เสียงนาฬิกาปลุกในตอนเช้าดังขึ้นภายในห้องของวาโย เธอรีบควานหาและปิดเสียงพร้อมกับเอาหน้าซุกไปใต้ผ้าห่มอุ่นๆ เพราะยังไม่อยากตื่น เธอค่อยๆ ลุกขึ้นมา
“โอ๊ย ปวดหัวชะมัด เมื่อคืนดื่มไปเยอะด้วย” เธอหรี่ตามองสำรวจไปภายในห้องและสำรวจตัวเองก็เห็นเสื้อคลุมสีดำตัวใหญ่ วางอยู่ที่ปลายเท้าของเธอ หน่วยประมวลผลในสมองของเธอก็ค่อยๆ ประมวลภาพทีละเหตุการณ์กับเรื่องเมื่อคืน “กรี๊ดดดดด” วาโยกรีดร้องลั่นจนสุดเสียง “เมื่อคืน เมื่อคืนนี้” เธอรีบลุกไปหยิบเสื้อคลุมสีดำตัวโคร่งมาดู พลิกไปมาเพื่อดูให้แน่ใจ “อร๊ายยยย เมื่อคืนฉันทำอะไรลงไปต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ฝันไป! ฉันแค่ฝันไปเท่านั้น” เธอล้มตัวลงนอนต่อแต่ก็ต้องลุกดีดตัวขึ้นมาหยิบเสื้อตัวใหญ่มาดูอีกครั้ง “ตายแน่ๆ ฉัน ทำไมเมาแล้วเรื้อนแบบนี้” หญิงสาวนั่งกุมขมับ เพราะทั้งปวดหัวจะระเบิดแถมยังไปก่อเรื่องไว้เมื่อคืนอีก จะทำยังไงดี ไม่น่าเมาขนาดนั้นเลย วันนี้กับการเรียนเธอแทบไม่ได้ฟังที่อาจารย์สอนเลย สมาธิไม่มีแถมยังนั่งเหม่อลอยอีก เพราะมัวแต่นึกถึงเรื่องนั้น เธอกล้ามากนะที่เมาแล้วไปหาผู้ชาย แล้วไม่ใช่ใครที่ไหนกลับเป็นไอดอลที่เธอชอบอีก ใครก็อยากดูดี ดูน่ารักในสายตาของคนที่เราชอบไม่ใช่เหรอ นี่อะไรกลับไปเคาะประตูห้องของเขา เธอคิดไม่ตกกับเรื่องนี้จริงๆ จะหายไปเฉยๆ โดยที่ไม่ขอโทษเขาสักหน่อยเหรอ อย่างน้อยก็น่าจะส่งข้อความไปขอโทษพี่ต้าก็ยังดี เริ่มจากสารภาพว่าแชตที่ส่งหาเขาคือเธอเอง “เธอต้องยอมรับความจริงนะวาโยว่าเธอน่ะคือแฟนคลับของเขา” บอกเขาไปตรงๆ ว่าแอคเคาท์ที่ชื่อมายต้าคือเธอเอง ไม่รีรอให้คิดซ้ำกลับไปกลับมา เธอรีบส่งข้อความหาเขาในทันที ‘หนูเองนะพี่ต้า วาโยเอง หนูไม่อยากโกหกพี่อีกแล้วจริงๆ หนูคือแฟนคลับของพี่ แต่ก็อายเกินที่จะบอกตรงๆ พี่ก็รู้ว่าหนูชอบพี่มากแค่ไหน ขอโทษเรื่องเมื่อคืนด้วยนะคะ’ ไม่กี่นาทีมันก็ขึ้นว่าอ่าน ‘จำอะไรไม่ได้เลยเหรอ’ พี่ต้าพิมพ์กลับมาหาเธอ ‘จำได้ว่า หนูไปเคาะประตูห้องของพี่ แล้วพี่ก็เอาเสื้อของพี่มาใส่ให้หนูแล้วก็บอกจะมาส่ง ขอโทษนะคะที่รบกวนเวลาของพี่’ เขาเปิดอ่านแล้วก็เงียบไปหลายนาที จนเธอต้องแกล้งชวนคุยอย่างอื่นเพราะอยากรู้ว่าเขาจะต่อว่าเธอมากแค่ไหน กับเรื่องเมื่อคืน ‘พี่ต้าไม่แปลกใจเหรอคะ ที่แอคเคาท์นี้คือหนู’ ‘รู้ตั้งแต่ วันที่อยู่เชียงใหม่แล้ว ตอนที่โทรศัพท์คุณอยู่กับผม เห็นแจ้งเตือนเข้าจากแชทของคุณเลยเห็นชื่อพอดี’ ยิ่งเขาพิมพ์กลับมานิ่งๆ แบบนี้ยิ่งใจไม่ดี เธอกลัวว่าจะทำให้เขารำคาญเลยไม่ได้พิมพ์อะไรกลับไป นอกจากขอโทษจากใจนะคะ พร้อมอิโมจิยกมือไหว้ ‘มะรืนว่างไหม ตอนเย็นมาเจอกันหน่อย’ เขาพิมพ์กลับมาแค่นั้น แต่มันทำให้เธอยิ้มได้ในทันที นี่อาจจะเป็นยิ้มแรกของวันนี้ของเธอเลยทีเดียว ‘ว่างค่ะ’ เธอไม่ถามเขาว่าทำไมถึงนัดเธอ เพราะเหมือนว่าจะแล้วแต่เขาเท่านั้น เธอยังไงก็ได้หมดแหละ ‘จะนัดอีกทีนะ’ ‘ค่ะ พี่ต้า’ พร้อมส่งอิโมจิยิ้มไปให้เขา ตอนนี้ใจเธอมันมีความสุขสุดๆ ที่เขานัดเจอเธอ แต่อีกใจก็กังวลว่าทำไมเขาถึงนัดเจอเธอล่ะ มันเลยกลายเป็นว่าสุขไม่สุด ทุกข์ไม่เต็มที่จริงๆ วันนี้ทั้งวันเธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูตลอดเกือบทุกห้านาทีเพราะกลัวว่าพี่ต้าจะส่งข้อความมาแล้วเธอไม่ได้ยิน แต่แล้วสิ่งที่เธอรอคอยก็เด้งขึ้นมาบนหน้าจอ พี่ต้าส่งข้อความแชทมาให้เธอ ‘วันนี้ทุ่มครึ่ง เอาเสื้อมาคืนผมที่คอนโดด้วย’ อ๋อ ใช่สิเขาคงอยากได้เสื้อคืนแบรนด์เนมราคาแพงซะด้วยสิเธอลืมเรื่องนี้ได้ยังไง แทนที่จะเอ่ยปากเอาไปคืนเขา จนเขาต้องออกปากทวงกับเธอเองใช้ไม่ได้จริงๆ เลยวาโย ‘ ได้ค่ะพี่ต้า หนูจะซักให้สะอาดเลย’ ‘ไม่ต้องซักเดี๋ยวทำเอง’ เขาคงกลัวว่าเธอจะทำเสื้อผ้าของเขาเสียทรงหรอกมั้ง แต่ไม่เป็นไรหรอกเสื้อก็ไม่ได้เลอะแล้วก็ไม่ได้เหม็นแถมยังมีกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ของเขาติดมาอีกด้วย เธอไปถึงคอนโดของเขาประมาณหนึ่งทุ่มก็เลยจอดรถนั่งรอตากแอร์แถวๆนั้น เธอใส่หมวกแก๊ปเพื่อเก็บผมเพราะกลัวว่าคนอื่นจะมาเห็นเธอเข้าแล้วกลัวเขาจะเป็นข่าวไม่ดีด้วย เลยนึกขึ้นได้ว่า ทำไมเขาไม่ลงมาเอาเสื้อเองที่รถล่ะ เธอจึงส่งข้อความกลับไป พร้อมกับบอกตำแหน่งที่จอดรถของเธอให้เขา ภายใต้หลังคาขนาดไม่ใหญ่มากมีรถยนต์จอดหลายคันเรียงรายห่างจากประตูทางเข้าไปภายในตึกไม่ไกลมากนัก เขาอ่านแล้วไม่ตอบ สรุปคือยังไงหรือว่าเขายุ่งอยู่ จึงส่งไปถามเขาอีกครั้ง สักพักเขาก็เดินมาเปิดประตูรถของเธอแล้วขึ้นมานั่ง “พี่ต้า” เธอตะลึงนิดหน่อยไม่คิดว่าเขาจะมาเร็วขนาดนี้ “ทำไมไม่ขึ้นไปข้างบน อยู่ตรงนี้ยิ่งเป็นเป้าสายตา” เขาพูดหน้านิ่งๆ “แป๊บเดียวค่ะ นี่ค่ะเสื้อของพี่ขอบคุณนะคะที่พาหนูไปส่งถึงที่อย่างปลอดภัย” หญิงสาวพูดยิ้มแย้ม “ปลอดภัยเหรอ” เขายิ้มมุมปาก “ค่ะ ปลอดภัย มีอะไรหรือเปล่าคะ” เธอถามสีหน้างงๆ “คงจำไม่ได้จริงๆ งั้นก็ดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องพูดอะไรมาก” “คะ พี่อยากพูดมากกับหนูก็ได้นะคะ หนูฟังได้หมดไม่มีบ่นสักคำ” เธอยิ้มหวานส่งสายตาเป็นประกายที่มันปิดไม่มิดว่าเธอชอบเขามากถึงมากที่สุดจนเก็บไว้ไม่อยู่ เขาจ้องมองริมฝีปากของเธอแล้วเผลอเลียริมฝีปากของตัวเองอย่างลืมตัว เลยทำให้หญิงสาวมองริมฝีปากของเขาเช่นกัน แล้วภาพเหตุการณ์เมื่อคืนก่อนก็ผุดขึ้นมา ภาพที่เธอดึงเขาเข้ามาในห้องรวมถึงภาพที่เขาจูบเธออยู่บนเตียงนอนนุ่มนั่น เธอทำหน้าตาเหวอ ตาโตพร้อมกับเอามือปิดปากของตัวเองอย่างอดกลั้นเพราะอยากจะร้องกรี๊ดขึ้นมาทันที “อย่าบอกนะคืนก่อนนั้น พี่ต้ากับหนู…” เธอพูดทิ้งท้ายไว้ เขาพยักหน้าขึ้นลง “อือ จำได้แล้วเหรอ” เขาตอบนิ่งๆ แต่สายตาของเขาจับจ้องไปที่เธอตลอด เพื่อรอว่าเธอจะทำยังไงต่อไป “แต่พี่ ไม่ได้ล่วงเกิน หนูใช่ไหม” เธอเอามือปิดหน้าอกของตัวเอง “แต่คุณก็อยากให้ผมล่วงเกินอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ถึงเมาแล้วขึ้นไปหาผมถึงห้องอย่างนั้น” “พี่ต้า! “ เธอเรียกเขาอย่างผิดหวัง “ถึงหนูจะชอบพี่ต้า แต่ก็ไม่เคยคิดจะอ่อยหรือให้ท่าอะไรพี่เลยนะ หนูแค่ชอบพี่จริงๆ เพราะหนูคิดว่าพี่ต้าไว้ใจได้” “ฮึๆ คุณมองผมดีเกินไปแล้ว ผมก็เป็นคนมีตัณหา ราคะเหมือนกับผู้ชายคนอื่น แล้วคุณคิดว่าผมเป็นไอดอลจะไม่มีอารมณ์ทางเพศหรือไง เวลามีผู้หญิงเมามาออดอ้อนคลอเคลียแบบคืนนั้น” เขายื่นหน้าไปใกล้ๆ เธอด้วยสายตาขบขัน “แต่พี่ต้า ยังไม่ได้ทำอะไรหนูใช่ไหมคะ ตอบมาก่อน” เธอหน้าเสีย “ไม่รู้ตัวเหรอ หรือว่าไม่เคยมีอะไรกับใครแบบที่เคยบอกไว้จริงๆ” เขาเลิกคิ้วถามยิ้มกวนๆ “พี่ต้า!” เธอเรียกเขาลั่นรถ “แสดงว่าไม่เคยมีอะไรกับใครจริงๆ สินะ เก็บไว้ให้ผมเหรอ เอ้ย! เก็บไว้ให้พี่เหรอ” เขารีบเปลี่ยนสรรพนามแทนตัวเองเพราะคงอยากจะสนิทกับเธอเข้าจริงๆ หญิงสาวโกรธจัดไม่คิดว่าคนที่เธอชอบจะพูดจาดูถูกเธอขนาดนี้ เขามีนิสัยเสียแบบนี้เหรอ “เอาเสื้อพี่คืนไป แล้วลงจากรถไปเลย วันนี้หนูจะไม่ถือสากับคำพูดของพี่เพราะวันนั้นหนูเป็นฝ่ายไปหาพี่เอง” ก็สมควรที่เขาจะพูดแบบนี้กับเธอ “ขึ้นไปข้างบนกับพี่ไหมวาโย ไม่อยากรู้เหรอ” เขาส่งสายตาเป็นประกายให้เธออีกครั้ง “อยากรู้อะไรคะ” “ก็อยากรู้ ว่าทำไมพี่ถึงชื่อต้า ต้าที่แปลว่าใหญ่ในภาษาจีนไง” เขาพยักพเยิดหน้าชวนเธอขึ้นไปข้างบนห้องเขา “หนูไม่ตลกนะพี่ ไม่ขำด้วย พี่กำลังดูถูกความรักของหนูอยู่ ลงไปเลยนะ” “โอเคๆ รู้แล้ว แล้วครั้งหน้าก็อย่าไปเมาแบบนี้กับใครล่ะ รู้ไหมว่ามันอันตรายถ้าวันนั้นไม่ใช่พี่ เธอจะเป็นยังไง พี่ก็ไม่ได้ว่าตัวเองดีนักหรอก พอมันมีอารมณ์ขึ้นมาก็หน้ามืดเหมือนกันนะ ระวังไว้หน่อยก็ดี” เธอฟังเขาพูดก็ขมวดคิ้วเข้าหากัน “เมื่อกี้พี่ยังพูดจาดูถูกหนูอยู่เลย” “ขอโทษแล้วกัน พี่แค่อยากให้เธอกลัวพี่ก็แค่นั้น จะได้ไม่ต้องไปเมาปล่อยตัวแบบนี้ไง ยังไงเธอก็น้องไอ่สินมัน พี่ไม่ทำอะไรหรอกถ้าเธอไม่ยอม” “พี่ต้าถ้าเป็นแบบนี้หนูจะไม่ชอบพี่แล้วนะ ไม่รู้ว่าอันไหนพูดจริงพูดเล่นกันแน่” เพราะเธอเองก็เริ่มสับสนแล้วเหมือนกัน บางทีเหมือนห่วงใยแต่บางที่อยากเหมือนลองใจเธอ พี่ต้าหยิบถุงกระดาษใส่เสื้อที่เธอส่งให้เขาแล้วเปิดประตูลงรถไป โดยที่สายตาของหญิงสาวยังคงจับจ้องมองแผ่นหลังของเขาจนลับหายไปกับความมืดสลับกับแสงสว่างของไฟดวงสีส้มที่ติดอยู่ใกล้ทางเดิน ตรงทางที่เขาเดินเข้าไปในตัวคอนโด เพราะจุดที่เธอจอดรถอยู่นี้เป็นที่จอดรถเสริมของคนที่อยู่คอนโดนี้เท่านั้น พี่ต้าน่าจะจอดรถอยู่ข้างในที่เขาเตรียมไว้ให้มากกว่า เพราะเหมือนเธอจำได้ว่าลงลิฟท์มาแป๊บเดียวก็เดินถึงรถยนต์ของเขาแล้วแม้ว่าร่างสูงใหญ่จะเดินขึ้นคอนโดไปแล้ว แต่ว่าเธอยังคงจอดรถอยู่ที่เดิมมาได้เกือบยี่สิบนาทีแล้ว เขาเคยจูบเธอ แล้วยังไงต่อเขาไม่พูดว่าขอโทษ หรือเอ่ยถามความรู้สึกของเธอเลยด้วยซ้ำว่าเธอจะยังชอบเขาอยู่ไหมที่ไม่ให้เกียรติเธอแบบนี้ หญิงสาวนึกถึงรสชาติจูบของเขาที่เหมือนคนกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่นั้น แต่เธอก็จำได้ว่าเธอจูบโต้ตอบเขาไปเช่นเดียวกัน แล้วยังไงต่อนั่นมันจูบแรกของเธอนะ จูบแรกของเธอเป็นของพี่ต้าเหรอ เธอนึกหลายสิ่งหลายอย่างจนฟุ้งซ่าน แต่ก็ไม่กล้าแม้แต่จะคิดเข้าข้างตัวเอง ว่าเขาก็พอจะชอบเธออยู่บ้างเหมือนกัน พี่ต้ารู้ว่าแอคเคาท์นั่นเป็นของเธอ ทำไมถึงยังส่งอิโมจิรูปหัวใจมาให้เธอล่ะ เพราะเธอส่งข้อความไปบอกรักเขาเหรอ แต่เขาก็น่าจะส่งอิโมจิรูปยิ้มมาก็ได้นี่ ครั้งนี้ภาพมันชัดมาก นั่นเพราะเขาจูบเธอ เธอเริ่มคิดเข้าข้างตัวเองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เมื่อกี้ที่เขาชวนเธอขึ้นไปข้างบนห้องของเขา เขาพูดจริงหรือพูดลองใจเธอกันแน่วาโยเอาหัวโขกกับพวงมาลัยเบาๆ เพื่อดึงสติ นี่เธอชอบเขามากจนเป็นขนาดเลยเหรอ‘ทำไมพี่ถึงจูบหนูคะ’ เธอพิมพ์ข้อความแชตถามเขาในรถยนต์ที่ยังไม่ได้ขยับไปไหนตั้งแต่ที่ต้าลงไป‘อยู่ไหน’
“อยากลองมั้ย” เขาถามพร้อมกับจับมือของเธอมาหอมอย่างอ่อนโยน“ลองจูบอีกเหรอคะ หนูไม่อยากลองแล้วค่ะ” เธอก้มหน้าลงอย่างเขินอาย “อยากมีอะไรกับพี่มั้ย…คืนนี้” เขาถามเสียงต่ำแหบพร่า“พี่ต้า” เธอเรียกชื่อของเขาเบาๆ พร้อมกับส่ายหน้าปฏิเสธ“ถ้าไม่ยอม พี่ก็คงทำอะไรไม่ได้ก็พี่รับปากแล้วนี่เนอะว่าจะไม่ทำ” เขาเดินไปเปิดประตูให้เธอ พร้อมกับยื่นรอให้เธอเดินออกไป“พี่ต้าไล่หนูแล้วเหรอคะ หนูจะมีอะไรกับพี่ได้ไง เราไม่ใช่แฟนกันซะหน่อย” เธอขมวดคิ้วเมื่อเห็นเขาอารมณ์เปลี่ยนจากก่อนหน้านี้ไปโดยสิ้นเชิง สายตาที่มองเธอนั้นนิ่งเรียบเแต่ซ่อนความดุดันไว้เหมือนกำลังตำหนิเธออยู่“พี่ถึงถามไง ว่าอยากลองกับพี่หน่อยไหม ถูกใจพี่หรือเปล่าเดี๋ยวค่อยว่ากัน” เขากัดเม้มริมฝีปากของตัวเอง เรื่องนี้จะโทษเขาก็ไม่ได้ เธอเองก็เป็นฝ่ายจูบเขาเหมือนกัน เขาไม่ได้บังคับหรือทำให้เธอเจ็บเลยสักนิด แถมยังถามความสมัครใจจากเธออีก เขารู้ว่าเธอชอบเขาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แล้วอีกอย่างนี่ก็เป็นครั้งแรกของเธอด้วย เธอจะทำยังไงดี หญิงสาวสลัดความคิดทั้งหมดที่มี เธอไม่น่าลังเลอะไรเลยด้วยซ้ำเขาอาจจะเป็นนายแบบไอดอลที่หล่ออย่างเดียว แต่นิสัยไม่ดีก็ได้
“จะกลับจริงๆ เหรอ” ต้าดึงมือของวาโยเอาไว้เมื่อเธอกำลังจะเดินไปเปิดประตูห้องของเขา“ค่ะ หนูต้องกลับแล้ว เพราะถ้าหนูอยู่ต่อพี่ต้องแกล้งหนูอีกแน่ๆ” เธอยืนก้มหน้าแดงเมื่อนึกถึง สิ่งที่เพิ่งทำกับเขาไปบนเตียงเมื่อกี้นี้“พี่ขอโทษ นะไม่คิดว่าจะปล่อยให้ตัวเองเลยเถิดขนาดนี้” เขาสวมกอดเธอจากทางด้านหลัง“แล้วหนูต้องทำยังไงต่อคะ” “ทำอะไร” เขาถามหน้างงๆ“หนูเป็นแฟนคลับของพี่ พี่เป็นคนแรกของหนูแต่เรา…ไม่ได้เป็นอะไรกัน” เธอพูดเว้นวรรคไว้ เพราะเขาบอกเธอเองว่าไม่อยากวาดฝันให้เธอ แล้วเธอก็เข้าหาและยอมเขาเอง ด้วยความเต็มใจ เพียงเพราะแค่ว่าอยากลองตามคำชวนของเขา“อืม เรื่องนั้นพี่ยังไม่แน่ใจ ถ้าพี่เปิดเผยเรื่องของเราตอนนี้มันคงไม่ดีแน่ๆ” นั่นน่ะสิ เขาเพิ่งเป็นนายแบบที่โด่งดังตอนมาอยู่ไทยสินะ ยังไงเขาก็ต้องโฟกัสเรื่องงานก่อนอยู่แล้ว“หนูก็ลองถามพี่ไปแบบนั้นแหละค่ะ” เธอหันไปยิ้มให้เขาอ่อนๆ ทั้งที่เพิ่งมีความสุขมาแท้ๆ แต่ทำไมถึงเศร้าแล้วล่ะ หรือเธอโลภมากเกินไปที่อยากเป็นแฟนกับพี่ต้าจริงๆ“พอรู้แบบนี้แล้วยังอยากมาหาพี่อยู่อีกไหม หรือว่าไม่อยากมาหาแล้ว” เขาจับไหล่ของเธอให้หันมาสบตากับเขา“อยากสิคะ” เธอเม้มปาก
ครืดดๆๆ เสียงโทรศัพท์ของพี่ต้าดังอยู่บนโต๊ะกระจกข้างโซฟาที่นั่งอยู่ เขาควานมือไปหยิบหาโดยไม่ได้มอง เพราะมัวแต่หมกมุ่นกับซอกคอของสาวน้อยอยู่ เขาชำเลืองมองชื่อที่ขึ้นบนหน้าจอ ก็ทำเสียงชู่ปากใส่วาโยทันที“ครับพี่เบน” เขารับสายผู้จัดการสาวของเขาที่โทรเข้ามาตอนเกือบจะสองทุ่มครึ่งแล้ว วาโยนั่งอยู่นิ่งๆ และไม่กล้าขยับตัวไปไหน จึงทำให้ต้าเข้ามาจูบปากของเธอเบาๆ อีกครั้งด้วยความเอ็นดู“ครับพี่ เดี๋ยวผมจะลงไปเอาเดี๋ยวนี้แหละ” ชายหนุ่มกดวางสายแล้วหันมาพูดกับเธอที่นั่งนิ่งอยู่“พี่เบนผู้จัดการพี่โทรมา ให้ลงไปเอาเสื้อตัวใหม่ที่เพิ่งได้มา จะเอาไว้ถ่ายแบบพรุ่งนี้ เดี๋ยวพี่ลงไปเอาก่อนนะ ” “ทำไมพี่เขาไม่ขึ้นเอามาให้พี่ต้าที่ห้องคะ”“ผู้จัดการพี่เป็นผู้หญิงชื่อพี่เบน ส่วนผู้ชายชื่อพี่สิงห์ ปกติถ้าพี่สิงห์เอามาให้ เขาก็ขึ้นมาเลย แต่ถ้าเป็นพี่เบน ทางค่ายไม่อยากให้นายแบบอยู่กับผู้หญิงสองต่อสองไม่ว่าจะกับใคร พี่เลยต้องลงไปไงครับ”“อ๋อ ค่ะ แล้วหนูล่ะก็อยู่กันสองคนกับพี่ ค่ายจะไม่ว่าเหรอคะ”“มันไม่เหมือนกันสักหน่อย โยเป็นแฟนพี่แล้วนะ” เขาลูบหัวของเธอขึ้นลงเพราะมันเขี้ยวในความไม่รู้ประสีประสาอะไรแบบนี้จนชายห
“โย เป็นยังไงบ้างเพลง” พี่สินวิ่งเข้ามาหน้าตาตื่น“หลับไปแล้วค่ะพี่ เดี๋ยวคืนนี้เพลงอยู่กับโยเองนะคะ”“ทำไมโย ถึงเป็นลมหมดสติล่ะ อย่าบอกนะ…ว่าพากันลดน้ำหนักไม่กินข้าวกินปลากันน่ะ” พี่สินขมวดคิ้วเข้าหากัน“ไม่ใช่หรอกค่ะพี่ โยไม่สบายด้วยก็เลยเป็นลม ดีนะที่เพลงมาเจอก่อน บอกให้ไปหาหมอตั้งแต่เช้าก็ไม่ไป”“พี่ล่ะเหนื่อยใจกับความดื้อของโยจริงๆ แล้วดูสิไม่สบายก็ไม่บอกพี่สักคำ คุณน้ายิ่งฝากให้พี่ดูแลลูกสาวเขาให้ดีๆ อยู่ด้วย” สินพูดถึงพ่อกับแม่ของวาโยที่ฝากฝั่งให้ดูน้องด้วยเพราะเธอออกมาอยู่ข้างนอกคนเดียว แถมสินยังเคยชวนให้ไปอยู่บ้านด้วยกันก็ไม่ไปอยู่ด้วย“แล้วเอาไงดีล่ะคะพี่สิน เพลงยังไม่โทรบอกพ่อกับแม่ของโยเลย” เพลงเงยหน้าถามผู้ชายที่อยู่ในเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีกรมที่ดูกระวนกระวายใจอย่างมาก เพราะเขาเองก็คงตกใจเหมือนเธอ วาโยเองไม่เคยเจ็บป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาลเลย แทบจะไม่ค่อยป่วยเลยด้วยซ้ำ ถ้าเปรียบกับพี่สินเขายังป่วยบ่อยกว่าน้องสาวของตัวเองอีก“เดี๋ยวเรื่องนี้พี่จัดการเอง ยังไงก็ต้องบอกคุณน้า ลูกเขานอนโรงพยาบาลแท้ๆ เราปิดไม่ได้หรอก เผื่อคุณน้าจะได้ให้โยย้ายมาอยู่กับพี่เลย ต้องบังคับกันล่ะ”“งั้นเพ
แม้ว่าจะผ่านมาแล้วหลายเดือน สินก็ยังไม่รู้ว่าคนที่ทำให้น้องสาวตัวเองเสียใจและซึมไปคือต้าเพื่อนสมัยมัธยมของเขาเอง วาโยเก็บเงียบมาตลอดและหลีกเลี่ยงที่จะไม่เจอเขาด้วยเวลาที่เธอรู้สึกเศร้า แม้แต่ที่เธอไปพบจิตแพทย์ เพลงก็ไม่รู้เพราะไม่อยากทำให้เพื่อนและพี่ชายต้องคอยกังวลกับเธอไปด้วยวันนี้สินชวนวาโยออกไปเที่ยวทะเลด้วยกันกับเพื่อนๆ เพราะเป็นวันหยุดของเขา เธอตอบตกลงไปเพราะก็อยากไปเปิดหูเปิดตาบ้าง เพื่อนของพี่สินมากันสามคน รวมทั้งเธอและพี่ชายก็เป็นห้าคนพอดี ส่วนเพลงก็ไปเชียงใหม่หาหวานใจของเธอตั้งแต่เมื่อวานตอนเลิกเรียนช่วงบ่ายแล้ว “เฮ้ย พวกเอ็งอย่าคิดมาจีบน้องข้านะเว้ย ถ้าจีบมีเตะแน่ๆ” สินพูดออกมาเพราะเห็นว่าพวกเพื่อนๆ ของเขากำลังมองน้องสาวของตนเองที่เดินเล่นอยู่ริมชายหาดคนเดียวเพราะตอนนี้มันก็เริ่มเย็นมากแล้ว ผู้คนเลยเริ่มทยอยกลับ ส่วนสินกับวาโยและเพื่อนของเขาค้างที่นี่นั่นเอง“จีบอะไรวะ ข้ามองเพราะเห็นว่าน้องเอ็งพอโตแล้ว ก็สวยเลยนี่หว่า” เพื่อนอีกคนของสินพูด“เออ สวยแล้วก็เลิกมองน้องมันได้แล้ว เดี๋ยวไอ่โยมันจะเที่ยวไม่สนุกพอดี” สินพูดพร้อมกับจิบเหล้าเข้าปาก เพราะพวกเขาตั้งโต๊ะกันตั้งแต่บ่า
“ใครไปเยาะเย้ยเธอ เพราะพี่เองก็ไม่ได้ตลกกับสิ่งที่เธอทำเอาไว้กับพี่เหมือนกัน”“ทำอะไรคะ มีแต่พี่ต้าแหละที่ทำ และหนูก็ไม่อยากยุ่งกับพี่อีกแล้ว” เธอรีบดันปิดประตูจนถาดข้าวแทบจะหล่นจากมือ แต่ต้าก็จับไว้ได้ทัน แล้วดันตัวเธอให้เข้าไปในห้องแล้วปิดประตูทันที“พี่จะทำอะไรหนูคะ หนูร้องให้คนช่วยจริงๆ นะ” เธอถอยหลังหนีเขาอย่างเร็ว “ร้องสิ พี่เองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเธอจะมาไม้ไหนอีก”“ทำตัวใสซื่อ โกหกเก่งแต่พอถูกจับได้ ก็บีบน้ำตา” เขาพูด“จับอะไรได้ มีแต่พี่แหละที่ทำร้ายหนู พี่มันคนห่วยแตก” นี่เธอด่าเขาทั้งที่ยังยืนร้องไห้อยู่เหรอ“วาโย!” เขาพูดดังลั่นแล้วรีบเข้าไปรวบตัวเธออยู่ในอ้อมแขนของเขาทันที และที่เขาสัมผัสได้คือเธอผอมลงไปมาก ถ้าเขาออกแรงกับเธออีกนิดกระดูกเธอคงแตกแน่ๆ จึงค่อยๆ คลายวงแขนไว้อย่างหลวมๆ“ปล่อย! คนมักง่ายแบบพี่ไม่เห็นความรักของใครหรอก ที่ผ่านมาหนูถือว่าทำทานให้หมามันแล้วกัน” เธอดันอกกว้างของเขาออกจากตัวเอง“ให้หมาเหรอ? ในกระดาษโน้ตที่เขียนเอาไว้ให้พี่ ว่าด่าเจ็บแล้วนะ มาเจอตัวจริงด่าเจ็บกว่าอีก มานี่เดี๋ยวหมาตัวนี้มันจะช่วยสงเคราะห์ให้” เขาทั้งซุกไซร้และบีบข้อมือของเธอรวบไว้ด
ตอนเย็นระหว่างทางกลับบ้านของสิน ในขณะที่เธอเดินไปซื้อของกินและของใช้หอบของมาพะรุงพะรังนั้น เธอก็เดินข้ามถนนตรงทางม้าลาย โดยที่ไม่ทันดูว่ามีรถวิ่งสวนเลนมาและเฉี่ยวชนเธอเข้าในทันที เอี๊ยดดดด เสียงล้อรถยนต์เบรกเดังสนั่น โครมมม!ร่างบางกระเด็นล้มไปอยู่ตรงขอบฟุตบาตข้างทางทำให้ศีรษะของเธอไปกระแทกกับพื้นในทันที ข้าวของที่เธอซื้อมากระจัดกระจายหล่นเต็มพื้นไปหมด จนในที่สุดเธอก็ถูกนำส่งตัวไปโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ๆ นี้สองวันต่อมาเธอจึงฟื้นมีสติอีกครั้ง ร่างกายมีรอยแผลถลอกและหัวแตกแต่โชคดีที่แผลไม่ใหญ่มาก “โยเป็นยังไงบ้างลูก” แม่ของเธอพูดเมื่อเห็นว่าเธอลืมตาขึ้นมา“แม่” เธอเรียกเบาๆ“หนูหลับไปสองวันสองคืนเลยนะ เจ็บตรงไหนบ้างแม่จะไปตามหมอให้นะ”“ปวดหัวค่ะ ขอโทษนะคะที่ทำให้ตกใจกัน” “ไม่เป็นไร หนูฟื้นก็ดีแล้ว พ่อกับแม่เป็นห่วงหนูมากพี่สินก็ด้วยนะ เขาขอโทษแม่ใหญ่เลยที่พาเราไปพักด้วย แล้วต้องมาโดนรถชนอีก อ้าวนั่นไงสินมาพอดีเลย” แม่ของเธอพูดเมื่อเห็นสินเดินเข้ามา“เป็นไงบ้างโย เจ็บตรงไหนบ้าง พี่ขอโทษนะที่ดูแลเราไม่ดีเลย” “พี่สินพูดอะไรแบบนั้น คนมันจะโดนเองต่างหากล่ะ”“แต่พี่ก็รู้สึกผิดอยู่ดีแหละ”“พี
ต้าที่กำลังนั่งผสานมือนั่งหน้าเครียดอยู่ที่โซฟามองหญิงสาว ที่กำลังหายาที่อยู่ในกล่องเพื่อมาทำแผลให้เขา“โย มานั่งใกล้ๆ พี่ซิ” เขาตบโซฟาให้เธอนั่งด้วยสีหน้าราบเรียบแต่แววตาของเขากลับซ่อนอะไรไว้มากมายอยู่ในนั้น หญิงสาวเดินเข้ามานั่งข้างๆเขาอย่างเงียบๆ เธอคงไม่ถามเขาหรอกว่าเจ็บไหม เพราะเธอย่อมรู้ดีก็มุมปากของเขามีรอยช้ำแตกขนาดนั้น“ยานั่น ...ที่เธอกิน...เอามาให้พี่ดูหน่อย” “พี่ต้า หนูไม่ได้กินยาอันนั้นแล้วนะคะ หนูไม่ได้เครียดแล้ว” หญิงสาวรีบพูดปฏิเสธเพราะกลัวว่าเขาจะเป็นห่วง“นั่นแหละ เอามาดูหน่อย...อยากเห็น” เขาพูดเสียงโทนต่ำ จนหญิงสาวไปเปิดลิ้นชักแล้วหยิบยาส่งให้เขา เขาถ่ายรูปยาแล้วส่งเข้าแชตของใครบางคน พร้อมกับกดโทรออกคุยกับคนที่อยู่ปลายสาย“ช่วยดูยาที่ส่งให้ดูหน่อยว่ายาอะไร” สักพักก็มีสายโทรเข้ามาเขากดรับอย่างรวดเร็ว“อือ แค่นั้นเหรอ โอเคขอบใจมากเพื่อน แค่นี้แหละ” แล้วเขาก็กดวางสายไป“พี่ต้าไม่ไว้ใจ กลัวว่าหนูโกหกเหรอคะ” หญิงสาวนั่งหน้าบึ้ง“พี่ไม่ไว้ใจ เธอชอบทำอะไรที่พี่คาดไม่ถึงเสมอ” เขาขยับเข้าไปนั่งใกล้หญิงสาวที่กำลังเทยาใส่สำลีทำแผล“หนูแค่นอนไม่หลับแค่นั้นเองค่ะ เลยไปปรึกษาหมอ
เช้าวันต่อมาวาโยที่นอนหนุนแขนของชายหนุ่มอยู่นั้นลืมตาขึ้นมาพร้อมกับแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าที่ส่องผ่านหน้าต่างกระจกทะลุผ้าม่านเข้ามาภายในห้อง เธอมองชายหนุ่มที่หลับตาพริ้มไม่สวมเสื้อมีเพียงผ้าห่มคลุมตั้งแต่เอวสอบลงไปจนถึงปลายเท้าของเขาเท่านั้น ผมยุ่งฟูนิดหน่อยพอให้ดูน่ารักเพราะปกติจะเห็นเขาแต่งกายเป๊ะ ทรงผมถูกจัดทรงให้เท่อยู่เสมอ เธอค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียงเบาๆ เพราะกลัวว่าเขาจะตื่นมาเห็นเธอโป๊ซะก่อนแม้เมื่อคืนเขาจะเห็นไปเต็มตาแล้วก็ตาม เมื่อลุกจากเตียงพ้นแล้วหญิงสาวจึงรีบเดินเข้าไปในห้องน้ำแล้วชำระล้างร่างกายทันที“แสบจัง” เธอแทบสั่นสะท้านเมื่อน้ำสัมผัสโดนส่วนนั้นของเธอจนหญิงสาวกัดริมฝีปากของตนเองจนเป็นเส้นตรง ในขณะที่วาโยอาบน้ำอยู่นั้นก็มีคนมาเคาะประตูชายหนุ่มที่นอนหลับใหลอยู่บนเตียงจึงลุกขึ้นมาใส่เสื้อและกางเกงยีนส์ของตนเองและเดินไปเปิดประตูด้วยท่าทางงัวเงียสะลึมสะลือ“ไอ้ต้า มาทำอะไรที่ห้องน้องกูวะ” ชายหนุ่มที่มาเคาะประตูถึงกับทำหน้างงในสิ่งที่เห็นตรงหน้า ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าที่ยังใส่ไม่เรียบร้อย แถมผมเผ้ายังยุ่งเหยิงราวกับคนที่พึ่งตื่นนอน ใหม่ๆ สภาพแบบนี้มันคงไม่ได้มาเมื่อเช้านี้แน่ๆช
เสียงหายใจเข้าออกของต้าเริ่มถี่ขึ้น เมื่อเขาเริ่มซุกไซร้ซอกคองามระหงของหญิงสาวที่หลับตาพริ้มยอมจำนนกับเขาแต่โดยดี“ทนไม่ไหวแล้วว่ะ” เขาลุกขึ้นยืนในขณะที่หญิงสาวนั่งตักแล้วเดินในท่าลิงอุ้มแตงไปยังเตียงนุ่มของหญิงสาว เขารีบถอดเสื้อแขนกุดของหญิงสาวอย่างเร่งรีบพร้อมกับดึงกระโปรงและกางเกงในลายลูกไม้ตัวบางของหญิงสาวที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำหล่อลื่นแห่งความสมยอมจนไหลล้นออกมาถึงง่ามขา“อ้าาา เยิ้มเชียว อยากมากแล้วสินะ” ชายหนุ่มครางในลำคอเมื่อนิ้วยาวสวยของเขาถูไถไปตามร่องกลีบหวานเยิ้มจนเปียกลงมาถึงที่นอน“อ๊าา พี่ต้าเบาๆ กับหนูหน่อยนะคะ” หญิงสาวครางเสียงหลงเมื่อเขาลูบไล้เนินสวยพร้อมกับนิ้วที่ขยับเข้าออกจนสุดจะทนเพราะความอยากเต็มที่ของหญิงสาว ชายหนุ่มไม่ตอบกลับรีบปลดกางเกงของตัวเองอย่างรวดเร็วเหมือนกับกลัวว่าหญิงสาวจะเปลี่ยนใจไม่ให้เขาสอดใส่เข้าไปในตัวเธออย่างไงอย่างงั้นเลยเขาก้มลงดูดเลียไปทั่วหน้าอกของหญิงสาวจนน้ำลายเปียกชุ่มไปทั่ว พร้อมกับเสียงลมหายใจหืดหาดอย่างกับคนคลั่งเซ็กซ์ของเขา ก็ทำให้เธอแอ่นเนินโหนกนูนของตัวเองถูกับหน้าขาของเขาที่คร่อมตรงหว่างขาของเธอ
หญิงสาวในชุดกระโปรงสั้นกับเสื้อแขนกุดคอเต่า เดินพยุงร่างใหญ่เข้ามาในห้องน้ำของตนเองอย่างทุลักทุเล เพราะเขาเอาแต่เดินเบียดและโอบไหล่ของเธอไม่ปล่อยเลย จนเธอต้องออกแรงแกะมือเหนียวๆ ของเขาออกจากไหล่นวลเนียนของเธอ เมื่อพาชายหนุ่มเข้าไปในห้องน้ำเธอก็ปิดประตูให้ แล้วเดินไปเปิดตู้เย็นพร้อมกับหยิบขวดน้ำมาสองขวดแล้วก็ผ้าเย็น ที่เธอซื้อติดตู้เย็นไว้เวลาวันไหนดื่มแล้วแฮงค์ ผ้าเย็นก็สามารถช่วยทำให้เธอสดชื่นขึ้นมาได้เมื่อต้าเดินออกมาจากห้องน้ำ วาโยก็รีบไปพยุงเขามานั่งที่โซฟาทันที พร้อมกับเอาผ้าเย็นเช็ดใบหน้าให้เขาโดยการเสยผมหน้าม้าของเขาขึ้น พร้อมกับถอดหมวกแก๊ปให้“โห…หน้าใสกริ๊งเลย” เธอพูดออกมาเบาๆ จนชายหนุ่มที่นั่งเมาอยู่ถึงกับหลุดยิ้มออกมา วาโยค่อยๆ เช็ดใบหน้าของเขาและลงไปที่ลำคออย่างแผ่วเบา ส่วนต้าเองก็ปล่อยให้เธอนั่งเช็ดตามอำเภอใจพร้อมหลับตาพริ้มเพราะความเย็นสบายของผ้าเย็นที่เธอเช็ดไปตามแขนลงมาจนถึงข้อศอก“พี่ต้าอยู่ดีไม่ว่าดีนะคะ คออ่อนกว่าเขายังจะไปท้าดวลอีก" หญิงสาวพูดพร้อมกับจับฝ่ามือหนาของเขามาเช็ดด้วยผ้าเย็นเพื่อคลายอาการเมาให้เขารู้สึกดีขึ้น
“พี่ต้า” วาโยอุทานเมื่อเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มที่ยืนกระดกแก้วเหล้าของเธอดื่มจนหมด“ชอบเทเหล้าเหรอ เทมาอีกสิ” พี่ต้าวางแก้วเหล้าลงบนโต๊ะจนแก้วแทบจะแตกละเอียดคามือของเขา แล้วมองไปที่เพื่อนชายของเธอจนแทบจะกินเลือดกินเนื้อด้วยแววตาที่ขึงขังน่ากลัวพร้อมกับควักมือเรียกให้เด็กเสิร์ฟมาเสิร์ฟเหล้าเพิ่มอีกหนึ่งขวด แล้วนั่งลงอยู่ข้างวาโยโดยมีนนท์ที่นั่งอยู่อีกฝั่งหนึ่งของโต๊ะ“พี่ต้า พอแล้วเดี๋ยวก็เมาหรอก” วาโยจับแขนของเขาที่กำลังเปิดขวดเหล้ารินใส่แก้วของนนท์ แล้วผายมือเชิญให้นนท์ดื่มด้วยท่าทางกวนๆ“เห็นมันชอบเทเหล้าก็เลยอยากมาแจมด้วย ทำไมหรือว่าชอบที่มันเทเหล้าให้กิน” เขาเลิกคิ้วรอฟังคำตอบจากเธออยู่ครู่หนึ่ง แต่เธอก็ไม่รู้จะตอบอะไรเขาดีเพราะคำพูดของเขาเหมือนกำลังบอกว่าเธอชอบที่มีผู้ชายมามอมเหล้าเธอแบบนี้ จึงเปลี่ยนไปคุยกับเพื่อนชายที่คิดว่าน่าจะคุยรู้เรื่องกว่าคนร่างใหญ่ ที่จ้องแต่จะพูดจาหาเรื่องแถมกำลังมองเธอด้วยแววตาเชิงตำหนิแบบนี้อีก ไม่รู้เธอไปทำอะไรให้เขากันแน่ ถึงได้ตามมาหาเรื่องถึงที่นี่“นนท์ เราว่าเรากลับกันก่อนดีกว่า นี่ก็ดึกมากแล้ว” วาโยจึงลุกขึ้นไปดึงเพลงมาที่โต๊ะ แต่พอกลับมา ก็เจอ
แชะๆ เสียงกดชัตเตอร์ที่ดังรัวๆ ของช่างภาพ ที่หันเลนส์กล้องไปทางนายแบบหุ่นฟิตที่มีกล้ามหน้าท้องขึ้นเป็นก้อนสวย ผิวเนียนละเอียดสะท้อนกับเสียงไฟแถมยังมีเหงื่อซึมนิดหน่อยจากการถ่ายภาพเซทของชุดนักกีฬาในแต่ละประเภท “ดีมากเลยต้า หล่อมากหุ่นดีมาก” เสียงผู้จัดการสาวชื่อพี่เบนตะโกนบอกเขาเมื่อเขากำลังจัดท่าทางของตัวเองให้ดูเท่และดูดีจนเธอต้องเอ่ยปากชมพอต้าถ่ายแบบเสร็จก็มานั่งพักกับผู้จัดการของเขาซึ่งวันนี้พี่สิงห์ไม่ได้มาด้วยเพราะต้องไปดูน้องใหม่ในสังกัดอีกคนหนึ่ง“ต้าเขาเก่งมากเลยนะคุณเบน หุ่นแบบนี้มีแต่คนอยากได้ไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้” พี่ผู้ชายในทีมช่างภาพมากล่าวทักทายเธอ“จะไม่เก่งได้ไงคะ ก็เขาเป็นนายแบบตั้งแต่อายุสิบเก้าที่เมืองนอก อยู่ที่นู้นเขาก็ดังมากเหมือนกันนะคะ พวกเราโชคดีมากนะคะที่ได้ต้ามาอยู่ในสังกัด” พี่เบนพูดพร้อมกับจับไปที่ไหล่ของต้าแล้วลูบขึ้นลงอย่างนุ่มนวล จนเขาต้องลุกยืนขึ้นเพราะรู้ดีว่าผู้จัดการสาวกำลังคิดอะไรกับเขาอยู่นั่นเอง“งั้นผมกลับเลยละกันครับพี่เบน” ชายหนุ่มพูดเสียงเงียบ“ได้ๆ ไปสิ เดี๋ยวพี่ขับไปส่งที่คอนโดนะ”“อย่าดีกว่าครับ เพราะผมจะไปหาเพื่อนด้วย” แล้วเขาก็รีบไปเปล
คอนโดของต้าหลังจากที่วาโยกลับไปแล้ว ต้าก็เปิดแอคเคาท์หลุมที่สมัครไว้ได้ไม่นานนี้ มาไว้ส่องวาโยโดยเฉพาะ เพราะดูเหมือนว่าเธอจะบล็อกบัญชีของเขาแล้วเมื่อหลายเดือนก่อน แต่พอเมื่อเขาเริ่มหายโกรธหญิงสาวก็อยากรู้เรื่องราวของเธอขึ้นมาซะงั้นเขาเคยสว่างสดใสและเปล่งประกายมาตลอดในใจของฉัน เขาเคยเป็นที่หนึ่ง และตอนนี้ก็ยังเป็นที่หนึ่ง เขาเคยเป็นความสุขแม้แค่ได้ยินชื่อของเขาฉันก็เผลอยิ้มออกมาเขาเคยทำให้ฉันหัวเราะและมีความสุขในช่วงเวลาที่แย่ๆเขาเคยทำให้ฉันรู้จักการรอคอยและอดทนที่จะได้เจอกันอีกครั้งตั้งแต่เขาเรียนจบม.ปลายไปแม้แต่ท่ามกลางฝูงชนมากมายที่รายล้อมรอบๆ ตัวเขา ฉันยังมองเห็นเขาแค่คนเดียว แด่เธอผู้เป็นที่รัก…. ทั้งที่เธอเคยโพสต์บอกรักเขาเพียงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาก็ลืมมันง่ายดายขนาดนั้นเลยเหรอ ทั้งที่เมื่อก่อนเธอคลั่งเขามากขนาดไหนเขาย่อมรู้ดี เธอใจสั่นจนเป็นลมเวลาเจอหน้าหล่อๆ ของเขา แถมยังหน้าแดงอย่างกับลูกตำลึงเวลาเขาไปอยู่ใกล้ๆ แต่ทำไมเมื่อวานรวมทั้งวันนี้กลับทำนิ่งเฉยชาใส่เขาเหมือนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ทั้งที่เขาเป็นคนแรกของเธอจะลืมกันง่ายๆ ขนาดนั้นเลยเหรอ หรือเพราะว่าเขาเร้าใจไม่พอ ท
คอนโดของต้าหลังจากที่วาโยกลับไปแล้ว ต้าก็เปิดแอคเคาท์หลุมที่สมัครไว้ได้ไม่นานนี้ มาไว้ส่องวาโยโดยเฉพาะ เพราะดูเหมือนว่าเธอจะบล็อกบัญชีของเขาแล้วเมื่อหลายเดือนก่อน แต่พอเมื่อเขาเริ่มหายโกรธหญิงสาวก็อยากรู้เรื่องราวของเธอขึ้นมาซะงั้นเขาเคยสว่างสดใสและเปล่งประกายมาตลอดในใจของฉัน เขาเคยเป็นที่หนึ่ง และตอนนี้ก็ยังเป็นที่หนึ่ง เขาเคยเป็นความสุขแม้แค่ได้ยินชื่อของเขาฉันก็เผลอยิ้มออกมาเขาเคยทำให้ฉันหัวเราะและมีความสุขในช่วงเวลาที่แย่ๆเขาเคยทำให้ฉันรู้จักการรอคอยและอดทนที่จะได้เจอกันอีกครั้งตั้งแต่เขาเรียนจบม.ปลายไปแม้แต่ท่ามกลางฝูงชนมากมายที่รายล้อมรอบๆ ตัวเขา ฉันยังมองเห็นเขาแค่คนเดียว แด่เธอผู้เป็นที่รัก…. ทั้งที่เธอเคยโพสต์บอกรักเขาเพียงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาก็ลืมมันง่ายดายขนาดนั้นเลยเหรอ ทั้งที่เมื่อก่อนเธอคลั่งเขามากขนาดไหนเขาย่อมรู้ดี เธอใจสั่นจนเป็นลมเวลาเจอหน้าหล่อๆ ของเขา แถมยังหน้าแดงอย่างกับลูกตำลึงเวลาเขาไปอยู่ใกล้ๆ แต่ทำไมเมื่อวานรวมทั้งวันนี้กลับทำนิ่งเฉยชาใส่เขาเหมือนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ทั้งที่เขาเป็นคนแรกของเธอจะลืมกันง่ายๆ ขนาดนั้นเลยเหรอ หรือเพราะว่าเขาเร้าใจไม่พอ ท
“ห้องเดิม จำได้ไหม” ต้าถามวาโยซ้ำพร้อมกับขมวดคิ้วเพื่อรอฟังคำตอบ“ใครจะจำได้คะ หนูไปทำความสะอาดก็หลายที่อยู่เหมือนกัน แต่เดี๋ยวหนูจะให้พี่สินส่งโลเคชั่นมาให้แล้วกันค่ะ หนูกลับก่อนนะคะ” แล้ววาโยก็ยกมือไหว้เขา ก่อนจะสตาร์ทรถของเธออกไปในทันที ทิ้งให้ชายหนุ่มเจ้าของคีย์การ์ดกระตุกยิ้มมุมปากอย่างกับคนเจ้าเล่ห์สิบโมงเช้าวันอาทิตย์ ที่คอนโดหรูของต้าหญิงสาวเดินขึ้นมาพร้อมกับอุปกรณ์ทำความสะอาด และใส่หมวกแก๊ปโลโก้ ‘สินสะอาด’ ไว้ด้วยเพื่อจะได้ช่วยโปรโมทบริษัทของพี่ชายอีกทางเธอเดินไปพร้อมๆ กับอ่านข้อความแชตของสินที่ส่งมาให้เธอเมื่อเช้านี้ หญิงสาวเงยหน้ามองหาเลขที่ห้องของผู้จ้างงานเธอ เพราะก่อนหน้าที่วาโยจะขึ้นมาพี่ผู้หญิงที่ดูแลคอนโดบอกให้เธอขึ้นไปได้เลย เพราะเจ้าของห้องอยู่บนห้องแล้ว จึงไม่ต้องพาเธอขึ้นมาเหมือนครั้งที่แล้ววาโยเดินไปหยุดยังห้องเป้าหมายแล้วกดกริ่งที่หน้าประตูไม่กี่วินาทีผู้ชายหุ่นดีร่างสูงใหญ่สมส่วนก็เดินมาเปิดประตูให้ เขาเปิดแอร์จนเย็นฉ่ำทำให้คลายความร้อนของอากาศที่อยู่ภายนอกได้เมื่อเธอเดินก้าวเข้ามา จนเธอเผลอยิ้มอย่างลืมตัวและเหงื่อของเธอก็เริ่มแห้งเพียงไม่กี่วินาที เมื่อเธ