Share

บทที่ 410

Author: จิ้งซิง
คำพูดสองประโยคของเวินฉางอวิ้นทำให้เวินเยวี่ยอยากจะฆ่าเขาขึ้นมาทันที

เล็บมือทั้งสองข้างจิกเข้าไปในเนื้อฝ่ามือ จนเนื้อเกือบขาด จนเลือดเกือบซิบออกมา

เวินเยวี่ยพยายามรักษาสีหน้าตัวเองสุดฤทธิ์ จากนั้นก่อนจะสูญเสียการควบคุมก็เปลี่ยนความโกรธเป็นความเศร้าทันที

“พี่ใหญ่...”

ระหว่างที่พูดเวินเยวี่ยทำเสียงสะอื้น “ข้า...ข้ารู้แล้ว ความจริงข้ารู้มาตลอดว่าพี่หญิงห้าดีมาก นางไม่ได้อำมหิตเหมือนที่ท่านพี่หลายคนบอก ดังนั้นเมื่อก่อนข้าเคยเตือนพี่รองกับพี่สามพวกเขาหลายครั้งแล้ว เพียงแต่ตอนหลังชาติกำเนิดของข้าเปิดเผย ข้าเองก็มีศักดิ์ศรีนะพี่ใหญ่ ข้ารู้สถานะของตัวเองมาตลอด ดังนั้นข้าไม่ได้ตั้งใจทำเรื่องเหล่านั้นจริงๆ นะ”

“พี่ใหญ่ ตกลงต้องทำอย่างไรท่านถึงจะยอมเชื่อเยวี่ยเอ๋อร์?”

“นับจากที่คนของเจ้าลงมือกับร่างของท่านแม่พวกเรา ระหว่างเจ้ากับข้าก็ไม่มีอะไรให้ต้องคุยกันอีกแล้ว บางทีเจ้าอาจจะบอกว่าคนพวกนั้นทำโดยพลการ แต่ในสายตาข้าไม่มีสิ่งใดแตกต่าง”

เวินฉางอวิ้นมองนางด้วยสีหน้าเรียบเฉย “น้องหก ข้าไม่เคยเสียใจที่เคยรักและเอ็นดูน้องสาวอย่างเจ้า แต่ข้าเสียใจ ที่เคยทำร้ายน้องสาวแท้ๆ ของตัวเองเพื่อเจ้า”

“ดังน
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (2)
goodnovel comment avatar
Sam Sung
โดนเทอีกแล้ว
goodnovel comment avatar
Sophaphan Kanmitree
นิยายไม่จบเรื่อง แต่บอกว่าจบ 100% แล้ว รู้สึกเหมือนถูกหลอกให้อ่าน คนอ่านหนังสืออยู่แล้วคงไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้ และเสียความรู้สึกกับแอปที่ปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น เพราะการจะอ่านจบครบ 100% คือจะต้องเติมเงินถึงจะอ่านได้
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 411

    เวินเฉวียนเซิ่งได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย “เกิดอะไรขึ้น?”ข้ารับใช้กล่าวว่า “หนึ่งเดือนก่อนคุณชายใหญ่ก็ได้ให้คนในเรือนเล็กของเขาออกไปหมดแล้ว เหลือไว้เพียงบ่าวชายคนสนิทคนเดียวขอรับ”บ่าวชายคนนั้นเติบโตมาพร้อมกับคุณชายใหญ่ตั้งแต่เด็ก ความจงรักภักดีต่อคุณชายใหญ่นั้นไม่ต้องพูดถึงเวินเฉวียนเซิ่งได้ยินดังนั้น ก็เงียบไปอีกครั้ง ช่วงนี้เขายุ่งมากจริงๆ ไม่มีเวลาไปสนใจทางฝั่งลูกชายคนโต ดังนั้น จึงเพิ่งทราบเรื่องเหล่านี้ในตอนนี้“ช่างเถอะ ในเมื่อคุณชายใหญ่ไม่ชอบให้มีคนอื่นอยู่ข้างกาย เช่นนั้นก็ไม่ต้องไปแล้ว ปกติเวลาคุณชายใหญ่เข้าออกให้คอยสังเกตให้มากหน่อย หากมีอะไรผิดปกติ ให้รีบมารายงานข้าทันที”“ขอรับ!”ทางฝั่งจวนเจิ้นกั๋วกง สถานการณ์ภายในกำลังปั่นป่วน อีกด้านหนึ่ง ภายในอารามสุ่ยเยว่ก็ไม่สงบเช่นกันคืนนี้ ฟ้าเพิ่งจะมืดเวินซื่อที่เพิ่งจะเสร็จงานที่แปลงสมุนไพรหลังเขา พอกลับมาถึงเรือนเล็ก ก็ได้พบกับอาหารอร่อยๆ เต็มโต๊ะที่ฉางเสี่ยวหานเป็นคนทำเอาไว้“ธิดาศักดิ์สิทธิ์กลับมาแล้ว อาหารทำเสร็จพอดี รีบมากินเถอะเจ้าค่ะ”ฉางเสี่ยวหานวางอาหารจานสุดท้ายที่เพิ่งตักเสร็จลง แล้วกล่าวกับเวินซื่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 412

    เวินซื่อให้จินซือถูพาคนเข้ามาในห้องครัวเล็กหลังจากเข้าไปแล้ว ภายใต้แสงเทียนที่ส่องสว่าง เวินซื่อจึงมองเห็นรูปร่างหน้าตาของคนที่อยู่บนตัวจินซือถูได้อย่างชัดเจนนั่นคือชายรูปร่างสูงใหญ่ที่มีหนวดเคราเต็มใบหน้า ขณะนี้กำลังสั่นเทาไปทั้งตัว สีหน้าซีดเผือด ริมฝีปากที่กัดแน่นจนแทบจะมีเลือดไหลออกมา“พิษในร่างกายของเขากำเริบแล้ว!”ในห้องครัวเล็กมีพื้นที่ไม่มาก นอกจากเตาแล้วก็ไม่มีโต๊ะอื่นใด ดังนั้นจินซือถูจึงวางคนลงบนพื้นโดยตรงหลังจากที่เวินซื่อฟังจินซือถูพูดไปรอบหนึ่งแล้ว ก็เข้าใจสถานการณ์ทันทีสั่นเทาไปทั้งตัวเพราะความเจ็บปวด สีหน้าซีดเผือดเพราะพิษหลังจากล้างมือแล้ว นางก็ตรวจดูตา จมูก ปาก และหูของชายรูปร่างสูงใหญ่คนนั้นอย่างละเอียด จากนั้นก็วางนิ้วแตะลงบนชีพจรของอีกฝ่าย“ลมปราณและโลหิตในร่างกายของเขาเกิดความปั่นป่วนและเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่แปลกใจเลยที่จะเจ็บปวดจนทนแทบไม่ไหว หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เกรงว่าจะทนได้ไม่เกินคืนนี้”“ธิดาศักดิ์สิทธิ์พอจะมีวิธีหรือไม่?!”จินซือถูแสดงสีหน้ากังวลและร้อนรน “ท่านไม่ได้ต้องการสืบเรื่องไป๋ชูโหรวผู้นั้นหรอกหรือ? เก๋อเอ่อร์เขารู้เรื่องราวบางอย่างใ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 413

    “พวกเจ้า?”เวินซื่อมองเก๋อเอ่อร์ด้วยสายตาเย็นชาแวบหนึ่ง “ขออภัย ในตัวพวกเจ้าไม่มีอะไรที่ข้าอยากได้ และข้าก็ไม่อยากเลี้ยงสุนัข”แม้ว่านางจะพูดเช่นนี้ ทว่าเก๋อเอ่อร์ก็ยังคงจ้องมองนางอย่างไม่ค่อยเชื่อสักเท่าไร“เอาละเก๋อเอ่อร์ เจ้าเก็บตัวอยู่อย่างสันโดษในช่วงก่อนหน้านี้ อาจจะไม่ค่อยรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ให้ข้าแนะนำให้เจ้าเถิด”จินซือถูรีบเอ่ยขึ้น “ท่านนี้คือธิดาศักดิ์สิทธิ์คนแรกของราชวงศ์ต้าหมิงที่ฮ่องเต้ทรงแต่งตั้งเมื่อสามเดือนก่อน และยังเป็นบุตรภรรยาเอกของจวนเจิ้นกั๋วกงในอดีต”จินซือถูเน้นเสียงที่คำว่า “บุตรภรรยาเอก”เมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนี้ เก๋อเอ่อร์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ตั้งสติได้“ท่านเป็นบุตรภรรยาเอกของจวนเจิ้นกั๋วกง? เป็นบุตรสาวของหลานจื่อจวินผู้นั้น?”เวินซื่อพยักหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย “เป็นลูกสาวของหลานจื่อจวิน แต่ตอนนี้ไม่ใช่บุตรภรรยาเอกของจวนเจิ้นกั๋วกงแล้ว”แต่อาจเป็นเพราะเหตุนี้ เก๋อเอ่อร์ที่ตึงเครียดและระมัดระวังตัวมาตลอด จึงได้ผ่อนคลายลง“เป็นเช่นนี้นี่เอง คิดไม่ถึงเลยว่าคนที่เจ้าเด็กจินซือถูนี่บอกว่าสามารถแก้พิษในร่างกายของพวกเราได้ก็คือท่าน”เ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 414

    ชาติกำเนิดเช่นนี้ หากอยู่ในตระกูลที่เคร่งครัดในกฎระเบียบ นางคงถูกตีตายไปพร้อมกับแม่ตั้งแต่ยังอยู่ในท้องแล้วแต่ความสัมพันธ์ระหว่างไป๋ชูโหรวและเจิ้นกั๋วกงเวินเฉวียนเซิ่งกลับไม่ธรรมดาทั้งสองคนรู้จักกันมาตั้งแต่ยังเยาว์วัย ต่างมีใจให้กัน ทว่าเวินเฉวียนเซิ่งในตอนนั้นยังเป็นซื่อจื่อของจวนเจิ้นกั๋วกง เพราะความทะเยอทะยาน เพราะอำนาจ จึงเลือกที่จะทอดทิ้งไป๋ชูโหรว แล้วหันไปแต่งงานกับหลานจื่อจวินซึ่งเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวของสกุลหลาน ด้วยความช่วยเหลืออย่างเต็มที่จากสกุลหลาน ในที่สุดก็ทำให้ความทะเยอทะยานของเขาเป็นจริงได้ ทำให้เขาและจวนเจิ้นกั๋วกงกลายเป็นผู้มีอำนาจล้นฟ้าในราชสำนักในช่วงหนึ่งแต่ในเวลานี้ ไป๋ชูโหรวที่ถูกเขาทอดทิ้ง เพราะไม่ยอมจึงกลับมาหาเขาอีกครั้ง และวางแผนให้ได้อยู่ร่วมกันหนึ่งคืนหลังจากนั้น ไป๋ชูโหรวก็หายตัวไปอีกครั้งเมื่อมีข่าวคราวของนางอีกครั้ง ก็คือตอนที่นางตั้งครรภ์และใกล้จะคลอดแล้วไป๋ชูโหรว เนื่องจากสัมผัสกับยาพิษมาเป็นเวลานาน ร่างกายจึงไม่ค่อยแข็งแรงนัก หากยืนกรานที่จะคลอดบุตรคนนี้ นางก็อาจจะตายได้แต่นางก็จะคลอดนางรักเวินเฉวียนเซิ่ง แต่ก็เกลียดเวินเฉวียนเซิ่งเช

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 415

    นางคิดเช่นนั้น ในวินาทีต่อมา คำพูดของเก๋อเอ่อร์ก็ยืนยันสิ่งที่นางคาดเดาไว้ในใจ...“ดอกไม้นั่น ตั้งแต่เมล็ดงอกจนเติบโตถึงออกดอก ตลอดทั้งกระบวนการจะปล่อยสารพิษที่ไม่มีสีไม่มีกลิ่นออกมา และสารพิษนี้จะค่อยๆ แทรกซึมเข้าไปในร่างกายของมนุษย์ เมื่อเวลาผ่านไป ร่างกายของมนุษย์ก็จะค่อยๆ อ่อนแอลง แย่ลงเรื่อยๆ คนทั่วไปจะตายด้วยพิษของดอกไม้นี้ภายในเวลาประมาณสองเดือน และตั้งแต่ได้รับพิษจนถึงตายก็จะไม่รู้สึกตัวใดๆ คิดเพียงว่าตัวเองป่วย แม้กระทั่งตอนตายก็ยังคิดว่าป่วยตาย”“ท่านแม่ของท่านน่าจะได้รับพิษชนิดนี้มานานแล้ว ดังนั้น ตอนที่คลอดท่านจึงคลอดยาก บางทีไป๋ชูโหรวอาจจะตั้งใจให้ตายทั้งแม่ทั้งลูก เพื่อจะได้ตายตามนางไป แต่คาดไม่ถึงว่านางจะรอดพ้นจากช่วงเวลานั้นมาได้”เวินซื่อกำมือแน่น สีหน้าไม่แสดงอารมณ์ใดๆ แต่ฝ่ามือทั้งสองข้างกลับจิกจนเลือดออกเก๋อเอ่อร์ยังคงพูดต่อ “อาจจะเป็นเจิ้นกั๋วกง หรืออาจจะเป็นสกุลหลาน สรุปแล้วน่าจะมีคนพยายามช่วยยื้อชีวิตท่านแม่ของท่านไว้ จึงมีชีวิตอยู่ต่อได้อีกระยะหนึ่ง”แต่ก็เป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้นสุดท้ายท่านแม่ของนางก็ยังถูกผู้หญิงที่ชั่วร้ายอย่างไป๋ชูโหรวคนนั้นทำร

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 416

    โอกาสดีเช่นนี้ เวินเยวี่ยจะปล่อยไปได้อย่างไร?นางรีบพุ่งเข้าไปขวางเวินจื่อเฉินที่ไม่คิดจะสนใจนาง“พี่รองช้าก่อน เยวี่ยเอ๋อร์มีเรื่องอยากจะพูดกับท่าน”“หลีกไป”เวินจื่อเฉินที่ถูกขวางไว้ขมวดคิ้วพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาเวินเยวี่ยส่ายหน้า กัดริมฝีปากเล็กน้อยแล้วมองไปที่เวินจื่อเฉิน “พี่รอง เยวี่ยเอ๋อร์รอท่านกลับมาครั้งนี้อย่างยากลำบาก ท่านฟังเยวี่ยเอ๋อร์พูดสักครู่ได้หรือไม่? แค่ไม่กี่ประโยค เยวี่ยเอ๋อร์พูดจบก็จะไป ไม่ขัดขวางท่านแน่นอน”“ตอนนี้เจ้ากำลังขัดขวางข้าอยู่”ตอนนี้เวินจื่อเฉินมองทะลุถึงธาตุแท้ของเวินเยวี่ยได้อย่างหมดเปลือกแล้ว ย่อมไม่มีท่าทีเอ็นดูต่อนางเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไปเวินเยวี่ยด่าทอในใจ แต่สีหน้ากลับยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ยังคงแสดงสีหน้าเสียใจและเจ็บปวด “แต่พี่รอง ตอนนี้เยวี่ยเอ๋อร์แค่อยากจะขอโทษท่านเท่านั้น”“ข้ารู้ว่าเหตุใดพี่รองถึงมีท่าทีเช่นนี้ต่อเยวี่ยเอ๋อร์ เป็นเพราะเยวี่ยเอ๋อร์ทำผิดไป แต่ตอนนี้เยวี่ยเอ๋อร์รู้ตัวแล้วว่าผิด และได้สำนึกผิดอยู่ในบ้านแล้ว ดังนั้น พี่รองจะให้อภัยเยวี่ยเอ๋อร์สักครั้งได้หรือไม่ เยวี่ยเอ๋อร์สาบานว่าต่อไปจะไม่ทำเช่นนั้นอีก...”“เจ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 417

    กระถางดอกไม้พร้อมกับดินและต้นกล้าทั้งหมดกระจัดกระจายอยู่ข้างเท้าของเวินเยวี่ยเมื่อต้นกล้านั้นเกือบจะโดนเวินเยวี่ย นางก็รีบถอยหลังไปสองก้าวตามสัญชาตญาณ หลบเลี่ยงต้นกล้านั้นและเมื่อได้ยินคำพูดของเวินจื่อเฉิน เวินเยวี่ยก็ไม่อาจเก็บซ่อนสีหน้าได้อีกต่อไป สีหน้าเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงอย่างยิ่งทันที“...ในเมื่อพี่รองไม่อยากให้อภัยเยวี่ยเอ๋อร์ เช่นนั้นก็ช่างเถิด เยวี่ยเอ๋อร์...จะไปเดี๋ยวนี้”“เซียงเหอ!”เวินเยวี่ยขึ้นเสียงสูงทันที พยายามข่มความโกรธไว้อย่างสุดกำลัง กำชับว่า “มัวยืนงงอะไรอยู่ รีบเก็บต้นกล้าของข้าขึ้นมาเร็วเข้า!”เซียงเหอรีบเข้าไปข้างหน้า หยิบต้นกล้าขึ้นมาอย่างระมัดระวัง “คุณหนู แล้วกระถางกับดินล่ะเจ้าคะ?”“ของไร้ประโยชน์พวกนั้นจะเอามาทำอะไรอีก? รีบไปกันเถอะ”เวินเยวี่ยถลึงตาใส่เซียงเหอ ไม่มองเวินจื่อเฉินแม้แต่น้อย หันหลังเดินจากไปแม้ว่าเวินจื่อเฉินจะเคยเห็นธาตุแท้ของเวินเยวี่ยมาก่อนแล้วแต่นี่เป็นครั้งแรกที่เวินเยวี่ยเผยธาตุแท้ออกมาต่อหน้าเขาโดยไม่ปิดบังหรือจะพูดว่า ไม่สามารถปิดบังได้อีกต่อไป และไม่สามารถควบคุมได้อีกต่อไปแล้วเวินจื่อเฉินมองนางเดินจากไปอย่างรวดเร็วด้ว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 418

    แต่กว่าจะได้พบกันช่างยากเย็น เหตุใดถึงต้องรีบจากไปเช่นนี้?หรือว่าลุงหลานไม่อยากเจอเขา?เวินจื่อเฉินรู้สึกถึงความผิดปกติอย่างบอกไม่ถูก เขาจ้องพ่อบ้านหลานอย่างไม่วางตา กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างหนักแน่น “ลุงหลาน ท่านลงจากรถก่อน พวกเราไม่ได้เจอกันมาหลายปีแล้ว ไปหาที่นั่งคุยกันดีๆ ก่อนเถอะ”พ่อบ้านหลานสบตาเขา ในที่สุดก็ถอนหายใจ “ก็ได้”หลังจากนั้นไม่นาน พ่อบ้านหลานก็มานั่งอยู่กับเวินจื่อเฉินในห้องส่วนตัวของร้านอาหารที่อยู่ใกล้ๆจะว่านั่งด้วยกันก็ไม่เชิงหลังจากเข้าไปในห้องส่วนตัว เวินจื่อเฉินก็สั่งอาหารสองสามอย่าง แล้วหันไปมองพ่อบ้านหลานที่ยืนอยู่ไม่ไกล“ลุงหลาน ตอนนี้ข้าไม่ได้เป็นคุณชายรองของสกุลเวินแล้ว ดังนั้น ท่านไม่ต้องยืนแบบนี้ก็ได้ มานั่งด้วยกันเถอะ”“ไม่ขอรับ บ่าวรู้สึกผิดต่อคุณชายพวกท่านมาโดยตลอด เดิมทีก็ไม่มีหน้าจะพบเจออยู่แล้ว ตอนนี้ได้พบแล้ว กลับยิ่งรู้สึกละอายใจที่จะเผชิญหน้ากับคุณชาย ดังนั้นให้บ่าวยืนตอบเถิด”เวินจื่อเฉินอ้าปากค้าง ไม่เข้าใจคำพูดของพ่อบ้านหลาน “ลุงหลาน เหตุใดจึงพูดเช่นนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นกับท่านตาและคนอื่นๆ ในตอนนั้น ล้วนเป็นฝีมือของพวกกบฏ ไม่ได้

Latest chapter

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 550

    ถึงขั้นเอาอีกฝ่ายมาข่มขู่เวินจื่อเยวี่ย ทำให้เวินจื่อเยวี่ยต้องเลือกระหว่างนางและหลินเนี่ยนฉือแล้วนางสารเลวที่ยังไม่เดินผ่านประตูเข้ามาจะเอาอะไรมาเทียบกับนาง!เวินเยวี่ยโกรธจัดจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ในเสี้ยววินาทีที่ก้มศีรษะลง สายตาอาบยาพิษช่างน่าสะพรึงกลัว“ยุแยงตะแคงรั่ว?”เวินซื่อแค่รู้สึกว่าคำพูดของเวินจื่อเยวี่ยน่าขบขันมาก “มีเพียงคนที่มีหัวใจเท่านั้นถึงจะรู้สึกว่าใคร ๆ ก็เป็นเช่นนี้”นางเหลือบมองเวินเยวี่ยแวบหนึ่งอย่างเฉยชา ก่อนจะเอ่ยอย่างไม่แยแส “ท่านคิดว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้จะใช้พวกท่านไปก่อกวนความสงบของนางหรือ? ฝันไปเถอะ พวกท่านยังไม่คู่ควร”“เหอะ พูดเสียน่าฟัง ถ้าไม่ใช่เพราะจดหมายที่เจ้าเขียนไปฟ้อง หลินเนี่ยนฉืออยู่ที่อู๋โจวอยู่ดี ๆ จะเข้ามาที่เมืองหลวงทำไม? แล้วยังต้องการถอนหมั้นกับข้าอีก?!”ถึงตอนนี้เวินจื่อเยวี่ยยังคงเชื่อว่าเวินซื่อไปพูดอะไรกับหลินเนี่ยนฉือ ถึงทำให้หลินเนี่ยนฉือทำเช่นนั้น“ท่านคิดว่าข้อมูลในใต้หล้านี้มีสิ่งใดที่สามารถปิดบังได้อย่างนั้นหรือ? จวนเจิ้นกั๋วกงของพวกท่านได้ทำเรื่องที่น่าอับอายขายขี้หน้า ไร้ยางอายมาไม่น้อย แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงตั้งน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 549

    อูฐผอมซูบยังตัวใหญ่กว่าม้าการจะทำลายจวนเจิ้นกั๋วกงอันใหญ่โตแห่งนี้โดยอาศัยแมลงเพียงไม่กี่ตัว มันเป็นไปไม่ได้เลยแน่นอน มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างสิ้นเชิงเพียงแต่ราคาที่ต้องจ่ายนั้นสูงเกินไปอย่างเช่นการหมั้นหมายระหว่างจวนเจิ้นกั๋วกงและสกุลหลินเมื่อจวนเจิ้นกั๋วกงถูกกล่าวหาว่าสมคบคิดกับชาวต่างเผ่า เวินเฉวียนเซิ่งจะต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อชำระล้างให้หลุดพ้นจากข้อกล่าวหานี้และวิธีการที่ดีที่สุดก็ต้องเป็นการดึงผู้คนให้เข้ามาพัวพันมากขึ้นสกุลหลินที่ยังมีการหมั้นหมายกับจวนเจิ้นกั๋วกงเป็นกลุ่มแรกที่รับศึกหนัก โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างหลินเนี่ยนฉือและเวินซื่อ และจะกลายเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เวินเฉวียนเซิ่งดึงสกุลหลินให้ลงมาพัวพันด้วยดังนั้นก่อนจะยุติการหมั้นหมายระหว่างหลินเนี่ยนฉือและเวินจื่อเยวี่ย เวินซื่อยังไม่สามารถทำอะไรบุ่มบ่ามได้ทว่า ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถแตะต้องจวนเจิ้นกั๋วกงได้ แต่การมีเวินเยวี่ยเพียงคนเดียวก็ไม่ใช่เรื่องที่เสียหาย“หมั้น...หมั้นหมาย?”ในขณะนี้ เสียงที่สับสนของเวินเยวี่ยก็ดังขึ้นจากทางด้านหลังของ เวินจื่อเยวี่ย“พี่สาม ท่านหมั้นกับใครตั้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 548

    “ท่าน…!”เวินเยวี่ยลมแทบจับเมื่อได้ยินที่เวินซื่อพูดนางข่มไฟโทสะเอาไว้ “ธิดาศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่คนของกองทัพธงดำเสียหน่อย ให้ท่านมาทำการค้นหา ไม่น่าจะเหมาะสมกระมัง?”เวินเยวี่ยฝืนยิ้ม “ท้ายที่สุดแล้วบุญคุณความแค้นระหว่างพี่หญิงห้ากับเยวี่ยเอ๋อร์นั้นเป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งกันทั่วทุกคน ถ้าเกิด…”ประโยคสุดท้ายนี้ไม่ได้พูดออกมาทั้งหมด แต่ก็สามารถเข้าใจทุกอย่างที่ควรเข้าใจถ้าเกิดเวินซื่อเข้าไปวางกลอุบายบางอย่างเพื่อใส่ร้ายนางแล้วจะทำเช่นไร?เวินซื่อหันหน้าไปเผชิญหน้ากับเวินเยวี่ย รอยยิ้มเล็ก ๆ เผยออกมาบนใบหน้าอันบริสุทธิ์ผุดผ่องและงดงามของนาง “ข้าไม่ต่ำช้าไร้ยางอายเหมือนเจ้า”ใบหน้าของเวินเยวี่ยสลดลงเพราะดำด่าของนางทันทีแต่วินาทีต่อมาก็ได้ยินเวินซื่อพูดว่า “แต่ว่านี่มันก็เป็นปัญหาจริง ๆ ในเมื่อคุณหนูหกสกุลเวินเป็นกังวลเช่นนี้ เช่นนั้นข้าธิดาศักดิ์สิทธิ์ก็ขอยืนค้นหาอยู่ที่ประตูแล้วกัน”ยืนค้นหาอยู่ที่ประตูหรือ?แล้วจะค้นหาอย่างไร?ขณะที่เวินเยวี่ยและคนอื่น ๆ กำลังงุนงง เวินซื่อก็พลิกฝ่ามือ ก่อนจะหยิบขวดหยกขวดหนึ่งออกมาจากกลางฝ่ามือของนางฉางเสี่ยวหานก้าวเข้าไปรับขวดหยกจากมือของเว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 547

    “เหลวไหลสิ้นดี!”แววอันตรายฉายผ่านดวงตาอันคมกริบของเวินเฉวียนเซิ่งในทันใดเขาจ้องไปที่รถม้าที่เวินซื่อนั่งอยู่ สายตามองทะลุช่องว่างของม่านหน้าต่าง พลางชี้ตรงไปที่เวินซื่อ “เวินซื่อ เจ้ารู้ไหมว่าเจ้ากำลังทำอะไรอยู่? เจ้ากำลังใส่ร้ายขุนนางในราชสำนักซึ่งเป็นความผิดร้ายแรง!”“หากเจ้าไม่สามารถแสดงหลักฐานใด ๆ ได้ ต่อให้เจ้าจะเคยเป็นลูกสาวของข้า ข้าก็จะไม่ปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ เด็ดขาด!”“เจิ้นกั๋วกงไม่จำเป็นต้องใจร้อนขู่ขวัญเช่นนี้”ว่าแล้วเวินซื่อก็ยกมือขึ้นเปิดม่านรถแล้ว เดินออกมาจากด้านในอย่างช้า ๆเสี่ยวหานก้าวไปข้างหน้าอย่างมีไหวพริบ ทำตามสาวใช้เหล่านั้น เอื้อมมือออกไปช่วยประคองธิดาศักดิ์สิทธิ์ของนางลงจากรถม้าช้า ๆหลังจากลงสู่พื้นและยืนได้อย่างมั่นคงแล้ว เวินซื่อก็เงยหน้าขึ้นมองเวินเฉวียนเซิ่งผ่านกองทัพธงดำ นางยิ้มเล็กน้อย “ถ้าธิดาศักดิ์สิทธิ์ไม่มีหลักฐาน วันนี้จะกล้านำกองกำลังไปปิดล้อมจวนเจิ้นกั๋วกงของท่านได้อย่างไร”การทำงานตามคำสั่งส่วนตัวของอ๋องผู้สำเร็จราชการเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การทำงานตามพระราชโองการของฝ่าบาทก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งเวินซื่อยกมือขึ้น รับพระราชโองการจากมือของกองทัพ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 546

    ให้อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนมาหนุนหลังนางแล้วอย่างไรต่อ เขาไม่เชื่อว่า อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนผู้สง่างามจะบังคับเขาให้ถอนหมั้นได้อย่างนั้นหรือ!เมื่อเวินเฉวียนเซิ่งได้ยินเวินจื่อเยวี่ยพูด ก็มองเขาแวบหนึ่งอย่างเย็นชา “เจ้าควรคิดหาวิธีช่วยพี่ใหญ่ของเจ้าก่อนดีกว่า ถ้าครั้งนี้พี่ใหญ่ของเจ้าตาย ก็อย่าได้คิดเรื่องหมั้นหมายเลย ข้าเวินเฉวียนเซิ่ง ไม่มีลูกชายที่ใจไม้ไส้ระกำอย่างเจ้า”ใบหน้าของเวินจื่อเยวี่ยขรึมลงทันทีเขารู้ว่าลูกชายคนโปรดของบิดาไม่ใช่เขา แต่เป็นพี่ใหญ่ที่บิดาเลี้ยงดูอย่างสุดชีวิตจิตใจแต่เขานึกไม่ถึงว่ามาถึงขั้นนี้แล้ว บิดาจะยังโหดร้ายถึงเพียงนี้ เอาการหมั้นหมายของเขามาข่มขู่เขาเวินจื่อเยวี่ยไม่ได้พูดอะไรอีกแต่ในขณะนี้ พ่อบ้านนั้นพูดด้วยสีหน้าขมขื่น “ท่านกั๋วกง คุณชายสาม ครั้งนี้ผู้ที่นำกองทัพธงดำมาไม่ใช่ท่านอ๋องขอรับ”เมื่อได้ยินคำพูดนี้เวินเฉวียนเซิ่งก็หันกลับไปหาพ่อบ้าน “ไม่ใช่เป่ยเฉินหยวนหรอกหรือ? แล้วใครล่ะ?”นอกจากฮ่องเต้น้อยและเป่ยเฉินหยวนเองแล้ว ยังมีใครอีกที่สามารถระดมกองทัพธงดำ ถึงขั้นกล้าปิดล้อมจวนเจิ้นกั๋วกงของเขาได้?ขณะที่เวินเฉวียนเซิ่งกำลังครุ่นคิดในหัวว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 545

    “เสี่ยวหาน ให้ข้าดูหน้าเจ้าหน่อยสิ”หลังจากขับไล่เวินเฉวียนเซิ่งและเวินจื่อเยวี่ยออกไปแล้ว เวินซื่อก็ดึงฉางเสี่ยวหานเข้ามา“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ตบไม่โดนหน้า ข้าหลบได้นิดหน่อย แค่ตบโดนหัวเท่านั้น”ถึงกระนั้น การตบของเวินจื่อเยวี่ยก็หนักหน่วงมาก จนศีรษะของฉางเสี่ยวหานถึงกับสั่นคลอนในตอนนั้น ใช้เวลาสักพักกว่าจะตอบสนองได้“เจ้าไม่ต้องกังวล การตบครั้งนี้ข้าจะต้องเอาคืนเขาอย่างแรงแน่นอน”สีหน้าของเวินซื่อเคร่งขรึมลง น้ำเสียงไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งฉางเสี่ยวหานลุกขึ้นกล่าวว่า “ไม่ ๆ ๆ ไม่ต้องหรอกธิดาศักดิ์สิทธิ์ เมื่อครู่ท่านช่วยตบคืนแทนเสี่ยวหานแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำอะไรอีกเจ้าค่ะ”ฉางเสี่ยวหานรู้จักคนในเมืองหลวงน้อยมาก แต่หลังจากติดตามเวินซื่อมาเป็นเวลานาน ก็ได้เรียนรู้เรื่องต่าง ๆ มากขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดที่ธิดาศักดิ์สิทธิ์พูดกับสองพ่อลูกคู่นั้นเมื่อครู่ ก็ย่อมสามารถคาดเดาตัวตนของพวกเขาได้อย่างง่ายดายคนหนึ่งคืออดีตบิดาของธิดาศักดิ์สิทธิ์ อีกคนคืออดีตพี่ชายของธิดาศักดิ์สิทธิ์ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขานั้นย่ำแย่มากพออยู่แล้ว หากธิดาศักดิ์สิทธิ์ต้องทะเลาะกับพี่ชายหนักขึ้นด้วยเรื่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 544

    เขาขบริมฝีปากล่างแน่น กัดปากของตัวเองแตกเหมือนไม่รู้สึกตัว ปล่อยให้เลือดไหลลงจากมุมปากช้า ๆ“หลินเนี่ยนฉือล่ะ?”เวินจื่อเยวี่ยเอ่ยปากถามขึ้นทันใด“ข้าอยากพบนาง”“นางไม่อยากพบท่าน”เวินซื่อเอ่ยขึ้นอย่างราบเรียบ“ข้าบอกว่าข้าอยากพบนาง!”เวินจื่อเยวี่ยตวาดลั่นอย่างฉุนเฉียวขึ้นมาทันใด พลางปัดมือของจางเสี่ยวหานออกมือของจางเสี่ยวหานถูกตีเจ็บ ตกใจสะดุ้งโหยง เมื่อนางรู้ตัวก็เอื้อมมือออกไปอีกครั้ง คว้าเพียงหนังสือถอนหมั้นฉบับนั้นไว้ส่วนจี้หยกก็ร่วงลงสู่พื้นดัง “ตุ้บ” ตามมาด้วยเสียงแตกหักดังขึ้น จี้หยกแยกออกเป็นสองส่วนทันทีเวินจื่อเยวี่ยที่ยังอยู่ในอาการฉุนเฉียวเมื่อได้ยินเสียงนี้อย่างกะทันหัน ก็ก้มหน้าลงมอง เกิดความสับสนขึ้นโดยพลันเขารีบเก็บจี้หยกขึ้นมา เมื่อมองดูรอยแตกหักนั้น ก็ไม่อาจยับยั้งไฟโทสะที่อัดอั้นอยู่เต็มอกไว้ได้ เพียงชั่วครู่ก็ระเบิดอารมณ์ใส่ฉางเสี่ยวหาน...“ใครให้เจ้าทำของของข้าพัง! เจ้าอยากตายหรือไง?!”“อะไรนะ? ไม่ใช่ข้า เป็นท่านต่างหากที่ปัดมือของข้าเอง...”“สาวใช้ต่ำต้อยอย่างเจ้ายังกล้าเถียงอีก!”เวินจื่อเยวี่ยลุกพรวดขึ้น สีหน้ามีรอยพยายาท ยกมือขึ้นตบหน้าฉางเส

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 543

    เวินจื่อเยวี่ยมองเวินเฉวียนเซิ่งอย่างไม่อยากจะเชื่อ “ท่านพ่อ พูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?”เวินจื่อเยวี่ยเงียบไปครู่หนึ่ง “เจ้าน่าจะเข้าใจ เจ้าสาม”“ข้าไม่เข้าใจ!”เวินจื่อเยวี่ยตวาดออกมาทันใด พลางจ้องมองไปที่บิดาของเขาอย่างไม่ละสายตาเวินเฉวียนเซิ่งถอนหายใจอีกครั้ง “แค่การหมั้นหมายเท่านั้น พ่อรู้ว่าเจ้าไม่เต็มใจยอมรับ แต่พี่ใหญ่ของเจ้ามีเวลาเหลือไม่มากแล้ว ถ้ายังไม่เอายากลับไปอีก เขาจะต้องตายในไม่ช้า”“เจ้าสาม เจ้าจะทนเห็นพี่ใหญ่ของเจ้าตายไปได้จริงหรือ?”เวินจื่อเยวี่ยที่ได้ยินคำพูดประโยคนี้ของเขาได้ถามด้วยเสียงอันสั่นเครือเล็กน้อย “ก็เลยต้องเสียสละการหมั้นของข้าเพื่อช่วยพี่ใหญ่อย่างนั้นหรือ? ทั้ง ๆ ที่เรายังมีวิธีอื่นอีก แต่ท่านก็ยังยืนกรานที่จะขอร้องเวินซื่อ?!”“ยังมีวิธีอื่นอีกหรือ?”สีหน้าของเวินเฉวียนเซิ่งเย็นชาลง น้ำเสียงแย่มาก “ไม่ว่าจะเป็นบัวหิมะก็ดี เห็ดหลินจือสีม่วงอายุหนึ่งร้อยปีก็ดี หรือหญ้าฝรั่นที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนด้วยซ้ำก็ดี เจ้าคิดว่ามีสิ่งไหนหาง่ายบ้าง?!”“หากพี่ใหญ่ของเจ้ายังยืดเวลาได้อีกครึ่งค่อนเดือน พ่อก็จะไม่รีบร้อนเช่นนี้! แต่นี่พี่ใหญ่ของเจ้าอาจตายได้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 542

    นางมองเวินเฉวียนเซิ่งอย่างเย็นชา “ท่านไม่มีคุณสมบัตินี้ตั้งนานแล้ว”“เวินซื่อ! จงระวังท่าทีในการพูดจาของเจ้าด้วย แม้ว่าตอนนี้เจ้าจะเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์แล้ว แต่ความสัมพันธ์พ่อลูกของเจ้ากับพ่อจะไม่มีทางเปลี่ยนแปลง อย่าลืมว่ายังมีเลือดของสกุลเวินไหลเวียนอยู่ในตัวเจ้า”“ใครบอกว่าเปลี่ยนแปลงไม่ได้?”เวินซื่อยิ้มเยาะ “ความสัมพันธ์นี้จะเปลี่ยนไปในไม่ช้า แต่ตอนนี้ขอวกกลับเข้าประเด็นก่อน ท่านเจิ้นจั๋วกง ท่านยังไม่ได้บอกตัวเลือกของท่านเลย ท่านวางแผนที่จะเลือกใครกันแน่?”ล้มเหลวในการเล่นกับอารมณ์ ล้มเหลวในการข่มขู่กลับมาสู่เงื่อนไขข้อแรกสุดอีกครั้ง สายตาของเวินเฉวียนเซิ่งเย็นชาลงระดับหนึ่งในทันใดเวินซื่อดูเหมือนจะมองไม่เห็นเลย เร่งรัดเขาด้วยอารมณ์ที่ดีมาก“ข้ามีเวลาไม่มากนัก ท่านเจิ้นจั๋วกงรีบตัดสินใจโดยเร็วที่สุดเถอะ มิฉะนั้นก็จะไม่มีการเจรจาใด ๆ อีกแล้ว”นางหันไปมองเวินเฉวียนเซิ่งด้วยรอยยิ้มตาหยี “‘พี่ใหญ่แสนดี’ ของข้าก็น่าจะมีเวลาไม่เพียงพอใช่ไหม?”“ถุย!”เวินจื่อเยวี่ยถ่มน้ำลายใส่นางอย่างรุนแรง “พี่ใหญ่ไม่มีน้องสาวที่ชั่วร้ายอย่างเจ้า!”“ถูกต้อง ข้าชั่วร้าย แต่ก็เทียบไม่ได้กับเว

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status