“ถ้าเอาแต่สร้างเรื่องโดยมีเป้าหมายที่จะทำลายตัวเองไปพร้อมกัน เธอคิดว่าจะเป็นดีต่อตัวเอง? อย่าตกอยู่ในสถานการณ์ที่เธอไม่สามารถเปิดร้านค้านี้ต่อไปได้เลย ไม่ต้องพูดถึงร้านค้าออนไลน์ของเธอ เชื่อไหมว่าเราสามารถรวมกลุ่มกันและทำให้ร้านค้าออนไลน์ของเธอเต็มไปด้วยรีวิวเชิงลบจนกว่าร้านเธอจะปิดตัวลง”“ไห่ถง ใครกันที่ขู่ไม่ให้ร้านของเธอเปิดต่อไป? ใครกันพูดเกี่ยวกับการระดมหน้าม้าเพื่อโจมตีร้านค้าออนไลน์ของเธอ ด้วยรีวิวเสียๆหายๆ”ซางเสี่ยวเฟยมาหาไห่ถง ก่อนที่เธอจะเข้าไปในร้าน เธอก็ได้ยินคำพูดที่เย่อหยิ่งและข่มขู่ของไห่จื้อเหวิน คุณหนูชางอารมณ์ไม่ดีนัก และเธอก็โกรธเคืองทันทีเขาไม่รู้เหรอว่าไห่ถงเป็นโค้ชความรักของเธอ?กล้าข่มขู่โค้ชรักของเธอก็เท่ากับทะเทาะกับเธอ ซางเสี่ยวเฟยด้วย และเธอสามารถทำให้คนหยิ่งยโสเหล่านี้กลับตัวได้ภายในไม่กี่นาทีซางเสี่ยวเฟยถือกล่องขนมหลายกล่องจากร้านกาแฟแอเวนิวแ ละแกว่งกุญแจรถของเธอไปมา เดินเข้าไปโดยเชิดคางของเธอไว้คนอื่นๆ ไม่รู้จักซางเสี่ยวเฟย แต่ไห่จื้อเหวินซึ่งทำงานในสาขาของชางซื่อกรุ๊ปและเป็นผู้จัดการอาวุโส เมื่อเห็นเธอจากระยะไกลหลายครั้งในการประชุมประจำปีของบริษ
ซางหวู่เหิงที่อยู่ปลายสายของโทรศัพท์ไม่รู้จริงๆ ว่าจะทำอย่างไรกับน้องสาวของเขาดีเขาถามอย่างหมดหนทางว่า "ไห่จื้อเหวินไปทำอะไรให้เธอไม่พอใจ?""ไห่ถงเป็นเพื่อนของฉันและเป็นที่ปรึกษาความรักของฉัน เขามุ่งเป้าไปที่ที่ปรึกษาความรักของฉัน บอกว่าเขาจะทำให้ร้านของไห่ถงต้องเลิกกิจกาไปร และเกณฑ์คนมาสแปมรีวิวสินค้าเชิงลบ เพื่อทำลายร้านค้าออนไลน์ของไห่ถงด้วย นี่มันไม่ได้มุ่งเป้าไปที่ฉันใช่ไหม"“สิ่งที่พวกเขาทำอยู่ คนเราจะทำกันได้ด้วยเหรอ? ตระกูลซางของเราที่มีผู้บริหารแบบนี้ มันจะทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์นะ นี่เป็นเรื่องของการรู้หน้าแต่ไม่รู้ใจ ภายนอกดูสดใสและเปล่งประกาย แต่ใจกลับดำมืด”“......”ซางหวู่เหิงหมดคำพูดเพราะความเผด็จการของน้องสาวผู้จัดการทั่วไปของบริษัทแผงวงจรอัลเลน ได้รับการรายงานตรงต่อสำนักงานใหญ่โดยให้พิจารณาว่า ไห่จื้อเหวินเป็นคนที่มีความสามารถอย่างแท้จริง และได้ไต่ระดับจากพนักงานระดับล่างไปจนถึงรองผู้จัดการทั่วไปในปัจจุบันทีละก้าวผู้จัดการทั่วไปไม่ต้องการสูญเสียมือขวาที่มีความสามารถอย่างเขาไป เนื่องจากปัญหาครอบครัวของไห่จื้อเหวิน ดังนั้นเขาจึงสั่งพักงานไห่จื้อเหวินเฉพาะในช่วงเ
แม้แต่ผลไม้และตะกร้าที่ซางเสี่ยวเฟยโยนออกไปก็ยังถูกไห่จื้อหมิงเก็บขึ้นมาและหยิบออกไปตระกร้าผลไม้ราคา 500-1000 บาทการเอากลับไปกินเองดีกว่าให้ไห่ถงกินไห่ถง: แหวะ! ทำตัวเหมือนไม่มีใครเคยกินผลไม้มาก่อนไห่จื้อเหวินเข้ามาในรถของพี่ใหญ่ หลังจากขึ้นรถแล้ว เขาก็รีบโทรหาหัวหน้าของเขาซึ่งก็คือผู้จัดการทั่วไปจาง เพื่ออธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไรก็ตาม ผู้จัดการทั่วไปจางได้รับแจ้งจากสำนักงานใหญ่แล้ว เขาไม่รอให้ไห่จื้อเหวินอธิบายจบและพูดอย่างเสียใจว่า "จื้อเหวิน ข้อพิพาทระหว่างนายกับพี่น้องสองคนนั้นเรียบง่ายและแก้ไขได้ง่ายมากเลย เพียงขอโทษพวกเขาอย่างจริงใจและขอโทษต่อสาธารณะทางออนไลน์ ไม่เพียงแต่จะน้องสาวยกโทษให้นาย แต่ชาวเน็ตก็จะเลิกมุ่งเป้ามาเล่งที่นาย เพราะเห็นว่านายเต็มใจที่จะแก้ไขข้อผิดพลาดของตัวเอง”“แต่นายทำอะไรลงไปนิ ฉันสั่งพักงานนายมานานแล้ว แต่นายกลับไม่แก้ไขเรื่องนี้ กลับกลายเป็นเรื่องบานปลายจนคุณหนูซางโกรธเคือง สำนักงานใหญ่ก็ผิดหวังในตัวนายมากเช่นกัน เอาล่ะ ได้เวลากลับมาที่บริษัท เพื่อส่งมอบงานแล้ว นายไม่จำเป็นต้องออกไปหางานทำสักพักนะ คุณหนูซางโกรธมาก และมันจะยากสำหรับนายที่จะหา
ไห่จื้อเหวินเงียบไปตามคำกล่าวหาของไห่ถง หากไม่ใช่เรื่องที่ส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของทุกคนอย่า'งมาก พวกเขาก็คงไม่มาก้มหั และถึงแม้พวกเขาจะก้มหัว มันก็ไม่ได้ทำออกมาจากใจ ทุกครั้งที่มาก็ยังยั่วยุไห่ถงผลลัพธ์ก็เหมือนกับที่ผู้จัดการทั่วไปจางพูด เรื่องง่ายๆ ที่พวกเขาทำให้ซับซ้อนจนไม่สามารถแก้ไขได้แม้แต่ตอนนี้"ไห่ถงรู้จัดคุณหนูซางได้ยังไง? ที่ปรึกษาความรัก?"ไห่จื้อเหวินเม้มริมฝีปากแล้วพูด "คุณหนูซางหลงรักนายน้อยคนตระกูลจ้าน อาจเป็นไห่ถงที่สอนเธอถึงวิธีการไล่ตามจีบนายน้อยจ้าน ถ้านายน้อยจ้านรู้ว่าไห่ถงกำลังแอบช่วยคุณหนูซางวางแผนจับเขา ไห่ถงคงโชคไม่ดีแล้วล่ะ""ฉันหมายถึงพวกเขาสองคนรู้จักกันได้ยังไง? สถานะของคุณหนูซางเป็นยังไง? ตามหลักเหตุผลแล้ว พวกเขาสองคนไม่น่าจะรู้จักกันได้เลยตลอดชีวิต"ไห่จื้อหมิงอิจฉาไห่ถงที่สามารถรู้จักซางเสี่ยวเฟย และแม้กระทั่งถูกเธอหนุนหลังอยู่แม้ว่าชางเสี่ยวเฟยจะไม่ได้ทำงานที่ชางซื่อกรุ๊ป แต่เธอก็เป็นลูกสาวของคนเดียวของตระกูล และสถานะนี้อย่างเดียวก็เพียงพอแล้ว พี่ชายแท้ๆ ของเธอก็คือหนึ่งในซีอีโอที่โดดเด่นที่สุดในกวนเฉิงใครจะรู้ว่าพวกเขารู้จักกันได้อย่างไร จ
"คุณหนูซาง ไห่ถงทั้งสองคนคุยกันเถอะ ฉันจะพาหยางหยางไปซุปเปอร์มาร์เก็ตเพื่อผัก แล้วกลับมา"ยังมีอาหารทะเลมากมายที่ซางเสี่ยวเฟยส่งมาให้ในตู้เย็น วันนี้ยังสามารถทานอาหารทะเลได้ แต่ขาดผักอยู่บ้างเซินเสี่ยวจวินพาหยางหยางไปโจวหยางถูกพาตัวไป หันหน้าไปทางซางเสี่ยวเฟย และซางเสี่ยวเฟยยิ้มและพูดว่า "ไห่ถง หลานชายของเธอน่ารักจริงๆ""น่ารักน่าหยิกเป็นบ้า""เด็กสมัยนี้ล้วนเป็นปีศาจตัวน้อยๆ คราวหน้ามาฉันจะซื้อของเล่นให้หลานชายของเธอนะ""คุณหนูชาง ไม่ต้องลำบากหรอก หยางหยางมีของเล่นมากมายอยู่แล้ว สามีของฉันซื้อให้เขามาเยอะมาก"ซางเสี่ยวเฟยพูด: "สิ่งที่คุณซื้อก็เป็นของคุณ และสิ่งที่ฉันซื้อก็เป็นของฉัน ฉันชอบเจ้าตัวน้อยคนนี้ ดังนั้นฉันอยากจะซื้อของเล่นให้เขาเยอะๆ ถ้าเขาเป็นหลานชายของฉัน ฉันจะฉีกท้องฟ้าเพื่อเอามันลงมาให้เขาเล่นด้วย”ไห่ถง: "นี่คือคนที่ตามใจเด็กสุดๆ คอนเฟิร์ม"หลังจากที่เซินเสี่ยวจวินพาโจวหยางไป ไห่ถงก็เข้าไปในครัวเพื่อหุงข้าวด้วยหม้อหุงข้าวก่อน เธอถามซางเสี่ยวเฟยว่า "คุณหนูซาง คุณอยากอยู่ที่นี่เพื่อกินข้าวกลางวันไหม? มันเป็นแค่อาหารทำเองที่บ้าน ถ้าคุณจู้จี้จุกจิกเกินไป ฉันไม่กล
“ไปทำงานของหลานต่อเถอะ”คุณยายจ้านไม่ได้ใช้เวลาของหลานชายมากเกินไปหลังจากวางสาย จ้านหยินก็วางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะ เอนหลังบนเก้าอี้แล้วพิงเก้าอี้สีดำ เขาวางมือขวาไว้บนเก้าอี้แล้วแตะคาง รู้สึกถึงตอหนวด - ถึงเวลาต้องโกนหนวดอีกครั้งซางเสี่ยวเฟยและภรรยาของเขาเริ่มสนิทกันได้ดีขึ้นเรื่อยๆเขาควรคิดหาทางทำลายความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคนนี้ดีไหม?หากเขาปล่อยให้ทั้งสองพัฒนามิตรภาพต่อไป เมื่อถึงเวลาที่เขาเผยตัวตนกับไห่ถง ซางเสี่ยวเฟยเมื่อรู้ว่าไห่ถงเป็นคู่แข่งกันในเรื่องความรัก จะต้องโกรธเคืองอย่างแน่นอนและไม่สามารถหายใจต่อไปได้ จึงเริ่มตอบโต้ไห่ถงเมื่ออยู่กับเขา เขาจะไม่ยอมให้ซางเสี่ยวเฟยทำร้ายไห่ถงจ้านหยินแค่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วก็ล้มเลิกความคิดไปเขาจ้านหยินไม่ใช่คนที่ไม่สามารถปกป้องภรรยาของเขาได้ ทำไมเขาต้องกลัวซางเสี่ยวเฟยด้วย?ถ้าทั้งสองคนอยากเป็นเพื่อนกันก็ปล่อยไป สำหรับตอนนี้การเข้ากับซางเสี่ยวเฟยได้เป็นสิ่งที่ดีสำหรับไห่ถง อย่างน้อยซางเสี่ยวเฟยก็จะคอยดูแลเธอไม่ว่าเขาจะทำอะไรเบื้องหลัง ทุกคนจะคิดว่าเป็นซางเสี่ยวเฟยเป็นคนทำ ซึ่งดีกว่าในการปกปิดตัวตนของเขาจ้านหยินไม่เคยยอม
เพราะอ้วนขนาดนี้ ระวังอย่าให้สามีดูถูกความอัปลักษณ์ของแก และมองหาผู้หญิงที่อายุน้อยกว่าและน่ารักกว่า แล้วแกจะต้องมีเรื่องให้ร้องไห้จริงๆ"คำพูดเหล่านี้แทงเข้าไปในใจของไห่หลิง เหตุผลที่เธอหมดหวังที่จะหางานก็เพราะว่าสามีของเธอดูถูกเธอและมีชู้ เพื่อต่อสู้แย่งชิงสิทธิ์การเลี้ยงดูแลลูกชาย เธอได้ลดระดับลงมาครั้งแล้วครั้งเล่า จนถึงขั้นสมัครแม้แต่ตำแหน่งเสมียนธรรมดาๆ เพียงเพื่อเผชิญกับการปฏิเสธและการเย้ยหยัน"ด่าฉันว่า 'นังหมูอ้วน' พูดอีกครั้งสิ ฉันสั่งให้พูด!"ผู้หญิงคนนั้นก้าวออกมาจากหลังโต๊ะ เข้ามาหาไห่หลิงห่างไปไม่กี่ก้าว แล้วผลักเธอไปที่ประตู ด่าเธออย่างไร้ความปราณี “นังหมูอ้วน นังหมูอ้วน ฉันพูดได้สิบครั้งถ้าต้องการ ตอนนี้ก็รีบไสหัวออกไปจากที่นี่ซะ!"ข้อดีของโรคอ้วนของไห่หลิงคือเธอสามารถยืนหยัดได้โดยไม่ขยับ ทำให้ผู้หญิงคนนั้นไม่สามารถผลักเธอออกไปได้"เธอติดค้างคำขอโทษฉัน และฉันจะไม่ออกไปไหนจนกว่าจะได้รับคำขอโทษ!"ผู้หญิงคนนั้นโกรธจัดจึงหันกลับมาที่โต๊ะ หยิบโทรศัพท์เรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแล้วบอกให้มาโยนไห่หลิงออกไปไม่นาน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนก็มาถึงด้วยความที่
"นี่คือบริษัทของคุณเหรอ?"ไห่หลิงผงะไป แต่แล้วเธอก็หยุดสงสัยเพราะบริษัทนี้ชื่อลู่ซื่อกรุ๊ปจ้านหยินบอกว่าคุณลู่เป็นลูกค้าคนสำคัญของบริษัทของเขา แต่เธอไม่คาดคิดว่าลู่ตงหมิงจะเป็นประธานของลู่ซื่อกรุ๊ปเมื่อลู่ซื่อกรุ๊ปเติบโตขึ้น เธอยังคงดิ้นรนอยู่ในที่ทำงาน ดังนั้นเธอจึงรู้ถึงจุดแข็งของลู่ซื่อกรุ๊ป แต่เธอไม่เคยเชื่อมโยง ลู่ตงหมิงกับประธานของลู่ซื่อกรุ๊ป“คุณลู่ ฉันไม่สร้างความวุ่นวาย ฉันมาสัมภาษณ์ แล้วผู้สัมภาษณ์ของคุณบอกว่าฉันไม่เหมาะสมกับภาพลักษณ์ ฉันก็เลยถามว่าทำไม เธอก็บอกว่าฉันอ้วนเกินไป เต็มไปด้วยการเลือกปฏิบัติต่อน้ำหนักของฉัน ซึ่งทำให้ฉันโต้กลับไป จากนั้นเธอก็ด่าทอฉัน เรียกฉันว่า 'หมูอ้วน' และบอกให้ฉันไปกลิ้งออกไป""คุณลู่ บริษัทลู่ซื่อกรุ๊ปของคุณก็เป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงในกวนเฉิง ฉันคิดมาโดยตลอดว่าพนักงานของคุณจะมีคุณภาพ แต่ฉันไม่ได้คาดคิดมาตรฐานที่นี่จะต่ำเช่นนี้""ประธานลู่ ฉัน..."คุณจ้าวก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าวโดยต้องการอธิบาย แต่ก็ถูกทำให้เงียบไปเมื่อเผชิญสายตาของลู่ตงหมิงลู่ตงหมิงถามไห่หลิง "คุณสมัครตำแหน่งอะไร?""เสมียนในแผนกการเงิน ฉันเคยเป็นผู้อำนวยกา
"ฉันคิดว่าคุณนายลู่ถ่ายรูปคุณหนูหยูและแสดงให้พี่สาวดูโดยตั้งใจ เพื่อทดสอบว่าเธอมีความรู้สึกกับตงหมิงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ผลก็คือเธอไม่มีความคิดนั้นอย่างแน่นอน เธอไม่เคยคิดอะไรกับตงหมิงเลย ตอนนี้เธอหมกมุ่นอยู่กับร้านอาหารเช้าและต้องการเพียงแค่ประกอบอาชีพและหาเงิน"จ้านหยินก็มองไห่หลิงออกเช่นกัน"ถ้าเธอมีความคิดอะไรกับตงหมิง คุณนายลู่คงจะไม่ยอมให้เธอเปิดร้านที่นั่นต่อไป"ไห่ถงเห็นด้วยกับสิ่งที่สามีของเธอพูดคุณนายลู่กำลังทดสอบพี่สาวของเธอ พี่สาวของเธอไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่ไม่เป็นไร เธอจะได้ไม่ได้รับผลกระทบ"ที่รัก คุณคิดว่าฉันควรบอกเรื่องพวกนี้กับพี่สาวของฉันไหม?""คุณนายลู่คงทำอะไรไม่ได้ แสดงให้เห็นว่าเธอเพียงสงสัยเช่นเดียวกับเรา แต่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ คุณไม่จำเป็นต้องพูดอะไรกับพี่สาวของคุณ ฉันแค่ต้องคุยกับตงหมิงและบอกเขาว่าอย่าไปทานอาหารเช้าที่บ้านพี่สาวของเราในอนาคต"จ้านหยินบ่นให้เพื่อนๆ ฟังว่าครอบครัวของเขาไม่ได้เตรียมอาหารเช้าไว้ ลู่ตงหมิงต้องรีบไปร้านกินได้ไม่อั้นแต่เช้าเพื่อทานอาหารเช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ใช่ไหม"ตกลง"หลังจากจ้านหยินกินและดื่มจนอิ่มแล้ว ไห่ถงก็ยิ้มและถา
ไห่ถงรู้สึกโชคดีอีกครั้ง เธอได้แต่งงานกับผู้ชายที่แม้จะแสดงอาการงอแงเล็กน้อยเป็นครั้งคราว แต่เขาก็ปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดี เขาไม่เคยใช้ความรุนแรงในครอบครัวกับเธอ และเขาไม่ต้องกังวลว่าเขาจะนอกใจด้วยกุญแจสำคัญอยู่ที่การเลี้ยงดูของเขา บ้านสามีที่่ใจกว้างและมีเมตตาอย่างแม่สามีตระกูลจ้าน เป็นสิ่งที่หาได้ยากในตระกูลที่ร่ำรวยเมื่อคิดย้อนกลับไปเมื่อคุณยายจ้านบอกกับเธอว่าเธอช่วยชีวิตอีกฝ่ายไว้และจะไม่แนะนำหลานชายที่ไม่ดีให้เธอรู้จักที่จริงแล้ว หลานชายทุกคนในครอบครัวของหญิงชราอย่างเธอนั้นนั้นดีมากจ้านหยินเป็นหลานชายคนโต และหญิงชราก็เลือกที่จะจับคู่เธอกับหลานชายที่ดีที่สุด"คุณนายลู่ได้ช่วยประธานลู่หาภรรยาที่เหมาะสมแล้ว เธอคือคุณหนูหยูหยินหยิน ทั้งสาว สวย และดูเฉลียวฉลาดและมีความสามารถ เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นคนที่อยู่ในแวดวงชั้นสูงมายาวนาน ความมั่นใจและรัศมีแห่งความสง่างามที่แผ่ออกมาจากทุกการเคลื่อนไหว ท่าทางของเธอบ่งบอกว่าเธอมาจากภูมิหลังที่ร่ำรวยหรือสูงศักดิ์ นั่นสามารถทำให้คุณนายลู่ชอบเธอได้โดยไม่ต้องลำบากอะไร""ฉันรู้"จ้านหยินพูดขณะกิน "เป็นเพราะคุณนายลู่เลือกภรรยาที่เหมาะสมกับตงหมิง
"ไม่ต้องพูดถึงว่าเราทุกคนต่างก็มีสิ่งที่ต้องทำ แม้ว่าในอนาคตเราจะเกษียณ เราก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าเราจะตื่นขึ้นทุกวันและพบกันเมื่อเราลืมตาขึ้น"มีคนตื่นก่อนเสมอ และมีคนตื่นทีหลังเสมอจ้านหยินรู้ว่าเขาสร้างปัญหาโดยไม่มีเหตุผล"ป้าเหลียงบอกว่าคุณยังไม่ได้กินข้าว คุณหิวไหม ออกไปกินข้าวกันเถอะ ฉันจะอยู่กับคุณ"ไห่ถงรู้ว่าการยืดเวลาการสนทนาออกไปอาจทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่างพวกเขามากขึ้นหลีกเลี่ยงการทะเลาะเบาะแว้ง เพราะอาจทำให้ทั้งคู่โกรธกันได้"อืม"จ้านหยินพยักหน้าแล้วปล่อยภรรยาที่รักของเขาจากอ้อมแขนไห่ถงดึงเขาออกมาป้าเหลียงเตรียมอาหารเช้าของจ้านหยินไว้บนโต๊ะอาหารแล้วนายน้อยชอบทำตัวจุกจิกจู้จี้ แต่ต่อหน้านายหญิง เขามักจะต้องก้มหัวและประนีประนอมอยู่เสมอป้าเหลียงไม่กังวลเลยว่าอาหารเช้าที่เธอทำจะเสียเปล่า"ทำไมคุณไม่พาหยางหยางมาล่ะ?"จ้านหยินทานอาหารเช้ากับภรรยา และอารมณ์ของเขาก็ดีขึ้น เขาเลิกทำหน้าเย็นชาและถามถึงเจ้าตัวน้อย"พี่สาวของฉันบอกว่าวันนี้เธอจะปิดร้านเร็วและปล่อยให้หยางหยางเล่นในร้าน เธอจะพาหยางหยางกลับบ้านเร็วๆ นี้ จ้าน...ที่รัก พาหยางหยางมาอยู่ที่นี่กันเถ
"เมื่อไหร่คุณยายจะกลับมา? ฉันคิดถึงเธอมาก"ไห่ถงคิดถึงวันที่คุณยายจ้านเคยอยู่ที่นี่มากป้าเหลียงพูด: "เมื่อฉันรู้ตัวว่าต้องเตือนนายหญิง มันก็สายเกินไปเสียแล้ว คุณผลักประตูเปิดและเดินเข้าไปแล้ว"ไห่ถงถอนหายใจอีกครั้งและพูดว่า "ฉันจะไปล้างมือ"เธอล้างมือสองครั้งด้วยสบู่และกลับไปที่ห้องที่เธอเคยอยู่ เธอหยิบชุดเสื้อผ้าที่สะอาดจากตู้เสื้อผ้า เปลี่ยนชุด แล้วกลับไปที่ห้องนอนใหญ่"ที่รัก ฉันล้างมือและฆ่าเชื้อสองครั้ง ฉันยังเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีขนแมวติดตัวของฉัน"ไห่ถงเดินไปข้างหลังจ้านหยิน และขณะที่เธอพูด เธอก็เอื้อมมือไปโอบรอบเอวของเขา"ที่รัก ฉันขอโทษ ฉันลืมไปจริงๆ ว่าฉันกำลังอุ้มแมวอยู่เมื่อกี้ จริงๆ แล้วพวกมันน่ารักมาก คุณให้ฉันเลี้ยงพวกมัน และพวกมันก็มีค่าสำหรับฉันทั้งหมด คุณพูดว่า ถ้าฉันให้หญ้าคุณหนึ่งกำมือ คุณจะถือว่ามันเป็นสมบัติ ในทำนองเดียวกัน ไม่ว่าคุณจะให้อะไรกับฉัน ฉันก็จะรักมันมาก"จ้านหยินไม่หันหลังกลับและปล่อยให้เธอโอบเอวของเขาเขากล่าว: "ฉันตื่นมาแล้วไม่เห็นคุณ ฉันถามป้าเหลียงแล้วเธอก็บอกว่าคุณออกไปแต่เช้า ฉันรู้สึกเหมือนถูกคุณทิ้งเอาไว้ข้างหลัง เมื่อคุ
ไห่ถงก้มตัวลงและอุ้มแมวขึ้นมา"นายหญิง คุณไปง้อนายน้อยก่อนเถอะ นายน้อยเพิ่งตื่นและยังไม่ได้กินข้าว"ป้าเหลียงรู้สึกไร้เรี่ยวแรงเมื่อจู่ๆ นายน้อยของเธอกลายเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยถ้าเธอไม่มาทำงาน เธอคงไม่รู้ว่านายน้อยจะมีด้านที่คิดเล็กคิดน้อยเช่นนี้ไห่ถงลูบแมวแล้วถามป้าเหลียง: "ป้าเหลียง คุณต้องบอกฉันว่าทำไมเขาถึงโกรธ ฉันถึงจะง้อได้ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย"ป้าเหลียงกระซิบ: "ฉันเดาว่านายน้อยคงโกรธที่คุณออกไปข้างนอกแต่เช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ นายน้อยพักผ่อนที่บ้านและหวังว่านายหญิงจะอยู่กับเขา"ไห่ถง: "... ฉันแค่ไปช่วยงานพี่สาวของฉัน แม้ว่าจะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่โรงงานหลายแห่งไม่มีวันหยุดและยังต้องทำงาน ดังนั้นร้านอาหารเช้าของน้องสาวฉันจึงยังคงยุ่งมาก ฉันออกไปเร็วแต่ก็กลับมาเร็วเช่นกัน ฉันยังกลับมาก่อน 10 โมง"เธอไม่เคยคิดว่าจ้านหยินจะกลายเป็นคนใจแคบเพราะเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ป้าเหลียงก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเหมือนกัน"ฉันจะเข้าไปง้อเขา"ไห่ถงซึ่งรู้ดีว่าสามีของเธอเป็นคนแบบไหน เดินเข้าไปในห้องอย่างช่วยไม่ได้พร้อมกับแมวของเธอในอ้อมแขนหลังจากที่เธอผลักประตูเปิดและเข้าไป ป้าเหลียงก็จำ
ขณะที่ยุ่งอยู่ตรงนี้ จ้านหยินก็ตื่นขึ้นตามปกติ ก่อนที่เขาจะลืมตา เขาหันข้างและเหยียดแขนยาวของเขาออกไปเพื่อกอดภรรยาที่รักของเขา แต่สุดท้ายก็คว้าลมนั่นคือตอนที่เขาลืมตาขึ้นแน่ล่ะ ไห่ถงไม่อยู่ในห้องอีกต่อไปเมื่อมองดูท้องฟ้าภายนอก พระอาทิตย์กำลังขึ้นสูงจ้านหยินหันกลับมาและหยิบโทรศัพท์จากโต๊ะข้างเตียงเพื่อดูเวลา"ตอนนี้เก้าโมงแล้ว!"จู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นนั่งแม้กระทั่งในวันหยุดสุดสัปดาห์ เขาก็ไม่เคยเข้าตื่นสายขนาดนี้มาก่อนบางทีอาจเป็นเพราะว่าเขากลับบ้านดึกเมื่อคืนก่อนเขารีบอาบน้ำและเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าลำลอง โดยตั้งใจเลือกชุดที่ไห่ถงซื้อมาให้เขาเมื่อเขาเปิดประตู เขาก็เห็นป้าเหลียงกำลังนั่งอยู่บนโซฟา อุ้มแมวตัวหนึ่งไว้และดูทีวี เมื่อได้ยินเสียงประตูเปิด เธอจึงหันไปมองเขา จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนพร้อมรอยยิ้ม “นายน้อย คุณตื่นแล้ว คุณอยากกินอาหารเช้าไหม?”"ตอนนี้เก้าโมงกว่าแล้ว"จ้านหยินบ่นพึมพำขณะเดินออกไป“ถึงจะเก้าโมงกว่าแล้ว ก็ยังควรกินอะไรนะ นายหญิงได้สั่งเราไว้ก่อนที่เธอจะออกไป ให้เตือนนายน้อยว่าควรกินอาหารเช้าเมื่อเขาตื่นนอน”"นายหญิงของคุณอยู่ที่ไหน? เธอตื่นและออกไปข้างนอกตั้ง
หยูหยินหยินก็ไม่ได้โกรธเช่นกันเธอและลู่ตงหมิงรู้จักกันมาเป็นเวลานานแล้ว แต่พวกเขาแทบจะไม่ได้พูดคุยกันเลย ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าพวกเขาไม่ได้รู้จักกันดีนักเขาไม่รู้เกี่ยวกับอดีตของเธอ ก็ถือเป็นเรื่องปกติ"คุณหนูหยู นี่อาหารเช้าของคุณ"หลังจากไห่หลิงทำอาหารเช้าให้หยูหยินหยินแล้ว เธอก็เอามาวางไว้ตรงหน้าเธอ ด้วยรอยยิ้ม เธอกล่าวกับหยูหยินหยินว่า "คุณหนูหยู ทานให้อร่อยนะคะ"หยูหยินหยินตอบด้วยรอยยิ้มไห่หลิงกลับไปที่นั่งและนั่งลง"พี่ คุณเจอเธอเมื่อไหร่?"ไห่ถงกระซิบกับพี่สาวของเธอ"คุณนายลู่แวะมาวันก่อนและเข้ามานั่งคุยกับฉัน ขณะที่คุยกับฉัน เธอบอกฉันว่าเธอต้องการจับคู่คุณหนูหยูกับประธานลู่ และแสดงรูปถ่ายของคุณหนูหยูให้ฉันดู ฉันก็เลยจำเธอได้"ไห่หลิงตอบน้องสาวของเธอด้วยเสียงต่ำและกระซิบ: "เห็นไหม พวกเขาเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบ คุณหนูหยูก็ให้ความรู้สึกสบายใจมากเช่นกัน โดยไม่มีความรู้สึกห่างเหินแบบทายาทเศรษฐี"ไห่ถงมองน้องสาวอย่างละเอียด จากนั้นก้มหัวลงเพื่อกินบะหมี่และกระซิบว่า "เข้ากันได้ดีทีเดียว"ป้าเคยพูดว่าคุณนายลู่เข้ากับคนยากมากจ้านหยินก็พูดเช่นกันเนื่องจากคุณนายลู่ม
เขาไม่มีอะไรจะคุยกับไห่ถงมากนักและด้วยไห่ถงที่อยู่ที่นี่ ลู่ตงหมิงและไห่หลิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากนักลูกค้าก็เริ่มทยอยเข้ามาเพื่อกินเกี๊ยวนึ่ง ผู้ช่วยร้านเป็นคนจัดการรับออเดอร์ พนักงานจะเสิร์ฟอาหารเช้าให้พวกเขาแทนไห่หลิงซึ่งเป็นเถ้าแก่เนี้ยเองเธอสามารถนั่งลงในที่เดิมและกินบะหมี่ต่อไปได้"พี่ลู่"คำว่าพี่ลู่นั้น ทำให้ลู่ตงหมิงหมดความอยากอาหารทันทีพี่น้องไห่มองไปที่หญิงสาวสวยที่เปิดประตูกระจกและเดินเข้ามา ไห่ถงไม่เคยรู้จักหยูหยินหยิน แต่ไห่หลิงเคยเห็นภาพของหยูหยินหยิน เมื่อมองไปหยูหยินหยินที่เข้ามา เธอคิดว่าหยูหยินหยินสวยกว่าในรูปเข้ากันได้ดีกับลู่ตงหมิง"คุณหนูหยู คุณอยากทานอาหารเช้าไหม?"ไห่หลิงวางตะเกียบลงและยืนขึ้นอีกครั้งเพื่อต้อนรับแขกสายตาของหยูหยินหยินละสายตาจากลู่ตงหมิงและจ้องมองไปที่ไห่หลิง เธอเคยเห็นไห่หลิงหลายครั้งจากไกลๆ แต่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นหน้าอีกฝ่ายกับตาตัวเอง เมื่อมองดูไห่หลิงอย่างดีๆแล้ว หยูหยินหยินรู้สึกว่าไห่หลิงเป็นหญิงสาวที่สวยมาก“ฉันได้ยินมาว่าอาหารเช้าที่นี่อร่อยมาก ฉันจะทานเหมือนกับพี่ลู่ ขอบคุณ”หยูหยินหยินเดินไปที่โต๊ะของลู่ตงหมิง วางกระเ
"ตกลง"น้องของเธออยากกินบะหมี่เครื่องในหมู ไห่หลิงยังต้มบะหมี่เครื่องในหมูสองชามด้วย เธอไม่ชอบผักชี ดังนั้นจึงมีแต่ชามน้องของเธอเท่านั้นที่ใส่ผักชีในชามของเธอ"บะหมี่เสร็จแล้ว"ไห่หลิงเรียกน้อฃให้มาเอาบะหมี่ที่ปรุงแล้วไห่ถงหยุดงาน ล้างมือ แล้วเดินไปหยิบชามบะหมี่ของเธอสองพี่น้องนั่งลงที่โต๊ะ ไห่ถงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาอย่างเป็นนิสัยและเตรียมกินบะหมี่ไปพร้อมกับอ่านข่าวไปด้วย"เวลากิน อย่ามัวแต่ดูโทรศัพท์ข เก็บโทรศัพท์ของเธอลงไป"ไห่หลิงไม่ยอมให้เธอกินในขณะที่เล่นโทรศัพท์ของเธอแบบนี้"ฉันแค่จะดูมันเฉยๆ"ไห่ถงพูด แต่ก็เก็บโทรศัพท์ของเธอกลับเข้าไปในกระเป๋าอย่างเชื่อฟัง"ต่อไปนี้ กินข้าวอยู่ห้ามเล่นโทรศัพท์ไปด้วย""เข้าใจแล้ว"ต่อหน้าพี่สาวของเธอ ไห่ถงไม่กล้าที่จะดื้อรั้น นอกจากนี้ การใช้โทรศัพท์ขณะกินอาหารก็เป็นนิสัยที่ไม่ดีจริงๆ“พี่ คืนนี้พี่จะไม่ไปงานเลี้ยงกับฉันจริงๆ เหรอ”"ไม่ไป""พี่ ฉันคิดว่าคุณควรออกไปเปิดโลกบ้าง"ไห่หลิงค่อยๆ กินบะหมี่ที่เพิ่งปรุงเสร็จและร้อนมาก"ฉันไม่จำเป็นต้องไปดูโลกแล้ว ฉันยังไปไม่ถึงระดับนั้น เธอแตกต่าง เธอเป็นนายหญิงคนโตของตระกูลจ้าน เธอต้