แชร์

บทที่ 81

ผู้เขียน: จิ้งซิง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-09 18:49:24
“ขอโทษนะน้องห้า ขอโทษจริงๆ ข้ามันสมควรตายจริงๆ! ฮือๆ ๆ...”

เวินจื่อเฉินกล่าวขอโทษไม่หยุด จนในที่สุดเขาก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้อีกต่อไป สติแตกปล่อยโฮออกมาเสียงดัง

เหล่าซือไท่ที่ล้อมเขาไว้ต่างสบตากัน

พวกนางไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะร้องไห้อย่างกะทันหันเช่นนี้

คราวนี้จะทำอย่างไรดี?

เหล่าซือไท่ต่างพากันหันกลับไปมองม่อโฉวซือไท่ที่อยู่ตรงประตู

ม่อโฉวซือไท่ส่งสายตาราบเรียบไป พวกนางจึงเก็บไม้พลองในมือ แล้วกลับไปอยู่ด้านหลังม่อโฉวซือไท่

“ข้าได้ยินคำขอโทษของเจ้าแล้ว จะแจ้งให้อู๋โยวทราบ”

แม้ว่าท่าทางของเวินจื่อเฉินจะดูน่าสงสารขนาดนั้น ร้องไห้เสียใจอย่างมากเช่นนั้น ม่อโฉวซือไท่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะใจอ่อนเลย

หลังจากที่นางกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาจบ ก็สั่งให้คนปิดประตู ทิ้งเวินจื่อเฉินให้ร้องไห้คร่ำครวญอยู่ด้านนอกต่อไปเพียงลำพัง

เวินจื่อเยวี่ยรู้สึกว่าท่าทางแบบนี้ของพี่รองดูน่าอับอายขายหน้าเล็กน้อย เขาจึงก้าวไปข้างหน้าแล้วเตะเวินจื่อเฉินหนึ่งที

“พี่รอง ข้าว่าท่านไม่เห็นต้องร้องไห้ขนาดนี้เลยนี่?”

เขาเกาหัวอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย “ท่านอยากง้อเวินซื่อขนาดนั้นเชียวหรือ?”

เวินจื่อเฉินยังคงร้องไห้
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 82

    “เอาละ ในเมื่อเจ้าไม่ชอบ เช่นนั้นข้าก็จะไม่พูดแล้ว”ม่อโฉวซือไท่ลูบหัวของนาง พลางตรวจการบ้านไปด้วย กล่าวกับนางไปด้วย “จริงสิ อีกสักพักเจ้าลงเขาไปกับข้าสักรอบ”“หือ? ข้าลงเขาไปกับท่านอาจารย์ได้หรือ?”เดิมทีเวินซื่อไม่ได้ตื่นเต้นมากนัก แต่พอได้ยินเรื่องนี้ ดวงตาก็เป็นประกายขึ้นมาทันที“ได้แน่นอน”ม่อโฉวซือไท่ยิ้ม “ข้ามีคนไข้อยู่ที่เชิงเขา ต้องลงไปดูอาการให้นาง...”กล่าวได้เพียงครึ่ง นางก็ลังเลครู่หนึ่ง “แต่ฐานะของอีกฝ่ายอาจจะทำให้เจ้ารู้สึกอึดอัดใจอยู่บ้าง”“ฐานะอะไรหรือ?”เวินซื่อเอ่ยถามด้วยความสงสัย“คนผู้นั้นคือฮูหยินผู้เฒ่าจวนจงหย่งโหว”เมื่อม่อโฉวซือไท่เอ่ยประโยคนี้ เวินซื่อก็เข้าใจในทันทีว่านางกำลังกังวลเรื่องอะไรฮูหยินผู้เฒ่าจวนจงหย่งโหว ก็คือท่านย่าของชุยเส้าเจ๋อ อดีตคู่หมั้นของนางเวินซื่อยิ้ม “ที่แท้ก็เป็นฮูหยินผู้เฒ่าท่านนั้นนี่เอง ไม่เป็นไรหรอกท่านอาจารย์ ข้ากับจวนจงหย่งโหวของพวกเขาได้ถอนหมั้นกันไปแล้ว ในเมื่อไม่ได้ไปหาชุยเส้าเจ๋อโดยเฉพาะ เช่นนั้นจะมีอะไรที่ต้องหลบเลี่ยงอีกเล่า?”“เด็กดี เจ้าคิดได้ก็ดีแล้ว”เดิมทีม่อโฉวซือไท่ก็เป็นห่วงนางในเรื่องนี้มากเหมือนกัน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 83

    เวินซื่อไม่ได้สนใจเวินหย่าลี่สำหรับนางแล้ว ท่านอาคนนี้ไม่เคยชอบนางตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วก่อนหน้านี้ นางยังคิดว่าท่านอาเป็นคนนิสัยแบบนี้เอง กระทั่งเวินเยวี่ยมาที่บ้านสกุลเวิน เวินหย่าลี่กลับแสดงท่าทางรักใคร่เอ็นดูซึ่งแตกต่างกันอย่างมากจนทำให้นางเข้าใจ ที่แท้ท่านอาก็แค่ไม่ชอบนางเท่านั้นเองดังนั้น แม้ว่าเวินหย่าลี่จะเรียกนาง นางก็ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม ราวกับว่าคนที่ถูกนางเรียกมิใช่ตัวเองเวินหย่าลี่เห็นนางนั่งนิ่งอยู่ตรงนั้นไม่ขยับเขยื้อน ก็เดินเข้าไปด้วยความไม่พอใจทันที“นังเด็กแสบเจ้ามาทำอะไรกัน? ไม่เห็นท่านอาอย่างข้าหรือไร ไม่รู้จักทักทายผู้ใหญ่ ไม่มีมารยาทสักนิด”พูดไปพลางเอื้อมมือไปกระชากเสื้อผ้าของเวินซื่อ “รีบลุกขึ้นเดี๋ยวนี้ ไม่รู้จักลุกให้ผู้ใหญ่นั่งหรือ?”“สีกาท่านนี้”ม่อโฉวซือไท่เอื้อมมือออกไปปัดมือนางออก แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “รบกวนอย่าแตะต้องหรือพูดจาหยาบคายกับศิษย์ของข้า”เวินหย่าลี่มองดู ก็แค่แม่ชีแก่ๆ คนหนึ่ง“โอ้โฮ เวินซื่อ พอออกบวชแล้วในที่สุดก็หาคนหนุนหลังได้แล้วหรือ? ยังพาแม่ชีแก่ๆ มาอวดเบ่งที่จวนจงหย่งโหว เจ้าคงไม่ได้คิดว่าตัวเองกลายเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 84

    ครั้งล่าสุดที่พบกันคือช่วงเทศกาลตรุษจีน บัดนี้เวลาผ่านไปหลายเดือนแล้ว ฮูหยินผู้เฒ่าคงไม่คาดคิดว่า เมื่อได้พบกับเด็กคนนี้ซึ่งเดิมทีควรจะเป็นหลานสะใภ้ของนางอีกครั้ง ทุกสิ่งทุกอย่างกลับเปลี่ยนแปลงไปเมื่อถูกมองนานๆ เข้า เวินซื่อก็รู้สึกทนไม่ไหวแล้วนางจึงจำใจบอกกับอาจารย์ว่าขอออกไปสูดอากาศข้างนอกสักครู่ม่อโฉวซือไท่รู้ว่านางกำลังหลบอะไรจึงพยักหน้า พร้อมกับกำชับหนึ่งประโยค “หากมีเรื่องอะไรก็กลับมาหาข้าทันที”คำพูดนี้ราวกับกลัวว่านางจะต้องได้รับความอยุติธรรมในจวนจงหย่งโหวอย่างไรอย่างนั้นหลังจากที่เวินซื่อเหลือบมองสีหน้าที่ดูอึดอัดใจของฮูหยินผู้เฒ่า นางก็พยักหน้ารับคำแล้วเดินออกไปนางเองก็รู้ว่าสถานะของตนเองค่อนข้างอึดอัดใจ ดังนั้นจึงไม่ได้เดินไปไหนมาไหนบอกว่าจะไปสูดอากาศที่หน้าประตู นางก็ยืนอยู่แค่หน้าประตูจริงๆ มองออกไปไกลๆ จ้องมองทิวทัศน์ในลานบ้านอย่างเหม่อลอยในขณะที่นางกำลังรู้สึกเบื่ออยู่นั้น นางยังไม่รู้ว่ามีคนกำลังหาเรื่องนางหลังจากที่เวินหย่าลี่ออกจากห้องของฮูหยินผู้เฒ่า ก็ยังคงโกรธไม่หายจึงส่งคนไปแจ้งบุตรชายของตัวเองเดิมทีนางตั้งใจจะบอกบุตรชายว่า วันนี้ก่อนฟ้ามืดอย่าเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 85

    ชุยเส้าเจ๋อหน้าบึ้งในทันที“เวินซื่อ เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”“ข้าหมายความว่าอย่างไร เจ้าฟังไม่เข้าใจหรือ?”เวินซื่อกล่าวอย่างรำคาญใจ “ก็คือให้เจ้าไปไกลได้เท่าไรก็ยิ่งดี ต่อไปอย่ามายุ่งกับข้าอีกได้หรือไม่?”ชุยเส้าเจ๋อโกรธจนกัดฟันแน่น “เจ้าไล่ข้าหรือ? ดีมากเวินซื่อ ตอนนี้เจ้ากำลังแกล้งทำเป็นไม่สนใจข้าเพื่อจะให้ข้าสนใจเจ้าใช่หรือไม่?”เวินซื่อ “?”“ใครจะไปใช้ลูกไม้นี้กับเจ้ากัน?”นางพูดไม่ออกจริงๆชุยเส้าเจ๋อกล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นใจ “หรือไม่ใช่? ก่อนหน้านี้เจ้าตามตื๊อข้าไม่เลิก รักอย่างมั่นคง ตอนนี้กลับมาบอกให้ข้าไสหัวไป? นี่มิใช่การเล่นลูกไม้หรือ?”เขาหัวเราะเยาะอย่างเหยียดหยาม แสดงสีหน้าอย่าง ‘ข้ารู้ทันเจ้า’ แล้วเอ่ยกับเวินซื่ออย่างหยิ่งผยอง “ข้าจะบอกอะไรให้นะเวินซื่อ วิธีนี้อาจจะใช้ได้ผลกับบุรุษคนอื่น แต่ใช้ไม่ได้ผลกับข้าชุยเส้าเจ๋อ ตำแหน่งภรรยาเอกของข้าจะมอบให้น้องเยวี่ยเอ๋อร์เท่านั้น ส่วนเจ้าต่อไปอย่าใช้วิธีสกปรกพวกนี้อีก ไม่เช่นนั้นต่อให้เป็นตำแหน่งภรรยารองข้าก็จะไม่เก็บไว้ให้เจ้า”“ข้าว่าเจ้าต่างหากที่น่ารังเกียจที่สุด”เวินซื่อนับว่ามองออกแล้วชุยเส้าเจ๋อผู้นี้ฟังภาษา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 86

    “พลั่ก!”คราวนี้เวินซื่อไม่ได้ตบหน้าเขา แต่ประเคนหมัดให้เขาโดยตรงนางคว้าคอเสื้อของชุยเส้าเจ๋อ แล้วกัดฟันขู่ว่า “หากเจ้ายังกล้าพูดประโยคที่ว่า ‘ภรรยาเอก’ ‘ภรรยารอง’ อะไรนั่นอีก ข้าจะให้คนข้างหลังเจ้าตัดส่วนนั้นของเจ้าเสีย!”ชุยเส้าเจ๋อรู้สึกเสียวที่หว่างขาในทันทีเขามองเวินซื่อด้วยสีหน้าตกตะลึงอย่างไม่อยากจะเชื่อหลังจากที่เวินซื่อขู่เสร็จ ก็ออกคำสั่งอย่างไร้ความปรานี “จู๋เยวี่ย ลากเขาไปซ้อมให้หนัก จำไว้ว่าต้องซ้อมให้น้ำในสมองของเขาไหลออกมาให้หมด!”นางอยากจะดูว่า ชุยเส้าเจ๋อเจ้าคนหลงตัวเองนี่จะทนรับการซ้อมได้สักกี่ครั้ง!ความจริงพิสูจน์แล้วว่า ชุยเส้าเจ๋อเป็นคนดื้อรั้นจริงๆ!จู๋เยวี่ยอุดปากชุยเส้าเจ๋อ แล้วลากเขาไปยังมุมอับตาด้วยซ้อมเขาอย่างหนักหากคนผู้นี้ยังคงสันดานไม่เปลี่ยน!“เวินซื่อ! เจ้าอย่าให้มันมากนักนะ!”ชุยเส้าเจ๋อที่เพิ่งถูกปล่อยให้อ้าปากหลังจากโดนซ้อมอย่างหนัก ก็ตะโกนด้วยความเกรี้ยวกราด “อาศัยความอดทนของข้าที่มีต่อเจ้า ตอนนี้เจ้าถึงกับกล้าทำกับข้าแบบนี้ ภรรยารองอะไรก็อย่าหวังเลย! สตรีที่ชั่วร้ายและหยาบคายอย่างเจ้า ให้เป็นอนุก็ล้วน...”“เพียะ!”เวินซื่อยัดผ้าขี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 87

    เวินซื่อยกเท้าขึ้นเปลี่ยนทิศทางโดยไม่หยุดชะงัก จูงมือม่อโฉวซือไท่ไปทางประตูหลังแต่เมื่อเวินจื่อเฉินเห็นว่านางกำลังจะไป รถม้ายังไม่ทันจอดสนิท ก็กระโดดลงมาจากด้านบน“คุณชายรอง ระวังแผลของท่านด้วยขอรับ!”เวินจื่อเฉินไม่สนใจสิ่งใด สาวเท้าไล่ตามเวินซื่อด้วยความรีบร้อน แล้วคว้าตัวนางไว้“น้องห้า! อย่าไป!”“ปล่อยข้า!”เวินซื่อหันกลับมาจ้องเขาด้วยความโกรธ“ได้ๆ ข้าปล่อย ขอแค่เจ้าไม่ไป พี่รองจะไม่แตะต้องเจ้า”เมื่อเห็นสายตาที่โกรธเกรี้ยวเช่นนั้นของเวินซื่อ เวินจื่อเฉินก็รีบชักมือกลับด้วยความตกใจ“อย่าเรียกข้า...อย่าเรียกแม่ชีว่าน้องห้า”เวินซื่อเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา “ข้าเป็นเพียงแม่ชีน้อยของอารามสุ่ยเยว่ มิใช่น้องห้าที่คุณชายรองเวินกล่าว”เวินจื่อเฉินรู้สึกคอแห้ง แน่นหน้าอกจนรู้สึกอึดอัดอย่างมาก “น้องห้า ขอร้องอย่าพูดเช่นนี้...”“พี่รอง!”เวินจื่อเฉินยังพูดไม่จบ ก็มีเงาอีกสองสายปรากฏขึ้นข้างหลังเขาคือเวินเยวี่ยและเวินจื่อเยวี่ย“พี่รอง ท่านอย่าลืมคำพูดที่ท่านพ่อเคยบอกกับท่านสิ”ทันทีที่เวินจื่อเยวี่ยเดินเข้ามา ก็กวาดตามองเวินซื่อด้วยสายตาเย็นชาสีหน้าของเวินจื่อเฉินแข็งค้าง เขา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 88

    ทันใดนั้น เวินหย่าลี่ก็หัวเราะเยาะแล้วมองไปยังเวินซื่อที่อยู่ข้างๆ “โอ้ หรือว่าเป็นธุระที่จะพูดกับนังเด็กคนนี้?”เวินจื่อเฉินและเวินจื่อเยวี่ยสองพี่น้องยังคงเถียงกันอยู่อย่างนั้นไม่มีใครยอมใคร“พี่รอง คำพูดที่ท่านพ่อกำชับไว้ ถึงอย่างไรก็ต้องพูดไม่ช้าก็เร็ว ยิ่งไปกว่านั้น อาหญิงก็มิใช่คนนอก พูดตรงนี้ย่อมดีกว่าไปพูดข้างนอกกระมัง?”เวินจื่อเยวี่ยกล่าวอย่างเย็นชา“เวินจื่อเยวี่ย เจ้ากล้า!”เวินจื่อเฉินโมโหไม่หยุด เขาฟังออกว่าเวินจื่อเยวี่ยกำลังข่มขู่ หากไม่ให้พูดตรงนี้ ก็จะให้คนข้างนอกได้ฟังเสียเลยเดิมทีเวินซื่อตั้งใจจะเอ่ยปาก แต่ม่อโฉวซือไท่เอ่ยขึ้นมาก่อนนาง กล่าวแทนนางว่า “อมิตตาพุทธ ประสกทั้งหลายหากมีธุระอันใดก็รีบกล่าวมาเถิด หากไม่มีธุระอันใด เช่นนั้นข้าและศิษย์ของข้าก็ขอตัวลาไปก่อน”ขณะพูด นางก็จูงมือเวินซื่อเตรียมตัวจากไปแต่บางคนกลับไม่อยากให้พวกนางจากไปเร็วเช่นนั้น“โธ่ เดี๋ยวก่อน ข้าว่าพวกเจ้าสองคนรีบร้อนไปไหนกันนักล่ะ?”เวินหย่าลี่จงใจก้าวไปข้างหน้า ยื่นมือขวางทั้งสองคนเอาไว้ แล้วมองเวินซื่อและม่อโฉวซือไท่ด้วยสายตาเหยียดหยาม“เวินซื่อ ถึงอย่างไรเมื่อก่อนเจ้าก็เคยเป็นค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 89

    ผู้คนรอบข้างต่างพากันแสดงสีหน้าประหลาดใจมองเวินซื่อ แล้วมองเวินหย่าลี่ที่กำลังเดือดดาล ครู่หนึ่งก็รู้สึกสงสัยว่าคำพูดนั้นเป็นจริงหรือเท็จกันแน่โดยเฉพาะเวินจื่อเฉินและเวินจื่อเยวี่ย อย่างไรเสียมารดาของเวินซื่อก็คือมารดาของพวกเขาเหตุใดพวกเขาถึงไม่เคยได้ยินมารดาพูดถึงเรื่องนี้ แต่เวินซื่อกลับรู้?พวกเขาก็ต้องไม่เคยได้ยินมาก่อนอยู่แล้วเพราะหลานจื่อจวินก็ไม่เคยบอกเวินซื่อเช่นกันเวินซื่อรู้เรื่องนี้ ก็เพราะชาติที่แล้ว ขณะอยู่ที่สกุลเวิน หลังจากที่นางได้รับความอยุติธรรมจากเวินเยวี่ยอีกครั้งจึงแอบหนีไปที่ห้องของมารดา แล้วบังเอิญเห็นสมุดเล่มเล็กๆ ที่มารดาทิ้งเอาไว้ พอเปิดดูถึงได้รู้ว่าสมุดเล่มนั้นที่แท้เป็นสมุดที่มารดาใช้บันทึกความในใจในยามปกตินางได้รู้เรื่องที่สกุลเวินสกุลหลานสองสกุลได้บีบบังคับท่านแม่ให้ช่วยพูดเรื่องแต่งงานให้กับเวินหย่าลี่และได้รู้ความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเวินเฉวียนเซิ่งผู้เป็นบิดาของนางจากในนั้นด้วยในตอนนั้น ในที่สุดนางก็เข้าใจว่าเหตุใดบิดาถึงพาเวินเยวี่ยกลับมาที่สกุลเวิน และเหตุใดบิดาถึงไม่รักและเอ็นดูนางอีกต่อไป...เวินซื่อกำมือแน่น นางเอ่ยขึ้นด้วยสีห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09

บทล่าสุด

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 132

    หลังจากตีเสร็จ จงหย่งโหวเงยหน้ามองเวินซื่อ เมื่อเห็นความเย็นชาบนใบหน้านาง ในใจเขาสับสนอย่างมาก“ขอโทษด้วย นางบหนูเวินซื่อ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องถอนหมั้นก่อนหน้านี้ หรือเรื่องยาหยกหิมะนั่น กระทั่งเรื่องน้อยใหญ่มากมายระหว่างนี้ ล้วนเป็นเพราะข้าสอนลูกไม่ดี จึงต้องทำให้เจ้าได้รับความลำบากมากมาย”ระหว่างที่พูด เขาทำท่าคารวะแสดงความขอโทษต่อเวินซื่อเวินซื่อชะงักไปทันทีการปรากฏตัวของจงหย่งโหวทำให้นางคาดเดาได้ ว่าวันนี้เวินหย่าลี่มีความเป็นไปได้ที่ต้องขอโทษนางแต่นางนึกไม่ถึง คนแรกที่ยอมก้มหัวขอขมานางจะกลายเป็นจงหย่งโหวเองหากบอกว่าไม่แปลกใจคงเสแสร้งทว่าต่อให้เป็นเช่นนั้น แต่ยามนี้ใจของเวินซื่อด้านชาไปนานแล้วแววตาของนางสั่นไหวเล็กน้อย จากนั้นกลับสู่ความเย็นชาอย่างรวดเร็ว“การขอขมาของท่านโหว ข้าคงรับไว้ไม่ได้”“อะไรนะ? ! เวินซื่อ เจ้าอย่าให้มันเกินไป! ท่านพ่อข้าอุตส่าห์...”ชุยเส้าเจ๋อไม่นึกว่าเวินซื่อจะอวดดีถึงเพียงนี้นั่นบิดาของเขาเชียวนะ!เป็นถึงจงหย่งโหวแต่ขอโทษนางที่แม่ชีน้อยคนหนึ่งยังไม่พอหรือ? !“ยังไม่หุบปากอีกหรือ!”จงหย่งโหวถลึงตาใส่ลูกชายตัวเอง หลังจากชุยเส้าเจ๋อหุบปาก

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 131

    ยามเวินซื่อได้รับข่าวนางเลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจ“นางจะมาไม้ไหนอีก?”เวินซื่อรู้ดีว่าเวินหย่าลี่เป็นคนเช่นไร ครั้งที่แล้วนางพ่ายแพ้กลับไปจากอารามสุ่ยเยว่ ไม่มาหาเรื่องตนอีกก็ดีเท่าใดแล้ว จะยอมมาขอขมานางได้อย่างไร?เวินซื่อลูบคางพร้อมครุ่นคิด “ศิษย์พี่หญิง ยังมีผู้ใดติดตามฮูหยินจงหย่งโหวมาหรือไม่?”“มี เป็นชายวัยกลางคนท่านหนึ่งที่สวมชุดขุนนาง แล้วยังมีชายหนุ่มรูปงามอีกคน” สวมชุดขุนนางหรือ ซ้ำยังยอมมาเป็นเพื่อนเวินหย่าลี่ หากไม่ใช่เวินเฉวียนเซิ่งก็คงเป็นจงหย่งโหวครั้งที่แล้วเวินเฉวียนเซิ่งเคยมาที่นี่แล้ว ซ้ำยังหน้าหงายกลับไปภายในเวลาอันสั้นคนผู้นั้นไม่น่าจะมาอีกดังนั้นผู้มาเยือนอาจเป็นจงหย่งโหวส่วนอีกคนที่เหลือคงเป็นชุยเส้าเจ๋ออย่างไม่ต้องสงสัยพวกเขามากันทั้งครอบครัว ตกลงอยากทำสิ่งใดกันแน่?หลังเวินซื่อขมวดคิ้ว นางวางคัมภีร์ในมือลง “เช่นนั้นข้าจะออกไปดูสักหน่อย”“ศิษย์น้องหญิงไม่ต้องกลัว ข้าจะไปพร้อมเจ้า”เมื่อได้ยินว่านางจะออกไป ศิษย์พี่หญิงอู๋ขู่ที่ชอบไปมาหาสู่กับนางเอ่ยทันควัน“ศิษย์พี่หญิงอู๋ขู่วางใจ ครั้งนี้ไม่น่าจะมีเรื่องอะไร”เวินซื่อเอ่ยพร้อมยิ้ม“เช่นนั้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 130

    เวินเฉวียนเซิ่งมองไปทางจงหย่งโหวด้วยความไม่พอใจเวลานี้จงหย่งโหวกลับสงสารเด็กคนนั้น “ถ้าไม่ใช่เพราะปกติท่านปล่อยปละละเลย นังหนูเวินซื่อจะกลายเป็นคนอย่างในวันนี้ได้อย่างไร?”“นางเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของท่าน แต่ว่าเจิ้นกั๋วกง ท่านเริ่มปฏิบัติกับนังหนูไม่เหมือนลูกสาวแท้ ๆ ของตัวเองตั้งแต่เมื่อใด? แค่ลูกสาวบุญธรรมคนหนึ่ง ยังเป็นที่โปรดปรานมากกว่าบุตรภรรยาเอกเสียอีก ทั้งหมดเป็นเพราะเจิ้นกั๋วกงลำเอียงเข้าข้าง หรือว่ามีเรื่องอะไรที่บอกใครไม่ได้?!”“ท่านพ่อ!”“ชุยเหลียงเฟิง!”ทั้งเวินหย่าลี่และชุยเส้าเจ๋อสองแม่ลูกไม่คิดว่าเขาจะพูดจาเช่นนี้ออกมาต่อหน้าเวินเฉวียนเซิ่งเพราะเวลาปกติ จงหย่งโหวไม่เคยแสดงความเดือดดาลต่อคนของจวนเจิ้นกั๋วกงเลยสักนิดบัดนี้เขามาคาดคั้นเวินเฉวียนเซิ่งเพราะเวินซื่อจริง ๆเวินหย่าลี่หวังว่าพี่ใหญ่จะคอยหนุนหลังนาง แต่นางก็ไม่อยากให้เกิดการโต้เถียงระหว่างสามีของตนกับพี่ใหญ่เพราะถึงอย่างไรตอนนี้นางก็เป็นฮูหยินจงหย่งโหว คนที่นางต้องการใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิตก็ต้องเป็นสามีของนางอยู่แล้วเวินหย่าลี่รีบดึงจงหย่งโหวไว้ “ท่านพี่ ท่านหยุดพูดเถอะ ทั้งหมดเป็นความผิดของข้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 129

    “พี่ใหญ่ ในที่สุดท่านก็มาแล้ว!”ทันทีที่เวินหย่าลี่เห็นเวินเฉวียนเซิ่ง ก็ร้องไห้ออกมาด้วยความคับข้องใจทันที “ถ้าท่านยังไม่มาอีก น้องสาวของท่านรวมถึงหลานชายของท่านกำลังจะถูกตาแก่สารเลวชุยเหลียงเฟิงข่มเหงรังแกแล้ว!”“พูดจาเลอะเทอะอะไร”เวินเฉวียนเซิ่งตำหนิเวินหย่าลี่ก่อนคำหนึ่ง “ตาแก่สารเลวอะไรกัน เหลียงเฟิงเป็นสามีของเจ้า เจ้าเป็นฮูหยินจงหย่งโหวมานานหลายปีแล้ว ยังไม่รู้จักควบคุมอารมณ์ให้สุขุมขึ้นบ้าง”“พี่ใหญ่ ท่านมาช่วยข้าจริงหรือเปล่า?”เวินเฉวียนเซิ่งชำเลืองมองนางอย่างเฉยชา เวินหย่าลี่มีอะไรจะพูดก็ไม่กล้าพูดทันที“ข้ามาช่วยเจ้า แต่จะไม่ปล่อยให้อารมณ์ของเจ้าเป็นใหญ่”พูดจบประโยคนี้ เวินเฉวียนเซิ่งถึงหันไปมองจงหย่งโหว“เหลียงเฟิง น้องสาวของข้าถูกเลี้ยงดูตามใจมาตั้งแต่เด็กในจวนเจิ้นกั๋วกง เจ้าแต่งงานกับนางมาหลายปีแล้ว ควรจะเข้าใจและยอมรับนิสัยใจคอของนางได้แล้ว ทำไมวันนี้ถึงทนไม่ไหวขึ้นมาเล่า? จะให้นางที่อยู่ในฐานะฮูหยินจงหย่งโหวไปก้มหัวขอโทษคนอื่นหรือ?”จงหย่งโหวทำเสียงยิ้มเยาะหากเป็นวันอื่นทั่วไป เขาอาจจะไว้หน้าเวินเฉวียนเซิ่งอยู่บ้างแต่ในวันนี้ เขาทำให้ไม่ได้“คนอื่นหรือ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 128

    นั่นคือยาหยกหิมะสามขวดเต็ม ๆต่อให้เขาต้องการนำไปง้อเวินเยวี่ย อย่างน้อยก็ควรทิ้งไว้ให้มารดาอย่างนางสักขวดสิเมื่อใดที่เวินหย่าลี่นึกถึงว่ายาหยกหิมะมากมายขนาดนั้น ตัวเองยังไม่ได้ใช้เลยสักนิด ก็ถูกลูกชายนำไปให้คนอื่นทั้งหมด นางก็เจ็บปวดหัวใจสุดขีดเวินหย่าลี่รู้ว่าลูกชายชอบเวินเยวี่ย แต่ไม่นึกว่ายังไม่ทันได้แต่งงานเข้ามาด้วยซ้ำ ลูกชายตัวเองก็เริ่มแอบช่วยคนนอกหลอกแม่แท้ ๆ แล้วเวินหย่าลี่รู้สึกโกรธอยู่ในใจ แต่ต่อให้โกรธแล้วใครใช้ให้เป็นลูกชายแท้ ๆ ของนางเล่า“ไม่นึกเลยจริง ๆ ที่แท้ก็เป็นเจ้าเด็กนั่น ต้องขอบคุณท่านอ๋อง ในเมื่อสืบสวนกระจ่างแล้ว ที่เหลือก็มอบหมายให้พวกหม่อมฉันก็แล้วกัน ท่านวางใจได้ หม่อมฉันจะสั่งสอนบทเรียนให้เจ้าเด็กนั่นอย่างเต็มที่แน่นอนเพคะ”เป่ยเฉินหยวนเหลือบมองนางด้วยรอยยิ้มที่ดูเสแสร้ง “ท่านสั่งสอนหรือ?ท่านคิดจะสั่งสอนอย่างไร?”เวินหย่าลี่ที่ลงมือตีลูกชายของตัวเองไม่ลงย่อมพูดเพียงว่า “ก็ลงโทษให้เขาคุกเข่าในโถงบรรพชนดีไหมเพคะ?”“ได้สิ”เป่ยเฉินหยวนตอบตกลงอย่างเหนือความคาดหมายเวินหย่าลี่ฉีกยิ้มด้วยความดีใจอีกครั้งทันที นางว่าแล้ว ต่อให้เป็นท่านอ๋องก็เถอะ จะไม่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 127

    เมื่อฟังมาถึงประโยคสุดท้าย จงหย่งโหวก็หลับตาลงทันทีธิดาศักดิ์สิทธิ์อยู่ในระดับเดียวกับองค์หญิงกล่าวคือ การใส่ร้ายธิดาศักดิ์สิทธิ์เทียบเท่ากับการใส่ร้ายองค์หญิง ไม่อาจลดหย่อนโทษได้เขาอดทอดถอนใจอยู่ในใจไม่ได้ เห็นทีคราวนี้จะหนีไม่พ้นจริง ๆ แล้วเป่ยเฉินหยวนบอกว่าจะสืบก็สืบเลยกองทัพธงดำที่เขาพาได้ปิดล้อมจวนจงหย่งโหวทั้งหมดไว้โดยตรงเวินหย่าลี่ไม่คาดคิดว่าเป่ยเฉินหยวนจะทำให้เรื่องราวใหญ่โตถึงเพียงนี้ความสับสนพรั่งพรูอยู่ในส่วนลึกภายในใจของนางจนไม่อาจบรรยาย “พวกท่านคิดจะทำอะไร ที่นี่คือจวนจงหย่งโหว ต่อให้ท่านเป็นอ๋องผู้สำเร็จราชการแทน ก็ไม่สามารถข่มเหงจวนจงหย่งโหวของเราเช่นนี้กระมังเพคะ?!”“ไม่สามารถข่มเหงจวนจงหย่งโหวของพวกท่าน ไม่อย่างนั้นตอนนี้ท่านก็เขียนจดหมายสักฉบับ ไปเรียกเจิ้นกั๋วกงผู้เป็นพี่ชายของท่านมาด้วยไหม?”เป่ยเฉินหยวนชำเลืองมองนางแวบหนึ่งสายตาเย็นเยียบทำให้เวินหย่าลี่รู้สึกเกรงกลัวอย่างไม่มีขอบเขตนางกัดฟันอย่างฝืนใจ “เขียนก็เขียน หม่อมฉันจะเรียกพี่ชายของหม่อมฉันมา!”จงหย่งโหวไม่อยากพูดอะไรแม้เพียงสักคำพอดีกัน อันที่จริงหากวันนี้จวนจงหย่งโหวของพวกเขาโชคร้าย

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 126

    จงหย่งโหวมีหรือจะไม่รู้ว่าภรรยาของเขาคนนี้เป็นคนอย่างไร?กับคนอื่นยังดี แต่พอกับหลานสาวคนนั้นของนาง ก็มักจะพูดจาเหน็บแนมจนสุดจะบรรยายจงหย่งโหวก็รู้สึกจนปัญญากับเรื่องนี้เช่นกันเมื่อก่อนยังคิดว่าหากเด็กสองคนหมั้นหมายกัน ก็จะกลายเป็นครอบครัวเดียวกันอยู่ดี ดังนั้นในระหว่างนั้นเขายังเคยประนีประนอมอยู่หลายครั้งเพียงแต่ในพิธีปักปิ่นในเวลาต่อมา การหมั้นหมายได้ถูกยกเลิก จงหย่งโหวก็ไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องเหล่านี้อีกต่อไปแต่ไม่นึกว่าแค่สองครั้งที่ไม่ยุ่งเกี่ยว นังหนูคนนั้นก็มีคนอื่นมาช่วยนางแล้วยังเป็นเป่ยเฉินหยวนที่มาหาถึงหน้าประตูด้วยตัวเองถ้าไม่มีปัญหาอะไรในนั้นจริง ๆ เกรงว่าอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนที่ยุ่งอยู่กับงานปกครองมากมายท่านนี้จะไม่มีทางปรากฏตัวขึ้นที่นี่แน่จงหย่งโหวสูดหายใจเข้าลึก ๆ รวดเดียว “เจ้าหยุดก่อน เจ้ารู้ได้อย่างไรว่ายาหยกหิมะสามขวดนั้นถูกธิดาศักดิ์สิทธิ์เอาไป?”เวินหย่าลี่ที่ยังไม่ตระหนักถึงความร้ายแรงของเรื่องราวได้กล่าวอย่างคิดว่าต้องเป็นเช่นนั้น “หลายวันนั้นนางกับไอ้แก่...กับอาจารย์ของนางมาที่จวนจงหย่งโหวของเรา ถ้าไม่ใช่พวกนางขโมยไปแล้วจะเป็นใครได้อีกเล่า?”ภายใ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 125

    สีหน้าของจงหย่งโหวแข็งทื่อทันที ก่อนจะรีบหัวเราะกล่าวว่า “ฝีมืออะไรที่ไหนกัน แค่ได้ชาดี ๆ มาหลายกระป๋องเมื่อไม่กี่วันก่อน ถ้าท่านอ๋องชื่นชอบ เดี๋ยวข้าจะให้คนเอาไปส่งให้ท่านที่จวนท่านอ๋อง”ชาถูกส่งให้ท่านแล้ว ตัวท่านก็ไม่จำเป็นต้องมาแล้ว!จงหย่งโหวไม่คิดจะคบค้าสมาคมกับอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนผู้นี้สักนิดประการที่หนึ่งเพราะทางฝั่งจวนเจิ้นกั๋วกงและเป่ยเฉินหยวนเดิมทีก็ไม่ค่อยลงรอยกันอยู่แล้ว ประการที่สองเขามักจะรู้สึกว่า อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนผู้นี้ทุกครั้งที่มาเยี่ยมเยียนล้วนมาด้วยเจตนาร้ายคราวก่อนเป็นเช่นนี้ คราวนี้สัญชาตญาณของเขาบอกว่า ก็ยังต้องเป็นเช่นนี้!เขารู้ได้อย่างรวดเร็วตามคาด ตนเองนั้นคาดเดาถูกจริง ๆ“แบบนี้ไม่ค่อยดีกระมัง?”เป่ยเฉินหยวนมองไปที่น้ำชาในถ้วยชาที่อยู่ในมือ พลางถามด้วยรอยยิ้มเบิกบาน “ถ้าเกิดคล้อยหลังไปฮูหยินของท่านวิ่งมาถึงหน้าประตูของจวนอ๋องผู้สำเร็จราชการแทน บอกว่าข้าเป็นคนขโมยใบชาของท่านไป จะเกิดความเข้าใจผิดกันยกใหญ่”จงหย่งโหวที่ฟังออกว่าคำพูดของเขามีความหมายอื่นแฝงอยู่หนังตากระตุกทันทีเขาฝืนยิ้ม แสร้งทำเป็นถามด้วยความไม่เข้าใจ “เหตุใดท่านอ๋องถึงพูดเ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 124

    หลังผ่านคืนนั้นมา เวินจื่อเฉินก็เฝ้าอยู่ในโถงบรรพชนเป็นเวลาสิบกว่าวันเต็ม ๆไม่ว่าจะเป็นเวินเยวี่ย เวินฉางอวิ้น หรือเวินเฉวียนเซิ่งผู้เป็นบิดาของพวกเขาจะไปเรียก เขาก็ไม่ยอมออกมาเวินฉางอวิ้นยังนึกว่าตนลงโทษหนักเกินไป ทำร้ายความเคารพในตัวเองของน้องรองเข้าแล้วแต่เมื่อถามเขา เวินจื่อเฉินก็พูดเพียงว่า “พี่ใหญ่ ไม่ใช่ปัญหาของท่าน แต่เป็นตัวข้าเอง ข้าแค่อยากอยู่เงียบ ๆ คนเดียวสักพัก”ต่อมา เวินฉางอวิ้นและคนอื่น ๆ ก็ไม่ไปรบกวนเขาอีกเพียงแต่ว่าในวันที่สาม ได้นำข่าวไปแจ้งแก่เวินจื่อเฉิน...ชุยเส้าเจ๋อถูกคนทุบตีอีกแล้วซ้ำยังเกิดขึ้นภายในจวนจงหย่งโหวอีกด้วย ถูกคนจับคลุมกระสอบลากออกไปทุบตีตอนที่พบเห็น ชุยเส้าเจ๋อก็ถูกตีจนร่อแร่แล้ว นอนอยู่ในตรอกโดยมีบาดแผลทั่วร่างกายสิ่งที่ทำให้รู้สึกขำขันที่สุดก็คือ ไม่รู้เช่นกันว่าโจรนั้นจงใจหรือไม่ ที่ทุบตีจนฟันของชุยเส้าเจ๋อหลุดออกไปอีกหลายซี่ ตอนนี้ปากของเขาพูดจาอะไรก็มีลดออกมาหมดเมื่อจงหย่งโหวและเวินหย่าลี่รู้เรื่องเข้า ก็เกือบจะสงสัยว่าเป็นฝีมือของเวินจื่อเฉินหรือไม่เพราะเขาเพิ่งต่อยชุยเส้าเจ๋อจนฟันหลุดไปสองซี่ ผลปรากฏว่าอีกสองวันต่อมาชุยเ

DMCA.com Protection Status