Share

บทที่ 224

Author: จิ้งซิง
“ขอบคุณน้ำใจของท่านอ๋อง และขอบคุณทุกคนที่ลำบากไปเสาะหาเมล็ดพันธุ์สมุนไพรมากมายขนาดนี้”

ก่อนหน้านี้เป่ยเฉินหยวนเห็นนางทำสวนสมุนไพรไว้ในเรือนหลังเล็กสองแห่ง จึงไปถางที่หลังเขาเพื่อทำแปลงสมุนไพรให้นาง

อีกทั้งบอกนางว่าจะช่วยเสาะหาเมล็ดพันธุ์สมุนไพรมาให้ นึกไม่ถึงว่าเขาจำได้ตลอด

เขาเป็นถึงอ๋องผู้สำเร็จราชการแทน แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังจำคำพูดที่บอกกับนางได้

น้ำใจของเขาทำให้เวินซื่อหวั่นไหวอย่างอดไม่ได้

แม้การมอบหญ้าคืนวสันต์ให้เป่ยเฉินหยวน เสี่ยงถูกเปิดโปงจริง แต่ตอนนี้เมื่อมองดูเมล็ดพันธุ์สมุนไพรเหล่านี้ จู่ๆ นางรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องเสียใจมากขนาดนั้น

เพราะอ๋องผู้สำเร็จราชการแทน ไม่เคยทำสิ่งใดเกินเลยกับนางมาก่อน

จำนวนครั้งที่ช่วยนางมากกว่าทุกคนข้างกายนางรวมกันเสียอีก

เมื่อคิดได้ดังนั้น ความกระวนกระวายในใจเวินซื่อดูสงบลงเล็กน้อย

“ธิดาศักดิ์สิทธิ์? ธิดาศักดิ์สิทธิ์!”

หลินจื่อฟูทำหน้าดีใจ วิ่งมาหาเวินซื่อโดยไม่สนใจภาพลักษณ์

“ท่านกำลังเรียนวิชาแพทย์ไม่ใช่หรือ? ลองดูตำรับยาชุดนี้ของข้าสิ อัศจรรย์มากใช่หรือไม่?”

ในมือหลินจื่อฟูถือกระดาษแผ่นหนึ่ง แล้วรีบวิ่งมาข้างกายเวินซื่อ จากนั้นยื่นกระ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
นางสาวณิชกมล อนุมาตร์
ไม่น่าติดตามเลยเอื่อยเชื่อยน่ารำคารมาก
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 225

    เวินซื่อแสร้งทำไม่เข้าใจ แล้วเอ่ยถาม “เหตุใดบนนี้จึงวงสมุนไพรบางชนิดเอาไว้ หรือมีความหมายอื่นใด?”หลินจื่อฟูรีบตอบทันควัน “โธ่เอ๊ย ไม่มีอะไร ไม่มีอะไร พวกนี้เป็นสมุนไพรที่ยังได้มาไม่ครบ ส่วนสมุนไพรตัวอื่นยังพอหาได้บ้าง แค่มีเงินมากพอก็หาได้แล้ว แต่หญ้าฝรั่นตัวนี้ข้าอับจนหนทางจริงๆ”เมื่อเอ่ยถึงสมุนไพรชนิดสุดท้าย หลินจื่อฟูทำหน้ากลัดกลุ้มเวินซื่อหลุบตาลงเล็กน้อย เก็บอารมณ์พลุ่งพล่านในแววตาหญ้าฝรั่นตัวนี้...นางมี!เวินซื่อปกปิดความผิดปกติของตัวเองสุดฤทธิ์ ภายนอกทำท่าสงสัยเล็กน้อย “หญ้าฝรั่นคือสมุนไพรอย่างไรหรือ? ทำไมข้าจึงไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนเลย?”ไม่เคยได้ยินหรอกหรือ?แววตาหลินจื่อฟูมีความผิดหวังแวบผ่านทว่าไม่ช้าเขาก็กลับมายืนหยัดอีกครั้ง พร้อมแนะนำเวินซื่อ “ความจริงหญ้าฝรั่นแม้แต่พวกเราก็ไม่เคยเห็นมาก่อน เพียงแต่ข้าน้อยเคยเห็นในตำราแพทย์โบราณจากผู้อาวุโสรุ่นก่อนที่สืบทอดไว้ แม้จะไม่รู้อะไรเลย ทว่าในตำราโบราณบันทึกสรรพคุณของสมุนไพรชนิดนี้อย่างละเอียด ซึ่งเป็นสมุนไพรที่ทำให้อารมณ์ผ่อนคลายได้จริง อีกอย่างเมื่อรวมเข้ากับสมุนไพรตัวอื่นในตำรับยาของข้าน้อย น่าจะได้ผลชะงัด สามา

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 226

    เวินซื่อไม่กล้าเสี่ยงแต่นางไม่อาจต้านความรู้สึกผิดในใจ ดังนั้นนางจึงหนี“ขอโทษนะ ข้า...ข้าเพิ่งนึกได้กะทันหันว่ามีธุระยังไม่ได้จัดการ วันนี้ข้าขอตัวกลับก่อน ครั้งหน้าค่อยมาเยี่ยมเยียนใหม่!”เวินซื่อน้ำเสียงสั่นเครือ แทบจะวิ่งหนีไปต่อหน้าเป่ยเฉินหยวนหนีไปโดยไม่ทันกลับมามองเป่ยเฉินหยวนตะลึงอยู่ที่เดิมเขาหันมองร่างของเวินซื่อที่หายไปอย่างรวดเร็วตรงทางเข้า ยังไม่เข้าใจว่าตกลงเกิดอะไรขึ้นกันแน่“อู๋โยว...อู๋โยว!?”วินาทีต่อมา เขารีบหันหลังตามออกไปทันทีเดิมทีเวินซื่อคิดจะหนีกลับไปทันทีแต่นึกไม่ถึงว่าเป่ยเฉินหยวนจะตามออกมาอย่างไม่ลังเล แล้วขวางหน้านางไว้ชายร่างสูงใหญ่สีหน้าลนลาน “เป็นอะไร? ตกลงเมื่อครู่เกิดเรื่องใดขึ้นกันแน่? เหตุใดจึงต้องขอโทษข้า?”“ไม่มีอะไร ไม่มีอะไรทั้งนั้น ข้ามีธุระจริงๆ เป็นธุระด่วน! ตอนนี้ข้าต้องกลับแล้วจริงๆ ดังนั้นท่านให้ข้ากลับไปเถอะนะ!”เวินซื่ออยากเดินอ้อมเขาออกไปทว่าถูกเป่ยเฉินหยวนขวางไว้อีกครั้ง แต่ครั้งนี้เป่ยเฉินหยวนไม่ได้ทำให้นางลำบากใจ“เอาเถอะ ข้ารู้แล้ว ท่านอยากกลับก็กลับไป แต่เจ้าฟังท่านพูดก่อนสักคำได้หรือไม่?”เป่ยเฉินหยวนก้มหน้าล

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 227

    เมื่อเขาเอ่ยปาก เป่ยเฉินหยวนพอจะคาดเดาบางอย่างสีหน้าของเขาเยือกเย็นทันใด น้ำเสียงที่ดังขึ้นเต็มไปด้วยความกดดัน “ข้าเคยบอกแล้วไม่ใช่หรือว่าห้ามพูดถึงเรื่องนั้นอีก!”หลินจื่อฟูรีบกล่าว “ปรักปรำแล้วพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่ม คือ...คือธิดาศักดิ์สิทธิ์นำหญ้าคืนวสันต์มามอบให้พอดี อีกทั้งนางยังเป็นคนเอ่ยถามก่อน”สีหน้าถมึงทึงของท่านอ๋องช่างน่ากลัวเหลือเกิน!เป่ยเฉินหยวนหันมองเกาเย่าที่อยู่ด้านหลังหลินจื่อฟู แล้วสอบถามทางสายตาเกาเย่าที่ต้านทานสายตาของท่านอ๋องไม่ไหวลอบกลืนน้ำลาย แล้วพยักหน้าตอบ “ธิดาศักดิ์สิทธิ์เป็นฝ่ายเอ่ยถามก่อนจริงๆ ที่สำคัญคือวันนี้นางนำของขวัญมามอบให้ท่านอ๋องโดยเฉพาะ ซ้ำยังเป็นหญ้าคืนวสันต์ที่ท่านต้องการมากที่สุดด้วยพ่ะย่ะค่ะ”เรื่องนี้เขากับหลินจื่อฟูเองก็นึกไม่ถึงทว่าเขารู้ดีว่าหลินจื่อฟูคิดสิ่งใดอยู่เดิมทีเมื่อครั้งที่ธิดาศักดิ์สิทธิ์มอบสมุนไพรล้ำค่าเห็ดหลินจือสีม่วงร้อยปีให้ท่านอ๋องนั้น พวกเขาก็เคยคิดเช่นกันว่าจะลองสอบถามหญ้าคืนวสันต์กับธิดาศักดิ์สิทธิ์ดูหรือไม่เพราะหลินจื่อฟูมั่นใจกลิ่นของหญ้าคืนวสันต์บนเห็ดหลินจือสีม่วงร้อยปีมาก แน่ใจว่าธิดาศ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 228

    เป่ยเฉินหยวนโบกมือแม้จะโกรธ แต่เขาไม่ได้โทษพวกหลินจื่อฟูสองคน“พวกเจ้าเองก็ผิดพลาดเพราะเป็นห่วง ต่อไปอย่าให้เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นอีก”พรุ่งนี้เขาไปอธิบายกับอู๋โยวให้ชัดเจนก็พอหากให้เจ้าเซ่อสองคนนี้ไป ไม่รู้ว่าจะกลายเป็นอย่างไรอีกเกาเย่ากับหลินจื่อฟูโล่งอกทันทีโชคดีที่ท่านอ๋องไม่ได้โกรธจริงทว่าวินาทีต่อมา เป่ยเฉินหยวนกลับส่งสายตาให้ทั้งสองคน “คืนนี้พวกเจ้าสองคนไปห่อเมล็ดพันธุ์สมุนไพร ห่อไม่เสร็จห้ามนอน!”เกาเย่า หลินจื่อฟู “....พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง”ทางนี้ยามจวนอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนกุลีกุจอไปห่อเมล็ดพันธุ์สมุนไพร อีกด้านหนึ่งจวนเจิ้นกั๋วกงก็ ครึกครื้นไม่แพ้กัน “หาเจอหรือยัง?”“ยังหาไม่เจอ จนป่านนี้ก็ยังไม่มีข่าวคราวสักนิด!”“จะเป็นไปได้อย่างไร? คนทั้งคนขนาดนั้น จู่ๆ จะหายไปอย่างไร้ร่องรอยได้หรือ? !”ช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมา จวนเจิ้นกั๋วกงใกล้จะเละเป็นโจ๊กเมื่อครึ่งเดือนก่อนหลังได้กินยาถอนพิษ เวินจื่อเยวี่ยที่ฟื้นขึ้นหลังกินยาถอนพิษได้รับรู้ในไม่ช้า ปกติน้องสาวที่เขารักและเอ็นดูมากที่สุดคือคนวางยาพิษเขา!หนำซ้ำยังเป็นยาพิษร้ายแรงหากสุดท้ายไม่บีบจนเวินเยวี่ยมอบยาถอนพ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 229

    “แค่ก แค่ก มีความเป็นไปได้จริง”เวินอวี้จือที่อยู่ด้านข้างซึ่งร่างกายอ่อนแอ ไอสองทีแล้วกล่าวอย่างเชื่องช้าเวินฉางอวิ้นชะงักไป ขมวดคิ้วอย่างสงสัย “ใครจะใจกล้าบังอาจลักพาตัวน้องหก?”หนำซ้ำยังมาลักพาตัวถึงในจวนเจิ้นกั๋วกงของพวกเขาอย่าว่าแต่ข้างนอก ต่อให้ทั่วทั้งเมืองหลวงก็คงมีเพียงไม่กี่คนที่กล้าทำเช่นนี้เวินอวี้จือกล่าวเสียงเรียบ “ใครว่าไม่มีล่ะ เมื่อครึ่งเดือนก่อนยังมีคนกล้านำกองทัพธงดำมาตรวจค้นจวนเจิ้นกั๋วกงของพวกเราเลยนี่”คำกล่าวนี้แค่ฟังก็รู้ว่าเขาหมายถึงเป่ยเฉินหยวนทว่าเวินเฉวียนเซิ่งกลับส่ายหน้า“ไม่น่าจะใช่เขา”เวินอวี้จือยิ้มเย็น “แล้วท่านพ่อมั่นใจเพียงนั้นได้อย่างไรขอรับ?”เวินเฉวียนเซิ่งเหลือบมองลูกชายที่ขี้โรคอ่อนแอคนนี้แวบหนึ่ง “เป่ยเฉินหยวนไม่เคยใช้วิธีลับหลังเช่นนี้ หากเขาอยากจับตัวเยวี่ยเอ๋อร์ คงมาจับตัวไปอย่างเปิดเผย เหมือนกับเมื่อครึ่งเดือนก่อนที่ตรวจค้นจวนเจิ้นกั๋วกง ยิ่งเหมือนกับก่อนหน้า ที่เปลี่ยนรับเป็นรุกไปปิดคดีในจวนจงหย่งโหว”แม้เขาจะไม่ถูกกับเป่ยเฉินหยวนอ๋องผู้สำเร็จราชการแทน ทว่าเป็นอริกันมานานขนาดนี้ ก็ถือว่าพอเข้าใจวิธีการของอีกฝ่ายดังนั้นเวิ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 230

    เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เพียงโกรธบิดาตัวเอง ยังโกรธเวินจื่อเยวี่ยด้วยเมื่อครู่ที่ไม่ได้ว่าเวินจื่อเยวี่ยตั้งแต่แรก เป็นเพราะน้องหกได้สั่งสอนเวินจื่อเยวี่ยไปแล้วแต่เมื่อเวินจื่อเยวี่ยกล่าวเช่นนี้ออกมา เวินฉางอวิ้นที่เดิมทียังโน้มน้าวทุกคนเป็นอย่างดีขมวดคิ้วทันใดเขาโต้แย้งอย่างไม่เห็นด้วย “น้องห้าไม่ได้ทำอะไรผิด แล้วเรื่องนี้ไปเกี่ยวกับนางได้อย่างไร?”เวินจื่อเยวี่ยกับเวินอวี้จือนึกไม่ถึงว่าพี่ใหญ่ของพวกเขาเป็นถึงขั้นนี้แล้ว ที่ช่วยพูดแทนเวินซื่อ“พี่ใหญ่ ท่านต้องเข้าใจนะ เวินซื่อนางวางยาพิษควบคุมข้านะ!”เวินฉางอวิ้นถอนหายใจ “บางทีนางอาจจะควบคุมเจ้าจริง แต่พวกเจ้าลืมไปแล้วหรือ หากตอนแรกพวกเจ้าไม่ร่วมมือกันวางแผน ถ่อไปถึงอารามสุ่ยเยว่เพื่อวางยาน้องห้า คิดจะบังคับพาตัวนางกลับมา แล้วนางจะวางยาพิษเจ้าได้อย่างไร?”เมื่อได้ยินดังนั้น เวินจื่อเยวี่ยกับเวินอวี้จือกลายเป็นใบ้ทันทีเพราะพวกเขาลืมตอนเริ่มต้นของเรื่องนี้เสียสนิทโดยเฉพาะเวินอวี้จือ จนกระทั่งตอนนี้เขาก็ยังเกลียดชังเวินซื่อ เพราะนางทำให้เขากลายเป็นคนใบ้และคนพิการเกือบหนึ่งเดือนเต็มทั้งวัน เขาพูดไม่ได้ ขยับตัวก็ไม่ได้ความทรม

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 231

    “ท่านพ่อพูดเช่นนี้ หมายความว่ามีหลักฐานอะไรบางอย่างแล้วหรือ?”เวินเฉวียนเซิ่งเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา “หลักฐานไม่มีหรอก แต่เจ้าหกได้ทำบางเรื่องก่อนที่จะหายตัวไป”“เรื่องอันใด?”เวินจื่อเยวี่ยและเวินอวี้จือเอ่ยถามด้วยความสงสัยเวินเฉวียนเซิ่งหลับตาลง “นางให้สาวใช้ไปเรียกอันหลันซินมาที่จวน”ตอนแรกเวินเยวี่ยคิดว่าจะไม่มีใครรู้เรื่องนี้แต่นางไม่รู้เลยว่า เดิมทีเซียงเหอนั้นเป็นคนที่เวินเฉวียนเซิ่งจัดหามาให้นางนางเรียกเซียงเหอไปพาอันหลันซินมา เวินเฉวียนเซิ่งจะไม่รู้ได้อย่างไรกัน?“อันหลันซิน?”เป็นเวลานานแล้วที่ไม่ได้ยินชื่อนี้ เวินฉางอวิ้นสามพี่น้องในตอนแรกที่ยังไม่ทันได้ตอบสนอง ต่างตกตะลึงไปครู่หนึ่งจากนั้นเวินจื่อเยวี่ยเป็นคนแรกที่นึกขึ้นได้ เขาขมวดคิ้วพลางกล่าวว่า “คืออันหลันซินคนที่เคยผลักเวินซื่อตกน้ำอย่างนั้นหรือ?”“อืม เป็นนาง”สีหน้าของเวินฉางอวิ้นพลันเปลี่ยนไป สายตาฉายแววโกรธเกรี้ยว “น้องหกนางต้องการทำอะไร? เหตุใพดจึงต้องเรียกคนผู้นั้นมาที่จวน?”คราวนั้น อันหลันซินนั่นทำร้ายน้องห้าจนเกือบตายแล้ว!หากมิใช่เพราะว่ามีคนพบเห็นได้ทันเวลา เกรงว่าตอนนี้น้องห้าอาจจะไม่อยู่บนโลก

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 232

    เวินจื่อเยวี่ยและเวินอวี้จือที่จู่ๆ นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาได้ สีหน้าก็บึ้งตึงในทันที“นางกล้า!”“นางไม่มีทางทำเช่นนั้นหรอก!”ตรงกันข้ามกับความโกรธเกรี้ยวของเวินจื่อเยวี่ย คือความเชื่อมั่นที่เวินฉางอวิ้นมีต่อเวินซื่อเวินฉางอวิ้นโมโหราวกับไฟลุกโชน ในใจเต็มไปด้วยความไม่ยุติธรรมแทนน้องสาว “ถึงแม้น้องห้าจะเคยก่อเรื่องวุ่นวาย และทำผิดพลาดไปบ้าง แต่นางไม่เคยหาเรื่องใครก่อน และยิ่งไม่เคยทำเรื่องเกินเลยแบบนี้!”“ท่านพ่อ ข้ารู้ว่าท่านลำเอียงเข้าข้างน้องหก แต่น้องห้าก็เป็นลูกสาวแท้ๆ ของท่านมิใช่หรือ? ท่านพูดเช่นนี้ ไม่รู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมกับน้องห้าบ้างหรือ?”“ข้าตัดสินจากข้อเท็จจริง พูดเพียงแค่ความเป็นไปได้ ไม่ได้บอกว่าเป็นเช่นนั้นแน่นอน”เวินเฉวียนเซิ่งจิบชาที่ทิ้งไว้จนเย็นหนึ่งอึก พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยเช่นเดิมเวินฉางอวิ้นใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ “ตัดสินจากข้อเท็จจริง? สงสัยลูกสาวแท้ๆ ของตัวเอง นี่คือสิ่งที่ท่านเรียกว่าการตัดสินจากข้อเท็จจริงอย่างนั้นหรือ? ท่านพ่อ น้องห้าไม่ใช่นักโทษ!”จนกระทั่งตอนนี้ ในที่สุดเวินฉางอวิ้นก็เข้าใจว่า เหตุใดน้องรองถึงได้ตัดสินใจอย่าง

Latest chapter

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 550

    ถึงขั้นเอาอีกฝ่ายมาข่มขู่เวินจื่อเยวี่ย ทำให้เวินจื่อเยวี่ยต้องเลือกระหว่างนางและหลินเนี่ยนฉือแล้วนางสารเลวที่ยังไม่เดินผ่านประตูเข้ามาจะเอาอะไรมาเทียบกับนาง!เวินเยวี่ยโกรธจัดจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ในเสี้ยววินาทีที่ก้มศีรษะลง สายตาอาบยาพิษช่างน่าสะพรึงกลัว“ยุแยงตะแคงรั่ว?”เวินซื่อแค่รู้สึกว่าคำพูดของเวินจื่อเยวี่ยน่าขบขันมาก “มีเพียงคนที่มีหัวใจเท่านั้นถึงจะรู้สึกว่าใคร ๆ ก็เป็นเช่นนี้”นางเหลือบมองเวินเยวี่ยแวบหนึ่งอย่างเฉยชา ก่อนจะเอ่ยอย่างไม่แยแส “ท่านคิดว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้จะใช้พวกท่านไปก่อกวนความสงบของนางหรือ? ฝันไปเถอะ พวกท่านยังไม่คู่ควร”“เหอะ พูดเสียน่าฟัง ถ้าไม่ใช่เพราะจดหมายที่เจ้าเขียนไปฟ้อง หลินเนี่ยนฉืออยู่ที่อู๋โจวอยู่ดี ๆ จะเข้ามาที่เมืองหลวงทำไม? แล้วยังต้องการถอนหมั้นกับข้าอีก?!”ถึงตอนนี้เวินจื่อเยวี่ยยังคงเชื่อว่าเวินซื่อไปพูดอะไรกับหลินเนี่ยนฉือ ถึงทำให้หลินเนี่ยนฉือทำเช่นนั้น“ท่านคิดว่าข้อมูลในใต้หล้านี้มีสิ่งใดที่สามารถปิดบังได้อย่างนั้นหรือ? จวนเจิ้นกั๋วกงของพวกท่านได้ทำเรื่องที่น่าอับอายขายขี้หน้า ไร้ยางอายมาไม่น้อย แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงตั้งน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 549

    อูฐผอมซูบยังตัวใหญ่กว่าม้าการจะทำลายจวนเจิ้นกั๋วกงอันใหญ่โตแห่งนี้โดยอาศัยแมลงเพียงไม่กี่ตัว มันเป็นไปไม่ได้เลยแน่นอน มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างสิ้นเชิงเพียงแต่ราคาที่ต้องจ่ายนั้นสูงเกินไปอย่างเช่นการหมั้นหมายระหว่างจวนเจิ้นกั๋วกงและสกุลหลินเมื่อจวนเจิ้นกั๋วกงถูกกล่าวหาว่าสมคบคิดกับชาวต่างเผ่า เวินเฉวียนเซิ่งจะต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อชำระล้างให้หลุดพ้นจากข้อกล่าวหานี้และวิธีการที่ดีที่สุดก็ต้องเป็นการดึงผู้คนให้เข้ามาพัวพันมากขึ้นสกุลหลินที่ยังมีการหมั้นหมายกับจวนเจิ้นกั๋วกงเป็นกลุ่มแรกที่รับศึกหนัก โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างหลินเนี่ยนฉือและเวินซื่อ และจะกลายเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เวินเฉวียนเซิ่งดึงสกุลหลินให้ลงมาพัวพันด้วยดังนั้นก่อนจะยุติการหมั้นหมายระหว่างหลินเนี่ยนฉือและเวินจื่อเยวี่ย เวินซื่อยังไม่สามารถทำอะไรบุ่มบ่ามได้ทว่า ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถแตะต้องจวนเจิ้นกั๋วกงได้ แต่การมีเวินเยวี่ยเพียงคนเดียวก็ไม่ใช่เรื่องที่เสียหาย“หมั้น...หมั้นหมาย?”ในขณะนี้ เสียงที่สับสนของเวินเยวี่ยก็ดังขึ้นจากทางด้านหลังของ เวินจื่อเยวี่ย“พี่สาม ท่านหมั้นกับใครตั้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 548

    “ท่าน…!”เวินเยวี่ยลมแทบจับเมื่อได้ยินที่เวินซื่อพูดนางข่มไฟโทสะเอาไว้ “ธิดาศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่คนของกองทัพธงดำเสียหน่อย ให้ท่านมาทำการค้นหา ไม่น่าจะเหมาะสมกระมัง?”เวินเยวี่ยฝืนยิ้ม “ท้ายที่สุดแล้วบุญคุณความแค้นระหว่างพี่หญิงห้ากับเยวี่ยเอ๋อร์นั้นเป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งกันทั่วทุกคน ถ้าเกิด…”ประโยคสุดท้ายนี้ไม่ได้พูดออกมาทั้งหมด แต่ก็สามารถเข้าใจทุกอย่างที่ควรเข้าใจถ้าเกิดเวินซื่อเข้าไปวางกลอุบายบางอย่างเพื่อใส่ร้ายนางแล้วจะทำเช่นไร?เวินซื่อหันหน้าไปเผชิญหน้ากับเวินเยวี่ย รอยยิ้มเล็ก ๆ เผยออกมาบนใบหน้าอันบริสุทธิ์ผุดผ่องและงดงามของนาง “ข้าไม่ต่ำช้าไร้ยางอายเหมือนเจ้า”ใบหน้าของเวินเยวี่ยสลดลงเพราะดำด่าของนางทันทีแต่วินาทีต่อมาก็ได้ยินเวินซื่อพูดว่า “แต่ว่านี่มันก็เป็นปัญหาจริง ๆ ในเมื่อคุณหนูหกสกุลเวินเป็นกังวลเช่นนี้ เช่นนั้นข้าธิดาศักดิ์สิทธิ์ก็ขอยืนค้นหาอยู่ที่ประตูแล้วกัน”ยืนค้นหาอยู่ที่ประตูหรือ?แล้วจะค้นหาอย่างไร?ขณะที่เวินเยวี่ยและคนอื่น ๆ กำลังงุนงง เวินซื่อก็พลิกฝ่ามือ ก่อนจะหยิบขวดหยกขวดหนึ่งออกมาจากกลางฝ่ามือของนางฉางเสี่ยวหานก้าวเข้าไปรับขวดหยกจากมือของเว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 547

    “เหลวไหลสิ้นดี!”แววอันตรายฉายผ่านดวงตาอันคมกริบของเวินเฉวียนเซิ่งในทันใดเขาจ้องไปที่รถม้าที่เวินซื่อนั่งอยู่ สายตามองทะลุช่องว่างของม่านหน้าต่าง พลางชี้ตรงไปที่เวินซื่อ “เวินซื่อ เจ้ารู้ไหมว่าเจ้ากำลังทำอะไรอยู่? เจ้ากำลังใส่ร้ายขุนนางในราชสำนักซึ่งเป็นความผิดร้ายแรง!”“หากเจ้าไม่สามารถแสดงหลักฐานใด ๆ ได้ ต่อให้เจ้าจะเคยเป็นลูกสาวของข้า ข้าก็จะไม่ปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ เด็ดขาด!”“เจิ้นกั๋วกงไม่จำเป็นต้องใจร้อนขู่ขวัญเช่นนี้”ว่าแล้วเวินซื่อก็ยกมือขึ้นเปิดม่านรถแล้ว เดินออกมาจากด้านในอย่างช้า ๆเสี่ยวหานก้าวไปข้างหน้าอย่างมีไหวพริบ ทำตามสาวใช้เหล่านั้น เอื้อมมือออกไปช่วยประคองธิดาศักดิ์สิทธิ์ของนางลงจากรถม้าช้า ๆหลังจากลงสู่พื้นและยืนได้อย่างมั่นคงแล้ว เวินซื่อก็เงยหน้าขึ้นมองเวินเฉวียนเซิ่งผ่านกองทัพธงดำ นางยิ้มเล็กน้อย “ถ้าธิดาศักดิ์สิทธิ์ไม่มีหลักฐาน วันนี้จะกล้านำกองกำลังไปปิดล้อมจวนเจิ้นกั๋วกงของท่านได้อย่างไร”การทำงานตามคำสั่งส่วนตัวของอ๋องผู้สำเร็จราชการเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การทำงานตามพระราชโองการของฝ่าบาทก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งเวินซื่อยกมือขึ้น รับพระราชโองการจากมือของกองทัพ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 546

    ให้อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนมาหนุนหลังนางแล้วอย่างไรต่อ เขาไม่เชื่อว่า อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนผู้สง่างามจะบังคับเขาให้ถอนหมั้นได้อย่างนั้นหรือ!เมื่อเวินเฉวียนเซิ่งได้ยินเวินจื่อเยวี่ยพูด ก็มองเขาแวบหนึ่งอย่างเย็นชา “เจ้าควรคิดหาวิธีช่วยพี่ใหญ่ของเจ้าก่อนดีกว่า ถ้าครั้งนี้พี่ใหญ่ของเจ้าตาย ก็อย่าได้คิดเรื่องหมั้นหมายเลย ข้าเวินเฉวียนเซิ่ง ไม่มีลูกชายที่ใจไม้ไส้ระกำอย่างเจ้า”ใบหน้าของเวินจื่อเยวี่ยขรึมลงทันทีเขารู้ว่าลูกชายคนโปรดของบิดาไม่ใช่เขา แต่เป็นพี่ใหญ่ที่บิดาเลี้ยงดูอย่างสุดชีวิตจิตใจแต่เขานึกไม่ถึงว่ามาถึงขั้นนี้แล้ว บิดาจะยังโหดร้ายถึงเพียงนี้ เอาการหมั้นหมายของเขามาข่มขู่เขาเวินจื่อเยวี่ยไม่ได้พูดอะไรอีกแต่ในขณะนี้ พ่อบ้านนั้นพูดด้วยสีหน้าขมขื่น “ท่านกั๋วกง คุณชายสาม ครั้งนี้ผู้ที่นำกองทัพธงดำมาไม่ใช่ท่านอ๋องขอรับ”เมื่อได้ยินคำพูดนี้เวินเฉวียนเซิ่งก็หันกลับไปหาพ่อบ้าน “ไม่ใช่เป่ยเฉินหยวนหรอกหรือ? แล้วใครล่ะ?”นอกจากฮ่องเต้น้อยและเป่ยเฉินหยวนเองแล้ว ยังมีใครอีกที่สามารถระดมกองทัพธงดำ ถึงขั้นกล้าปิดล้อมจวนเจิ้นกั๋วกงของเขาได้?ขณะที่เวินเฉวียนเซิ่งกำลังครุ่นคิดในหัวว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 545

    “เสี่ยวหาน ให้ข้าดูหน้าเจ้าหน่อยสิ”หลังจากขับไล่เวินเฉวียนเซิ่งและเวินจื่อเยวี่ยออกไปแล้ว เวินซื่อก็ดึงฉางเสี่ยวหานเข้ามา“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ตบไม่โดนหน้า ข้าหลบได้นิดหน่อย แค่ตบโดนหัวเท่านั้น”ถึงกระนั้น การตบของเวินจื่อเยวี่ยก็หนักหน่วงมาก จนศีรษะของฉางเสี่ยวหานถึงกับสั่นคลอนในตอนนั้น ใช้เวลาสักพักกว่าจะตอบสนองได้“เจ้าไม่ต้องกังวล การตบครั้งนี้ข้าจะต้องเอาคืนเขาอย่างแรงแน่นอน”สีหน้าของเวินซื่อเคร่งขรึมลง น้ำเสียงไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งฉางเสี่ยวหานลุกขึ้นกล่าวว่า “ไม่ ๆ ๆ ไม่ต้องหรอกธิดาศักดิ์สิทธิ์ เมื่อครู่ท่านช่วยตบคืนแทนเสี่ยวหานแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำอะไรอีกเจ้าค่ะ”ฉางเสี่ยวหานรู้จักคนในเมืองหลวงน้อยมาก แต่หลังจากติดตามเวินซื่อมาเป็นเวลานาน ก็ได้เรียนรู้เรื่องต่าง ๆ มากขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดที่ธิดาศักดิ์สิทธิ์พูดกับสองพ่อลูกคู่นั้นเมื่อครู่ ก็ย่อมสามารถคาดเดาตัวตนของพวกเขาได้อย่างง่ายดายคนหนึ่งคืออดีตบิดาของธิดาศักดิ์สิทธิ์ อีกคนคืออดีตพี่ชายของธิดาศักดิ์สิทธิ์ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขานั้นย่ำแย่มากพออยู่แล้ว หากธิดาศักดิ์สิทธิ์ต้องทะเลาะกับพี่ชายหนักขึ้นด้วยเรื่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 544

    เขาขบริมฝีปากล่างแน่น กัดปากของตัวเองแตกเหมือนไม่รู้สึกตัว ปล่อยให้เลือดไหลลงจากมุมปากช้า ๆ“หลินเนี่ยนฉือล่ะ?”เวินจื่อเยวี่ยเอ่ยปากถามขึ้นทันใด“ข้าอยากพบนาง”“นางไม่อยากพบท่าน”เวินซื่อเอ่ยขึ้นอย่างราบเรียบ“ข้าบอกว่าข้าอยากพบนาง!”เวินจื่อเยวี่ยตวาดลั่นอย่างฉุนเฉียวขึ้นมาทันใด พลางปัดมือของจางเสี่ยวหานออกมือของจางเสี่ยวหานถูกตีเจ็บ ตกใจสะดุ้งโหยง เมื่อนางรู้ตัวก็เอื้อมมือออกไปอีกครั้ง คว้าเพียงหนังสือถอนหมั้นฉบับนั้นไว้ส่วนจี้หยกก็ร่วงลงสู่พื้นดัง “ตุ้บ” ตามมาด้วยเสียงแตกหักดังขึ้น จี้หยกแยกออกเป็นสองส่วนทันทีเวินจื่อเยวี่ยที่ยังอยู่ในอาการฉุนเฉียวเมื่อได้ยินเสียงนี้อย่างกะทันหัน ก็ก้มหน้าลงมอง เกิดความสับสนขึ้นโดยพลันเขารีบเก็บจี้หยกขึ้นมา เมื่อมองดูรอยแตกหักนั้น ก็ไม่อาจยับยั้งไฟโทสะที่อัดอั้นอยู่เต็มอกไว้ได้ เพียงชั่วครู่ก็ระเบิดอารมณ์ใส่ฉางเสี่ยวหาน...“ใครให้เจ้าทำของของข้าพัง! เจ้าอยากตายหรือไง?!”“อะไรนะ? ไม่ใช่ข้า เป็นท่านต่างหากที่ปัดมือของข้าเอง...”“สาวใช้ต่ำต้อยอย่างเจ้ายังกล้าเถียงอีก!”เวินจื่อเยวี่ยลุกพรวดขึ้น สีหน้ามีรอยพยายาท ยกมือขึ้นตบหน้าฉางเส

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 543

    เวินจื่อเยวี่ยมองเวินเฉวียนเซิ่งอย่างไม่อยากจะเชื่อ “ท่านพ่อ พูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?”เวินจื่อเยวี่ยเงียบไปครู่หนึ่ง “เจ้าน่าจะเข้าใจ เจ้าสาม”“ข้าไม่เข้าใจ!”เวินจื่อเยวี่ยตวาดออกมาทันใด พลางจ้องมองไปที่บิดาของเขาอย่างไม่ละสายตาเวินเฉวียนเซิ่งถอนหายใจอีกครั้ง “แค่การหมั้นหมายเท่านั้น พ่อรู้ว่าเจ้าไม่เต็มใจยอมรับ แต่พี่ใหญ่ของเจ้ามีเวลาเหลือไม่มากแล้ว ถ้ายังไม่เอายากลับไปอีก เขาจะต้องตายในไม่ช้า”“เจ้าสาม เจ้าจะทนเห็นพี่ใหญ่ของเจ้าตายไปได้จริงหรือ?”เวินจื่อเยวี่ยที่ได้ยินคำพูดประโยคนี้ของเขาได้ถามด้วยเสียงอันสั่นเครือเล็กน้อย “ก็เลยต้องเสียสละการหมั้นของข้าเพื่อช่วยพี่ใหญ่อย่างนั้นหรือ? ทั้ง ๆ ที่เรายังมีวิธีอื่นอีก แต่ท่านก็ยังยืนกรานที่จะขอร้องเวินซื่อ?!”“ยังมีวิธีอื่นอีกหรือ?”สีหน้าของเวินเฉวียนเซิ่งเย็นชาลง น้ำเสียงแย่มาก “ไม่ว่าจะเป็นบัวหิมะก็ดี เห็ดหลินจือสีม่วงอายุหนึ่งร้อยปีก็ดี หรือหญ้าฝรั่นที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนด้วยซ้ำก็ดี เจ้าคิดว่ามีสิ่งไหนหาง่ายบ้าง?!”“หากพี่ใหญ่ของเจ้ายังยืดเวลาได้อีกครึ่งค่อนเดือน พ่อก็จะไม่รีบร้อนเช่นนี้! แต่นี่พี่ใหญ่ของเจ้าอาจตายได้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 542

    นางมองเวินเฉวียนเซิ่งอย่างเย็นชา “ท่านไม่มีคุณสมบัตินี้ตั้งนานแล้ว”“เวินซื่อ! จงระวังท่าทีในการพูดจาของเจ้าด้วย แม้ว่าตอนนี้เจ้าจะเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์แล้ว แต่ความสัมพันธ์พ่อลูกของเจ้ากับพ่อจะไม่มีทางเปลี่ยนแปลง อย่าลืมว่ายังมีเลือดของสกุลเวินไหลเวียนอยู่ในตัวเจ้า”“ใครบอกว่าเปลี่ยนแปลงไม่ได้?”เวินซื่อยิ้มเยาะ “ความสัมพันธ์นี้จะเปลี่ยนไปในไม่ช้า แต่ตอนนี้ขอวกกลับเข้าประเด็นก่อน ท่านเจิ้นจั๋วกง ท่านยังไม่ได้บอกตัวเลือกของท่านเลย ท่านวางแผนที่จะเลือกใครกันแน่?”ล้มเหลวในการเล่นกับอารมณ์ ล้มเหลวในการข่มขู่กลับมาสู่เงื่อนไขข้อแรกสุดอีกครั้ง สายตาของเวินเฉวียนเซิ่งเย็นชาลงระดับหนึ่งในทันใดเวินซื่อดูเหมือนจะมองไม่เห็นเลย เร่งรัดเขาด้วยอารมณ์ที่ดีมาก“ข้ามีเวลาไม่มากนัก ท่านเจิ้นจั๋วกงรีบตัดสินใจโดยเร็วที่สุดเถอะ มิฉะนั้นก็จะไม่มีการเจรจาใด ๆ อีกแล้ว”นางหันไปมองเวินเฉวียนเซิ่งด้วยรอยยิ้มตาหยี “‘พี่ใหญ่แสนดี’ ของข้าก็น่าจะมีเวลาไม่เพียงพอใช่ไหม?”“ถุย!”เวินจื่อเยวี่ยถ่มน้ำลายใส่นางอย่างรุนแรง “พี่ใหญ่ไม่มีน้องสาวที่ชั่วร้ายอย่างเจ้า!”“ถูกต้อง ข้าชั่วร้าย แต่ก็เทียบไม่ได้กับเว

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status