จ้านหยินพูดขนาดนี้แล้ว ไห่หลิงจึงไม่ได้ว่าอะไรอีก แล้วช่วยใส่ถุงมือพลาสติกให้ลูกชายหลังมื้ออาหาร จ้านหยินก็ช่วยภรรยาเก็บจานชามกลับไปล้างในห้องครัวไห่หลิงชมความดีของน้องเมียให้น้องสาวฟังไม่ขาดปาก แล้วกำชับให้น้องต้องทำตัวดีๆกับจ้านหยินเธอกลัวที่สุดหากความล้มเหลวในการแต่งงานของตัวเอง จะทำให้น้องสาวเกิดความรู้สึกผิดหวังในชีวิตแต่งงานโจวหงหลินเป็นผู้ชายที่แย่ แต่ไม่ได้หมายความว่าผู้ชายทุกคนจะเลวเหมือนเขาในโลกนี้ ยังมีสามีที่ดีอยู่เพียงไห่หลิงโชคชะตาไม่ดี เลยไม่ได้เจอก็แค่นั้นไห่ถงพูดอย่างระอา "เข้าใจแล้ว พี่ไม่ต้องมาชมเขาให้ฉันฟังวันละหลายร้อยรอบก็ได้ ฉันจะเข้าไปช่วยล้างจานแล้วกัน"ขณะพูดอยู่ ก็รีบเดินเข้าห้องครัวไปไม่งั้นเดี๋ยวพี่ก็จะพูดไม่หยุดว่าจ้านหยินดีอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วสั่งให้เธอทำตัวดีๆกับจ้านหยิน พูดซะอย่างกับว่าปกติแล้วเธอรังแกทรมานจ้านหยินซะอย่างนั้นแหละเซินเสี่ยวจวินลอบหัวเราะจ้านหยินกำลังคิดจะล้างจาน เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า ก็หันไปมองหน้าประตูห้องครัว ก็เห็นไห่ถงเข้า เขาจึงพูดว่า "เดี๋ยวผมล้างเอง คุณไปนั่งพักเถอะ เตรียมอาหารทะเลทั้งโต๊ะคงจะเหนื่อยแย่""
จ้านหยินนั่งพักอยู่ด้านนอกชั่วครู่ ก็ต้องกลับไปทำงานที่บริษัท ไห่ถงเพิ่งจะล้างเครื่องจานเสร็จแล้วออกมาพอดี เมื่อเห็นเขากำลังจะไป ก็รีบออกไปกับเขาชายหนุ่มหยิบซองเอกสารขนาดใหญ่ออกมาจากรถด้วยความรู้สึกนอยอยู่ในใจ แล้วหมุนตัวยื่นมันให้ไห่ถง ก่อนจะพูดเสียงทุ้มต่ำ "อยู่ในนี้หมดแล้ว"ไห่ถงรับหลักฐานที่โจวหงหลินนอกใจมาถือ อยากจะขอบคุณเขาอีกรอบ เมื่อสบตาดวงตาสีดำลึกล้ำของเขา ไห่ถงก็มองไปรอบๆ แต่เมื่อเห็นว่ามีคนอยู่ เธอจึงได้แต่ล้มเลิกความคิด"ขับรถดีๆค่ะ ถึงบริษัทแล้วส่งข้อความมาบอกฉันหน่อย ฉันจะได้รู้ว่าคุณปลอดภัยดี"จ้านหยินเม้มปาก ก่อนจะตอบรับเสียงทุ้มต่ำเมื่อขึ้นรถ เขาก็ยังไม่วายมองเธอด้วยความลึกซึ้งต่ออีกหน่อย แล้วจึงขับรถออกไปไห่ถงยืนมองรถของเขาแล่นออกไปไกลอยู่ที่เดิม แล้วก็รู้สึกว่าระหว่างพวกเขาสองคนอยู่ๆก็เกิดความแปลกๆราวกับว่ามีความรักกุ๊กกิ๊กเกิดขึ้นอะไรแบบนั้นบางที เธออาจจะไม่ต้องหดหัวอยู่ในกระดอง สามารถยื่นหัวออกไปอีกสักครั้ง แล้วลองสัมผัสกับรสชาติของความรักดูสักหน่อยสัญญาครึ่งปียังไม่ครบสักหน่อย ยังมีโอกาสอยู่พอคิดแบบนี้ ไห่ถงก็ล้วงโทรศัพท์ออกมา แล้วส่งข้อความหาจ้า
ไห่หลิงกัดฟันแน่น ไม่ยอมให้ตัวเองร้องไห้ออกมาอีกเด็ดขาดเธอเคยร้องไห้เพราะโจวหงหลินมาแล้วไม่อยากต้องเสียน้ำตาเพราะเขาอีกอีกทั้งน้ำตาของเธอไม่อาจแลกมาด้วยความเห็นใจจากเขา แล้วจะร้องไห้ให้ปวดตาไปทำไม?"พี่ไม่เป็นไร"ไห่หลิงยัดของพวกนั้นคืนใส่ซองเอกสาร แล้วแสร้งทำเป็นพูดด้วยความเข้มแข็ง "สภาพจิตใจของพี่ตอนนี้ดีมากแล้ว ใช่ว่าเพิ่งจะรู้ตอนนี้สักหน่อยว่าเขาแทงข้างหลังพี่""ถงถง"ไห่หลิงส่งซองเอกสารขนาดใหญ่ให้น้องสาว "เธอช่วยพี่เก็บหลักฐานพวกนี้ที ถ้าพี่เอากลับบ้านแล้ว แล้วเขาเกิดมาเห็นเข้า เกิดเขาโอนทรัพย์สินขึ้นมา พี่จะเสียเปรียบ""โอเค"ไห่ถงรับซองเอกสารขนาดใหญ่มาไห่หลิงพูดด้วยน้ำเสียงสงบ "พี่จะแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องตามที่เธอบอก รอจนงานของพี่นิ่งดีแล้ว พี่ค่อยพูดเรื่องหย่า อะไรที่ควรเป็นของพี่ พี่จะแย่งชิงมาให้หมด ไม่ยอมให้เขาเอาเปรียบได้แน่!"หลังจากแต่งงาน เธอก็ไม่ได้ทำงานอีก แต่เธอทุ่มเทเพื่อครอบครัวมากเกินไป หลังจากแต่งงาน รายได้ของโจวหงหลินถูกนับเป็นทรัพย์สินร่วมกันของสามีภรรยา เธอจะแย่งชิงเงินเก็บของเขามา ทำให้เขาโมโหจนเป็นบ้าไปเลย!อีกอย่าง ค่าตกแต่งภายในบ้านที่พวกเข
"น้องสาวฉันไม่ได้ติดหนี้อะไรคุณ แม่กับพี่คุณอยากกิน ทำไมต้องให้น้องฉันจ่าย? โจวหงหลินหลังแต่งงานสามปีมานี้ ฉันไม่ได้ทำงานหาเงิน แต่ฉันก็ทุ่มเทเพื่อครอบครัวแล้วเหมือนกัน ถ้าไม่ได้ฉันคอยซัพพอร์ตอยู่เบื้องหลัง จนคุณไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง การงานของคุณจะดีขนมาอย่างทุกวันนี้หรอ?""ถ้าคุณไม่โอนเงินมา ฉันก็จะไม่ไปซื้อ แล้วถ้าคุณโอนเงินมา ต้องรวมค่าแรงมาด้วย อย่างที่คุณพูดพวกเราแชร์กันคนละครึ่ง นั่นเป็นแม่กับพี่สาวของคุณ ฉันไม่ได้มีหน้าที่ต้องทำอาหารให้พวกเขากิน ถ้าคุณจะให้ฉันทำก็ต้องจ่ายค่าแรงมา""เห็นแก่ความเป็นสามีภรรยากันมาสามปี ฉันจะเก็บค่าแรงแค่หนึ่งพันแล้วกัน"โจวหงหลินด่าผ่านโทรศัพท์ "เธอมันก็ดีแต่ใช้เงินกับกิน ดูสภาพตัวเองซิกินจนอ้วนเป็นหมูแบบนี้ เธอทุ่มเทอะไรให้ครอบครัวไม่ทราบ? ฉันไม่เห็นเธอจะทำอะไรสักอย่าง ที่ฉันประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานอย่างทุกวันนี้ได้ก็เป็นผลจากความพยายามของฉันทั้งนั้น อย่ามาแย่งเอาความดีความชอบไปหน้าตาเฉย""แล้วยังจะคิดค่าแรงอะไร? แม่ฉันไม่ใช่แม่เธอหรอ? มีลูกสะใภ้ที่ไหนจะทำกับข้าวให้แม่ผัวกินแล้วเก็บค่าแรง? พูดออกไปก็มีแต่จะโดนคนเขานินทาให้ขายหน้า""ไม
โจวหงอิงที่ตามไห่หลิงถึงสองครั้ง แต่ไห่หลิงก็ยังไม่กลับมาก็โมโหจนกดตัดสาย จากนั้นพูดกับแม่ว่า "แม่ ไห่หลิงอยู่ที่ร้านน้องสาว บอกหยางหยางหลับอยู่ จะรอจนหยางหยางตื่นค่อยกลับมา บอกให้เราไปเอากุญแจที่นั่น"แม่โจวขมวดคิ้ว พูดอย่างไม่พอใจ "หยางหยางหลับ ก็อุ้มหยางหยางกลับมาสิ ไห่ถงก็มีรถ จะขับมาส่งสองแม่ลูกก็ไม่ได้ใช้เวลาอะไรมากมาย"รู้สึกว่าลูกสะใภ้ตั้งใจ ตั้งใจจะให้พวกเธอสองแม่ลูกต้องรออยู่หน้าบ้าน"เธอตั้งใจล่ะสิไม่ว่า อยากจะให้พวกเราสองคนรอเธออยู่ตรงนี้"โจวหงอิงเองก็คิดแบบนั้น"ก่อนหน้านี้แม่ก็เคยลองแกล้งลืมกุญแจ ถ้าเธอไม่อยู่บ้าน โทรเรียกครั้งเดี๋ยวไห่หลิงก็วิ่งแจ้นกลับมาเปิดให้แล้ว มีอย่างครั้งนี้ที่ไหน ปล่อยให้พวกเรารอนานขนาดนี้ แม่ ฉันว่าผัวเมียคู่นี้ทะเลาะกันใหญ่โตเสร็จ ไห่หลิงก็เลยมีท่าทีเปลี่ยนไห"แม่โจวตอบรับ "คงงั้น"โจวหงอิงด่าทอ "ครั้งก่อนไห่หลิงตบหงหลินจนสภาพยับเยิน ไม่ยอมไปรับหงหลินกลับบ้าน ต้องให้พวกเราไปเกลี้ยกล่อมหงหลินกลับมาเอง เราเห็นแก่หยางหยางหรอก ถ้าไม่ใช่เพราะหยางหยาง คงให้หงหลินไล่แม่นั่นออกไปแล้ว""บ้านเป็นของหงหลิน ถ้ากล้ายั่วโมโหเรา จะให้หงหลินไล่ตะเพิดไ
ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อแม่ช่วยเลี้ยงลูก คอยไปรับไปส่งให้ ส่วนไห่หลิงไม่มีคนช่วยเลี้ยง ต้องอยู่บ้านทำหน้าที่แม่บ้านมาตลอด ไหนจะไม่มีรายได้ ถึงได้ถูกครอบครัวของพวกเขาเหยียบย่ำไม่มีชิ้นดีสองแม่ลูกยังคอรอต่อไปอีกครู่ใหญ่ ไห่หลิงถึงได้พาลูกกลับมา ส่วนคนที่เดินตามหลังสองแม่ลูกคือไห่ถงในมือของไห่ถงยังหิ้วถุงอาหารทะเลที่เพิ่งซื้อมาจากตลาดตอนที่สองแม่ลูกครอบครัวโจวเห็นไห่หลิง ก็อยากจะด่าตามสัญชาตญาณ แต่เมื่อเห็นไห่ถงที่เดินตามอยู่ด้านหลัง สองแม่ลูกจึงกลืนคำที่อยากจะด่าลงท้องไปหลังจากจบความรุนแรงในครอบครัวครั้งก่อน สองแม่ลูกครอบครัวโจวเคยไปหาไห่ถง กลายเป็นว่าถูกไห่ถงวีนหนักจนต้องเผ่นแน่บออกมา จากนั้นจึงเกิดความหวั่นเกรงในตัวไห่ถง"หยางหยาง"แม่โจวยิ้มตาหยีเดินขึ้นหน้ามาอย่างรวดเร็ว แล้วอุ้มโจวหยางขึ้นมาจากรถเข็นเด็ก"หยางหยาง ย่าคิดถึงหลานที่สุดเลย"แม่โจวอุ้มเด็กน้อยพลางอุ้มแก้มทั้งสองข้างอย่างหนัก"คุณย่าฮับ"หลังจากที่หยางหยางถูกหอมแก้มหลายครั้ง ก็ยกมือขึ้นเช็ดบริเวณที่ถูกคุณย่าจุ๊บไป จากนั้นก็เอ่ยทักโจวหงอิงหยิกแก้มของหยางหยาง แล้วพูดยิ้มๆ "ไม่เจอกันแป๊บเดียว หยางหยางแก้มตุ้ยเชียว
ได้ยินแบบนั้น โจวหงอิงก็เตรียมจะร่ายยาวใส่ไห่หลิง แต่แม่ดึงเสื้อเป็นการปรามเอาไว้ก่อน เธอจึงค่อยๆดับไฟร้อนที่คุกรุ่นไห่ถงช่วยพี่สาวเข็นรถเข็นเด็เข้าไปในบ้านเมื่อกี้ได้ยินโจวหงอิงพูดว่าพี่ของเธอเองก็ควรออกเงินพันห้าเพื่อซื้ออาหารทะเล ไห่ถงก็โมโหจนแค่นหัวเราะออกมาไม่เคยเจอคนพิลึกขนาดนี้มาก่อนเลย"แม่"หลังจากโจวหงอิงรอให้สองพี่น้องเข้าบ้านไปแล้ว ก็กระซิบกับแม่ว่า "ทำไมไม่ให้หนูด่านางให้หน้าหงาย! กินก็กินเงินน้อง อยู่ก็อยู่บ้านของน้อง ใช้จ่ายอะไรก็ใช้เงินของน้อง พวกเรามากินข้าว ยังจะแบ่งกับหงหลินทุกบาททุกสตางค์ขนาดนั้นอีก""ตอนนี้น้องแกกับไห่หลิงแชร์กันคนละครึ่ง พวกเราเป็นคนในครอบครัวของหงหลิน มากินข้าวที่นี่ ไห่หลิงจะแบ่งค่าใช้จ่ายแบบนี้ก็สอดคล้องกับการหารของพวกเขา แกไปด่าให้เธอโมโหขึ้นมา เธอจะช่วยไปรับไปส่งลูก ทำกับข้าวให้ลูกแกกินอีกหรอ?"โจวหงอิงตระหนักถึงจุดประสงค์หลักที่มาที่นี่ ก็คลายความโมโหแต่ก็ยังไม่วายบ่นอุบอิบ รู้สึกว่าน้องชายมีเมียก็เหมือนไม่มี รู้สึกว่าไห่หลิงไม่เห็นหัวแม่กับพี่สาวสามีมากเกินไปแล้ว"ถงถง เด็กใกล้จะเลิกเรียนแล้ว รีบกลับไปทำงานที่ร้านเถอะ ที่นี่พี่
และไม่หยุดแค่ของเล่นหนึ่งกล่องไม่นาน พื้นในห้องรับแขกก็เต็มไปด้วยของเล่นเต็มบริเวณโจวหงอิงไม่ชอบที่เละเทอะไปหมด ก็ตะโกน "ไห่หลิง ออกมาเก็บกวาดห้องรับแขกหน่อย หยางหยางเทของเล่นเต็มพื้นไปหมด"ไห่หลิงเดินมาที่หน้าประตูห้องครัว เมื่อดูสถานการณ์ในห้องรับแขกแล้ว ก็ว่า "ให้หยางหยางเล่นแปบนึง อีกเดี๋ยวค่อยเก็บ"จากนั้นก็กลับเข้าห้องครัวไปทำอาหารต่อหยางหยางอยู่ในวัยที่กำลังซน เล่นของเล่นได้แปบนึง ก็ไปเล่นอย่างอื่นต่ออีก เอาเป็นว่าทำจนห้องรับแขกเละตุ้มเป๊ะโจวหงอิงขมวดคิ้ว เดินมาถึงหน้าประตูห้องครัว ยืนพิงประตูพร้อมกับถามไห่หลิง "ไห่หลิง เธอให้อะไรน้องสาวกลับไป? ถุงใหญ่ขนาดนั้น ไม่ใช่ว่าเอาของที่หงหลินซื้อเข้าบ้านมากลับไปนะ""หงหลินทำงานนอกบ้านเหนื่อยขนาดนั้นก็เพื่อครอบครัว ตอนนี้น้องสาวของเธอก็แต่งงาน มีครอบครัวเป็นของตัวเอง เธดต้องแยกแยะให้ออก ไม่ใช่ดีแต่จะเลี้ยงน้อง"ไห่หลิงหันไปจ้องเธอ พูดด้วยสีหน้าเย็นชา "ถงถงไม่ต้องการให้ฉันเลี้ยงหรอก ไม่เหมือนใครบางคน เงินที่หามาด้วยกันกับสามีตัวเองไม่อยากจะใช้ มาใช้เงินของน้องชาย อยากจะกินอะไรดีๆก็ไม่อยากเอาเงินตัวเองออก ถ่อมากเกาะน้องชายกิน"