Share

บทที่ 339

Author: จิ้งซิง
“เวินซื่อ ข้าไม่น่าจะเคยล่วงเกินอะไรเจ้าใช่ไหม?”

เวินอวี้จือจ้องเวินซื่ออยู่ครู่หนึ่ง พลางเอ่ยถามช้า ๆ

“คุณชายสี่สกุลเวิน คำพูดที่ตัวเองเพิ่งพูดไปเมื่อครู่ไม่นานก็ลืมแล้วหรือ? หากท่านไม่รู้สึกว่าตัวเองทำอะไรล่วงเกินข้า แล้วจะมายอมรับผิดและขอโทษขออภัยจากข้าทำไมกัน ไม่ย้อนแย้งไปหน่อยหรือ?”

เวินซื่อสบตากับเขาอย่างเฉยชา ในสายตามีแววเยาะเย้ยเล็กน้อย

เวินอวี้จือหรี่ตาลงเล็กน้อย “เมื่อก่อนนี้จู่ ๆ เจ้าก็ออกบวชเป็นชี ท่านพ่อ น้องหก และพวกพี่ชายล้วนเป็นห่วงกันมาก ในฐานะพี่สี่ของเจ้า ข้าก็ย่อมเป็นห่วงน้องสาวคนนี้อยู่แล้ว ดังนั้นเพื่อพาเจ้ากลับสู่สกุลเวิน จึงได้ใช้กลอุบายเล็ก ๆ น้อย ๆ ตอนนี้พอมานึกดูก็รู้สึกว่าไม่เหมาะสม ก็เลยอยากจะขอโทษเจ้าเท่านั้นเอง”

“กลอุบายเล็ก ๆ น้อย ๆ?”

เวินซื่อหัวเราะด้วยความโมโห “หากมองข้าเป็นน้องสาวจริง ๆ ก็จะไม่มีทางใช้สิ่งที่เรียกว่า ‘กลอุบายเล็ก ๆ น้อย ๆ’ กับน้องสาวแท้ ๆ ของตัวเองหรอก”

“ก็แค่ยาผงที่ทำให้เจ้าเชื่อฟังเท่านั้นเอง ไม่ได้ใช้ยาพิษที่ฆ่าเจ้าได้เสียหน่อย ทำไมเจ้าต้องคิดเล็กคิดน้อยเช่นนี้ด้วย อีกอย่างหลังจากนั้นเจ้าก็แก้แค้นข้ากลับมาแล้วมิใช่หรือ?”

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 340

    เวินเฉวียนเซิ่งหรี่ตาทั้งสองลงเล็กน้อย สีเข้มฉายผ่านดวงตาที่ลุ่มลึก“ตั้งแต่ที่เจ้าออกจากจวนเจิ้นกั๋วกง ข้าสังเกตเห็นว่า ทุกครั้งที่ได้พบกันอีก เจ้าก็เปลี่ยนแปลงไปมาก ดูแตกต่างจากลูกสาวคนนั้นของข้ามากขึ้นเรื่อย ๆ”เวินเฉวียนเซิ่งมองดูนาง ในขณะนี้เขาไม่พบร่องรอยของลูกสาวของเขาที่เชื่อฟังและมีเหตุผลในอดีตคนนั้นจากตัวเวินซื่อเลยสักนิดเวินซื่อเอ่ยอย่างราบเรียบด้วยสีหน้าสุขุมเยือกเย็น “ตอนนี้ข้าก็ไม่ใช่บุตรสาวของเจิ้นกั๋วกงอีกแล้ว ไม่เหมือนกันก็เป็นเรื่องปกติมิใช่หรือ?”ไม่ ไม่ปกติไม่ปกติเลยสักนิดทั้ง ๆ ที่ก่อนพิธีปักปิ่น เขาจำได้ว่าลูกสาวของเขาคนนี้ยังทำสิ่งของด้วยมือตัวเองมาเอาอกเอาใจเขาลืมไปแล้วว่ามันคืออะไร แต่พอจะจำได้ราง ๆ ว่าวันนั้นเวินซื่อหน้าตาเปี่ยมไปด้วยความดีใจและคาดหวัง ในความทรงจำนางยังคงดูไร้เดียงสาเช่นนั้น แต่เมื่อมองไปที่เวินซื่อที่มีใบหน้าเฉยเมยตรงหน้าคนนี้ การเปลี่ยนแปลงนั้นมันมากมายเกินไปมากจนเหมือนกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคนสมองของเวินเฉวียนเซิ่งฉุกคิดอะไรได้ จึงเผลอหลุดปากออกไปโดยจิตใต้สำนึก “จริงสิ เจ้าจำได้ไหมว่าก่อนวันพิธีปักปิ่น เจ้าเคยทำของอะไรให้พ่อด้วย

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 341

    “ถูกต้อง โทษใครไม่ได้ ต้องโทษข้าที่ตอนนั้นทั้งโง่ทั้งซื่อบื้อ ที่นึกว่ายังสามารถพูดคุยเหตุผลกับคนอย่างพวกท่านที่จิตใจลำเอียงสุดโต่ง”เวินซื่อนึกถึงตัวเองในตอนนั้นที่ร้องไห้อ้อนวอนพวกเขาแล้วรู้สึกน่าขัน“ดังนั้นตอนนี้ข้าแค่อยากนำสิ่งของที่เป็นของตัวเองคืนมาเท่านั้น มีปัญหาใดหรือ?”“ไม่ได้”เวินเฉวียนเซิ่งยังไม่ทันเอ่ยปากพูด เวินอวี้จือก็ปฏิเสธโดยพลัน“ตอนนี้ที่ดินกุยอวิ๋นกับภัตตาคารเฟิ่งอวิ๋นเป็นของน้องหก เจ้าอยากได้ก็เอาอย่างอื่นมาแลก”เวินอวี้จือยังนึกว่าเขาเจรจากับเวินซื่อได้เวินซื่อพยักหน้า “ได้ เช่นนั้นก็เอาชีวิตท่านมาแลกก็แล้วกัน จู๋เยวี่ย ลงมือ”ระหว่างที่พูดนางออกคำสั่งอย่างไม่ลังเลส่วบ!กระบี่เล่มยาวตวัด พุ่งเข้าหาเวินอวี้จือในเสี้ยววินาทีครั้งนี้เวินอวี้จือเตรียมการไว้แล้ว แต่ก็ไม่อาจต้านทานฝีมือรุนแรงของจู๋เยวี่ยเขาหลบหลีกจุดสำคัญไปได้ ทว่าวินาทีต่อมากระบี่ของจู๋เยวี่ยแทงทะลุแขนของเขาเกิดเสียงดังพรวด ต่อมาเสียงที่ดังขึ้นคือเสียงร้องโหยหวนของเวินอวี้จือ“เวินซื่อ ยังไม่รีบสั่งให้นางหยุดอีก”เวินเฉวียนเซิ่งยังตวาดให้เวินซื่อหยุด แต่เวินซื่อไม่สนใจแม้แต่น้อย

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 342

    พระราชวังห้องทรงพระอักษร“ใต้เท้าหนิงหย่วนโหวแห่งลู่โจว?”ตอนเวินซื่อได้ยินชื่อบุคคลนี้แปลกใจเล็กน้อยใช่สิ นางนึกขึ้นได้แล้วนั่นคือเจ้าของร้านขายยาของผู้ดูแลที่ช่วยนาง“เนื่องจากผลกระทบในจินโจวก่อนหน้านี้ ทำให้ในสามเดือนนั้นมีผู้ประสบภัยหนีไปลู่โจวไม่น้อย ยามนั้นหนิงหย่วนโหวไม่ปฏิเสธที่จะรับผู้ประสบภัยเหล่านั้น แต่นึกไม่ถึงว่าระหว่างทางผู้ประสบภัยบางส่วนกลับติดโรคระบาด แล้วนำไปแพร่ที่ลู่โจวไม่น้อย”ฮ่องเต้น้อยยิ้ม “จะว่าไปก็แปลกนัก ทั้งที่จินโจวประสบภัยแล้ง แต่ไม่ว่าก่อนภัยแล้งหรือหลังภัยแล้ง เหล่าราษฎรที่อยู่ในจินโจวไม่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาด กลับเป็นพวกที่หนีออกไปดันติดโรคระบาดเสียเอง”เพราะปรากฏการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้น ตอนนี้ราษฎรในจินโจวจึงเลื่อมใสเวินซื่ออย่างมากทุกคนล้วนบอกว่าเป็นเพราะธิดาศักดิ์สิทธิ์ได้ขอพรให้จินโจวของพวกเขา ดังนั้นจึงปกป้องพวกเขาให้อยู่รอดปลอดภัยเมื่อข่าวลือเกิดขึ้น จินโจวกับลู่โจวที่ติดกันอยู่แล้ว ย่อมมีข่าวแพร่ไปทางลู่โจวดังนั้นจึงมีราษฎรที่ลู่โจวไม่น้อย อยากเรียนเชิญธิดาศักดิ์สิทธิ์ไปขอพรให้พวกเขาบ้าง“หนิงหย่วนโหวหวังว่า จะเรียนเชิญธิดาศั

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 343

    แม้เวลาเร่งรีบ แต่เป่ยเฉินหยวนก็รับปาก “ท่านเพิ่งออกมาจากวัง คิดว่าน่าจะยังไม่ได้เก็บของ ข้าส่งท่านกลับไปก่อน รอให้จัดคนเตรียมการทุกอย่างเสร็จสิ้น พรุ่งนี้เช้าค่อยไปรับท่าน”ในเมื่อตัดสินใจแล้ว ต่อให้เป่ยเฉินหยวนโกรธแค่ไหนก็รีบจัดการทุกสิ่งทันทีหลังเวินซื่อกลับมาอารามสุ่ยเยว่ ก็จัดการเรื่องของนางเช่นกันนางมอบแปลงสมุนไพรให้ตาเฒ่าหลานดูแล อีกทั้งยังมอบโฉนดของที่ดินกุยอวิ๋นให้ตาเฒ่าหลานพร้อมกันแต่เดิมตาเฒ่าหลานก็เป็นพ่อบ้านสกุลหลานอยู่แล้ว ให้เขาดูแลที่ดินกุยอวิ๋นย่อมไม่มีปัญหาใดส่วนนางมีคำขอเพียงอย่างเดียว นั่นคือนำเมล็ดพันธุ์สมุนไพรและต้นกล้าสมุนไพรไปปลูกให้เต็มบนที่ดินกุยอวิ๋นสำหรับสมุนไพรที่ภูเขาหนานส่วนใหญ่เติบโตเต็มที่แล้ว เวินซื่อจึงเก็บไปทั้งหมด พื้นที่ซึ่งว่างออกมาก็มอบให้ตาเฒ่าหลานดูแลเช่นกันความจริงราษฎรที่จินโจวไม่ติดโรคระบาดหลังภัยแล้ง ในใจเวินซื่อพอรู้สาเหตุอยู่บ้างครั้งนั้นฝนตกลงมาในวันที่สองหลังนางทำพิธีขอฝน เป็นเรื่องบังเอิญทั้งสิ้น และเป็นเรื่องดวงด้วยส่วนเรื่องที่ไม่มีโรคระบาด จะว่าปาฏิหาริย์ก็เกินไปหน่อยแต่เกี่ยวข้องกับนางแน่นอนจำได้ว่ายามนั้นก่อนอ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 344

    “ออกเรือนหรือ?”เวินซื่ออึ้งไปครู่หนึ่งอันหลันซินยิ้ม “ถูกต้อง พ่อข้าเป็นคนจัดการเอง อีกฝ่ายคือหลานชายของผู้ว่าการหวัง ญาติห่างๆ ของสกุลอัน”เวินซื่อถามออกไปอย่างลืมตัว “ในเมื่อออกเรือน เหตุใดจึงไม่มีคนของทางนั้นมารับตัว?”อันหลันซินยิ้มมุมปาก “อาซื่อช่างน่ารักเสียจริง ข้าไม่ได้แต่งไปเป็นภรรยาเอก แค่แต่งไปเป็นอนุภรรยาเท่านั้น อีกฝ่ายจะตีฆ้องร้องป่าวมารับได้อย่างไร”เวินซื่อได้ยินดังนั้นจึงเงียบ“อาซื่อ อย่าเสียใจเพื่อข้า อย่างไรข้าก็เป็นบุตรสาวราชเลขาฝ่ายขวา ต่อให้เป็นอนุ พวกเขาก็ไม่กล้ารังแกข้าหรอก”เวินซื่อเบือนหน้าไปทางอื่น เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ใครเสียใจเพื่อเจ้า ข้ากับเจ้าไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น”อันหลันซินทำหน้าเสียใจผิดหวังทันใด “เอาเถอะ ถือว่าข้าคิดเข้าข้างตัวเองก็แล้วกัน”“แต่หนทางไปจินโจวยาวไกลเหลือเกิน ท่านพ่อก็ไม่ได้ส่งใครมาคุ้มกันข้า ดังนั้นอาซื่อ เห็นแก่ความสัมพันธ์ในวันวานของพวกเรา ให้รถม้าของข้าตามพวกเจ้าไปสักระยะเถอะ เจ้าวางใจได้ หากเจ้าไม่ชอบ ข้าไม่ไปรบกวนเจ้าแน่นอน ข้าสามารถอยู่ในรถม้าตลอด เพื่อไม่ให้รกหูรกตาเจ้า”อันหลันซินมองนางอย่างขอร้องท่าทางเช่นนั้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 345

    เวินซื่อเปิดผ้าม่านดู เห็นว่าเป็นเจิ้นเป่ยหยวน“ลงมาสูดอากาศหน่อยเถอะ วันนี้กินอาหารเร็วหน่อย”“ได้”เวินซื่อพยักหน้าเบาๆ ลุกขึ้นมุดตัวออกมาจากรถม้าหลังจากลงรถ จู่ๆ นางนึกถึงบางอย่าง จึงหันมองไปท้ายสุดของขบวนรถแวบหนึ่งเป่ยเฉินหยวนสังเกตเห็นท่าทีของนาง จึงหันมองไปตามสายตาของนาง ในไม่ช้าก็หันกลับมา แล้วเอ่ยเสียงเรียบ “วางใจเถอะ พวกนางนำอาหารแห้งมาเอง ไม่หิวตายหรอก”เวินซื่อไม่ได้กล่าวอะไร เดินตามเขาไปนั่งลงริมลำธาร เหล่าทหารพ่อครัวของกองทัพธงดำลงมืออย่างรวดเร็ว อาหารหม้อใหญ่เหล่านั้นไม่นานก็ทำเสร็จกลิ่นหอมกรุ่น แน่นอนว่าเป็นถ้วยของเป่ยเฉินหยวนในถ้วยเวินซื่อยังคงเป็นอาหารและน้ำแกงเจนางกินอย่างเอร็ดอร่อย เป่ยเฉินหยวนกลับรู้สึกสงสารทว่าเวินซื่อมักจะดื้อดึงสำหรับบางอย่าง ต่อให้เป่ยเฉินหยวนเกลี้ยกล่อมอย่างไรก็ไม่ฟังดังนั้นจึงได้แต่มองนางกินอาหารเช่นนี้เป่ยเฉินหยวนถือถ้วยของตัวเอง กินเข้าไปคำใหญ่จนหมดลงภายในไม่กี่ครั้ง จากนั้นนั่งอยู่ตรงข้ามเวินซื่อมองดูนางกินเมื่อรอให้นางกินเสร็จ หยิบเอาถ้วยของนางไปทันที “พอดีข้าจะไปล้างถ้วย ให้ข้าเอาไปพร้อมกันเถอะ”ทุกครั้งเขาจะรวดเร็ว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 346

    “พลธนูเตรียมพร้อม!”แทบจะเป็นวินาทีที่ได้ยินเสียงร้องโหยหวน เกาเย่าสั่งการทันทีกองทัพธงดำกว่าร้อยนายดึงธนูใส่ลูกดอก เล็งไปที่ป่าแห่งนั้น“ช้าก่อน! พวกเรายอมแพ้! พวกเรายอมแพ้!”คนที่อยู่ในป่านึกไม่ถึงว่าอีกฝ่ายยังไม่ทันเข้าไปในป่าด้วยซ้ำก็สังเกตเห็นพวกเขาแล้ว กระทั่งธนูดอกเดียวยังยิงจนคนของพวกเขาบาดเจ็บเมื่อนึกว่าวินาทีต่อไปฝนธนูจะพุ่งใส่หัว พวกคนที่อยู่ในป่ารีบตะโกนเสียงดังทันที“พวกโจรสามหาว กล้าซุ่มโจมตีขวางทางอยู่ที่นี่ ยังไม่รีบไสหัวออกมาอีก!”เกาเย่าตะโกนเสียงดัง ทำให้โจรที่ซ่อนอยู่ในป่าตกใจจนรีบล้มลุกคลุกคลานออกมาเป่ยเฉินหยวนมองแวบหนึ่ง เหมือนจะเป็นโจรป่าจากป่าสักแห่งเขาหรี่ดวงตาทั้งคู่ลง “พวกเจ้าคือโจรป่าจากที่ใด?”หัวหน้าโจรป่ารีบคุกเข่าลงพื้นแล้วตอบคำถาม “เรียนนายท่าน แต่เดิมพวกข้าเป็นชาวบ้านหมู่บ้านเสือดำ แต่ช่วงก่อนหมู่บ้านเสือดำถูกโจรซุ่มโจมตี หัวหน้าใหญ่ในหมู่บ้านตายอย่างอนาถ พี่น้องคนอื่นก็ถูกฆ่า เหลือเพียงพวกข้าที่มีกันร้อยกว่าคน ตอนนี้อดอยากเหลือเกิน เดิมอยากจะปล้นสะดมภ์พวกอาหาร ไม่คิดจะฆ่าใคร! ขอนายท่านโปรดไว้ชีวิต ไว้ชีวิตด้วย! ต่อไปพวกข้าไม่กล้าทำอีกแล้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 347

    นางสามารถเข้าไปในจวนอ๋องผู้สำเร็จราชการก่อน เพื่อปูทางให้อาซื่อต่อไปรอให้อาซื่อศึกออกมาแล้วเข้าจวน อาซื่อเป็นใหญ่ นางเป็นน้อย พวกนางยังคงเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิม!ส่วนนางจะกำจัดทุกอย่างให้อาซื่อ!อันหลันซินเดาใจเป่ยเฉินหยวนได้แต่แรกแล้วนางกระทั่งมีลางสังหรณ์ วันหนึ่งเป่ยเฉินหยวนต้องสู่ขอเวินซื่อเข้าจวนอ๋องผู้สำเร็จราชการแน่นอนแต่นางไม่เชื่อบุรุษที่ผ่านมาบุรุษมักมีสามเมียสี่อนุ ประชาชนทั่วไปยังเป็นเช่นนั้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงอ๋องผู้สำเร็จราชการที่ยิ่งใหญ่?บุรุษเช่นนี้ต่อให้เขารักอาซื่อมากเพียงใด ภายหน้าย่อมเปลี่ยนใจแน่นอนหากให้เขาทรยศอาซื่อในภายหน้า ไม่สู้ทำให้อาซื่อมองเห็นธาตุแท้ของชายคนนี้ตั้งแต่ตอนนี้ทำให้อาซื่อมองเห็นสัจธรรมของโลก ไม่ศึกออกมาอีกหรือไม่ก็ศึกออกมาแล้วเข้าจวน จากนี้ต่อให้เป่ยเฉินหยวนมีหญิงอื่น อาซื่อจะได้ไม่ต้องเสียใจมากส่วนตัวเองยังสามารถเป็นเบี้ยของอาซื่อหลายปีมานี้ นางอยู่ในสกุลอันถูกแม่ใหญ่กับพี่สาวรังแกมานาน เรียนรู้ฝีมือโหดเหี้ยมมาไม่น้อยอาซื่อทั้งโง่ทั้งเซ่อ ไม่รู้ว่าจะแย่งชิงความรักอย่างไรแต่นางเป็น !นางสามารถช่วยให้อาซื่อได้มาทุกสิ่ง!

Latest chapter

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 390

    สมุนไพรทั้งหมดนี้ในที่ดินกุยอวิ๋น เป็นสิ่งที่นางได้ตกลงไว้แล้วว่าจะมอบให้กับเป่ยเฉินหยวนเป็นสมุนไพรสำหรับทหารในกองทัพธงดำที่ออกรบเพื่อราชวงศ์ต้าหมิงมาหลายปี จนสุดท้ายร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล พิการ และเจ็บปวดบัดนี้ สมุนไพรที่ปลูกไว้ได้หนึ่งเดือนแล้วกลับถูกพวกเขาทำลายไปกว่าครึ่ง แถมยังไม่เว้นแม้แต่แปลงสมุนไพรร้ายกาจถึงเพียงนี้ นางจะกลืนความโกรธแค้นนี้ลงไปได้อย่างไรนางจะไม่ปล่อยคนที่เป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ไป และคนร้ายตรงหน้าเหล่านี้ นางก็จะไม่ปล่อยไปเช่นกัน“ท่านลุงหลาน ต้องรับพวกเขาให้ดี”ผู้เฒ่าหลานไม่คิดว่าเวินซื่อจะมีด้านนี้ด้วยเดิมทีเขาคิดว่าปกติแล้วคุณหนูน้อยผู้อ่อนโยนและใจดีมาโดยตลอดนั้น จะเหมือนกับคุณหนูใหญ่มากแต่คาดไม่ถึงว่า ภายใต้ความอ่อนโยนของคุณหนูน้อย จะยังมีด้านที่โหดเหี้ยมเช่นนี้ซ่อนอยู่ช่าง...เหมือนกับนายท่านในตอนนั้นไม่มีผิด!ดวงตาที่แก่ชราของผู้เฒ่าหลานฉายแววเฉียบคม จ้องมองเวินซื่อด้วยสายตาร้อนแรง ราวกับว่าเขามองเห็นภาพของเจ้าบ้านสกุลหลานในอดีตในตัวของนางมองจนหัวใจที่สงบนิ่งมานานหลายปีของเขาถึงกับรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมานายท่าน สกุลหลานของพวกเ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 389

    “รบกวนลุงหลานเริ่มจัดหาคนในวันพรุ่งนี้ ช่วงสองสามวันนี้ลำบากท่านแล้ว”“เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ไม่ลำบากหรอก เพียงแต่ว่าคนร้ายที่วางยาพิษยังจับตัวไม่ได้ หากพวกเราแก้ไขตอนนี้ เกรงว่าคนร้ายนั่นจะกลับมาอีก”เวินซื่อย่อมเข้าใจเรื่องนี้ดีนางยิ้มเล็กน้อย “ลุงหลานวางใจได้ พรุ่งนี้ท่านจัดหาคนได้เลย คืนนี้พวกเราจะจับคน”......คืนนั้นควรจะเป็นเวลาที่เข้าสู่ห้วงนิทรา แต่กลับมีคนจำนวนหนึ่งถือถังไม้คนละใบ หลบเลี่ยงคนลาดตระเวนเหล่านั้นอย่างเงียบๆ พวกเขาแอบเข้าไปในที่ดินกุยอวิ๋นอีกครั้งอย่างชำนาญ“หัวหน้า เมื่อวานพวกเราสาดยาพิษที่แปลงสมุนไพรทางตะวันออก ทางใต้ก็สาดไปหลายแห่งแล้ว คืนนี้จะเปลี่ยนไปสาดทางตะวันตกหรือทางเหนือดี?”“ได้ ไปดูทางตะวันตกก่อนก็แล้วกัน ถึงอย่างไรคุณชายสามก็บอกว่าต้องสาดให้หมด ต้องทำหมดทุกทาง”ดังนั้น คนร้ายที่ปิดบังใบหน้าทั้งเจ็ดแปดคนจึงอ้อมผ่านไปอย่างมีจุดมุ่งหมาย มุ่งหน้าไปยังทิศตะวันตกไม่นานนัก พวกเขาก็วิ่งมาถึงที่หมาย“เจ้าสอง เจ้าสาม พวกเจ้าสองคนไปดูต้นทาง มีอะไรก็รีบเป่านกหวีด เจ้าสี่ เจ้าห้า เจ้าหก พวกเจ้าสามคนไปตักน้ำ เจ้าเจ็ด เจ้ามาทำลายสมุนไพรกับข้า”“ได้เลย

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 388

    “คนร้ายกระจอกๆ พวกนั้นจับตัวได้หรือไม่?”“พวกที่มาครั้งแรกจับได้แล้วขอรับ แต่ไม่กี่วันต่อมา ก็มีมาอีกสองสามคน แถมยังระมัดระวังตัวยิ่งกว่า เจ้าเล่ห์มาก พิษที่เทในแปลงสมุนไพรก็เป็นฝีมือของพวกที่มาครั้งที่สองนี้”เวินซื่อเอ่ยถาม “มีคนได้รับผลกระทบบ้างหรือไม่?”ผู้เฒ่าหลานส่ายหน้า “ยาพิษที่เทนั้นดูเหมือนจะมุ่งเป้าไปที่แปลงสมุนไพรของเราเท่านั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อคนมากนัก”เวินซื่อแค่นหัวเราะ “หากวางยาพิษคน เรื่องนี้คงไม่ง่ายดายเช่นนี้แล้ว”หลังจากที่นางทราบเรื่องราวทั้งหมดแล้วก็กำชับว่า “รบกวนลุงหลานเดินทางรอบนี้ ตอนนี้ฟ้ายังไม่มืด ข้าจะไปดูที่ดินกุยอวิ๋นก่อน”ม่อโฉวซือไท่ก็อยู่ด้วยพอดี นางได้ยินดังนั้นจึงเอ่ยขึ้นว่า “อาจารย์จะไปกับพวกเจ้าด้วย ไปดูสักหน่อย”“ข้าก็ไปด้วยๆ !”ฉางเสี่ยวหานรีบยกมือออกจากอารามสุ่ยเยว่ ก็มีรถม้าเรียบง่ายคันหนึ่งจอดรออยู่ด้านนอกนี่เป็นสิ่งที่เวินซื่อสั่งให้ผู้เฒ่าหลานจัดหาระยะทางระหว่างที่ดินกุยอวิ๋นถึงอารามสุ่ยเยว่ก็ไม่ถือว่าใกล้ จะให้พ่อบ้านหลานที่อายุมากแล้วเดินไปเดินมาก็คงไม่ได้ดังนั้น เวินซื่อจึงให้ผู้เฒ่าหลานจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกบางอย่าง เ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 387

    เป่ยเฉินหยวนไม่คิดว่านางจะยังจำเรื่องนี้ได้ และยังจัดสรรที่ดินไว้ให้เขาแล้วเขารู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่งอู๋โยวที่ดีเช่นนี้ เขาจะไม่หวั่นไหวได้อย่างไร?เพียงแต่ว่าคนสกุลอันนั่นพูดถูก เขามีความคิดต่ำทราม หากถูกคนอื่นรู้เข้า นั่นก็เท่ากับทำลายการปฏิบัติธรรมของผู้อื่น ทำลายชื่อเสียงอันบริสุทธิ์ของผู้อื่น เป็นเรื่องที่เลวทรามอย่างยิ่งดังนั้น เป่ยเฉินหยวนในตอนนี้จึงทำได้เพียงเก็บซ่อนไว้อย่างระมัดระวังเมื่อไม่มีอันหลันซิน ขบวนก็ไม่ได้ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย ไม่นานก็ออกเดินทางต่อสองวันต่อมา ขบวนที่เดินทางไกลไปยังลู่โจวในที่สุดก็กลับมาถึงเมืองหลวงแล้วครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อน ฝ่าบาททรงนำเหล่าขุนนางมาต้อนรับที่ประตูเมืองหลวงด้วยพระองค์เองสถานการณ์ยิ่งใหญ่เอิกเกริกเช่นนี้ ทำเอาเวินซื่อตกใจไม่น้อยภายหลังเวินซื่อถึงได้รู้ว่า ที่แท้ข่าวคราวจากลู่โจวก็แพร่เข้ามาถึงในเมืองหลวงแล้วหลังจากขอฝนที่จินโจวแก้ปัญหาภัยแล้งได้แล้ว เวินซื่อก็มีชื่อเสียงเรื่องการสวดอธิษฐานขอพรให้ผู้ประสบภัยพิบัติที่ลู่โจวเพิ่มขึ้นมาอีกตอนนี้ชื่อเสียงของนางไม่ได้เลื่องลือแค่ในเมืองหลวงและจินโจวสองแห่งเท่าน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 386

    ภายในป่า เงียบสงบไปครู่หนึ่ง ถึงมีเสียงหัวเราะเยาะเบาๆ ดังขึ้น“เจ้าพูดถูก ข้าไม่คู่ควร”เป่ยเฉินหยวนสีหน้าเย็นชา สายตาเย็นเยียบ “แต่เจ้าไม่คู่ควรยิ่งกว่า”“เจ้าอยากจะใช้คนร้ายที่หลบหนีไปได้มาบีบบังคับข้า น่าเสียดาย ข้าไม่หลงกลเจ้า”เป่ยเฉินหยวนพูดจบก็ยกมือขึ้น กองทัพธงดำจำนวนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นทันที ล้อมอันหลันซินเอาไว้อันหลันซินตกใจทันที ในใจเกิดลางสังหรณ์ไม่ดี“ท่านคิดจะทำอะไร?”เป่ยเฉินหยวนกล่าวอย่างเย็นชา “ขอบคุณอู๋โยวให้ดีเถอะ หากมิใช่เพราะนาง หัวของเจ้าคงถูกข้าตัดเอาไปเตะเล่นนานแล้ว”พูดจบเขาก็หันหลังกลับไปออกคำสั่ง “เอาตัวไป มัดให้แน่นแล้วส่งไปให้หนิงหย่วนโหว ให้เขาเฝ้าไว้ให้ดีๆ ขอแค่ไม่ตาย จะจัดการอย่างไรก็แล้วแต่เขา แต่ถ้าคนหนีไป ข้าจะเอาเรื่องกับเขา”“พ่ะย่ะค่ะ!”กองทัพธงดำหลายนายรีบเข้ามาทันทีไม่!ไม่ได้!นางจะถูกพาตัวไปไม่ได้!นางอุตส่าห์รอโอกาสนี้มาอย่างยากลำบาก หากถูกพาตัวไปแล้ว ต่อไปนางจะกลับมาหาอาซื่อได้อย่างไร!อันหลันซินเห็นท่าไม่ดี อ้าปากกำลังจะร้องตะโกน“อึก...”น่าเสียดายที่นางเพิ่งจะส่งเสียงออกมา ฝักกระบี่ก็ฟาดลงบนคอของนางอย่างแรงทำให้นางสลบไ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 385

    คนที่ปรากฏตัวอยู่ด้านนอกรถม้าของเป่ยเฉินหยวนคืออันหลันซิน“ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทน หม่อมฉันจะทำอะไรท่านได้ ท่านจะระแวงหม่อมฉันขนาดนี้ไปทำไมเพคะ?”อันหลันซินยิ้มเล็กน้อยพลางกล่าวขึ้นเป่ยเฉินหยวนขมวดคิ้ว สายตาไม่พอใจ “มีธุระก็พูด ไม่มีธุระก็ไสหัวไป”ท่าทีที่ไม่เกรงใจเมื่อเทียบกับรอยยิ้มที่แสดงออกมาโดยไม่รู้ตัวเมื่อครู่ ช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหวจริงๆอันหลันซินแค่นเสียงหัวเราะในใจเสแสร้งอะไรกันตอนนี้รู้จักปฏิบัติต่อสตรีอื่นอย่างแตกต่างเพราะอาซื่อ แต่ต่อไปความพิเศษเช่นนี้ไม่แน่ว่าจะตกไปอยู่กับสตรีอื่นอย่างไรเสีย บุรุษในโลกนี้ก็เหมือนกันหมดอันหลันซินระงับความรังเกียจในใจ บนใบหน้าปรากฏรอยยิ้มอ่อนโยน “เอาละ รู้ว่าท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนไม่ชอบหม่อมฉัน แต่หม่อมฉันมีข้อแลกเปลี่ยน อยากจะคุยกับท่านสักหน่อยเพคะ”นางพูดเช่นนี้ เป่ยเฉินหยวนกลับไม่มองนางแม้แต่น้อย เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาและดูถูก “อย่างเจ้า มีคุณสมบัติอะไรมาทำข้อตกลงกับข้า?”“ที่ข้ายอมให้เจ้าอยู่ในขบวนนี้จนถึงตอนนี้ ก็เพียงเพราะเห็นแก่หน้าอู๋โยว”รอยยิ้มบนใบหน้าของอันหลันซินแข็งค้าง กัดฟันเล็กน้อย“เหอะๆ หม่อมฉั

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 384

    เป่ยเฉินหยวนนอนเอนกายอย่างสบายอารมณ์อยู่ในรถม้า ในขณะเดียวกันก็นอนอยู่ข้างกายเวินซื่อ หลับตาพริ้มขยับศีรษะอย่างมีความสุข ตอบคำถามของนางทีละประโยค“ได้ ไม่แรง ไม่ได้ดึงเลย ปวดนิดหน่อย เพราะซื่อเอ๋อร์ลูบให้ หัวก็เลยไม่ปวดมากแล้ว”เวินซื่อได้ยินดังนั้นก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกโชคดีที่นางยังจำตำแหน่งกดจุดต่างๆ บนศีรษะที่อาจารย์ม่อโฉวสอนได้ ผสมผสานกับวิธีการนวด แล้วนวดให้เป่ยเฉินหยวน ดูเหมือนว่าผลลัพธ์จะดีเลยทีเดียวเวินซื่อที่คิดว่าได้ผลจริงๆ ก็ยังคงตั้งใจจ้องมองศีรษะของเป่ยเฉินหยวน จดจ่ออยู่กับการผสมผสานวิธีการนวดและกดจุดต่างๆ ของนางหลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ภายในรถม้าดูเหมือนจะเงียบสงบลงอย่างสิ้นเชิงเงียบจนแม้ว่าภายนอกจะมีเสียงล้อรถดังอยู่ ก็ยังได้ยินเสียงหายใจแผ่วเบาสม่ำเสมอภายในรถม้าเวินซื่อเงยหน้าขึ้นมอง ก็พบว่าเป่ยเฉินหยวนไม่รู้ว่าหลับตาลงตั้งแต่เมื่อไรแล้วเวินซื่อเห็นดังนั้น มือที่วางอยู่บนศีรษะของเขาก็ค่อยๆ เคลื่อนไหวช้าลง จนกระทั่งพอสมควรแล้ว นางถึงได้ชักมือกลับก้มหน้าลงมองสีหน้าที่อ่อนล้าระหว่างคิ้วของเป่ยเฉินหยวน หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เวินซื่อก็หยิบขวดน้ำทิพย์ออกมาจ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 383

    “ปวดหัวหรือ? เกิดอะไรขึ้น? ปวดเป็นพักๆ หรือว่าปวดมากตลอดเวลา?”พอเวินซื่อได้ยินเป่ยเฉินหยวนบอกว่าตนเองปวดหัว ก็ไม่ทันได้ใส่ใจกับคำเรียกที่ดูเหมือนจะสนิทสนมเกินไปนั่น รีบถามอย่างกระวนกระวาย“ปวดเป็นพักๆ เหมือนกับมีคนมากมายพูดอยู่ในหัวของข้า หนวกหูมาก ปวดเหลือเกิน”เป่ยเฉินหยวนมองนางอย่างไม่วางตา ชายหนุ่มผู้ซึ่งปกติแล้วสูงใหญ่และพึ่งพาได้เสมอ เวลานี้กลับดูอ่อนแอเหมือนหมาป่าตัวใหญ่ที่ได้รับบาดเจ็บ ทำได้เพียงส่งเสียงร้องครางกับคนตรงหน้าเพื่อระบายความเจ็บปวดของตนเวินซื่อไม่เคยเห็นเป่ยเฉินหยวนในสภาพที่อ่อนแอเช่นนี้มาก่อนแม้แต่ครั้งแรกที่เห็นเขาป่วยที่ริมลำธารเล็กๆ หลังภูเขานั่น เป่ยเฉินหยวนในตอนนั้นก็ยังคงสติไว้ได้บ้างแต่เป่ยเฉินหยวนในตอนนี้ กลับเหมือนแสดงด้านที่อ่อนแอยามเจ็บป่วยออกมาให้นางเห็นอย่างไม่มีปิดบังเวินซื่อจึงลูบหน้าผากเขาด้วยความสงสารทันที แล้วจับชีพจร “ไม่ปวดแล้วๆ ตอนนี้ข้าจะสวดมนต์ให้ท่านอ๋องเดี๋ยวนี้ ท่านนั่งฟังดีๆ อีกเดี๋ยวก็จะไม่ปวดแล้ว”แต่เป่ยเฉินหยวนในตอนนี้กลับเหมือนจะมีความคิดต่อต้านขึ้นมาเล็กน้อย ยื่นมือออกไปคว้าข้อมือของเวินซื่อที่กำลังจะชักกลับ เอ่ยด้วยน้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 382

    นางมองเวินซื่อด้วยความอาลัยอาวรณ์หางตากลับเหลือบไปมองเป่ยเฉินหยวนและเด็กสาวที่อยู่ข้างโต๊ะนั่นอย่างเย็นชาเพิ่มมาอีกคนแล้วแต่ไม่เป็นไร ยังไม่จบหรอกหลังจากที่นายท่านสกุลผังกลับไปแล้ว ไม่นานก็ส่งสัญญาขายตัวมาให้ตามคาด ทั้งยังเขียนหนังสือหย่าอนุภรรยาอย่างเป็นเรื่องเป็นราวมาหนึ่งฉบับจริงๆเมื่อได้สัญญาขายตัวและหนังสือหย่าอนุภรรยา อันหลันซินก็ไปจากที่นี่เวินซื่อให้จู๋เยวี่ยติดตามไประยะหนึ่งแน่นอนว่าเพื่อจับตาดู“เป็นอย่างไรบ้าง?”หลังจากที่จู๋เยวี่ยกลับมา เวินซื่อก็เอ่ยถาม“ดูเหมือนว่าจะมีเศษเงินที่ซ่อนเอาไว้ ซื้อของกินเล็กน้อย ห่อไว้แล้วก็ออกจากเมืองไป ดูท่าทางน่าจะกลับเมืองหลวง”กลับเมืองหลวง...จินโจวอยู่ห่างจากเมืองหลวงขนาดนี้ นางคิดจะเดินเท้ากลับไปหรือ?แล้วยังมีบิดาของนางในเมืองหลวง ทั้งภรรยาเอกและพี่สาวต่างมารดาพวกนั้น คงจะไม่ปล่อยนางไปกระมัง?ถึงอย่างนั้นนางก็ยังคิดจะกลับไป?เวินซื่อขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็คลายปมคิ้วไม่สิ นางจะเป็นห่วงอันหลันซินทำไมกัน?ต่อจากนี้ไปอันหลันซินจะเป็นตายร้ายดีก็ไม่เกี่ยวข้องกับนางที่นางช่วยครั้งนี้ก็เพราะเห็นแก่คว

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status