"ห้ะ?"ความโกรธอย่างกะทันหันของฉาวซวนเฟยทําให้ฉาวชิงซูอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อย "น้องสาว แค่เพื่อไอ้แมงดาคนนี้ คุณถึงกลับจะแตกคอกับผมเลยเหรอ?"เหตุผลที่เขาระรานลู่เฉิน ด้านหนึ่งก็เพราะขัดตา ไม่ชอบ อีกด้านหนึ่งก็กําลังทดสอบทัศนคติของฉาวซวนเฟยอยู่"ลู่เฉินเป็นผู้ช่วยชีวิตที่มีพระคุณของฉัน ถ้าคุณกล้าทำซี้ซั้ว อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจแล้วกัน!" ฉาวซวนเฟยพูดเสียงดังขึ้นถ้าไม่ใช่เพราะฐานะลูกพี่ลูกน้อง เธอคงไปตบหน้าเขามานานแล้ว"ได้... ดีมาก!"สีหน้าของฉาวชิงซูค่อนข้างดูไม่ดี "เรื่องของป้าหลาน ผมสามารถไม่ถือสาได้ แต่เรื่องตําแหน่งหัวหน้าแพทย์ เขายังไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็น!"นี่เป็นก้าวแรกของการยึดอํานาจ เขาย่อมไม่ได้ยอมอย่างง่าย ๆ "มีคุณสมบัติหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องที่คุณตัดสินได้ แต่ฉันจะเป็นคนตัดสินใจเอง" ฉาวซวนเฟยกล่าวอย่างตรงไปตรงมา"ซวนเฟย ทุกอย่างของคุณ ตระกูลเป็นผู้มอบให้ ถ้าคุณได้รับประโยชน์จากของส่วนรวมที่เบียดบังเป็นของส่วนตัว ทําลายผลประโยชน์ของวงศ์ตระกูล อย่าโทษผมที่รายงานมันต่อสํานักงานใหญ่ของตระกูลแล้วกัน!" ฉาวชิงซูขู่"แล้วแต่คุณเลย" ฉาวซวนเฟยไม่กลัวแม้แต่น้อย"เดี๋
เมื่อทั้งสองฝ่ายตกลงกันเสร็จแล้ว บรรยากาศในที่เกิดเหตุก็ตึงเครียดทันทีลู่เฉินกับผู้เฒ่าคิ้วขาวต่างส่งคนรับใช้ออกไปซื้อยาทั้งคู่ผลิตยาพิษกันในที่เกิดเหตุ แล้วกินยาพิษในที่เกิดเหตุส่วนใครจะชนะก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของตัวเองแล้ว"พี่ คุณว่าลู่เฉินจะทำได้ไหม? ถ้าเขาถูกแก้ยาไม่ได้แล้วตายไปจะทํายังไงล่ะ?" ฉาวอานอานกังวลเล็กน้อย"ในเมื่อเขากล้าที่จะรับคำท้า งั้นเขาต้องมีความมั่นใจ เชื่อใจเขาสิ"แม้ว่าสีหน้าของฉาวซวนเฟยจะไม่ได้เปลี่ยน แต่ในใจเธอก็กระวนกระวายมากถ้าทําได้ เธออยากให้ลู่เฉินบอกยอมแพ้เองเลย"ถึงจะพูดอย่างนี้ แต่สิ่งที่ลู่เฉินเก่งคือทักษะทางการแพทย์ การวิจัยด้านยาพิษ เมื่อเทียบกับตาเฒ่าวังแล้ว เขายังห่างไกลมากจริง ๆ" ฉาวอานอานส่ายหัวแต่ละคนมีด้านที่เก่งไม่เหมือนกัน สิ่งที่ชำนาญแต่ละอย่างต่างกันราวฟ้ากับดินมือสมัครเล่นจะเทียบกับมืออาชีพได้อย่างไร?เมื่อเทียบกับความกังวลของสองพี่น้องแล้ว เฉินซวงผู้อยู่ในตําแหน่งหลักกลับมีสีหน้าสงบแข่งใช้ยาพิษกับนักพิษวิทยา เธอไม่รู้จริง ๆ ว่าควรพูดว่าลู่เฉินอวดดีเหรอ? หรือโง่?แน่นอนว่า สถานการณ์นี้เธอยังคงชอบที่จะดูมันตราบใดที่
"อะไรนะ? อุจจาระงั้นเหรอ?! "พอฉาวชิงซูฟังคําพูดนี้ เขาก็อาเจียนอยู่ข้าง ๆ โดยตรงแต่ยาได้ลงท้องไปแล้ว อาเจียนออกมาไม่ได้แล้ว ทําให้หน้าเขาแดงไปหมดเมื่อก่อนการกินอึเป็นเพียงคําคุณศัพท์ แต่ตอนนี้กลายเป็นจริงแล้ว"ไม่คิดว่าลู่เฉินจะใจดำขนาดนี้ ถึงป้อนขี้ให้ลูกพี่ลูกน้อง งี้ต่อไปจะกินอาหารยังไง?"ฉาวอานอานปิดจมูก เธออยู่ห่าง ๆ และทําหน้ารังเกียจ"จะโทษก็ต้องโทษฉาวชิงซูปากหมาเกินไป กินขี้ก็สมควรแล้ว" ฉาวซวนเฟยอดหัวเราะไม่ได้"ไอ้ห่า! มึงแม่งตั้งใจเล่นตลกกับกูเหรอ?!"เมื่อฉาวชิงซูเงยหน้าขึ้น ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความอึมครึม แววตาของเขาแทบรอไม่ไหวที่จะกินคนที่เขาโตขนาดนี้แล้วยังไม่เคยได้รับความอัปยศแบบนี้มาก่อน"ในเมื่อเป็นการทํายาพิษ งั้นแน่นอนว่าสูตรยาก็ขึ้นอยู่กับผม ผมอยากใส่อะไรลงไปก็ใส่" ลู่เฉินพูดอย่างสมเหตุสมผล"ดี... ดีมาก! มึงมันใจกล้าพอจริง ๆ !"ฉาวชิงซูทำหน้าดุร้าย: "สักพักรอพิษตรงมึงออกฤทธิ์แล้ว กูจะให้มึงมาคุกเข่าขอร้องกู!""ใครขอร้องใคร ก็ยังไม่แน่เลย ตอนนี้ คุณควรถามคนข้าง ๆ คุณก่อนว่าจะแก้พิษของผมได้หรือไม่" ลู่เฉินยิ้มเบา ๆ "ตาเฒ่าวังครับ! รีบมาแก้พิ
"ไอ้หนุ่ม! อย่าได้คืบจะเอาศอกนะ!"ผู้เฒ่าคิ้วขาวมีน้ำโหขึ้นเล็กน้อยแล้ว "ตอนนี้ ไม่เพียงแต่คุณฉาวถูกวางยาพิษ แกเองก็ถูกวางยาพิษของกูด้วย ถ้าไม่ได้ยาแก้พิษของกู มึงจะไม่สามารถอยู่รอดได้ถึงวันพรุ่งนี้!""ใช่เหรอ? งั้นเรามาพนันกันไหมว่าใครจะตายก่อน?" ลู่เฉินดูเหมือนยิ้มแต่ไม่ยิ้ม"แก..." ผู้เฒ่าคิ้วขาวถูกเถียงจนพูดอะไรไม่ออกดูสถานการณ์แล้ว ต้องเป็นฉาวชิงซูที่ทนไม่ไหวก่อนแน่นอนและเพราะคิดถึงเรื่องนี้ เขาจึงเลือกที่จะนับว่าเสมอกันแต่อีกฝ่ายไม่ไว้หน้ากันเลย"ลู่เฉิน! มึงรีบเอายาแก้พิษมาให้กู ครั้งนี้ก็นับว่าพวกกูแพ้ไปแล้ว!" ฉาวชิงซูกัดฟันแล้วพูดขึ้น他实在是疼得受不了了。เขาเจ็บปวดมากจนทนไม่ไหวแล้วมิฉะนั้น เขาไม่มีวันก้มหัวให้กับไอ้มดต่ำต้อยตัวหนึ่งนี้หรอก"คุณฉาวครับ ยอมแพ้ด้วยการพูดเพียงไม่กี่คำ ดูไม่มีความจริงใจซะเลย" ลู่เฉินส่ายหัว"ไอ้คนที่แซ่ลู่! มึงอย่าได้ไร้ยางอายให้มากนัก!" ฉาวชิงซูเริ่มมีน้ำโหแล้ว"ทำผิดก็ต้องยอมรับ โดนตีก็ต้องยืนตรง ความรับผิดชอบแค่นี้คุณก็ไม่มีหรือ?" ลู่เฉินไม่กลัวแม้แต่น้อย"อยากให้กูคุกเข่ายอมรับความผิดกับมึง? มึงแม่งคู่ควรงั้นเหรอ?!" สีหน้าของฉาวชิงซูอึม
เมื่อเห็นขวดสีขาวเล็ก ๆ ผู้เฒ่าคิ้วขาวก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสั่ตกใจและแสดงสีหน้าแห่งความโลภออกมานั่นเป็นยาลับของหมอเทพเจียงป่ายชวนบนตัวไอ้หนุ่มนี่ ทำไมถึงได้มีของล้ำค่าแบบนี้ได้?ยาล้างพิษนั้นมีค่าเกินบรรยายมาก สุดที่จะประเมินค่าได้นะ!ผงยาเพียงเล็กน้อยก็สามารถขายได้ราคาสูงลิ่วแล้วไม่น่าแปลกใจที่ไอ้หนุ่มคนนี้มันถึงไม่กลัวอะไร ที่แท้มียาล้างพิษอยู่กับตัววันนี้ เขานับว่ารนหาที่เองแล้ว!"ฮึ่ม!"ฉาวชิงซูไม่ได้พูดอะไรมาก เขายกชาขึ้นแล้วก็ดื่มลงในอึกเดียวสิ่งที่ต้องพูดถึงเลยก็คือหลังจากที่ชาลงท้องได้ไม่นานนั้น ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่ราวกับมีดกวนในท้องของเขาก็เริ่มลดลงอย่างช้า ๆในเวลาเพียงไม่กี่นาที มันก็หายไปอย่างสมบูรณ์ในชั่วขณะหนึ่ง เขากลับมีความรู้สึกเหมือนการรอดชีวิตจากภัยพิบัติ"ไอ้คนที่แซ่ลู่! ความอัปยศอดสูในวันนี้ กูจำไว้แล้ว วันหลัง มึงอย่ามาตกอยู่ในมือกูเชียวนะ!""และฉาวซวนเฟย แกด้วย สำหรับเรื่องยาเม็ดศักดิ์สิทธิ์ แกควรจะแก้ไขให้เร็วสุด มิฉะนั้นอย่าโทษที่ผมไปรายงานต่อสํานักงานใหญ่!"หลังจากทิ้งสองประโยคไปอย่างดุร้าย ในที่สุดฉาวชิงซูก็จากไปอย่างทุลักทุเล"ไอ
"ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง"หลังจากฟังจบ ลู่เฉินก็พยักหน้าอย่างครุ่นคิด "ตามที่คุณพูด ตราบใดที่คุณกับหม่าเทียนหาว ใครที่พัฒนายาเม็ดศักดิ์สิทธิ์ได้ก่อน ใครคนนั้นก็สามารถครองตลาดยาของเมืองเจียงหลิงได้ก่อนใช่ไหม?""จะเข้าใจอย่างนี้ก็ได้"ฉาวซวนเฟยพูดอืมไปทีแล้วพูดต่อว่า "แต่นักวิจัยของฉันและข้อมูลที่เกี่ยวข้องถูกปล้นไปแล้ว ตอนนี้ต้องเริ่มต้นจากศูนย์ มันยากเกินไปจริง ๆ ""ฮึ่ม! ไอ้คนที่แซ่หม่านั้นช่างน่าเลวทรามจริง ๆ ใช้กลอุบายต่าง ๆ เยอะแยะไป" ฉาวอานอานไม่พอใจเล็กน้อย“ยาเม็ดศักดิ์สิทธิ์เป็นยาประเภทไหน?” ลู่เฉินเอ่ยปากพูดอีกครั้ง"ยาเม็ดศักดิ์สิทธิ์เป็นยาบำรุงสุขภาพชนิดหนึ่ง ไม่เพียงแต่สามารถยืดอายุขัยได้ แต่ยัง บํารุงความงามได้อีกด้วย ว่ากันว่าเป็นสูตรลับของราชสํานักโบราณ แต่เนื่องจากราชสมัยนานมากแล้ว มันจึงขาดไปครึ่งหนึ่ง พวกเราทําได้แค่พยายามศึกษาเพื่อฟื้นฟูมัน" ฉาวซวนเฟยอธิบาย"สูตรลับของราชสํานัก?"ลู่เฉินลูบคางแล้วพูดต่อว่า "ถ้าตามที่คุณพูด ผมเหมือนรู้จักยาลับชนิดหนึ่ง ที่มีผลเช่นเดียวกับยาเม็ดศักดิ์สิทธิ์ของคุณ""เอ๊ะ? ยาอะไรคะ?" ฉาวซวนเฟยตื่นเต้นขึ้นทันที"ยานี้มีชื่อว่
"ฮ่า ๆ ... นี่ป้าก็ไม่เข้าใจแล้วใช่ไหมล่ะ?คุณหนูหม่ามีสถานะอันสูงส่ง เธอไม่ได้ขาดทองหรือเครื่องประดับอะไรเลย ดังนั้นถ้าจะให้ของขวัญ เราก็ต้องให้อะไรที่พิเศษหน่อย เห็ดหลินจือมีส่วนช่วยบำรุงความงามได้ เป็นสิ่งที่ผู้หญิงไม่สามารถปฏิเสธได้ ฉันเชื่อว่าคุณหนูหม่าต้องชอบแน่นอน!" ถานหงกล่าวอย่างมั่นใจ"ก็จริงอยู่ แต่เห็ดหลินจือร้อยปีนี้ มันน่าจะต้องใช้เงินไม่น้อยใช่ไหมล่ะ?" จางชุ่ยฮัวพูดลองใจขึ้น"แน่นอนสิ! สิ่งนี้เป็นของหายาก ถ้าไม่เสีนเงินไปห้าถึงสิบห้าล้านบาทก็ไม่มีทางซื้อได้" ถานหงพยักหน้า"ห้ะ? แพงขนาดนี้เลยเหรอ?"จางชุ่ยฮัวตกใจไปที "ถานหง บนตัวคุณมีเงินมากมายขนาดนี้เหรอ?""แน่นอนว่าฉันไม่มีสิ แต่คุณป้ามีแน่นอน! คุณป้าให้ฉันยืมหลายล้านบาทก่อน ถ้าว่างฉันจะคืนให้" ถานหงพูดเหมือนการทำเช่นนี้สมเหตุสมผลคําพูดนี้ทําให้จางชุ่ยฮัวอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงไปชั่วขณะหลี่ชิงเหยาและหลี่ห้าวสองคนก็แอบขมวดคิ้วเช่นกันญาติคนนี้ของพวกเขา ทุกครั้งที่มาเยี่ยมก็ต้องขูดรีดเงินทองหรืออะไรสักอย่างตลอดรถเบนซ์ที่ซื้อเมื่อปีที่แล้ว ถูกเธอใช้คำพูดที่ว่า “ขอยืม 2 วัน” แล้วก็ขับไปเลย จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่ได้ค
"ถานหง! อย่าโกรธไปเลย อย่าโกรธไป!"จางชุ่ยฮัวรีบดึงถานหงไว้ เธอยิ้มแห้งแล้วพูดว่า "ก็แค่ไม่กี่ล้านบาทไม่ใช่เหรอ? ฉันยืมให้คุณก็พอแล้วมั้ง พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่จําเป็นต้องทะเลาะกันจนไม่เป็นที่พอใจกันขนาดนี้หรอก""แม่! แม่จะไปตามใจเธอขนาดนั้นทําไม?" หลี่ห้าวขมวดคิ้ว"ฉันมีถานหงเป็นหลานสาวแค่คนเดียว ตอนนี้เธอกำลังประสบปัญหา ถ้าฉันไม่ไปช่วยเธอแล้วใครจะช่วยเธอล่ะ?" จางชุ่ยฮัวกล่าวอย่างมีเหตุมีผล"จะช่วยก็ไม่ได้ช่วยแบบนี้มั้ง?" หลี่ห้าวไม่พอใจเล็กน้อย"หุบปาก!"จางชุ่ยฮัวขึงตาใส่ "ฉันไม่ใช้เงินของพวกคุณ ฉันใช้เงินของตัวเองยังไม่ได้อีกเหรอ?""แม่..."หลี่ห้าวหมดคำพูดไปเลยนี่ยังใช่แม่แท้ ๆ ของเขาอยู่หรือ?ปฏิบัติต่อญาติคนหนึ่งยังดีกว่าปฏิบัติต่อเขาอีก"ยังคงเป็นป้าที่รักฉันที่สุดเลยค่ะ!"ถานหงยิ้มอย่างมีความสุขทันทีวิธีแบบนี้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอใช้แล้ว และทุกครั้งที่ใช้ก็มีผลทุกครั้ง"แน่นอนสิป้าไม่รักหนู ถ้าป้าไม่รักคุณ จะไปรักใครล่ะ? ไปกัน ๆ พวกเราเข้าไปซื้อเห็ดหลินจือกันเถอะ"จางชุ่ยฮัวจับมือของถานหงแล้วเดินเข้าไปในศาลายาก่อน"พี่! ทําไมคุณไม่โน้มน้าวแม่หน่อย