ฉันตายแล้วศพของฉันถูกแช่แข็งไว้ในตู้แช่แข็งเป็นเวลาสี่สิบวันเต็มถึงมีคนพบร่างเปลือยเปล่า รูปหน้าบิดเบี้ยว มองออกได้ว่าก่อนตายประสบกับการข่มเหงอันไร้มนุษยธรรมมาภาพอันเซ็นเซอร์ความละเอียดสูงแพร่ออกไปทีละใบๆ จนกระจายไปอย่างกว้างขวางบนอินเทอร์เน็ตศพเปลือยเปล่าของฉันถูกแช่แข็งอยู่ในตู้แช่แข็งถึงสี่สิบวันภาพอันเซ็นเซอร์ความละเอียดสูงเหล่านั้นถูกเผยแพร่กว้างขวางบนอินเทอร์เน็ตเมื่อเผชิญหน้ากับข่าวลือที่แพร่ไปทั่ว แม่ของฉันส่งภาพต่อออกไป และยังเตือนน้องสาวด้วยเสียงอ่อนโยน “วงการบันเทิงมีแต่เน่าเฟะ ลูกอย่าไปที่นั่นเลย อยู่สืบทอดมรดกของมันก็พอแล้ว” “ลูกกับมันต่างกัน ลูกรักของแม่ต้องสะอาดบริสุทธิ์”ที่แท้ท่านก็ลืมไปหมดแล้วลืมไปว่าที่ฉันเข้าสู่แวดวง 'เน่าเฟะ' นี้ ก็เพื่อหาเงินมารักษาโรคมะเร็งให้ท่าน.....ฉันตายแล้วศพของฉันถูกซ่อนไว้ในตู้แช่แข็งเป็นเวลาสี่สิบวันเต็มถึงมีคนพบร่างเปลือยเปล่า รูปหน้าบิดเบี้ยว มองออกได้ว่าก่อนตายประสบกับการข่มเหงอันไร้มนุษยธรรมมาภาพอันเซ็นเซอร์ความละเอียดสูงแพร่ออกไปทีละใบๆ จนกระจายไปอย่างกว้างขวางบนอินเทอร์เน็ตเหมือนกับตอนมีชีวิตอยู่ สายตาขอ
ในระหว่างที่เต้นแสดงในวันนี้ จู่ๆ ชุดแสดงที่ฉันสวมก็ฉีกขาดซึ่งทำให้เธอโป๊อยู่บนเวที แต่ทั้งๆ ที่ฉันคือผู้ประสบภัย กลับถูกผู้คนรุมล้อม พวกเขาต่างเดาว่าฉันจงใจอยากเด่นตอนเดบิวต์ เหมือนดาราหญิงบางคนที่จงใจดึงดูดสายตาตอนเดินพรมแดง ที่ฉันจงใจโป๊ ก็เพื่อดึงดูดพวกนักลงทุน ซีอีโอที่อยู่เบื้องล่าง ความอัปยศน่าอายแบบนี้เริ่มตั้งแต่ครั้งนี้และสืบเนื่องมาเรื่อยๆ จนทำให้ฉันไม่สามารถเงยหน้าขึ้นมาได้ฉันเธอกวาดสายตามองห้องรอแสดง หัวหน้าวงเหออี๋โยนถุงที่บรรจุชุดการแสดงใส่ในอ้อมแขนนางเธอกล่าวอย่างไร้อารมณ์ “เธอไปเปลี่ยนก่อน อย่ามายืนขวางหูขวางตาฉันที่นี่!” “เห็นเธอแล้ว ฉันรู้สึกเหมือนจะดวงซวยเลย”เพื่อนร่วมวงที่อยู่ด้านข้างต่างผสมโรงตาม มีเพียงเสี่ยวโยวที่ส่งสายตาเห็นใจมาให้ฉัน ฉันหลุบตาลงไม่ส่งเสียงใด ทว่ากลับค่อยๆ เผยรอยยิ้มบางๆ ให้ชุดแสดงที่อยู่ในถุงนอกจากฉัน ครอบครัวของสมาชิกเกิร์ลกรุป AM ล้วนมีภูมิหลัง โดยเฉพาะหัวหน้าวงเหออี๋มีอำนาจมากที่สุดทั้งที่ชาติก่อนฉันปฏิบัติตามกฎแล้วแท้ๆ แต่อีกฝ่ายกลับเอาแต่กลั่นแกล้งฉันในวงการบันเทิงมาตลอดตอนนี้ ถึงตาฉันแล้วเหมือน
ฉันปรายตาขึ้นและหัวเราะเบาๆ “งั้นเหรองั้นก็ถือว่าเธอทำอะไรไว้ก็ได้อย่างนั้น”ชะตากรรมของฉันกับเหออี๋สับเปลี่ยนกันสิ้นเชิง ฝ่ายที่ถูกหัวเราะเยาะกับกลายเป็นเธอ ส่วนฉันรับงานพรีเซนเตอร์สองสามตัวเพราะแสดงได้โดดเด่นแทน เพียงแต่ไม่นานแม่ก็ใช้ข้ออ้างคิดถึงฉัน โทรเรียกฉันกลับบ้านไปเมื่อนึกถึงเรื่องที่ประสบในชาติก่อน ฉันก็แค่นยิ้มออกมาเนิ่นนานคิดถึงฉันอะไร ก็แค่อยากให้ฉันกลับบ้านไปเดตกับพวกคนรวยที่นั่นก็เท่านั้น “แกอายุมากแล้ว ไม่แต่งงานกับคนแก่แล้วจะแต่งกับอะไร? แกคู่ควรเหรอ!” “แต่งงานใกล้ๆ พวกเขาไม่ได้ไร้แขนขาเสียหน่อย และถือว่าเธอประสบความสำเร็จแล้ว!” ต่อให้ฉันเพิ่งอายุยี่สิบกว่าก็ร่ำรวยมีอิสระอยู่แล้ว ตัวเธอเองก็สวยฉลาด ดีกว่าคนทั่วไปไปหลายส่วนอยู่ แต่วาจาดุร้ายว่าคนต่ำต้อยคลุกฝุ่นเหล่านั้นก็ยังสาดใส่ใจเธอเรื่อยๆ ตอนนี้คิดๆ ดูแล้วก็เพื่อได้สินสอดสูงๆ เท่านั้นเธอเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ บล็อกแม่กับน้องทุกช่องทาง รวมถึงตัดเงินค่าใช้จ่ายสี่หมื่นต่อเดือนด้วยชีวิตนี้ เธอจะไม่ให้พวกเขาดูดเลือดดูดเนื้อเธออีกแล้ว! แม่ที่รู้ว่าฉันบล็อกก็เริ่มร้อนรนขึ้นมา และคิ
ทว่าตั้งแต่อายุสิบแปดปีก่อนหน้า ความคิดของฉันคืออยากจะเป็นทนายยุติธรรมมาโดยตลอดด้วยเหตุนี้ฉันจึงตั้งใจเรียน จนคะแนนติดชิงเป่ย กระทั่งตอนมัธยมปลายท่านป่วยเป็นโรคมะเม็ง บังเอิญแมวมองเดินผ่านมาและยื่นนามบัตรใบหนึ่งให้ฉัน ฉันจึงละทิ้งทุกอย่าง และเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยความสับสน เพียงเพื่อหาเงินมารักษาแม่ ทว่าการเสียสละเหล่านี้ไม่ได้แลกมาด้วยความรักของมารดาที่วอนขอเลยท่านที่หายดีแล้วถึงขั้นเกลียดฉันที่ทำให้ขายหน้า เกลียดเพราะฉันถูกแฮ็กทั้งโซเชียล จนทำให้มีคนไปวิพากษ์วิจารย์ท่านกับน้องสาว เมื่อคำว่าเจียงหว่านชิงอกตัญญู’ ติดคำค้นหาสิบอันดับแรก ฉันก็โพสต์โต้กลับ ในโพสต์เกี่ยวกับภาพการโอนเงินให้ทางบ้านในระหว่างที่ทำงานสามปี ในตอนที่สวี่หลานเป็นมะเร็ง ค่าใช้จ่ายที่ออกเรื่อยๆ ฉันเป็นคนรับผิดชอบ หลังจากที่ท่านดีขึ้นแล้ว ค่าใช้จ่ายสี่หมื่นต่อเดือนฉันก็โอนให้ตามเวลากำหนดไม่ขาด กระทั้งระหว่างที่ท่านใช้ยาเคมีรักษาโรคมะเร็งฉันปฏิเสธงานทุกอย่าง มาทุ่มเทอยู่ดูแลท่าน ส่วนลูกสาวคนเล็กของท่านล่ะ กำลังมีความรักหวานซึ้งกับแฟนไหม โพสต์โต้กลับนี้ทำให้ทุกคนตกใจจนอ้า
แต่แล้วมันยังไงล่ะ?ฉันหยักไหล่ สายตาที่มองเธอเปี่ยมไปด้วยความหยอกล้อ “คราบสกปรกนี้ เธอล้างไม่สะอาดไปทั้งชีวิตหรอก” “ตราบใดที่เธอยังยืนอยู่บนเวที ก็จะมีแอนตี้ขุดเรื่องที่เธอเคยทำไว้ขึ้นมา” “หากการปิดปากได้ผล เธอจะไม่เสียแฟนคลับสี่แสนคนไปในชั่วข้ามคืน”คำพูดนี้แทงจุดปวดของเธอเข้าอย่างจัง สีหน้าของเหออี๋เย็นชาลงขีดสุด เธอส่งสายตาให้คนในวงที่เหลือ คนเหล่านั้นเข้าใจทันที รีบปิดประตูห้องแต่งตัว และมาล้อมฉันไว้ ห้องแต่งตัวไม่มีกล้องวงจรปิด การใช้ความรุนแรงในกลุ่มเล็กๆ แบบนี้เป็นวิธีที่พบเห็นได้ทั่วไปชาติก่อนฉันต้องกล้ำกลืนความขมขื่นแบบนี้แต่ตอนนี้ ใครจะกลัวกัน?ครั้นเห็นเหออี๋ยกขวดน้ำเดือดบนโต๊ะขึ้นหมายจะสาดลงบนต้นขาของฉัน ฉันก็ยิ้มออกมา และล้วงมีดเล็กออกมาจากกระเป๋าแล้วจี้ไปที่คอเธอทุกคนต่างนิ่งอึ้ง เหออี๋ยิ่งไม่กล้าขยับ“ชอบรังแกคนอื่นไม่ใช่เหรอ?” ฉันจ้องน้ำร้อนในมือเหออี๋ เนื่องจากอารมณ์ตื่นเต้นทำให้มันหกออกมาหลายหยดเธอชอบสาดน้ำร้อนบนส่วนลับของคนอื่นเป็นที่สุดตอนนี้ถึงตาตัวเธอเอง“สาดใส่ตัวเองซะ!” ฉันกล่าวเสียงเยือกเย็น เหออี๋มองฉันด้วยความโกรธ ไม่ค
เธอคิดว่าต่อไปฉันจะเปิดเผยการใช้ความรุนแรงของเธอต่อหน้าสาธารณะชน แต่ในงานถ่ายทอดสดการแถลงข่าวอัลบั้มใหม่นี้ แค่ก่อเรื่องเท่านี้จะไปพออะไร?ฉันมองตรงไปที่กล้อง “ฉันอยากฟ้องพ่อแม่ของเหออี๋หัวหน้าวง AM ! บริษัทบันเทิงภายใต้ชื่อของเขาได้หลีกเลี่ยงภาษีอย่างร้ายแรง ขอกรมสรรพากรสอบสวนอย่างเคร่งครัดด้วย!”เสี่ยวโยวก็เดินออกมาจากหลังเวที เธอรับไมโครโฟนมา ความขี้ขลาดในอดีตหายไปหมดสิ้นดวงตามีน้ำตาเอ่อคลอ พลางกล่าวเสียงดัง “ฉันคือผู้ช่วยฉางโยวของวง AM ฉันขอฟ้องเหออี๋ทำผิดกฏหมายผิดศีลธรรม! เธอใช้ความรุนแรงในโรงเรียนตอนมัธยมจนทำให้น้องสาวฉันตาย!” ทุกคนต่างฮือฮาขึ้นมา ไม่ว่าใครก็คิดว่างานแถลงข่าวอัลบั้มใหม่ธรรมดาๆ จะกลายเป็นงานฟ้องร้องฉันกับเสี่ยวโยวสบตากัน พลางยกมือเช็ดน้ำตาตรงปลายหางตาออกให้กัน เมื่อเสี่ยวโยวฟ้องร้องแล้ว ไม่นานตำรวจก็มาถึงสถานที่เกิดเหตุ พวกเรานำหลักฐานที่เกี่ยวข้องออกมา อีกทั้งยังโพสต์ส่วนหนึ่งลงบนอินเตอร์เน็ตด้วย ชาติก่อนหลังจากที่ฉันตาย วิญญาณไม่เคยไปสู่สุขคติเลยฉันมองเสี่ยวโยวหาหลักฐานการใช้ความรุนแรงในโรงเรียนด้วยความกล้ำกลืนอดกลั้น กระทั่งสืบได้ข้อมู
ว่าจบ ก็โพสต์สัญญาที่บริษัทนั้นลงนามกับพวกเธอลงด้วยความภาคภูมิใจฉันแตะเปิดรูป กวาดสายตาอย่างรวดเร็วไปครู่หนึ่งโอ๋ว สัญญาหยินหยาง ทุกอย่างล้วนเป็นกับดับที่น่ากลัว เธอมาเข้าร่วมงานเลี้ยง แต่กับเจอเข้ากับฉู่จาวไฮวพระเอกละครเรื่องก่อนเข้า ได้ยินว่าช่วงนี้เขารับละครฟอร์มยักษ์อีกแล้ว อนาคตช่างสดใสจริงๆ “อยากให้ผมส่งบัญชีวีแชทของผู้กำกับหลี่ให้คุณไหม นางเอกของเรื่องนี้ยังไม่ได้คอนเฟิร์มเลย” ฉู่จาวไฮวพูดด้วยรอยยิ้ม ฉันเลยไม่เกรงใจ รีบรับวิธีติดต่อด้วยความหน้าด้านทันทีระหว่างทางกลับบ้าน เขากลับส่งวีแชทมาหาฉัน“นี่คือสร้อยคอของคุณไหม?”ฉันลูบลำคอ มันว่างเปล่า สร้อยคอที่แฟนคลับให้ฉันหายไป โชคดีที่ถูกเขากลับได้ ทว่าความโชคดีนี้รักษาไว้ได้ไม่นาน ฉู่จาวไฮวก็ส่งเสียงด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมมาให้ฉัน“นี่แฟนคลับคนไหนมอบให้คุณกัน?” “นี่ไม่ใช่สร้อยคอธรรมดา ในนั้นมีอุปกรณ์จีพีเอชติดตั้งด้วย” “อีกฝ่ายสามารถสืบว่าคุณไปไหนทำอะไรผ่านเครื่องนี้ได้ นี่เป็นวิธีใช้ที่ผิดกฏหมาย” คำพูดนี้ทำให้ฉันสับสนไปเลย อุปกรณ์จีพีเอชติดตาม? สร้อยคอเส้นนี้แฟนคลับมีชื่อเสียงในหมู่กลุ่มแฟนค
เขาถือมีดเดินเข้ามาหาฉันทีละก้าวภายใต้ความกระวนกระวาย ฉันควักเอาสเปรย์พริกไทยในกระเป๋าออกมาพ่นใส่เขาแล้วเตะเข้าหวางขาเขาอย่างแรง รอเขาเจ็บจนหดตัว ฉันก็พ่นสเปรย์พริกไทยใส่เหออี๋เธอโดนสเปรย์พริกไทยจนลืมตาไม่ได้ และฉันใช้โอกาสนี้หลบหนีไปทางบันไดอย่างเร่งรีบ แทบจะวิ่งด้วยความเร็วสุดชีวิต ทว่าไม่นานพวกโจวโจวก็ตามมาทันพวกเขายิ่งลนลานเพิ่มขึ้นฉันรู้ ถ้าตกอยู่ในมือพวกเขา ต้องตายอย่างน่าอนาถกว่าชาติก่อนแน่!ชั้นแล้วชั้นเล่า คนร้ายอยู่ห่างจากฉันไปเพียงไม่กี่ก้าวจวบจนฉันสะดุดเท้าล้ม กลิ้งตกลงบันไดมาติดๆ กันหลายชั้น ความหวังทั้งหมดดับสลาย เสียงหัวเราะของโจวโจวกับเหออี๋ดังขึ้นก้องหู “วิ่งสิ ทำไมไม่วิ่งแล้วล่ะ?” มีดปอกผลไม้นั่นจออยู่ที่คอฉัน สัมผัสโลหะที่คมแข็งทำให้ฉันนึกได้ว่าชาติก่อนตัวเองตายยังไง มีดแล้วมีดเล่า เลือดไหลอาบไปหลายวันจวบจนเฮือกสุดท้ายของฉัน เขาถึงได้นำร่างฉันใส่ไว้ในตู้แช่แข็งฉันแยกไม่ออกว่ารู้สึกหนาวเพราะเลือดไหลจนหมดตัว หรือรู้สึกหนาวเพราะช่องแช่แข็งกันแน่ พลันน้ำตาไหลหยดลงมามาสายฉันหลับตาลง รอความเจ็บปวดและความตายมาเยือนทว่ามีเสียงเยือก