"นายกำลังคิดอะไรอยู่?"ซูหนานถามเขาด้วยความอยากรู้อยากเห็นจ้านหยินกลับมาได้สติอีกครั้งและพูดอย่างเฉยเมยว่า "ฉันไม่ได้คิดถึงนายก็แล้วกัน"ซูหนานหัวเราะเบา ๆ “ถ้านายคิดถึงฉัน ฉันคงต้องลาออก ฉันยังอยากแต่งงานและมีลูก”จ้านหยินจ้องมองเขา“ฉันต้องกลับไปทำงานแล้ว ช่วงนี้นายใช้งานเยอะมากเลย ฉันเหนื่อยมากกับการตามเร็วของนาย”หลังจากดื่มน้ำเสร็จ ซูหนานก็ลุกขึ้นยืน “ในที่สุด หลังฝนตกฟ้าก็แจ่มใส”จ้านหยินเพิ่งเข้าใจผิดว่าไห่ถงและจางเหนียนเซิงมีบางอย่างเกิดขึ้นและรู้สึกอิจฉา ทำให้พวกเขาประสบปัญหาดังกล่าว หากวันหนึ่งทั้งคู่มีเรื่องทะเลาะวิวาทกันมากขึ้น พวกเขาอาจจะอยู่ในสภาพที่แย่ลงเมื่อตระหนักถึงสิ่งนี้ ซูหนานทำได้เพียงอธิษฐานในใจว่าคู่รักหนุ่มสาวคู่นี้รักตลอดไปโอ้ พวกเขายังไม่แสดงความรัก แต่นั่นมันจะต้องเกิดขึ้นไม่ช้าก็เร็วแน่นอนจ้านหยินได้พัฒนาความรู้สึกต่อไห่ถงแล้ว เพียงแต่ว่าเขาดื้อรั้นเกินกว่าจะยอมรับมัน รอจนความรู้สึกลึกซึ้งขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป ก็ไม่มีใครจำเป็นต้องชี้ให้เขาเห็นมัน เขาจะไปหาไห่ถงด้วยตัวเองและฝ่าฟันอุปสรรคนั้นไปไม่ว่าข้อตกลงหกเดือนจะเป็นอย่างไร ซูหนานก็แค
มีรถยนต์หลายคันเข้ามาใกล้และหยุดอย่างรวดเร็วอยู่หน้าร้านหนังสือของไห่ถงทั้งสองคนที่เพิ่งเข้าไปในร้านต่างก็มองไปทางรถเหล่านั้น ไห่ถงด้วยดวงตาอันเฉียบคมของเธอ ตระหนักได้ว่ารถเหล่านั้นเป็นของลูกพี่ลูกน้องของเธอ และใบหน้าของเธอก็มืดลงทันที คนพวกนี้ดือด้านจริงๆ!นำมาโดยไห่จื้อหมิง คนรุ่นสองของตระกูลเดินเข้าไปในร้านพวกเขาถือตะกร้าผลไม้สองตะกร้าอยู่ในมือ"ไห่ถง"ไห่จื้อหมิงมีรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา เขาวางตะกร้าผลไม้ที่เขาถืออยู่บนโต๊ะแคชเชียร์แล้วพูดกับไห่ตงว่า “ฉันซื้อผลไม้มาให้เธอและพี่สาวลองกิน”เมื่อเห็นโจวหยาง เขาจึงถามว่า “นี่คือหลานชายใช่ไหม? เขาดูเหมือนพี่สาวเธอนิดหน่อย”ขณะที่พูดส เขาพยายามลูบหัวโจวหยาง แต่โจวหยางหลบและไม่ยอมให้เขาแตะต้องไห่จื้อหมิงหัวเราะ: “เจ้าหนู อย่ากลัวไปเลย ฉันเป็นลุงของเธอนะ”คนอื่นๆ วางตะกร้าผลไม้ไว้บนโต๊ะแคชเชียร์ จนไม่มีที่ว่างอีกต่อไป พวกเขาจึงวางมันลงบนพื้นไห่ถงถามอย่างเย็นชา “คุณมาทำอะไรที่นี่อีก? หากคุณมาที่นี่เพื่อขอเงินฉัน ฉันแนะนำให้คุณเลิกคิดแบบนั้นซะ”“ไห่ถง เธอจะไม่เรียกพวกเราไปนั่งเหรอ?”ไห่จื้อเหวินมีสีหน้าภาคภูมิใจพร้อมกับรอยยิ้ม
หลังจากที่ไห่จื้อเหวินเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็ถามเธอว่า "แล้วเธอต้องการให้พวกเราทำอะไร?""ไห่ถง"ไห่จื้อหมิงใช้ประโยชน์จากสถานะของเขา ซึ่งฐานะลูกพี่ลูกน้องคนโต และสั่งสอนไห่ถงว่า: "ไม่ว่าเราจะผ่านความขัดแย้งมากี่ครั้ง ยังไงพวกเราก็ยังคงเป็นครอบครัวเดียวกัน ลุงคนสามถึงจะไม่อยู่แล้ว แต่นั่นไม่ได้ลบล้างความจริงที่ว่าเขาเป็นอาแท้ๆ ของฉันได้”“ใช่ มันเคยเป็นความผิดของพวกเรา และพวกเรารู้ว่าเราผิด ได้โปรดเห็นใจกันบ้าง เธอก็ควรใจกว้างให้มาก ยกโทษให้พวกเราเถอะ จะสัญญาว่าพวกราจะไม่ปฏิบัติต่อเธอและพี่สาวแบบนั้นอีก”การใช้พลังของอินเทอร์เน็ต ทำให้งานบางอย่างง่ายและรวดเร็วมากแต่ก็สามารถตีย้อนกลับมาอย่างง่ายดายเช่นกันวันนี้เขาใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อกลั่นแกล้งลูกพี่ลูกน้องของเขา และพรุ่งนี้เขาอาจจะต้องทนทุกข์ทรมานจากการกลั่นแกล้งทางอินเทอร์เน็ตนั้นเองโดยไม่ได้สัมผัสโดยตรงจะไม่รู้รสชาติของการถูกชาวเน็ตไล่ล่าดุและถูกทุกคนชี้ไปพูดคุยกันเริ่มต้นจากโพสต์ข้อความโต้แย้งโดยไห่ถง ทั้งครอบครัวของพวกเขาต้องทนทุกข์ทรมานมากมาย บางคนตกงาน บางคนทำธุรกิจยากกว่าเดิม และแม้แต่การเซ็นสัญญาก็ถูกยกเลิก ไม่เพียงเท่
“ถ้าเอาแต่สร้างเรื่องโดยมีเป้าหมายที่จะทำลายตัวเองไปพร้อมกัน เธอคิดว่าจะเป็นดีต่อตัวเอง? อย่าตกอยู่ในสถานการณ์ที่เธอไม่สามารถเปิดร้านค้านี้ต่อไปได้เลย ไม่ต้องพูดถึงร้านค้าออนไลน์ของเธอ เชื่อไหมว่าเราสามารถรวมกลุ่มกันและทำให้ร้านค้าออนไลน์ของเธอเต็มไปด้วยรีวิวเชิงลบจนกว่าร้านเธอจะปิดตัวลง”“ไห่ถง ใครกันที่ขู่ไม่ให้ร้านของเธอเปิดต่อไป? ใครกันพูดเกี่ยวกับการระดมหน้าม้าเพื่อโจมตีร้านค้าออนไลน์ของเธอ ด้วยรีวิวเสียๆหายๆ”ซางเสี่ยวเฟยมาหาไห่ถง ก่อนที่เธอจะเข้าไปในร้าน เธอก็ได้ยินคำพูดที่เย่อหยิ่งและข่มขู่ของไห่จื้อเหวิน คุณหนูชางอารมณ์ไม่ดีนัก และเธอก็โกรธเคืองทันทีเขาไม่รู้เหรอว่าไห่ถงเป็นโค้ชความรักของเธอ?กล้าข่มขู่โค้ชรักของเธอก็เท่ากับทะเทาะกับเธอ ซางเสี่ยวเฟยด้วย และเธอสามารถทำให้คนหยิ่งยโสเหล่านี้กลับตัวได้ภายในไม่กี่นาทีซางเสี่ยวเฟยถือกล่องขนมหลายกล่องจากร้านกาแฟแอเวนิวแ ละแกว่งกุญแจรถของเธอไปมา เดินเข้าไปโดยเชิดคางของเธอไว้คนอื่นๆ ไม่รู้จักซางเสี่ยวเฟย แต่ไห่จื้อเหวินซึ่งทำงานในสาขาของชางซื่อกรุ๊ปและเป็นผู้จัดการอาวุโส เมื่อเห็นเธอจากระยะไกลหลายครั้งในการประชุมประจำปีของบริษ
ซางหวู่เหิงที่อยู่ปลายสายของโทรศัพท์ไม่รู้จริงๆ ว่าจะทำอย่างไรกับน้องสาวของเขาดีเขาถามอย่างหมดหนทางว่า "ไห่จื้อเหวินไปทำอะไรให้เธอไม่พอใจ?""ไห่ถงเป็นเพื่อนของฉันและเป็นที่ปรึกษาความรักของฉัน เขามุ่งเป้าไปที่ที่ปรึกษาความรักของฉัน บอกว่าเขาจะทำให้ร้านของไห่ถงต้องเลิกกิจกาไปร และเกณฑ์คนมาสแปมรีวิวสินค้าเชิงลบ เพื่อทำลายร้านค้าออนไลน์ของไห่ถงด้วย นี่มันไม่ได้มุ่งเป้าไปที่ฉันใช่ไหม"“สิ่งที่พวกเขาทำอยู่ คนเราจะทำกันได้ด้วยเหรอ? ตระกูลซางของเราที่มีผู้บริหารแบบนี้ มันจะทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์นะ นี่เป็นเรื่องของการรู้หน้าแต่ไม่รู้ใจ ภายนอกดูสดใสและเปล่งประกาย แต่ใจกลับดำมืด”“......”ซางหวู่เหิงหมดคำพูดเพราะความเผด็จการของน้องสาวผู้จัดการทั่วไปของบริษัทแผงวงจรอัลเลน ได้รับการรายงานตรงต่อสำนักงานใหญ่โดยให้พิจารณาว่า ไห่จื้อเหวินเป็นคนที่มีความสามารถอย่างแท้จริง และได้ไต่ระดับจากพนักงานระดับล่างไปจนถึงรองผู้จัดการทั่วไปในปัจจุบันทีละก้าวผู้จัดการทั่วไปไม่ต้องการสูญเสียมือขวาที่มีความสามารถอย่างเขาไป เนื่องจากปัญหาครอบครัวของไห่จื้อเหวิน ดังนั้นเขาจึงสั่งพักงานไห่จื้อเหวินเฉพาะในช่วงเ
แม้แต่ผลไม้และตะกร้าที่ซางเสี่ยวเฟยโยนออกไปก็ยังถูกไห่จื้อหมิงเก็บขึ้นมาและหยิบออกไปตระกร้าผลไม้ราคา 500-1000 บาทการเอากลับไปกินเองดีกว่าให้ไห่ถงกินไห่ถง: แหวะ! ทำตัวเหมือนไม่มีใครเคยกินผลไม้มาก่อนไห่จื้อเหวินเข้ามาในรถของพี่ใหญ่ หลังจากขึ้นรถแล้ว เขาก็รีบโทรหาหัวหน้าของเขาซึ่งก็คือผู้จัดการทั่วไปจาง เพื่ออธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไรก็ตาม ผู้จัดการทั่วไปจางได้รับแจ้งจากสำนักงานใหญ่แล้ว เขาไม่รอให้ไห่จื้อเหวินอธิบายจบและพูดอย่างเสียใจว่า "จื้อเหวิน ข้อพิพาทระหว่างนายกับพี่น้องสองคนนั้นเรียบง่ายและแก้ไขได้ง่ายมากเลย เพียงขอโทษพวกเขาอย่างจริงใจและขอโทษต่อสาธารณะทางออนไลน์ ไม่เพียงแต่จะน้องสาวยกโทษให้นาย แต่ชาวเน็ตก็จะเลิกมุ่งเป้ามาเล่งที่นาย เพราะเห็นว่านายเต็มใจที่จะแก้ไขข้อผิดพลาดของตัวเอง”“แต่นายทำอะไรลงไปนิ ฉันสั่งพักงานนายมานานแล้ว แต่นายกลับไม่แก้ไขเรื่องนี้ กลับกลายเป็นเรื่องบานปลายจนคุณหนูซางโกรธเคือง สำนักงานใหญ่ก็ผิดหวังในตัวนายมากเช่นกัน เอาล่ะ ได้เวลากลับมาที่บริษัท เพื่อส่งมอบงานแล้ว นายไม่จำเป็นต้องออกไปหางานทำสักพักนะ คุณหนูซางโกรธมาก และมันจะยากสำหรับนายที่จะหา
ไห่จื้อเหวินเงียบไปตามคำกล่าวหาของไห่ถง หากไม่ใช่เรื่องที่ส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของทุกคนอย่า'งมาก พวกเขาก็คงไม่มาก้มหั และถึงแม้พวกเขาจะก้มหัว มันก็ไม่ได้ทำออกมาจากใจ ทุกครั้งที่มาก็ยังยั่วยุไห่ถงผลลัพธ์ก็เหมือนกับที่ผู้จัดการทั่วไปจางพูด เรื่องง่ายๆ ที่พวกเขาทำให้ซับซ้อนจนไม่สามารถแก้ไขได้แม้แต่ตอนนี้"ไห่ถงรู้จัดคุณหนูซางได้ยังไง? ที่ปรึกษาความรัก?"ไห่จื้อเหวินเม้มริมฝีปากแล้วพูด "คุณหนูซางหลงรักนายน้อยคนตระกูลจ้าน อาจเป็นไห่ถงที่สอนเธอถึงวิธีการไล่ตามจีบนายน้อยจ้าน ถ้านายน้อยจ้านรู้ว่าไห่ถงกำลังแอบช่วยคุณหนูซางวางแผนจับเขา ไห่ถงคงโชคไม่ดีแล้วล่ะ""ฉันหมายถึงพวกเขาสองคนรู้จักกันได้ยังไง? สถานะของคุณหนูซางเป็นยังไง? ตามหลักเหตุผลแล้ว พวกเขาสองคนไม่น่าจะรู้จักกันได้เลยตลอดชีวิต"ไห่จื้อหมิงอิจฉาไห่ถงที่สามารถรู้จักซางเสี่ยวเฟย และแม้กระทั่งถูกเธอหนุนหลังอยู่แม้ว่าชางเสี่ยวเฟยจะไม่ได้ทำงานที่ชางซื่อกรุ๊ป แต่เธอก็เป็นลูกสาวของคนเดียวของตระกูล และสถานะนี้อย่างเดียวก็เพียงพอแล้ว พี่ชายแท้ๆ ของเธอก็คือหนึ่งในซีอีโอที่โดดเด่นที่สุดในกวนเฉิงใครจะรู้ว่าพวกเขารู้จักกันได้อย่างไร จ
"คุณหนูซาง ไห่ถงทั้งสองคนคุยกันเถอะ ฉันจะพาหยางหยางไปซุปเปอร์มาร์เก็ตเพื่อผัก แล้วกลับมา"ยังมีอาหารทะเลมากมายที่ซางเสี่ยวเฟยส่งมาให้ในตู้เย็น วันนี้ยังสามารถทานอาหารทะเลได้ แต่ขาดผักอยู่บ้างเซินเสี่ยวจวินพาหยางหยางไปโจวหยางถูกพาตัวไป หันหน้าไปทางซางเสี่ยวเฟย และซางเสี่ยวเฟยยิ้มและพูดว่า "ไห่ถง หลานชายของเธอน่ารักจริงๆ""น่ารักน่าหยิกเป็นบ้า""เด็กสมัยนี้ล้วนเป็นปีศาจตัวน้อยๆ คราวหน้ามาฉันจะซื้อของเล่นให้หลานชายของเธอนะ""คุณหนูชาง ไม่ต้องลำบากหรอก หยางหยางมีของเล่นมากมายอยู่แล้ว สามีของฉันซื้อให้เขามาเยอะมาก"ซางเสี่ยวเฟยพูด: "สิ่งที่คุณซื้อก็เป็นของคุณ และสิ่งที่ฉันซื้อก็เป็นของฉัน ฉันชอบเจ้าตัวน้อยคนนี้ ดังนั้นฉันอยากจะซื้อของเล่นให้เขาเยอะๆ ถ้าเขาเป็นหลานชายของฉัน ฉันจะฉีกท้องฟ้าเพื่อเอามันลงมาให้เขาเล่นด้วย”ไห่ถง: "นี่คือคนที่ตามใจเด็กสุดๆ คอนเฟิร์ม"หลังจากที่เซินเสี่ยวจวินพาโจวหยางไป ไห่ถงก็เข้าไปในครัวเพื่อหุงข้าวด้วยหม้อหุงข้าวก่อน เธอถามซางเสี่ยวเฟยว่า "คุณหนูซาง คุณอยากอยู่ที่นี่เพื่อกินข้าวกลางวันไหม? มันเป็นแค่อาหารทำเองที่บ้าน ถ้าคุณจู้จี้จุกจิกเกินไป ฉันไม่กล