดละ 5000 กว่าบาท ครั้งนี้ฉันซื้อแบรนด์ดังให้คุณ ชุดหนึ่งราคามากกว่า 50,000 บาท”“ตอนใส่ดูเหมือนตัวจะถูกปกคลุมไปด้วยเงินอย่างนั้นแหละ นั่นไม่เซอร์ไพส์เลยเหรอ? ฉันโตขนาดนี้แล้วยังไม่เหมาะกับเสื้อผ้าแพงๆ เลย”จ้านหยินยิ้ม "ด้วยนิสัยและรายได้ของคุณ เป็นเรื่องน่าประหลาดใจจริงๆ ที่คุณยอมซื้อเสื้อผ้าราคาแพงเช่นนี้ให้ฉัน"เปรียบเทียบกับเสื้อผ้าครั้งที่แล้วที่ซื้อให้เขาไม่รู้ว่าดีกว่ากี่เท่าอืม ก็เป็นเรื่องน่าประหลาดใจจริงๆ“ขอบคุณที่ช่วยพี่ฉันรวบรวมหลักฐานการนอกใจของโจวหงหลิน”“แค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ พี่คุณก็เป็นพี่ฉันด้วย มันเป็นเรื่องปกติสำหรับฉันที่จะช่วยเหลือพี่ฉัน คุณเกรงใจเกินไปและยังซื้อเสื้อผ้าให้ฉันเป็นของขวัญแทนคำขอบคุณอีก”ไม่น่าแปลกใจเลยที่จู่ๆ ก็ซื้อเสื้อผ้าให้เขาอีก กลับกลายเป็นว่าต้
หลังจากที่แม่และลูกชายวางสายกันไปแล้ว จ้านหยินก็ขมวดคิ้วและคิดทบทวนอยู่ครู่หนึ่ง แล้วไปถามหญิงสาวที่กำลังนั่งพร้อมอุ้มลูกแมวบนเก้าอี้ชิงช้าที่ระเบียงว่า "คุณได้ไปพบกับแม่ของฉั นโดยที่ฉันไม่รู้หรือเปล่า?"ไห่ถงตกตะลึงเธอไม่ได้พูดอะไรถึงเรื่องที่ได้เจอกับแม่สามีโดยบังเอิญ แต่เขารู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?จ้านหยินออกมาและยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ดวงตาสีเข้มของเขาจับจ้องไปที่ใบหน้าที่สวยงามของเธอ แล้วถามอีกครั้ง: "วันนี้คุณเจอแม่ของฉันหรือเปล่า?"เมื่อเห็นว่าเขายังคงถือโทรศัพท์อยู่ในมือ ไห่ถงคิดว่าคงเป็นแม่สามีที่โทรมาพูดอะไรสักอย่างกับเขา จึงรีบอธิบายออกไป: "ตอนที่ฉันกำลังซื้อเสื้อผ้าให้คุณ ฉันบังเอิญไปเจอคุณแม่ ฉันอยากจะทักทายท่าน แต่บางทีคุณแม่อาจจะจำฉันไม่ได้ เธอเลยเดินจากไปพร้อมคุยหัวเราะกับเพื่อนๆ ฉันจึงไม่ได้ทักทาย”จ้านหยินเป็นคนฉลาดมากแถมยังเป็นแม่ของเขาด้วย แม้ว่าเขาจะถูกเลี้ยงดูมาโดยปู่กับย่า แต่เขาก็ไม่ได้ห่างเหินกับพ่อแม่ของเขา และมีความสัมพันธ์ที่กลมกลืนกันเขารู้จักแม่ของตัวเองเป็นอย่างดีแม่ของเขาไม่อยากให้ใครรู้ว่าไห่ถงเป็นลูกสะใภ้ ข้อแรก เธอช่วยปิดบังความจริงที่เขาแต่งงาน
ทั้งสองคนไม่ได้พูดถึงสงครามเย็นครั้งก่อนและพวกเขาก็คืนดีกันเงียบๆ ไห่ถงอยากจะอยากจะปล่อยไปแบบนั้นต่อไปสักครึ่งปี แต่ด้วยความห่วงใยของเขาที่มีต่อเธอ ก็ทำให้เธออดไม่จะหวั่นไหว และอยากจะทำลายสัญญาครึ่งปีนั้นซะแต่เธอกลัวว่ามันเป็นแค่ความปรารถนาของตัวเอง สุดท้ายถ้าเธอตกหลุมรักเขา แต่เขาไม่ได้รัก เมื่อครบเวลาครึ่งปีและทั้งสองหย่าร้างกัน เขาจะใช้ชีวิตใหม่อย่างสบายๆ แต่เธอก็จะต้องทนทุกข์ทรมานจากการสูญเสียเขาไป กว่าจะลืมเขาไปต้องใช้เวลาอย่างมากรักใครสักคนมันง่ายแต่จะเลิกรักมันยาก“ ไม่ต้องกังวล หากพี่และฉันไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ จะขอความช่วยเหลือจากคุณอย่างแน่นอน”เขาดีใจที่เธอจึงตอบแบบนั้น"หลังจากพี่กลับบ้าน ฉันโทรหาเธอแล้ว ไม่มีอะไรเกิดขึ้นพี่ฉันอดทนได้ เมื่อเธอคิดว่ายังไม่ถึงเวลาเธอจะไม่ทําอะไรหุนหันพลันแล่น สําหรับตอนนี้ ถ้าเธอหงายการ์ดออกมาอย่างหุนหันพลันแล่น มันจะไม่เป็นผลดีต่อเธออย่างมาก"เพื่อหยางหยาง พี่สาวเธอเปลี่ยนจากการเป็นนักแสดงหน้าใหม่มาเป็นดารารางวัลออสการ์แสดงเก่งมากจนตระกูลโจวจับไม่ได้“แม่สามีและพี่สะใภ้กลับมาที่นี่อีกครั้ง ฉันไม่รู้ว่าพวกเขามาที่นี่ทำไม พรุ่งนี
ไห่ถงหยุดจ้านหยินก็หยุดเหมือนกัน จ้องเธออย่างลึกซึ้ง และถามอย่างอ่อนโยน: "มีอะไร?"“ค่าจ้างป้าฉันจะจ่ายเอง เหตุผลหลักคือจ้างเธอมาดูแลหยางหยาง หยางหยางเป็นหลานชายของฉัน ฉันควรจะจ่ายให้ป้าเอง ฉันจะให้คุณจ่ายได้ยังไงคะ”การจ้างพี่เลี้ยงเด็กตอนนี้มีค่าใช้จ่ายหลายหมื่นค่าใช้จ่ายในบ้านทั้งหมดเขาออกเงินไห่ถงรู้สึกว่าเอาเปรียบเขามากเกินไปจ้านหยินอดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกมาเพื่อหยิกแก้มแล้วพูดว่า: "เธอต้องเถียงกับฉันตลอด แบ่งเขตกันชัดเจนเกินไป ตอนนี้พสกเราเป็นครอบครัวเดียวแล้ว ทำไมยังถึงชัดเจนขนาดนี้? ในวันที่ฉันรับจดทะเบียนนกับคุณ ฉันก็บอกไปแล้วว่า ตั้งแต่ฉันแต่งงานกับคุณ ฉันก็สามารถเลี้ยงดูคุณได้”“หยางหยางเรียกฉันว่าน้า ฉันก็ชอบเด็กคนนั้นมากเหมือนกัน ฉันยินดีจ่ายเงินจ้างพี่เลี้ยงดูแลเขา”หลังจากเงียบไปสักพัก จ้านหยินก็พูดเสริมด้วยเสียงแผ่วเบา: "สิ่งสำคัญคือฉันไม่ต้องการให้ภรรยาต้องเหนื่อยขนาดนี้""คุณพูดอะไรนะ?"“ฉันบอกว่าฉันจะจ่ายเงินเอง”จ้านหยินมุ่งมั่นมากไห่ถงเถียงไม่ทันเขา หลังจากคิดอยู่พักหนึ่ง ก็พูดว่า: "เอาล่ะ คุณอยากจะออกเงินก็ได้ คุณจ้านคะ มีธุระสุดสัปดาห์นี้ไหม?""
โจวหงลินบิดลูกบิดประตูแต่ไม่สามารถเปิดได้ ไห่หลิงล็อคประตูแล้วเขาตบประตู"ไห่หลิง เปิดประตู"ไห่หลิงเข้ามาเปิดประตู แต่กลับขว้างประตูไม่ให้เขาเข้าไป เธอถามเขาว่า “มีอะไร?”“ไห่หลิง ฉันมีเรื่องอยากจะคุยด้วย ช่วยหลีกให้ฉันเข้าไปด้วย”เดิมทีนี่เป็นห้องนอนใหญ่ของทั้งคู่ แต่ตอนนี้ไห่หลิงยึดเอาไว้โจวหงหลินรู้สึกไม่พอใจ แต่เพื่อที่จะเกลี้ยกล่อมไห่หลิงให้ช่วยพี่เขารับและส่งเด็กๆ โจวหงหลินจึงระงับไม่ให้โกรธ“พรุ่งนี้ค่อยพูดอะไรไม่ได้เหรอ? ตอนนี้ดึกมากแล้ว”“เพิ่งจะ 5 ทุ่มเอง ปกติฉันก็กลับบ้านมาช้าประมาณนี้หลังจากไปกินเลี้ยงกับลูกค้า”ไห่หลิงเดาว่าที่โจวหงลินมีเรื่องจะคุยกับเธอ ต้องเกี่ยวข้องกับแม่สามีและพี่สะใภ้แน่ เธอจึงอยากรู้ด้วย ดังนั้นเธอจึงหันหลังกลับแล้วพูดว่า "หลังจากที่คุยกันเสร็จแล้ว คุณก็กลับห้องไปนอนซะ”โจวหงหลินด่าแช่งในใจ: คืนนั้นฉันแค่ดื่มมากเกินไปแล้วทนไม่ไหวเลยคิดว่า ... ฉันอยากสัมผัสคุณจริงๆเหรอ?แต่เขาพูดว่า: "รอก่อน ฉันจะไปเอาอะไรบางอย่างมา"พูดจบเขาก็หันหลังกลับอย่างรวดเร็ว แล้วกลับไปที่ห้องที่เขา หยิบกล่องผ้าเล็กๆ ขึ้นมา มันเป็นสร้อยคอมุกที่เขาซื้อให้ไห่หลิงเ
“แค่ยืมมือช่วยพี่พาลูกไปรับไปส่งที่โรงเรียนและทำอาหารให้เด็กๆ ถึงพวกเขาจะได้ไม่กินที่นี่ ยังไงพวกเรายังต้องทำอาหารกินอยู่ดี แค่มีคนมาเพิ่มอีกสองคนก็แค่เพิ่มชามและตะเกียบอีกสองชุด และพวกเขาก็ยังเด็กอยู่ กินไม่เยอะ”“ให้คิดว่าเป็นการช่วยฉันนะ พวกเราแต่งงานกันมาหลายปีแล้ว คุณยินดีจะช่วยฉันเรื่องเล็กๆ น้อยๆ นี้ได้ใช่ไหม?”เสียงของโจวหงหลินอ่อนโยน และมองไปที่ไห่หลิงขณะที่พู โดยแสดงอารมณ์ร่วมด้วย“พี่ฉันบอกว่า เธอจะไม่ปล่อยให้คุณทำโดยฟรีๆ เธอจะให้เงินคุณ 5,000 บาททุกเดือน ฉันยังบอกไปอีกว่าฉันก็จะให้เงินคุณเพิ่มอีก 7,5000 บาทเป็นค่าใช้จ่ายทุกเดือน นอกจากนี้ พี่จะให้เงินคุณ 5,000 คุณมีเงินเพิ่มอีก 12,500 บาทต่อเดือน ซึ่งไม่เลวเลยนะ”ไห่หลิงออกจะหัวเราะออกมาหัวเราะออกมาด้วยความโกรธกับความคิดของโจวหงหลินและพี่สะใภ้เธอต้องการให้ไปรับส่งเด็กสองคนที่โรงเรียน ด้วยเงิน 5000 บาท พร้อมทำอาหารให้พวกเขาวันละสามมื้อ และช่วยพวกเขาทำการบ้านอีก?“โจวหงหลิน คุณคิดว่า 5000 บาทนั้นเยอะมากไหม?”“คุณไม่ออกเงินค่ากินหรือค่าที่พัก พี่ฉันให้ฟรีๆ อีก 5,000 เก็บไว้เป็นเงินเก็บก็ได้ ยังไม่เยอะอีกเหรอ? ถ้าไม่พ
โจวหงหลินไม่สามารถโน้มน้าวให้ไห่หลิงรับปากได้ ไม่ว่าเขาจะพยายามแค่ไหน ดังนั้นจึงหมดความอดทนและถามเธออย่างเคร่งขรึม: "คุณไปทำงานที่ไหน? บริษัทไหนมันยินดีจ้างคุณ ถ้ามันไม่มีตา?"ไห่หลิงยิ้มอย่างสดใสและพูดว่า "ลู่ซื่อกรุ๊ป คุณลู่รับฉันเป็นการส่วนตัว"โจวหงหลิน "..."ลู่ซื่อกรุ๊ปไม่ใช่ที่ที่เขาสามารถแทรกแซงได้เขายังคิดว่าหากเป็นบริษัทเล็กๆ ธรรมดาๆ เขาสามารถใช้ความสัมพันธ์ของเขา และไล่ไม่ให้ไห่หลิงเข้าทำงานและทำให้เธอตกงานอีกครั้ง เพื่อที่เธอจะได้ดูแลลูกๆ อยู่ที่บ้านไม่คิดว่าเธอจะเก่งขนาดนี้ ไม่ทำงานมา 3 ปีกว่าแล้ว อ้วนเท่าหมู และสูญเสียออร่าเดิมไปแล้ว เธอยังสามารถทำงานเป็นกลุ่มใหญ่อย่างของลู่ซื่อกรุ๊ปได้แถมคุณลู่เองก็รับเป็นการส่วนตัวอีกคุณลู่คงจะมีสายตาไม่ดีโจวหงหลินบ่นในใจด้วยความอิจฉาตัวเขายังไม่มีความสามารถในการเข้าทำงานที่ลู่ซื่อกรุ๊ปได้ด้วยซ้ำ“คุณพูดเสร็จแล้วหรือยัง? เสร็จแล้วก็ช่วยออกไปข้างนอกด้วย ฉันจะไปพักผ่อน พรุ่งนี้ฉันต้องตื่นแต่เช้าไปทำงาน”ไห่หลิงยังจำที่ลู่ตงหมิงบอกว่า เธอต้องวิ่งในสวนเล็กๆ หน้าอาคารทุกวันวิ่งห้ารอบก่อนไปทำงานคุณจ้าวต้องมาดูเธอวิ่งห้ารอบด
หลังจากที่แม่โจวครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ก็พูดว่า: "พรุ่งนี้แม่จะไปคุยกับเธอ แล้วดูว่าจะโน้มน้าวให้เธอไม่ไปทำงานได้ไหม แต่ในอนาคต ถ้าแกสามารถให้ค่าใช้จ่ายแก่เธอได้มากขึ้น ระบบ AA จะต้องถูกยกเลิก และจะไม่มีระบบ AA อีกต่อไป"“ฉันคิดว่าระบบ AA จะดีสำหรับแก แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ดีต่อแกเลย ดูสิ แกต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเองเมื่อแกกลับมาบ้าน ฉันกับพี่ให้ไห่หลิงทำอาหารให้พวกเรากิน แถมยังต้องจ่ายค่าแรงเธออีก”“และยังไม่รู้ว่าประหยัดเงินไปได้เท่าไหร่ ยกเลิกระบบ AA ซะ ซึ่งมันจะดีกว่า นั่นจะทำให้แกใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นมาก แม้ว่าแกจะให้ไห่หลิง เพิ่มเป็นเดือนละ 10,000 บาทก็ยังคุ้ม"หลังจากที่โจวหงหลินเงียบไปสักพัก ก็พูดว่า: "แม่ แม้ว่าระบบ AA จะถูกยกเลิกไป แต่ไห่หลิงอฃและฉันก็ไม่สามารถย้อนกลับไปในอดีตได้อีก ฉัน... ไม่สนใจเธออีกแล้วจริงๆ ถ้าเป็นเพราะ หยางหยางและเพื่อพี่ ฉันไม่มีทางที่จะพูดกับเธอได้”ทันทีที่พูดจบ แม่โจวก็ตบเขาและดุเขาด้วยเสียงเบา: "พวกแกผู้ชายมันก็เป็นแบบนี้ เมื่อแต่งงานแล้ว ไม่ช้าก็ไม่อาจสามารถต้านทานสิ่งล่อตาล่อใจจากภายนอกได้ แกคิดว่ายัยคนที่ชื่อเย่รักแกจริง ๆ หรือ? หล่อนรักฐานะแ