คำพูดของลู่ตงหมิงทำให้ใบหน้าของคุณจ้าวซีดลงแต่เธอก็ไม่กล้าที่จะแก้ตัว และพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า “ท่านประธาน ฉันรู้ว่าฉันผิด ฉันสัญญาว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก”จากนั้นเธอเข้าไปหาไห่หลิงและขอโทษอย่างจริงใจว่า "คุณไห่ ฉันขอโทษที่ตัดสินคนอื่นจากรูปร่างหน้าตาของพวกเขาและดูถูกคุณ โปรดยกโทษให้ฉันด้วย"ความโกรธของไห่หลิงจางหายไปและเธอก็ตอบอย่างเชื่องช้าว่า "คุณจ้าว ฉันเองก็มีส่วนผิดเช่นกัน น้ำเสียงของฉันก็ไม่เหมาะสมและยั่วยุคุณ โปรดยกโทษให้ฉันด้วย"หลังจากที่ทั้งคู่ขอโทษกันแล้ว คุณจ้าวก็ถามไห่หลิงว่าเธอจะเริ่มงานได้เมื่อใดเมื่อรู้สึกว่างานมีความมั่นคง ไห่หลิงก็ดีใจอยู่ในใจและพูดด้วยรอยยิ้ม "ฉันสามารถเริ่มทำงานได้ตลอดเวลา"“งั้นก็เริ่มงานกันพรุ่งนี้เลย”"โอเค ขอบคุณคุณจ้าว ขอบคุณคุณลู่"หลังจากขอบคุณพวกเขาแล้ว ไห่หลิงก็เดินออกไป ถือเรซูเม่ของเธออย่างมีความสุข“ไห่หลิง”ลู่ตงหมิงเรียกหาเธอไห่หลิงรีบหยุด หันกลับมาและถามเขาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า "คุณลู่ คุณมีคำแนะนำอะไรอีกไหม?”“เนื่องจากคุณจะเริ่มทำงานพรุ่งนี้ ให้วิ่งห้ารอบรอบสวนด้านนอกอาคารนี้ทุกวันก่อนทำงาน ถ้าวิ่งไม่เสร็จ คุณจะไม่ได
หลังจากที่ลู่ตงหมิงและไห่หลิงจากไป ผู้คนก็เริ่มพูดคุยกันอย่างกระตือรือร้น โดยคาดเดาว่าCEO ของพวกเขารู้จักไห่หลิงได้อย่างไร และดูเหมือนว่า CEO ของพวกเขาค่อนข้างมีน้ำใจต่อ ไห่หลิง“เป็นไปได้ไหมว่าเธอเป็นญาติของ CEO ?”“มันเป็นญาติกันไม่ได้ คุณไม่ได้ยินผู้หญิงอ้วนคนนั้นเรียกซีอีโอของเราว่า 'คุณลู่' ด้วยความเคารพเหรอ พวกเขาคงเคยเจอกันมาก่อนแต่ไม่ได้สนิทกัน”“คุณคิดว่าซีอีโอของเราอาจจะชอบผู้หญิงอ้วนคนนั้นหรือเปล่า? เขาอายุสามสิบห้าแล้ว แต่ก็ยังไม่มีแฟน”ลู่ตงหมิง ยังเป็น CEO ที่อายุน้อยและมีอนาคตสดใส แต่รอยแผลเป็นบนใบหน้าของเขานั้นเห็นได้ชัดเจนเกินไป เมื่อประกอบกับรูปลักษณ์ที่สูงตระหง่านและดวงตาที่เฉียบคมของเขา คนที่มองก็รู้สึกเย็นวาบไปทั่วทั้งตัวดังนั้นเขาจึงยังเป็นโสดตอนอายุสามสิบห้าทุกคนมองไปที่คนที่แสดงความคิดเห็น คุณจ้าวตบหัวและวิพากษ์วิจารณ์ว่า "พวกเธอคิดอะไรอยู่ แม้แต่ฉันในฐานะผู้หญิงก็ไม่เลือกผู้หญิงอ้วนคนนั้น ไม่ต้องพูดถึงผู้ชายเลย"“CEO ของเรามีแต่รอยแผลเป็นบนใบหน้า ถ้าไม่มองด้านนั้น เขาก็หล่อมาก ด้วยสถานะ CEO เขาจะแต่งงานกับสาวงามแบบไหนก็ได้ที่เขาต้องการ ทำไมเขาต้องก้มหน
คำพูดของเธอทำให้มุมปากเขากระตุกโดยไม่ตั้งใจแต่เขาไม่สามารถโต้ตอบได้ เพราะเขาเป็นคนที่ไม่อนุญาตให้เธอเข้าไปในห้องของเขาในทำนองเดียวกัน เขาไม่สามารถเข้าไปในห้องของเธอได้เช่นกันเป็นอีกครั้งที่จ้านหยินรู้สึกว่าสัญญาที่เขาเซ็นไปนั้น กำลังผูกมัดตัวเองเขาไม่เคยคิดเลยว่า เขาจะเป็นคนที่กระตือรือร้นที่สุด จะผิดสัญญาได้มากที่สุดเขาสงสัยว่าเขาจะกลับคำพูดตอนนี้ทันไหม?เธอซ่อนสัญญาไว้ที่ไหน? เขาควรใช้ประโยชน์จากการที่เธอไม่อยู่และขโมยสัญญาคืนมา เพื่อทำลายหลักฐานทั้งหมดหรือไม่?ความคิดนี้เข้ามาในจิตใจของจ้านหยินในช่วงสั้นๆ แต่ถูกระงับอย่างรวดเร็วในฐานะนายน้อยที่น่านับถือของตระกูลจ้าน เขาไม่สามารถพาตัวเองไปทำสิ่งที่ไร้ยางอายเช่นนั้นได้"เป็นสุนัขที่น่ารักจริงๆ"เซินเสี่ยวจวินลูบขนของสุนัขและชื่นชมความน่ารักของมันจ้านหยินมีรสนิยมดีจริงๆ สุนัขและแมวสองตัวที่เขาเลือกล้วนน่ารักอย่างไม่น่าเชื่อโจวหยางยิ่งงอแงมากขึ้น พยายามดิ้นรนที่จะลงไป ไม่ต้องการให้จ้านหยินอุ้มเขาอีก ตัวเขาเองก็อยากเล่นกับสุนัขเหมือนกันไห่ถงหยิบโทรศัพท์ของเธอออกมาแล้วถ่ายรูปสุนัขและแมว แต่เธอไม่ได้โพสต์ลงในลงโซเชียล
“จ้านหยิน เธอก็อยู่ที่นี่ด้วย”เมื่อเห็นน้องเขย ไห่หลิงก็ยิ้มให้เขาก่อนจะก้าวไปข้างหน้าไปอุ่มลูกชายของเธอ เธอจูบหลายครั้งบนใบหน้าเล็กๆ ของลูกชาย ทำให้เด็กน้อยหัวเราะอย่างมีความสุข"พี่"จ้านหยินตะโกนเรียกพี่ภรรยาของเขา“เอ๊ะ สุนัขและแมวพวกนี้มาจากไหนกัน? น่ารักจังเลย!”หลังจากจูบลูกชายของเธอเท่านั้น ไห่หลิงก็สังเกตเห็นอะไรใหม่ๆ ในร้าน“สัตว์เลี้ยงเหล่านั้นเป็นของขวัญจากจ้านหยิน พี่ได้งานแล้วหรือยัง?” ไห่ถงไม่เคยเห็นพี่สาวเธอมีความสุขขนาดนี้มานานแล้วไห่หลิงชื่นชมสัตว์ตัวเล็กๆ ที่น้องเขยพามาก่อน แล้วจึงตอบน้องสาวว่า "ฉันได้งานแล้ว ไม่คาดคิดมาก่อน ฉันไม่เคยคิดเลยว่าจะไปเจอคนที่ฉันรู้จัก ถงถง รู้ไหมว่าพี่กำลังจะไปทำงานที่ไหน?""ลู่ซื่อกรุ๊ป"ไห่ถงไม่ได้ให้ความสนใจกับบริษัทขนาดใหญ่เหล่านี้มากนัก เพียงรู้เกี่ยวกับจ้านซื่อกรุ๊ปที่มีชื่อเสียงในเมืองเท่านั้น เพราะเพื่อนมักจะพูดถึงนายน้อยจ้าน ต่อมาหลังจากที่เธอแต่งงานกับจ้านหยินซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของจ้านซื่อกรุ๊ปเธอก็เริ่มคุ้นเคยกับมันมากขึ้นเหตุผลที่เธอจำชางซื่อกรุ๊ปได้ก็เพราะซางเสี่ยวเฟย เธอไม่ได้สนใจชื่อของบริษัทใหญ่ๆ หรือบริษัทอื่น
เมื่อหันไปดู ก็เห็นว่าไห่ถงไม่มองเขาเลยสักนิด เธอเอาแต่จดจ่ออยู่กับการยกจานอาหารสองจานขึ้น แล้วกวาดตามองเล็กน้อย นอกจากผักหนึ่งจาน นอกนั้นก็ยังคงเป็นอาหารทะเลนี่คืออาหารทะเลที่ซางเสี่ยวเฟยให้เธอ!เขาก้าวขาฉับๆเดินเข้าไป แล้วหยิบอาหารสองจานนั้นจากมือของไห่ถง "ในเมื่อผมเข้ามาแล้ว งั้นจะช่วยยกออกไปให้แล้วกัน คุณจะได้ไม่ต้องเสียเวลาเดินหลายรอบ""ขอบคุณค่ะคุณจ้าน"จ้านหยินซึ่งกำลังจะเดินไปก็อดชะงักฝีเท้าไม่ได้ เขาหันกลับมามองเธอ"เป็นอะไรคะ?"หลังจากที่เขารับอาหารสองจานนั้นมาแล้ว ไห่ถงก็ยกอาหารขึ้นมาอีกสองจาน พอเห็นลึกล้ำของเขาจ้องเธอนิ่ง เธอก็สงสัย แล้วก้มมองดูเสื้อผ้าของตัวเอง ก็ไม่ได้เลอะสักหน่อย"คุณเลิกเรียกผมว่าคุณจ้านได้ไหม?"จ้านหยินพูดความไม่พอใจออกมาอย่างเต็มที่เมื่ออยู่ร่วมกับไห่ถง ถ้าเขามีอะไรไม่พอใจการพูดออกมาอย่างตรงไปตรงมาเป็นสิ่งที่ดีที่สุด หากจะให้ไห่ถงไปเดาเอาเอง ขอโทษที แต่เกรงว่าเธอไม่มีเวลาขนาดนั้น และไม่มีความคิดจะไปนั่งคาดเดาเอาเองด้วยเธอยังยึดมั่นกับเนื้อหาในสัญญาอยู่นะ"งั้นจะให้เรียกคุณว่าอะไรล่ะ?"จ้านหยินเม้มปาก จู่ๆก็ไม่รู้ว่าจะตอบเธอยังไงดีจะให
จ้านหยินพูดขนาดนี้แล้ว ไห่หลิงจึงไม่ได้ว่าอะไรอีก แล้วช่วยใส่ถุงมือพลาสติกให้ลูกชายหลังมื้ออาหาร จ้านหยินก็ช่วยภรรยาเก็บจานชามกลับไปล้างในห้องครัวไห่หลิงชมความดีของน้องเมียให้น้องสาวฟังไม่ขาดปาก แล้วกำชับให้น้องต้องทำตัวดีๆกับจ้านหยินเธอกลัวที่สุดหากความล้มเหลวในการแต่งงานของตัวเอง จะทำให้น้องสาวเกิดความรู้สึกผิดหวังในชีวิตแต่งงานโจวหงหลินเป็นผู้ชายที่แย่ แต่ไม่ได้หมายความว่าผู้ชายทุกคนจะเลวเหมือนเขาในโลกนี้ ยังมีสามีที่ดีอยู่เพียงไห่หลิงโชคชะตาไม่ดี เลยไม่ได้เจอก็แค่นั้นไห่ถงพูดอย่างระอา "เข้าใจแล้ว พี่ไม่ต้องมาชมเขาให้ฉันฟังวันละหลายร้อยรอบก็ได้ ฉันจะเข้าไปช่วยล้างจานแล้วกัน"ขณะพูดอยู่ ก็รีบเดินเข้าห้องครัวไปไม่งั้นเดี๋ยวพี่ก็จะพูดไม่หยุดว่าจ้านหยินดีอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วสั่งให้เธอทำตัวดีๆกับจ้านหยิน พูดซะอย่างกับว่าปกติแล้วเธอรังแกทรมานจ้านหยินซะอย่างนั้นแหละเซินเสี่ยวจวินลอบหัวเราะจ้านหยินกำลังคิดจะล้างจาน เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า ก็หันไปมองหน้าประตูห้องครัว ก็เห็นไห่ถงเข้า เขาจึงพูดว่า "เดี๋ยวผมล้างเอง คุณไปนั่งพักเถอะ เตรียมอาหารทะเลทั้งโต๊ะคงจะเหนื่อยแย่""
จ้านหยินนั่งพักอยู่ด้านนอกชั่วครู่ ก็ต้องกลับไปทำงานที่บริษัท ไห่ถงเพิ่งจะล้างเครื่องจานเสร็จแล้วออกมาพอดี เมื่อเห็นเขากำลังจะไป ก็รีบออกไปกับเขาชายหนุ่มหยิบซองเอกสารขนาดใหญ่ออกมาจากรถด้วยความรู้สึกนอยอยู่ในใจ แล้วหมุนตัวยื่นมันให้ไห่ถง ก่อนจะพูดเสียงทุ้มต่ำ "อยู่ในนี้หมดแล้ว"ไห่ถงรับหลักฐานที่โจวหงหลินนอกใจมาถือ อยากจะขอบคุณเขาอีกรอบ เมื่อสบตาดวงตาสีดำลึกล้ำของเขา ไห่ถงก็มองไปรอบๆ แต่เมื่อเห็นว่ามีคนอยู่ เธอจึงได้แต่ล้มเลิกความคิด"ขับรถดีๆค่ะ ถึงบริษัทแล้วส่งข้อความมาบอกฉันหน่อย ฉันจะได้รู้ว่าคุณปลอดภัยดี"จ้านหยินเม้มปาก ก่อนจะตอบรับเสียงทุ้มต่ำเมื่อขึ้นรถ เขาก็ยังไม่วายมองเธอด้วยความลึกซึ้งต่ออีกหน่อย แล้วจึงขับรถออกไปไห่ถงยืนมองรถของเขาแล่นออกไปไกลอยู่ที่เดิม แล้วก็รู้สึกว่าระหว่างพวกเขาสองคนอยู่ๆก็เกิดความแปลกๆราวกับว่ามีความรักกุ๊กกิ๊กเกิดขึ้นอะไรแบบนั้นบางที เธออาจจะไม่ต้องหดหัวอยู่ในกระดอง สามารถยื่นหัวออกไปอีกสักครั้ง แล้วลองสัมผัสกับรสชาติของความรักดูสักหน่อยสัญญาครึ่งปียังไม่ครบสักหน่อย ยังมีโอกาสอยู่พอคิดแบบนี้ ไห่ถงก็ล้วงโทรศัพท์ออกมา แล้วส่งข้อความหาจ้า
ไห่หลิงกัดฟันแน่น ไม่ยอมให้ตัวเองร้องไห้ออกมาอีกเด็ดขาดเธอเคยร้องไห้เพราะโจวหงหลินมาแล้วไม่อยากต้องเสียน้ำตาเพราะเขาอีกอีกทั้งน้ำตาของเธอไม่อาจแลกมาด้วยความเห็นใจจากเขา แล้วจะร้องไห้ให้ปวดตาไปทำไม?"พี่ไม่เป็นไร"ไห่หลิงยัดของพวกนั้นคืนใส่ซองเอกสาร แล้วแสร้งทำเป็นพูดด้วยความเข้มแข็ง "สภาพจิตใจของพี่ตอนนี้ดีมากแล้ว ใช่ว่าเพิ่งจะรู้ตอนนี้สักหน่อยว่าเขาแทงข้างหลังพี่""ถงถง"ไห่หลิงส่งซองเอกสารขนาดใหญ่ให้น้องสาว "เธอช่วยพี่เก็บหลักฐานพวกนี้ที ถ้าพี่เอากลับบ้านแล้ว แล้วเขาเกิดมาเห็นเข้า เกิดเขาโอนทรัพย์สินขึ้นมา พี่จะเสียเปรียบ""โอเค"ไห่ถงรับซองเอกสารขนาดใหญ่มาไห่หลิงพูดด้วยน้ำเสียงสงบ "พี่จะแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องตามที่เธอบอก รอจนงานของพี่นิ่งดีแล้ว พี่ค่อยพูดเรื่องหย่า อะไรที่ควรเป็นของพี่ พี่จะแย่งชิงมาให้หมด ไม่ยอมให้เขาเอาเปรียบได้แน่!"หลังจากแต่งงาน เธอก็ไม่ได้ทำงานอีก แต่เธอทุ่มเทเพื่อครอบครัวมากเกินไป หลังจากแต่งงาน รายได้ของโจวหงหลินถูกนับเป็นทรัพย์สินร่วมกันของสามีภรรยา เธอจะแย่งชิงเงินเก็บของเขามา ทำให้เขาโมโหจนเป็นบ้าไปเลย!อีกอย่าง ค่าตกแต่งภายในบ้านที่พวกเข