โจวหงอิงที่ตามไห่หลิงถึงสองครั้ง แต่ไห่หลิงก็ยังไม่กลับมาก็โมโหจนกดตัดสาย จากนั้นพูดกับแม่ว่า "แม่ ไห่หลิงอยู่ที่ร้านน้องสาว บอกหยางหยางหลับอยู่ จะรอจนหยางหยางตื่นค่อยกลับมา บอกให้เราไปเอากุญแจที่นั่น"แม่โจวขมวดคิ้ว พูดอย่างไม่พอใจ "หยางหยางหลับ ก็อุ้มหยางหยางกลับมาสิ ไห่ถงก็มีรถ จะขับมาส่งสองแม่ลูกก็ไม่ได้ใช้เวลาอะไรมากมาย"รู้สึกว่าลูกสะใภ้ตั้งใจ ตั้งใจจะให้พวกเธอสองแม่ลูกต้องรออยู่หน้าบ้าน"เธอตั้งใจล่ะสิไม่ว่า อยากจะให้พวกเราสองคนรอเธออยู่ตรงนี้"โจวหงอิงเองก็คิดแบบนั้น"ก่อนหน้านี้แม่ก็เคยลองแกล้งลืมกุญแจ ถ้าเธอไม่อยู่บ้าน โทรเรียกครั้งเดี๋ยวไห่หลิงก็วิ่งแจ้นกลับมาเปิดให้แล้ว มีอย่างครั้งนี้ที่ไหน ปล่อยให้พวกเรารอนานขนาดนี้ แม่ ฉันว่าผัวเมียคู่นี้ทะเลาะกันใหญ่โตเสร็จ ไห่หลิงก็เลยมีท่าทีเปลี่ยนไห"แม่โจวตอบรับ "คงงั้น"โจวหงอิงด่าทอ "ครั้งก่อนไห่หลิงตบหงหลินจนสภาพยับเยิน ไม่ยอมไปรับหงหลินกลับบ้าน ต้องให้พวกเราไปเกลี้ยกล่อมหงหลินกลับมาเอง เราเห็นแก่หยางหยางหรอก ถ้าไม่ใช่เพราะหยางหยาง คงให้หงหลินไล่แม่นั่นออกไปแล้ว""บ้านเป็นของหงหลิน ถ้ากล้ายั่วโมโหเรา จะให้หงหลินไล่ตะเพิดไ
ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อแม่ช่วยเลี้ยงลูก คอยไปรับไปส่งให้ ส่วนไห่หลิงไม่มีคนช่วยเลี้ยง ต้องอยู่บ้านทำหน้าที่แม่บ้านมาตลอด ไหนจะไม่มีรายได้ ถึงได้ถูกครอบครัวของพวกเขาเหยียบย่ำไม่มีชิ้นดีสองแม่ลูกยังคอรอต่อไปอีกครู่ใหญ่ ไห่หลิงถึงได้พาลูกกลับมา ส่วนคนที่เดินตามหลังสองแม่ลูกคือไห่ถงในมือของไห่ถงยังหิ้วถุงอาหารทะเลที่เพิ่งซื้อมาจากตลาดตอนที่สองแม่ลูกครอบครัวโจวเห็นไห่หลิง ก็อยากจะด่าตามสัญชาตญาณ แต่เมื่อเห็นไห่ถงที่เดินตามอยู่ด้านหลัง สองแม่ลูกจึงกลืนคำที่อยากจะด่าลงท้องไปหลังจากจบความรุนแรงในครอบครัวครั้งก่อน สองแม่ลูกครอบครัวโจวเคยไปหาไห่ถง กลายเป็นว่าถูกไห่ถงวีนหนักจนต้องเผ่นแน่บออกมา จากนั้นจึงเกิดความหวั่นเกรงในตัวไห่ถง"หยางหยาง"แม่โจวยิ้มตาหยีเดินขึ้นหน้ามาอย่างรวดเร็ว แล้วอุ้มโจวหยางขึ้นมาจากรถเข็นเด็ก"หยางหยาง ย่าคิดถึงหลานที่สุดเลย"แม่โจวอุ้มเด็กน้อยพลางอุ้มแก้มทั้งสองข้างอย่างหนัก"คุณย่าฮับ"หลังจากที่หยางหยางถูกหอมแก้มหลายครั้ง ก็ยกมือขึ้นเช็ดบริเวณที่ถูกคุณย่าจุ๊บไป จากนั้นก็เอ่ยทักโจวหงอิงหยิกแก้มของหยางหยาง แล้วพูดยิ้มๆ "ไม่เจอกันแป๊บเดียว หยางหยางแก้มตุ้ยเชียว
ได้ยินแบบนั้น โจวหงอิงก็เตรียมจะร่ายยาวใส่ไห่หลิง แต่แม่ดึงเสื้อเป็นการปรามเอาไว้ก่อน เธอจึงค่อยๆดับไฟร้อนที่คุกรุ่นไห่ถงช่วยพี่สาวเข็นรถเข็นเด็เข้าไปในบ้านเมื่อกี้ได้ยินโจวหงอิงพูดว่าพี่ของเธอเองก็ควรออกเงินพันห้าเพื่อซื้ออาหารทะเล ไห่ถงก็โมโหจนแค่นหัวเราะออกมาไม่เคยเจอคนพิลึกขนาดนี้มาก่อนเลย"แม่"หลังจากโจวหงอิงรอให้สองพี่น้องเข้าบ้านไปแล้ว ก็กระซิบกับแม่ว่า "ทำไมไม่ให้หนูด่านางให้หน้าหงาย! กินก็กินเงินน้อง อยู่ก็อยู่บ้านของน้อง ใช้จ่ายอะไรก็ใช้เงินของน้อง พวกเรามากินข้าว ยังจะแบ่งกับหงหลินทุกบาททุกสตางค์ขนาดนั้นอีก""ตอนนี้น้องแกกับไห่หลิงแชร์กันคนละครึ่ง พวกเราเป็นคนในครอบครัวของหงหลิน มากินข้าวที่นี่ ไห่หลิงจะแบ่งค่าใช้จ่ายแบบนี้ก็สอดคล้องกับการหารของพวกเขา แกไปด่าให้เธอโมโหขึ้นมา เธอจะช่วยไปรับไปส่งลูก ทำกับข้าวให้ลูกแกกินอีกหรอ?"โจวหงอิงตระหนักถึงจุดประสงค์หลักที่มาที่นี่ ก็คลายความโมโหแต่ก็ยังไม่วายบ่นอุบอิบ รู้สึกว่าน้องชายมีเมียก็เหมือนไม่มี รู้สึกว่าไห่หลิงไม่เห็นหัวแม่กับพี่สาวสามีมากเกินไปแล้ว"ถงถง เด็กใกล้จะเลิกเรียนแล้ว รีบกลับไปทำงานที่ร้านเถอะ ที่นี่พี่
และไม่หยุดแค่ของเล่นหนึ่งกล่องไม่นาน พื้นในห้องรับแขกก็เต็มไปด้วยของเล่นเต็มบริเวณโจวหงอิงไม่ชอบที่เละเทอะไปหมด ก็ตะโกน "ไห่หลิง ออกมาเก็บกวาดห้องรับแขกหน่อย หยางหยางเทของเล่นเต็มพื้นไปหมด"ไห่หลิงเดินมาที่หน้าประตูห้องครัว เมื่อดูสถานการณ์ในห้องรับแขกแล้ว ก็ว่า "ให้หยางหยางเล่นแปบนึง อีกเดี๋ยวค่อยเก็บ"จากนั้นก็กลับเข้าห้องครัวไปทำอาหารต่อหยางหยางอยู่ในวัยที่กำลังซน เล่นของเล่นได้แปบนึง ก็ไปเล่นอย่างอื่นต่ออีก เอาเป็นว่าทำจนห้องรับแขกเละตุ้มเป๊ะโจวหงอิงขมวดคิ้ว เดินมาถึงหน้าประตูห้องครัว ยืนพิงประตูพร้อมกับถามไห่หลิง "ไห่หลิง เธอให้อะไรน้องสาวกลับไป? ถุงใหญ่ขนาดนั้น ไม่ใช่ว่าเอาของที่หงหลินซื้อเข้าบ้านมากลับไปนะ""หงหลินทำงานนอกบ้านเหนื่อยขนาดนั้นก็เพื่อครอบครัว ตอนนี้น้องสาวของเธอก็แต่งงาน มีครอบครัวเป็นของตัวเอง เธดต้องแยกแยะให้ออก ไม่ใช่ดีแต่จะเลี้ยงน้อง"ไห่หลิงหันไปจ้องเธอ พูดด้วยสีหน้าเย็นชา "ถงถงไม่ต้องการให้ฉันเลี้ยงหรอก ไม่เหมือนใครบางคน เงินที่หามาด้วยกันกับสามีตัวเองไม่อยากจะใช้ มาใช้เงินของน้องชาย อยากจะกินอะไรดีๆก็ไม่อยากเอาเงินตัวเองออก ถ่อมากเกาะน้องชายกิน"
โจวหงหลินถลึงตาใส่เธอ แล้วถาม "ฉันโอนเงินให้เธอสองพันห้าไม่ใช่หรอ?"พอได้ยินดังนั้น โจวหงอิงก็ลุกขึ้นเดินเข้ามาทันที แล้วพูดต่อคำพูดของน้องชาย "ไห่หลิง นี่เธองุบงิบเงินของหงหลินใช่ไหม ยังมีการบอกฉันว่าหงหลินให้เงินแค่พันห้า ซื้อกุ้งปูตัวใหญ่ๆไม่ได้"ไห่หลิงไม่แม้แต่เงยหน้า ป้อนข้าวให้ลูกชายต่อไป และพูดเตือนความจำโจวหงหลินอย่างไม่เดือดร้อน "ฉันบอกคุณไปแล้ว คนที่มาเป็นแม่กับพี่ของคุณ เดิมทีคุณก็ต้องเป็นคนออกเงินซื้อกับข้าวอยู่แล้ว และถ้าจะให้ฉันทำกับข้าวให้พวกเธฮกิน ก็ต้องจ่ายค่าแรงมาพันนึง""ฉันไม่ได้ติดค้างอะไรพวกคุณ จะให้มานั่งทำอาหารให้กินฟรี ไม่ได้ประโยชน์อะไรสักนิด แถมยังต้องมาโดนพวกคุณด่าทอต่อว่า"ที่ผ่านมา เธอก็ออกแรงทำงานโดยไม่หวังอะไรอยู่แล้วไม่ใช่หรอ?โจวหงหลินเงิบไปอีกครั้งโจวหงอิงเห็นสีหน้าของน้องชาย ก็รู้ว่าสิ่งที่ไห่หลิงพูดเป็นเรื่องจริง จึงกลับไปนั่งลงบนโซฟาเงียบๆแต่ก็ไม่วายตำหนิไห่หลิงอย่างไม่สบอารมณ์ขึ้นมาอีก "ไห่หลิง เธอกับหงหลินเป็นผัวเมียกันนะ จะแบ่งชัดทุกเม็ดขนาดนั้นเพื่ออะไร? อีกอย่าง ฉันกับแม่ก็เป็นครอบครัวสามีเธอ เธอแต่งเข้าบ้านโจวของเราก็เท่ากับเป็นคนขอ
ไห่ถงงกินด้วยความเร็วมาก ไห่ถงมักจะกินให้เสร็จก่อน แล้วจึงรีบไปรับเธอ จากนั้นให้เธอกินข้าวสำหรับฝั่งครอบครัวของสามีเธอ พวกเขาสนใจแค่เรื่องกินๆ ดื่มๆ เพื่อให้ท้องอิ่มเท่านั้น และไม่สนใจเธอทำเหมือนว่า เธอจะไม่หิวหรอก"แม่กินกุ้ง"โจวหงหลินหยิบกุ้งสองสามตัวไปให้แม่เขา แล้วร้องเรียกพี่สาว“ พี่กินเยอะๆนะ มีแต่ของพี่ชอบหมดเลย”โจวหงอิงพูดพลางกินปู: "ปูนี่ไม่ใช่ปูเนื้อ ตัวเล็กมาก ไม่มีเนื้เลย และกินไปเพื่อลดความยากแค่นั้น"แสดงท่าทางรังเกียจออกมาชัดเจนมากหลังจากที่โจวหงหลินเงียบไป ก่อนพูดว่า "คราวหน้าฉันจะพาไปเลี้ยงพวกคุณกินที่โรงแรม"“ที่โรงแรมแพงเกินไป มันไม่ง่ายเลยที่เธอจะหาเงินมาได้ คราวหน้าโอนเงินมาให้พี่แทน แล้วพี่จะซื้อไปให้ไห่หลิงทำให้เธอกิน” โจวหงอิ๋งดูเหมือนเธอจะใส่ใจน้องชาย"แบบนั้นก็ได้"โจวหงหลินคิดว่าให้เป็นหน้าที่ของไห่หลิงก็ไม่แย่ คราวหน้าหากต้องการซื้ออาหารทะเลอีก เขาก็จะให้พี่สาวไปซื้อมาแน่นอนว่า ถ้าให้พี่สาวไปซื้อมา เขาก็จะให้เงินเยอะขึ้นด้วยพี่สาวชอบอาหารกินทะเล ทุกครั้งที่มาหาเธอมักจะขอให้ทำอาหารทะเลสำหรับทุกมื้ออาหารและอาหารทะเลมีราคาแพง ดังนั้นถ้าเขาให้
เมื่อวานไห่หลิงยังผัดผักไม่เสร็จดี เลยทิ้งผักเอาไว้ครึ่งหนึ่งในตู้เย็น และก็เพียงพอสำหรับเธอที่จะกินคนเดียวนี่มันถูกซื้อด้วยเงินของเธอเอง ดังนั้นเธอไม่ยอมให้มันกับแม่ลุกสามคนนั้นโจวหงอิง:“......”นังอ้วนคนนี้ คาดไม่ถึงว่าจะเก็บอาหารส่วนของตัวเองไว้แล้ว ไม่ปล่อยให้ตัวเองหิวไห่หลิงเดินออกไปพร้อมกับอาหาร นั่งลงบนโต๊ะอาหารและเพลิดเพลินกับอาหารเย็นของเธออย่างสบาย ๆไห่ถงกังวลว่าพี่สาวเธอจะถูกกลั่นแกล้ง เธอจึงแอบมาโทรหา แล้วถามเธอว่า "พี่ พวกเขาไม่ได้รวมหัวกันแกล้งพี่ใช่ไหม?""จากวีรกรรมของพี่เธอที่ถือมีดทําครัววิ่งไล่โจวหงหลินไปห้าช่วงถนน ตอนนี้พวกเขากล้าแค่เอาปากมาต่อสู้กับฉันน่ะ เมื่อผู้หญิงไม่สนใจสามีของเธออีกต่อไป เธอก็ไม่อาจอดทนต่อพฤติกรรมที่ไร้เหตุผลทั้งหมดของเขาและครอบครัวของเขาได้อีกต่อไป"ไห่ถงโล่งใจเมื่อพี่สาวพูดอย่างนั้น "พี่กินข้าวอิ่มแล้วเหรอ?""กำลังกินอยู่ เธอกินยัง?"“ยุ่งเสร็จแล้วค่อยกิน พี่ ฉันไปทำงานก่อน”"อืม"ไห่หลิงรู้ว่าพี่สาวเธอยุ่งมากในตอนนี้หลังจากวางสายกับน้องสาวแล้ว เธอก็กินข้าวต่อเมื่อโจวหงอิงล้างจานเสร็จและเดินออกมาจากครัว ไห่หลิงก็กินอิ่มพอดี
ในใจของโจวหงอิงว่าเธอกำลังทำสิ่งที่ผิดจรรยาบรรณไม่ว่าผู้หญิงจะมีเรียนสูงแค่ไหน เมื่อแต่งงาน มีลูก ติดอยู่ในความสัมพันธ์ของการแต่งงาน ก็จะติดอยู่ในความรู้สึก และกลายเป็นคนที่โกรธได้ง่าย“พี่ ฉันบอกเธอแล้ว แต่เธอไม่ช่วย”ตอนนี้โจวหงหลินไม่กล้าแบกหน้า เพื่อรับปากอีกแล้วตั้งแต่เหตุการณ์ความรุนแรงในครอบครัวก่อนหน้านี้ ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่ก็ไม่เคยกลับมาเหมือนแต่ก่อนเขามีเย่เจียนีแล้ว เแค่ต้องโอ๋คนรักของเขาที่อยู่นอกบ้าน ดังนั้นเขาขี้เกียจเกินกว่าที่จะใช้เวลาเพื่อโอ๋เมียที่บ้านอีกไห่หลิงก็ดื้อรั้นเช่นกัน ก่อนหน้านี้เขาจะก้มหัวไปแล้ว แต่รอบนี้เขาปฏิเสธที่จะก้มหัวอีกดังนั้นทั้งคู่จึงยังเมินเฉยกันอยู่เช่นนี้อาศับอยู่ด้วยกัน นอนแยกห้อง ต่างใช้ชีวิตของตัวเอง ทั้งสองไม่อยากพูดคุยกันด้วยซ้ำ ยกเว้นเรื่องของลูก“เธอปฏิเสธที่จะช่วยเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างนั้นเหรอ? ไม่ใช่ว่าฉันขอให้เธอช่วยเปล่าๆ ซะหน่อย ฉันให้เงินเธออีกเดือนละ5000 บาทด้วยซ้ำ ตอนนี้เธอไม่มีแหล่งรายได้แล้ว 5000 บาทนี้ก็ถือว่ามากแล้วสำหรับเธอ”ถ้าไม่ใช่เพราะน้องชายและภรรยาเคยทะเลาะกัน เธอคงไปหาเรื่องทะเลาะแล้ว แต่เพื่อ