Share

บทที่ 370

Penulis: จิ้งซิง
ฉางเสี่ยวหานส่ายหัว “ไม่ใช่เจ้าค่ะ ท่านหนิงหย่วนโหวจัดการทุกอย่างให้ข้าเป็นอย่างดีแล้ว ชดเชยให้แล้ว แต่ทุกครั้งที่พวกเขามองมาที่ข้าเหมือนกำลังมองวิญญาณที่น่าสงสาร ท่านหนิงหย่วนโหวเองก็เหมือนกัน”

ฉางเสี่ยวหานรู้เรื่องพี่ชายของนางแล้ว

หลังจากประสบกับความกระทบกระเทือนมากมายอย่างต่อเนื่อง เวลานี้นางมีความอ่อนไหวมาก

ในสายตาของผู้คนเหล่านั้นที่มองมาที่นาง นางสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจนในทุกสายตา

มีทั้งสงสารนาง รังเกียจนาง และโกรธแค้นนาง นางรู้หมด

นางเกลียดสายตาเหล่านั้น

ดังนั้นนางจึงหนีออกมาจากหนิงหย่วนโหว

นางไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนได้อีก คนเดียวที่นางนึกถึงมีเพียงธิดาศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยนางไว้วันนั้น ตอนที่ได้รู้ชื่อของนาง สิ่งที่แสดงออกมาจากสายตาของนางไม่ใช่ความสงสาร ไม่ใช่รังเกียจ และยิ่งไม่ใช่ความโกรธแค้น

แต่เป็นความเจ็บปวด

ธิดาศักดิ์สิทธิ์รู้สึกเจ็บปวดกับนาง

ในเวลานั้นฉางเสี่ยวหานที่งุนงงทำอะไรไม่ถูก ทันทีที่นึกถึงเรื่องนี้นางก็ควบคุมตัวเองไม่ได้ ดังนั้นจึงไล่ตามอยู่ทั้งคืน หลังจากไล่ตามมาสองวันสองคืนก็ตามมาถึงจินโจวในที่สุด

นางกลัวว่าตัวเองจะถูกกั้นไว้ข้างนอก ดังนั้นจึงแอบวิ่งเข้า
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci
Komen (2)
goodnovel comment avatar
Sukon Sirithai
มีต่อไหมค่ะกำลังสนุกเลย
goodnovel comment avatar
WLFJ
ใช่ๆ อันหลันซินมีแผน อย่าหลงกลนะ
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terkait

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 371

    “เพี๊ยะ!”ภายในเรือนหลังประตูสีดำสนิท บ่าวหลายคนถือคบเพลิงไว้ในมือ แล้วล้อมอันหลันซินที่เพิ่งถูกจับตัวกลับมาหลังจากหนีไปอีกครั้งไว้ตรงกลาง ปล่อยให้คุณชายของพวกเขาทุบตีด่าทอ“เจ้ามันแพศยา แต่งเข้ามาเป็นอนุของข้าแล้ว ยังกล้าวางท่าเป็นหญิงสูงศักดิ์ของเจ้าอีกหรือ”“เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร ก็เป็นแค่ลูกของอนุชั้นต่ำเท่านั้น ยังกล้าลองดีกับคุณชายอย่างข้าอีก รู้หรือไม่ว่าพ่อบังเกิดเกล้าของเจ้าขายเจ้ามาในราคาเท่าใด?”คุณชายใหญ่ที่อ้วนถ้วนยื่นนิ้วมือกลมๆ ออกมาหนึ่งนิ้วกดลงหัวอันหลันซินอย่างแรง แล้วพูดจาราวกับเสียเปรียบใหญ่หลวง “หนึ่งหมื่นตำลึง! ลูกอนุภรรยาของราชเลขาฝ่ายขวาขายตั้งหนึ่งหมื่นตำลึงเชียวนะ! หากไม่ใช่เพราะชื่อเสียงของพ่อเจ้า เจ้านึกว่าหน้าตาอย่างเจ้ามีค่าหนึ่งหมื่นตำลึงหรือ? ถุย! ตัวชูโรงในหอนางโลมยังดีกว่าเจ้านักหนา!”อันหลันซินกัดฟันทนความเจ็บปวดหยัดกายยันร่างท่อนบนให้ลุกขึ้น เมื่อเห็นเจ้าหมอนี่ที่อ้วนพุงพลุ้ย แววตานางมีความเหี้ยมเกรียมแวบผ่านแต่ต่อมาสีหน้าของนางกลับเปลี่ยนเป็นน่าสงสาร ดวงตานางแดงก่ำแล้วกัดฟันพูด “คุณชายใหญ่ผาง ในเมื่อไม่ถูกใจข้า แล้วเหตุใดยังต้องบังคับขืนใจข

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 372

    ดูเหมือนจะไม่ตีต่อแล้วเวินซื่อถึงได้ละสายตากลับมา บอกจู๋เยวี่ยเสียงค่อย “ไปเถอะ ควรกลับได้แล้ว”นางเป็นผู้ออกบวช และเรียนวิชาแพทย์กับอาจารย์ม่อโฉวจึงถือว่าเป็นกึ่งหมอ ที่มาที่นี่ก็เพราะไม่อยากเห็นใครถูกตีจนตายเท่านั้นในเมื่อตอนนี้ยังไม่ตาย ถ้าอย่างนั้นก็ไม่เกี่ยวกับนางสักนิดเวินซื่อหันหลังเตรียมจากไป แต่คนทางนั้นมีความเคลื่อนไหวกะทันหัน“ชีวิตนะเก็บไว้ให้เจ้าก็ได้ แต่คนเนี่ยนะ...”คุณชายใหญ่ผางลูบใบหน้าอันหลันซิน หัวเราะแล้วกล่าวอย่างหื่นกามอำมหิต “ในเมื่อเจ้าไม่ยอมจำนนให้ข้า ถ้างั้นก็ยกเจ้าให้พวกบ่าวของข้าก็แล้วกัน เพราะอย่างไรคืนนี้เพื่อจับตัวเจ้ากลับมา พวกเขาเสียแรงไปไม่น้อย ดังนั้นเจ้าต้องปรนนิบัติพวกเขาให้ดี”“ฮ่าๆ ๆ ๆ ๆ”“ขอบคุณรางวัลของคุณชาย!”สีหน้าอันหลันซินซีดเผือดทันใด “เจ้ากล้าหรือ! ข้าเป็นบุตรสาวของราชเลขาฝ่ายขวา ต่อให้เป็นเพียงลูกอนุ แต่ก็ไม่ใช่คนที่พวกเจ้าจะย่ำยีอย่างไรก็ได้!”“ลูกอนุคนเดียวที่ขายให้ข้าแล้ว ข้าอยากทำอย่างไรก็ทำอย่างนั้น!”คุณชายใหญ่ผางทำหน้าไม่ยี่หระส่วนพวกบ่าวเหล่านั้นยิ้มพรายพร้อมก้าวมาข้างหน้า“ในเมื่ออนุอันไม่รู้จักกาลเทศะ ถ้างั้นพว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 373

    “เร็ว! รีบจับตัวพวกนางไว้!”“ต่อให้ต้องพลิกทั่วทั้งแผ่นดินจินโจว ก็ต้องจับตัวพวกมันกลับมาให้ข้า!”ในคืนนั้น ทั่วทั้งจินโจวพลุกพล่านไปด้วยผู้คนล้วนบอกว่าอนุภรรยาที่แต่งได้ไม่กี่วันของคุณชายใหญ่สกุลผาง ซึ่งเป็นคหบดีอันดับหนึ่งของจินโจวหนีไปแล้วดังนั้นครึ่งคืนหลัง จะพบเห็นองครักษ์ของสกุลผางตามหาคนไปทั่วต่อให้เวินซื่อกับอันหลันซินวิ่งหนีสุดชีวิต ก็ยังวิ่งไม่เร็วนักเมื่อเห็นด้านหลังมีคนวิ่งตามมากขึ้นเรื่อยๆ เวินซื่อจับมืออันหลันซินแล้วเลี้ยวเข้าไปหลบในตรอกเล็กเส้นหนึ่ง“เป็นอย่างไร? พบตัวหรือยัง?”“ข้างหน้าไม่มี ข้างหลังก็ไม่มี”“ค้นให้ทั่ว คุณชายบอกแล้ว ต้องจับตัวกลับไปให้ได้ หากกล้าขัดขืน ก็ตีให้ตายไปเลย!”“ขอรับ!”องครักษ์เหล่านั้นกระจายกันไปค้นหาทันทีเวินซื่อซ่อนตัวอยู่ที่มุม หันมองไปข้างนอก ยังไม่มีคนมาตามหาถึงที่นี่ชั่วคราวนางโล่งอกเล็กน้อยการเคลื่อนไหวของสกุลผางรวดเร็วเหลือเกิน หากไม่ได้จู๋เยวี่ยช่วยล่อคนส่วนใหญ่ไป เกรงว่านางกับอันหลันซินคงหนีไม่พ้นแต่ต่อให้ตอนนี้หนีออกมาได้แล้ว ก็ยังมีคนของสกุลผางไม่น้อยที่ออกค้นหาอันหลันซินตอนนี้ทำได้เพียงหลบอยู่ในนี้ก่อน ห

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 374

    นางรู้ดี ตอนนี้เวินซื่อกำลังโกรธบางทีอาจเพราะคำพูดเมื่อครู่ของนาง บางทีอาจเพราะนึกถึงเรื่องในอดีตอันหลันซินไม่ได้พูดอะไรต่อ มองดูเวินซื่อใส่ยาให้นางจนเสร็จ แล้วมองอีกฝ่ายพันแผลให้นางจนเสร็จ“สาวใช้น้อยคนนั้นของเจ้าล่ะ? ทำไมไม่เห็นนาง?”เวินซื่อใส่ยาให้นางเสร็จ เหมือนนึกถึงบางอย่าง จึงขมวดคิ้วถามอันหลันซินเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยขึ้น “นางตายแล้ว”“ตายแล้ว?”เวินซื่อแปลกใจ“วันที่ข้าแต่งเข้าสกุลผาง เจ้าคนแซ่ผางนั้นคิดจะใช้กำลังกับข้า แต่ข้าไม่ยอม เขาจึงลงไม้ลงมือกับข้า สาวใช้ข้าปกป้องข้า จึงถูกตีตายไปแล้ว”ระหว่างที่อันหลันซินเล่าเรื่องพวกนี้นางดูสงบนิ่งมากเหมือนไม่ใส่ใจการตายของสาวใช้คนนั้นแม้แต่น้อยเวินซื่อมองอันหลันซินแวบหนึ่ง แต่ไม่พูดสิ่งใดขณะนั้นเอง จู่ๆ ข้างนอกมีความเคลื่อนไหวดังขึ้นเสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้ตรอกนั้น หนำซ้ำยังเดินเข้ามาทำให้เวินซื่อตกใจ รีบหันมองข้างนอกทันที“ที่นี่ยังมีอีกหนึ่งตรอก รีบเข้าไปค้น ดูสิว่าซ่อนตัวอยู่ข้างในนี้หรือไม่”องครักษ์ของสกุลผางพวกเขาค้นมาถึงตรงนี้จริงๆเวินซื่อจ้องมองพวกคนที่เข้ามาใกล้เรื่อยๆ ในตอนนั้นเอง อันหลันซินที่อ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 375

    หลังจากได้ยินคนหนึ่งเอ่ยเสียงดัง คนที่เหลือล้วนตั้งสติได้ทันทีชั่วขณะนั้น เสียงคุกเข่าลงพื้นดังระงมทั่วทั้งถนนมีแต่เสียง คารวะธิดาศักดิ์สิทธิ์เวินซื่อชะงัก“หญิงผู้นี้บาดเจ็บไม่น้อย ข้าทนดูไม่ได้ อยากพานางกลับไปรักษาอาการบาดเจ็บที่โรงเตี๊ยม หากคุณชายของพวกเจ้าต้องการตัว จากนี้ให้เขาไปหาข้าที่โรงเตี๊ยม”“ขอรับ!”กลุ่มองครักษ์ตื้นตันมาก ไม่แม้แต่จะถามสักคำ รีบตอบรับทันทีอย่าว่าแต่ขัดขวาง เวินซื่อเพิ่งหันหลัง องครักษ์ที่อยู่ด้านหลังล้วนหลีกทางให้นางเดินเวินซื่อเห็นพวกเขามีปฏิกิริยาเช่นนี้ จึงให้จู๋เยวี่ยประคองอันหลันซินให้ลุกขึ้น แล้วเตรียมจากไปทว่าในขณะนั้นเอง คุณชายใหญ่สกุลผางตามมาถึงแล้ว“หยุดนะ!”“พวกสวะไร้ประโยชน์ยังคุกเข่าอยู่ทำไม ยังไม่รีบไปจับตัวนางมาให้ข้าอีก!”คุณชายใหญ่ผางเคลื่อนไหวร่างกายที่อ้วนพลุ้ย แล้ววิ่งกึกๆ เข้ามา จากนั้นชี้หน้าด่าทอทันทีแต่นึกไม่ถึงว่าองครักษ์เหล่านี้คงกินหัวใจหมีดีเสือเข้าไป จึงไม่มีใครฟังคำสั่งเขาเลย ล้วนคุกเข่าอยู่บนพื้นไม่ขยับ!รอจนคุณชายใหญ่ผางพาพ่อบ้านและองครักษ์อีกหลายคนมาถึงด้านหน้าสุด จึงได้หรี่ตามองสำรวจเวินซื่อวินาทีต่อ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 376

    “เหอะเหอะ ต้องอย่างนี้สิถึงจะคู่ควรกับความหล่อเหลาของข้า”คุณชายใหญ่ผางจัดแจงผมเผ้าอย่างนึกว่าตัวเองหล่อเหลา จากนั้นเชิดคางพูดกับเวินซื่อ “คนงาม กลางดึกเช่นนี้เจ้าออกมาช่วยคนแพศยาแซ่อันนี่ หรือเจ้าจะเป็นสหายของนางอย่างนั้นหรือ? ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าจะให้โอกาสเจ้าสักครั้ง ขอเพียงเจ้ายอมจำนนต่อข้าแทนนาง ข้าจะปล่อยนางไป ว่าอย่างไร?”เวินซื่อไม่พูดกับเขาไม่แม้กระทั่งจะแลเขาสักครั้งเพียงแค่ยื่นมือไปประคองอันหลันซิน ให้มือของจู๋เยวี่ยว่างเมื่อเห็นนางเพิกเฉยต่อตัวเองขนาดนี้ คุณชายใหญ่ผางโมโหทันที “พวกเจ้าไม่เห็นข้าอยู่ในสายตาเพียงนี้เชียวหรือ ดี ดีมาก ถ้างั้นก็อย่าโทษข้าไม่รู้จักทะนุถนอมพวกเจ้าละ!”“เจ้าพวกโง่ ยังคุกเข่าอยู่บนพื้นทำไม หรืออยากให้ข้าสั่งตัดหัวพวกเจ้าให้ได้? !”ขณะนี้คุณชายใหญ่ผางโมโหมาก ยกขาถีบใส่องครักษ์คนหนึ่งที่อยู่ใกล้ที่สุดเต็มแรง แล้วด่าเสียงดัง “วันนี้หากไม่จับตัวคนงามมาให้ข้า ข้าจะไปบอกท่านพ่อ ให้สั่งฆ่าพวกเจ้าให้หมดเลย!”“คุณชายขอรับ! ท่านฟังบ่าวสักครั้งเถอะขอรับ!”พ่อบ้านสกุลผางร้อนใจจนแทบร้องไห้ “อีกเดี๋ยวบ่าวค่อยไปหาสาวงามคนอื่นมาให้คุณชาย หามาให้ท่านเ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 377

    เมื่อกลับมาถึงโรงเตี๊ยมเวินซื่อถูกเป่ยเฉินหยวนดันเข้าไปในห้อง “ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไปท่านรีบเข้านอนซะ เพิ่งหายป่วยได้ไม่ทันไร อยากจะป่วยอีกครั้งหรือ?”“ได้ๆ ไปเข้านอน ไปเข้านอนแล้ว”ตอนนี้เวินซื่อไม่กล้าขัดคำสั่งของเขาบวกกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าในคืนนี้ ทำให้เหน็ดเหนื่อยมานานตอนนี้เมื่อกลับมาถึงห้อง นางเริ่มรู้สึกง่วงแล้ว“แล้วสองคนนั้นล่ะ...?”“ท่านไม่ต้องสนใจ ข้าจัดการเอง”เป่ยเฉินหยวนยื่นมือไปจัดแจงผมให้นาง จากนั้นรีบเก็บมือกลับมา “เอาละ รีบไปเข้านอนได้แล้ว พรุ่งนี้พักอีกหนึ่งวัน วันมะรืนจะเดินทางกลับเมืองหลวง”เดิมทีกำหนดไว้ว่าคืนนี้พักผ่อนให้เต็มที่ จากนั้นพรุ่งนี้ออกเดินทางแต่คืนนี้เกิดเรื่องมาจนถึงตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าคงพักผ่อนได้ไม่เต็มที่เป่ยเฉินหยวนจึงตัดสินใจแน่นนอน ส่วนเวินซื่อที่ได้พักมากขึ้น ย่อมไม่ว่าอะไรหลังกลับไปถึงห้อง แล้วเปลี่ยนชุดเสร็จ นางก็เข้านอนทันที นอนจนกระทั่งฟ้าสว่างโร่คุณชายใหญ่ผางที่มือขาดไปหนึ่งข้างถูกคนของเป่ยเฉินหยวนจับไปขังไว้ในห้องเก็บฟืนแม้อันหลันซินจะถูกพาตัวกลับมาด้วย แต่ก็ถูกปฏิบัติไม่ต่างจากคุณชายใหญ่ผางสักเท

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 378

    ตอนฉางเสี่ยวหานได้ยินว่าไม่ต้องทำสัญญา กลับรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยหากทำสัญญาขายตัวจริง เช่นนั้นนางจะกลายเป็นคนของธิดาศักดิ์สิทธิ์อย่างแท้จริง ต่อไปธิดาศักดิ์สิทธิ์ไปถึงไหน นางก็จะได้ตามไปถึงนั่นอย่างเปิดเผยแต่น่าเสียดายที่ธิดาศักดิ์สิทธิ์ไม่ทำสัญญาฉางเสี่ยวหานจึงต้องเก็บความผิดหวังไว้ในใจแต่ว่าไม่เป็นไร ต่อให้ตอนนี้ไม่มีสัญญาขายตัว แต่นางก็จะทำให้ดี คงมีสักวันที่นางได้กลายเป็นคนของธิดาศักดิ์สิทธิ์!เมื่อคิดได้ดังนั้น ฉางเสี่ยวหานให้กำลังใจตัวเองสักครู่ ต่อมาจึงเริ่มหางานให้ตัวเองทำภายในห้องของเวินซื่อนางเป็นสาวใช้เพียงคนเดียวข้างกายธิดาศักดิ์สิทธิ์ นางจะเหมางานทุกอย่างรอบตัวธิดาศักดิ์สิทธิ์มาให้หมด! ทั้งหมดเลย!หลังเวินซื่อแต่งตัวเสร็จจึงลงมาชั้นลาง ด้านหลังมีหางตัวน้อยตามมาด้วยหนึ่งขณะนี้เป่ยเฉินหยวนกำลังนั่งอยู่ในห้องโถงของโรงเตี๊ยม ตรงโต๊ะข้างหน้ามีสมุดบัญชีวางอยู่หนึ่งกองใหญ่ ตรงทางเข้าห้องโถงมีคนคุกเข่าเป็นกลุ่มใหญ่เช่นกันเมื่อได้ยินเสียงลงมาชั้นล่าง เป่ยเฉินหยวนเงยหน้าขึ้นทันที “ตื่นแล้วหรือ? รีบมากินอาหารสิ ให้คนอุ่นอาหารไว้ให้ท่านแล้ว”“ได้”เวินซื่อเดินไปนั่ง

Bab terbaru

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 550

    ถึงขั้นเอาอีกฝ่ายมาข่มขู่เวินจื่อเยวี่ย ทำให้เวินจื่อเยวี่ยต้องเลือกระหว่างนางและหลินเนี่ยนฉือแล้วนางสารเลวที่ยังไม่เดินผ่านประตูเข้ามาจะเอาอะไรมาเทียบกับนาง!เวินเยวี่ยโกรธจัดจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ในเสี้ยววินาทีที่ก้มศีรษะลง สายตาอาบยาพิษช่างน่าสะพรึงกลัว“ยุแยงตะแคงรั่ว?”เวินซื่อแค่รู้สึกว่าคำพูดของเวินจื่อเยวี่ยน่าขบขันมาก “มีเพียงคนที่มีหัวใจเท่านั้นถึงจะรู้สึกว่าใคร ๆ ก็เป็นเช่นนี้”นางเหลือบมองเวินเยวี่ยแวบหนึ่งอย่างเฉยชา ก่อนจะเอ่ยอย่างไม่แยแส “ท่านคิดว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้จะใช้พวกท่านไปก่อกวนความสงบของนางหรือ? ฝันไปเถอะ พวกท่านยังไม่คู่ควร”“เหอะ พูดเสียน่าฟัง ถ้าไม่ใช่เพราะจดหมายที่เจ้าเขียนไปฟ้อง หลินเนี่ยนฉืออยู่ที่อู๋โจวอยู่ดี ๆ จะเข้ามาที่เมืองหลวงทำไม? แล้วยังต้องการถอนหมั้นกับข้าอีก?!”ถึงตอนนี้เวินจื่อเยวี่ยยังคงเชื่อว่าเวินซื่อไปพูดอะไรกับหลินเนี่ยนฉือ ถึงทำให้หลินเนี่ยนฉือทำเช่นนั้น“ท่านคิดว่าข้อมูลในใต้หล้านี้มีสิ่งใดที่สามารถปิดบังได้อย่างนั้นหรือ? จวนเจิ้นกั๋วกงของพวกท่านได้ทำเรื่องที่น่าอับอายขายขี้หน้า ไร้ยางอายมาไม่น้อย แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงตั้งน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 549

    อูฐผอมซูบยังตัวใหญ่กว่าม้าการจะทำลายจวนเจิ้นกั๋วกงอันใหญ่โตแห่งนี้โดยอาศัยแมลงเพียงไม่กี่ตัว มันเป็นไปไม่ได้เลยแน่นอน มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างสิ้นเชิงเพียงแต่ราคาที่ต้องจ่ายนั้นสูงเกินไปอย่างเช่นการหมั้นหมายระหว่างจวนเจิ้นกั๋วกงและสกุลหลินเมื่อจวนเจิ้นกั๋วกงถูกกล่าวหาว่าสมคบคิดกับชาวต่างเผ่า เวินเฉวียนเซิ่งจะต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อชำระล้างให้หลุดพ้นจากข้อกล่าวหานี้และวิธีการที่ดีที่สุดก็ต้องเป็นการดึงผู้คนให้เข้ามาพัวพันมากขึ้นสกุลหลินที่ยังมีการหมั้นหมายกับจวนเจิ้นกั๋วกงเป็นกลุ่มแรกที่รับศึกหนัก โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างหลินเนี่ยนฉือและเวินซื่อ และจะกลายเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เวินเฉวียนเซิ่งดึงสกุลหลินให้ลงมาพัวพันด้วยดังนั้นก่อนจะยุติการหมั้นหมายระหว่างหลินเนี่ยนฉือและเวินจื่อเยวี่ย เวินซื่อยังไม่สามารถทำอะไรบุ่มบ่ามได้ทว่า ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถแตะต้องจวนเจิ้นกั๋วกงได้ แต่การมีเวินเยวี่ยเพียงคนเดียวก็ไม่ใช่เรื่องที่เสียหาย“หมั้น...หมั้นหมาย?”ในขณะนี้ เสียงที่สับสนของเวินเยวี่ยก็ดังขึ้นจากทางด้านหลังของ เวินจื่อเยวี่ย“พี่สาม ท่านหมั้นกับใครตั้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 548

    “ท่าน…!”เวินเยวี่ยลมแทบจับเมื่อได้ยินที่เวินซื่อพูดนางข่มไฟโทสะเอาไว้ “ธิดาศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่คนของกองทัพธงดำเสียหน่อย ให้ท่านมาทำการค้นหา ไม่น่าจะเหมาะสมกระมัง?”เวินเยวี่ยฝืนยิ้ม “ท้ายที่สุดแล้วบุญคุณความแค้นระหว่างพี่หญิงห้ากับเยวี่ยเอ๋อร์นั้นเป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งกันทั่วทุกคน ถ้าเกิด…”ประโยคสุดท้ายนี้ไม่ได้พูดออกมาทั้งหมด แต่ก็สามารถเข้าใจทุกอย่างที่ควรเข้าใจถ้าเกิดเวินซื่อเข้าไปวางกลอุบายบางอย่างเพื่อใส่ร้ายนางแล้วจะทำเช่นไร?เวินซื่อหันหน้าไปเผชิญหน้ากับเวินเยวี่ย รอยยิ้มเล็ก ๆ เผยออกมาบนใบหน้าอันบริสุทธิ์ผุดผ่องและงดงามของนาง “ข้าไม่ต่ำช้าไร้ยางอายเหมือนเจ้า”ใบหน้าของเวินเยวี่ยสลดลงเพราะดำด่าของนางทันทีแต่วินาทีต่อมาก็ได้ยินเวินซื่อพูดว่า “แต่ว่านี่มันก็เป็นปัญหาจริง ๆ ในเมื่อคุณหนูหกสกุลเวินเป็นกังวลเช่นนี้ เช่นนั้นข้าธิดาศักดิ์สิทธิ์ก็ขอยืนค้นหาอยู่ที่ประตูแล้วกัน”ยืนค้นหาอยู่ที่ประตูหรือ?แล้วจะค้นหาอย่างไร?ขณะที่เวินเยวี่ยและคนอื่น ๆ กำลังงุนงง เวินซื่อก็พลิกฝ่ามือ ก่อนจะหยิบขวดหยกขวดหนึ่งออกมาจากกลางฝ่ามือของนางฉางเสี่ยวหานก้าวเข้าไปรับขวดหยกจากมือของเว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 547

    “เหลวไหลสิ้นดี!”แววอันตรายฉายผ่านดวงตาอันคมกริบของเวินเฉวียนเซิ่งในทันใดเขาจ้องไปที่รถม้าที่เวินซื่อนั่งอยู่ สายตามองทะลุช่องว่างของม่านหน้าต่าง พลางชี้ตรงไปที่เวินซื่อ “เวินซื่อ เจ้ารู้ไหมว่าเจ้ากำลังทำอะไรอยู่? เจ้ากำลังใส่ร้ายขุนนางในราชสำนักซึ่งเป็นความผิดร้ายแรง!”“หากเจ้าไม่สามารถแสดงหลักฐานใด ๆ ได้ ต่อให้เจ้าจะเคยเป็นลูกสาวของข้า ข้าก็จะไม่ปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ เด็ดขาด!”“เจิ้นกั๋วกงไม่จำเป็นต้องใจร้อนขู่ขวัญเช่นนี้”ว่าแล้วเวินซื่อก็ยกมือขึ้นเปิดม่านรถแล้ว เดินออกมาจากด้านในอย่างช้า ๆเสี่ยวหานก้าวไปข้างหน้าอย่างมีไหวพริบ ทำตามสาวใช้เหล่านั้น เอื้อมมือออกไปช่วยประคองธิดาศักดิ์สิทธิ์ของนางลงจากรถม้าช้า ๆหลังจากลงสู่พื้นและยืนได้อย่างมั่นคงแล้ว เวินซื่อก็เงยหน้าขึ้นมองเวินเฉวียนเซิ่งผ่านกองทัพธงดำ นางยิ้มเล็กน้อย “ถ้าธิดาศักดิ์สิทธิ์ไม่มีหลักฐาน วันนี้จะกล้านำกองกำลังไปปิดล้อมจวนเจิ้นกั๋วกงของท่านได้อย่างไร”การทำงานตามคำสั่งส่วนตัวของอ๋องผู้สำเร็จราชการเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การทำงานตามพระราชโองการของฝ่าบาทก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งเวินซื่อยกมือขึ้น รับพระราชโองการจากมือของกองทัพ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 546

    ให้อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนมาหนุนหลังนางแล้วอย่างไรต่อ เขาไม่เชื่อว่า อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนผู้สง่างามจะบังคับเขาให้ถอนหมั้นได้อย่างนั้นหรือ!เมื่อเวินเฉวียนเซิ่งได้ยินเวินจื่อเยวี่ยพูด ก็มองเขาแวบหนึ่งอย่างเย็นชา “เจ้าควรคิดหาวิธีช่วยพี่ใหญ่ของเจ้าก่อนดีกว่า ถ้าครั้งนี้พี่ใหญ่ของเจ้าตาย ก็อย่าได้คิดเรื่องหมั้นหมายเลย ข้าเวินเฉวียนเซิ่ง ไม่มีลูกชายที่ใจไม้ไส้ระกำอย่างเจ้า”ใบหน้าของเวินจื่อเยวี่ยขรึมลงทันทีเขารู้ว่าลูกชายคนโปรดของบิดาไม่ใช่เขา แต่เป็นพี่ใหญ่ที่บิดาเลี้ยงดูอย่างสุดชีวิตจิตใจแต่เขานึกไม่ถึงว่ามาถึงขั้นนี้แล้ว บิดาจะยังโหดร้ายถึงเพียงนี้ เอาการหมั้นหมายของเขามาข่มขู่เขาเวินจื่อเยวี่ยไม่ได้พูดอะไรอีกแต่ในขณะนี้ พ่อบ้านนั้นพูดด้วยสีหน้าขมขื่น “ท่านกั๋วกง คุณชายสาม ครั้งนี้ผู้ที่นำกองทัพธงดำมาไม่ใช่ท่านอ๋องขอรับ”เมื่อได้ยินคำพูดนี้เวินเฉวียนเซิ่งก็หันกลับไปหาพ่อบ้าน “ไม่ใช่เป่ยเฉินหยวนหรอกหรือ? แล้วใครล่ะ?”นอกจากฮ่องเต้น้อยและเป่ยเฉินหยวนเองแล้ว ยังมีใครอีกที่สามารถระดมกองทัพธงดำ ถึงขั้นกล้าปิดล้อมจวนเจิ้นกั๋วกงของเขาได้?ขณะที่เวินเฉวียนเซิ่งกำลังครุ่นคิดในหัวว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 545

    “เสี่ยวหาน ให้ข้าดูหน้าเจ้าหน่อยสิ”หลังจากขับไล่เวินเฉวียนเซิ่งและเวินจื่อเยวี่ยออกไปแล้ว เวินซื่อก็ดึงฉางเสี่ยวหานเข้ามา“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ตบไม่โดนหน้า ข้าหลบได้นิดหน่อย แค่ตบโดนหัวเท่านั้น”ถึงกระนั้น การตบของเวินจื่อเยวี่ยก็หนักหน่วงมาก จนศีรษะของฉางเสี่ยวหานถึงกับสั่นคลอนในตอนนั้น ใช้เวลาสักพักกว่าจะตอบสนองได้“เจ้าไม่ต้องกังวล การตบครั้งนี้ข้าจะต้องเอาคืนเขาอย่างแรงแน่นอน”สีหน้าของเวินซื่อเคร่งขรึมลง น้ำเสียงไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งฉางเสี่ยวหานลุกขึ้นกล่าวว่า “ไม่ ๆ ๆ ไม่ต้องหรอกธิดาศักดิ์สิทธิ์ เมื่อครู่ท่านช่วยตบคืนแทนเสี่ยวหานแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำอะไรอีกเจ้าค่ะ”ฉางเสี่ยวหานรู้จักคนในเมืองหลวงน้อยมาก แต่หลังจากติดตามเวินซื่อมาเป็นเวลานาน ก็ได้เรียนรู้เรื่องต่าง ๆ มากขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดที่ธิดาศักดิ์สิทธิ์พูดกับสองพ่อลูกคู่นั้นเมื่อครู่ ก็ย่อมสามารถคาดเดาตัวตนของพวกเขาได้อย่างง่ายดายคนหนึ่งคืออดีตบิดาของธิดาศักดิ์สิทธิ์ อีกคนคืออดีตพี่ชายของธิดาศักดิ์สิทธิ์ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขานั้นย่ำแย่มากพออยู่แล้ว หากธิดาศักดิ์สิทธิ์ต้องทะเลาะกับพี่ชายหนักขึ้นด้วยเรื่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 544

    เขาขบริมฝีปากล่างแน่น กัดปากของตัวเองแตกเหมือนไม่รู้สึกตัว ปล่อยให้เลือดไหลลงจากมุมปากช้า ๆ“หลินเนี่ยนฉือล่ะ?”เวินจื่อเยวี่ยเอ่ยปากถามขึ้นทันใด“ข้าอยากพบนาง”“นางไม่อยากพบท่าน”เวินซื่อเอ่ยขึ้นอย่างราบเรียบ“ข้าบอกว่าข้าอยากพบนาง!”เวินจื่อเยวี่ยตวาดลั่นอย่างฉุนเฉียวขึ้นมาทันใด พลางปัดมือของจางเสี่ยวหานออกมือของจางเสี่ยวหานถูกตีเจ็บ ตกใจสะดุ้งโหยง เมื่อนางรู้ตัวก็เอื้อมมือออกไปอีกครั้ง คว้าเพียงหนังสือถอนหมั้นฉบับนั้นไว้ส่วนจี้หยกก็ร่วงลงสู่พื้นดัง “ตุ้บ” ตามมาด้วยเสียงแตกหักดังขึ้น จี้หยกแยกออกเป็นสองส่วนทันทีเวินจื่อเยวี่ยที่ยังอยู่ในอาการฉุนเฉียวเมื่อได้ยินเสียงนี้อย่างกะทันหัน ก็ก้มหน้าลงมอง เกิดความสับสนขึ้นโดยพลันเขารีบเก็บจี้หยกขึ้นมา เมื่อมองดูรอยแตกหักนั้น ก็ไม่อาจยับยั้งไฟโทสะที่อัดอั้นอยู่เต็มอกไว้ได้ เพียงชั่วครู่ก็ระเบิดอารมณ์ใส่ฉางเสี่ยวหาน...“ใครให้เจ้าทำของของข้าพัง! เจ้าอยากตายหรือไง?!”“อะไรนะ? ไม่ใช่ข้า เป็นท่านต่างหากที่ปัดมือของข้าเอง...”“สาวใช้ต่ำต้อยอย่างเจ้ายังกล้าเถียงอีก!”เวินจื่อเยวี่ยลุกพรวดขึ้น สีหน้ามีรอยพยายาท ยกมือขึ้นตบหน้าฉางเส

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 543

    เวินจื่อเยวี่ยมองเวินเฉวียนเซิ่งอย่างไม่อยากจะเชื่อ “ท่านพ่อ พูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?”เวินจื่อเยวี่ยเงียบไปครู่หนึ่ง “เจ้าน่าจะเข้าใจ เจ้าสาม”“ข้าไม่เข้าใจ!”เวินจื่อเยวี่ยตวาดออกมาทันใด พลางจ้องมองไปที่บิดาของเขาอย่างไม่ละสายตาเวินเฉวียนเซิ่งถอนหายใจอีกครั้ง “แค่การหมั้นหมายเท่านั้น พ่อรู้ว่าเจ้าไม่เต็มใจยอมรับ แต่พี่ใหญ่ของเจ้ามีเวลาเหลือไม่มากแล้ว ถ้ายังไม่เอายากลับไปอีก เขาจะต้องตายในไม่ช้า”“เจ้าสาม เจ้าจะทนเห็นพี่ใหญ่ของเจ้าตายไปได้จริงหรือ?”เวินจื่อเยวี่ยที่ได้ยินคำพูดประโยคนี้ของเขาได้ถามด้วยเสียงอันสั่นเครือเล็กน้อย “ก็เลยต้องเสียสละการหมั้นของข้าเพื่อช่วยพี่ใหญ่อย่างนั้นหรือ? ทั้ง ๆ ที่เรายังมีวิธีอื่นอีก แต่ท่านก็ยังยืนกรานที่จะขอร้องเวินซื่อ?!”“ยังมีวิธีอื่นอีกหรือ?”สีหน้าของเวินเฉวียนเซิ่งเย็นชาลง น้ำเสียงแย่มาก “ไม่ว่าจะเป็นบัวหิมะก็ดี เห็ดหลินจือสีม่วงอายุหนึ่งร้อยปีก็ดี หรือหญ้าฝรั่นที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนด้วยซ้ำก็ดี เจ้าคิดว่ามีสิ่งไหนหาง่ายบ้าง?!”“หากพี่ใหญ่ของเจ้ายังยืดเวลาได้อีกครึ่งค่อนเดือน พ่อก็จะไม่รีบร้อนเช่นนี้! แต่นี่พี่ใหญ่ของเจ้าอาจตายได้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 542

    นางมองเวินเฉวียนเซิ่งอย่างเย็นชา “ท่านไม่มีคุณสมบัตินี้ตั้งนานแล้ว”“เวินซื่อ! จงระวังท่าทีในการพูดจาของเจ้าด้วย แม้ว่าตอนนี้เจ้าจะเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์แล้ว แต่ความสัมพันธ์พ่อลูกของเจ้ากับพ่อจะไม่มีทางเปลี่ยนแปลง อย่าลืมว่ายังมีเลือดของสกุลเวินไหลเวียนอยู่ในตัวเจ้า”“ใครบอกว่าเปลี่ยนแปลงไม่ได้?”เวินซื่อยิ้มเยาะ “ความสัมพันธ์นี้จะเปลี่ยนไปในไม่ช้า แต่ตอนนี้ขอวกกลับเข้าประเด็นก่อน ท่านเจิ้นจั๋วกง ท่านยังไม่ได้บอกตัวเลือกของท่านเลย ท่านวางแผนที่จะเลือกใครกันแน่?”ล้มเหลวในการเล่นกับอารมณ์ ล้มเหลวในการข่มขู่กลับมาสู่เงื่อนไขข้อแรกสุดอีกครั้ง สายตาของเวินเฉวียนเซิ่งเย็นชาลงระดับหนึ่งในทันใดเวินซื่อดูเหมือนจะมองไม่เห็นเลย เร่งรัดเขาด้วยอารมณ์ที่ดีมาก“ข้ามีเวลาไม่มากนัก ท่านเจิ้นจั๋วกงรีบตัดสินใจโดยเร็วที่สุดเถอะ มิฉะนั้นก็จะไม่มีการเจรจาใด ๆ อีกแล้ว”นางหันไปมองเวินเฉวียนเซิ่งด้วยรอยยิ้มตาหยี “‘พี่ใหญ่แสนดี’ ของข้าก็น่าจะมีเวลาไม่เพียงพอใช่ไหม?”“ถุย!”เวินจื่อเยวี่ยถ่มน้ำลายใส่นางอย่างรุนแรง “พี่ใหญ่ไม่มีน้องสาวที่ชั่วร้ายอย่างเจ้า!”“ถูกต้อง ข้าชั่วร้าย แต่ก็เทียบไม่ได้กับเว

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status