“ถงถง เริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้ไป เธอสามารถไปรับหยางหยางได้ ฉันจะวิ่งไปที่ร้านของเธอ ฉันต้องลดน้ำหนัก!”เธอไม่ได้พยายามรักษาภาพลักษณ์ที่ดี เพื่อยื้อโจวหงหลินเอาไว้ เธอพยายามเพื่อให้ได้งานที่ดีขึ้นในอนาคต"ได้"ไห่ถงบอกพี่สาวแล้วว่าเธอต้องออกกำลังกายต่อไป และอย่าปล่อยให้ตัวเองอ้วนขึ้นอีก"ถงถง"ทันใดนั้น ไห่หลิงก็กอดน้องสาวและร้องไห้ออกมาดัง ๆ สะอื้นอย่างควบคุมไม่ได้หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความขมขื่นหลังจากรักกันมานานหลายปี ก็มาถึงจุดนี้ในวันนี้คงเป็นการโกหกถ้าบอกว่าเธอไม่เจ็บปวดเธอแสร้งทำเป็นเข้มแข็ง ไม่อยากให้ลูกชายเห็นเธอร้องไห้ไห่ถงกอดพี่สาวแน่น ดวงตาของเธอก็แดงเช่นกันเหมือนกับเมื่อสิบห้าปีที่แล้ว ตอนที่เธอรู้ว่าทั้งพ่อและแม่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ พี่สาวมาโรงเรียนเพื่อรับเธอและพาเธอกลับบ้าน ทันทีที่เธอเห็นพี่สาวนอกประตูโรงเรียน ก็กอดเธอและร้องไห้ เธอยังคงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในเวลานั้นพี่สาวพูดว่า: "ถงถง พวกเราไม่มีพ่อแม่แล้ว"ในขณะนั้น สมองของเธอว่างเปล่า จากนั้นเธอก็รู้สึกว่าท้องฟ้าหมุนไป เมื่อเธอกลับมามีสติ เธอเห็นใบหน้าของพี่สาวเต็มไปด้วยน้ำตา และใบหน้าของเ
ไห่หลิงพูดขอบคุณว่า "ถงถง จ้านหยินเป็นคนดี เธอไม่ได้ตัดสินเขาผิด ทุกครั้งที่เราเผชิญกับความยากลำบาก จ้านหยินจะอยู่เคียงข้างเธอเสมอ เขายังให้การสนับสนุนทางการเงินและทางร่างกายด้วย เธอควรมีชีวิตที่ดีกับเขานะ”ไห่ถงพูดว่า "พี่ ฉันรู้"หากเธอบอกพี่สาวว่าการแต่งงานของเธอกับจ้านหยิยนั้นกำหนดไว้เพียงหกเดือนและทั้งสองเป็นเพียงคู่รักในนาม พี่สาวจะต้องเสียใจอย่างแน่นอนเธอตัดสินใจเก็บเรื่องนี้ไว้จากพี่สาวในตอนนี้“ถงถง เธอจะต้องไม่สูญเสียศรัทธาในตัวจ้านหยินเพราะปัญหาการแต่งงานของฉัน จ้านหยินอาจไม่ใช่คนพูดมาก แต่เขาทำสิ่งต่าง ๆ ให้สำเร็จ”"พี่ ฉันไม่ทำ”ไห่หลิงกังวลว่าปัญหาการแต่งงานของเธอเองจะส่งผลกระทบต่อทัศนคติของน้องสาว และแม้แต่การแต่งงานของเธอเองในสายตาของไห่หลิง จ้านหยินเป็นคนดีมากและเขาก็ดีกับน้องสาวจากใจจริงด้วยแต่อนาคตยังคงต้องดูกันต่อไป โจวหงหลินไม่เคยทำดีกับเธอมาก่อนเช่นกันหรอกเหรอ?หลังจากกลับมาที่ออฟฟิศ ขณะที่จ้านหนินกำลังจะขอให้เลขาของเขาเรียกซูหนานมา ซูหนานก็เคาะประตูแล้วเข้าไป“บอส นี่คือหลักฐานที่คุณขอ”ซูหนานเข้ามา และวางซองจดหมายขนาดใหญ่ไว้บนโต๊ะของจ้านหยิน นั่ง
เขารู้ว่าไห่หลิงกำลังหางานมาระยะหนึ่งแล้ว แต่เธอก็ยังไม่ได้งานเลยเพราะไห่หลิงยังต้องการกลับไปทำงานตำแหน่งเดิมก่อนแต่งงานซึ่งค่อนข้างยาก ดังนั้นเธอจึงยังไม่มีงานทำและเมื่อรู้เรื่องชู้หงลินแล้ว ไห่หลิงก็น่าจะจู้จี้จุกจิกเกี่ยวกับงานน้อยลง ฉันเชื่อว่าอีกไม่นานเธอก็จะได้งานทำ“มันง่ายมาก ทำไมนายไม่จัดการงานให้เธอล่ะ”“ไห่ถงถามฉัน แต่บริษัทของเราไม่จำเป็นต้องมีประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน แม้แต่นักบัญชี นอกจากนี้การปกปิดตัวตนของฉันยังทำให้ไม่สะดวก ที่จะให้พี่สาวของเธอเข้ามาในบริษัทของเรา ฉันก็เลยไม่รับเรื่องและบอกให้เธอหางานเอง”จ้านหยินไม่ได้รู้สึกผิดที่ไม่ได้จัดหางานให้ไห่หลิงเขาเป็นเจ้านายที่ให้ความสำคัญกับความสามารถและมีเหตุผลไห่หลิงห่างหายจากที่ทำงานมานานกว่าสามปี เธอกลายเป็นสนิมในทักษะทางวิชาชีพอย่างแน่นอน มันยากที่จะเข้าไปในจ้านซื่อกรุ๊ป การที่ไห่หลิงกลับไปทำงานหมายถึงการเริ่มต้นใหม่ เธอจะไม่ผ่านการประเมินของจ้านซื่อกรุ๊ปหลักการของเขาคือไม่ใช้เส้นสายหรืออำนาจในการจ้างงานในชีวิตจริง ไห่ถงสามารถทำให้เขาแหกกฎเกณฑ์มานับไม่ถ้วน แต่เรื่องงาน เขาไม่ได้ยกเว้นไห่ถงด้วยการจัดหาง
"นายกำลังคิดอะไรอยู่?"ซูหนานถามเขาด้วยความอยากรู้อยากเห็นจ้านหยินกลับมาได้สติอีกครั้งและพูดอย่างเฉยเมยว่า "ฉันไม่ได้คิดถึงนายก็แล้วกัน"ซูหนานหัวเราะเบา ๆ “ถ้านายคิดถึงฉัน ฉันคงต้องลาออก ฉันยังอยากแต่งงานและมีลูก”จ้านหยินจ้องมองเขา“ฉันต้องกลับไปทำงานแล้ว ช่วงนี้นายใช้งานเยอะมากเลย ฉันเหนื่อยมากกับการตามเร็วของนาย”หลังจากดื่มน้ำเสร็จ ซูหนานก็ลุกขึ้นยืน “ในที่สุด หลังฝนตกฟ้าก็แจ่มใส”จ้านหยินเพิ่งเข้าใจผิดว่าไห่ถงและจางเหนียนเซิงมีบางอย่างเกิดขึ้นและรู้สึกอิจฉา ทำให้พวกเขาประสบปัญหาดังกล่าว หากวันหนึ่งทั้งคู่มีเรื่องทะเลาะวิวาทกันมากขึ้น พวกเขาอาจจะอยู่ในสภาพที่แย่ลงเมื่อตระหนักถึงสิ่งนี้ ซูหนานทำได้เพียงอธิษฐานในใจว่าคู่รักหนุ่มสาวคู่นี้รักตลอดไปโอ้ พวกเขายังไม่แสดงความรัก แต่นั่นมันจะต้องเกิดขึ้นไม่ช้าก็เร็วแน่นอนจ้านหยินได้พัฒนาความรู้สึกต่อไห่ถงแล้ว เพียงแต่ว่าเขาดื้อรั้นเกินกว่าจะยอมรับมัน รอจนความรู้สึกลึกซึ้งขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป ก็ไม่มีใครจำเป็นต้องชี้ให้เขาเห็นมัน เขาจะไปหาไห่ถงด้วยตัวเองและฝ่าฟันอุปสรรคนั้นไปไม่ว่าข้อตกลงหกเดือนจะเป็นอย่างไร ซูหนานก็แค
มีรถยนต์หลายคันเข้ามาใกล้และหยุดอย่างรวดเร็วอยู่หน้าร้านหนังสือของไห่ถงทั้งสองคนที่เพิ่งเข้าไปในร้านต่างก็มองไปทางรถเหล่านั้น ไห่ถงด้วยดวงตาอันเฉียบคมของเธอ ตระหนักได้ว่ารถเหล่านั้นเป็นของลูกพี่ลูกน้องของเธอ และใบหน้าของเธอก็มืดลงทันที คนพวกนี้ดือด้านจริงๆ!นำมาโดยไห่จื้อหมิง คนรุ่นสองของตระกูลเดินเข้าไปในร้านพวกเขาถือตะกร้าผลไม้สองตะกร้าอยู่ในมือ"ไห่ถง"ไห่จื้อหมิงมีรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา เขาวางตะกร้าผลไม้ที่เขาถืออยู่บนโต๊ะแคชเชียร์แล้วพูดกับไห่ตงว่า “ฉันซื้อผลไม้มาให้เธอและพี่สาวลองกิน”เมื่อเห็นโจวหยาง เขาจึงถามว่า “นี่คือหลานชายใช่ไหม? เขาดูเหมือนพี่สาวเธอนิดหน่อย”ขณะที่พูดส เขาพยายามลูบหัวโจวหยาง แต่โจวหยางหลบและไม่ยอมให้เขาแตะต้องไห่จื้อหมิงหัวเราะ: “เจ้าหนู อย่ากลัวไปเลย ฉันเป็นลุงของเธอนะ”คนอื่นๆ วางตะกร้าผลไม้ไว้บนโต๊ะแคชเชียร์ จนไม่มีที่ว่างอีกต่อไป พวกเขาจึงวางมันลงบนพื้นไห่ถงถามอย่างเย็นชา “คุณมาทำอะไรที่นี่อีก? หากคุณมาที่นี่เพื่อขอเงินฉัน ฉันแนะนำให้คุณเลิกคิดแบบนั้นซะ”“ไห่ถง เธอจะไม่เรียกพวกเราไปนั่งเหรอ?”ไห่จื้อเหวินมีสีหน้าภาคภูมิใจพร้อมกับรอยยิ้ม
หลังจากที่ไห่จื้อเหวินเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็ถามเธอว่า "แล้วเธอต้องการให้พวกเราทำอะไร?""ไห่ถง"ไห่จื้อหมิงใช้ประโยชน์จากสถานะของเขา ซึ่งฐานะลูกพี่ลูกน้องคนโต และสั่งสอนไห่ถงว่า: "ไม่ว่าเราจะผ่านความขัดแย้งมากี่ครั้ง ยังไงพวกเราก็ยังคงเป็นครอบครัวเดียวกัน ลุงคนสามถึงจะไม่อยู่แล้ว แต่นั่นไม่ได้ลบล้างความจริงที่ว่าเขาเป็นอาแท้ๆ ของฉันได้”“ใช่ มันเคยเป็นความผิดของพวกเรา และพวกเรารู้ว่าเราผิด ได้โปรดเห็นใจกันบ้าง เธอก็ควรใจกว้างให้มาก ยกโทษให้พวกเราเถอะ จะสัญญาว่าพวกราจะไม่ปฏิบัติต่อเธอและพี่สาวแบบนั้นอีก”การใช้พลังของอินเทอร์เน็ต ทำให้งานบางอย่างง่ายและรวดเร็วมากแต่ก็สามารถตีย้อนกลับมาอย่างง่ายดายเช่นกันวันนี้เขาใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อกลั่นแกล้งลูกพี่ลูกน้องของเขา และพรุ่งนี้เขาอาจจะต้องทนทุกข์ทรมานจากการกลั่นแกล้งทางอินเทอร์เน็ตนั้นเองโดยไม่ได้สัมผัสโดยตรงจะไม่รู้รสชาติของการถูกชาวเน็ตไล่ล่าดุและถูกทุกคนชี้ไปพูดคุยกันเริ่มต้นจากโพสต์ข้อความโต้แย้งโดยไห่ถง ทั้งครอบครัวของพวกเขาต้องทนทุกข์ทรมานมากมาย บางคนตกงาน บางคนทำธุรกิจยากกว่าเดิม และแม้แต่การเซ็นสัญญาก็ถูกยกเลิก ไม่เพียงเท่
“ถ้าเอาแต่สร้างเรื่องโดยมีเป้าหมายที่จะทำลายตัวเองไปพร้อมกัน เธอคิดว่าจะเป็นดีต่อตัวเอง? อย่าตกอยู่ในสถานการณ์ที่เธอไม่สามารถเปิดร้านค้านี้ต่อไปได้เลย ไม่ต้องพูดถึงร้านค้าออนไลน์ของเธอ เชื่อไหมว่าเราสามารถรวมกลุ่มกันและทำให้ร้านค้าออนไลน์ของเธอเต็มไปด้วยรีวิวเชิงลบจนกว่าร้านเธอจะปิดตัวลง”“ไห่ถง ใครกันที่ขู่ไม่ให้ร้านของเธอเปิดต่อไป? ใครกันพูดเกี่ยวกับการระดมหน้าม้าเพื่อโจมตีร้านค้าออนไลน์ของเธอ ด้วยรีวิวเสียๆหายๆ”ซางเสี่ยวเฟยมาหาไห่ถง ก่อนที่เธอจะเข้าไปในร้าน เธอก็ได้ยินคำพูดที่เย่อหยิ่งและข่มขู่ของไห่จื้อเหวิน คุณหนูชางอารมณ์ไม่ดีนัก และเธอก็โกรธเคืองทันทีเขาไม่รู้เหรอว่าไห่ถงเป็นโค้ชความรักของเธอ?กล้าข่มขู่โค้ชรักของเธอก็เท่ากับทะเทาะกับเธอ ซางเสี่ยวเฟยด้วย และเธอสามารถทำให้คนหยิ่งยโสเหล่านี้กลับตัวได้ภายในไม่กี่นาทีซางเสี่ยวเฟยถือกล่องขนมหลายกล่องจากร้านกาแฟแอเวนิวแ ละแกว่งกุญแจรถของเธอไปมา เดินเข้าไปโดยเชิดคางของเธอไว้คนอื่นๆ ไม่รู้จักซางเสี่ยวเฟย แต่ไห่จื้อเหวินซึ่งทำงานในสาขาของชางซื่อกรุ๊ปและเป็นผู้จัดการอาวุโส เมื่อเห็นเธอจากระยะไกลหลายครั้งในการประชุมประจำปีของบริษ
ซางหวู่เหิงที่อยู่ปลายสายของโทรศัพท์ไม่รู้จริงๆ ว่าจะทำอย่างไรกับน้องสาวของเขาดีเขาถามอย่างหมดหนทางว่า "ไห่จื้อเหวินไปทำอะไรให้เธอไม่พอใจ?""ไห่ถงเป็นเพื่อนของฉันและเป็นที่ปรึกษาความรักของฉัน เขามุ่งเป้าไปที่ที่ปรึกษาความรักของฉัน บอกว่าเขาจะทำให้ร้านของไห่ถงต้องเลิกกิจกาไปร และเกณฑ์คนมาสแปมรีวิวสินค้าเชิงลบ เพื่อทำลายร้านค้าออนไลน์ของไห่ถงด้วย นี่มันไม่ได้มุ่งเป้าไปที่ฉันใช่ไหม"“สิ่งที่พวกเขาทำอยู่ คนเราจะทำกันได้ด้วยเหรอ? ตระกูลซางของเราที่มีผู้บริหารแบบนี้ มันจะทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์นะ นี่เป็นเรื่องของการรู้หน้าแต่ไม่รู้ใจ ภายนอกดูสดใสและเปล่งประกาย แต่ใจกลับดำมืด”“......”ซางหวู่เหิงหมดคำพูดเพราะความเผด็จการของน้องสาวผู้จัดการทั่วไปของบริษัทแผงวงจรอัลเลน ได้รับการรายงานตรงต่อสำนักงานใหญ่โดยให้พิจารณาว่า ไห่จื้อเหวินเป็นคนที่มีความสามารถอย่างแท้จริง และได้ไต่ระดับจากพนักงานระดับล่างไปจนถึงรองผู้จัดการทั่วไปในปัจจุบันทีละก้าวผู้จัดการทั่วไปไม่ต้องการสูญเสียมือขวาที่มีความสามารถอย่างเขาไป เนื่องจากปัญหาครอบครัวของไห่จื้อเหวิน ดังนั้นเขาจึงสั่งพักงานไห่จื้อเหวินเฉพาะในช่วงเ