Share

บทที่ 204

Author: จิ้งซิง
เวินซื่อพยักหน้าอย่างว่าง่าย

รอจนกระทั่งเขาออกจากห้องไปเลี้ยวขวาและเข้าไปในห้องของตัวเองแล้ว เวินซื่อจึงปิดประตูแล้วเริ่มเก็บของ

ไม่นานนัก ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนก็มาเคาะประตู

“อู๋โยว เก็บของเรียบร้อยแล้วหรือยัง?”

เห็นได้ชัดว่ากำลังเร่งให้นางลงไปกินข้าวได้แล้ว

เวินซื่อที่เพิ่งปูเตียงเสร็จ “...”

ก็ได้ เมื่อเทียบกับท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนที่มักจะออกไปรบข้างนอก ความเร็วของนางช้ากว่าเล็กน้อยจริงๆ

ช่างเถอะ เดี๋ยวค่อยเก็บก็ได้

“มาแล้วๆ ”

เวินซื่อเปิดประตูเดินออกมา “ไปกันเถอะ ข้างบนนี้ยังได้กลิ่นอาหารมาจากข้างล่างเลย ดูเหมือนว่าจะทำเสร็จแล้ว”

ตอนนี้นางก็รู้สึกหิวขึ้นมาพอดีจริงๆ

เป่ยเฉินหยวนยิ้ม “ลืมบอกท่านไปเลย ในกล่องไม้บนรถม้ามีขนมอยู่เล็กน้อย ถ้าท่านหิวก็หยิบออกมากินได้”

เวินซื่อนั่งรถม้ามาทั้งวัน กลับไม่พบเรื่องนี้จริงๆ

ที่สำคัญรถม้าคันนั้นก็ไม่ใช่ของนาง คงไม่ดีที่จะไปค้นหาของในรถม้าของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต

เมื่อลงมาถึงชั้นล่าง เวินซื่อก็พบว่าบรรยากาศรอบตัวของเป่ยเฉินหยวนที่อยู่ข้างๆ เปลี่ยนเป็นน่าเกรงขามขึ้น

นางเงยหน้าขึ้นมอง จึงพบว่าไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไร มีแขก
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 205

    “เหตุใดจึงไม่กินเนื้อเลยสักนิด? กินแต่ผัก?”เป่ยเฉินหยวนทานข้าวอย่างรวดเร็วมาก หลังจากที่ทานเสร็จแล้ว ก็จ้องมองเวินซื่อกินข้าวตลอดพอจ้องมองอยู่แบบนี้ก็พบความผิดปกติ นังหนูคนนี้คีบแต่ผัก ทั้งซ้ายทีขวาที ไม่คีบเนื้อเลยไม่กินเนื้อแม้แต่ชิ้นเดียวทันใดนั้น เป่ยเฉินหยวนก็ขมวดคิ้วแล้วเอ่ยถาม “ท่านไม่ชอบกินเนื้อที่นี่หรือ?”เวินซื่อส่ายหน้า ยิ้มพลางเอ่ยขึ้น “ท่านอ๋องลืมไปแล้วหรือ ตอนนี้ข้าเป็นนักบวชนะ นักบวชกินเนื้อไม่ได้”เนื่องจากตอนนี้เวินซื่อไม่ได้สวมชุดสีฟ้าทะเล แต่เป็นชุดธรรมดา ดังนั้นเป่ยเฉินหยวนจึงไม่ได้นึกขึ้นได้ในทันทีหลังจากได้ยินคำพูดของนาง จึงตกตะลึงไปชั่วขณะ จากนั้นก็ขมวดคิ้วแน่นขึ้นกว่าเดิมเดิมทีนังหนูก็ตัวผอมอยู่แล้ว ทั้งผอมทั้งเล็ก ยังไม่กินเนื้ออีก ร่างกายจะเติบโตเต็มที่ได้อย่างไร?“กินไม่ได้สักนิดเลยหรือ?”เวินซื่อส่ายหน้า “กินไม่ได้”เป่ยเฉินหยวนพูดจาหว่านล้อม “ที่นี่ไม่ใช่อารามสุ่ยเยว่ ท่านแอบกินนิดหน่อยก็ได้”เวินซื่อยังคงส่ายหน้า “ไม่ได้หรอก ข้ารู้ว่าที่นี่ไม่ใช่อารามสุ่ยเยว่ แต่ข้าตั้งใจบำเพ็ญตบะ หากผิดศีลก็เท่ากับทำลายการบำเพ็ญตบะ”เมื่อได้ยินเช่นนี้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 206

    “พ่ะย่ะค่ะ”หลังจากสั่งการเสร็จ เป่ยเฉินหยวนก็หันหลังกลับขึ้นไปชั้นบน ระหว่างที่เดินผ่านปากทางบันไดก็เรียกเสี่ยวเอ้อร์ “ยกน้ำขึ้นมาสองถัง”“ดะ...ได้เลยขอรับ ข้าน้อยจะรีบไปเดี๋ยวนี้! เดี๋ยวนี้เลย!”เสี่ยวเอ้อร์ที่ตกใจกลัวจนวิญญาณแทบหลุดจากร่างรีบวิ่งกลับไปที่ห้องครัวเป่ยเฉินหยวนก้าวเท้ากลับขึ้นไปชั้นบน เดิมทีตั้งใจจะกลับไปที่ห้องของตัวเองก่อน เพื่อรออาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วค่อยมาหาเวินซื่อ เพื่อไม่ให้นังหนูตกใจแต่คาดไม่ถึงว่า เขาเพิ่งขึ้นมาถึงชั้นสามก็เห็นเวินซื่อนั่งอยู่หน้าประตูเป่ยเฉินหยวนประหลาดใจทันที “เหตุใดถึงมานั่งอยู่หน้าประตู? บอกให้ท่านกลับไปที่ห้องก่อนมิใช่หรือ?”“ก็รอท่านอยู่น่ะสิ เหตุใดตัวท่านถึงมีเลือดเยอะขนาดนี้ บาดเจ็บตรงไหนหรือไม่?”เมื่อเวินซื่อเงยหน้าขึ้น เห็นสภาพเช่นนี้ของเขา ก็รีบลุกขึ้นเดินเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง“ไม่เป็นไร ไม่ใช่เลือดของข้าหรอก”เป่ยเฉินหยวนยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย เมื่อเห็นว่านางเป็นห่วงเขา จึงรู้สึกอยากจะโอ้อวดสักหน่อย “พวกหัวมังกุท้ายมังกรพวกนั้น ต่อให้มาอีกสามสิบคน ก็อย่าหวังว่าจะทำร้ายข้าได้แม้แต่น้อย”เขาเ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 207

    เวินซื่อรู้มานานแล้วว่า ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนท่านนี้หล่อเหลาเพียงใด แต่นางไม่คิดว่าท่านอ๋องจะงดงามจนถึงขั้นมีเสน่ห์เย้ายวนใจเช่นนี้เวินซื่อรู้สึกว่าถ้าตนเองยังคงมองต่อไป คงจะเสียสมาธิแน่ๆนางรีบละสายตา แล้วเอ่ยขึ้นอย่างประหม่าเล็กน้อย “ทะ...ท่านอ๋อง ผมของท่านดูเหมือนจะยุ่งเหยิงเล็กน้อย หรือว่าจะมัดขึ้นดี? จะได้ไม่เกะกะตอนทายาบริเวณแผล”เดิมทีเป่ยเฉินหยวนก็จงใจทำเช่นนี้ดังนั้นเขาจึงไม่พลาดที่จะเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจของเวินซื่อในชั่วขณะนั้นคนที่ไม่เคยสนใจรูปลักษณ์ภายนอกของตัวเองในอดีต เวลานี้กลับเหมือนนกยูงรำแพนหาง อวดโฉมของตนเองอย่างต่อเนื่อง“หืม? อย่างนั้นหรือ? ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเกะกะหรือไม่ ท่านช่วยดูให้ข้าหน่อยเถอะ?”เป่ยเฉินหยวนพูดพลางเดินไปยืนหันหลังให้เวินซื่อ เสื้อคลุมเลื่อนหลุดลงมาครึ่งหนึ่ง เผยให้เห็นแขนที่แข็งแรงกำยำ และกล้ามเนื้อหลังที่นูนขึ้นมาเป็นมัดๆเวินซื่อคาดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนที่ปกติแล้วดูผอมบางเวลาที่สวมเสื้อผ้า ภายในเสื้อผ้ากลับซ่อนรูปร่างที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังเช่นนี้ไว้เวินซื่อมองจนรู้สึกว่าทุกส่วนในร่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 208

    เวินซื่อทายาให้เขาจนทั่วแผลแล้วจากนั้นเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “ท่านมีลูกน้องตั้งเยอะแยะมิใช่หรือ? ข้าไม่เชื่อว่าท่านไปหาพวกเขา แล้วพวกเขาจะไม่ยอมทายาให้”เป่ยเฉินหยวนได้แต่กางมืออย่างจนใจ “พวกเขาไม่กล้าหรอก แต่ข้าก็รังเกียจพวกเขา”ให้ชายชาตรีอะไรมาทายาให้เขา?ให้คนที่ตัวเองชอบมาทายาให้ถึงจะหวานที่สุดเป่ยเฉินหยวนพูดจาเอาใจเวินซื่อ “ท่านดูสิ หากไม่ใช่เพราะท่านเตือนข้าด้วยความใส่ใจเมื่อครู่ ข้าจะไปนึกได้อย่างไรว่าตัวเองมีแผล? ถ้าเป็นลูกน้องพวกนั้น พวกเขายิ่งหยาบกว่าข้าอีก ให้พวกเขาเตือนข้าก็เกรงว่าจะเป็นไปไม่ได้”ถึงแม้ว่าเดิมทีเขาจะไม่ได้บาดเจ็บอะไร แต่นังหนูของเขาก็ถือยารอเขาแล้ว ไม่มีแผลก็ต้องมี“เรื่องครั้งหน้าค่อยว่ากัน ตอนนี้หากท่านยังกล้าพูดจาเหลวไหลอีก ต่อไปอีกหลายวันข้าจะไม่ทายาให้ท่านแล้ว”ที่ทาอยู่นี่ใช่ยาที่ไหนกันเล่า?สิ่งที่ทาอยู่นี่คือน้ำผึ้งชัดๆ หวานไปถึงก้นบึ้งหัวใจของเป่ยเฉินหยวนแล้ว“ได้ๆ ฟังอู๋โยวทุกอย่าง”คำพูดนี้ทำให้เวินซื่อรู้สึกถึงบรรยากาศแปลกๆ อย่างบอกไม่ถูกนางอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นตีเป่ยเฉินหยวนสักทีเมื่อเป่ยเฉินหยวนหันกลับมามองนางด้วยความสง

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 209

    ตั้งแต่ชาติที่แล้ว นางก็รู้แล้วว่าเบื้องหลังของเวินเยวี่ยไม่ได้มีแค่นางคนเดียวและยังมีผู้ช่วยบางคนที่มารดาของนางทิ้งไว้ให้นางด้วยในบรรดาผู้ช่วยเหล่านี้ มีทั้งคนที่ใช้พิษและคนที่ฆ่าคนในตอนนั้น นางถูกคนพวกนี้ทำร้ายอย่างสาหัส มาถึงชาตินี้ เวินเยวี่ยส่งพวกเขาออกมาเร็วขนาดนี้ เห็นได้ชัดว่าเป็นสุนัขจนตรอกแล้วแต่นี่ยังไม่พออาศัยโอกาสนี้ นางจะบีบให้คนพวกนั้นที่อยู่เบื้องหลังของเวินเยวี่ยออกมาทั้งหมดอย่างไรก็ตาม แผนการนี้เป็นการยืมดาบฆ่าคน นางยังคงต้องชี้แจงกับคนคนหนึ่งเวินซื่อหันไปมองเป่ยเฉินหยวนที่อยู่นอกประตู “ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทน...”เมื่อรู้ว่าคนที่อยู่ข้างในคือจู๋เยวี่ย เป่ยเฉินหยวนที่เดิมทีตั้งใจจะเข้าไปดูก็หยุดอยู่ที่หน้าประตู ไม่ได้ล้ำเส้นเขาพิงประตูอย่างเกียจคร้าน นิ้วเรียวยาวบีบขวดยาเล็กๆ นั่นของเวินซื่อ หรี่ดวงตาคมเล็กน้อยจ้องมองเวินซื่อที่อยู่ในห้อง ดูเหมือนว่าจะยังรอให้เวินซื่อทายาให้เขาต่อแต่หลังจากได้ยินบทสนทนาข้างใน และได้ยินนังหนูเรียกเขาอย่างกะทันหัน หัวใจของเป่ยเฉินหยวนก็เต้นแรง ยกยิ้มมุมปาก“หืม? เป็นอะไรไป?”น้ำเสียงของเขาทุ้มต่ำ ฟังแล้วไพเราะอยู

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 210

    “ส่วนชื่อ...”เวินซื่อหันไปมองเวินเยวี่ยที่นอนอยู่บนพื้น ซึ่งใบหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึง จ้องมองนางอย่างไม่อยากจะเชื่อ แล้วค่อยๆ เอ่ยอย่างช้าๆ “ข้าจำได้ว่าเหมือนจะชื่อ...จินซือถู”ตามด้วยชื่อที่ถูกเอ่ยออกมาจากปากของเวินซื่อทีละคำ เข้าไปในหูของเวินเยวี่ย“อื้อๆๆ! อื้อ!”เวินซื่อส่งเสียงร้องตะโกนด้วยความโกรธและตกใจน่าเสียดายที่ปากของนางถูกเวินซื่อปิดเอาไว้ จึงไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้มิเช่นนั้นตอนนี้นางคงจะซักถามเวินซื่อว่า...เหตุใดเจ้าถึงรู้จักคนคนนั้น?!เหตุใดเจ้าถึงรู้จักรูปร่างหน้าตาของเขา แม้กระทั่งชื่อของเขา?!อันที่จริงนางจำได้ว่าจินซือถูไม่เคยปรากฏตัวในเมืองหลวงมาก่อน ยิ่งไม่เคยพบกับนังสารเลวเวินซื่อคนนี้!แต่เหตุใดนางถึงรู้จักจินซือถู?!ลักษณะที่นางบรรยายออกมานั้น เหมือนกับว่าเคยเห็นจินซือถูกับตาตัวเอง แต่นี่มันเป็นไปไม่ได้เลย!จินซือถูเป็นมือสังหารต่างเผ่าที่ท่านแม่ทิ้งไว้ให้กับนางเป็นไพ่ตายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของนาง!เพื่อซ่อนไพ่ตายใบนี้ นับตั้งแต่ที่นางกลับมาถึงจวนเจิ้นกั๋วกง นางก็ไม่ได้ติดต่อกับจินซือถูอีกเลยเพียงแต่ตอนนี้คนพวกนั้นในจวนเจิ้นกั๋วกงหลุดจากการคว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 211

    “ฮ่า ๆ ๆ ๆ ดูแล้วพี่ชายก็เป็นยอดบุรุษผู้กล้าที่พ่ายแพ้ต่อความงามของอิสตรีเช่นกัน แต่ในเมื่อเป็นหญิงทั้งสอง เหตุใดไม่เก็บเชลยศึกไว้เล่า เรามาแบ่งอย่างเท่าเทียม คนหนึ่งของท่าน อีกคนเก็บไว้ให้บรรดาพี่น้อง”ช่างเป็นคำพูดที่หยาบช้าสารเลว กินไม่เลือกหน้าแต่ถึงจะพูดเช่นนี้ แต่พี่ใหญ่หลี่กลับยังยืนอยู่ที่ประตูใหญ่ของหมู่บ้านภูเขา โดยไม่ได้คิดที่จะลงมา และไม่ได้เรียกใครไปเปิดประตูด้วยเห็นได้ชัดว่ายังไม่ค่อยไว้ใจจินซือถูมากนักขณะที่จินซือถูกำลังเคลื่อนไหวลับ ๆ พี่ใหญ่หลี่ก็แอบส่งสัญญาณมือไปยังด้านใน โจรจำนวนมากในหมู่บ้านภูเขาได้แอบล้อมรอบจินซือถูจากอีกฝั่งไว้แล้ว“พวกเจ้าอยากเก็บอีกคนไว้ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ แค่กลัวว่าเมื่อถึงเวลาแล้วพวกเจ้าจะไม่กล้า”ความเสียดสีเผยออกมาบนใบหน้าที่มีพลังชั่วร้ายของจินซือถู“โอ๊ะ? ฟังจากคำพูดนี้ของน้องชาย ดูเหมือนว่าจะมีตัวละครที่ไม่ธรรมดาอยู่ภายใน เหตุใดเมื่อครู่ถึงเอาแต่พูดถึงแต่ข้อดี และไม่บอกลู่ทางในนี้ให้เราทราบ?”พี่ใหญ่หลี่หรี่ตาลงทันใด พลางถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยดีนัก“แน่นอนก็เพราะว่า...ไม่จำเป็นต้องพูดให้คนตายฟัง”“อะไรนะ?! เจ้า...!”จิ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 212

    ผูกเสื้อคลุมไว้รอบตัว ตอนนี้อาหารก็เสร็จแล้วพอดี เกาเย่าถือชามใหญ่สองใบมาให้เวินซื่อและเป่ยเฉินหยวนก่อน“ท่านอ๋อง ธิดาศักดิ์สิทธิ์ กินอาหารได้แล้ว!”เวินซื่อรีบรับส่วนของตัวเองมา เห็นข้างในเต็มไปด้วยกับข้าวชามใหญ่ แค่ดมกลิ่นก็หอมฟุ้ง ทหารพ่อครัวที่ติดตามมาต้องเป็นพ่อครัวชั้นยอดแน่ ๆดูเหมือนจะรู้ว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์ที่พวกเขาคุ้มกันไม่กินอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ดังนั้นนอกจากอาหารมังสวิรัติที่มีอยู่แล้ว ยังทำน้ำแกงมังสวิรัติเพิ่มให้นางเป็นพิเศษด้วย น้ำแกงราดข้าว รสชาติดีมากเวินซื่อถือชามกินอย่างจริงจัง ในขณะที่ขบคิดเรื่องราวต่าง ๆ ภายในใจเมื่อไม่กี่วันก่อนมีการลอบสังหารเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ในวันนี้ตอนกลางวันกลับสงบลงอย่างฉับพลัน เหมือนกับความเงียบสงบก่อนเกิดมรสุมใหญ่“กำลังคิดอะไรอยู่หรือ?”เมื่อสังเกตเห็นว่านางดูใจลอย เป่ยเฉินหยวนที่กำลังกินอาหารอยู่ข้าง ๆ จึงถามขึ้น“ข้ากำลังสงสัยว่าคืนนี้คนเหล่านั้นจะมาอีกหรือไม่?”“คืนนี้พวกเขาจะมาแน่นอน”เป่ยเฉินหยวนเอ่ยอย่างมั่นใจเวินซื่อหันหน้าไปมองเขา ก่อนถามด้วยความใคร่รู้ “เหตุใดถึงมั่นใจนัก?”“เพราะต่อไปมีเพียงคืนนี้เท่านั้นที

Latest chapter

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 390

    สมุนไพรทั้งหมดนี้ในที่ดินกุยอวิ๋น เป็นสิ่งที่นางได้ตกลงไว้แล้วว่าจะมอบให้กับเป่ยเฉินหยวนเป็นสมุนไพรสำหรับทหารในกองทัพธงดำที่ออกรบเพื่อราชวงศ์ต้าหมิงมาหลายปี จนสุดท้ายร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล พิการ และเจ็บปวดบัดนี้ สมุนไพรที่ปลูกไว้ได้หนึ่งเดือนแล้วกลับถูกพวกเขาทำลายไปกว่าครึ่ง แถมยังไม่เว้นแม้แต่แปลงสมุนไพรร้ายกาจถึงเพียงนี้ นางจะกลืนความโกรธแค้นนี้ลงไปได้อย่างไรนางจะไม่ปล่อยคนที่เป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ไป และคนร้ายตรงหน้าเหล่านี้ นางก็จะไม่ปล่อยไปเช่นกัน“ท่านลุงหลาน ต้องรับพวกเขาให้ดี”ผู้เฒ่าหลานไม่คิดว่าเวินซื่อจะมีด้านนี้ด้วยเดิมทีเขาคิดว่าปกติแล้วคุณหนูน้อยผู้อ่อนโยนและใจดีมาโดยตลอดนั้น จะเหมือนกับคุณหนูใหญ่มากแต่คาดไม่ถึงว่า ภายใต้ความอ่อนโยนของคุณหนูน้อย จะยังมีด้านที่โหดเหี้ยมเช่นนี้ซ่อนอยู่ช่าง...เหมือนกับนายท่านในตอนนั้นไม่มีผิด!ดวงตาที่แก่ชราของผู้เฒ่าหลานฉายแววเฉียบคม จ้องมองเวินซื่อด้วยสายตาร้อนแรง ราวกับว่าเขามองเห็นภาพของเจ้าบ้านสกุลหลานในอดีตในตัวของนางมองจนหัวใจที่สงบนิ่งมานานหลายปีของเขาถึงกับรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมานายท่าน สกุลหลานของพวกเ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 389

    “รบกวนลุงหลานเริ่มจัดหาคนในวันพรุ่งนี้ ช่วงสองสามวันนี้ลำบากท่านแล้ว”“เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ไม่ลำบากหรอก เพียงแต่ว่าคนร้ายที่วางยาพิษยังจับตัวไม่ได้ หากพวกเราแก้ไขตอนนี้ เกรงว่าคนร้ายนั่นจะกลับมาอีก”เวินซื่อย่อมเข้าใจเรื่องนี้ดีนางยิ้มเล็กน้อย “ลุงหลานวางใจได้ พรุ่งนี้ท่านจัดหาคนได้เลย คืนนี้พวกเราจะจับคน”......คืนนั้นควรจะเป็นเวลาที่เข้าสู่ห้วงนิทรา แต่กลับมีคนจำนวนหนึ่งถือถังไม้คนละใบ หลบเลี่ยงคนลาดตระเวนเหล่านั้นอย่างเงียบๆ พวกเขาแอบเข้าไปในที่ดินกุยอวิ๋นอีกครั้งอย่างชำนาญ“หัวหน้า เมื่อวานพวกเราสาดยาพิษที่แปลงสมุนไพรทางตะวันออก ทางใต้ก็สาดไปหลายแห่งแล้ว คืนนี้จะเปลี่ยนไปสาดทางตะวันตกหรือทางเหนือดี?”“ได้ ไปดูทางตะวันตกก่อนก็แล้วกัน ถึงอย่างไรคุณชายสามก็บอกว่าต้องสาดให้หมด ต้องทำหมดทุกทาง”ดังนั้น คนร้ายที่ปิดบังใบหน้าทั้งเจ็ดแปดคนจึงอ้อมผ่านไปอย่างมีจุดมุ่งหมาย มุ่งหน้าไปยังทิศตะวันตกไม่นานนัก พวกเขาก็วิ่งมาถึงที่หมาย“เจ้าสอง เจ้าสาม พวกเจ้าสองคนไปดูต้นทาง มีอะไรก็รีบเป่านกหวีด เจ้าสี่ เจ้าห้า เจ้าหก พวกเจ้าสามคนไปตักน้ำ เจ้าเจ็ด เจ้ามาทำลายสมุนไพรกับข้า”“ได้เลย

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 388

    “คนร้ายกระจอกๆ พวกนั้นจับตัวได้หรือไม่?”“พวกที่มาครั้งแรกจับได้แล้วขอรับ แต่ไม่กี่วันต่อมา ก็มีมาอีกสองสามคน แถมยังระมัดระวังตัวยิ่งกว่า เจ้าเล่ห์มาก พิษที่เทในแปลงสมุนไพรก็เป็นฝีมือของพวกที่มาครั้งที่สองนี้”เวินซื่อเอ่ยถาม “มีคนได้รับผลกระทบบ้างหรือไม่?”ผู้เฒ่าหลานส่ายหน้า “ยาพิษที่เทนั้นดูเหมือนจะมุ่งเป้าไปที่แปลงสมุนไพรของเราเท่านั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อคนมากนัก”เวินซื่อแค่นหัวเราะ “หากวางยาพิษคน เรื่องนี้คงไม่ง่ายดายเช่นนี้แล้ว”หลังจากที่นางทราบเรื่องราวทั้งหมดแล้วก็กำชับว่า “รบกวนลุงหลานเดินทางรอบนี้ ตอนนี้ฟ้ายังไม่มืด ข้าจะไปดูที่ดินกุยอวิ๋นก่อน”ม่อโฉวซือไท่ก็อยู่ด้วยพอดี นางได้ยินดังนั้นจึงเอ่ยขึ้นว่า “อาจารย์จะไปกับพวกเจ้าด้วย ไปดูสักหน่อย”“ข้าก็ไปด้วยๆ !”ฉางเสี่ยวหานรีบยกมือออกจากอารามสุ่ยเยว่ ก็มีรถม้าเรียบง่ายคันหนึ่งจอดรออยู่ด้านนอกนี่เป็นสิ่งที่เวินซื่อสั่งให้ผู้เฒ่าหลานจัดหาระยะทางระหว่างที่ดินกุยอวิ๋นถึงอารามสุ่ยเยว่ก็ไม่ถือว่าใกล้ จะให้พ่อบ้านหลานที่อายุมากแล้วเดินไปเดินมาก็คงไม่ได้ดังนั้น เวินซื่อจึงให้ผู้เฒ่าหลานจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกบางอย่าง เ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 387

    เป่ยเฉินหยวนไม่คิดว่านางจะยังจำเรื่องนี้ได้ และยังจัดสรรที่ดินไว้ให้เขาแล้วเขารู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่งอู๋โยวที่ดีเช่นนี้ เขาจะไม่หวั่นไหวได้อย่างไร?เพียงแต่ว่าคนสกุลอันนั่นพูดถูก เขามีความคิดต่ำทราม หากถูกคนอื่นรู้เข้า นั่นก็เท่ากับทำลายการปฏิบัติธรรมของผู้อื่น ทำลายชื่อเสียงอันบริสุทธิ์ของผู้อื่น เป็นเรื่องที่เลวทรามอย่างยิ่งดังนั้น เป่ยเฉินหยวนในตอนนี้จึงทำได้เพียงเก็บซ่อนไว้อย่างระมัดระวังเมื่อไม่มีอันหลันซิน ขบวนก็ไม่ได้ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย ไม่นานก็ออกเดินทางต่อสองวันต่อมา ขบวนที่เดินทางไกลไปยังลู่โจวในที่สุดก็กลับมาถึงเมืองหลวงแล้วครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อน ฝ่าบาททรงนำเหล่าขุนนางมาต้อนรับที่ประตูเมืองหลวงด้วยพระองค์เองสถานการณ์ยิ่งใหญ่เอิกเกริกเช่นนี้ ทำเอาเวินซื่อตกใจไม่น้อยภายหลังเวินซื่อถึงได้รู้ว่า ที่แท้ข่าวคราวจากลู่โจวก็แพร่เข้ามาถึงในเมืองหลวงแล้วหลังจากขอฝนที่จินโจวแก้ปัญหาภัยแล้งได้แล้ว เวินซื่อก็มีชื่อเสียงเรื่องการสวดอธิษฐานขอพรให้ผู้ประสบภัยพิบัติที่ลู่โจวเพิ่มขึ้นมาอีกตอนนี้ชื่อเสียงของนางไม่ได้เลื่องลือแค่ในเมืองหลวงและจินโจวสองแห่งเท่าน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 386

    ภายในป่า เงียบสงบไปครู่หนึ่ง ถึงมีเสียงหัวเราะเยาะเบาๆ ดังขึ้น“เจ้าพูดถูก ข้าไม่คู่ควร”เป่ยเฉินหยวนสีหน้าเย็นชา สายตาเย็นเยียบ “แต่เจ้าไม่คู่ควรยิ่งกว่า”“เจ้าอยากจะใช้คนร้ายที่หลบหนีไปได้มาบีบบังคับข้า น่าเสียดาย ข้าไม่หลงกลเจ้า”เป่ยเฉินหยวนพูดจบก็ยกมือขึ้น กองทัพธงดำจำนวนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นทันที ล้อมอันหลันซินเอาไว้อันหลันซินตกใจทันที ในใจเกิดลางสังหรณ์ไม่ดี“ท่านคิดจะทำอะไร?”เป่ยเฉินหยวนกล่าวอย่างเย็นชา “ขอบคุณอู๋โยวให้ดีเถอะ หากมิใช่เพราะนาง หัวของเจ้าคงถูกข้าตัดเอาไปเตะเล่นนานแล้ว”พูดจบเขาก็หันหลังกลับไปออกคำสั่ง “เอาตัวไป มัดให้แน่นแล้วส่งไปให้หนิงหย่วนโหว ให้เขาเฝ้าไว้ให้ดีๆ ขอแค่ไม่ตาย จะจัดการอย่างไรก็แล้วแต่เขา แต่ถ้าคนหนีไป ข้าจะเอาเรื่องกับเขา”“พ่ะย่ะค่ะ!”กองทัพธงดำหลายนายรีบเข้ามาทันทีไม่!ไม่ได้!นางจะถูกพาตัวไปไม่ได้!นางอุตส่าห์รอโอกาสนี้มาอย่างยากลำบาก หากถูกพาตัวไปแล้ว ต่อไปนางจะกลับมาหาอาซื่อได้อย่างไร!อันหลันซินเห็นท่าไม่ดี อ้าปากกำลังจะร้องตะโกน“อึก...”น่าเสียดายที่นางเพิ่งจะส่งเสียงออกมา ฝักกระบี่ก็ฟาดลงบนคอของนางอย่างแรงทำให้นางสลบไ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 385

    คนที่ปรากฏตัวอยู่ด้านนอกรถม้าของเป่ยเฉินหยวนคืออันหลันซิน“ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทน หม่อมฉันจะทำอะไรท่านได้ ท่านจะระแวงหม่อมฉันขนาดนี้ไปทำไมเพคะ?”อันหลันซินยิ้มเล็กน้อยพลางกล่าวขึ้นเป่ยเฉินหยวนขมวดคิ้ว สายตาไม่พอใจ “มีธุระก็พูด ไม่มีธุระก็ไสหัวไป”ท่าทีที่ไม่เกรงใจเมื่อเทียบกับรอยยิ้มที่แสดงออกมาโดยไม่รู้ตัวเมื่อครู่ ช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหวจริงๆอันหลันซินแค่นเสียงหัวเราะในใจเสแสร้งอะไรกันตอนนี้รู้จักปฏิบัติต่อสตรีอื่นอย่างแตกต่างเพราะอาซื่อ แต่ต่อไปความพิเศษเช่นนี้ไม่แน่ว่าจะตกไปอยู่กับสตรีอื่นอย่างไรเสีย บุรุษในโลกนี้ก็เหมือนกันหมดอันหลันซินระงับความรังเกียจในใจ บนใบหน้าปรากฏรอยยิ้มอ่อนโยน “เอาละ รู้ว่าท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนไม่ชอบหม่อมฉัน แต่หม่อมฉันมีข้อแลกเปลี่ยน อยากจะคุยกับท่านสักหน่อยเพคะ”นางพูดเช่นนี้ เป่ยเฉินหยวนกลับไม่มองนางแม้แต่น้อย เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาและดูถูก “อย่างเจ้า มีคุณสมบัติอะไรมาทำข้อตกลงกับข้า?”“ที่ข้ายอมให้เจ้าอยู่ในขบวนนี้จนถึงตอนนี้ ก็เพียงเพราะเห็นแก่หน้าอู๋โยว”รอยยิ้มบนใบหน้าของอันหลันซินแข็งค้าง กัดฟันเล็กน้อย“เหอะๆ หม่อมฉั

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 384

    เป่ยเฉินหยวนนอนเอนกายอย่างสบายอารมณ์อยู่ในรถม้า ในขณะเดียวกันก็นอนอยู่ข้างกายเวินซื่อ หลับตาพริ้มขยับศีรษะอย่างมีความสุข ตอบคำถามของนางทีละประโยค“ได้ ไม่แรง ไม่ได้ดึงเลย ปวดนิดหน่อย เพราะซื่อเอ๋อร์ลูบให้ หัวก็เลยไม่ปวดมากแล้ว”เวินซื่อได้ยินดังนั้นก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกโชคดีที่นางยังจำตำแหน่งกดจุดต่างๆ บนศีรษะที่อาจารย์ม่อโฉวสอนได้ ผสมผสานกับวิธีการนวด แล้วนวดให้เป่ยเฉินหยวน ดูเหมือนว่าผลลัพธ์จะดีเลยทีเดียวเวินซื่อที่คิดว่าได้ผลจริงๆ ก็ยังคงตั้งใจจ้องมองศีรษะของเป่ยเฉินหยวน จดจ่ออยู่กับการผสมผสานวิธีการนวดและกดจุดต่างๆ ของนางหลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ภายในรถม้าดูเหมือนจะเงียบสงบลงอย่างสิ้นเชิงเงียบจนแม้ว่าภายนอกจะมีเสียงล้อรถดังอยู่ ก็ยังได้ยินเสียงหายใจแผ่วเบาสม่ำเสมอภายในรถม้าเวินซื่อเงยหน้าขึ้นมอง ก็พบว่าเป่ยเฉินหยวนไม่รู้ว่าหลับตาลงตั้งแต่เมื่อไรแล้วเวินซื่อเห็นดังนั้น มือที่วางอยู่บนศีรษะของเขาก็ค่อยๆ เคลื่อนไหวช้าลง จนกระทั่งพอสมควรแล้ว นางถึงได้ชักมือกลับก้มหน้าลงมองสีหน้าที่อ่อนล้าระหว่างคิ้วของเป่ยเฉินหยวน หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เวินซื่อก็หยิบขวดน้ำทิพย์ออกมาจ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 383

    “ปวดหัวหรือ? เกิดอะไรขึ้น? ปวดเป็นพักๆ หรือว่าปวดมากตลอดเวลา?”พอเวินซื่อได้ยินเป่ยเฉินหยวนบอกว่าตนเองปวดหัว ก็ไม่ทันได้ใส่ใจกับคำเรียกที่ดูเหมือนจะสนิทสนมเกินไปนั่น รีบถามอย่างกระวนกระวาย“ปวดเป็นพักๆ เหมือนกับมีคนมากมายพูดอยู่ในหัวของข้า หนวกหูมาก ปวดเหลือเกิน”เป่ยเฉินหยวนมองนางอย่างไม่วางตา ชายหนุ่มผู้ซึ่งปกติแล้วสูงใหญ่และพึ่งพาได้เสมอ เวลานี้กลับดูอ่อนแอเหมือนหมาป่าตัวใหญ่ที่ได้รับบาดเจ็บ ทำได้เพียงส่งเสียงร้องครางกับคนตรงหน้าเพื่อระบายความเจ็บปวดของตนเวินซื่อไม่เคยเห็นเป่ยเฉินหยวนในสภาพที่อ่อนแอเช่นนี้มาก่อนแม้แต่ครั้งแรกที่เห็นเขาป่วยที่ริมลำธารเล็กๆ หลังภูเขานั่น เป่ยเฉินหยวนในตอนนั้นก็ยังคงสติไว้ได้บ้างแต่เป่ยเฉินหยวนในตอนนี้ กลับเหมือนแสดงด้านที่อ่อนแอยามเจ็บป่วยออกมาให้นางเห็นอย่างไม่มีปิดบังเวินซื่อจึงลูบหน้าผากเขาด้วยความสงสารทันที แล้วจับชีพจร “ไม่ปวดแล้วๆ ตอนนี้ข้าจะสวดมนต์ให้ท่านอ๋องเดี๋ยวนี้ ท่านนั่งฟังดีๆ อีกเดี๋ยวก็จะไม่ปวดแล้ว”แต่เป่ยเฉินหยวนในตอนนี้กลับเหมือนจะมีความคิดต่อต้านขึ้นมาเล็กน้อย ยื่นมือออกไปคว้าข้อมือของเวินซื่อที่กำลังจะชักกลับ เอ่ยด้วยน้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 382

    นางมองเวินซื่อด้วยความอาลัยอาวรณ์หางตากลับเหลือบไปมองเป่ยเฉินหยวนและเด็กสาวที่อยู่ข้างโต๊ะนั่นอย่างเย็นชาเพิ่มมาอีกคนแล้วแต่ไม่เป็นไร ยังไม่จบหรอกหลังจากที่นายท่านสกุลผังกลับไปแล้ว ไม่นานก็ส่งสัญญาขายตัวมาให้ตามคาด ทั้งยังเขียนหนังสือหย่าอนุภรรยาอย่างเป็นเรื่องเป็นราวมาหนึ่งฉบับจริงๆเมื่อได้สัญญาขายตัวและหนังสือหย่าอนุภรรยา อันหลันซินก็ไปจากที่นี่เวินซื่อให้จู๋เยวี่ยติดตามไประยะหนึ่งแน่นอนว่าเพื่อจับตาดู“เป็นอย่างไรบ้าง?”หลังจากที่จู๋เยวี่ยกลับมา เวินซื่อก็เอ่ยถาม“ดูเหมือนว่าจะมีเศษเงินที่ซ่อนเอาไว้ ซื้อของกินเล็กน้อย ห่อไว้แล้วก็ออกจากเมืองไป ดูท่าทางน่าจะกลับเมืองหลวง”กลับเมืองหลวง...จินโจวอยู่ห่างจากเมืองหลวงขนาดนี้ นางคิดจะเดินเท้ากลับไปหรือ?แล้วยังมีบิดาของนางในเมืองหลวง ทั้งภรรยาเอกและพี่สาวต่างมารดาพวกนั้น คงจะไม่ปล่อยนางไปกระมัง?ถึงอย่างนั้นนางก็ยังคิดจะกลับไป?เวินซื่อขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็คลายปมคิ้วไม่สิ นางจะเป็นห่วงอันหลันซินทำไมกัน?ต่อจากนี้ไปอันหลันซินจะเป็นตายร้ายดีก็ไม่เกี่ยวข้องกับนางที่นางช่วยครั้งนี้ก็เพราะเห็นแก่คว

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status