หลังจากที่วาโยแยกกับต้าที่ลานจอดรถเธอก็กลับเข้ามาหาเพลงเพื่อนของเธอข้างในบาร์
“ไปไหนมาโย ฉันเดินตามหาแกไปทั่ว” เพลงรีบวิ่งมาหาหญิงสาวด้วยท่าทางตกใจ “คือฉันไปเดินหลงทางนิดหน่อยน่ะ” วาโยพูดแล้วยิ้มบิดเขินอายเมื่อนึกถึงใบหน้าพี่ต้า “ยิ้มอะไรยัยโยฉันโทรหาก็ไม่รับสาย” เพลงหน้าบึ้งโวยวายให้วาโย พร้อมกับที่วาโยควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพายข้างของตัวเอง “โทรศัพท์ฉัน หายไปไหน” เธอพยายามนึก เมื่อกี้เธอเจอพี่ต้าแล้วก็เป็นลม “หรือว่ามันจะหล่นหาย เพลงฉันขอยืมโทรศัพท์แกหน่อย” หญิงสาวรับมาและกดโทรออกไปที่เบอร์ของตัวเอง “สวัสดีครับ” เสียงปลายสายรับ “สวัสดีค่ะ พอดีฉันทำโทรศัพท์หาย ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนคะ” วาโยพูดอย่างร้อนใจเพราะในเครื่องของเธอมีข้อมูลและรูปเยอะมาก “ตอนนี้ผมอยู่ที่โรงแรมxxx ครับ” วาโยได้ยินดังนั้นก็ยิ้มร่าเพราะเธอเองก็พักอยู่ที่นั่นกับเพลงเหมือนกัน “คุณรอฉันที่ล็อบบี้ได้ไหมคะไม่เกินครึ่งชั่วโมง ฉันไปถึงแน่นอนค่ะ” “ได้ครับ” พอเธอวางสายก็หันไปบอกเพลงว่าจะกลับไปโรงแรมแล้ว เพราะคนที่เก็บได้อยู่ที่โรงแรมที่เธอสองคนพักอยู่ “งั้นแกกลับก่อนเลยนะ ฉันว่าจะเที่ยวต่อกับดินน่ะ” เพลงพูดแล้วก็หันไปมองทางอื่นแทนคงจะเขิน และเธอก็ไม่ได้ไร้เดียงสาที่จะฟังในสิ่งที่เพื่อนพูดไม่เข้าใจ “ได้ๆ ดูแลตัวเองด้วยนะ มีอะไรก็โทรหาฉันได้ตลอดนะ” วาโยกระซิบเบาๆ ที่ข้างหูเพลง “ตกลงจ้ะ” ที่โรงแรมxxx “สวัสดีค่ะ คุณใช่คนที่เก็บโทรศัพท์ของฉันได้ไหมคะ” หญิงสาวเดินไปตรงมุมล็อบบี้ข้างแผนกต้อนรับที่มีผู้ชายนั่งอยู่เพียงคนเดียว เพราะนี่มันก็ดึกมากแล้ว “ใช่ครับ” ผู้ชายที่นั่งหันหลังอยู่หันหน้ามามองเธอ “พะ พี่....” “เจอกันอีกแล้วนะครับ คุณที่บอกว่าไม่รู้จักชื่อของผม” เขาพูดพร้อมกับกดปุ่มหน้าจอโทรศัพท์ให้สว่างแล้วชูให้ผู้หญิงที่ยืนตะลึงอยู่ดู วาโยกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ ก็รูปบนล็อกหน้าจอ โชว์หน้าของเขาเต็มจอขนาดนั้น โกหกไม่ได้แล้วเอาไงดี “คือ คือนั่นโทรศัพท์ของหนูเองค่ะ” วาโยยืนพูดก้มหน้า “ผมรู้ แล้วยังไงต่อครับ” “นั่นโทรศัพท์ของหนูค่ะ ขอคืนด้วยนะคะ” เธอไปยืนใกล้ๆ เขา แล้วเผลอเม้มปากเข้าหากัน “ก็รู้ไงครับ เพราะผมเป็นคนเอาใส่ในกระเป๋ากางเกงตัวเองตอนอุ้มคุณมา” เขาส่งมันคืนให้เธอ “อ้าว” วาโยขมวดคิ้วเข้าหากัน “ลืมคืนให้ ขอโทษด้วยนะครับ” เขาพูดนิ่งๆ เหมือนกับตอนที่เรียนไม่มีผิด “ค่ะ” หญิงสาวยืนหยิกแขนตัวเองให้เจ็บเพื่อที่เธอจะได้ไม่ต้องยิ้มหน้าบานให้เขา “เป็นแฟนคลับของผมไม่เห็นต้องปิดบังกันเลย แล้วพักที่ไหนครับ ที่นี่เหรอ” เขายืนเต็มความสูงแล้วเดินมาหาเธอ “ชะๆ ใช่ค่ะ พี่ตะๆ ต้า” กว่าเธอจะพูดได้แต่ละคำเหมือนคอของเธอเป็นอัมพาตไปชั่วขณะ “ชอบผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ” เขายื่นหน้ามาใกล้ๆ จนเธอต้องเอามือปิดปากเพราะกลัวว่าเธอจะหายใจแรงแล้วเขาจะได้กลิ่นเหล้าเหม็นๆ จากเธอ “ชะ ชอบมากค่ะ” หญิงสาวหน้าร้อนผ่าวไปจนถึงใบหูลามไปท้ายทอย และแล้ว วูบ…บบบบ “ น้องๆ น้องครับ” เขาจับตัวเธอพยุงไว้แล้วเรียกให้ตื่น “น่ะ หนูไม่เป็นไรค่ะ พี่ขึ้นไปพักเลยค่ะ” หญิงสาวเอามือปิดหน้าของตัวเองหน้าที่แดงอยู่แล้วยิ่งแดงไปกันใหญ่ จนมีคนเริ่มเดินเข้ามาหลายคนในโรงแรม เขาจึงรีบเดินไปยังลิฟต์แล้วกดขึ้นที่พักไป ไม่นานก็มีผู้ชายลงหาเธอ เขาบอกว่าเป็นเพื่อนกับพี่ต้า “ต้าให้ลงมาดูน้อง มันกลัวคนเห็นมันอยู่กับน้องแล้วเป็นข่าวน้องจะเสียหาย ก็เลยรีบขึ้นไปก่อน” ผู้ชายที่สูงไล่เลี่ยกับเขาน่าจะเป็นเพื่อนสนิทกันเพราะเธอเห็นเขาใช้คำว่ามันกับพี่ต้าอย่างสนิทใจ “ขอบคุณนะคะ หนูไม่เป็นไรแล้ว พี่ไปพักเถอะค่ะหนูก็จะขึ้นไปพักเหมือนกัน” เธอยืนพูดยิ้มเจื่อนๆ ให้เพื่อนของเขา แล้วก็เดินไปกดลิฟต์ขึ้นไปยังชั้นบนด้วยท่าทางนิ่งๆ ทั้งๆ ที่จริงเธออายจนอยากจะแทรกแผ่นดินหนี ก็ดันไปปล่อยไก่ตัวเบ้อเริ่มว่าไม่รู้จักเขา แต่ภาพพักหน้าจอโทรศัพท์ของเธอนี่สิ เขาต้องคิดว่าเธอโกหกเก่งแน่ๆ ตอนนี้ขอแค่อย่าเพิ่งเจอเขาเลย เธออายเกินไปที่จะสู้หน้าเขาหรือจะบอกเขาตรงๆ ถึงเหตุผลที่ต้องโกหกว่าไม่รู้จักเขา "งั้นขอเจอพี่ต้าตอนนี้เลยได้ไหม ฉันจะบอกเขาเลยว่าทำไมต้องโกหกเขา” เธอเดินบ่นพูดลอยๆ โรงแรมออกจะใหญ่ เดินมาเจอกันตอนนี้ก็บ้าแล้ว แต่ดูเหมือนว่าผีในโรงแรมน่าจะได้ยินคำขอของเธอ เขาเดินเปิดประตูออกมาก่อนที่จะถึงห้องพักของเธอ แสดงว่าเขาพักอยู่ห้องติดกับเธอเหรอเนี่ย “อ้าวพักอยู่ชั้นนี้เหรอ” เขาไม่พูดเปล่า กลับเดินมาหาเธออีก “พี่ต้า หยุดอยู่ตรงนั้นเลยค่ะ” เธอทำมือห้ามเขา เขาเลิกคิ้วขึ้นสูง “ทำไม” “ที่หนูต้องโกหกพี่ว่าไม่รู้จักพี่ เพราะหนูอายค่ะอายเกินกว่าที่จะยืนคุยกับพี่นานๆ แบบนี้” วาโยก้มหน้า “แล้วอีกอย่างหนูกลัวพี่จำหนูได้ แต่พี่คงจำหนูไม่ได้ใช่ไหมคะ” เธอเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขาแต่ก็ต้องหลุบตามองต่ำลงอีก “ใครจะไปจำได้ น้องคนที่ทำถุงยางหล่นในห้องสมุด” เสียงทุ้มต่ำหัวเราะในลำคอ “ไหนบอกจำไม่ได้ไงคะ พูดมาขนาดนี้” หญิงสาวเม้มปากเข้าหากันจนเป็นเส้นตรง “ก็เหมือนกับที่น้องบอกว่าไม่รู้จักผม ทั้งที่รูปของผมอยู่บนโทรศัพท์ มันต่างกันตรงไหน บอกเลยว่าผมโคตรใจแป้ว คิดว่าจะลืมชื่อกันจริงๆ ซะอีก” “คือถุงยางอันนั้น พวกหนูเอามาเรียนในวิชา…” “เพศศึกษา” เขาพูดน้ำเสียงนิ่งเรียบ “ใช่ค่ะ” หญิงสาวพยักหน้าเหมือนเด็กน้อย “งั้นเข้าไปพักเถอะ แต่พักคนเดียวเหรอ” เขาถามต่อ “พักกับเพื่อนค่ะ แต่เพื่อนยังไม่กลับมา” “แล้วทำไมไม่พาเพื่อนมาพร้อมกันล่ะ” เขาถามต่อช่างสงสัย “เพื่อนหนูไปกับแฟนจะไปได้ยังไงคะ” “อ๋อ ล็อกห้องดีๆ ด้วยล่ะ” เขาตอบสั้นๆ แล้วก็เดินเข้าห้องไป เช้าวันใหม่ เพลงกลับเข้ามาในห้องพักก็พบว่าเพื่อนสาวของตัวเองไปนั่งอยู่มุมห้องในชุดนอน ผมเผ้าพะรุงพะรังเบ้าตาลึกดำ อย่างกับคนอดนอนมาทั้งคืน “เฮ้ย โยทำไมสภาพแกเป็นแบบนี้” เพลงรีบเข้าไปหาเพื่อนสาว “เพลง แกว่า… คนตายแล้วไปไหนวะ” วาโยพูดด้วยท่าทางห่อเหี่ยว “เมื่อคืนแกเจอผีเหรอโย” เพลงมองสำรวจทั่วห้อง “ยิ่งกว่าเจอผีอีกแก ฮือๆ เมื่อคืนฉันเจอพี่ต้ามา” วาโยทิ้งตัวลงนอนกับพื้นอย่างหมดอาลัยตายอยาก “จริงดิ ไม่ดีเหรอเจอพี่ต้า นั่นพี่ต้าที่แกชอบเลยนะเว้ย” “ตอนแรกก็ว่าดีมากๆ แต่ตอนหลังพังยับไม่เป็นท่าเลย พี่ต้าจำฉันได้ว่าฉันคือน้องคนที่ทำถุงยางหล่น แถมฉันยังไปบอกว่าไม่รู้จักเขา ลืมชื่อมั่ง ไปบอกว่าเขาเป็นนักร้องมั่ง แล้วแกรู้ปะว่าพี่ต้าคือคนที่เก็บโทรศัพท์ของฉันได้ ฮือๆ ภาพหน้าเขาเต็มจอเลยฮือๆ” หญิงสาวสะอึกสะอื้นโอดครวญ “อื้อฮือ ยับจริงๆ โยเอ๊ย แกอยากไปอยู่บนดาวอังคารก่อนไหม ฉันจะเหมายานอวกาศส่งแกไปด้วยมือของฉันเอง” เพลงพูดส่ายหัวในความโก๊ะของเพื่อนสาว “ฉันอยากไปมากๆ แกพาฉันไปตอนนี้เลยได้ไหม” วาโยรีบลุกขึ้นมาจับมือของเพลงไปกุมไว้ “แกไปอาบน้ำแต่งตัวรอเลยฉันของีบสักหน่อยแล้วเดี๋ยวจะพาขึ้นยานไปอย่างไวเลย” ยับมากบอกเลย ไปดาวอังคารกลับมาก็ยังไม่หายอายแน่ๆ เชื่อไรท์ อยู่ให้อิพี่มันทรมานเล่นๆดีฟ่า สนุกฟ่าเยอะเสียงออดดังบ่งบอกเวลาพักเที่ยงของเด็กโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งดังขึ้น ที่รวมมัธยมตอนต้นกับมัธยมตอนปลายไว้ โรงเรียนนี้มีขนาดใหญ่พอสมควรแถมยังดังที่สุดในจังหวัดอีกด้วย วาโย เด็กสาววัยสิบห้าย่างสิบหกรีบเดินจ้ำอ้าวเข้าไปในโรงอาหารกับเพื่อนๆ ของเธอ ถึงแม้เรื่องเรียนเธออาจไม่เอาไหนแต่เรื่องกินเธอสู้ขาดใจบอกเลย “เร็วๆ หน่อยสิ เพลง เดี๋ยวไม่ได้นั่งโต๊ะตัวเดิมของเรา” ใช่โต๊ะตัวเดิมที่เธอเอาไว้นั่งมองพี่ต้าพี่ม.6 นักเรียนชายที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ เมื่อตอนต้นเดือนที่ผ่านมา ครั้งแรกที่เธอเห็นเขา เขากำลังนั่งอ่านหนังสือใต้ร่มไม้โต๊ะหินอ่อนข้างตึกที่เธอเรียนอยู่ ความรู้สึกครั้งแรกที่เธอเห็นเขา นั่นมันคนหรือเทพบุตรกันแน่ในโลกมนุษย์เรามีคนที่หล่อขนาดนี้ด้วยเหรอ เขาดูดีมากแม้แต่ในยามที่ใส่ชุดนักเรียนก็ชวนให้มองน่าหลงใหลไม่อาจละสายตาได้เลย ความสูงที่สูงเกินนักเรียนรุ่นเดียวกัน แต่ก็ดูสมส่วนและหุ่นดีไม่น้อย เขามาจากที่ใดกันเล่าพ่อเทพบุตรคนนี้ เด็กสาวที่ยืนมองเขาตรงกระจกหน้าต่างในห้องเรียนเมื่ออาจารย์ที่สอนเธอสั่งงานเอาไว้ และออกไปแล้วเธอจึงได้ยืนมองเขาแบบนั้นอยู่พักใหญ่ “โย ไปนั่งรอก่อนเลย เดี๋ยวฉัน
สี่ปีต่อมา“นึกยังไงถึงอยากมาเที่ยวเชียงใหม่” วาโยถามเพลงเพื่อนสนิทของเธอตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมมาด้วยกัน แม้ว่าจะอยู่ปีหนึ่งแล้วพวกเธอก็ยังคงเป็นเพื่อนซี้กันอยู่ตั้งแต่อายุสิบสามจนถึงตอนนี้ที่พวกเธออายุสิบเก้ากันแล้วแถมยังสวยสะพรั่งทั้งคู่อีกด้วย“ฉันอยากมารับอากาศหนาวๆ สักหน่อย” เพลงพูดแล้วกลั้นยิ้มไว้“อยากหนาวๆ เปิดแอร์ก็ได้มั้งไม่ต้องมาไกลขนาดนี้หรอก” วาโยแกล้งแซวเพื่อนสนิทเล่นพอให้ได้ขำ“แหม ฉันก็อยากให้แกมาเปิดหูเปิดตาบ้างมาค้างสองคืนสามวันให้มีแรงพอได้กลับไปสู้ต่อ” เพลงพูดพลางตักข้าวเข้าปาก คืนนี้พวกเธอสองคนพากันมากินข้าวที่ร้านอาหารที่เคยมาเมื่อปีก่อนแล้วบังเอิญยัยเพลงเจอหนุ่มที่เชียงใหม่ ทำให้ปิ๊งรักกันเธอเลยขึ้นมาหาเขาที่นี่โดยมีวาโยมาด้วย เพราะถ้าขืนเธอปล่อยให้เพื่อนของเธออยู่คนเดียวมีหวังโทรกวนเธอทั้งคืนแน่ๆ เพราะคงเป็นห่วงเธอที่มาค้างไกลบ้านแบบนี้แน่ๆ“สู้กับเรียน หรือสู้กับความคิดถึงของตัวเองที่มีต่อพ่อหนุ่มเชียงใหม่ที่เดินมานู้นนั่นล่ะจ้ะ สาวน้อยเพลง” วาโยยิ้มแป้นพูดเชิงบุ้ยปากไปทางผู้ชายที่แต่งตัวสะอาดสะอ้าน เดินมาแต่ไกลพร้อมกับเพื่อนของเขาที่เดินมาด้วยกัน“ดินนั่งก่อน
หลังจากที่วาโยแยกกับต้าที่ลานจอดรถเธอก็กลับเข้ามาหาเพลงเพื่อนของเธอข้างในบาร์“ไปไหนมาโย ฉันเดินตามหาแกไปทั่ว” เพลงรีบวิ่งมาหาหญิงสาวด้วยท่าทางตกใจ“คือฉันไปเดินหลงทางนิดหน่อยน่ะ” วาโยพูดแล้วยิ้มบิดเขินอายเมื่อนึกถึงใบหน้าพี่ต้า“ยิ้มอะไรยัยโยฉันโทรหาก็ไม่รับสาย” เพลงหน้าบึ้งโวยวายให้วาโย พร้อมกับที่วาโยควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพายข้างของตัวเอง“โทรศัพท์ฉัน หายไปไหน” เธอพยายามนึก เมื่อกี้เธอเจอพี่ต้าแล้วก็เป็นลม“หรือว่ามันจะหล่นหาย เพลงฉันขอยืมโทรศัพท์แกหน่อย” หญิงสาวรับมาและกดโทรออกไปที่เบอร์ของตัวเอง“สวัสดีครับ” เสียงปลายสายรับ“สวัสดีค่ะ พอดีฉันทำโทรศัพท์หาย ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนคะ” วาโยพูดอย่างร้อนใจเพราะในเครื่องของเธอมีข้อมูลและรูปเยอะมาก“ตอนนี้ผมอยู่ที่โรงแรมxxx ครับ” วาโยได้ยินดังนั้นก็ยิ้มร่าเพราะเธอเองก็พักอยู่ที่นั่นกับเพลงเหมือนกัน“คุณรอฉันที่ล็อบบี้ได้ไหมคะไม่เกินครึ่งชั่วโมง ฉันไปถึงแน่นอนค่ะ”“ได้ครับ” พอเธอวางสายก็หันไปบอกเพลงว่าจะกลับไปโรงแรมแล้ว เพราะคนที่เก็บได้อยู่ที่โรงแรมที่เธอสองคนพักอยู่“งั้นแกกลับก่อนเลยนะ ฉันว่าจะเที่ยวต่อกับดินน่ะ” เพลงพูดแล้วก็หันไปมองทา
สี่ปีต่อมา“นึกยังไงถึงอยากมาเที่ยวเชียงใหม่” วาโยถามเพลงเพื่อนสนิทของเธอตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมมาด้วยกัน แม้ว่าจะอยู่ปีหนึ่งแล้วพวกเธอก็ยังคงเป็นเพื่อนซี้กันอยู่ตั้งแต่อายุสิบสามจนถึงตอนนี้ที่พวกเธออายุสิบเก้ากันแล้วแถมยังสวยสะพรั่งทั้งคู่อีกด้วย“ฉันอยากมารับอากาศหนาวๆ สักหน่อย” เพลงพูดแล้วกลั้นยิ้มไว้“อยากหนาวๆ เปิดแอร์ก็ได้มั้งไม่ต้องมาไกลขนาดนี้หรอก” วาโยแกล้งแซวเพื่อนสนิทเล่นพอให้ได้ขำ“แหม ฉันก็อยากให้แกมาเปิดหูเปิดตาบ้างมาค้างสองคืนสามวันให้มีแรงพอได้กลับไปสู้ต่อ” เพลงพูดพลางตักข้าวเข้าปาก คืนนี้พวกเธอสองคนพากันมากินข้าวที่ร้านอาหารที่เคยมาเมื่อปีก่อนแล้วบังเอิญยัยเพลงเจอหนุ่มที่เชียงใหม่ ทำให้ปิ๊งรักกันเธอเลยขึ้นมาหาเขาที่นี่โดยมีวาโยมาด้วย เพราะถ้าขืนเธอปล่อยให้เพื่อนของเธออยู่คนเดียวมีหวังโทรกวนเธอทั้งคืนแน่ๆ เพราะคงเป็นห่วงเธอที่มาค้างไกลบ้านแบบนี้แน่ๆ“สู้กับเรียน หรือสู้กับความคิดถึงของตัวเองที่มีต่อพ่อหนุ่มเชียงใหม่ที่เดินมานู้นนั่นล่ะจ้ะ สาวน้อยเพลง” วาโยยิ้มแป้นพูดเชิงบุ้ยปากไปทางผู้ชายที่แต่งตัวสะอาดสะอ้าน เดินมาแต่ไกลพร้อมกับเพื่อนของเขาที่เดินมาด้วยกัน“ดินนั่งก่อน
เสียงออดดังบ่งบอกเวลาพักเที่ยงของเด็กโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งดังขึ้น ที่รวมมัธยมตอนต้นกับมัธยมตอนปลายไว้ โรงเรียนนี้มีขนาดใหญ่พอสมควรแถมยังดังที่สุดในจังหวัดอีกด้วย วาโย เด็กสาววัยสิบห้าย่างสิบหกรีบเดินจ้ำอ้าวเข้าไปในโรงอาหารกับเพื่อนๆ ของเธอ ถึงแม้เรื่องเรียนเธออาจไม่เอาไหนแต่เรื่องกินเธอสู้ขาดใจบอกเลย “เร็วๆ หน่อยสิ เพลง เดี๋ยวไม่ได้นั่งโต๊ะตัวเดิมของเรา” ใช่โต๊ะตัวเดิมที่เธอเอาไว้นั่งมองพี่ต้าพี่ม.6 นักเรียนชายที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ เมื่อตอนต้นเดือนที่ผ่านมา ครั้งแรกที่เธอเห็นเขา เขากำลังนั่งอ่านหนังสือใต้ร่มไม้โต๊ะหินอ่อนข้างตึกที่เธอเรียนอยู่ ความรู้สึกครั้งแรกที่เธอเห็นเขา นั่นมันคนหรือเทพบุตรกันแน่ในโลกมนุษย์เรามีคนที่หล่อขนาดนี้ด้วยเหรอ เขาดูดีมากแม้แต่ในยามที่ใส่ชุดนักเรียนก็ชวนให้มองน่าหลงใหลไม่อาจละสายตาได้เลย ความสูงที่สูงเกินนักเรียนรุ่นเดียวกัน แต่ก็ดูสมส่วนและหุ่นดีไม่น้อย เขามาจากที่ใดกันเล่าพ่อเทพบุตรคนนี้ เด็กสาวที่ยืนมองเขาตรงกระจกหน้าต่างในห้องเรียนเมื่ออาจารย์ที่สอนเธอสั่งงานเอาไว้ และออกไปแล้วเธอจึงได้ยืนมองเขาแบบนั้นอยู่พักใหญ่ “โย ไปนั่งรอก่อนเลย เดี๋ยวฉัน