แชร์

บทที่ 87

ผู้เขียน: จิ้งซิง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-09 18:49:24
เวินซื่อยกเท้าขึ้นเปลี่ยนทิศทางโดยไม่หยุดชะงัก จูงมือม่อโฉวซือไท่ไปทางประตูหลัง

แต่เมื่อเวินจื่อเฉินเห็นว่านางกำลังจะไป รถม้ายังไม่ทันจอดสนิท ก็กระโดดลงมาจากด้านบน

“คุณชายรอง ระวังแผลของท่านด้วยขอรับ!”

เวินจื่อเฉินไม่สนใจสิ่งใด สาวเท้าไล่ตามเวินซื่อด้วยความรีบร้อน แล้วคว้าตัวนางไว้

“น้องห้า! อย่าไป!”

“ปล่อยข้า!”

เวินซื่อหันกลับมาจ้องเขาด้วยความโกรธ

“ได้ๆ ข้าปล่อย ขอแค่เจ้าไม่ไป พี่รองจะไม่แตะต้องเจ้า”

เมื่อเห็นสายตาที่โกรธเกรี้ยวเช่นนั้นของเวินซื่อ เวินจื่อเฉินก็รีบชักมือกลับด้วยความตกใจ

“อย่าเรียกข้า...อย่าเรียกแม่ชีว่าน้องห้า”

เวินซื่อเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา “ข้าเป็นเพียงแม่ชีน้อยของอารามสุ่ยเยว่ มิใช่น้องห้าที่คุณชายรองเวินกล่าว”

เวินจื่อเฉินรู้สึกคอแห้ง แน่นหน้าอกจนรู้สึกอึดอัดอย่างมาก “น้องห้า ขอร้องอย่าพูดเช่นนี้...”

“พี่รอง!”

เวินจื่อเฉินยังพูดไม่จบ ก็มีเงาอีกสองสายปรากฏขึ้นข้างหลังเขา

คือเวินเยวี่ยและเวินจื่อเยวี่ย

“พี่รอง ท่านอย่าลืมคำพูดที่ท่านพ่อเคยบอกกับท่านสิ”

ทันทีที่เวินจื่อเยวี่ยเดินเข้ามา ก็กวาดตามองเวินซื่อด้วยสายตาเย็นชา

สีหน้าของเวินจื่อเฉินแข็งค้าง เขา
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 88

    ทันใดนั้น เวินหย่าลี่ก็หัวเราะเยาะแล้วมองไปยังเวินซื่อที่อยู่ข้างๆ “โอ้ หรือว่าเป็นธุระที่จะพูดกับนังเด็กคนนี้?”เวินจื่อเฉินและเวินจื่อเยวี่ยสองพี่น้องยังคงเถียงกันอยู่อย่างนั้นไม่มีใครยอมใคร“พี่รอง คำพูดที่ท่านพ่อกำชับไว้ ถึงอย่างไรก็ต้องพูดไม่ช้าก็เร็ว ยิ่งไปกว่านั้น อาหญิงก็มิใช่คนนอก พูดตรงนี้ย่อมดีกว่าไปพูดข้างนอกกระมัง?”เวินจื่อเยวี่ยกล่าวอย่างเย็นชา“เวินจื่อเยวี่ย เจ้ากล้า!”เวินจื่อเฉินโมโหไม่หยุด เขาฟังออกว่าเวินจื่อเยวี่ยกำลังข่มขู่ หากไม่ให้พูดตรงนี้ ก็จะให้คนข้างนอกได้ฟังเสียเลยเดิมทีเวินซื่อตั้งใจจะเอ่ยปาก แต่ม่อโฉวซือไท่เอ่ยขึ้นมาก่อนนาง กล่าวแทนนางว่า “อมิตตาพุทธ ประสกทั้งหลายหากมีธุระอันใดก็รีบกล่าวมาเถิด หากไม่มีธุระอันใด เช่นนั้นข้าและศิษย์ของข้าก็ขอตัวลาไปก่อน”ขณะพูด นางก็จูงมือเวินซื่อเตรียมตัวจากไปแต่บางคนกลับไม่อยากให้พวกนางจากไปเร็วเช่นนั้น“โธ่ เดี๋ยวก่อน ข้าว่าพวกเจ้าสองคนรีบร้อนไปไหนกันนักล่ะ?”เวินหย่าลี่จงใจก้าวไปข้างหน้า ยื่นมือขวางทั้งสองคนเอาไว้ แล้วมองเวินซื่อและม่อโฉวซือไท่ด้วยสายตาเหยียดหยาม“เวินซื่อ ถึงอย่างไรเมื่อก่อนเจ้าก็เคยเป็นค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 89

    ผู้คนรอบข้างต่างพากันแสดงสีหน้าประหลาดใจมองเวินซื่อ แล้วมองเวินหย่าลี่ที่กำลังเดือดดาล ครู่หนึ่งก็รู้สึกสงสัยว่าคำพูดนั้นเป็นจริงหรือเท็จกันแน่โดยเฉพาะเวินจื่อเฉินและเวินจื่อเยวี่ย อย่างไรเสียมารดาของเวินซื่อก็คือมารดาของพวกเขาเหตุใดพวกเขาถึงไม่เคยได้ยินมารดาพูดถึงเรื่องนี้ แต่เวินซื่อกลับรู้?พวกเขาก็ต้องไม่เคยได้ยินมาก่อนอยู่แล้วเพราะหลานจื่อจวินก็ไม่เคยบอกเวินซื่อเช่นกันเวินซื่อรู้เรื่องนี้ ก็เพราะชาติที่แล้ว ขณะอยู่ที่สกุลเวิน หลังจากที่นางได้รับความอยุติธรรมจากเวินเยวี่ยอีกครั้งจึงแอบหนีไปที่ห้องของมารดา แล้วบังเอิญเห็นสมุดเล่มเล็กๆ ที่มารดาทิ้งเอาไว้ พอเปิดดูถึงได้รู้ว่าสมุดเล่มนั้นที่แท้เป็นสมุดที่มารดาใช้บันทึกความในใจในยามปกตินางได้รู้เรื่องที่สกุลเวินสกุลหลานสองสกุลได้บีบบังคับท่านแม่ให้ช่วยพูดเรื่องแต่งงานให้กับเวินหย่าลี่และได้รู้ความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเวินเฉวียนเซิ่งผู้เป็นบิดาของนางจากในนั้นด้วยในตอนนั้น ในที่สุดนางก็เข้าใจว่าเหตุใดบิดาถึงพาเวินเยวี่ยกลับมาที่สกุลเวิน และเหตุใดบิดาถึงไม่รักและเอ็นดูนางอีกต่อไป...เวินซื่อกำมือแน่น นางเอ่ยขึ้นด้วยสีห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 90

    นางแทบจะทนรอไม่ไหวแล้วที่จะประกาศชัยชนะของตัวเองเวินจื่อเฉินลูบศีรษะของนางเยวี่ยเอ๋อร์ยังคงใจดีขนาดนี้แต่น้องห้านาง...เวินจื่อเฉินมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเย็นชาของเวินซื่อ ก่อนจะเม้มริมฝีปากด้วยความผิดหวังเวินเยวี่ยรีบเอ่ยขึ้นอย่างอดใจรอไม่ไหว “พี่หญิงห้า แม้ว่าท่านพ่อจะขีดชื่อท่านออกจากบันทึกลำดับญาติแล้ว แต่เนื่องจากก่อนหน้านี้ท่านทำเรื่องที่ทำให้ท่านพ่อผิดหวังมากมาย เพื่อป้องกันมิให้ท่านทำเรื่องที่ทำให้สกุลเวินต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงอีก ท่านพ่อจึงให้พวกเรามาแจ้งกับท่านคำหนึ่ง”“เขาบอกว่า นับจากนี้เป็นต้นไป ห้ามท่านใช้สกุลเวินในการกระทำสิ่งต่างๆ และห้ามท่านใช้สกุล ‘เวิน’ อีก ไม่ว่าท่านจะเปลี่ยนไปใช้หลี่ซื่อ หวังซื่ออะไรก็ตาม ล้วนไม่เกี่ยวข้องกับสกุลเวินอีกต่อไป”หัวใจของเวินซื่อเย็นเยียบในทันทีราวกับภูเขาน้ำแข็งพันปีพังทลายลงสู่กลางใจนางรู้ว่าบิดาของนางท่านนี้เป็นคนไร้หัวใจแต่นางไม่คิดว่าเวินเฉวียนเซิ่งจะไร้หัวใจได้ถึงเพียงนี้!“ฮ่าๆ ในที่สุดก็สมใจเจ้าแล้วสินะ?”เวินหย่าลี่หัวเราะอย่างมีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น “ไม่เรียกน้องห้า และไม่เรียกเวินซื่อ ต่อไปนี้เจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 91

    เวินเยวี่ยฉีกมุมปากด้วยสีหน้าแข็งทื่อ “พี่เส้าเจ๋อ ท่านกำลังพูดจาเหลวไหลอะไรอยู่น่ะ”ไอ้สารเลว!นึกไม่ถึงว่าจะตัดสินใจไปแล้วจริง ๆ ว่าจะมอบตำแหน่งภรรยารองแก่เวินซื่อ!เขาบ้าไปแล้วหรือ? คราวที่แล้วโดนสั่งสอนไปหนึ่งยกยังไม่พอ?เมื่อก่อนเขาพูดชัดเจนว่าชอบนางคนเดียว จะแต่งงานกับนางคนเดียว!ตอนนี้อยากนั่งเสวยสุขท่ามกลางภรรยาเอกกับอนุภรรยาแล้วหรือ?!“ใช่แล้วลูกแม่ เรื่องนี้จะเอามาพูดสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ ในเมื่อเจ้าต้องการแต่งกับเยวี่ยเอ๋อร์ ก็แต่งกับเวินซื่ออีกไม่ได้ ไม่เช่นนั้นต่อให้แม่เห็นด้วย ท่านลุงของเจ้าก็ไม่เห็นด้วย”เวินหย่าลี่ก้าวไปข้างหน้าเพื่อโน้มน้าวชุยเส้าเจ๋อ ทันทีที่มือได้สัมผัสชุยเส้าเจ๋อ ก็ได้ยินเสียงเขาร้อง ‘ซี้ด’“เดี๋ยวนะ เส้าเจ๋อ ขาเจ้าเป็นอะไรไป? เจ้าถูกใครตีมาหรือ?!”จนกระทั่งในเวลานี้เองเวินหย่าลี่ถึงสังเกตเห็นความผิดปกติในที่สุด เมื่อเห็นลูกชายของนางประคองขาเอาไว้ตลอดเวลา หน้าแดงไปหมด นางก็เริ่มเดินเวียนรอบตัวบุตรชายของนางด้วยความร้อนใจและเป็นห่วงทันที ชุยเส้าเจ๋อผลักนางออกไปอย่างรำคาญใจ “ท่านแม่ ท่านไม่ต้องยุ่ง ท่านออกไปก่อน ขอข้าคุยกับเวินซื่อให้จบก่อน”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 92

    จู๋เยวี่ยที่หลบซ่อนอยู่ในมุมลับ “...”จะให้ปรากฏตัวก็แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้เพราะถึงอย่างไรจากสถานการณ์นี้แค่เห็นก็รู้แล้วว่าไม่สามารถออกไปทำให้เจ้านายเสียเรื่องดังนั้นเมื่อเวินซื่อตะโกนไปรอบ ๆ ก็ไม่มีใครออกมา“ชุยซื่อจื่อ ทีนี้เจ้าเห็นแล้วใช่ไหม ข้าไม่รู้จักจู๋เยวี่ยอะไรนั่นจริง ๆเวินซื่อส่ายหัว ทำท่าทางจริงจังมากม่อโฉวซือไท่ที่ดูอยู่ข้าง ๆ ยังอดเบือนหน้าหนีไม่ได้กลัวว่าตัวเองจะหัวเราะส่งเสียงออกมาชุยเส้าเจ๋อถลึงตาใส่อย่างโกรธเกรี้ยว “เจ้าอย่ามาหลอกข้า! ข้าถูกจู๋เยวี่ยนั่นซ้อมจนบาดเจ็บไปทั้งตัว ขาก็เกือบจะถูกตีจนพิการแล้ว ตอนนี้เจ้ามาบอกว่าไม่รู้จักเช่นนั้นหรือ? เจ้ากำลังหลอกใคร!”“บาดเจ็บไปทั้งตัว? ไหนล่ะ?”เวินซื่อเลิกคิ้วขึ้น “บนตัวชุยซื่อจื่อมีบาดแผลด้วยหรือ?”ชุยเส้าเจ๋อเอ่ยขึ้นทันที “เจ้าดูหน้าข้าสิ! มองบาดแผลบนตัวข้า บนแขนของข้า บน...หือ? บาดแผลของข้าล่ะ?”ชี้ไปที่ใบหน้าของตัวเอง ม้วนแขนเสื้อขึ้นเพื่อเปิดแผลให้นางดู ปรากฏว่ายังพูดไม่ทันจบ ชุยเส้าเจ๋อก็สังเกตเห็นความผิดปกติเขาจดจำได้อย่างชัดเจนว่าตัวเองถูกคนปิดหน้าที่ชื่อจู๋เยวี่ยทุบตีไปทั่วร่างจนถึงตอนนี้เขา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 93

    หลังจากพูดจบ ชุยเส้าเจ๋อถึงได้รู้ตัวว่าดูเหมือนจะพูดมากเกินไปหน่อยเขามองไปยังเวินซื่อโดยสัญชาตญาณ ราวกับคิดว่านางเจ็บปวดกับคำพูดของตัวเองแต่เวินซื่อกลับไม่มีการแสดงออกใด ๆ“จวนจงหย่งโหววิเศษอะไรเช่นนี้!”ม่อโฉวซือไท่สีหน้าเย็นชาเวินจื่อเฉินโกรธจัดจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟันสายตาของเวินเยวี่ยภาคภูมิใจจนสุดจะเปรียบเปรย มองดูเวินซื่อ แล้วมองไปที่ชุยเส้าเจ๋อในที่สุดเจ้าโง่คนนี้ก็รู้ว่าต้องเลือกใครส่วนเวินจื่อเยวี่ยที่อยู่ข้าง ๆ ก็ยิ้มเยาะพูดขึ้นมาประโยคหนึ่ง “ถูกผู้อื่นรังเกียจถึงเพียงนี้ จะโทษใครได้?”“เจ้าสาม เจ้าหุบปากเสีย”เวินจื่อเฉินถลึงตาใส่เขาแต่เวินจื่อเยวี่ยกลับไม่ฟังเขาเลย ซ้ำยังย้อนถามว่า “ข้าพูดผิดไปหรือ? วันนี้นางมาถึงจุดนี้แล้ว ถูกขับไล่ออกจากสกุลเวิน ถูกท่านพ่อถอดแซ่ ถูกถอนหมั้น ถูกหยามหน้า...ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เพราะนางก่อกรรมทำเข็ญมากเกินไปในอดีต สมควรได้รับมันแล้วหรอกหรือ?”“ข้าบอกให้เจ้าหุบปาก!”เวินจื่อเฉินตะคอกด้วยความโกรธออกมาทันที อารมณ์ที่ปะทุขึ้นมาของเขาสยบเวินจื่อเยวี่ยลงได้ในที่สุดแต่เวินจื่อเยวี่ยแค่หุบปากลง เบือนใบหน้าอึมครึมชั่วร้ายออกไปอีกทาง“หยา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 94

    เวินซื่อหลุบตาลงมองเวินจื่อเฉินที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้านาง ดวงตากระตุกเล็กน้อย ก่อนจะเบือนสายตาออกไปคนอื่น ๆ ก็มองไปที่เวินจื่อเฉินด้วยความประหลาดใจเช่นกันเวินจื่อเยวี่ยถึงกับขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ “พี่รอง?”“เจ้าสาม ยังจำคำพูดที่ท่านพ่อต้องการให้พวกเราถ่ายทอดได้ใช่ไหม?”เวินจื่อเฉินคุกเข่าลงข้างหนึ่ง ตัวตรงเรียบร้อย เขาพูดโดยไม่เหลียวหลัง “พวกเจ้าเพิ่งพูดกับน้องห้าชัดเจนว่าอย่ากระทำการในนามของสกุลเวินอีกต่อไป ซ้ำยังบอกนางด้วยว่าห้ามใช้แซ่เวินอีก ดังนั้นตอนนี้น้องห้าจึงมายืนอยู่ตรงหน้าพวกเราในฐานะธิดาศักดิ์สิทธิ์ ที่ควรสำเหนียกตัวตนให้ดีไม่ใช่พวกเราหรอกหรือ?”คำพูดของเวินจื่อเฉินทำให้ทั้งเวินจื่อเยวี่ยและเวินเยวี่ยเป็นใบ้พูดไม่ออก ไม่มีใครสามารถโต้แย้งได้หลังจากนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง เวินจื่อเยวี่ยก็ค่อย ๆ หันร่างไป ก่อนจะคุกเข่าลงต่อเวินซื่อ“เวินจื่อเยวี่ย...คำนับธิดาศักดิ์สิทธิ์”แตกต่างจากการสีหน้าท่าทางที่เด็ดเดี่ยวของเวินจื่อเฉินเวลาที่เวินจื่อเยวี่ยพูดนั้นสายตายิ่งเยือกเย็นราวกับจุ่มลงในน้ำแข็ง“ทำไม พวกเจ้าทั้งสามไม่ยอมรับสถานะของธิดาศักดิ์สิทธิ์หรือ?”เป่ยเฉินหยวน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 95

    “ธิดาศักดิ์สิทธิ์ เป็นข้าน้อยที่ตามใจมากเกินไป จึงทำให้ลูกชายของข้าน้อยเอาแต่ใจและไม่รู้จักคิดถึงเพียงนี้ ธิดาศักดิ์สิทธิ์โปรดให้อภัยด้วย ต่อไปข้าน้อยจะอบรมสั่งสอนอย่างเข้มงวด ไม่สร้างปัญหาใด ๆ แก่องค์ธิดาศักดิ์สิทธิ์อีกต่อไป”น้ำเสียงของจงหย่งโหวจริงจังซ้ำยังแฝงการตำหนิตัวเองเล็กน้อยเห็นได้ชัดว่าเขาตระหนักดีว่า ภรรยาและบุตรชายของตัวเองทำกับเวินซื่อเกินไปเพียงใดเมื่อเห็นจงหย่งโหวแสดงท่าทีเช่นนี้ออกมา ต่อให้เวินซื่อจะเกลียดชังชุยเส้าเจ๋อมากสักแค่ไหนก็ตาม นางก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเพราะหากจะว่าไปแล้ว เมื่อก่อนนี้คนที่ดีกับนางมากที่สุดในจวนจงหย่งโหว ก็เป็นท่านโหวผู้นี้ที่ปกติดูไม่เป็นมิตรนัก แต่ในเวลาส่วนตัวกลับเป็นมิตรเป็นอย่างมาก“ท่านโหวลุกขึ้นเถิด ความผิดของผู้อื่นไม่เกี่ยวกับท่าน ข้าเองก็ไม่เคยนึกตำหนิท่านโหวมาก่อนเลย ดังนั้นท่านโหวไม่จำเป็นต้องตำหนิตัวเอง”“สำหรับชุยซื่อจื่อ...”เวินซื่อเหลือบมองชุยเส้าเจ๋อที่ใบหน้ายังคงเต็มไปด้วยความอัปยศและขุ่นเคือง นางเอ่ยอย่างราบเรียบ “ข้ากับเขามีอุปสรรคด้านการสื่อสาร ไม่สามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนกันได้ รบกวนท่านโหวช่วยบอกเขาว่า ต่อไปอย่าใช้คำว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09

บทล่าสุด

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 108

    อย่างไรเขาก็ไม่เข้าใจว่าพี่ใหญ่กับพี่รองคิดอะไรกันอยู่ยามนี้ทั้งสองคนเปลี่ยนเป็นเอาใจใส่เวินซื่อมากทั้งที่ก่อนหน้านี้พี่ใหญ่ไม่สนใจไม่ใส่ใจเวินซื่อแม้แต่น้อย พี่รองยิ่งลงไม้ลงมือกับเวินซื่อ ไม่มีใครดีกับนางสักคนตกลงพวกเขาเป็นอะไรไป?เพราะเวินซื่อให้พวกเขากินยาเสน่ห์ จนทำให้พวกเขาลืมไปว่าก่อนนี้เวินซื่อเป็นคนใจดำอำมหิตขนาดไหนงั้นหรือ?“พี่สาม อย่าพูดเช่นนี้ เกิดพี่หญิงห้าได้มายินคำพูดเช่นนี้ของท่าน นางจะเสียใจนะเจ้าคะ”เวินเยวี่ยที่ออกมาพร้อมกัน แม้ปากจะบอกให้เวินจื่อเยวี่ยอย่าพูดเช่นนี้ ทว่าในใจกลับพอใจมากโชคดีที่เวินจื่อเยวี่ยยังอยู่ในการควบคุมของนาง เพราะชายหนุ่มที่ดูเคร่งขรึมคนนี้ เป็นคนที่ดื้อดึงที่สุดในบรรดาพี่น้องทั้งสี่คนเมื่อเขาปักใจว่าเวินซื่อคือคนที่ใจคอโหดเหี้ยม มันจะไม่เปลี่ยนแปลงเพราะคำโน้มน้าวจากผู้อื่นเด็ดขาดดังนั้นหากเวินเยวี่ยอยากใช้เขาเล่นงานเวินซื่อ พูดได้ว่าเป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก“อย่าว่าแต่ตอนนี้นางไม่ได้ยิน ต่อให้นางยืนอยู่ตรงหน้าข้า ก็ไม่มีสิ่งใดที่ข้าเวินจื่อเยวี่ยไม่กล้าพูด”น้ำเสียงของเวินจื่อเยวี่ยใจร้ายมาก ทิ้งคำพูดนี้ไว้ก่อนสะบัดแขนเสื้อจา

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 107

    เมื่อได้ยินคำพูดของเวินจื่อเฉิน บรรยากาศภายในห้องเงียบสงัดสีหน้าของเวินเยวี่ยแข็งข้างไปชั่วขณะมือที่อยู่ใต้โต๊ะกำแน่น ในใจรู้สึกรำคาญเวินจื่อเฉินที่พูดโพล่งออกมาโดยไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยอย่างที่สุดทั้งที่คราวก่อนเจ้าโง่นี่ถูกนังแพศยาทำร้ายจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด ทำไมตอนนี้จึงดูเหมือนสนใจนังแพศยานั่นมากขึ้นเรื่อย ๆ ล่ะ?หรือสมองของเวินจื่อเฉินมีปัญหา?คนอื่นยิ่งเกลียดเขา เขาก็ยิ่งอยากเสนอหน้าไปทำดีด้วยงั้นหรือ? !นอกจากเวินจื่อเฉิน เวินฉางอวิ้นที่อยู่ข้างกันตะลึงไปสักครู่จึงรู้สึกตัว“วันนี้เป็นวันที่หนึ่ง เป็นวันเกิดของน้องห้าจริง”ระหว่างที่พูดอย่างนั้น สีหน้าเวินฉางอวิ้นสับสน ในใจพลันเกิดความรู้สึกผิดขึ้นมาบ้างหากไม่ใช่น้องรองเอ่ยขึ้นกะทันหัน เขาเกือบจะลืมเรื่องนี้ไปแล้วเวินจื่อเยวี่ยขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์ “จู่ ๆ พี่รองเอ่ยถึงนางทำไม? ตอนนี้นางไม่ใช่คนตระกูลเวินแล้ว จะเป็นวันเกิดของนางหรือไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเรา”เวินอวี้จือยกถ้วยน้ำชาของตัวเอง แล้วจิบหนึ่งคำ โดยไม่ได้พูดอะไรเวินฉางอวิ้นนึกถึงท่าทางเย็นชาที่เวินซื่อแสดงออกก่อนหน้านี้ อดหันไปมองผู้ที่นั่งตรงตำแหน่งประธานไ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 106

    หลังจากเวินซื่อสะบัดเวินหย่าลี่ นางถูกสาวใช้ประคองเอาไว้ จากนั้นชี้นิ้วที่สั่นเทาไปหาเวินซื่อ “ดี ดี! เจ้าคอยดูเถอะ เรื่องนี้ข้าไม่ยอมจบง่าย ๆ แน่!” มาอย่างดุดัน กลับไปอย่างทุลักทุเลหลังเวินซื่อละสายตา พลันหันหลังกลับเข้าอารามทันทีทิ้งไว้เพียงฝูงชนกลุ่มหนึ่งที่ยังข้องใจไม่หาย“เพราะฉะนั้นแล้ว ตกลงธิดาศักดิ์สิทธิ์ฝูหมิงได้ขโมยยาหยกหิมะของจงหย่งโหวฮูหยินหรือไม่?”“นี่ยังต้องถามอีกหรือ บทสรุปชัดเจนอยู่แล้วไม่ใช่หรือ?”“จงหย่งโหวฮูหยินสงสัยว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์ขโมยยาหยกหิมะของนางไป แต่นางก็ไม่มีหลักฐาน ส่วนธิดาศักดิ์สิทธิ์ก็เปิดเผยจริงใจ ดังนั้นข้าคิดว่านางไม่ได้ขโมย”“จะว่าอย่างนั้นคงไม่ได้ ข้าว่าจงหย่งโหวฮูหยินเองก็มีเหตุผลให้สงสัย ก่อนออกบวชชื่อเสียงของธิดาศักดิ์สิทธิ์ไม่สู้ดีนัก ข้าคิดว่าหากนางต้องการแก้แค้นจงหย่งโหวฮูหยิน ก็ใช่ว่าจะทำเรื่องเช่นนี้ไม่ได้”“เจ้าโง่หรือ? หากธิดาศักดิ์สิทธิ์ขโมยจริง นางยังกล้าบอกว่าจะไปกราบทูลต่อหน้าพระพักตร์หรือ?”“ทว่าก็ยังไม่ได้ไปกราบทูลไม่ใช่หรือ ไม่แน่อาจแค่ข่มขู่เท่านั้นล่ะ? อย่างไรข้าก็ไม่เชื่อคนนิสัยอย่างเวินซื่อหรอก”หลังจากฝูงชนที่อยู

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 105

    ทั้งที่เป็นอาหญิงแท้ ๆ ของนางแต่กลับเกลียดชังนางถึงเพียงนี้ในใจเวินซื่อผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่าทุกครั้งคนในตระกูลเวินจะรู้ว่าทำอย่างไรจึงจะทำร้ายนางได้อย่างแสนสาหัส“เดิมเจ้าก็เป็นคนใจคอโหดเหี้ยม ริษยาจนเป็นนิสัย จิตใจคับแคบอยู่แล้ว!”เวินหย่าลี่ชี้หน้านางพร้อมกับด่าทออย่างดูแคลนที่สุดโดยไม่ลังเล “เจ้าไม่เคารพผู้ใหญ่ ไม่เคารพพี่ชาย อีกทั้งยังใช้วิธีโหดเหี้ยมไปทำร้ายเวินเยวี่ยน้องสาวของเจ้า นังเด็กที่มีแม่ให้กำเนิดแต่ไม่มีแม่สั่งสอนอย่างเจ้า หากเดินไปสู่ทางผิดข้าเองก็ไม่สงสัยแม้แต่น้อย”“พูดจบหรือยัง?!”เวินซื่อเงยหน้ามองเวินหย่าลี่ด้วยความโมโห“มีแม่ให้กำเนิด แต่ไม่มีสั่งสอนหรือ?”ดวงตานางแดงก่ำ ลุกโชนไปด้วยไฟโทสะ “ถูกต้อง ข้ามีแม่ให้กำเนิดไม่มีแม่สั่งสอน แล้วท่านที่พูดกับลูกหลานด้วยคำพูดที่ร้ายกาจทำร้ายจิตใจ ท่านที่เป็นถึงฮูหยินจงหย่งโหว เป็นถึงคุณหนูใหญ่จวนเจิ้นกั๋วกงในอดีต ได้รับการสั่งสอนมาเช่นไรหรือ?”“หุบปาก! เจ้ายังกล้าต่อปากต่อคำกับข้าหรือ!”เวินหย่าลี่ลุกพรวดทันที ไฟโทสะที่ลุกโชนทำให้นางลืมสถานะระหว่างนางกับเวินซื่ออีกครั้ง จากนั้นจึงพุ่งเข้าไปตามสัญชาตญาณ ยกมือหมาย

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 104

    “เหอะ? พวกเราจวนจงหย่งโหวรังแกเจ้าหรือ?”เวินหย่าลี่ทำสีหน้าน่าขัน เอ่ยกับเวินซื่ออย่างไม่ยี่หระ “เวินซื่อ เจ้าอย่าเสแสร้งแกล้งทำอีกเลย ตกลงเจ้าขโมยสิ่งใดไปจากข้า เจ้ารู้อยู่แก่ใจดี ยังต้องให้ข้าเอ่ยปากเปิดโปงเจ้าด้วยตัวเองอีกหรือ?”“อย่ามาโยกโย้กับข้า”เวินซื่อเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ไม่เกรงใจกันแม้แต่น้อย “ในเมื่อท่านคิดว่าข้าขโมยของมาจากจวนจงหย่งโหว เช่นนั้นก็พูดให้ชัดเจนต่อหน้าธารกำนัลไปเลย!”“ดี ดี เดิมทีข้ายังเห็นแก่พี่ใหญ่ไว้หน้าเจ้าบ้าง แต่ในเมื่อเจ้าไร้ยางอายขนาดนี้ เช่นนั้นข้าก็ไม่มีอะไรต้องกลัวเหมือนกัน”เวินหย่าลี่สั่งให้หัวหน้าสาวใช้เดินออกไปหัวหน้าสาวใช้ก้าวไปข้างหน้าหลายก้าว แล้วเอ่ยกับเวินซื่อและศิษย์พี่หญิงข้างกายนางอย่างเย่อหยิ่ง “หลายวันก่อนเจ้าอารามสุ่ยเยว่ม่อโฉวซือไท่ พร้อมด้วยธิดาศักดิ์สิทธิ์ฝูหมิงไปพบฮูหยินผู้เฒ่าที่จวนจงหย่งโหว แต่วันนั้นหลังจากพวกเจ้ากลับไป ยาหยกหิมะภายในห้องเก็บสมบัติของฮูหยินหายไปถึงสามขวด”เวินหย่าลี่ทำเสียงฮึดฮัดแล้วเอ่ยขึ้น “หลายวันนั้นนอกจากพวกเจ้า ไม่เคยมีใครไปเยือนจวนจงหย่งโหวอีกเลย หากพวกเจ้าไม่ได้ขโมยแล้วใครขโมยไป?”“ยาหยกหิมะหรือ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 103

    ที่แท้เป็นเช่นนี้มิน่าก่อนหน้านี้ตอนตอบแทนบุญคุณเป่ยเฉินหยวน เขาแค่บอกให้นางสวดมนต์ให้เขาฟังหลาย ๆ ครั้งเท่านั้นหลังจากเข้าใจแล้วเวินซื่อรู้สึกโล่งอกอย่างสิ้นเชิง“ท่านอ๋องทำเพื่อบ้านเมืองเพื่อราษฎร มีผลงานมากมาย ยามนี้ต้องทุกข์ทรมาน พวกข้าสมควรช่วยท่านอ๋องแบ่งเบา”เวินซื่อยิ้มอย่างจริงใจ “หากเสียงสวดมนต์ของข้าทำให้ท่านรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง ถือเป็นเกียรติของข้า”ราชวงศ์ต้าหมิงสามารถอยู่เย็นเป็นสุขเช่นนี้ได้ เรียกได้ว่าเป็นผลงานของท่านอ๋องเทพสงครามผู้นี้แน่นอนเมื่อขุนนางผู้มีคุณร้องขอ นางย่อมไม่อิดออดอีกทั้งเป็นเพียงคำขอร้องเล็กน้อยเท่านั้นเมื่อเห็นนางรับปาก รอยยิ้มบนใบหน้าของเป่ยเฉินหยวนเบิกบานยิ่งกว่าเดิม“ต่อไปหากท่านทรมาน มาหาข้าได้ตลอดเวลา ไม่ต้องนำสิ่งใดมาให้ข้าก็มาหาได้”คราวนี้เวินซื่อนึกว่า ก่อนหน้านี้ที่เป่ยเฉินหยวนนำของมากมายมาให้นางเพราะต้องการซื้อตัวนางตอนนี้ในเมื่อนางรู้ความจริง ต่อไปคงรับไว้ไม่ได้อีกแล้วเรื่องนี้เป่ยเฉินหยวนไม่ปฏิเสธ เพียงเอ่ยเสียงเรียบ “ต่อไปค่อยว่ากัน”วันเวลาหลังจากนี้เมื่อมีเหตุผลที่ถูกต้องเป่ยเฉินหยวนขยันไปอารามสุ่ยเยว่มากกว่าเดิม

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 102

    พวกนางบำเพ็ญอยู่ที่อารามสุ่ยเยว่อย่างลำบากอาหารอย่างพวกขนมเหล่านี้ ในยามปกติหากินได้ยากมากหลังจากได้รับอนุญาตจากม่อโฉวซือไท่ เวินซื่อรีบนำขนมหลายห่อนั้นไปหาพวกศิษย์พี่หญิงทันทีตอนที่กลับมาอีกครั้ง ในมือเหลือเพียงครึ่งห่อเท่านั้นเวินซื่อวิ่งกลับมาอย่างดีใจ แต่เพิ่งเห็นเป่ยเฉินหยวนจู่ ๆ นึกถึงบางอย่าง “โอ๊ย...”ดูเหมือนลืมเก็บไว้ให้ท่านอ๋องแล้ว...เป่ยเฉินหยวนแค่มองก็รู้ว่านางกำลังคิดอะไร เขากำลังจะบอกว่าตัวเองไม่กินของพวกนี้ ให้เวินซื่อเก็บไว้กินเองแต่เมื่อคำพูดมาจ่ออยู่ที่ปาก เขาก็เปลี่ยนคำพูดพร้อมเลิกคิ้ว “ทำอย่างไรดี เหลือแค่นี้เองหรือ ข้ายังไม่ได้กินสักชิ้นเลย”เมื่อได้ยินดังนั้น เวินซื่อยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้นขนมที่ท่านอ๋องเป็นคนซื้อมา นางดีใจไปชั่วขณะก็เลยคิดแต่จะแบ่งให้พวกศิษย์พี่หญิง กลับลืมเก็บไว้ให้ท่านอ๋องเวินซื่อทำหน้ากระอักกระอ่วนแล้วยื่นขนมครึ่งห่อให้เขา “ยังมีอีกนิด ท่านอ๋องกินหรือไม่?”“กินแน่นอน”เป่ยเฉินหยวนจ้องมองใบหน้าแดงระเรื่อของนาง ยื่นมือไปหยิบขนมออกมาจากห่อกระดาษไขเพียงหนึ่งชิ้น“แต่ข้าไม่ได้ชอบกินมากนัก ที่เหลือท่านเก็บไว้กินเองเถอะ”เวินซื่อป

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 101

    “ซือไท่หมายความว่าเช่นไร?”เป่ยเฉินหยวนแสร้งทำไม่เข้าใจ แล้วย้อนถามม่อโฉวซือไท่ กล่าว “อมิตตาพุทธ” แล้วหลุบตาเอ่ยขึ้น “ท่านอ๋องน่าจะเข้าใจความหมายของข้า อารามสุ่ยเยว่เป็นพื้นที่แห่งพระพุทธศาสนา เหล่าเด็กที่มาออกบวชที่นี่ล้วนต้องตัดขาดจากโลกีย์ ผัสสะทั้งหกหมดจด อู๋โยวเองย่อมต้องเป็นเช่นนั้น”เป่ยเฉินหยวนสีหน้าเรียบเฉย “ความหมายของซือไท่ เห็นว่าข้ารบกวนการบำเพ็ญของอู๋โยวหรือ?”ม่อโฉวซือไท่ไม่ปฏิเสธความเงียบสงัดแผ่ซ่านออกมาจากทั้งสองผ่านไปสักครู่ เป่ยเฉินหยวนจึงเอ่ยเชื่องช้า “ข้ามีความสงสัยมาโดยตลอด เรื่องนี้คิดว่าซือไท่น่าจะทราบดี พอดีวันนี้ซือไท่อยู่ที่นี่ด้วย ขอซือไท่โปรดคลายความสงสัยให้ข้าด้วย”ม่อโฉวซือไท่ไม่ปฏิเสธเขา “เชิญท่านอ๋องกล่าวมาได้เลย”“ข้าเคยอ่านเจอในหนังสือกล่าวไว้ พระพุทธองค์โปรดผู้มีบุญสัมพันธ์ เช่นนั้นท่านคิดว่าคนอย่างข้าพระพุทธองค์จะโปรดหรือไม่?”เป่ยเฉินหยวนยกมือขวาที่ถือกระบี่มาตลอดขึ้นเขามองดูมือข้างนั้น กระดูกมือเรียวยาว แต่กลับเต็มไปด้วยรอยแผลเช่นเดียวกันกับบาดแผลบนตัวเขาเหล่านั้นที่ปกปิดอยู่ใต้ร่มผ้า บิดเบี้ยวและน่าเกลียดเขากำมือแน่นขึ้น บรรยาก

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 100

    ในฐานะบุตรสาวแห่งภรรยาเอกแห่งจวนเจิ้นกั๋วกง เวินซื่อย่อมรู้จักของเหล่านี้อยู่แล้วและนางไม่เพียงแต่รู้จักเท่านั้น แต่เมื่อก่อนยังเคยใช้บ่อย ๆ อีกด้วยเพราะหลังจากที่มารดาล่วงลับไป จวนเจิ้นกั๋วกงก็มีนางเป็นบุตรสาวคนเดียว ดังนั้นในเวลานั้นเมื่อเวินเฉวียนเซิ่งได้รับสิ่งใดมาก็ตาม ก็จะมอบให้กับนางโดยตรงแต่ต่อมาเมื่อมีเวินเยวี่ยเข้ามาในสกุลเวินเวินเยวี่ยแค่เอ่ยคำเดียวว่าชอบ ปริมาณยาหยกหิมะที่ส่งมาที่ห้องนางก็ลดลงจากสามขวด สองขวด หนึ่งขวด จนสุดท้ายก็ไม่เคยได้รับมันอีกเลยในเวลานั้นเวินซื่อที่ยังไม่รู้เรื่องอะไรเลยก็วิ่งไปหาเวินเฉวียนเซิ่งโดยตรงเพื่อถามบิดาของตนว่า ทำไมถึงมอบยาหยกหิมะแก่เวินเยวี่ย แต่นางกลับไม่มีสักขวดเลย?เวลานั้น ‘บิดาแสนดี’ พูดว่าอย่างไรนะ?เวินซื่อลองนึกดูสักครู่ใช่แล้ว ตอนนั้นเขาขมวดคิ้วพร้อมกับพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “เพราะนางเป็นน้องสาวของเจ้า นางต้องลำบากลำบนมากมายตั้งแต่เด็ก เจ้าเป็นพี่สาวจะยอมเอื้อเฟื้อหน่อยไม่ได้หรือ?”ด้วยคำว่า ‘พี่สาว’ นำหน้า เวินซื่อจึงต้องยอมแม้ว่าในใจจะรู้สึกคับข้องเพียงใดก็ตามนางในเวลานั้นยังมีความคิดอย่างไร้เดียงสา...ช่างมันเถอะ

DMCA.com Protection Status