ลู่เฉินเพิ่งเผชิญหน้ากับท่าดาบลวงตาของเขา เรียกได้ว่าคล่องแคล่วและสบายมากแม้ว่าเขาจะพยายามอย่างเต็มที่ และใช้ท่าดาบทั้งชุดเสร็จ แต่ก็ไม่ได้ทําร้ายอีกฝ่ายแม้แต่เส้นผมเดียวแม้ตลอดกระบวนการ อีกฝ่ายจะใช้เพียงมือเดียวถ้าเป็นเช่นนั้น เขายังมองไม่เห็นช่องว่างของความแข็งแกร่งระหว่างพวกเขา แล้วจะแตกต่างจากคนโง่อย่างไร?"ท่าดาบลวงตาองคุณ ฝึกมาได้อย่างดีจริง ๆ แต่น่าเสียดาย มีช่องโหว่สามแห่ง" ลู่เฉินพูดเบา ๆเพราะอีกฝ่ายอ่อนน้อมถ่อมตนและสุภาพ รู้การคัดเลือก เขาถึงจะไว้หน้าบ้างไม่อย่างนั้น เขาคงตบอีกฝ่ายลงไปใต้เวทีตั้งนานแล้ว"สามแห่งไหน" หวางเสวียนขมวดคิ้ว"ดาบสาม ดาบเก้า ดาบยี่สิบหก"ลู่เฉินกล่าวคําเตือนอย่างมีความหมายแฝงอยู่ “ช่องโหว่ทั้งสามนี้คลุมเครือมาก เมื่อเผชิญหน้ากับนักสู้ทั่วไป ยังมองไม่เห็นเบาะแส แต่ในสายตาของผู้ยอดฝีมือที่แท้จริง นี่เป็นการบาดเจ็บที่ร้ายแรง"เป็นไปไม่ได้! ท่าดาบชุดนี้ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี ทําไมถึงมีช่องโหว่ที่ร้ายแรง?" หวางเสวียนไม่กล้าเชื่อ"ฝึกฝนเป็นอย่างดีมันไม่เท็จ ที่มีช่องโหว่ก็ไม่เท็จ ถ้าผมเดาไม่ผิด คนที่สอนวิชาดาบให้คุณ ได้จงใจซ่อนสามท่า ไ
หลังสังเวียนการแข่งขันจบลง ลู่เฉินและคนของฉาวซวนเฟยก็ยังไปรับประทานอาหารค่ำข้างนอกเมื่อเขากลับถึงโรงพยาบาล ก็เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้วไฟในโรงพยาบาลเปิดอยู่ และในขณะที่เขาเพิ่งเดินเข้าไปนั้นใบหน้าขี้เล่นที่สวยงามและคุ้นเคยก็เข้ามาในระยาสายตาเธอคือหลี่ชิงเหยาเธอกำลังสนทนาอยู่กับหลินหว่านเอ๋อร์ ทั้งสองคุยไปหัวเราะไปเมื่อเทียบกับความเย็นยะเยือกในอดีต ตอนนี้เธอดูเข้าถึงได้ง่ายขึ้นมาก"คุณลู่ คุณกลับมาแล้วเหรอ?"พอเห็นลู่เฉิน หลินหว่านเอ๋อร์ก็ลุกขึ้นทักทายทันที "คุณคุยกับคุณหลี่ก่อน ฉันจะไปทําอาหารมื้อดึกให้คุณค่ะ""ไม่ต้องลำบากเลยครับ ผมกินข้างนอกมาแล้ว"ลู่เฉินหัวเราะและหันไปมองทางหลี่ชิงเหยา "คุณมาได้ยังไง?""แน่นอนว่ามาขอบคุณคุณน่ะสิ"หลี่ชิงเหยายิ้มออกมาเล็กน้อย มันเป็นรอยยิ้มที่ไม่ค่อยจะได้พบบ่อยนัก: "เมื่อวานถ้าไม่ใช่ได้คุณช่วยเหลือ หายนะที่ตามมาคงมากมายจนสุดจะคาดเดาได้ ฉันคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าหลวี่ยวี่ถางจะเป็นคนหน้าซื่อใจคด""ไม่ต้องเกรงใจ ถ้าเป็นใครคนอื่น ผมก็จะช่วยเหมือนกัน" ลู่เฉินตอบอย่างนิ่ง ๆ "ทำไม? ยังโกรธอยู่เหรอ?"หลี่ชิงเหยาน้ำเสียงอ่อนลง "แม่ของฉันหุนหันพล
เธอไม่มีเรื่องอื่นให้ทำแล้วหรือไง?ลู่เฉินสะบัดหัวและหลังจากล้างหน้าแปรงหันเสร็จแล้ว เขาก็เดินไปเปิดประตูใหญ่ตามปกติหลังจากเสียง "เอี๊ยด" ในเวลาเดียวกันประตูก็ถูกเปิดออกเงาคนที่มีเลือดไหลนองเต็มตัว จู่ๆ ก็เทเข้ามาในบ้านร่างคนที่เสื้อขาวเปื้อนเลือด บนตัวยังแบกดาบหัก ดูท่าเหมือนได้หมดสติไปนานแล้วลู่เฉินเปิดดู เขาก็พบว่าชายชุดขาวคนนี้คือหวางเสวียน"เมื่อคืนผมเหมือนไม่ได้ทําร้ายเขาจนบาดเจ็บนี่นา?"ลู่เฉินลูบคางแม้ว่าจะอยู่ในอันดับหก แต่ก็ไม่ใช่มือดีที่เก่งกาจอะไรแต่ภายในเมืองเจียงหลิงเล็ก ๆ นี้ ก็นับว่าอยู่อันดับต้น ๆ เหมือนกันทำไมอยู่ ๆ ถึงโดนคนตีจนเป็นแบบนี้ได้ล่ะ?"ถือว่าไอ้นี่มันโชคดี"ลู่เฉินกระซิบเบา ๆ แล้วพาหวางเสวียนตรงเข้าไปในโรงพยาบาลหวางเสวียนล้มลงที่หน้าประตูโรงพยาบาล แบบนี้เขาก็ไม่สามารถเห็นคนตายไปต่อหน้าโดยไม่ช่วยได้แม้ว่าหวางเสวียนจะได้รับบาดเจ็บภายนอกหนักมาก แต่ก็ไม่ได้ร้ายแรงอะไร หลังจากให้ยาและพันแผลอย่างง่าย ๆ ก็สามารถจัดการได้แล้วแต่ความเสียหายของเส้นเลือดภายในไม่น้อยเลย แม้แต่จุดตันเถียนก็ได้รับความเสียหายอย่างหนักคนที่ลงมือทำร้ายเขา เห็นได้ช
เมื่อมองหวางเสวียนที่ตาแดงก่ำทั้งสองข้าง หัวใจของลู่เฉินก็มีความรู้สึกสงสารอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้โดนอาจารย์ของเขาหลอกใช้ก็แล้ว ขนาดคู่หมั้นยังโดนแย่งอีกช่างน่าเศร้าโศก อนาถใจจริง ๆ ความเกลียดชังที่ถูกแย่งเมีย อยู่ร่วมโลกกันไม่ได้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เป็นใครก็ล้วนรับไม่ได้ทั้งนั้นใครจะไปคิดว่าเจ้าสำนักสวนอู่ผู้สูงส่งจะเป็นคนจิตใจโฉดชั่วเสมือนหมาป่าแบบนี้จริง ๆ"พักฟื้นให้ดีเถอะ รักษาแผลให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยไปเอาของที่เสียไปคืนมา" ลู่เฉินตบไหล่เขา"บาดแผลของผม รักษาไม่หายแล้ว..."หวางเสวียนสีหน้าอ้างว้างและสิ้นหวัง "จุดตันเถียนของผมแตกสลาย เส้นเลือดย่อยยับ ลมปราณภายในบาดเจ็บสาหัสไปทั้งหมด ผมในตอนนี้ไม่มีความสามารถในการไปแก้แค้นแม้แต่น้อย ตอนนี้ผมมันก็เป็นแค่เศษขยะ! เศษสวะตั้งแต่หัวจรดเท้า!"เขากําหมัดแน่น เล็บมือแทงลึกเข้าไปในเนื้อแล้วเลือดไหล่ออกมาตามง่ามมือเขาน่ะเหรอที่ไม่อยากแก้แค้น?เขามีเหรอที่จะไม่ต้องการคืนความยุติธรรมให้ตัวเอง?แต่เขา ไม่มีโอกาสอะไรอีกแล้ว“ใครบอกว่าคุณเป็นขยะ บาดแผลของคุณ ผมรักษาได้” ลู่เฉินกล่าว"คุณ... คุณพูดอะไร?"หวางเสวียนเงยหน้าขึ้น
"เฮ้ย! ช่วยมีเหตุผลหน่อยได้ไหม?""นั่นสิ! คุณทําผิดแท้ ๆ ยังไปด่าคนอื่นอีก ไม่เคยเห็นคนหยิ่งผยองขนาดนี้มาก่อน!""ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว แจ้งตํารวจเลย!"ความเย่อหยิ่งของจ้าวจวี๋ ทําให้มวลชนโดยรอบไม่พอใจมาก ต่างพากันตําหนิ"หุบปาก! หุบปากให้หมด!"จ้าวจวี๋เอามือเท้าเอวแล้วพูดขึ้นอย่างก้าวร้าว "กูบอกพวกแกให้นะ พวกกูเป็นคนของตระกูลหลี่เจียงเป่ย แม้แต่หัวหน้าเมืองของพวกมึงก็ต้องเคารพพวกกู นับประสาอะไรกับคนจัณฑาลอย่างพวกแก?ถ้าพวกแกยังจะกล้าพูดจาเหลวไหลอีก เชื่อไหมว่ากูจะเรียกคนมาจับพวกแกไปทั้งหมด!"พอผู้คนรอบ ๆ ได้ฟังดังนี้ เสียงพวกเขาก็เบาลงในพริบตาตระกูลหลี่เจียงเป่ย นั่นเป็นตระกูลขุนนางที่ร่ำรวยมาก คนธรรมดาจะกล้าไประรานได้อย่างไร?"แม่ อย่าไปถือสาอะไรกับพวกจัณฑาลกลุ่มนี้เลย แม่ดูฉันสิ บาดเจ็บไปหมดแล้ว"ในขณะนี้ หลี่มู่ยวี่ หญิงสาวคนนี้ก็เปิดปากพูดขึ้นอย่างกะทันหัน"บาดเจ็บเหรอ ไหนให้แม่ดูหน่อย!"ใบหน้าของจ้าวจวี๋เปลี่ยนไปและรีบวิ่งไปหาลูกสาวเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดในไม่ช้า เธอก็พบว่าที่ตําแหน่งข้อศอกของลูกสาวมีรอยถลอกเล็ก ๆ อยู่"ย๊า! เลือดไหลแล้ว! ซวยแล้ว..."จ้าวจวี๋ตกใจจนห
"แม่! เป็นอะไรหรือเปล่า?"สีหน้าของหลี่มู่ยวี่เปลี่ยนไป เธอรีบไปพยุงแม่ขึ้นมาเธอทั้งตกใจและโกรธแค้น"โอ้ย! ฟันของฉัน!"จ้าวจวี๋กุมหน้าที่ร้อนพราวพลางร้องครวญครางตบปาดเดียวนั้นทำเอาเธอปากเบี้ยวไปเลย"แกกล้าตบพวกกูงั้นเหรอ? มึงตายแน่! ครอบครัวของมึงตายทั้งหมดแน่!""แน่จริงมึงอย่าหนีนะ ดูสิว่าวันนี้กูจะทํจัดการมึงยังไง!"หลี่มู่ยวี่ไม่พอใจอย่างมาก เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาทันทีแล้วเริ่มโทรเรียกหาคนมาลู่เฉินขี้เกียจที่จะสนใจ เขาช่วยเหลือคนต่อไปด้วยการรักษาด้วยเข็มเทคนิคฉีเหมินนั้น อาการของเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ทรงตัวนิ่งอย่างรวดเร็วและในเวลานี้ รถพยาบาลก็มาถึงที่เกิดเหตุ"ลูกสาวของคุณตอนนี้ไม่มีอะไรน่าห่วงแล้ว แต่แผลยังต้องเย็บและทำแผลอยู่ ดูแลอย่างระมัดระวังนะครับ"ลู่เฉินวางเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ บนเปลหาม"ขอบพระคุณมากค่ะ! ขอบพระคุณ จริง ๆ!"หญิงชุดขาวโค้งคํานับรัว ๆ ก่อนออกไปพร้อมกับรถพยาบาล"ฮึ! ชอบเป็นฮีโร่นักใช่ไหม? มึงรอกูก่อนนะ เดี๋ยวกูจะจัดการมึงเอง!"แม่ลูกสองคนจ้องมองอยู่ข้าง ๆ ด้วยท่าทางที่ไม่ยอมหยุดลู่เฉินกวาดสายตาขึ้นลง และพูดนิ่ง ๆ ว่า "คุณจะมาเสียเวลาตรงผม ไปตรวจท
ตอนบ่าย ที่หน้าประตูเทียนเซียงหยวนรถเพื่อการพาณิชย์สีดําสองสามคัน จู่ ๆ ก็ส่งเสียงหวีดแหลมขึ้นมาประตูรถเปิดออก ที่เดินนำออกมาคือชายหนุ่มวัยรุ่นที่ดูแต่งตัวดีคนหนึ่งผู้ชายที่หล่อเหลาดูสง่างาม บุคลิกองอาจห้าวหาญ ตั้งแต่หัวจรดเท้าล้วนกำลังปล่อยพลังออร่าที่ทำให้คนต้องสะพรึงกลัวออกมาข้างหลังของเขา ยังตามมาด้วยกลุ่มนักสู้ที่แต่งกายแปลก ๆ กลุ่มหนึ่งแต่ละคนดูท่าทางดุร้าย มีออร่าที่ทรงพลังเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดา"ที่นี่เป็นเขตอำนาจของตระกูลฉาว คนอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้อง ออกไปเดี๋ยวนี้!"พอบอดี้การ์ดสองคนที่หน้าประตูเห็น ก็ส่งเสียงเตือนออกมาในทันที"เสียงดังโหวกเหวก"เมื่อผู้ชายคนนั้นโบกมือกลางอากาศบอดี้การ์ดทั้งสองคนดูราวกับถูกรถชนเข้าเลยก็มิปาน บินถอยออกไปข้างหลังในทันที และกระอักเลือดไม่หยุดจากนั้น ทั้งกลุ่มก็เดินเข้าไปในเทียนเซียงหยวนด้วยท่าทางอวดดีในขณะนี้ ภายในห้องโถงใหญ่ของคฤหาสห์ฉาวซวนเฟยกําลังลิ้มรสชาอยู่อย่างสบาย ๆ ในมือของเธอก็ยังถือใบแจ้งงบการเงินอยู่ชุดหนึ่งในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ เพราะด้วยความโด่ดเด่นของยาเม็ดบำรุงหน้า ตระกูลฉาวจึงเรียกได้ว่ายังคงด
“อะไรนะ? ฉาวซวนเฟยถูกลักพาตัวไปงั้นเหรอ?!”เมื่อเฉินซวงและคนอื่น ๆ ที่มาเพราะทราบข่าว หลังจากรู้ความจริงก็พากันหน้าเปลี่ยนสี“เป็นแบบนี้ได้ยังไง? บอดี้การ์ดตั้งหลายสิบคนในบ้าน ทําไมพี่สาวของฉันยังถูกลักพาตัวไปได้อีก?” ฉาวอานอานแทบไม่อยากจะเชื่อ"คนที่มาความสามารถแข็งแกร่งเกินไป พวกเราต้านไว้ไม่ได้เลยครับ" หลิวเฉียงร้องไห้ด้วยหน้าโศกเศร้าขาทั้งสองข้างพิการ จุดตานเถียนก็ถูกทําลาย ตัวเขาในตอนนี้มีสภาพเหมือนบุคคลไร้ความสามารถ“เป็นใครกัน? ใครที่ใจกล้าขนาดนี้? ถึงขนาดที่กล้าลักพาตัวลูกสาวของฉันไป?" บนหน้าของเฉินซวงเต็มไปด้วยความโกรธ"ตัวตนที่แน่นอน ยังไม่อาจรู้ได้ แต่เขาได้ทิ้งจดหมายเอาไว้ฉบับหนึ่ง"หลิวเฉียงส่งสัญญาณให้ลูกน้องนำซองจดหมายมอบให้เฉินซวงเมื่อเธอเปิดอ่านดู สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นมืดหม่นเป็นพิเศษ"แม่คะ ในจดหมายพูดว่าอย่างไรบ้าง?” ฉาวอานอานพูดถามอย่างร้อนรน"พวกเขาบอกว่า ก่อนรุ่งสางให้เอาสูตรยาเม็ดบำรุงหน้าผูกไว้กับตัวลู่เฉิน ไปไถ่ตัวฉาวซวนเฟยที่วิลล่าเทียนหาว" เฉินซวงพูดเสียงเข้มขรึม“วิลล่าเทียนหาว? นั่นไม่ใช่เขตอำนาจของหม่าเทียนหาวหรอกเหรอ?” ฉาวอานอานขมวดคิ้ว