Share

บทที่ 127

Penulis: จิ้งซิง
เมื่อฟังมาถึงประโยคสุดท้าย จงหย่งโหวก็หลับตาลงทันที

ธิดาศักดิ์สิทธิ์อยู่ในระดับเดียวกับองค์หญิง

กล่าวคือ การใส่ร้ายธิดาศักดิ์สิทธิ์เทียบเท่ากับการใส่ร้ายองค์หญิง ไม่อาจลดหย่อนโทษได้

เขาอดทอดถอนใจอยู่ในใจไม่ได้ เห็นทีคราวนี้จะหนีไม่พ้นจริง ๆ แล้ว

เป่ยเฉินหยวนบอกว่าจะสืบก็สืบเลย

กองทัพธงดำที่เขาพาได้ปิดล้อมจวนจงหย่งโหวทั้งหมดไว้โดยตรง

เวินหย่าลี่ไม่คาดคิดว่าเป่ยเฉินหยวนจะทำให้เรื่องราวใหญ่โตถึงเพียงนี้

ความสับสนพรั่งพรูอยู่ในส่วนลึกภายในใจของนางจนไม่อาจบรรยาย “พวกท่านคิดจะทำอะไร ที่นี่คือจวนจงหย่งโหว ต่อให้ท่านเป็นอ๋องผู้สำเร็จราชการแทน ก็ไม่สามารถข่มเหงจวนจงหย่งโหวของเราเช่นนี้กระมังเพคะ?!”

“ไม่สามารถข่มเหงจวนจงหย่งโหวของพวกท่าน ไม่อย่างนั้นตอนนี้ท่านก็เขียนจดหมายสักฉบับ ไปเรียกเจิ้นกั๋วกงผู้เป็นพี่ชายของท่านมาด้วยไหม?”

เป่ยเฉินหยวนชำเลืองมองนางแวบหนึ่ง

สายตาเย็นเยียบทำให้เวินหย่าลี่รู้สึกเกรงกลัวอย่างไม่มีขอบเขต

นางกัดฟันอย่างฝืนใจ “เขียนก็เขียน หม่อมฉันจะเรียกพี่ชายของหม่อมฉันมา!”

จงหย่งโหวไม่อยากพูดอะไรแม้เพียงสักคำ

พอดีกัน อันที่จริงหากวันนี้จวนจงหย่งโหวของพวกเขาโชคร้าย
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 128

    นั่นคือยาหยกหิมะสามขวดเต็ม ๆต่อให้เขาต้องการนำไปง้อเวินเยวี่ย อย่างน้อยก็ควรทิ้งไว้ให้มารดาอย่างนางสักขวดสิเมื่อใดที่เวินหย่าลี่นึกถึงว่ายาหยกหิมะมากมายขนาดนั้น ตัวเองยังไม่ได้ใช้เลยสักนิด ก็ถูกลูกชายนำไปให้คนอื่นทั้งหมด นางก็เจ็บปวดหัวใจสุดขีดเวินหย่าลี่รู้ว่าลูกชายชอบเวินเยวี่ย แต่ไม่นึกว่ายังไม่ทันได้แต่งงานเข้ามาด้วยซ้ำ ลูกชายตัวเองก็เริ่มแอบช่วยคนนอกหลอกแม่แท้ ๆ แล้วเวินหย่าลี่รู้สึกโกรธอยู่ในใจ แต่ต่อให้โกรธแล้วใครใช้ให้เป็นลูกชายแท้ ๆ ของนางเล่า“ไม่นึกเลยจริง ๆ ที่แท้ก็เป็นเจ้าเด็กนั่น ต้องขอบคุณท่านอ๋อง ในเมื่อสืบสวนกระจ่างแล้ว ที่เหลือก็มอบหมายให้พวกหม่อมฉันก็แล้วกัน ท่านวางใจได้ หม่อมฉันจะสั่งสอนบทเรียนให้เจ้าเด็กนั่นอย่างเต็มที่แน่นอนเพคะ”เป่ยเฉินหยวนเหลือบมองนางด้วยรอยยิ้มที่ดูเสแสร้ง “ท่านสั่งสอนหรือ?ท่านคิดจะสั่งสอนอย่างไร?”เวินหย่าลี่ที่ลงมือตีลูกชายของตัวเองไม่ลงย่อมพูดเพียงว่า “ก็ลงโทษให้เขาคุกเข่าในโถงบรรพชนดีไหมเพคะ?”“ได้สิ”เป่ยเฉินหยวนตอบตกลงอย่างเหนือความคาดหมายเวินหย่าลี่ฉีกยิ้มด้วยความดีใจอีกครั้งทันที นางว่าแล้ว ต่อให้เป็นท่านอ๋องก็เถอะ จะไม่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 129

    “พี่ใหญ่ ในที่สุดท่านก็มาแล้ว!”ทันทีที่เวินหย่าลี่เห็นเวินเฉวียนเซิ่ง ก็ร้องไห้ออกมาด้วยความคับข้องใจทันที “ถ้าท่านยังไม่มาอีก น้องสาวของท่านรวมถึงหลานชายของท่านกำลังจะถูกตาแก่สารเลวชุยเหลียงเฟิงข่มเหงรังแกแล้ว!”“พูดจาเลอะเทอะอะไร”เวินเฉวียนเซิ่งตำหนิเวินหย่าลี่ก่อนคำหนึ่ง “ตาแก่สารเลวอะไรกัน เหลียงเฟิงเป็นสามีของเจ้า เจ้าเป็นฮูหยินจงหย่งโหวมานานหลายปีแล้ว ยังไม่รู้จักควบคุมอารมณ์ให้สุขุมขึ้นบ้าง”“พี่ใหญ่ ท่านมาช่วยข้าจริงหรือเปล่า?”เวินเฉวียนเซิ่งชำเลืองมองนางอย่างเฉยชา เวินหย่าลี่มีอะไรจะพูดก็ไม่กล้าพูดทันที“ข้ามาช่วยเจ้า แต่จะไม่ปล่อยให้อารมณ์ของเจ้าเป็นใหญ่”พูดจบประโยคนี้ เวินเฉวียนเซิ่งถึงหันไปมองจงหย่งโหว“เหลียงเฟิง น้องสาวของข้าถูกเลี้ยงดูตามใจมาตั้งแต่เด็กในจวนเจิ้นกั๋วกง เจ้าแต่งงานกับนางมาหลายปีแล้ว ควรจะเข้าใจและยอมรับนิสัยใจคอของนางได้แล้ว ทำไมวันนี้ถึงทนไม่ไหวขึ้นมาเล่า? จะให้นางที่อยู่ในฐานะฮูหยินจงหย่งโหวไปก้มหัวขอโทษคนอื่นหรือ?”จงหย่งโหวทำเสียงยิ้มเยาะหากเป็นวันอื่นทั่วไป เขาอาจจะไว้หน้าเวินเฉวียนเซิ่งอยู่บ้างแต่ในวันนี้ เขาทำให้ไม่ได้“คนอื่นหรือ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 130

    เวินเฉวียนเซิ่งมองไปทางจงหย่งโหวด้วยความไม่พอใจเวลานี้จงหย่งโหวกลับสงสารเด็กคนนั้น “ถ้าไม่ใช่เพราะปกติท่านปล่อยปละละเลย นังหนูเวินซื่อจะกลายเป็นคนอย่างในวันนี้ได้อย่างไร?”“นางเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของท่าน แต่ว่าเจิ้นกั๋วกง ท่านเริ่มปฏิบัติกับนังหนูไม่เหมือนลูกสาวแท้ ๆ ของตัวเองตั้งแต่เมื่อใด? แค่ลูกสาวบุญธรรมคนหนึ่ง ยังเป็นที่โปรดปรานมากกว่าบุตรภรรยาเอกเสียอีก ทั้งหมดเป็นเพราะเจิ้นกั๋วกงลำเอียงเข้าข้าง หรือว่ามีเรื่องอะไรที่บอกใครไม่ได้?!”“ท่านพ่อ!”“ชุยเหลียงเฟิง!”ทั้งเวินหย่าลี่และชุยเส้าเจ๋อสองแม่ลูกไม่คิดว่าเขาจะพูดจาเช่นนี้ออกมาต่อหน้าเวินเฉวียนเซิ่งเพราะเวลาปกติ จงหย่งโหวไม่เคยแสดงความเดือดดาลต่อคนของจวนเจิ้นกั๋วกงเลยสักนิดบัดนี้เขามาคาดคั้นเวินเฉวียนเซิ่งเพราะเวินซื่อจริง ๆเวินหย่าลี่หวังว่าพี่ใหญ่จะคอยหนุนหลังนาง แต่นางก็ไม่อยากให้เกิดการโต้เถียงระหว่างสามีของตนกับพี่ใหญ่เพราะถึงอย่างไรตอนนี้นางก็เป็นฮูหยินจงหย่งโหว คนที่นางต้องการใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิตก็ต้องเป็นสามีของนางอยู่แล้วเวินหย่าลี่รีบดึงจงหย่งโหวไว้ “ท่านพี่ ท่านหยุดพูดเถอะ ทั้งหมดเป็นความผิดของข้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 131

    ยามเวินซื่อได้รับข่าวนางเลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจ“นางจะมาไม้ไหนอีก?”เวินซื่อรู้ดีว่าเวินหย่าลี่เป็นคนเช่นไร ครั้งที่แล้วนางพ่ายแพ้กลับไปจากอารามสุ่ยเยว่ ไม่มาหาเรื่องตนอีกก็ดีเท่าใดแล้ว จะยอมมาขอขมานางได้อย่างไร?เวินซื่อลูบคางพร้อมครุ่นคิด “ศิษย์พี่หญิง ยังมีผู้ใดติดตามฮูหยินจงหย่งโหวมาหรือไม่?”“มี เป็นชายวัยกลางคนท่านหนึ่งที่สวมชุดขุนนาง แล้วยังมีชายหนุ่มรูปงามอีกคน” สวมชุดขุนนางหรือ ซ้ำยังยอมมาเป็นเพื่อนเวินหย่าลี่ หากไม่ใช่เวินเฉวียนเซิ่งก็คงเป็นจงหย่งโหวครั้งที่แล้วเวินเฉวียนเซิ่งเคยมาที่นี่แล้ว ซ้ำยังหน้าหงายกลับไปภายในเวลาอันสั้นคนผู้นั้นไม่น่าจะมาอีกดังนั้นผู้มาเยือนอาจเป็นจงหย่งโหวส่วนอีกคนที่เหลือคงเป็นชุยเส้าเจ๋ออย่างไม่ต้องสงสัยพวกเขามากันทั้งครอบครัว ตกลงอยากทำสิ่งใดกันแน่?หลังเวินซื่อขมวดคิ้ว นางวางคัมภีร์ในมือลง “เช่นนั้นข้าจะออกไปดูสักหน่อย”“ศิษย์น้องหญิงไม่ต้องกลัว ข้าจะไปพร้อมเจ้า”เมื่อได้ยินว่านางจะออกไป ศิษย์พี่หญิงอู๋ขู่ที่ชอบไปมาหาสู่กับนางเอ่ยทันควัน“ศิษย์พี่หญิงอู๋ขู่วางใจ ครั้งนี้ไม่น่าจะมีเรื่องอะไร”เวินซื่อเอ่ยพร้อมยิ้ม“เช่นนั้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 132

    หลังจากตีเสร็จ จงหย่งโหวเงยหน้ามองเวินซื่อ เมื่อเห็นความเย็นชาบนใบหน้านาง ในใจเขาสับสนอย่างมาก“ขอโทษด้วย นางบหนูเวินซื่อ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องถอนหมั้นก่อนหน้านี้ หรือเรื่องยาหยกหิมะนั่น กระทั่งเรื่องน้อยใหญ่มากมายระหว่างนี้ ล้วนเป็นเพราะข้าสอนลูกไม่ดี จึงต้องทำให้เจ้าได้รับความลำบากมากมาย”ระหว่างที่พูด เขาทำท่าคารวะแสดงความขอโทษต่อเวินซื่อเวินซื่อชะงักไปทันทีการปรากฏตัวของจงหย่งโหวทำให้นางคาดเดาได้ ว่าวันนี้เวินหย่าลี่มีความเป็นไปได้ที่ต้องขอโทษนางแต่นางนึกไม่ถึง คนแรกที่ยอมก้มหัวขอขมานางจะกลายเป็นจงหย่งโหวเองหากบอกว่าไม่แปลกใจคงเสแสร้งทว่าต่อให้เป็นเช่นนั้น แต่ยามนี้ใจของเวินซื่อด้านชาไปนานแล้วแววตาของนางสั่นไหวเล็กน้อย จากนั้นกลับสู่ความเย็นชาอย่างรวดเร็ว“การขอขมาของท่านโหว ข้าคงรับไว้ไม่ได้”“อะไรนะ? ! เวินซื่อ เจ้าอย่าให้มันเกินไป! ท่านพ่อข้าอุตส่าห์...”ชุยเส้าเจ๋อไม่นึกว่าเวินซื่อจะอวดดีถึงเพียงนี้นั่นบิดาของเขาเชียวนะ!เป็นถึงจงหย่งโหวแต่ขอโทษนางที่แม่ชีน้อยคนหนึ่งยังไม่พอหรือ? !“ยังไม่หุบปากอีกหรือ!”จงหย่งโหวถลึงตาใส่ลูกชายตัวเอง หลังจากชุยเส้าเจ๋อหุบปาก

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 133

    เวินซื่อ “?”เวินซื่อแคลงใจต่อคำพูดของเวินหย่าลี่มากเพราะนางนึกไม่ถึงจริง ๆ ว่าเวินหย่าลี่จะมาขอขมานางจริง ซ้ำยังขอให้นางยกโทษให้หลังจากเวินซื่อครุ่นคิดสักครู่ คล้ายนึกถึงบางอย่างนางมองดูทั้งสามคนตรงหน้า พร้อมเอ่ยถาม “หากข้าไม่ยกโทษให้จะเป็นเช่นไรหรือ?”นางสงสัยมากวินาทีต่อมาสีหน้าเวินหย่าลี่เปลี่ยนทันควัน โมโหโทโส “ขอโทษเจ้าไปแล้ว ลูกชายข้าก็คุกเข่าทำความเคารพเจ้าแล้ว เจ้ายังจะเอาอย่างไรอีก? !”ดวงตาทั้งคู่ของเวินซื่อหรี่ลงเล็กน้อย เห็นท่าทางร้อนรนของเวินหย่าลี่ นางรู้ว่าตัวเองทายถูกแล้วที่แท้ก็ถูกผู้อื่นข่มขู่นี่เองมิน่าคนที่ยามปกติไม่ถูกคอกับนางมาตลอด จู่ ๆ ถึงได้ยอมมาก้มหัวขอโทษนางได้ส่วนใครจะเป็นผู้ข่มขู่นั้น...พูดตามตรง เวินซื่อไม่ต้องทายว่าเป็นใครก็รู้แล้วเพราะทั่วทั้งราชวงศ์ต้าหมิง ผู้ที่ทำให้จวนจงหย่งโหวจำเป็นต้องยอมก้มหัวให้ทั้งจวนมีเพียงสองคนเท่านั้นเวินซื่อแค่นหัวเราะทันใด “ข้าบอกไปแล้ว ข้าไม่ยอมรับการขอขมาของท่านโหว”“เวินซื่อ เจ้าอย่าให้มันเกินไปนัก!”ชุยเส้าเจ๋อกล่าวอย่างโมโห“เกินไปหรือ?”สีหน้าเวินซื่อเรียบเฉย “ต่อให้ข้าจะทำเกินไปอย่างไร ก็ไม

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 134

    “พี่สี่ ท่านเองก็สังเกตเห็นแล้วหรือ?”เวินเยวี่ยนั่งอยู่ในเรือนของเวินอวี้จือ กำลังระบายกับเขาด้วยแววตากลัดกลุ้ม“ตั้งแต่พี่หญิงห้าออกบวช พี่ใหญ่กับพี่รองยิ่งไม่เหมือนเดิมมากขึ้นเรื่อย ๆ เยวี่ยเอ๋อร์เองก็ไม่ทราบว่าตกลงเกิดเรื่องใดขึ้น แต่พวกเขาเป็นอย่างนี้ ทำให้เยวี่ยเอ๋อร์เป็นห่วงมากเจ้าค่ะ”หลังจากวันนั้นที่ไปฉลองวันเกิดให้เวินซื่อที่อารามสุ่ยเยว่ แค่เวินจื่อเฉินคนเดียวไม่เพียงทำร้ายชุยเส้าเจ๋อ หนำซ้ำยังไม่ยอมออกจากโถงบรรพชนเพราะถูกพี่ใหญ่ทำโทษต่อมาหากไม่ใช่เพราะเวินฉางอวิ้นถามเขา ว่าตกลงจะเตรียมของขวัญให้น้องห้าหรือไม่?เวินจื่อเฉินถึงได้รีบออกมาจากโถงบรรพชนทันทีนับจากนั้น เวินฉางอวิ้นและเวินจื่อเฉินมักจะออกไปข้างนอกหลายครั้งที่เวินเยวี่ยออดอ้อนอยากให้พวกเขาพานางไปพร้อมกัน สุดท้ายไม่ว่าเวินฉางอวิ้นหรือเวินจื่อเฉิน ทั้งสองคนไม่มีใครรับปากนางเรื่องนี้ทำให้เวินเยวี่ยรู้สึกถึงวิกฤตอย่างรุนแรงเวินเยวี่ยที่นั่งไม่ติดอีกต่อไปรีบมาหาเวินอวี้จือทันทีในบรรดาพี่น้องตระกูลเวินทั้งสี่คน หากจะบอกว่าใครฉลาดที่สุดความจริงไม่ใช่พี่ใหญ่อย่างเวินฉางอวิ้น แต่กลับเป็นคนขี้โรคอย่างเวินอวี

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 135

    หลังเวินอวี้จือรับปาก เวินเยวี่ยเซ้าซี้ถามเขาว่าจะทำอย่างไรเพราะอย่างไรนางก็ไม่ได้หวังให้เวินซื่อกลับมาจริงทว่าไม่ว่านางจะถามอย่างไร เวินอวี้จือก็ได้แต่ยิ้ม ไม่ได้พูดสิ่งใดเห็นได้ชัดว่าไม่อยากบอกวิธีการแก่เวินเยวี่ยนเพียงแต่ราวกับเขาอ่านใจเวินเยวี่ยทะลุปรุโปร่ง แค่เอ่ยรับประกัน “น้องหกวางใจได้ พี่สี่จะไม่ปล่อยให้นางคุกคามถึงตำแหน่งของเจ้าเด็ดขาด”ได้ยินคำพูดเช่นนี้กะทันหัน ทำให้จังหวะหัวใจของเวินเยวี่ยหยุดกึกวินาทีนั้นนางยังนึกว่า เวินอวี้จือมองเห็นแผนการทุกอย่างของนางอย่างแจ่มแจ้งชัดเจน นึกว่าธาตุแท้ของนางถูกเปิดโปงแล้วรอจนหลังจากเวินอวี้จือยกมือขึ้นลูบหัวนางอย่างเอ็นดู นางจึงเก็บอารมณ์เอาไว้อย่างกระวนกระวายเล็กน้อย ไม่กล้าถามต่อไปทว่าผ่านไปไม่นาน นางได้รับรู้แล้วว่าตกลงแผนการของเวินอวี้จือเป็นอย่างไรหลังจากเวินอวี้จือรับปากเวินเยวี่ย เขาคิดแต่แรกแล้วว่าไม่ลงมือด้วยตัวเองด้วยสุขภาพร่างกายของเขาคงตรากตรำลำบากมากไม่ได้ดังนั้นยามนี้เขาจึงไปหาอีกคนในบรรดาสี่พี่น้อง ซึ่งเป็นอีกคนเพียงหนึ่งเดียวที่ไม่ได้หวั่นไหวเพราะการจากไปของเวินซื่อเวินจื่อเยวี่ย“พี่สาม ท่านกลับม

Bab terbaru

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 550

    ถึงขั้นเอาอีกฝ่ายมาข่มขู่เวินจื่อเยวี่ย ทำให้เวินจื่อเยวี่ยต้องเลือกระหว่างนางและหลินเนี่ยนฉือแล้วนางสารเลวที่ยังไม่เดินผ่านประตูเข้ามาจะเอาอะไรมาเทียบกับนาง!เวินเยวี่ยโกรธจัดจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ในเสี้ยววินาทีที่ก้มศีรษะลง สายตาอาบยาพิษช่างน่าสะพรึงกลัว“ยุแยงตะแคงรั่ว?”เวินซื่อแค่รู้สึกว่าคำพูดของเวินจื่อเยวี่ยน่าขบขันมาก “มีเพียงคนที่มีหัวใจเท่านั้นถึงจะรู้สึกว่าใคร ๆ ก็เป็นเช่นนี้”นางเหลือบมองเวินเยวี่ยแวบหนึ่งอย่างเฉยชา ก่อนจะเอ่ยอย่างไม่แยแส “ท่านคิดว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้จะใช้พวกท่านไปก่อกวนความสงบของนางหรือ? ฝันไปเถอะ พวกท่านยังไม่คู่ควร”“เหอะ พูดเสียน่าฟัง ถ้าไม่ใช่เพราะจดหมายที่เจ้าเขียนไปฟ้อง หลินเนี่ยนฉืออยู่ที่อู๋โจวอยู่ดี ๆ จะเข้ามาที่เมืองหลวงทำไม? แล้วยังต้องการถอนหมั้นกับข้าอีก?!”ถึงตอนนี้เวินจื่อเยวี่ยยังคงเชื่อว่าเวินซื่อไปพูดอะไรกับหลินเนี่ยนฉือ ถึงทำให้หลินเนี่ยนฉือทำเช่นนั้น“ท่านคิดว่าข้อมูลในใต้หล้านี้มีสิ่งใดที่สามารถปิดบังได้อย่างนั้นหรือ? จวนเจิ้นกั๋วกงของพวกท่านได้ทำเรื่องที่น่าอับอายขายขี้หน้า ไร้ยางอายมาไม่น้อย แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงตั้งน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 549

    อูฐผอมซูบยังตัวใหญ่กว่าม้าการจะทำลายจวนเจิ้นกั๋วกงอันใหญ่โตแห่งนี้โดยอาศัยแมลงเพียงไม่กี่ตัว มันเป็นไปไม่ได้เลยแน่นอน มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างสิ้นเชิงเพียงแต่ราคาที่ต้องจ่ายนั้นสูงเกินไปอย่างเช่นการหมั้นหมายระหว่างจวนเจิ้นกั๋วกงและสกุลหลินเมื่อจวนเจิ้นกั๋วกงถูกกล่าวหาว่าสมคบคิดกับชาวต่างเผ่า เวินเฉวียนเซิ่งจะต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อชำระล้างให้หลุดพ้นจากข้อกล่าวหานี้และวิธีการที่ดีที่สุดก็ต้องเป็นการดึงผู้คนให้เข้ามาพัวพันมากขึ้นสกุลหลินที่ยังมีการหมั้นหมายกับจวนเจิ้นกั๋วกงเป็นกลุ่มแรกที่รับศึกหนัก โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างหลินเนี่ยนฉือและเวินซื่อ และจะกลายเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เวินเฉวียนเซิ่งดึงสกุลหลินให้ลงมาพัวพันด้วยดังนั้นก่อนจะยุติการหมั้นหมายระหว่างหลินเนี่ยนฉือและเวินจื่อเยวี่ย เวินซื่อยังไม่สามารถทำอะไรบุ่มบ่ามได้ทว่า ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถแตะต้องจวนเจิ้นกั๋วกงได้ แต่การมีเวินเยวี่ยเพียงคนเดียวก็ไม่ใช่เรื่องที่เสียหาย“หมั้น...หมั้นหมาย?”ในขณะนี้ เสียงที่สับสนของเวินเยวี่ยก็ดังขึ้นจากทางด้านหลังของ เวินจื่อเยวี่ย“พี่สาม ท่านหมั้นกับใครตั้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 548

    “ท่าน…!”เวินเยวี่ยลมแทบจับเมื่อได้ยินที่เวินซื่อพูดนางข่มไฟโทสะเอาไว้ “ธิดาศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่คนของกองทัพธงดำเสียหน่อย ให้ท่านมาทำการค้นหา ไม่น่าจะเหมาะสมกระมัง?”เวินเยวี่ยฝืนยิ้ม “ท้ายที่สุดแล้วบุญคุณความแค้นระหว่างพี่หญิงห้ากับเยวี่ยเอ๋อร์นั้นเป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งกันทั่วทุกคน ถ้าเกิด…”ประโยคสุดท้ายนี้ไม่ได้พูดออกมาทั้งหมด แต่ก็สามารถเข้าใจทุกอย่างที่ควรเข้าใจถ้าเกิดเวินซื่อเข้าไปวางกลอุบายบางอย่างเพื่อใส่ร้ายนางแล้วจะทำเช่นไร?เวินซื่อหันหน้าไปเผชิญหน้ากับเวินเยวี่ย รอยยิ้มเล็ก ๆ เผยออกมาบนใบหน้าอันบริสุทธิ์ผุดผ่องและงดงามของนาง “ข้าไม่ต่ำช้าไร้ยางอายเหมือนเจ้า”ใบหน้าของเวินเยวี่ยสลดลงเพราะดำด่าของนางทันทีแต่วินาทีต่อมาก็ได้ยินเวินซื่อพูดว่า “แต่ว่านี่มันก็เป็นปัญหาจริง ๆ ในเมื่อคุณหนูหกสกุลเวินเป็นกังวลเช่นนี้ เช่นนั้นข้าธิดาศักดิ์สิทธิ์ก็ขอยืนค้นหาอยู่ที่ประตูแล้วกัน”ยืนค้นหาอยู่ที่ประตูหรือ?แล้วจะค้นหาอย่างไร?ขณะที่เวินเยวี่ยและคนอื่น ๆ กำลังงุนงง เวินซื่อก็พลิกฝ่ามือ ก่อนจะหยิบขวดหยกขวดหนึ่งออกมาจากกลางฝ่ามือของนางฉางเสี่ยวหานก้าวเข้าไปรับขวดหยกจากมือของเว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 547

    “เหลวไหลสิ้นดี!”แววอันตรายฉายผ่านดวงตาอันคมกริบของเวินเฉวียนเซิ่งในทันใดเขาจ้องไปที่รถม้าที่เวินซื่อนั่งอยู่ สายตามองทะลุช่องว่างของม่านหน้าต่าง พลางชี้ตรงไปที่เวินซื่อ “เวินซื่อ เจ้ารู้ไหมว่าเจ้ากำลังทำอะไรอยู่? เจ้ากำลังใส่ร้ายขุนนางในราชสำนักซึ่งเป็นความผิดร้ายแรง!”“หากเจ้าไม่สามารถแสดงหลักฐานใด ๆ ได้ ต่อให้เจ้าจะเคยเป็นลูกสาวของข้า ข้าก็จะไม่ปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ เด็ดขาด!”“เจิ้นกั๋วกงไม่จำเป็นต้องใจร้อนขู่ขวัญเช่นนี้”ว่าแล้วเวินซื่อก็ยกมือขึ้นเปิดม่านรถแล้ว เดินออกมาจากด้านในอย่างช้า ๆเสี่ยวหานก้าวไปข้างหน้าอย่างมีไหวพริบ ทำตามสาวใช้เหล่านั้น เอื้อมมือออกไปช่วยประคองธิดาศักดิ์สิทธิ์ของนางลงจากรถม้าช้า ๆหลังจากลงสู่พื้นและยืนได้อย่างมั่นคงแล้ว เวินซื่อก็เงยหน้าขึ้นมองเวินเฉวียนเซิ่งผ่านกองทัพธงดำ นางยิ้มเล็กน้อย “ถ้าธิดาศักดิ์สิทธิ์ไม่มีหลักฐาน วันนี้จะกล้านำกองกำลังไปปิดล้อมจวนเจิ้นกั๋วกงของท่านได้อย่างไร”การทำงานตามคำสั่งส่วนตัวของอ๋องผู้สำเร็จราชการเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การทำงานตามพระราชโองการของฝ่าบาทก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งเวินซื่อยกมือขึ้น รับพระราชโองการจากมือของกองทัพ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 546

    ให้อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนมาหนุนหลังนางแล้วอย่างไรต่อ เขาไม่เชื่อว่า อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนผู้สง่างามจะบังคับเขาให้ถอนหมั้นได้อย่างนั้นหรือ!เมื่อเวินเฉวียนเซิ่งได้ยินเวินจื่อเยวี่ยพูด ก็มองเขาแวบหนึ่งอย่างเย็นชา “เจ้าควรคิดหาวิธีช่วยพี่ใหญ่ของเจ้าก่อนดีกว่า ถ้าครั้งนี้พี่ใหญ่ของเจ้าตาย ก็อย่าได้คิดเรื่องหมั้นหมายเลย ข้าเวินเฉวียนเซิ่ง ไม่มีลูกชายที่ใจไม้ไส้ระกำอย่างเจ้า”ใบหน้าของเวินจื่อเยวี่ยขรึมลงทันทีเขารู้ว่าลูกชายคนโปรดของบิดาไม่ใช่เขา แต่เป็นพี่ใหญ่ที่บิดาเลี้ยงดูอย่างสุดชีวิตจิตใจแต่เขานึกไม่ถึงว่ามาถึงขั้นนี้แล้ว บิดาจะยังโหดร้ายถึงเพียงนี้ เอาการหมั้นหมายของเขามาข่มขู่เขาเวินจื่อเยวี่ยไม่ได้พูดอะไรอีกแต่ในขณะนี้ พ่อบ้านนั้นพูดด้วยสีหน้าขมขื่น “ท่านกั๋วกง คุณชายสาม ครั้งนี้ผู้ที่นำกองทัพธงดำมาไม่ใช่ท่านอ๋องขอรับ”เมื่อได้ยินคำพูดนี้เวินเฉวียนเซิ่งก็หันกลับไปหาพ่อบ้าน “ไม่ใช่เป่ยเฉินหยวนหรอกหรือ? แล้วใครล่ะ?”นอกจากฮ่องเต้น้อยและเป่ยเฉินหยวนเองแล้ว ยังมีใครอีกที่สามารถระดมกองทัพธงดำ ถึงขั้นกล้าปิดล้อมจวนเจิ้นกั๋วกงของเขาได้?ขณะที่เวินเฉวียนเซิ่งกำลังครุ่นคิดในหัวว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 545

    “เสี่ยวหาน ให้ข้าดูหน้าเจ้าหน่อยสิ”หลังจากขับไล่เวินเฉวียนเซิ่งและเวินจื่อเยวี่ยออกไปแล้ว เวินซื่อก็ดึงฉางเสี่ยวหานเข้ามา“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ตบไม่โดนหน้า ข้าหลบได้นิดหน่อย แค่ตบโดนหัวเท่านั้น”ถึงกระนั้น การตบของเวินจื่อเยวี่ยก็หนักหน่วงมาก จนศีรษะของฉางเสี่ยวหานถึงกับสั่นคลอนในตอนนั้น ใช้เวลาสักพักกว่าจะตอบสนองได้“เจ้าไม่ต้องกังวล การตบครั้งนี้ข้าจะต้องเอาคืนเขาอย่างแรงแน่นอน”สีหน้าของเวินซื่อเคร่งขรึมลง น้ำเสียงไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งฉางเสี่ยวหานลุกขึ้นกล่าวว่า “ไม่ ๆ ๆ ไม่ต้องหรอกธิดาศักดิ์สิทธิ์ เมื่อครู่ท่านช่วยตบคืนแทนเสี่ยวหานแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำอะไรอีกเจ้าค่ะ”ฉางเสี่ยวหานรู้จักคนในเมืองหลวงน้อยมาก แต่หลังจากติดตามเวินซื่อมาเป็นเวลานาน ก็ได้เรียนรู้เรื่องต่าง ๆ มากขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดที่ธิดาศักดิ์สิทธิ์พูดกับสองพ่อลูกคู่นั้นเมื่อครู่ ก็ย่อมสามารถคาดเดาตัวตนของพวกเขาได้อย่างง่ายดายคนหนึ่งคืออดีตบิดาของธิดาศักดิ์สิทธิ์ อีกคนคืออดีตพี่ชายของธิดาศักดิ์สิทธิ์ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขานั้นย่ำแย่มากพออยู่แล้ว หากธิดาศักดิ์สิทธิ์ต้องทะเลาะกับพี่ชายหนักขึ้นด้วยเรื่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 544

    เขาขบริมฝีปากล่างแน่น กัดปากของตัวเองแตกเหมือนไม่รู้สึกตัว ปล่อยให้เลือดไหลลงจากมุมปากช้า ๆ“หลินเนี่ยนฉือล่ะ?”เวินจื่อเยวี่ยเอ่ยปากถามขึ้นทันใด“ข้าอยากพบนาง”“นางไม่อยากพบท่าน”เวินซื่อเอ่ยขึ้นอย่างราบเรียบ“ข้าบอกว่าข้าอยากพบนาง!”เวินจื่อเยวี่ยตวาดลั่นอย่างฉุนเฉียวขึ้นมาทันใด พลางปัดมือของจางเสี่ยวหานออกมือของจางเสี่ยวหานถูกตีเจ็บ ตกใจสะดุ้งโหยง เมื่อนางรู้ตัวก็เอื้อมมือออกไปอีกครั้ง คว้าเพียงหนังสือถอนหมั้นฉบับนั้นไว้ส่วนจี้หยกก็ร่วงลงสู่พื้นดัง “ตุ้บ” ตามมาด้วยเสียงแตกหักดังขึ้น จี้หยกแยกออกเป็นสองส่วนทันทีเวินจื่อเยวี่ยที่ยังอยู่ในอาการฉุนเฉียวเมื่อได้ยินเสียงนี้อย่างกะทันหัน ก็ก้มหน้าลงมอง เกิดความสับสนขึ้นโดยพลันเขารีบเก็บจี้หยกขึ้นมา เมื่อมองดูรอยแตกหักนั้น ก็ไม่อาจยับยั้งไฟโทสะที่อัดอั้นอยู่เต็มอกไว้ได้ เพียงชั่วครู่ก็ระเบิดอารมณ์ใส่ฉางเสี่ยวหาน...“ใครให้เจ้าทำของของข้าพัง! เจ้าอยากตายหรือไง?!”“อะไรนะ? ไม่ใช่ข้า เป็นท่านต่างหากที่ปัดมือของข้าเอง...”“สาวใช้ต่ำต้อยอย่างเจ้ายังกล้าเถียงอีก!”เวินจื่อเยวี่ยลุกพรวดขึ้น สีหน้ามีรอยพยายาท ยกมือขึ้นตบหน้าฉางเส

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 543

    เวินจื่อเยวี่ยมองเวินเฉวียนเซิ่งอย่างไม่อยากจะเชื่อ “ท่านพ่อ พูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?”เวินจื่อเยวี่ยเงียบไปครู่หนึ่ง “เจ้าน่าจะเข้าใจ เจ้าสาม”“ข้าไม่เข้าใจ!”เวินจื่อเยวี่ยตวาดออกมาทันใด พลางจ้องมองไปที่บิดาของเขาอย่างไม่ละสายตาเวินเฉวียนเซิ่งถอนหายใจอีกครั้ง “แค่การหมั้นหมายเท่านั้น พ่อรู้ว่าเจ้าไม่เต็มใจยอมรับ แต่พี่ใหญ่ของเจ้ามีเวลาเหลือไม่มากแล้ว ถ้ายังไม่เอายากลับไปอีก เขาจะต้องตายในไม่ช้า”“เจ้าสาม เจ้าจะทนเห็นพี่ใหญ่ของเจ้าตายไปได้จริงหรือ?”เวินจื่อเยวี่ยที่ได้ยินคำพูดประโยคนี้ของเขาได้ถามด้วยเสียงอันสั่นเครือเล็กน้อย “ก็เลยต้องเสียสละการหมั้นของข้าเพื่อช่วยพี่ใหญ่อย่างนั้นหรือ? ทั้ง ๆ ที่เรายังมีวิธีอื่นอีก แต่ท่านก็ยังยืนกรานที่จะขอร้องเวินซื่อ?!”“ยังมีวิธีอื่นอีกหรือ?”สีหน้าของเวินเฉวียนเซิ่งเย็นชาลง น้ำเสียงแย่มาก “ไม่ว่าจะเป็นบัวหิมะก็ดี เห็ดหลินจือสีม่วงอายุหนึ่งร้อยปีก็ดี หรือหญ้าฝรั่นที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนด้วยซ้ำก็ดี เจ้าคิดว่ามีสิ่งไหนหาง่ายบ้าง?!”“หากพี่ใหญ่ของเจ้ายังยืดเวลาได้อีกครึ่งค่อนเดือน พ่อก็จะไม่รีบร้อนเช่นนี้! แต่นี่พี่ใหญ่ของเจ้าอาจตายได้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 542

    นางมองเวินเฉวียนเซิ่งอย่างเย็นชา “ท่านไม่มีคุณสมบัตินี้ตั้งนานแล้ว”“เวินซื่อ! จงระวังท่าทีในการพูดจาของเจ้าด้วย แม้ว่าตอนนี้เจ้าจะเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์แล้ว แต่ความสัมพันธ์พ่อลูกของเจ้ากับพ่อจะไม่มีทางเปลี่ยนแปลง อย่าลืมว่ายังมีเลือดของสกุลเวินไหลเวียนอยู่ในตัวเจ้า”“ใครบอกว่าเปลี่ยนแปลงไม่ได้?”เวินซื่อยิ้มเยาะ “ความสัมพันธ์นี้จะเปลี่ยนไปในไม่ช้า แต่ตอนนี้ขอวกกลับเข้าประเด็นก่อน ท่านเจิ้นจั๋วกง ท่านยังไม่ได้บอกตัวเลือกของท่านเลย ท่านวางแผนที่จะเลือกใครกันแน่?”ล้มเหลวในการเล่นกับอารมณ์ ล้มเหลวในการข่มขู่กลับมาสู่เงื่อนไขข้อแรกสุดอีกครั้ง สายตาของเวินเฉวียนเซิ่งเย็นชาลงระดับหนึ่งในทันใดเวินซื่อดูเหมือนจะมองไม่เห็นเลย เร่งรัดเขาด้วยอารมณ์ที่ดีมาก“ข้ามีเวลาไม่มากนัก ท่านเจิ้นจั๋วกงรีบตัดสินใจโดยเร็วที่สุดเถอะ มิฉะนั้นก็จะไม่มีการเจรจาใด ๆ อีกแล้ว”นางหันไปมองเวินเฉวียนเซิ่งด้วยรอยยิ้มตาหยี “‘พี่ใหญ่แสนดี’ ของข้าก็น่าจะมีเวลาไม่เพียงพอใช่ไหม?”“ถุย!”เวินจื่อเยวี่ยถ่มน้ำลายใส่นางอย่างรุนแรง “พี่ใหญ่ไม่มีน้องสาวที่ชั่วร้ายอย่างเจ้า!”“ถูกต้อง ข้าชั่วร้าย แต่ก็เทียบไม่ได้กับเว

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status