"เด็กสมัยนี้คิดอยากจะทำอะไรที่ไหนก็ทำ ไม่รู้จักอายฟ้าอายดิน" "น่าเกลียดเป็นผู้หญิงอะไรไม่รักนวลสงวนตัว นั่งให้ผู้ชายกอดหอมอยู่ได้""คนเราก็แปลกเนอะอยู่ข้างนอกไม่รู้จักควบคุมอารมณ์ตัวเอง เที่ยวมาทำบัดสีบัดเถลิงกลางห้างแบบนี้""หน้าตาก็ดีไม่น่าทำอะไรทุเรศแบบนี้เลย"เสียงซุบซิบนินทาของบรรดาคนที่มานั่งทานอาหารญี่ปุ่นอยู่ในร้านเมื่อเห็นการกระทำของชายหญิง สร้างความอับอายให้คนที่ถูกพูดถึงไม่น้อย ก๋วยเตี๋ยวซึ่งกำลังนั่งก้มหน้าจับแก้มตัวเองถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย แสร้งทำเป็นไม่ได้ยินเสียงซุบซิบนินทาที่ด่าทอตนเพราะเธอเริ่มชินกับคำดูถูกพวกนี้ไปแล้ว เธอดิ้นจนหลุดออกจากพันธนาการในอ้อมแขนแกร่ง แล้วรีบดีดตัวลุกขึ้นหันกลับไปพูดว่าคนที่นั่งยิ้มอยู่บนเก้าอี้"ทีหลังอย่ามาทำแบบนี้กับหนูอีกนะคะ หนูไม่ชอบ" ว่าจบเด็กสาวก็หมุนตัวเดินออกไปจากร้านทันที โดยไม่รอให้เนมาร์ได้ตอบอะไร เขาเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ พลางรีบหยัดกายลุกขึ้นล้วงหยิบกระเป๋าสตางค์แบรนด์หรูจากกางเกงยีนราคาแพง ควักเงินออกมาวางไว้บนโต๊ะ ก่อนจะวิ่งตามเธอออกไปหมับ! "โอ๊ย!" เธอร้องเสียงหลงด้วยความตกใจเมื่อโดนมือหนาคว้ากระตุกแขนเรียวจากด้านหลัง
"คุณอย่าทำป้าแจง ปล่อยค่ะ" ก๋วยเตี๋ยววางของลงและรีบวิ่งตามออกไปห้ามปรามเนมาร์หน้าบ้าน มือเล็กจับแขนแกร่งหวังให้เขาคลายพันธนาการออกจากลำคอระหงของสาววัยกลางคน"....." ชายหนุ่มไม่ฟังคำห้ามปรามของเด็กสาวเขายิ่งบีบรัดคออีกฝ่ายแน่นกว่าเดิม ทำเอาผู้คนที่ยืนมองอยู่ต่างคนต่างรีบกลับเข้าบ้านทันที เพราะกลัวจะโดนลูกหลงไปด้วย"อึก! อ่อยนะ ฉะ..ฉันขอโทษ" เสียงร้องขอและท่าทางเจ็บปวดของคนตรงหน้าไม่ได้ทำให้เนมาร์สงสารเลยสักนิด ใครที่มันคิดเข้ามายุ่งกับคนของเขามันต้องได้รับบทเรียนอย่างสาสมก๋วยเตี๋ยวถอนหายใจเบาๆกับการกระทำของเนมาร์ ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ สีหน้าและท่าทางของเขาตอนนี้ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ มือเล็กยังคงจับดึงแขนแกร่งอยู่อย่างนั้น แม้รู้ว่าสู้แรงเขาไม่ไหวแต่ก็ยังดีกว่าอยู่เฉยๆ อย่างน้อยก็ได้ช่วยเพราะเธอไม่อยากให้เขาทำบาป"คุณปล่อยป้าแจงเถอะนะคะ อย่าทำแบบนี้""เฮือก!" แจงพยายามตะเกียกตะกายแกะมือหนาออกจากลำคอเมื่อรู้สึกว่าตัวเองเริ่มหายใจติดขัด ลูกกะตาดำค่อยๆเหลือกมองขึ้นไปข้างบนเหมือนคนกำลังจะขาดอากาศหายใจ ขณะที่ก๋วยเตี๋ยวเหลือบมองสีหน้าของคนที่ถูกกระทำอย่างนึกสงสาร ก่อนจะพูดอ้อนวอนชายหนุ่มขึ
หลายวันต่อมา.."เป็นอะไรของมึงไอ้เนมาร์ ทำหน้าอย่างกับคนไม่ได้ขี้มาหลายวันงั้นอะ" โน่ที่นั่งรับประทานอาหารเช้าอยู่ในห้องอาหารเอ่ยถามลูกชายที่เพิ่งเดินทำหน้าไม่สบอารมณ์เข้ามานั่งตรงข้าม ทว่าเนมาร์กลับมองค้อนใส่ผู้เป็นพ่ออย่างไม่พอใจเมื่อมาถามแบบนี้"มองกูขนาดนี้มาฆ่ากูเถอะ""ถ้าไม่ติดว่าเป็นป๊าผมฆ่าไปและ ใช้งานอยู่ได้คนบอกว่าไม่ว่างก็ไม่ฟัง นี่ผมไม่ได้เข้าไปดูซ่องหลายวันและถ้าวันนี้ผมไม่ได้เข้าไปดูอีกผมอาละวาดบ้านแตกแน่" เนมาร์ระบายอารมณ์ใส่ผู้เป็นพ่ออย่างเหลืออด เพราะตั้งแต่เช้าของอีกวันโน่ก็ใช้ให้เขากับน้องชายช่วยกันทำงานทุกอย่างแทนอยู่สองวัน จนเขาไม่มีเวลาไปหาเด็กสาวเลยกว่าจะกลับมาก็ดึกดื่น"แหมกูใช้แค่สองวันทำจะเป็นจะตาย ถ้ากูไม่ติดไปคุยงานที่ญี่ปุ่นกับไอ้คิมคงไม่ใช้มึงหรอก..ไอ้ลูกเวร""หึ! พอหมดประโยชน์ก็ด่า ป๊ารู้ไหมว่าผมต้องทิ้งงานตัวเองเพื่อมาดูแทนให้เนี่ย เคยสำนึกบ้างไหม" เสียงแค่นหัวเราะในลำคอของเนมาร์ดังขึ้นหลังโน่พูดจบประโยค ก่อนเขาจะพูดต่อ ทำเอาคนที่นั่งจิบชาอยู่ฝั่งตรงข้ามเงยหน้าไปเจ้าของคำพูดอย่างไม่ชอบใจ"งานของมึงมีอะไร แค่ซ่องให้ไอ้ทิมดูแลแทนก็ได้ปะ หรือมึงติดใครในนั้
"ไอ้เนถึงเวลาเรียนแล้ว ถ้าง่วงก็กลับไปนอนบ้าน" เดย์สะกิดแขนเรียกเพื่อนรักที่นอนฟุบหน้าลงบนโต๊ะอยู่หลายนาที แล้วหยัดกายลุกขึ้นเดินมุ่งหน้าไปยังลิฟต์ใต้อาคารเรียนโดยไม่รอ ทำให้เนมาร์ค่อยๆเงยหน้าขึ้นแล้วรีบดีดตัวเดินตามเข้าลิฟต์ไป"เฮ้ย! เดี๋ยวดิไอ้เนอย่าเพิ่งไป มึงยังไม่ตอบคำถามกูเลยสรุปว่ามึงมีเด็กเหรอ? ใครวะไอ้เน" น้ำเสียงเปี่ยมพลังตะโกนไล่หลังเพื่อนรักดังลั่น ท่ามกลางสายตาของผู้คนแถวนั้นที่หันมามองต่อด้วยสีหน้างุนงง ทว่าคนที่ถูกเรียกกลับส่ายหน้าไปมาอย่างเอือมระอา ก่อนจะกดลิฟต์ให้ปิดลงโดยไม่รอเพื่อนรักอีกคนที่กำลังวิ่งเข้ามาหลายชั่วโมงต่อมา.. "ไอ้เนมึงจะบอกกูได้ยังว่าเด็กที่มึงคิดถึงคนนั้นคือใคร? ต้องสวยมากแน่เลยใช่ไหมมึงถึงหลงขนาดนี้" ระหว่างที่นั่งเรียนกันอยู่ต่อก็เอ่ยถามขึ้นอีกครั้งเพราะความอยากรู้ เขาคะยั้นคะยอถามมาเป็นชั่วโมงกว่าแล้วก็ยังไม่มีคำตอบหลุดออกมาจากปากเพื่อนรักแม้แต่น้อย "มึงจะถามเซ้าซี้มันทำห่าอะไรนักหนาวะ ถ้ามันอยากบอกเดี๋ยวมันก็บอกเองนั่นแหละ" เดย์ถอนหายใจพรืดใหญ่ด้วยความรำคาญเพื่อนรักที่กระแนะกระแหนอยากรู้อยากเห็นไปซะทุกเรื่อง จนเขาแทบจะไม่มีสมาธิเขียนงานที่อาจา
เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นจากทางด้านขวาหน้าบันไดทำให้ก๋วยเตี๋ยวรีบหันหน้าที่เปื้อนด้วยคาบน้ำตาไปมอง เธอฉีกยิ้มกว้างด้วยความดีใจที่เห็นเนมาร์กำลังเดินเข้ามาช่วย ก่อนร่างของเธอนั้นจะถูกปล่อยลงกับพื้นในนาทีต่อมาตุ้บ!"อึก!..คุณ" เด็กสาวรีบวิ่งไปหลบหลังเขาด้วยอาการสั่นเทา น้ำตาบนใบหน้าหวานค่อยๆหยุดไหล มือเล็กทั้งสองข้างกำเสื้อเชิ้ตนักศึกษาสีขาวแน่นราวกับกลัวจะโดนทิ้ง ทว่ามือหนาเอื้อมไปคว้าแขนเรียวข้างหนึ่งที่กำเสื้อตนอยู่ด้านหลังมากอดเอวไว้ แล้วเดินตรงดิ่งไปหาชายวัยกลางคนที่ยืนเสยผมอยู่ตรงหน้าไม่กี่ก้าว"มึงคิดจะทำอะไรคนของกู" เนมาร์เอ่ยถามเสียงแข็ง"หึ! เป็นเด็กพูดมึงกูกับผู้ใหญ่ ไม่ก้าวร้าวไปหน่อยเหรอ?" ชายหนุ่มคนนั้นไม่ตอบคำถามเนมาร์แต่กลับยิ้มมุมปากเล็กน้อย แล้วถามกลับแทนพลางยืนฝ่ามือออกไปเพื่อทักทายเด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันกับลูกชายเขา ก่อนจะพูดแนะนำตัว "ผมชื่อพิรุธ เพิ่งเคยมาใช้บริการที่นี่ของคุณเนมาร์ครั้งแรก""กูไม่ได้อยากรู้จักมึง กูถามว่ามึงคิดจะทำอะไรคนของกู" เนมาร์ยกฝ่ามือขึ้นมาปัดมือสากของคนตรงหน้าออกอย่างไม่ไยดี ดวงตาคมกริบจ้องมองพิรุธอย่างเดือนดาลพร้อมกับกำมัดแน่น"เด็กคุณม
"ทำอะไรเหรอคะ?" ใบหน้าจิ้มลิ้มถลึงตาพร้อมกับขมวดคิ้วเล็กน้อยเชิงสงสัยเอ่ยถามออกไป ก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นเดินไปหาเจ้านายที่โต๊ะทำงานเพื่อฟังคำตอบ"ทำทุกอย่างที่ฉันสั่ง" เนมาร์ตอบเสียงเรียบพลางยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ ในที่สุดวันที่เขาจะได้อยู่ใกล้ชิดกับเธอก็มาถึงโดยไม่ต้องคิดทำอะไรมากมาย หลังจากนี้ไม่ว่าเวลาไหน จะนอนหรือตื่นก็ได้เห็นหน้าเด็กสาวเป็นคนแรกมันคือความสุขของเขา"ทุกอย่างเหรอคะ? หนูว่ามันไม่ตายตัว คุณระบุมาเลยดีกว่าว่าจะให้ทำอะไรบ้าง" ก๋วยเตี๋ยวหย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามกับชายหนุ่ม แววตาสีน้ำตาลเข้มจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาไม่วางตา ไม่ต่างจากเนมาร์ก็จ้องใบหน้าหวานอมชมพูกลับเช่นกัน"ฉันสั่งอะไรเธอก็ไปทำแค่นั้น""หนูว่าคุณให้หนูทำงานที่นี่เหมือนเดิมเถอะค่ะ ที่นี่สะดวกกับหนูที่สุดแล้ว" เธออยากทำที่นี่ต่อเพราะมันใกล้บ้านเดินทางไปกลับสะดวก เธอไม่เคยไปไหนไกลจากบ้านเลย กลัวว่าถ้าไปทำที่คอนโดเขาจะเดินทางไปกลับลำบาก"แล้วคอนโดฉันไม่สะดวกกับเธอตรงไหน? มีทุกอย่างแถมยังปลอดภัยอีก" เขาเอนพิงกับพนักเก้าอี้ตัวโปรด พลางยกขาขึ้นไขว่ห้าง แล้วใช้นิ้วเคาะโต๊ะเพื่อรอฟังคำที่กำลังจะออกมาจากปากของ
"ฮึก! มะ..ไม่จริง" ใบหน้าหวานส่ายไปมา พร้อมกับน้ำตาเอ่อไหลกลิ้งหยดลงมาบนพวงแก้มนวลทั้งสองข้างเมื่อทิมพูดจบประโยค ก๋วยเตี๋ยวรีบดีดตัวขึ้น แล้ววิ่งผลุนผลันออกไปจากห้องเพื่อกลับไปดูบ้านทันที เธอได้แต่ภาวนาขอให้สิ่งที่ได้ยินไม่เป็นความจริง"สงสารน้องว่ะ นายไม่น่าสั่งให้ผมทำอะไรแบบนี้เลย" ทิมหันหน้ากลับมาพูดกับเจ้านายที่สั่งให้เขาไปเผาบ้านของเด็กสาวเมื่อชั่วโมงที่แล้ว โดยที่เขาเองไม่ได้เต็มใจเลยสักนิดแต่ก็ต้องทำเพราะเป็นคำสั่ง ทว่าคนฟังกลับนั่งยกยิ้มมุมปากเงียบจ้องมองเด็กสาววิ่งออกไปฟังไม่ผิดหรอกเขาเป็นคนออกคำสั่งให้ทิมไปลอบวางเพลิงบ้านของเธอเองผ่านทางข้อความไลน์ ตอนที่ได้ปล่อยให้เธอนั่งจมอยู่กับความคิดเงียบๆ ไม่คิดว่าลูกน้องจะทำหน้าที่ได้รวดเร็วขนาดนี้ ทำให้เขาพอใจไม่น้อย ดีนะที่เขาพอจะมองนิสัยของเธอออกจึงคิดดักทางไปตั้งแต่ต้น ทีนี้แหละเธอจะไม่มีทางปฏิเสธอะไรเขาได้อีก คนอย่างเขาสามารถทำได้ทุกอย่าง ถ้าการกระทำนั้นมันทำให้เธอยอมมาอยู่ด้วย"สงสารทำไม?" เนมาร์ตอบสั้นๆอย่างไม่สะทกสะท้านกับสิ่งที่ทำลงไป"น้องมันไม่มีที่อยู่นะนาย ไม่ให้ผมสงสารทนไหวเหรอ แล้วนายทำแบบนี้ทำไมผมไม่เข้าใจ" แม้จะทำตา
"......" น้ำเสียงตัดพ้อที่เปล่งออกมาจากปากเนมาร์ไม่ได้ทำให้ก๋วยเตี๋ยวหยุดสงสัยในตัวเขาได้เลย แต่เธอก็ไม่อยากคาดคั้นอะไรต่อเพราะไม่มีหลักฐาน ปักปลำไปก็ไร้ประโยชน์ ส่วนตัวเขาก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรแถมยังคอยช่วยและปกป้องเธอมาตลอดแขนแกร่งคลายพันธนาการออกจากเอวคอด แล้วหยิบกระบอกปืนที่วางอยู่บนหน้าตักของเด็กสาวขึ้นมาถือไว้ ก่อนที่เขาจะเลื่อนมือไปจับสะโพกของคนบนตักยกขึ้น ยังไม่ทันที่จะได้ยกก๋วยเตี๋ยวก็ชิ่งลุกขึ้นมาเสียก่อนเนมาร์หยัดกายลุกขึ้น ยกกระบอกปืนจ่อขมับตัวเองเพื่อเรียกร้องความสนใจจากอีกฝ่าย ขณะที่เธอกำลังก้มหยิบโกศและกรอบรูปของผู้เป็นแม่เพล้ง!เสียงของในอ้อมแขนเรียวตกลงมาแตกกระจาย เถ้ากระดูกของผู้เป็นแม่หกเกลื่อนกลาดเต็มพื้นถนนพร้อมกับกรอบรูปที่แตกร้าวไม่มีชิ้นดี เมื่อก๋วยเตี๋ยวหมุนตัวกลับมาแล้วเจอชายหนุ่มยืนเอากระบอกปืนจ่อขมับของตัวเองอยู่ "คะ..คุณจะทำบ้าอะไร" เธอเอ่ยถามอย่างตะกุกตะกัก พลางวิ่งเข้าไปแย่งกระบอกปืนจากมือเขามาเขวี้ยงทิ้งลงข้างพื้นถนนอย่างไม่ไยดี ทว่ามุมปากบนใบหน้าคมคายยกยิ้มพอใจกับการกระทำของอีกคน"ฉันมันเลว เผาบ้านเธอก็สมควรตายแล้วไม่ใช่เหรอ เธอจะมาห้ามฉันทำไม?""จะฆ่
"ขากลับมาฮันนี่ได้แวะไปดูร้านดอกไม้ให้หนูรึเปล่า" ก๋วยเตี๋ยวเอ่ยถามสามีที่กำลังตักกับข้าวมาใส่ให้ในจานด้วยสีหน้ากังวล เป็นห่วงร้านไม่รู้ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง หลังๆพอท้องโตอย่างว่าเขาก็ไม่ให้ไปไหนทำอะไรเลย"วันนี้ไม่ได้แวะ ไม่ต้องห่วงหรอกมีผู้จัดการร้านดูแลอยู่ทั้งคน" ว่าจบเนมาร์ก็ตักข้าวใส่ปาก"ทำไมไม่แวะดูก่อนเล่า มันไม่เหมือนเราดูเองหรอกนะ" ใบหน้าหวานยู่ใส่อีกคนอย่างงอนๆ แล้วตักข้าวใส่ปากไม่พูดอะไรต่อดวงตาคมที่เหลือบมองอยู่รับรู้ถึงอาการของคนตรงหน้า เขาวางช้อนลงเบาๆด้วยความไม่เข้าใจว่าแค่เรื่องไม่แวะไปดูร้านถึงกับงอนกันเลยเหรอ ปกติก็แวะดูให้ทุกวันมันก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรปกติดีทุกอย่าง"เป็นอะไร?""เปล่า" “…..” ชายหนุ่มหยัดกายลุกขึ้นเมื่อได้ยินน้ำเสียงไม่ปกติของภรรยา เท้าใหญ่เดินวนไปหย่อนตัวนั่งลงข้างๆ แต่อีกคนกลับขยับเก้าอี้หนีไปพร้อมจานข้าวครั้นเห็นแบบนั้นเขาถึงกับถอนหายใจพรืดใหญ่ มือหนาเอื้อมไปจับแขนเรียวแล้วลูบมันเบาๆเชิงง้อ ทว่าก็ถูกเธอปัดทิ้งอย่างไม่ไยดีแถมไม่มองหน้าเขาอีกต่างหาก เป็นอะไรที่น่าหงุดหงิดชะมัดถ้าไม่ติดว่าท้องนะเขาจับง้อบนเตียงไปแล้ว"ปากบอกว่าเปล่า แต่การกระทำขอ
หลายเดือนต่อมา.."เมียกูอยู่ไหน" เนมาร์ซึ่งอยู่ในชุดนักศึกษาเอ่ยถามลูกน้องที่เฝ้าหน้าประตู ขณะก้าวลงมาจากรถลีมูซีนคันหรูพร้อมในมือหิ้วถุงของกินเยอะแยะ"เรียนอยู่ในห้องนั่งเล่นครับ" ลูกน้องคนหนึ่งว่า พลางเดินมารับของจากมือผู้เป็นนายไปถือแทน"เอาไปให้แม่บ้านจัดใส่จาน แล้วเอาเข้าไปให้เมียกูด้วย" เขาออกคำสั่งลูกน้องเสียงเรียบ"....." คนถูกสั่งยกถุงในมือขึ้นมาหมุนดูด้วยความอยากรู้ว่ามีอะไรบ้าง แต่ก็ไม่เห็นหรอกเพราะมันอยู่ในกล่อง ก่อนจะเอ่ยแซวเจ้านายเมื่อเห็นว่าเอาใจใส่ภรรยาดี "ซื้อมาซะเยอะแยะเชียว นายหญิงจะกินหมดไหมครับเนี่ย""มันกงการอะไรของมึง ใช้ให้ไปทำอะไรก็ไป เดี๋ยวกูให้ป๊าหักเงินเดือนซะเลยหนิ" "ขอโทษครับ" ครั้นได้ยินอย่างนั้นทศก็รีบโค้งตัวลงกล่าวขอโทษผู้เป็นนาย แล้วหมุนตัวเดินขึ้นบันไดเข้าไปในบ้านทำตามคำสั่งทันทีเนมาร์ส่ายหน้าเบาๆก้าวเดินตามหลังลูกน้องตรงดิ่งไปหาภรรยาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ทว่าเพียงแค่ครึ่งทางก็ต้องหยุดฝีเท้าจากอารมณ์ดีๆแปรเปลี่ยนเป็นฉุนเฉียว เมื่อสายตาคู่คมมองไปเห็นก๋วยเตี๋ยวเดินพยุงท้องโตๆออกมาจากห้องนั่งเล่น โดยมีซามิและคุณครูค่อยช่วยประคองกันคนละฝั่งไม่ห่าง"ดอลลีห
"เตี๋ยว" ควีนเรียกภรรยาของผู้เป็นน้าเสียงหวานทันทีที่เดินเข้ามาถึงห้องนั่งเล่น โดยมีเนมาร์ถือขวดนมกับผ้าอ้อมเดินตามหลังมา"เรียกหาแต่เตี๋ยวนะไม่เรียกยายบ้างเลย น่าน้อยใจจัง" แนทที่นั่งอยู่ด้วยทำหน้ามุ่ยแกล้งน้อยใจหลานสาว พอเห็นอย่างนั้นควีนก็รีบเดินเตาะแตะเข้าไปกอดขาผู้เป็นยาย แล้วซบหน้าลงไปเชิงเป็นการง้อ"โอ๋นยายม่ายย้องน๊า น้อนกวีนเยียกแย้ว (โอ๋ยายไม่ร้องนะ น้องควีนเรียกแล้ว)" ความไร้เดียงสาของเจ้าตัวน้อยเรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากยายและน้าๆ"ใครว่ายายร้องกันล่ะ แค่น้อยใจเฉยๆหรอก" ไม่ว่าเปล่าแนทโน้มตัวลงอุ้มหลานสาวขึ้นมานั่งบนตัก พร้อมกับหอมแก้มฟอดใหญ่แรงๆหลายๆที ก่อนหันไปถามลูกชาย"เป็นไงตาเน! ได้ข่าวว่าล้างก้นให้น้องควีนเหรอ""อ้วกแตกดิม๊ารอไร เหม็นฉิบหาย" ว่าแล้วเนมาร์ก็หย่อนกายนั่งลง ไม่ยักรู้ว่าอุจจาระเด็กจะเหม็นขนาดนี้นึกว่าควายตาย“ฮ่าๆๆๆ” แนทกับก๋วยเตี๋ยวหัวเราะร่า ต่างจากควีนที่นั่งกอดอกจ้องหน้าเขาเขม็งอย่างไม่ชอบใจเวลาใครว่า"ฝึกไว้เวลาลูกคลอดจะได้ทำเป็น" เป็นก๋วยเตี๋ยวที่นั่งเงียบอยู่นานย้ำคำพูดของเขาไม่หยุด เป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้"ใช่! ฝึกไว้เพราะตอนลูกคลอดออกมาตาเนต้องเ
แง้ว~ แง้ว~เนเตี๋ยวที่เพิ่งเดินมาชะโงกหน้ามองการกระทำของพ่อแม่อยู่ตรงหน้าประตูห้องน้ำ ก่อนจะร้องเรียกขึ้นด้วยความสงสัยจนทั้งสองคนหันหน้าไปมองทางต้นเสียงนั้นพร้อมกัน"เนเตี๋ยว" เด็กสาวเอ่ยเรียกชื่อสัตว์เลี้ยงของตนซึ่งเปรียบเสมือนลูกแท้ๆ มือเล็กคลายพันธนาการออกจากศีรษะแกร่งแล้วเบี่ยงตัวเดินไปอุ้มมันมาหอมฟอดใหญ่เนมาร์ดีดตัวลุกขึ้นเดินตามแฟนสาวมาลูบหัวมันเบาๆอย่างเป็นมิตร จากไม่ชอบกลายเป็นความผูกพันทำให้เขารู้สึกรักมัน"ดอลลีอยู่กับลูกไปก่อนนะ เดี๋ยวฉันมา" เขาว่า"จะไปไหนเหรอคะ""ไปเอาน้องควีนมาหัดเลี้ยงนะ""หัดเลี้ยง?" ใบหน้าหวานหันขวับไปมองคนข้างๆด้วยความแปลกใจ คิดไม่ถึงว่าเขาจะมีความเป็นพ่อคนสูงขนาดนี้"อืม ฝึกไว้ก่อนเวลาลูกคลอดจะได้ทำเป็น" พอรู้ว่าตัวเองกำลังจะเป็นพ่อคนมันต้องเตรียมตัวกันหน่อย มัวแต่รอให้คลอดออกมาก่อนมันก็ไม่ใช่ ทุกอย่างต้องมีการเตรียมพร้อมว่าควรรับมือกับเด็กน้อยยังไง"ไหวเหรอ""สบาย" ว่าจบเนมาร์ก็เดินออกไปครึ่งชั่วโมงผ่านไป.. ระหว่างที่กำลังเล่นกับหลานสาวอยู่นั้นกลิ่นเหม็นตุๆแปลกๆก็ลอยมา เนมาร์หันหน้าไปมองก๋วยเตี๋ยวที่นั่งลูบหัวเจ้าตัวน้อยอยู่อีกฝั่งมีการ
ด้วยความกลัวภรรยาจะล้มชายหนุ่มจึงวางถุงอุปกรณ์ลงรีบเข้าไปประคองเธอไว้อย่างแนบชิด ใบหน้าจิ้มลิ้มเหลือบมองเล็กน้อย ไม่วายที่จะยิ้มออกมากับความน่ารักเอาใจใส่ของสามีไม่เคยลดลงเลย ยังเสมอต้นเสมอปลายอยู่ตลอดแถมยิ่งเพิ่มขึ้นทุกวันไม่นานมือเล็กก็ยื่นออกมาพร้อมกับถ้วยพลาสติกที่มีปัสสาวะอยู่ในนั้น เด็กสาวส่งมันไปให้คนข้างๆเพื่อทำการนำไปตรวจ"นี่ค่ะ" ซึ่งเขาก็รับไปวางลงบนขอบอ่างล้างมือทั้งที่อีกมือยังประคองตัวเธออยู่ ก่อนจะหันกลับมาหยิบสายฉีดชำระส่งให้เธอก๋วยเตี๋ยวหยิบมันมาฉีดล้างทำความสะอาดกลีบเนื้อของตน พอมันสะอาดดีเธอก็ส่งคืนไปให้เขาเก็บที่ แล้วหยัดกายลุกขึ้นก้าวลงจากโถชักโครกโดยมีเขาพยุงช่วยไม่ห่างเป็นอะไรที่เว่อร์วังที่สุดแต่ก็น่ารักดีมือหนาคลายพันธนาการออกจากตัวเด็กสาว เอื้อมไปกดชักโครกพร้อมปิดฝาลง หันมามองภรรยาดวงแววตาอ่อนโยน"ดอลลีมานั่งรอตรงนี้ก่อน" ว่าแล้วเนมาร์ก็เลื่อนริมฝีปากเข้ามาจุมพิตลงบนขมับบางฟอดใหญ่"ขอยืนดูด้วยไม่ได้เหรอคะ" ก๋วยเตี๋ยวกะพริบตาปริบๆออดอ้อน ท่าทางไร้เดียงสาของเธอเรียกรอยยิ้มน่ารักจากสามี ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ทำให้เนมาร์ยอมให้เธอยืนดูเพราะกลัวว่าท่าทางยื
แกร๊ก|"นาย!" เสียงเปิดประตูที่ดังขึ้นตามด้วยเสียงตะโกนของใครบางคนจากทางหน้าประตู พร้อมกับเสียงฝีเท้าสาวเข้ามาในห้องนอนอย่างถือวิสาสะ ทำเนมาร์ที่กำลังนอนหลับกอดภรรยาอยู่สะดุ้งตื่น รีบเอื้อมมือไปคว้าขวดน้ำบนโต๊ะโคมไฟข้างเตียงเขวี้ยงใส่เจ้าของเสียงนั้นทันทีพรึ่บ! ดีนะทิมรับมันเอาไว้ได้ไม่งั้นดังก้องไปทั่วห้องแน่ ก่อนสายตาจะเหลือบเห็นนายหญิงกำลังนอนหลับอยู่ สองขาแกร่งเดินตรงไปหาเจ้านายที่เตียงนอนวางขวดน้ำลงบนโต๊ะดังเดิม"จะแหกปากหาพ่อมึงเหรอ แล้วกูบอกกี่ครั้งและเวลาเข้ามาให้เคาะประตู มือไม่มีรึไง" เนมาร์ตะคอกใส่ลูกน้องคนสนิทเบาๆ แล้วค่อยๆดึงแขนข้างหนึ่งที่ภรรยาใช้หนุนนอนออกมาดันตัวลุกขึ้นมานั่งอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้รบกวนการพักผ่อนของเธอ ซึ่งเพิ่งหลับไปได้ไม่กี่นาที"ผมไม่รู้ว่านายหญิงหลับอยู่""ไหนของที่ใช้ให้ไปซื้อ" ทันทีที่เขาพูดจบทิมก็ยื่นถุงที่ตรวจครรภ์มาให้ มือหนารับมันมาเปิดดูมีอยู่หลายยี่ห้อเป็นสิบๆอันตามที่ต้องการเป๊ะ "ขอบใจ" "นายต้องการอะไรอีกไหม""ไม่และ มึงจะไปไหนก็ไป" สิ้นสุดคำพูดของเจ้านาย ทิมก็หมุนตัวเดินออกจากห้องไปเนมาร์หยัดกายลุกขึ้น พร้อมกับถือถุงที่ตรวจค
วันต่อมา..อุ๊บ~ โอ๊กกกกกก~ก๋วยเตี๋ยวกับคลีนที่เดินขึ้นบันไดมาพร้อมกันหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงอาเจียนของใครคนหนึ่งดังเล็ดลอดออกมาจากห้องนอนในช่วงสาย ขณะในมือของทั้งสอนคนอุ้มแมวของตัวเองอยู่หลังเพิ่งพาไปอาบน้ำตัดขนที่ร้านมาด้วยกันตอนแรกคลีนไม่มีแมวหรอกหลังจากมาเล่นของก๋วยเตี๋ยว เธอก็อยากได้ขึ้นมาเลยให้สามีพาไปซื้อตัวเท่าๆกันเลยแถมยังตัวผู้เหมือนกันอีก ไม่อยากเอาตัวเมียมาเพราะเดี๋ยวมันเป็นเมนส์ขี้เกียจทำความสะอาด"หื้อ~ นั่นเสียงคนอ้วกหนิดังมาจากห้องก๋วยเตี๋ยวอะ อย่าบอกนะว่าเป็นนะ.." คลีนเอ่ยบอกอย่างสงสัย ทว่ายังพูดไม่ทันจบก๋วยเตี๋ยวก็รีบวิ่งเข้าไปในห้องตัวเองทันทีด้วยความเป็นห่วงสามีอึก~ แหวะ~"ฮันนี่!" ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายกระตุกวูบทันทีที่วิ่งมาถึงห้องน้ำแล้วเห็นเนมาร์โกงคออาเจียนอย่างหนักไม่ต่างจากครั้งแรก เธอวางเนเตี๋ยวลงแล้วรีบเดินเข้าไปลูบหลังให้เบาๆ "ทำไมอ้วกอีกแล้ว" ก่อนหน้านี้อาการเริ่มดีขึ้นแล้วเชียวแต่ไม่รู้ทำไมถึงเป็นขึ้นมาอีก เพราะความดื้อรั้นของเขาแท้ๆ ถ้าไปหาหมออย่างที่เธอบอกคงไม่ต้องมาทรมานแบบนี้"อึก..ก็ป๊านั่นแหละจู่ๆเดินเข้ามากอดคอ""กอดคอ?" คิ้วงามเลิกขึ้นเล็กน้
"เดี๋ยวหนูขออนุญาตไปดูฮันนี่ก่อนนะคะ" ก๋วยเตี๋ยวเอ่ยขออนุญาตผู้ใหญ่ตามมารยาท แล้วรีบดันตัวลุกขึ้นจับชายกระโปรงวิ่งพรวดพราดออกไปทันทีไม่รอให้ทุกคนได้ตอบอะไร เห็นอาการแฟนหนุ่มแปลกไปอย่างไม่เคยเห็นมาก่อนทำให้เธออดเป็นห่วงไม่ได้"อุ๊บ...โอ๊กกกกกก" ทันทีที่วิ่งมาถึงห้องน้ำซึ่งอยู่ไม่ไกลจากห้องนั่งเล่นมากนักก็เห็นเนมาร์โกงคออาเจียนอย่างหนัก สองมือกำขอบชักโครกแน่น เธอจึงรีบเดินเข้าไปลูบหลังช่วย"อึก..แหวะ""ฮันนี่ไหวเปล่าไปหาหมอไหม" เสียงใสเอ่ยถามแฟนหนุ่มด้วยสีหน้ากังวลเป็นห่วง"....." เขายกมือขึ้นทำนิ้วโอเคบ่งบอกว่ายังไหว ก่อนจะก้มลงอาเจียนต่อพร้อมหยาดน้ำตาเอ่อออกมาคลอเบ้าอัตโนมัติครั้งแล้วครั้งเล่า มันเป็นอะไรที่โคตรทรมานมากเขาไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลยหนักกว่าตอนป่วยอีก"แต่หนูว่าอาการฮันนี่แปลกๆนะ ไปหาหน่อยเถอะ""อึก" มือหนากดชักโครกหลังจากไม่มีอะไรออกมาแล้ว ก่อนจะยกมันมาลูบหน้าตัวเองเบาๆพร้อมเบี่ยงตัวก้าวไปยังอ่างล้างหน้าที่อยู่ใกล้กัน"ถ้าฮันนี่ไม่ไหวเรายกเลิกงานไปก่อนก็ได้นะ" ว่าแล้วก๋วยเตี๋ยวก็ก้าวตามไปยืนข้างหลัง พลางเอื้อมมือไปดึงทิชชูตรงหน้าเขามายื่นให้ ขณะที่เนมาร์กำลังบ้วนปากอย
"....." สายตาคู่คมมองเจ้าของเสียงเรียกค้างด้วยความตะลึงก้อนเนื้อในอกแกร่งข้างซ้ายเต้นระรัวไม่เป็นส่ำ เธอสวยมากอย่างไม่เคยเห็นใครสวยได้เท่านี้มาก่อน ขนาดผู้เป็นแม่ที่ยืนรออยู่ข้างล่างว่าสวยแล้วแต่สู้แฟนสาวของเขาไม่ได้เลยไม่ทันไรก็ต้องละสายตามามองลูกน้องคนสนิทเขม็ง ซึ่งเขาใช้ให้มาดูว่าที่เจ้าสาวว่าแต่งตัวเสร็จหรือยังจะได้ขึ้นมารับแต่กลับหายไปนานหลายนาทีซะงั้น แถมยังได้ยินเสียงเอะอะโวยวายดังลั่นไปถึงข้างล่าง จนเขาต้องขึ้นมาดูด้วยความเป็นห่วงแฟนสาวแม้เสียงที่ได้ยินนั้นจะไม่ใช่เสียงเธอก็ตาม"กูใช้ให้ขึ้นมาดูเมียกูแต่มึงกลับมาตีกับเพื่อนเมียกู คือไรไอ้ทิม" เนมาร์เอ่ยถามด้วยท่าทางเอือมระอาเมื่อเหลือบเห็นสภาพผมซามิยุ่งเหยิงประกอบกับเสียงกรีดร้องมันเดาไม่อยาก ทิมก้มศีรษะรับผิดทุกอย่างเนื่องจากทำเกินคำสั่ง ในขณะที่ก๋วยเตี๋ยวยกมือขึ้นเกาะแขนแฟนหนุ่มและซามิยืนทำหน้าตาสะใจ"ก็มันมาหาเรื่องผมก่อนนี่ครับ""ใครใช้ให้มาปากหมาใส่ก่อนล่ะวะ" ยังไม่ทันที่เนมาร์จะได้ถามอะไรต่อ ซามิก็โพล่งขึ้นแทรกเสียงแข็งอย่างไม่ยอมให้ฟ้องคนเดียวหรอก จะโดนก็ต้องโดนด้วยกันเนี่ยแหละ"ฉันปากหมาใส่ตอนไหน? พอเปิดประตูเข้ามาก็ม