Share

บทที่ 482

Author: จิ้งซิง
เวินซื่อนิ่งไปชั่วขณะ ก่อนจะยิ้มออกมา “ตกลง แม่ชีเข้าใจแล้ว”

“แม่ชี?”

เป่ยเฉินหยวนยังคงมองดูนาง เหมือนยังไม่ยอมเลิกราง่าย ๆ

เวินซื่อจนปัญญาขึ้นมาทันที “ตกลง ๆ ข้าเข้าใจแล้ว”

บัดนี้แม้แต่คำแทนตัวก็เปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ

เมื่อพูดถึงตรงนี้ เวินซื่อก็ตระหนักถึงบางอย่างโดยพลัน

ดูเหมือนว่าอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนจะไม่ค่อยแทนตัวเองว่า “ข้าผู้เป็นอ๋อง” เมื่ออยู่ต่อหน้านาง และไม่รู้ว่าเริ่มตั้งแต่เมื่อใด

แต่ในเมื่ออ๋องผู้สำเร็จราชการแทนก็เป็นเช่นนี้ นางก็เลยตามเลยแล้วกัน

“ค่ำคืนนี้ยาวนาน คืนงานเทศกาลโคมไฟ อู๋โยวมาร่วมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กับข้า สนุกให้เต็มที่กันเถอะ?”

หลังจากนั้นทั้งสองก็ละลายไปกับฝูงชนในเทศกาลโคมไฟ ในระเบียงยาวภายใต้โคมไฟประดับ เดินเตร่ไปทั่วถนนทั้งสาย ชมตรงนี้ จับจ่ายตรงนั้น ไม่นานเป่ยเฉินหยวนก็ถือของเต็มมือ

มีโคมไฟประดับที่ซื้อพร้อมกับเวินซื่อ โคมลอยน้ำที่สามารถลอยได้ โคมไฟหลากสีสันที่ได้มาจากการทายปริศนาโคมไฟ ยังมีมันเทศอบไว้กิน และของหวานไว้ดื่ม อย่างแล้วอย่างเล่า

ในตอนแรกยังคงถือไว้ในมือของเวินซื่อ แต่สักพักก็มาอยู่ในมือของเป่ยเฉินหยวน อีกครึ่งทางข้างหน้าก็น่า
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 483

    เป่ยเฉินหยวนเห็นนางดูเหมือนจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง จึงเอ่ยปากขึ้น “แค่พวกโจรไม่กี่คนเท่านั้นเอง กวาดล้างหมดสิ้นแล้ว”ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?นึกไม่ถึงเลยว่านางจะไม่สังเกตเห็นการเคลื่อนไหวใด ๆ เลย!เวินซื่อเบิกตากว้าง การแสดงออกทางสีหน้ามีความตกใจมากทีเดียว“วางใจได้ ข้าจะไม่ปล่อยให้พวกเขามารบกวนท่าน”เขาจัดการได้อย่างสะอาดหมดจด ทุกครั้งโจรและนักฆ่าเหล่านั้นยังไม่ทันได้เฉียดข้างกายเวินซื่อ ก็ถูกเป่ยเฉินหยวนกำจัดทั้งหมดแล้วหลังจากสังหารจนหมดสิ้น เป่ยเฉินหยวนก็รู้สึกแปลก ๆเขาหรี่ตาลงเล็กน้อยคนเหล่านั้นดูเหมือนจะไม่ได้เจาะจงที่อู๋โยวเพียงผู้เดียว มีดดาบของสองคนในนั้นวาววับอยู่ข้างลำตัวของเขาอย่างชัดเจนคนกลุ่มนี้จับจ้องพวกเขาทั้งสองคนจะเป็นใครกันนะ?ใครกันที่หาญกล้าเช่นนี้ กล้าพุ่งเป้าไปที่อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนและธิดาศักดิ์สิทธิ์ในเวลาเดียวกัน?ในเมื่อถูกกำจัดหมดแล้ว เวินซื่อก็ไม่อยากเสียอารมณ์ จึงยังไม่ได้ว่าอะไร พลางยิ้มกล่าวว่า “เช่นนั้นก็ไปกันเถอะ ใกล้จะถึงริมแม่น้ำแล้วพอดี”ถนนที่จัดงานเทศกาลโคมไฟอยู่ไม่ไกลจากริมแม่น้ำดังนั้นทุกครั้งที่มีการจัดงานเทศกาลโคมไฟในเมืองหล

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 484

    “นักฆ่าในงานเทศกาลโคมไฟ ท่านมีใครที่น่าสงสัยบ้างหรือไม่?”ระหว่างทางไปส่งเวินซื่อกลับอารามสุ่ยเยว่ เป่ยเฉินหยวนได้ถามขึ้น“คนที่ต้องการฆ่าข้าก็มีเพียงไม่กี่คน ถ้าไม่ใช่คนของจวนเจิ้นกั๋วกง ก็เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังเวินเยวี่ย ข้าเอนเอียงไปทางผู้ลึกลับกลุ่มนั้นที่อยู่เบื้องหลังเวินเยวี่ยมากกว่า”เวินซื่อนึกถึงที่จู๋เยวี่ยบอกนางไว้ก่อนหน้านี้ ยอดฝีมือลึกลับที่เฝ้าอยู่ในเรือนของเวินเยวี่ยผู้นั้นในเมื่อมีคนลอบสังหาร ก็ต้องเกี่ยวข้องกับยอดฝีมือลึกลับผู้นั้นเป็นแน่แต่ในขณะนี้เป่ยเฉินหยวนได้บอกว่า “ไม่ได้มีแค่กลุ่มเดียว”“หืม?”เวินซื่อมองไปยังเป่ยเฉินหยวนที่อยู่นอกหน้าต่างด้วยความฉงนเป่ยเฉินหยวนอธิบายว่า “คืนนี้ในบรรดาผู้ที่ลอบสังหาร มีสองคนที่มีทักษะแตกต่างจากคนอื่น ๆ”เวินซื่อแปลกใจขึ้นมาทันที “ยังมีคนต้องการฆ่าข้าด้วยหรือ?”“หรือบางทีอาจจะไม่ได้ต้องการฆ่าท่าน”“แล้วคือ…?”เวินซื่อนิ่งไปชั่วครู่ นึกอะไรได้บางอย่างขึ้นมาในหัวอย่างฉับพลัน พลางขมวดคิ้ว “พวกเขามาเพื่อฆ่าท่านหรือ?”นางมีสีหน้าเป็นกังวลทันที “ท่านมีใครที่น่าสงสัยบ้างหรือไม่?”คำพูดนี้ถึงคราวที่เวินซื่อใช้ถามเป่ยเ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 485

    เมื่อคิดดูแล้วต้องเป็นเรื่องโรคระบาดในลู่โจวก่อนหน้านี้ได้แพร่กระจายออกไปนอกพรมแดนตะวันตกแน่นอน จึงมีผู้สอดแนมต่างเผ่าฉวยโอกาสขณะที่หนิงหย่วนโหวไม่ได้เตรียมตัวแอบข้ามพรมแดนตะวันตก แทรกซึมเข้ามาในหมู่ประชาชน แล้ววิ่งเข้ามาในเมืองหลวงเพียงแต่ก็ไม่รู้ว่าไปปลุกเร้าความกล้ามาจากไหน กล้าลอบสังหารอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนของพวกเขาอย่างไม่น่าเชื่อ!โชคดีที่ท่านอ๋องของพวกเขาตื่นตัวอยู่เสมอ ไม่ยอมให้คนเหล่านั้นเป็นต่อสำหรับเรื่องเสียโฉมนั้นคาดเดาได้ง่าย หน้าตาของต่างเผ่าแตกต่างจากคนในราชวงศ์ต้าหมิง หากไม่ทำให้เสียโฉม มองปราดเดียวก็อาจจะแยกแยะได้แล้วแต่เมื่อเกาเย่าคิดถึงเรื่องนี้ ก็รู้สึกทันใดว่าไม่ปกติทำไมการเตรียมตัวของชาวต่างเผ่าเหล่านี้ดูเหมือนจะรอบคอบ แต่ก็ไม่รอบคอบมากนัก?การลอบสังหารทำได้อย่างน่าประหลาดไม่พอ ซ้ำยังกระจอกงอกง่อยเหมือนเด็กเล่นเช่นนี้อีกยังไม่ต้องพูดว่าพวกทำเพื่อจุดประสงค์ใดกันแน่ แต่ในเมื่อใช้ความพยายามอย่างสุดกำลังถึงมาที่เมืองหลวงได้ หากต้องการลอบสังหารก็ควรจะวางแผนดี ๆ ถึงจะถูกแต่เห็นสภาพพวกเขาเช่นนี้ที่ส่งคนมาเพียงไม่กี่คนสามารถทำให้ท่านอ๋องของพวกเขาผิวถลอกไ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 486

    เป่ยเฉินหยวนรีบบอกเรื่องนี้กับเวินซื่อเขาไม่ได้พูดเรื่องอันปี่เค่อและอันหลันซินเลย แค่พูดถึงคนจากต่างเผ่าเท่านั้น เพื่อให้เวินซื่อระวังตัว“พูดเช่นนี้ ก่อนหน้านี้จินซือถูก็เคยพาคนจากต่างเผ่าอีกคนหนึ่งมาหาข้าด้วย”เวินซื่อแตะใต้คางด้วยมือข้างหนึ่ง นึกถึงช่วงเวลาที่ผ่านมา“ใครหรือ?”เป่ยเฉินหยวนมองไปที่นางทันที“ชายมีเคราคนหนึ่ง นามว่าเก๋อเอ่อร์ เขาเป็นคนบอกข้าเกี่ยวกับเรื่องที่แม่ของเวินเยวี่ยทำกับแม่ของข้า เพียงแต่ไม่ได้ให้หลักฐานใด ๆ”เรื่องนี้เวินซื่อไม่ได้ปิดบังอะไรจากเขา“ท่านคิดอย่างไรกับคนผู้นั้น?”เป่ยเฉินหยวนครุ่นคิดสักครู่พลางเอ่ยถามนางเวินซื่อกล่าวว่า “สิ่งที่เขาพูดกับข้าน่าจะเป็นความจริง เพียงแต่อย่างอื่นข้าก็ไม่รู้แล้ว”คนผู้นั้นถูกแม่ของเวินเยวี่ยใช้พิษควบคุมเช่นเดียวกับจินซือถูเรื่องนี้นางได้ตรวจสอบด้วยตัวเองแล้ว ไม่มีข้อสงสัยใด ๆเวลานี้อีกฝ่ายต้องการถอนพิษ จำเป็นต้องพึ่งพานาง ถ้าอย่างนั้นก็มีความเป็นไปได้สูงว่าสิ่งที่พูดกับนางจะไม่เป็นความเท็จยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่ไป๋ชูโหรวทำกับแม่ของนางก็สมควรแล้วจริง ๆเวินซื่อยังบอกเป่ยเฉินหยวนเกี่ยวกับพิษในร่างกายข

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 487

    “งานเลี้ยงในวัง?”“ใช่แล้วธิดาศักดิ์สิทธิ์ ฝ่าบาททรงรับสั่งมาเป็นพิเศษว่า พรุ่งนี้ท่านต้องเข้าร่วมงานเลี้ยง เพื่อร่วมเฉลิมฉลองกับพสกนิกรทั้งหลาย”เสี่ยวเต๋อจื่อกล่าวกับเวินซื่อด้วยรอยยิ้มเบิกบาน“ตกลง ขอบคุณกงกง อุตส่าห์วิ่งมาที่นี่ด้วยตัวเอง”เวินซื่อมองข้างหลังแวบหนึ่ง “เสี่ยวหาน”ฉางเสี่ยวหานหยิบห่อสัมภาระที่บรรจุเงินอยู่จากห้องของเวินซื่อเข้ามา แล้วยื่นให้ด้วยความเคารพ “นี่คือน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ของธิดาศักดิ์สิทธิ์ของเรา เชิญกงกงดื่มชา หวังว่ากงกงจะไม่ปฏิเสธ"เสี่ยวเต๋อจื่อรับมาด้วยหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสทันที “อุ๊ย เช่นนั้นบ่าวก็ขอขอบคุณธิดาศักดิ์สิทธิ์ที่ประทานรางวัลให้”หลังจากเต๋อกงกงกลับไปแล้ว เวินซื่อหันหน้ามาก็เห็นคนคนหนึ่ง“อาจารย์?”ม่อโฉวซือไท่ก้าวไปหานาง เห็นไรผมยุ่ง ๆ ที่ข้างหูของนาง ก็ยกมือขึ้นช่วยนางลูบให้เรียบ“พรุ่งนี้เจ้าไปกับจู๋เยวี่ยเท่านั้น ระวังตัวด้วย นำยาจำนวนหนึ่งที่ข้าเตรียมไว้ให้เจ้าตามปกติไปด้วย หากมีอะไรเกิดขึ้นก็อาจจะได้ใช้มัน”เวินซื่อเลิกคิ้วขึ้น “ฟังจากคำพูดของอาจารย์ ทำไมรู้สึกว่าเหมือนจะต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นในงานเลี้ยงของวันพรุ่งนี้แน่นอนเจ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 488

    ดังนั้นเวินซื่อจึงไม่ได้นำบัวหิมะออกมาจากมิติในทันทีพรุ่งนี้ลองเข้าไปดูสถานการณ์ในวังก่อน หากสามารถได้บัวหิมะมาโดยตรงก็จะดีที่สุด ไม่ต้องชี้แจงด้วยแต่หากเอามาไม่ได้ก็ไม่เป็นไรถึงเวลานั้นนางค่อยจัดการกับบัวหิมะในมิติก่อน แล้วจึงนำไปมอบให้อาจารย์ก็ยังไม่สายเกินไป“อาจารย์ไม่ต้องกังวล พรุ่งนี้ศิษย์จะไม่ลืมเรื่องนี้เจ้าค่ะ”เวินซื่อรับปากม่อโฉวซือไท่ไว้แล้วม่อโฉวซือไท่พยักหน้าเล็กน้อย แล้วกำชับอีกว่า “หากสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวย ก็อย่าฝืน ปล่อยดอกนี้ไป วันหลังยังสามารถหาร่องรอยของบัวหิมะดอกอื่นได้เสมอ”เวินซื่อพยักหน้าให้ม่อโฉวซือไท่วางใจ“ใช่แล้วอาจารย์ ศพที่ข้ามอบให้ท่านก่อนหน้านี้เป็นอย่างไรบ้าง พบอะไรในนั้นหรือไม่เจ้าคะ?”เวินซื่อนึกขึ้นได้ว่าหลังคืนส่งท้ายปีเก่า องครักษ์ของจวนอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนส่งศพของนักฆ่ามาให้อย่างรวดเร็วใบหน้าของนักฆ่าถูกทำให้เสียโฉมแล้วเช่นกันเห็นได้ชัดว่าคนที่อยู่เบื้องหลังคนเหล่านี้ก็มีความระมัดระวังเช่นกันเมื่อได้ยินคำพูดของนางสีหน้าของม่อโฉวซือไท่ก็เคร่งขรึมขึ้นมาทันที “ว่าแต่ว่าเรื่องนี้ เจ้าบอกอาจารย์มาก่อนว่า ศพนี้เจ้าได้มาจากไหน?”เว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 489

    เมื่อวานนี้อาจารย์เพิ่งบอกให้นางระวังหนอนกู่ ที่แสดงอำนาจต่อนางตลอดมาหากนางดื่มน้ำทิพย์แล้ว ดวงตาเห็นได้ชัดเจนขึ้นกว่าเมื่อก่อน ก็ไม่แน่ว่าจะสามารถสังเกตเห็นหนอนตัวนี้ได้จริง ๆนางกำนัลตกตะลึงไปชั่วขณะ ก้มศีรษะลงมองไปที่ตั่งตัวนั้น มองดูอย่างถี่ถ้วนสักพักถึงจะสังเกตเห็นว่ามีหนอนสีดำตัวเล็ก ๆ อยู่จริงนางกำนัลรีบคุกเข่าลงขออภัยโทษ “บ่าวละเลยหน้าที่ ธิดาศักดิ์สิทธิ์โปรดลงโทษ”การทำความสะอาดในงานเลี้ยงของวังนั้นเข้มงวดมาก อย่าว่าแต่หนอนตัวเดียว แม้แต่ฝุ่นสักเม็ดก็ไม่อนุญาตให้ปรากฏขึ้นแต่ตอนนี้บนที่นั่งของธิดาศักดิ์สิทธิ์ได้มีหนอนตัวหนึ่งปรากฏขึ้น หากเจอเจ้านายที่มีอารมณ์ร้าย ศีรษะของพวกนางคงต้องหลุดจากบ่าดังนั้นทันทีที่นางกำนัลผู้นั้นคุกเข่าลง ก็เริ่มตัวสั่นงันงก หวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง“จัดการเก็บกวาดที่นี่ให้สะอาด แล้วประเดี๋ยวเจ้ามาอยู่ข้างตัวข้า”“เจ้าค่ะ”ในเมื่อเป็นการแสดงอำนาจ เช่นนั้นนางก็มารับคำท้าเวินซื่อมองนางกำนัลแวบหนึ่ง หลังจากให้นางเก็บกวาดสถานที่แล้ว กลับไม่ได้ปล่อยนางไปต่อมานางก็นั่งลงในตำแหน่งเดิม เอื้อมมือไปใต้โต๊ะ แล้วปล่อยแมงมุมสีดำตัวหนึ่งออกมาแมงมุมต

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 490

    “เจ้าเคยเห็นมาก่อนหรือ?”สายตาของฮ่องเต้น้อยหยุดอยู่ที่เวินเยวี่ยแม้ว่าอีกฝ่ายจะสวมผ้าคลุมหน้า แต่ดวงตาของเขายังไม่มืดบอด มองนางไม่ออกแต่จะมองเวินเฉวียนเซิ่งที่นั่งอยู่ข้างกายนางไม่ออกได้หรือ?“เพคะฝ่าบาท มารดาของหม่อมฉันเชี่ยวชาญด้านโอสถ และเคยทิ้งตำราแพทย์และสมุนไพรไว้ให้หม่อมฉัน ในนั้นมีบัวหิมะตากแห้งเก็บรักษาไว้ต้นหนึ่ง เพียงแต่น่าเสียดายที่ต่อมาหม่อมฉันล้มป่วย จำเป็นต้องใช้บัวหิมะต้นนั้นไป แต่หม่อมฉันก็ยังพอมีความทรงจำในเรื่องนี้อยู่บ้างเพคะ”“อย่างนั้นหรือ?”สายตาของฮ่องเต้น้อยกวาดมองเวินเยวี่ยและเวินเฉวียนเซิ่งสองพ่อลูกคู่นี้เวินเฉวียนเซิ่งลุกขึ้นก้าวไปข้างหน้าพลางกล่าวว่า “ฝ่าบาท สิ่งที่นางพูดนั้นเป็นความจริงพ่ะย่ะค่ะ หากฝ่าบาทต้องการวินิจฉัยว่าบัวหิมะต้นนี้ของใต้เท้าอันเป็นของจริงหรือปลอม ให้ลูกสาวของกระหม่อมเป็นธุระแทนพระองค์ก็ได้พ่ะย่ะค่ะ”“ไม่ต้อง ๆ ในเมื่อบัวหิมะนี้ใต้เท้าอันเจาะจงนำถวาย เราย่อมเชื่อมั่นในสายตาของใต้เท้าอันอยู่แล้ว”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ อันปี่เค่อก็เผยสีหน้าน้ำตาคลอเบ้าบ่งบอกว่า “นึกไม่ถึงเลยว่าฝ่าบาทจะไว้วางใจกระหม่อมเช่นนี้”แต่วินาทีต่อมาก็ได้

Latest chapter

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 550

    ถึงขั้นเอาอีกฝ่ายมาข่มขู่เวินจื่อเยวี่ย ทำให้เวินจื่อเยวี่ยต้องเลือกระหว่างนางและหลินเนี่ยนฉือแล้วนางสารเลวที่ยังไม่เดินผ่านประตูเข้ามาจะเอาอะไรมาเทียบกับนาง!เวินเยวี่ยโกรธจัดจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ในเสี้ยววินาทีที่ก้มศีรษะลง สายตาอาบยาพิษช่างน่าสะพรึงกลัว“ยุแยงตะแคงรั่ว?”เวินซื่อแค่รู้สึกว่าคำพูดของเวินจื่อเยวี่ยน่าขบขันมาก “มีเพียงคนที่มีหัวใจเท่านั้นถึงจะรู้สึกว่าใคร ๆ ก็เป็นเช่นนี้”นางเหลือบมองเวินเยวี่ยแวบหนึ่งอย่างเฉยชา ก่อนจะเอ่ยอย่างไม่แยแส “ท่านคิดว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้จะใช้พวกท่านไปก่อกวนความสงบของนางหรือ? ฝันไปเถอะ พวกท่านยังไม่คู่ควร”“เหอะ พูดเสียน่าฟัง ถ้าไม่ใช่เพราะจดหมายที่เจ้าเขียนไปฟ้อง หลินเนี่ยนฉืออยู่ที่อู๋โจวอยู่ดี ๆ จะเข้ามาที่เมืองหลวงทำไม? แล้วยังต้องการถอนหมั้นกับข้าอีก?!”ถึงตอนนี้เวินจื่อเยวี่ยยังคงเชื่อว่าเวินซื่อไปพูดอะไรกับหลินเนี่ยนฉือ ถึงทำให้หลินเนี่ยนฉือทำเช่นนั้น“ท่านคิดว่าข้อมูลในใต้หล้านี้มีสิ่งใดที่สามารถปิดบังได้อย่างนั้นหรือ? จวนเจิ้นกั๋วกงของพวกท่านได้ทำเรื่องที่น่าอับอายขายขี้หน้า ไร้ยางอายมาไม่น้อย แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงตั้งน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 549

    อูฐผอมซูบยังตัวใหญ่กว่าม้าการจะทำลายจวนเจิ้นกั๋วกงอันใหญ่โตแห่งนี้โดยอาศัยแมลงเพียงไม่กี่ตัว มันเป็นไปไม่ได้เลยแน่นอน มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างสิ้นเชิงเพียงแต่ราคาที่ต้องจ่ายนั้นสูงเกินไปอย่างเช่นการหมั้นหมายระหว่างจวนเจิ้นกั๋วกงและสกุลหลินเมื่อจวนเจิ้นกั๋วกงถูกกล่าวหาว่าสมคบคิดกับชาวต่างเผ่า เวินเฉวียนเซิ่งจะต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อชำระล้างให้หลุดพ้นจากข้อกล่าวหานี้และวิธีการที่ดีที่สุดก็ต้องเป็นการดึงผู้คนให้เข้ามาพัวพันมากขึ้นสกุลหลินที่ยังมีการหมั้นหมายกับจวนเจิ้นกั๋วกงเป็นกลุ่มแรกที่รับศึกหนัก โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างหลินเนี่ยนฉือและเวินซื่อ และจะกลายเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เวินเฉวียนเซิ่งดึงสกุลหลินให้ลงมาพัวพันด้วยดังนั้นก่อนจะยุติการหมั้นหมายระหว่างหลินเนี่ยนฉือและเวินจื่อเยวี่ย เวินซื่อยังไม่สามารถทำอะไรบุ่มบ่ามได้ทว่า ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถแตะต้องจวนเจิ้นกั๋วกงได้ แต่การมีเวินเยวี่ยเพียงคนเดียวก็ไม่ใช่เรื่องที่เสียหาย“หมั้น...หมั้นหมาย?”ในขณะนี้ เสียงที่สับสนของเวินเยวี่ยก็ดังขึ้นจากทางด้านหลังของ เวินจื่อเยวี่ย“พี่สาม ท่านหมั้นกับใครตั้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 548

    “ท่าน…!”เวินเยวี่ยลมแทบจับเมื่อได้ยินที่เวินซื่อพูดนางข่มไฟโทสะเอาไว้ “ธิดาศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่คนของกองทัพธงดำเสียหน่อย ให้ท่านมาทำการค้นหา ไม่น่าจะเหมาะสมกระมัง?”เวินเยวี่ยฝืนยิ้ม “ท้ายที่สุดแล้วบุญคุณความแค้นระหว่างพี่หญิงห้ากับเยวี่ยเอ๋อร์นั้นเป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งกันทั่วทุกคน ถ้าเกิด…”ประโยคสุดท้ายนี้ไม่ได้พูดออกมาทั้งหมด แต่ก็สามารถเข้าใจทุกอย่างที่ควรเข้าใจถ้าเกิดเวินซื่อเข้าไปวางกลอุบายบางอย่างเพื่อใส่ร้ายนางแล้วจะทำเช่นไร?เวินซื่อหันหน้าไปเผชิญหน้ากับเวินเยวี่ย รอยยิ้มเล็ก ๆ เผยออกมาบนใบหน้าอันบริสุทธิ์ผุดผ่องและงดงามของนาง “ข้าไม่ต่ำช้าไร้ยางอายเหมือนเจ้า”ใบหน้าของเวินเยวี่ยสลดลงเพราะดำด่าของนางทันทีแต่วินาทีต่อมาก็ได้ยินเวินซื่อพูดว่า “แต่ว่านี่มันก็เป็นปัญหาจริง ๆ ในเมื่อคุณหนูหกสกุลเวินเป็นกังวลเช่นนี้ เช่นนั้นข้าธิดาศักดิ์สิทธิ์ก็ขอยืนค้นหาอยู่ที่ประตูแล้วกัน”ยืนค้นหาอยู่ที่ประตูหรือ?แล้วจะค้นหาอย่างไร?ขณะที่เวินเยวี่ยและคนอื่น ๆ กำลังงุนงง เวินซื่อก็พลิกฝ่ามือ ก่อนจะหยิบขวดหยกขวดหนึ่งออกมาจากกลางฝ่ามือของนางฉางเสี่ยวหานก้าวเข้าไปรับขวดหยกจากมือของเว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 547

    “เหลวไหลสิ้นดี!”แววอันตรายฉายผ่านดวงตาอันคมกริบของเวินเฉวียนเซิ่งในทันใดเขาจ้องไปที่รถม้าที่เวินซื่อนั่งอยู่ สายตามองทะลุช่องว่างของม่านหน้าต่าง พลางชี้ตรงไปที่เวินซื่อ “เวินซื่อ เจ้ารู้ไหมว่าเจ้ากำลังทำอะไรอยู่? เจ้ากำลังใส่ร้ายขุนนางในราชสำนักซึ่งเป็นความผิดร้ายแรง!”“หากเจ้าไม่สามารถแสดงหลักฐานใด ๆ ได้ ต่อให้เจ้าจะเคยเป็นลูกสาวของข้า ข้าก็จะไม่ปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ เด็ดขาด!”“เจิ้นกั๋วกงไม่จำเป็นต้องใจร้อนขู่ขวัญเช่นนี้”ว่าแล้วเวินซื่อก็ยกมือขึ้นเปิดม่านรถแล้ว เดินออกมาจากด้านในอย่างช้า ๆเสี่ยวหานก้าวไปข้างหน้าอย่างมีไหวพริบ ทำตามสาวใช้เหล่านั้น เอื้อมมือออกไปช่วยประคองธิดาศักดิ์สิทธิ์ของนางลงจากรถม้าช้า ๆหลังจากลงสู่พื้นและยืนได้อย่างมั่นคงแล้ว เวินซื่อก็เงยหน้าขึ้นมองเวินเฉวียนเซิ่งผ่านกองทัพธงดำ นางยิ้มเล็กน้อย “ถ้าธิดาศักดิ์สิทธิ์ไม่มีหลักฐาน วันนี้จะกล้านำกองกำลังไปปิดล้อมจวนเจิ้นกั๋วกงของท่านได้อย่างไร”การทำงานตามคำสั่งส่วนตัวของอ๋องผู้สำเร็จราชการเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การทำงานตามพระราชโองการของฝ่าบาทก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งเวินซื่อยกมือขึ้น รับพระราชโองการจากมือของกองทัพ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 546

    ให้อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนมาหนุนหลังนางแล้วอย่างไรต่อ เขาไม่เชื่อว่า อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนผู้สง่างามจะบังคับเขาให้ถอนหมั้นได้อย่างนั้นหรือ!เมื่อเวินเฉวียนเซิ่งได้ยินเวินจื่อเยวี่ยพูด ก็มองเขาแวบหนึ่งอย่างเย็นชา “เจ้าควรคิดหาวิธีช่วยพี่ใหญ่ของเจ้าก่อนดีกว่า ถ้าครั้งนี้พี่ใหญ่ของเจ้าตาย ก็อย่าได้คิดเรื่องหมั้นหมายเลย ข้าเวินเฉวียนเซิ่ง ไม่มีลูกชายที่ใจไม้ไส้ระกำอย่างเจ้า”ใบหน้าของเวินจื่อเยวี่ยขรึมลงทันทีเขารู้ว่าลูกชายคนโปรดของบิดาไม่ใช่เขา แต่เป็นพี่ใหญ่ที่บิดาเลี้ยงดูอย่างสุดชีวิตจิตใจแต่เขานึกไม่ถึงว่ามาถึงขั้นนี้แล้ว บิดาจะยังโหดร้ายถึงเพียงนี้ เอาการหมั้นหมายของเขามาข่มขู่เขาเวินจื่อเยวี่ยไม่ได้พูดอะไรอีกแต่ในขณะนี้ พ่อบ้านนั้นพูดด้วยสีหน้าขมขื่น “ท่านกั๋วกง คุณชายสาม ครั้งนี้ผู้ที่นำกองทัพธงดำมาไม่ใช่ท่านอ๋องขอรับ”เมื่อได้ยินคำพูดนี้เวินเฉวียนเซิ่งก็หันกลับไปหาพ่อบ้าน “ไม่ใช่เป่ยเฉินหยวนหรอกหรือ? แล้วใครล่ะ?”นอกจากฮ่องเต้น้อยและเป่ยเฉินหยวนเองแล้ว ยังมีใครอีกที่สามารถระดมกองทัพธงดำ ถึงขั้นกล้าปิดล้อมจวนเจิ้นกั๋วกงของเขาได้?ขณะที่เวินเฉวียนเซิ่งกำลังครุ่นคิดในหัวว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 545

    “เสี่ยวหาน ให้ข้าดูหน้าเจ้าหน่อยสิ”หลังจากขับไล่เวินเฉวียนเซิ่งและเวินจื่อเยวี่ยออกไปแล้ว เวินซื่อก็ดึงฉางเสี่ยวหานเข้ามา“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ตบไม่โดนหน้า ข้าหลบได้นิดหน่อย แค่ตบโดนหัวเท่านั้น”ถึงกระนั้น การตบของเวินจื่อเยวี่ยก็หนักหน่วงมาก จนศีรษะของฉางเสี่ยวหานถึงกับสั่นคลอนในตอนนั้น ใช้เวลาสักพักกว่าจะตอบสนองได้“เจ้าไม่ต้องกังวล การตบครั้งนี้ข้าจะต้องเอาคืนเขาอย่างแรงแน่นอน”สีหน้าของเวินซื่อเคร่งขรึมลง น้ำเสียงไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งฉางเสี่ยวหานลุกขึ้นกล่าวว่า “ไม่ ๆ ๆ ไม่ต้องหรอกธิดาศักดิ์สิทธิ์ เมื่อครู่ท่านช่วยตบคืนแทนเสี่ยวหานแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำอะไรอีกเจ้าค่ะ”ฉางเสี่ยวหานรู้จักคนในเมืองหลวงน้อยมาก แต่หลังจากติดตามเวินซื่อมาเป็นเวลานาน ก็ได้เรียนรู้เรื่องต่าง ๆ มากขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดที่ธิดาศักดิ์สิทธิ์พูดกับสองพ่อลูกคู่นั้นเมื่อครู่ ก็ย่อมสามารถคาดเดาตัวตนของพวกเขาได้อย่างง่ายดายคนหนึ่งคืออดีตบิดาของธิดาศักดิ์สิทธิ์ อีกคนคืออดีตพี่ชายของธิดาศักดิ์สิทธิ์ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขานั้นย่ำแย่มากพออยู่แล้ว หากธิดาศักดิ์สิทธิ์ต้องทะเลาะกับพี่ชายหนักขึ้นด้วยเรื่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 544

    เขาขบริมฝีปากล่างแน่น กัดปากของตัวเองแตกเหมือนไม่รู้สึกตัว ปล่อยให้เลือดไหลลงจากมุมปากช้า ๆ“หลินเนี่ยนฉือล่ะ?”เวินจื่อเยวี่ยเอ่ยปากถามขึ้นทันใด“ข้าอยากพบนาง”“นางไม่อยากพบท่าน”เวินซื่อเอ่ยขึ้นอย่างราบเรียบ“ข้าบอกว่าข้าอยากพบนาง!”เวินจื่อเยวี่ยตวาดลั่นอย่างฉุนเฉียวขึ้นมาทันใด พลางปัดมือของจางเสี่ยวหานออกมือของจางเสี่ยวหานถูกตีเจ็บ ตกใจสะดุ้งโหยง เมื่อนางรู้ตัวก็เอื้อมมือออกไปอีกครั้ง คว้าเพียงหนังสือถอนหมั้นฉบับนั้นไว้ส่วนจี้หยกก็ร่วงลงสู่พื้นดัง “ตุ้บ” ตามมาด้วยเสียงแตกหักดังขึ้น จี้หยกแยกออกเป็นสองส่วนทันทีเวินจื่อเยวี่ยที่ยังอยู่ในอาการฉุนเฉียวเมื่อได้ยินเสียงนี้อย่างกะทันหัน ก็ก้มหน้าลงมอง เกิดความสับสนขึ้นโดยพลันเขารีบเก็บจี้หยกขึ้นมา เมื่อมองดูรอยแตกหักนั้น ก็ไม่อาจยับยั้งไฟโทสะที่อัดอั้นอยู่เต็มอกไว้ได้ เพียงชั่วครู่ก็ระเบิดอารมณ์ใส่ฉางเสี่ยวหาน...“ใครให้เจ้าทำของของข้าพัง! เจ้าอยากตายหรือไง?!”“อะไรนะ? ไม่ใช่ข้า เป็นท่านต่างหากที่ปัดมือของข้าเอง...”“สาวใช้ต่ำต้อยอย่างเจ้ายังกล้าเถียงอีก!”เวินจื่อเยวี่ยลุกพรวดขึ้น สีหน้ามีรอยพยายาท ยกมือขึ้นตบหน้าฉางเส

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 543

    เวินจื่อเยวี่ยมองเวินเฉวียนเซิ่งอย่างไม่อยากจะเชื่อ “ท่านพ่อ พูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?”เวินจื่อเยวี่ยเงียบไปครู่หนึ่ง “เจ้าน่าจะเข้าใจ เจ้าสาม”“ข้าไม่เข้าใจ!”เวินจื่อเยวี่ยตวาดออกมาทันใด พลางจ้องมองไปที่บิดาของเขาอย่างไม่ละสายตาเวินเฉวียนเซิ่งถอนหายใจอีกครั้ง “แค่การหมั้นหมายเท่านั้น พ่อรู้ว่าเจ้าไม่เต็มใจยอมรับ แต่พี่ใหญ่ของเจ้ามีเวลาเหลือไม่มากแล้ว ถ้ายังไม่เอายากลับไปอีก เขาจะต้องตายในไม่ช้า”“เจ้าสาม เจ้าจะทนเห็นพี่ใหญ่ของเจ้าตายไปได้จริงหรือ?”เวินจื่อเยวี่ยที่ได้ยินคำพูดประโยคนี้ของเขาได้ถามด้วยเสียงอันสั่นเครือเล็กน้อย “ก็เลยต้องเสียสละการหมั้นของข้าเพื่อช่วยพี่ใหญ่อย่างนั้นหรือ? ทั้ง ๆ ที่เรายังมีวิธีอื่นอีก แต่ท่านก็ยังยืนกรานที่จะขอร้องเวินซื่อ?!”“ยังมีวิธีอื่นอีกหรือ?”สีหน้าของเวินเฉวียนเซิ่งเย็นชาลง น้ำเสียงแย่มาก “ไม่ว่าจะเป็นบัวหิมะก็ดี เห็ดหลินจือสีม่วงอายุหนึ่งร้อยปีก็ดี หรือหญ้าฝรั่นที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนด้วยซ้ำก็ดี เจ้าคิดว่ามีสิ่งไหนหาง่ายบ้าง?!”“หากพี่ใหญ่ของเจ้ายังยืดเวลาได้อีกครึ่งค่อนเดือน พ่อก็จะไม่รีบร้อนเช่นนี้! แต่นี่พี่ใหญ่ของเจ้าอาจตายได้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 542

    นางมองเวินเฉวียนเซิ่งอย่างเย็นชา “ท่านไม่มีคุณสมบัตินี้ตั้งนานแล้ว”“เวินซื่อ! จงระวังท่าทีในการพูดจาของเจ้าด้วย แม้ว่าตอนนี้เจ้าจะเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์แล้ว แต่ความสัมพันธ์พ่อลูกของเจ้ากับพ่อจะไม่มีทางเปลี่ยนแปลง อย่าลืมว่ายังมีเลือดของสกุลเวินไหลเวียนอยู่ในตัวเจ้า”“ใครบอกว่าเปลี่ยนแปลงไม่ได้?”เวินซื่อยิ้มเยาะ “ความสัมพันธ์นี้จะเปลี่ยนไปในไม่ช้า แต่ตอนนี้ขอวกกลับเข้าประเด็นก่อน ท่านเจิ้นจั๋วกง ท่านยังไม่ได้บอกตัวเลือกของท่านเลย ท่านวางแผนที่จะเลือกใครกันแน่?”ล้มเหลวในการเล่นกับอารมณ์ ล้มเหลวในการข่มขู่กลับมาสู่เงื่อนไขข้อแรกสุดอีกครั้ง สายตาของเวินเฉวียนเซิ่งเย็นชาลงระดับหนึ่งในทันใดเวินซื่อดูเหมือนจะมองไม่เห็นเลย เร่งรัดเขาด้วยอารมณ์ที่ดีมาก“ข้ามีเวลาไม่มากนัก ท่านเจิ้นจั๋วกงรีบตัดสินใจโดยเร็วที่สุดเถอะ มิฉะนั้นก็จะไม่มีการเจรจาใด ๆ อีกแล้ว”นางหันไปมองเวินเฉวียนเซิ่งด้วยรอยยิ้มตาหยี “‘พี่ใหญ่แสนดี’ ของข้าก็น่าจะมีเวลาไม่เพียงพอใช่ไหม?”“ถุย!”เวินจื่อเยวี่ยถ่มน้ำลายใส่นางอย่างรุนแรง “พี่ใหญ่ไม่มีน้องสาวที่ชั่วร้ายอย่างเจ้า!”“ถูกต้อง ข้าชั่วร้าย แต่ก็เทียบไม่ได้กับเว

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status